ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 799 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 15961 - 15980 จากข้อมูลทั้งหมด 124270 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
15961 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข) (จำนวน 8 ราย 1. นายสมชาย ไวกิตติพงษ์ ฯลฯ) | สธ | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๘ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายสมชาย ไวกิตติพงษ์ ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาศัลยกรรม) กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลยะลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๙ ๒. นายเจริญ เกียรติวัชรชัย ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลหาดใหญ่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๙ ๓. นายวิศิษฎ์ ประสิทธิศิริกุล ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มวิจัยและพัฒนาโรคเอดส์และโรคติดเชื้อสถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๐ ๔. นายนพดล ไพบูลย์สิน ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานพัฒนารูปแบบการควบคุมโรค กลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ๕. นายสมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ๖. นายสุรพร ลอยหา ดำรงตำแหน่ง สาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ ๗. นายไพศาล ธัญญาวินิชกุล ดำรงตำแหน่ง สาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐ ๘. นางวิระวรรณ ถิ่นยืนยง ดำรงตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ (ด้านสุขาภิบาล) กรมอนามัย ตั้งแต่วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๐ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15962 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 20 (จำนวน 14 คน 1. นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ฯลฯ) | รง | 27/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ ๒๐ จำนวน ๑๔ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล ๑.๒ นางชุตินาฏ วงศ์สุบรรณ ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล ๑.๓ นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล ๑.๔ นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล ๑.๕ นางเนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ๑.๖ นางสาวอัจฉรีย์ งามพร้อมสกุล ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ๑.๗ นายอรรถยุทธ ลียะวณิช ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ๑.๘ นายคมกฤษณ์ กิตติจำเริญ ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ๑.๙ นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ๑.๑๐ นายสุชาติ ไทยล้วน ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง ๑.๑๑ นายหัสชัย พยาบาล ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง ๑.๑๒ นายสุชาต อิงไธสง ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง ๑.๑๓ นายพิจิตร ดีสุ่ย ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง ๑.๑๔ นายวีรสุข แก้วบุญปัน ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง ๒. ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการค่าจ้างในครั้งต่อไปให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การดำเนินการของคณะกรรมการเป็นไปอย่างต่อเนื่องตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15963 | ร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561)] | นร | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15964 | การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว | รง | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับร่างพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ไปประสานงานกับกระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15965 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการด้านสังคม ดังนี้
๑. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม ดำเนินการตรวจสอบที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรมหรือไม่มีความปลอดภัยเพียงพอในการใช้เป็นที่อยู่อาศัย และให้เร่งดำเนินการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยดังกล่าวตามลำดับความจำเป็นเร่งด่วน โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณของแต่ละหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรไว้ หรือที่สามารถปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณได้ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยมีสภาพความเป็นอยู่และความปลอดภัยที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ให้พิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการขอความร่วมมือและการสนับสนุนจากภาคเอกชนมาร่วมดำเนินการด้วย ๒. ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) เห็นชอบมาตรการการจ้างงานผู้สูงอายุตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และได้มีมติ (๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๐) ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการสรรหาคนพิการและจัดทำบัญชีแยกประเภทตามความพิการ คุณวุฒิเฉพาะด้านของคนพิการ เพื่อให้ส่วนราชการใช้เป็นข้อมูลในการจ้างคนพิการในหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งพิจารณาเกี่ยวกับการทำงานที่บ้านเพิ่มเติม โดยให้มีการบูรณาการร่วมกันให้เกิดการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง นั้น ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินการจัดหางานให้แก่ผู้สูงอายุและผู้พิการ โดยแยกประเภทของข้อมูลให้ชัดเจน เช่น การจ้างงานในหน่วยงานของรัฐ การทำงานที่บ้าน และรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15966 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์) | พน | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15967 | รายงานผลการส่งเสริมด้านการกีฬาและด้านการท่องเที่ยวตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | กก | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลการส่งเสริมด้านการกีฬาและด้านการท่องเที่ยว ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๐ ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้แก่ (๑) การกำกับดูแลการดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาให้มีมาตรฐาน (๒) การจัดทำโครงการส่งเสริมความสามารถด้านการกีฬาของเยาวชนไทย รวม ๑๐ โครงการ และ (๓) เรื่องอื่น ๆ เช่น การจัดการกีฬาวิ่งประเภทต่าง ๆ และแนวคิด VIP Flight ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑ เร่งรัดดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๐ ในประเด็นการกำกับดูแลการดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาภายในประเทศและระดับชาติให้มีมาตรฐานที่แสดงถึงมาตรฐานของการจัดการแข่งขันกีฬา เช่น สถานที่จัดการแข่งขัน อุปกรณ์และบุคลากร การบริหารจัดการ และประเด็นการส่งเสริมความสามารถด้านการกีฬาของเยาวชนไทยที่มีอายุระหว่าง ๗-๑๐ ปี ที่แสดงถึงการนำเยาวชนที่ชนะการแข่งขันไปเข้ารับการพัฒนาและฝึกฝนทักษะด้านกีฬาเพื่อต่อยอดการเป็นนักกีฬาเยาวชนทีมชาติไทย และรายงานผลการดำเนินการดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยเร็วต่อไป ๒.๒ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนที่สอดคล้องกับหลักการโครงการไทยนิยม ยั่งยืน และเหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย เช่น กิจกรรมขี่จักรยานท่องเที่ยวไปยังจุดต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรม การทำเกษตร และผลิตภัณฑ์ของชุมชน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15968 | สรุปผลการประชุมสมัชชาสมัยสามัญ ครั้งที่ 30 ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ | คค | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมสมัชชาสมัยสามัญ ครั้งที่ ๓๐ ขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (International Maritime Organization : IMO) จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน-๖ ธันวาคม ๒๕๖๐ ณ สำนักงานใหญ่ของ IMO กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ โดยประเด็นสำคัญของการประชุมฯ เช่น (๑) การรับรองแผนยุทธศาสตร์ IMO ฉบับใหม่ (ปี ค.ศ. ๒๐๑๘-๒๐๒๓) ที่เป็นตัวกำหนดทิศทางขององค์กรเพื่อมุ่งสู่การดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพโดยการบูรณาการเทคโนโลยีที่ทันสมัยตอบสนองต่อความท้าทายของโลกปัจจุบัน (๒) ผลการเลือกตั้งคณะมนตรีซึ่งไทยได้รับเลือกตั้งในกลุ่ม C เป็นสมัยที่ ๗ ติดต่อกัน (๓) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของไทยได้พบหารือกับเลขาธิการ IMO โดยเลขาธิการ IMO แนะนำให้ประเทศไทยส่งผู้แทนมาประจำที่ IMO ในฐานะ Maritime Attache เช่นเดียวกับประเทศสมาชิกอื่น ๆ (กระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ให้ความเห็นชอบในการจัดส่งผู้แทนกระทรวงคมนาคมไปปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการของกรมเจ้าท่า) เป็นต้น ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15969 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ถือว่าเป็นตลาดแบบตรง พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการวางหลักประกันการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | นร03 | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ถือว่าเป็นตลาดแบบตรง พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการวางหลักประกันการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ถือว่าเป็นตลาดแบบตรง และกำหนดจำนวนเงินหลักประกันที่ผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงต้องวางหลักประกันต่อนายทะเบียน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ถือว่าเป็นตลาดแบบตรง พ.ศ. .... ควรแก้ไขให้ครอบคลุมถึงการขายสินค้าหรือบริการของผู้ประกอบธุรกิจที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ ในประเภทสหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ประมง สหกรณ์นิคม และกลุ่มเกษตรกร โดยไม่ถือว่าเป็นตลาดแบบตรงที่ต้องเข้าหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการวางหลักประกันการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง รวมทั้งควรมีแนวทางในการเฝ้าระวังในเรื่องคุณภาพของสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคจะได้รับ และควรแก้ไขถ้อยคำในร่างกฎกระทรวงดังกล่าว จาก “จดทะเบียน” เป็น “ขึ้นทะเบียน” เพื่อให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงที่กำหนดว่า หากผู้ประกอบการจะขอรับความช่วยเหลือจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต้องมาขึ้นทะเบียนสมาชิกกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภครับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานด้านการจดทะเบียนธุรกิจ และการพัฒนาช่องทางการค้าออนไลน์ทั้ง e-market place และ social media ต่าง ๆ ทำการประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้ผู้ประกอบการโดยทั่วไปรับทราบและปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15970 | รายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 (ตุลาคม 2559 - กันยายน 2560) | กค | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ ๔ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ (กรกฎาคม-กันยายน ๒๕๖๐) และปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ (ตุลาคม ๒๕๕๙-กันยายน ๒๕๖๐) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ไตรมาสที่ ๔ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ (กรกฎาคม-กันยายน ๒๕๖๐) สินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง ๑๗ กลุ่ม ได้แก่ ผลไม้ น้ำหอมและเครื่องสำอาง นาฬิกาและอุปกรณ์ กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง สูท เสื้อ กระโปรง กางเกง สำหรับบุรุษ สตรี เด็กชาย เด็กหญิง และเนคไท สุราต่างประเทศ รองเท้าหนังและรองเท้าผ้าใบ แว่นตา ปากกา และอุปกรณ์ ไวน์ เครื่องประดับที่ทำด้วยคริสตัล กล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์ ผ้าทอทำด้วยขนสัตว์ ไฟแช็คและอุปกรณ์ ดอกไม้ และเครื่องแก้วชนิดใช้บนโต๊ะอาหารหรือใช้ตกแต่งภายในที่ทำด้วยคริสตัล มีมูลค่านำเข้า ๙๗๗.