ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 238 จากทั้งหมด 6222 หน้า แสดงรายการที่ 4741 - 4760 จากข้อมูลทั้งหมด 124426 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 4741 | ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรียุติธรรมอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ และแผนงานอาเซียน-ญี่ปุ่น ด้านกฎหมายและงานยุติธรรม | ยธ. | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมรัฐมนตรียุติธรรมอาเซียน-ญี่ปุ่น
สมัยพิเศษ และแผนงานอาเซียน-ญี่ปุ่น ด้านกฎหมายและงานยุติธรรม
และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ร่วมให้การเห็นชอบร่างแถลงการณ์ฯ และรับรองแผนงานดังกล่าว โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์การเสริมสร้างความร่วมมือด้านงานยุติธรรมและกฎหมายระดับนโยบายของรัฐมนตรียุติธรรมอาเซียนและญี่ปุ่น
โดยระบุเกี่ยวกับการรักษาและส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพในภูมิภาค
รวมทั้งการระงับข้อพิพาทอย่างสันติ และแผนงานฯ มีสาระสำคัญเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ระดับนโยบายที่จะส่งเสริมการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
โดยกำหนดเป้าหมายและกิจกรรมที่เสนอให้มีการดำเนินการ เช่น
ระบุประเด็นด้านกฎหมายและงานยุติธรรมที่จะนำมาหารือร่วมกันระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่นในระยะสั้นและระยะกลาง
โดยจัดการหารือร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านกฎหมายและญี่ปุ่นอย่างสม่ำเสมอ
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุด
ที่เห็นว่าควรเพิ่มประเด็นการส่งผู้ร้ายข้ามแดนในร่างแถลงการณ์ร่วมฯ และแผนงานฯ เนื่องจากเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรียุติธรรมอาเซียน-ญี่ปุ่น
สมัยพิเศษ และแผนงานอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ และแผนงานอาเซียน-ญี่ปุ่น ด้านกฎหมาย
และงานยุติธรรม ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวดังกล่าวด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4742 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ..ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชารัฐศาสตร์ เพิ่มขึ้น
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4743 | การเสนอพระนามพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้องค์การยูเนสโกประกาศยกย่องและร่วมเฉลิมฉลองในวาระ 100 ปี วันพระบรมราชสมภพ ในปี พ.ศ. 2570 | ศธ. | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการในการเสนอพระนามพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์
และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (องค์การยูเนสโก) ประกาศยกย่องและร่วมเฉลิมฉลองในวาระ
๑๐๐ ปี วันพระราชสมภาพ ในปี พ.ศ. ๒๕๗๐
และให้กระทรวงศึกษาธิการในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา
วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
เป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำร่างเอกสารเสนอพระนามต่อองค์การยูเนสโก
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
และให้กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4744 | การขอความเห็นชอบต่อร่างปฏิญญารัฐมนตรีของการประชุม UN-Habitat Assembly สมัยที่ 2 | พม. | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบต่อร่างปฏิญญารัฐมนตรีของการประชุม UN-Habitat Assembly สมัยที่ ๒ ในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๖ และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุม UN-Habitat Assembly สมัยที่ ๒
ให้การรับรองร่างปฏิญญารัฐมนตรีของการประชุม UN-Habitat Assembly สมัยที่ ๒ โดยร่างปฏิญญาของการประชุมฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการรับทราบข้อท้าทายในการพัฒนาเมือง
และความมุ่งมั่นในการขจัดข้อท้าทายที่เกิดขึ้นผ่านการร่วมมือระหว่างกันในทุกระดับและผู้มีส่วนร่วมทุกภาคส่วน
รวมถึงพัฒนากลไกและแนวทางการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้เร่งขับเคลื่อนให้เกิดผลลัพธ์ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาของการประชุมรัฐมนตรี UN-Habitat
Assembly สมัยที่ ๒ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ มาดำเนินการ
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติ
ไปพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4745 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 130 ปี องค์กรอัยการ พ.ศ. .... | กค. | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
๑๓๐ ปี องค์กรอัยการ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล)
ชนิดราคายี่สิบบาท เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๓๐ ปี องค์กรอัยการ
ในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4746 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 2/2566 | นร.52 | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาตใต้
(กพต.) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๖
ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.
