ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 233 จากทั้งหมด 6222 หน้า แสดงรายการที่ 4641 - 4660 จากข้อมูลทั้งหมด 124426 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 4641 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า พ.ศ. .... | ทส. | 11/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า
เพื่อช่วยเหลือบุคคลที่ไม่มีที่ดินทำกินและได้อยู่อาศัยหรือทำกินในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าที่มีการประกาศกำหนดมาก่อนวันที่พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
พ.ศ. ๒๕๖๒ ใช้บังคับ โดยไม่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินนั้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับข้อสังเกตของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (คุณหญิงกัลยา
โสภณพนิช) ที่เห็นว่าการกำหนดให้บุคคลที่อยู่อาศัยหรือทำกินในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภายใต้โครงการตามร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า
พ.ศ. .... ครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินได้ไม่เกินครอบครัวละยี่สิบไร่
และในกรณีที่อยู่กันเป็นครัวเรือนตั้งแต่สามครอบครัวขึ้นไป
ให้ครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินได้ไม่เกินครัวเรือนละห้าสิบไร่ นั้น
อาจมีความไม่เหมาะสม
เนื่องจากบุคคลดังกล่าวอาจไม่มีแรงงานเพียงพอที่จะสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าวได้ทั้งหมด
จึงควรปรับลดจำนวนการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าว และอาจพิจารณากำหนดมาตรการในการส่งเสริมศักยภาพในการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อประกอบอาชีพแทน
ไปประกอบการพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
หากพื้นที่โครงการมีที่ราชพัสดุ ก็ควรกันออกจากอุทยานแห่งชาติ
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้จัดสรรแล้ว
และหากไม่เพียงพอให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานหรือแผนการใช้จ่ายงบประมาณหรือโอนเงินจัดสรร
ควรเร่งการกำหนดพื้นที่โครงการเพิ่มเติมให้ครบถ้วนโดยเร็วต่อไป
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ราษฎรในพื้นที่
ในการปฏิบัติตามเงื่อนไขของกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4642 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดลักษณะ กิจการ หรือหน่วยงานที่ได้รับการยกเว้นไม่ให้นำพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บางส่วนมาใช้บังคับ พ.ศ. .... | ดศ. | 11/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดลักษณะ กิจการ
หรือหน่วยงานที่ได้รับการยกเว้นไม่ให้นำพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.
๒๕๖๒ บางส่วนมาใช้บังคับ พ.ศ. .... ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดข้อยกเว้นให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสามารถดำเนินการเก็บ
รวบรวม ใช้เปิดเผย ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อดำเนินการตามภารกิจ ตามกฎหมาย
เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต การจัดเก็บภาษีอากร
ค่าธรรมเนียมทางภาษีอากร ค่าฤชาธรรมเนียม
การดำเนินการตามพันธกรณีหรือความร่วมมือระหว่างประเทศ การจัดเก็บภาษีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
การสถาปนาสมณศักดิ์ การแต่งตั้งหรือถอดถอนข้าราชการ บุคคลหรือคณะบุคคล
ซึ่งเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์หรือที่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี
และการขอพระราชทานหรือเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๑๓) เกี่ยวกับปัญหาเชิงโครงสร้าง
เนื้อหาสาระและมาตรการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
เช่น
ผู้อยู่ในบังคับของกฎหมายขาดความรู้ความเข้าใจและความพร้อมที่จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
ปัญหาการใช้บังคับกฎหมายเฉพาะซึ่งอาจมีหลักเกณฑ์คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่สูงกว่า
รวมทั้งควรมีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒
ทันที ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4643 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... | ทส. | 11/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้จัดทำโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ
จำนวน ๗ แห่ง เป็นเวลา ๒๐ ปี
เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินและได้อยู่อาศัยหรือทำกินในอุทยานแห่งชาติมาก่อนวันที่พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๒ มีผลใช้บังคับให้สามารถอยู่อาศัยหรือทำกินในอุทยานแห่งชาติต่อไป
โดยมิได้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินนั้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับข้อสังเกตของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (คุณหญิงกัลยา
โสภณพนิช) ที่เห็นว่าการกำหนดให้บุคคลที่อยู่อาศัยหรือทำกินในอุทยานแห่งชาติภายใต้โครงการตามร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ
พ.ศ. .... ครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินได้ไม่เกินครอบครัวละยี่สิบไร่
และในกรณีที่อยู่กันเป็นครัวเรือนตั้งแต่สามครอบครัวขึ้นไป ให้ครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินได้ไม่เกินครัวเรือนละสิบห้าไร่
นั้น อาจมีความไม่เหมาะสม เนื่องจากบุคคลดังกล่าวอาจไม่มีแรงงานเพียงพอที่จะสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าวได้ทั้งหมด
จึงควรปรับลดจำนวนการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าว
และอาจพิจารณากำหนดมาตรการในการส่งเสริมศักยภาพในการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อประกอบอาชีพแทน
ไปประกอบการพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
หากพื้นที่โครงการมีที่ราชพัสดุ ก็ควรกันออกจากอุทยานแห่งชาติ
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป
ควรเร่งการกำหนดพื้นที่โครงการเพิ่มเติมให้ครบถ้วนโดยเร็วต่อไป และต้องมีการกำกับ