๖๑ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ๒๐.๐๒ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ ๒.๐๑ สินค้าที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด ๓ อันดับแรก ได้แก่ น้ำหอมและเครื่องสำอาง ผลไม้ กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง ๑.๒ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ (ตุลาคม ๒๕๕๙-กันยายน ๒๕๖๐) สินค้าฟุ่มเฟือยทั้ง ๑๗ กลุ่ม มีมูลค่ารวม ๓,๗๔๕.๑๖ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ๒๙๒.๑๙ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือร้อยละ ๗.๒๔ สินค้าที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด ๓ อันดับแรก ได้แก่ น้ำหอมและเครื่องสำอาง ผลไม้ กระเป๋าและเข็มขัดหนัง ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยมาใช้ประกอบการพิจารณากำหนดแนวทางส่งเสริมการผลิตและเพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้กับสินค้าในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น น้ำหอม เครื่องสำอาง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15971 | รัฐบาลสาธารณรัฐมัลดีฟส์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐมัลดีฟส์ประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายมุฮัมมัด นะชีด (Mr. Mohamed Nasheed)] | กต | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายมุฮัมมัด นะชีด (Mr. Mohamed Nasheed) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐมัลดีฟส์ประจำประเทศไทย คนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร เป็นคนแรก สืบแทน นายมุฮัมมัด ซากิ (Mr. Mohamad Zaki) ซึ่งมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐมัลดิฟส์ประจำประเทศไทย คนล่าสุด ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายอักษรสาส์นตราตั้ง เมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๓ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15972 | รัฐบาลราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม แห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) [นายเกส ปีเตอร์ ราเดอ (Mr. Kees Pieter Rade)] | กต | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเกส ปีเตอร์ ราเดอ (Mr. Kees Pieter Rade) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายกาเริล โยฮันเนิส ฮาร์โตค (Mr. Karel Johannes Hartogh) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15973 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้ อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้ อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ศ. ....) | มท | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดชลบุรี พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดชลบุรี เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าส่งให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15974 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เป็นกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม พ.ศ. .... | กษ | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เป็นกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เป็นกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม พ.ศ. ๒๕๕๙ และกำหนดกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เป็นกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุมขึ้นใหม่ เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้มีคุณภาพและป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรืออันตรายต่อผู้บริโภคหรือกิจการของผู้อื่น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นควรเพิ่มการเพาะเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิช (Crayfish) ทุกชนิด การเพาะเลี้ยงปูทะเลทุกชนิด และการเพาะเลี้ยงจระเข้ทุกชนิดในอันดับ CROCODYLIA เป็นกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุมตามกฎกระทรวงฉบับนี้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15975 | ขอแจ้งรายชื่อโฆษกกระทรวงพาณิชย์และรองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ | พณ | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเปลี่ยนแปลงโฆษกกระทรวงพาณิชย์ จากเดิม นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร เป็น นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ และเปลี่ยนแปลงรองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ จากเดิม นางสาวรัตนา เธียรวิศิษฎ์สกุล และนางวิไลวรรณ ทัพวงศ์ศรี เป็น นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เพื่อให้การดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ของกระทรวงพาณิชย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ตามคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ ที่ ๕๖/๒๕๖๑ เรื่อง การแต่งตั้งโฆษกกระทรวงพาณิชย์และรองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ สั่ง ณ วันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15976 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... | มท | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้ผู้เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎกระทรวงดังกล่าว และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุด รวมทั้งพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสภาพแวดล้อม พื้นที่ลุ่มน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำ แหล่งศิลปกรรม พิจารณามิให้เป็นอุปสรรคต่อการจัดสร้างระบบรวบรวมหรือระบบบำบัด/กำจัดมลพิษ รวมทั้งควรจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและเผยแพร่ต่อสาธารณะให้ทราบว่ามีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการอื่นไปแล้วเท่าใด และควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับดูแล และควบคุมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15977 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2560 | ทส | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นเรื่องเชิงนโยบายที่สำคัญและได้ข้อยุติแล้ว จำนวน ๔ เรื่อง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. รายงานการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก นครราชสีมา ระยะที่ ๒ (เพื่อขยายโอกาสใช้พลังงานสะอาดและลดมลภาวะในภาคขนส่งและอุตสาหกรรมเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง) ครั้งที่ ๒ ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ที่อำเภอสูงเนิน อำเภอปักธงชัย อำเภอโชคชัย และอำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ๒. โครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา (ช่วงชุมทางบ้านภาชี-นครราชสีมา) (ภายใต้โครงการศึกษาและออกแบบรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ๓. แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๔. การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๙-๒๕๔๐ (กรณีจัดซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นพื้นที่ก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย เทศบาลเมืองเลย จังหวัดเลย) เนื่องจากเทศบาลเมืองเลยยังไม่ได้ก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสีย ประกอบกับสภาพพื้นที่ตามแนวเขตท่อ และจุดพักน้ำเสียจากการศึกษาออกแบบ ได้เปลี่ยนแปลงไปสำหรับการจัดการน้ำเสียในเขตเทศบาลเมืองเลย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15978 | ขออนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทยต่ออายุสัญญาเงินกู้ วงเงิน 800 ล้านบาท ออกไปอีก 1 ปี | คค | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต่ออายุสัญญาเงินกู้ วงเงิน ๘๐๐ ล้านบาท กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ต่อไปอีก ๑ ปี ตามพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๓๙ (๔) เพื่อให้ รฟท. สามารถดำเนินงานและให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ รวมทั้งพิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดตามความเหมาะสม สำหรับการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมการค้ำประกันเงินกู้ให้ รฟท. ขอความเห็นชอบต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ รฟท. เร่งดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๕ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของการให้บริการ เน้นการเพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์จากทรัพย์สินให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งควบคุมและลดรายจ่ายเพื่อบรรเทาสภาวะการขาดสภาพคล่องทางการเงินในระยะยาว นอกจากนี้ รฟท. ควรใช้จ่ายเงินกู้ดังกล่าวตามช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อเป็นการสร้างวินัยทางการเงินการคลังและลดภาระต้นทุนทางการเงิน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแลให้ รฟท.ดำเนินการตามแผนการแก้ไขปัญหาองค์กรตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง ขออนุมัติกู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑) อย่างเคร่งครัดต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15979 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กับหน่วยงานต่างประเทศ | ยธ | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติ (๑) ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับหน่วยบัญชาการสอบสวนทางอาญา (Scientific Investigation Laboratory, Criminal Investigation Command : CIC) กระทรวงกลาโหม สาธารณรัฐเกาหลี (๒) ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์บริการแห่งชาติ (National Forensic Service : NFS) กระทรวงบริหารจัดการสาธารณะและความมั่นคง สาธารณรัฐเกาหลี และ (๓) ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กับสถาบันนิติเวชศาสตร์แห่งรัฐวิกตอเรีย (The Victorian Institute of Forensic Medicine : VIFM) เครือรัฐออสเตรเลีย มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างความร่วมมือทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อยกระดับคุณภาพงานตรวจพิสูจน์ให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และหน่วยงานต่างประเทศทั้ง ๓ หน่วยงาน จะมีความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ เช่น การแลกเปลี่ยนบุคลากรเพื่อศึกษาหาความรู้ การฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ การพัฒนาวิธีการวิเคราะห์ การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ เป็นต้น ๑.๒ อนุมัติให้ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจทั้ง ๓ ฉบับดังกล่าว ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจทั้ง ๓ ฉบับดังกล่าว ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15980 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา พ.ศ. .... | มท | 20/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนเกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลเกาะยาวน้อย อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา เพื่อประโยชน์ในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นควรตรวจสอบรายละเอียดแผนที่ท้ายกฎกระทรวงฯ แนวเขตปฏิรูปที่ดิน และให้ผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการควบคุมการวางผังเมืองให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของร่างกฎกระทรวงฯ และควรพิจารณารายละเอียดของมาตรการและข้อกำหนดเกี่ยวกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งควรมีการจัดทำฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและเผยแพร่ต่อสาธารณะ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเพิ่มเติมเงื่อนไขในการจัดตั้งโรงงานบางประเภท การสนับสนุนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับดูแล และควบคุมใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....