เรื่องที่ประชุมรับทราบการติดตามความก้าวหน้าตามมติ
กพต. จำนวน ๒ เรื่อง ได้แก่ (๑) ความคืบหน้าโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรทางทะเลที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
และ (๒) ความคืบหน้าในการการแก้ไขปัญหาแรงงานคนไทยที่เดินทางไปประกอบอาชีพในสถานประกอบการร้านอาหารไทยในประเทศมาเลเซีย ๒.
เรื่องเพื่อพิจารณา จำนวน ๓ เรื่อง เช่น (๑) ขอความเห็นชอบหลักการโครงการพัฒนาสวนสาธารณะขวัญเมืองให้มีหอชมเมืองและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
“ Yala
City Tower” พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๘ (๒) ขอความเห็นชอบหลักการโครงการยกระดับจังหวัดยะลาให้เป็นเมืองแห่งกีฬาจังหวัดชายแดนภาคใต้
พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๘ และ (๓) ขอความเห็นชอบหลักการโครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงแผ่นดิน (ศึกษาแนวเส้นทางใหม่และขุดเจาะอุโมงค์บ้านกระป๋อง)
ระยะทางรวมประมาณ ๑.๔๐๐๐ กิโลเมตร บนทางหลวงหมายเลข ๔๑๐ ตอนบ่อหิน-เบตง
ช่วง กม.114+800-กม.12+400
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4747 | รายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก | สกพอ. | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก
มีสาระสำคัญเพื่อร่วมผลักดันพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออกให้เกิดขึ้นและเป็นศูนย์กลางในด้านการท่องเที่ยว
ธุรกิจ การบิน และโลจิสติกส์ที่มีศักยภาพสูงและแข่งขันในภูมิภาคเอเชีย ตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ
และให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เช่น ควรพิจารณาความคุ้มค่า ต้นทุน
และผลประโยชน์ เสถียรภาพ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม
ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ ควรที่ สกพอ.
จะตรวจสอบข้อสัญญาอย่างรอบคอบและชัดเจน
โดยเฉพาะในระหว่างการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนนั้น ผู้ยื่นข้อเสนอโครงการฯ
ได้รับทราบปริมาณข้อโดยสาร ตลอดจนแผนการขยายท่าอากาศยานที่เกี่ยวข้อง หรือไม่
อย่างไร ควรเร่งกำกับติดตามความก้าวหน้าของโครงการที่สำคัญใน EEC Project List เช่น
โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และมาตรการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ
ของภาครัฐ จะต้องไม่ทำการให้รัฐสูญเสียรายได้ และประชาชนต้องได้รับผลประโยชน์ด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4748 | ผลการประชุมทบทวนการดำเนินการด้านน้ำในห้วงแรกของทศวรรษระหว่างประเทศแห่งการดำเนินการ “น้ำสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน”ค.ศ. 2018 - 2023 (Midterm Comprehensive Review of the Implementation of the Objectives of the nternational Decade for Action “Water for Sustainable Development”:United Nations 2023 Water Conference) | นร.14 | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมทบทวนการดำเนินการด้านน้ำในห้วงแรกของทศวรรษระหว่างประเทศแห่งการดำเนินการ
“น้ำสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน”ค.ศ. ๒๐๑๘-๒๐๒๓ (Midterm
Comprehensive Review of the Implementation of the Objectives of the International
Decade for Action “Water for Sustainable Development” : United Nations 2023
Water Conference) ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๔ มีนาคม ๒๕๖๖ ณ
สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
โดยมีเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย
ซึ่งการประชุมฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้นำประเทศต่าง ๆ นำเสนอข้อริเริ่ม
และทบทวนการดำเนินการด้านน้ำในครึ่งแรกของทศวรรษระหว่างประเทศแห่งการดำเนินการ “น้ำสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน”ค.ศ. ๒๐๑๘-๒๐๒๓
เพื่อเร่งดำเนินการในห้วงครึ่งหลังของทศวรรษฯ
เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ ๖ (SDG 6)
น้ำสะอาดและสุขาภิบาลภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๐ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4749 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติ ประจำเดือนเมษายน 2566 | นร.11 สศช | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติ ประจำเดือนเมษายน ๒๕๖๖
ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น (๑)
ความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติสู่การปฏิบัติ (๒)