ติดตาม และประเมินผลการดำเนินโครงการอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4644 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในโครงการซึ่งนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ พ.ศ. .... | นร 05 | 11/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในโครงการซึ่งนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์
พ.ศ. .... ของสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ
ที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๒
ตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ
และเงื่อนไขเกี่ยวกับการลงทุนหรือร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนในโครงการซึ่งนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ทำขึ้นไปใช้ประโยชน์
เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจและวัตถุประสงค์ด้านการวิจัยและนวัตกรรม
และหน่วยงานอื่นของรัฐตามที่สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติประกาศกำหนด
สามารถร่วมลงทุนกับภาคเอกชนเพื่อนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4645 | การแต่งตั้งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์) | พน. | 11/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.เห็นชอบให้กระทรวงพลังงานเสนอข้อมูล
ข้อเท็จจริง และเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการเพิ่มเติม
กรณีการแต่งตั้งผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ราย นายเทพรัตน์
เทพพิทักษ์ ไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง ๒.
เห็นชอบให้ถือเป็นแนวทางปฏิบัติว่า กรณีที่หน่วยงานเจ้าของเรื่องได้เสนอเรื่องใด ๆ
เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐ
รัฐวิสาหกิจหรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่
หรือพ้นจากตำแหน่ง หรือให้ผู้อื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทน
ต่อคณะรัฐมนตรีตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๖ (เรื่อง
แนวทางปฏิบัติอันเนื่องมาจากการยุบสภาผู้แทนราษฎร)
และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ/อนุมัติในเรื่องนั้น และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๒) แล้ว นั้น
หากเรื่องใดคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาแล้วไม่เห็นชอบด้วยกับมติคณะรัฐมนตรี
แต่หน่วยงานเจ้าของเรื่องยังคงเห็นว่าเรื่องดังกล่าวมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการ
หากล่าช้าออกไปจะเกิดความเสียหายต่อหน่วยงานและอาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่เกี่ยวข้องหรือประชาชนโดยรวมได้
รวมทั้งไม่สามารถจะชะลอเรื่องไว้จนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดินได้
ก็ให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องทำหนังสือแจ้งยืนยันข้อมูล ข้อเท็จจริง
และเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการเรื่องนั้นอย่างเร่งด่วนไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เพื่อขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาทบทวนผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้งในเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งต่อไป
ทั้งนี้ ให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องจัดทำข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ
และเหตุผลความจำเป็นให้ถูกต้อง ครบถ้วน ชัดเจน
พร้อมจัดส่งผู้แทนซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานไปร่วมชี้แจงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ชัดเจน
ถูกต้อง และตรงประเด็นด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4646 | การส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) | พน. | 11/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา
(Solar Rooftop)
ที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันสนับสนุนการดำเนินโครงการโซลาร์ภาคประชาชนเพื่อบรรเทาและลดภาระค่าใช้จ่ายด้านค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน
โดยใช้วิธีการส่งไฟฟ้าส่วนที่เหลือจากการใช้ระบบผลิตไฟฟ้า Solar Rooftop เพื่อหักลบจากหน่วยไฟฟ้าที่ประชาชนใช้ไฟฟ้าในเดือนถัดไป สรุปได้ว่าการดำเนินการดังกล่าวยังไม่สามารถปฏิบัติได้
ดังนี้ (๑) การดำเนินธุรกรรมซื้อขายไฟฟ้า (ระหว่างประชาชนและการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย)
ยังไม่มีระเบียบและข้อกฎหมายรองรับวิธีการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มจากผลต่างของแต่ละธุรกรรมที่เกิดขึ้น
(๒) การผลิตไฟฟ้าไหลย้อนกลับเข้าสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้าทำให้แรงดันไฟฟ้าไม่สมดุลเนื่องจากพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากแสงอาทิตย์มีความผันผวนและไม่แน่นอน
ซึ่งส่งผลให้อุปกรณ์ไฟฟ้าในระบบเสียหาย ประสิทธิภาพและอายุการใช้งานลดลง (๓)
ต้นทุนของหน่วยไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และหน่วยไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้ามีความแตกต่างกัน
และ (๔) ระบบไฟฟ้าจากโรงงานไฟฟ้ามีความมั่นคงกว่าไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4647 | ขออนุมัติทบทวนองค์ประกอบของคณะกรรมการประสานงานด้านสหประชาชาติองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ และองค์การต่างประเทศ | กต. | 11/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเพิ่มผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ
เป็นกรรมการในคณะกรรมการประสานงานด้านสหประชาชาติองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ และองค์การต่างประเทศ
เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักของไทยที่รับผิดชอบประเด็นภัยคุกคามและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ตลอดจนเป็นผู้กำหนดนโยบายและท่าทีไทยที่เกี่ยวข้อง
เพื่อความสะดวกในการประสานงานโดยตรงกับหน่วยงานหลัก
