ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 48 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 941 - 960 จากข้อมูลทั้งหมด 123963 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
941 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (1. นายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | ศธ. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
จำนวน ๓ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๘ มกราคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
ดังนี้ ๑. นายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ๒. นายวิศรุต ปู่เพ็ง ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล) ๓. นายพิษณุ พลธี ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
[ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
942 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายกองเอก วิสาร เตชะธีราวัฒน์) | นร.04 | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายกองเอก วิสาร เตชะธีราวัฒน์
เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
943 | การเสนอคำขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 | นร. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เนื่องจากมีหน่วยรับงบประมาณได้เสนอคำขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป เป็นจำนวนมาก แต่วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ มีอยู่อย่างจำกัด ในขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
(GDP) แม้ว่าจะยังคงอยู่ในกรอบการบริหารหนี้สาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐแต่ก็มีระดับที่สูงขึ้นตามลำดับ
รวมทั้งในภาพรวมมีภาระหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสามารถนำไปขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลได้อย่างเป็นรูปธรรม
และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้
จึงขอมอบหมายการดำเนินการ ดังนี้ ๑.
ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับดูแลหน่วยรับงบประมาณให้จัดทำคำขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
โดยให้พิจารณาจัดลำดับความสำคัญของแผนงาน/โครงการต่าง ๆ
ที่จะดำเนินการให้สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้หน่วยรับงบประมาณพิจารณานำงบประมาณจากแหล่งอื่น เช่น เงินนอกงบประมาณ
เงินรายได้ เงินสะสม มาใช้ในการดำเนินภารกิจตามแผนงาน/โครงการดังกล่าวก่อนเป็นลำดับแรกด้วย ๒. ให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ โดยให้ความสำคัญกับโครงการที่ขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล มีความจำเป็นเร่งด่วน
สามารถแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชน
และสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ในระยะยาว เป็นลำดับแรก
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
944 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงสาธารณสุข (โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข) | สธ. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงสาธารณสุข สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน ๑,๘๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุข
(สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข)
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นควรให้ดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขควรสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นของการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานข้างต้น
โดยเฉพาะสภาพความแออัดหรือปัญหาการใช้งานในอาคารสำนักงานเดิมอย่างเป็นรูปธรรม
และความเร่งด่วนของโครงการเมื่อเปรียบเทียบกับการปรับปรุงอาคารสถานที่ของหน่วยบริการสาธารณสุข
เพื่อให้การลงทุนด้านสาธารณสุขของประเทศเกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
945 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของสถาบันพระปกเกล้า | พป. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙
ของสถาบันพระปกเกล้า จำนวน ๘๖๕,๑๗๓,๐๐๐ บาท ทั้งนี้ การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าว
เป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้สถาบันพระปกเกล้ารับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
946 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พน. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต
และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ ..) พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต
และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๕๖
โดยแก้ไขหลักเกณฑ์ให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ ๓ ไม่ต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงการใช้ถังเก็บน้ำมันดีเซลชนิดที่ไวไฟมากกว่าเก็บน้ำมันดีเซลชนิดที่ไวไฟน้อยกว่า
เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการประกอบกิจการในปัจจุบันและเป็นการอำนวยความสะดวกและลดภาระแก่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่
๓ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม เห็นควรประชาสัมพันธ์และกำกับติดตามให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานีบริการน้ำมันซึ่งกระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
เพื่อให้การดำเนินงานตามกฎหมายดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
947 | ข้อเสนอแนะจากการตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัว | สม. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบข้อเสนอแนะจากการตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัว
ซึ่งเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๔๗ (๓) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๒๖ (๓) ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเสนอ ๒.
มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานหลักรับเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงสาธารณสุข กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว
โดยให้กระทรวงยุติธรรมสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการดังกล่าวในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน
นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
948 | การจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2568 | นร.04 | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบกำหนดการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๘ ณ จังหวัดสงขลา และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย
(ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี และสงขลา) ระหว่างวันที่ ๑๖ - ๑๘
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
949 | ขออนุมัติตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 สำหรับรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ของกระทรวงคมนาคม | คค. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงคมนาคม จำนวน ๓๕ โครงการ
วงเงินรวมทั้งสิ้น ๒๘๖,๗๙๑.๘๔๐๐ ล้านบาท (ระยะเวลาดำเนินการ
ปี ๒๕๖๙ - ๒๕๗๔) โดยมีวงเงินที่จะขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙
จำนวน ๕๕,๐๐๓.๘๕๐๐ ล้านบาท ทั้งนี้
ให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
ดังนี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมประสานและบูรณาการกับหน่วยงานรับผิดชอบ ได้แก่ กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านคมนาคมขนส่งทุกรูปแบบที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เกิดประโยชน์สูงสุด
และการรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งดำเนินการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน
ตามข้อ ๒๑ ของประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่องหลักเกณฑ์
วิธีการ เงื่อนไข และกระบวนการในการร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน
พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยเร็ว สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงคมนาคมจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว โดยมีรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ
ประมาณการราคา รวมถึงการดำเนินการตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและประหยัด การพิจารณาเป้าหมาย
ประโยชน์ที่จะได้รับประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมทั้งพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมกับความจำเป็นเร่งด่วน
ศักยภาพในการดำเนินการ ตลอดจนสถานะการเงินการคลังของประเทศ
และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ และรายการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข
๙ สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ช่วงบางบัวทอง - บางปะอิน
ให้กรมทางหลวงเร่งรัดการเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติดำเนินการก่อสร้างโครงการในส่วนของงานโยธา
เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนด
โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของโครงการ ประโยชน์สูงสุดของทางราชการ
และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
950 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา | สว. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙
ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จำนวน ๒,๙๒๒,๕๓๔,๐๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าว
เป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภารับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
951 | ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบรอบ 50 ปี | นร.05 | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในโอกาสที่ปี
๒๕๖๘ เป็นปีแห่งการครบรอบ ๕๐ ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน
จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐพิจารณาดำเนินภารกิจ/จัดกิจกรรมต่าง ๆ ตามหน้าที่และอำนาจเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เช่น กระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับการสถาปนาความสัมพันธ์แบบเมืองพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดของไทยกับเมืองหรือมณฑลของสาธารณรัฐประชาชนจีนเพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว
๓๘ คู่ความสัมพันธ์ โดยอาจกำหนดเป้าหมายให้เพิ่มเป็น ๕๐ คู่ความสัมพันธ์
กระทรวงคนาคมเกี่ยวกับการเร่งรัดดำเนินโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค
(ซึ่งเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและสาธารณรัฐประชาชนจีน)
ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศให้ขยายตัวมากยิ่งขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
952 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
จำนวน ๑๑,๕๖๕,๑๖๔,๘๐๐ บาท
และงบประมาณของกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา จำนวน ๗๐๒,๒๑๕,๐๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าว เป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
953 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2568 | ปสส. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๘ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๑๒ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๒๙ มกราคม
๒๕๖๘ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๑๓
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๘ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
954 | ร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ดศ. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
พ.ศ. ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นการเพิ่มมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และมิจฉาชีพ
โดยเพิ่มหน้าที่ให้หน่วยงานของรัฐหรือผู้ให้บริการหมายเลขโทรศัพท์ในการสั่งระงับหรือยกเลิกการให้บริการเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ถูกใช้หรืออาจถูกใช้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
กำหนดขั้นตอนหรือกระบวนการพิจารณาโดยเฉพาะเพื่อให้การคืนเงินแก่ผู้เสียหายให้เป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
และเพิ่มโทษการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงยุติธรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ กระทรวงยุติธรรม เห็นว่าการเสนอร่างบทบัญญัติที่เพิ่มบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์
ซึ่งอาจต้องพิจารณาความสอดคล้องในการกำหนดโทษของการพนันออนไลน์ซึ่งเป็นความผิดหลักตามพระราชบัญญัติการพนัน