การดำเนินการของหน่วยงานของรัฐในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ (๓) การติดตาม
การตรวจสอบ และการประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ (๔) ประเด็นที่ควรเร่งรัดเพื่อการบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ
และ (๕) นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้มอบหมายทุกหน่วยงานของรัฐให้ความสำคัญในการติดตามเร่งรัดโครงการที่มีผลการดำเนินการต่ำกว่าเป้าหมาย
รวมทั้งดำเนินการวิเคราะห์ปัญหาอุปสรรคที่ทำให้การดำเนินการเกิดความล่าช้า
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4750 | ขอความเห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนสำหรับการดำเนินโครงการ Innovative Climate Risk Financing for the Agricultural Sector in the ASEAN Region และขอความเห็นชอบให้เลขาธิการอาเซียนเป็นผู้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ | กษ. | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนสำหรับการดำเนินโครงการเครื่องมือทางการเงินเพื่อการปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศในภาคเกษตรกรภูมิภาคอาเซียน
(Innovative Climate Risk Financing for the
Agricultural Sector in the ASEAN Region)
และให้เลขาธิการอาเซียนเป็นผู้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนดังกล่าว โดยร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ มีสาระสำคัญเป็นการตอบรับข้อตกลงและเงื่อนไขของเยอรมนีที่จะร่วมกันสนับสนุนการดำเนินโครงการฯ
โดยเยอรมนีจะร่วมกันสนับสนุนงบประมาณสำหรับโครงการฯ จำนวน ๔ ล้านยูโร
ในรูปแบบบุคลากร การให้การสนับสนุนทางเทคนิค
และการสนับสนุนทางการเงินตามความเหมาะสม ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างหนังสือแลกเปลี่ยนสำหรับการดำเนินโครงการ Innovative Climate Risk Financing for the Agricultural Sector
in the ASEAN Region
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจาการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4751 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 7/2566 | นร.11 สศช | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุมครั้งที่
๗/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๖ โดยอนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ค่ารักษาพยาบาลแก่กลุ่มผู้ไร้สิทธิการรักษาพยาบาลของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ โดยขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ จากเดือนธันวาคม ๒๕๖๕ เป็นเดือนกันยายน ๒๕๖๖ และเพิ่มจำนวนกลุ่มเป้าหมายของโครงการ
อนุมัติให้จังหวัด เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
ปี ๒๕๖๕ มอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการ
เร่งปรับปรุงรายละเอียดของโครงการในระบบ eMENSCR ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
พร้อมทั้งเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด
มอบหมายให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
และอยู่ระหว่างดำเนินการให้เร่งรัดการดำเนินงานและต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนไขในกรณีที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ
เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
ไม่สามารถดำเนินงานและเบิกจ่ายเงินกู้ให้แล้วเสร็จภายในกำหนดที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้หน่วยงานรับผิดชอบดำเนินโครงการโดยใช้จ่ายจากแหล่งอื่นต่อไป
และอนุมัติการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เรื่อง
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ในคราวประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๖
และเรื่องผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ในคราวประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๖๖
ในส่วนของการขยายระยะเวลาสิ้นสุดการดำเนินโครงการและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
ปี ๒๕๖๕ ของกระทรวงมหาดไทย จากเดิมเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖ เป็นเดือนมิถุนายน ๒๕๖๖ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้กระทรวงต้นสังกัดและหน่วยงานเจ้าของโครงการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ให้กระทรวงต้นสังกัดติดตามหน่วยงานเจ้าของโครงการในการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิด
และกำกับดูแลหน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด
ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพิ่มเติม พ.ศ.