และส่งเสริมประโยชน์ในการจัดเตรียมท่าทีไทยในกรอบการประชุมสหประชาชาติ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๖) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4648 | แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การแต่งตั้งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (นายศุภกิจ ศิริลักษณ์) | นร.05 | 11/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เรื่อง การแต่งตั้งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ราย นายศุภกิจ ศิริลักษณ์
ซึ่งได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๖
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4649 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสัมพันธ์ เตชะเจริญกุล) | กษ. | 11/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายสัมพันธ์ เตชะเจริญกุล
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
[รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(นายสุนทร ปานแสงทอง)] ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายจุรินทร์
ลักษณวิศิษฏ์) ได้เห็นชอบแล้ว ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๖) เป็นต้นไป
และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๒)
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4650 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์) | รง. | 05/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเดชา
พฤกษ์พัฒนรักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ช่วยปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงแรงงาน เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๒) แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4651 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (1. นายศุภรัชต์ อินทราวุธ ฯลฯ จำนวน ๓ ราย) | กปร. | 05/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย
ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๒) แล้ว ดังนี้ ๑. นายศุภรัชต์ อินทราวุธ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนา
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)
ตั้งแต่วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๖ ๒. นายวิกรม คัยนันทน์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
(นักวิเคราะห์นโยบาย และแผนทรงคุณวุฒิ) ตั้งแต่วันที่ ๒๑
มีนาคม ๒๕๖๖ ๓. นางกมลินี สุขศรีวงศ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
(นักวิเคราะห์ นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) ตั้งแต่วันที่ ๕
เมษายน ๒๕๖๖
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4652 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล) | กค. | 05/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (นักบริหารระดับต้น) ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านหนี้สาธารณะ
(เศรษฐกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๓
มีนาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๒) แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4653 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายสมใจ วิเศษทักษิณ ฯลฯ จำนวน 5 ราย) | ศธ. | 05/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๒) แล้ว ดังนี้ ๑. นายสมใจ วิเศษทักษิณ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาววันเพ็ญ บุรีสูงเนิน ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค
สำนักงานศึกษาธิการภาค ๘ สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายสุภชัย จันปุ่ม ดำรงตำแหน่งศึกษาธิการภาค
สำนักงานศึกษาธิการภาค ๑๓ สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายประพัทธ์ รัตนอรุณ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ๕. นายวิทวัต ปัญจมะวัต ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4654 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวกมลลักษณ์ อ้นอารี และนางอรวรรณ คงธนขันติธร) | นร.10 | 05/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย
ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานก.พ. เสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
มาตรา ๑๖๙ (๒) แล้ว ดังนี้ ๑. นางสาวกมลลักษณ์ อ้นอารี ที่ปรึกษาระบบราชการ
(นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. ตั้งแต่วันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๖ ๒. นางอรวรรณ คงธนขันติธร ที่ปรึกษาระบบราชการ
(นักทรัพยากรบุคคลทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ. ตั้งแต่วันที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๖
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4655 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สาขาการเงิน ในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (นายสมหมาย ลักขณานุรักษ์) | ทส. | 05/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายสมหมาย
ลักขณานุรักษ์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สาขาการเงิน ในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4656 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีจุ่มร้อนต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 05/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีจุ่มร้อนต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีจุ่มร้อน
ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ๒๕๖๓ (ตามมาตรฐาน เลขที่ มอก. ๕๐-๒๕๖๑) และกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีจุ่มร้อนขึ้นใหม่
และเพื่อรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีการทำและการใช้งานภายในประเทศอย่างทั่วถึง
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4657 | การปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของหน่วยงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | นร.09 | 05/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ๒
ฉบับ ได้แก่ ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
และร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ....
ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
โดยให้มีผลบังคับใช้เมื่อร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงชื่อกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
เป็นกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้ว |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4658 | แจ้งผลการพิจารณา กรณีคณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามมาตรา 169 (3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง | นร 05 | 05/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
กรณีคณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๒๐๐,๖๐๑,๐๔๓.๔๕
บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการชดเชยการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนในการชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนแบบสามัญและเฉพาะเจาะจงของกลุ่มธนาคารโลก
ปี ๒๕๖๑ ตามมาตรา ๑๖๙ (๓) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4659 | ร่างแถลงการณ์ปักกิ่งสำหรับการประชุมระดับสูงว่าด้วยการปฏิบัติการระดับโลกเพื่อการพัฒนาร่วมกัน ครั้งที่ 1 | กต. | 05/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ปักกิ่งสำหรับการประชุมระดับสูงว่าด้วยการปฏิบัติการระดับโลกเพื่อการพัฒนาร่วมกัน
ครั้งที่ ๑ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๙-๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ณ กรุงปักกิ่ง
สาธารณรัฐประชาชนจีน
และให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ฯ ดังกล่าว
ในห้วงการประชุมระดับสูงว่าด้วยการปฏิบัติการระดับโลกเพื่อการพัฒนาร่วมกัน
ครั้งที่ ๑ โดยร่างแถลงการณ์ฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการจัดการกับความท้าทายด้านการพัฒนาเพื่อเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน
รวมทั้งเป็นการสนับสนุนบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศด้านการดำเนินงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและแสดงความมุ่งมั่นของไทยในการเป็นหุ้นส่วนกับประเทศคู่ร่วมมือและองค์การระหว่างประเทศต่าง
ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อความยั่งยืน มั่นคง
มั่งคั่งของอนุภูมิภาค ภูมิภาค และประชาคมโลก ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ปักกิ่งสำหรับการระชุมระดับสูงว่าด้วยการปฏิบัติการระดับโลกเพื่อการพัฒนาร่วมกัน
ครั้งที่ ๑
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โอนงบประมาณรายจ่าย โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลง เงินจัดสรร แล้วแต่กรณี
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 4660 | ร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. 2566 | กค. | 05/07/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร
พ.ศ. ๒๕๖๖ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับหน้าที่ของผู้มีหน้าที่รายงานข้อมูลบัญชีทางการเงินที่เป็นสถาบันการเงินในประเทศไทย
ซึ่งต้องดำเนินการตามพระราชกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร
พ.ศ. ๒๕๖๖ เช่น ๑) กำหนดลักษณะการให้บริการหรือการทำธุรกรรมของผู้มีหน้าที่รายงาน
๒) กำหนดผู้มีหน้าที่รายงานที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องมีหน้าที่รายงาน ๓) กำหนดบัญชีทางการเงิน
ที่ต้องถูกรายงานและบัญชีทางการเงินที่ได้รับยกเว้น ๔)
กำหนดลักษณะผู้ที่ไม่ต้องถูกรายงาน ๕)
หลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบบัญชีทางการเงิน และ ๖)
ระยะเวลาในการส่งข้อมูลเพื่อให้ผู้มีหน้าที่รายงานที่เป็นสถาบันการเงินในประเทศไทยสามารถเริ่มตรวจสอบข้อมูลลูกค้าและนำส่งข้อมูลผู้ที่ต้องถูกรายงานได้
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังแจ้งองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา
(Organisation for Economic Cooperation and
Development : OECD)
เพื่อให้ความตกลงพหุภาคีระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีทางการเงินแบบอัตโนมัติ
(Multilateral Competent Authority Agreement on Automatic Exchange of
Financial Account Information : MCAA CRS) มีผลผูกพันเมื่อร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร
พ.ศ. ๒๕๖๖ และกฎหมายลำดับรองฉบับอื่น ๆ
ของพระราชกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร
พ.ศ. ๒๕๖๖ มีผลใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||