พุทธศักราช ๒๔๗๘ กับบทนิยามคำว่า “อาชญากรรมทางเทคโนโลยี”
ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๖๖ และคำว่า
“ระบบคอมพิวเตอร์” ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พ.ศ. ๒๕๕๐ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากยิ่งขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นควรกำหนดหน้าที่ของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
ตลอดจนการบังคับใช้กับสินทรัพย์ดิจิทัล
ให้เป็นไปในแนวทางและมาตรฐานเดียวกับสถาบันการเงิน ผู้ประกอบธุรกิจ
ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่น
ผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง และสื่อสังคมออนไลน์
ควรให้หน่วยงานที่กำกับดูแลธุรกิจแต่ละประเภทเป็นผู้กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำที่พึงปฏิบัติในวิชาชีพ
เพื่อเป็นหลักเกณฑ์หรือปัจจัยประกอบการพิจารณาความรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
955 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของสำนักงานศาลปกครอง | ศป. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ ของสำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๔,๓๕๕,๔๒๓,๖๐๐ บาท ทั้งนี้ การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าว
เป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้สำนักงานศาลปกครองรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
956 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม | ศย. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ของศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรม
จำนวน ๓๗,๓๖๑,๘๑๔,๖๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าว เป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ
ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้ศาลยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
957 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ | ศร. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน ๓๗๘,๓๐๐,๗๐๐
บาท ทั้งนี้ การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าว
เป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
958 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง | ลต. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๑๒๕,๘๐๘,๒๐๐ บาท และกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง จำนวน ๔๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้
การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณดังกล่าว เป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
โดยแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
และรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๘
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดทำงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
959 | ขออนุมัติรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป กระทรวงสาธารณสุข (โครงการก่อสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่ สาขาบางขุนเทียน) | สธ. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงสาธารณสุข โครงการก่อสร้างสถาบันมะเร็งแห่งชาติแห่งใหม่
สาขาบางขุนเทียน จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น ๓,๓๐๗,๗๑๖,๑๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุข
(กรมการแพทย์และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ) รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมถึงข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กรมการแพทย์จัดทำแผนการดำเนินการ
และยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ ประมาณการค่าก่อสร้าง
สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการ
รวมถึงการดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า
ประโยชน์ที่จะได้รับ ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรพิจารณาเพิ่มเติมรายละเอียดของกิจกรรมรายปี พร้อมระบุวงเงินแต่ละกิจกรรมอย่างชัดเจนภายใต้แผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
รวมทั้งควรมีการเตรียมการในเรื่องการจัดทำแผนความต้องการครุภัณฑ์ทางการแพทย์
แผนอัตรากำลังคนในสาขาเฉพาะทางที่ปัจจุบันยังมีความขาดแคลนจำนวนมาก
และแนวทางการออกแบบอาคารที่ต้องรองรับกับอุปกรณ์เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงด้านรังสีรักษาที่จำเป็นต้องมีความสอดคล้องกับขนาดของพื้นที่ ๒. มอบหมายให้สำนักงบประมาณนำคำของบประมาณฯ ตามข้อ ๑ ไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อกลั่นกรองความจำเป็นเหมาะสมในภาพรวมของข้อเสนองบประมาณของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐในรายการงบลงทุนและรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไปทั้งหมด ให้เหมาะสม สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา แล้วให้สำนักงบประมาณนำผลการพิจารณาในภาพรวมทั้งหมดเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนและกรอบเวลาของปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
960 | เรื่องสืบเนื่องจากการลงพื้นที่ตรวจราชการที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของนายกรัฐมนตรี (การพัฒนาเส้นทางรถไฟช่วงหาดใหญ่-สุไหงโกลก) | นร. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากการลงพื้นที่ตรวจราชการที่
๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม
๒๕๖๘ ได้มีการเร่งรัด ติดตามความก้าวหน้าของการพัฒนาระบบขนส่งทางรางจากทางเดี่ยวเป็นทางคู่
เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานให้ครอบคลุม รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ การค้า
และการท่องเที่ยว
รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยได้นำเสนอเส้นทางการก่อสร้างรถไฟทางคู่
ระยะที่ ๒ จำนวน ๓ เส้นทาง ได้แก่ (๑) ช่วงชุมพร - สุราษฎร์ธานี (๒)
ช่วงสุราษฎร์ธานี - ชุมทางหาดใหญ่ - สงขลา และช่วงชุมทางหาดใหญ่ -
ปาดังเบซาร์ เพื่อช่วยลดต้นทุนทางโลจิสติกส์ ทั้งด้านการขนส่งสินค้า
และผู้โดยสารในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างเส้นทางรถไฟช่วงหาดใหญ่ -
สุไหงโกลก จากปัจจุบันที่เป็นทางเดี่ยวให้เป็นทางคู่ ถือเป็นการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟที่จะช่วยให้สามารถขนส่งสินค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกสินค้าเกษตรชนิดต่าง ๆ จากในพื้นที่ ดังนั้น จึงขอมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม
(การรถไฟแห่งประเทศไทย)
เร่งดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปในการพัฒนาเส้นทางดังกล่าวเพิ่มเติมให้ชัดเจนและแล้วเสร็จโดยเร็ว
โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเพื่อการนี้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย
|