๒๕๖๔ ข้อ ๒๒ และ ๒๓ สำหรับโครงการที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินกู้อีก
หากมีเงินกู้เหลือจ่ายของโครงการนั้น
ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการรายงานเงินกู้เหลือจ่ายให้กระทรวงการคลังทราบ
และส่งคืนเงินกู้เหลือจ่ายเข้าบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลังภายใน ๓
เดือนนับจากวันที่สิ้นสุดการดำเนินโครงการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม
๒๕๖๖ เพื่อให้การบริหารจัดการเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ถูกต้องครบถ้วน เป็นไปตามหลักเกณฑ์ อัตราค่าใช้จ่าย
และมาตรฐานของทางราชการอย่างประหยัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4752 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2566 | นร.11 สศช | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๖
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุม ครั้งที่ ๒/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖ รับทราบรายงานความก้าวหน้าของการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินกู้ของแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม
ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ราย ๓ เดือน
ครั้งที่ ๑๒ (๑ กุมภาพันธ์-๓๐เมษายน ๒๕๖๖) พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานภาครัฐรับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ไปพิจารณาดำเนินการต่าง
ๆ เช่น การเสนอโครงการ ควรพิจารณาขอบเขตและแนวทางการดำเนินโครงการอย่างรอบคอบ
การดำเนินโครงการ
ควรพิจารณาทบทวนกรอบการดำเนินงานหรือกิจกรรมควบคู่กับระยะเวลาการดำเนินงานและแผนการบริหารจัดการความเสี่ยง
การติดตามและประเมินผลโครงการ ควรให้ความสำคัญกับการติดตาม ตรวจสอบ
และประเมินผลการดำเนินงาน
รวมถึงให้ความร่วมมือในการจัดส่งข้อมูลของโครงการข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน
ไปปฏิบัติตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้กระทรวงต้นสังกัดและหน่วยงานเจ้าของโครงการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ให้หน่วยงานภาครัฐดำเนินการตามข้อเสนอแนะและความเห็นของคณกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบที่เกี่ยวข้อง และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ฯ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4753 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 | ทส. | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๖ จำนวน ๓ เรื่อง ประกอบด้วย (๑)
รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (จำนวน ๑๐ โครงการ) เช่น โครงการประตูระบายน้ำกรงปินัง
จังหวัดยะลา ของกรมชลประทาน โครงการบ้านเคหะกตัญญู คลองหลวง ๒ ของการเคหะแห่งชาติ
โครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองน่าน ของกรมทางหลวง (๒) การปรับปรุงประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการหรือการดำเนินการ
ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมกำแพงติดแนวชายฝั่งทะเล
และ (๓) การยกระดับมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองในช่วงสถานการณ์วิกฤต
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4754 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 8/2566 | นร.11 สศช | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุมครั้งที่
๘/๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖ โดยรับทราบรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการและการใช้จ่ายเงินกู้ของแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดฯ
เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ราย ๓ เดือน (๑ กุมภาพันธ์-๓๐ เมษายน ๒๕๖๖)
พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ เช่น
กรณีโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ หน่วยงานที่ดำเนินโครงการแล้วเสร็จ
ควรเร่งดำเนินการคืนวงเงินเหลือจ่าย
โดยควรตรวจสอบความถูกต้องของการเบิกจ่ายให้ครบถ้วน
ก่อนจัดส่งรายงานผลสำเร็จของโครงการให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) โดยเร็ว ตามข้อ
๒๑ และ ๒๒ ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ
โครงการของส่วนราชการที่มีสถานะอยู่ระหว่างดำเนินการที่มีความก้าวหน้าการเบิกจ่ายน้อย
หน่วยงานรับผิดชอบโครงการควรเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนที่ได้รับอนุมัติขยายเวลาแล้ว
และควรรายงานผลความก้าวหน้าการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการติดตามและบริหารงานโครงการ
เป็นต้น ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้กระทรวงต้นสังกัดและหน่วยงานเจ้าของโครงการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้กระทรวงต้นสังกัดติดตามหน่วยงานเจ้าของโครงการในการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิด
และกำกับดูแลหน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด
ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเร่งปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพิ่มเติม พ.ศ.
