ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 20/03/2561 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการจัดทำความร่วมมือในกรอบความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) และเขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area : AFTA) ให้มีความคืบหน้าโดยเร็ว รวมทั้งให้เร่งพิจารณาการเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกในความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership : TPP) ให้ชัดเจนโดยเร็วด้วย ๑.๒ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการกำหนดแนวทางพัฒนาพื้นที่และการดำเนินกิจการต่าง ๆ ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยให้พิจารณาความเหมาะสมด้านการลงทุน ทั้งการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน และการลงทุนของภาคเอกชนฝ่ายเดียว รวมทั้งการนำเรื่องที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐไปดำเนินการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษด้วย เช่น เรื่อง Smart Farmer เป็นต้น ทั้งนี้ ให้พิจารณากำหนดรายละเอียดและหลักเกณฑ์ในการดำเนินการ รวมทั้งผลประโยชน์ที่ภาครัฐและภาคเอกชนจะได้รับให้ชัดเจน และให้กระทรวงอุตสาหกรรมนำเรื่องนี้เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกในครั้งต่อไปด้วย ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) เป็นผู้รับผิดชอบหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำสรุปผลงานต่าง ๆ ของรัฐบาลที่สำคัญในรูปแบบวีดิทัศน์เพื่อใช้ในการสร้างการรับรู้แก่สาธารณชนให้ถูกต้องต่อไป โดยให้เร่งจัดทำให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๑ ทั้งนี้ ในการดำเนินการดังกล่าวให้หารือรายละเอียดและประสานการดำเนินงานกับรองนายกรัฐมนตรีท่านอื่น ๆ ด้วย ๒.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน รวมถึงกองทุนออมทรัพย์อื่น ๆ ที่ประสบปัญหาทางการเงินให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายหรือต้องนำมาตรการทางกฎหมายมาใช้บังคับให้หารือรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ก่อนดำเนินการต่อไปด้วย ๒.๓ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ ๒๐๑๘ ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๑ นั้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ ๒.๓.๑ ให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษารายละเอียดของรูปแบบการจัดการศึกษาของออสเตรเลียเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการจัดการศึกษาของไทย เช่น การจัดการศึกษาทางเลือกโดยการศึกษาอยู่กับครอบครัว (Home School) การกำหนดมาตรฐานการเรียนรู้เพื่อใช้เทียบระดับกับการศึกษาปกติ การคัดแยกผู้เรียนตามความถนัดที่มีอยู่ตั้งแต่เริ่มต้นศึกษา เป็นต้น เพื่อให้สามารถสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาให้เหมาะสมสอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียนต่อไป ๒.๓.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษารายละเอียดของการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นของออสเตรเลีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้แก่ส่วนราชการในระดับท้องถิ่น เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาด้านการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นของไทยต่อไป ๒.๓.๓ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษารายละเอียดของรูปแบบการตั้งด่านตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ยานพาหนะของออสเตรเลียซึ่งมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีความรวดเร็ว และประชาชนให้ความร่วมมือในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์เป็นอย่างดี เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาปรับปรุงกระบวนการดำเนินการดังกล่าวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ๒.๓.๔ ให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกระทรวงแรงงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดูแลคนไทยที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลีย คนไทยที่ประกอบการร้านอาหารไทย และแรงงานไทยเป็นไปอย่างเหมาะสมและตอบสนองต่อข้อเรียกร้องต่าง ๆ ได้ ๒.๓.๕ ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของออสเตรเลียเพื่อจัดทำความร่วมมือด้านการค้าสินค้าทางการเกษตรให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เช่น การขายข้าวพันธุ์ กข ๔๓ เป็นต้น ๒.๓.๖ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาแนวทางการบริหารจัดการของออสเตรเลียบริเวณอ่าวซิดนีย์ (Sydney Harbour) ที่มีการจัดระเบียบพื้นที่ริมอ่าวอย่างสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย น้ำในแม่น้ำไม่เน่าเสีย รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยว เช่น โรงอุปรากรซิดนีย์ (Sydney Opera House) และสะพานซิดนีย์ฮาเบอร์ (Sydney Harbour Bridge) ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากร้านอาหารในบริเวณดังกล่าว เพื่อนำมาพิจารณาปรับใช้ให้เหมาะสมกับโครงการต่าง ๆ ของรัฐ เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นต้น ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ร่วมกันอย่างเหมาะสมด้วย ๒.๔ เพื่อให้การดำเนินโครงการเช่าระบบคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสำหรับธุรกิจหลัก (SAP) ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และเป็นประโยชน์สูงสุด ให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) เร่งนำเรื่องนี้เสนอคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างพิจารณาโดยด่วน ก่อนดำเนินการต่อไป
|
.....