๒๕๖๔ ข้อ ๒๒ และ ๒๓ สำหรับโครงการที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว
หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินกู้อีก หากมีเงินกู้เหลือจ่ายของโครงการนั้น
ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการรายงานเงินกู้เหลือจ่ายให้กระทรวงการคลังทราบ และส่งคืนเงินกู้เหลือจ่ายเข้าบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลังภายใน
๓ เดือนนับจากวันที่สิ้นสุดการดำเนินโครงการตามมติคณะรัฐมนตรี
เพื่อให้การบริหารจัดการเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4755 | ร่างกฎกระทรวงวัสดุกัมมันตรังสีที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงวัสดุกัมมันตรังสีที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาต พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | อว. | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงวัสดุกัมมันตรังสีที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดวัสดุกัมมันตรังสีที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ
เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และร่างกฎกระทรวงวัสดุกัมมันตรังสีที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาต
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดวัสดุกัมมันตรังสีที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาต
รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรเร่งดำเนินการให้ร่างกฎกระทรวงทั้ง
๒ ฉบับ มีผลบังคับใช้โดยเร็ว และประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนทราบอย่างทั่วถึง
เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามได้ถูกต้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4756 | ผลการพิจารณากรณีการใช้งบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามมาตรา 169 (3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยของกระทรวงพลังงาน | นร.05 | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณากรณีการใช้งบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ตามมาตรา ๑๖๙ (๓) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ของกระทรวงพลังงาน
ตามที่คณะกรรมการเลือกตั้งมีมติเห็นชอบให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากราคาไฟฟ้าซึ่งเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
ในลักษณะการให้ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๖๖ โดยแบ่งเป็นการให้ส่วนลดแบบขั้นบันไดแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน
๓๐๐ หน่วยต่อเดือน และเป็นการลดค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖ จำนวน ๑๕๐
บาทต่อราย ซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน ๕๐๐
หน่วยต่อเดือน ภายในกรอบวงเงิน ๑๐,๔๖๔ ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4757 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2566 | นร.05 | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา
พ.ศ. ๒๕๖๖ (โดยยังมิได้ระบุวันที่เรียกประชุมรัฐสภา)
สำหรับวันที่เรียกประชุมรัฐสภา มอบให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีประสานกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เมื่อมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้รับเลือกตั้งถึงร้อยละเก้าสิบห้าของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดแล้ว
ให้นำร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4758 | แจ้งมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณีการแต่งตั้งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตามมาตรา 169 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 | นร.05 | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เรื่อง การแต่งตั้งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ราย นายเทพรัตน์
เทพพิทักษ์ ซึ่งได้มีมติคะแนนสียงข้างมาก ไม่เห็นชอบ
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4759 | รัฐบาลสหรัฐเม็กซิโกเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหรัฐเม็กซิโกประจำประเทศไทย (นางอิลเซ ลิเลียน เฟร์เรร์ ซิลบา) | กต. | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางอิลเซ ลิเลียน เฟร์เรร์ ซิลบา (Mrs. Ilse Lilian Ferrer Silva)
ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหรัฐเม็กซิโกประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายเบร์นาโด กอร์โดบา เตโย (Mr.
Bernardo Cordova Tello) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 4760 | รัฐบาลสาธารณรัฐสิงคโปร์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย (นางสาวหว่อง เสี่ยว ผิง แคเทอริน) | กต. | 06/06/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางสาวหว่อง เสี่ยว ผิง แคเทอริน (Ms. Wong Siow Ping Catherine)
ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายเควิน ฉ็อก (Mr. Kevin Cheok) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
