ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 231 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 4601 - 4620 จากข้อมูลทั้งหมด 123982 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
4601 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (1. นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ฯลฯ รวม 8 คน) | อว. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ รวม ๘
คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ประธานกรรมการ ๒. นายจักรชัย บุญยะวัตร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. นางเนาวรัตน์ บำรุงจิตต์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. นายพิชัย สนแจ้ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นายพิเศษ จียาศักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายรัตติกร ยิ้มนิรัญ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายวิทยา อมรกิจบำรุง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๘. นายสรนิต ศิลธรรม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4602 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลา (1. นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ ฯลฯ จำนวน 7 คน) | กษ. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลา
รวม ๗ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ดังนี้ ๑. นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ ประธานกรรมการ ๒. นายสมิทธิ ดารากร ณ
อยุธยา กรรมการ ๓. นายมนต์ชัย รุ้งทองผ่องอำไพ กรรมการ ๔. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ กรรมการ ๕. นายพิงค์พันธุ์ ฟุ้งพิพัฒน์ กรรมการ ๖. นายสุรเดช สมิเปรม กรรมการ
(ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ๗. นางบุษกร ปราบณศักดิ์ กรรมการ
(ผู้แทนกระทรวงการคลัง)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4603 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (1. นายกวีฉัฎฐ ศีลปพิพัฒน์ ฯลฯ จำนวน 8 คน) | กษ. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทยมีจำนวนรวมทั้งสิ้น
๑๕ คน (ประกอบด้วยประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
กรรมการโดยตำแหน่ง และผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย
เป็นกรรมการและเลขานุการโดยตำแหน่ง) ตามความในมาตร ๖ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย
รวม ๘ คน
เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระเดิมสามปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑. นายกวีฉัฏฐ ศีลปพิพัฒน์ ประธานกรรมการ ๒. นายเผ่าภัค ศิริสุข กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง) ๓. นายปวิช พรหมทอง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง) ๔. นางสาวอรอนงค์ อารินวงค์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง ๕. นายพิเชษฐ ยอดไชย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ผู้แทนสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง) ๖. นายศิริพันธุ์
ตรีไตรรัตนกูล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ผู้แทนสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง) ๗. นายวีรวัฒน์ ยมจินดา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ผู้แทนผู้ประกอบกิจการยาง ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการค้า) ๘. นายสำเริง แสงภู่วงค์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ผู้แทนผู้ประกอบกิจการยาง
ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการการผลิต อุตสาหกรรมยาง)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4604 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. .... และเสนอร่างพระราชกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. .... | กค. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการพระราชกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบร้องขอและแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีทางการเงินแบบอัตโนมัติ
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชกำหนดดังกล่าว
ตามที่กระทรงการคลังเสนอ
๓.
เห็นชอบให้กระทรวงการคลังแจ้งองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Cooperation and Development : OECD) เพื่อให้ความตกลงพหุภาคีระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินแบบอัตโนมัติ
(Multilateral Competent Authority Agreement on Automatic Exchange of
Financial Account Information : MCAA CRS) มีผลผูกพันเมื่อร่างพระราชกำหนดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร
พ.ศ. .... มีผลใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4605 | สรุปความคืบหน้าการติดตามการแก้ไขปัญหาสิ่งปลูกสร้างของส่วนราชการระดับจังหวัดที่ใช้งบประมาณแผ่นดิน ของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี | นร.01 | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4606 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2565 | กค. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน
(กนง.) ประจำครึ่งหลังของปี พ.ศ. ๒๕๖๕ (๑ กรกฎาคม-๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕)
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.
เป้าหมายนโยบายการเงินสำหรับปี ๒๕๖๖ คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๕)
อนุมัติอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงร้อยละ ๑-๓ เป็นเป้าหมายนโยบายการเงิน ๒.
ภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน ในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๕
เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และ กนง.
ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยจะขยายตัวที่ร้อยละ ๓.๗ และ
๓.๙ ในปี ๒๕๖๖ และ ๒๕๖๗ ตามลำดับ ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ ๖.๕
ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๕ ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ ๕.๖
และระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพแต่ยังมีความเปราะบางในบางจุด โดยระบบธนาคารพาณิชย์ยังมั่นคง
แต่ต้องติดตามคุณภาพสินเชื่อโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ๓.
การดำเนินนโยบายการเงิน ในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๕ กนง.
ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวม ๓ ครั้ง จากร้อยละ ๐.๕๐ เป็นร้อยละ ๑.๒๕
เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่วนการดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน
เงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งหลังของปี ๒๕๖๕ เคลื่อนไหวผันผวนตามทิศทางการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา
โดยเริ่มปรับแข็งค่าขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕
หลังมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะชะลอการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ทั้งนี้ กนง. เห็นควรผลักดันการสร้างระบบนิเวศใหม่ของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะการสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้มีการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4607 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. .... | ทส. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงชนิดสัตว์ป่าคุ้มครองตามบัญชีท้ายกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ที่เห็นว่าสัตว์บางชนิดเป็นสัตว์ชนิดอื่นตามบทนิยาม มาตรา ๔
แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ เช่น สัตว์จำพวก นก ค่าง ค้างคาว
ซึ่งประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดสัตว์หรือซากสัตว์ชนิดอื่นตามมาตรา
๓๔ (๔) แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. ๒๕๖๔ การนำสัตว์หรือซากสัตว์ไปยังท้องที่จังหวัดอื่น
ต้องได้รับใบอนุญาตจากสัตว์แพทย์ประจำท้องที่ต้นทาง มาตรา ๓๔ ด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4608 | สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 21 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564-31 ธันวาคม 2565) | นร.04 | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4609 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนในตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (DR)] | กค. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4610 | ร่างกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองหัวเขียวและะป่าคลองเกาะสุย บางส่วน ในท้องที่ ตำบลเขานิเวศน์ และตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง พ.ศ. .... | ทส. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ
ป่าคลองหัวเขียวและะป่าคลองเกาะสุย บางส่วน ในท้องที่ตำบลเขานิเวศน์
และตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเพื่อให้การแก้ไขปัญหาการเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยเป็นการชั่วคราวในที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง
จังหวัดระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยได้รับการอนุญาตให้ใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติมาก่อนได้รับการบริหารจัดการพื้นที่อย่างเป็นระบบ
มีการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเหมาะสมตามสภาพความเป็นจริงและเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์) ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4611 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ รวม 3 ฉบับ ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา | สผ. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
และร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๓ ฉบับ ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
โดยสำนักงานศาลยุติธรรมรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ครั้งที่
๕/๒๕๖๖ เมื่อวันที ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
มีมติเห็นควรให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับศึกษาข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ในประเด็นที่เกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การได้มาของผู้พิพากษาสมทบในศาลชำนัญพิเศษต่าง
ๆ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เช่น กำหนดช่วงอายุของผู้สมัคร วุฒิการศึกษา เป็นต้น
และในประเด็นที่เกี่ยวกับการให้สำนักงานศาลยุติธรรมพิจารณาปรับปรุงแก้ไขบทบัญญัติในการกำหนดหลักเกณฑ์การพ้นตำแหน่งของผู้พิพากษาสมทบในศาลชำนัญพิเศษต่าง
ๆ ให้มีความสอดคล้องกัน อาทิ
ในบทบัญญัติของกฎหมายที่กำหนดเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามโดยทั่วไป
จะบัญญัติแต่เพียงคำว่า “เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก” หรือ
“ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก” ตามความในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ซึ่งจะไม่มีถ้อยคำ “คำสั่งถึงที่สุดของศาลให้จำคุก”
โดยเห็นว่าสำนักงานศาลยุติธรรมควรพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในประเด็นดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกัน
ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4612 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สินค้าน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้ายกัน) | กค. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ.
.... มีสาระสำคัญเป็นการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล และน้ำมันอื่น ๆ
ที่คล้ายกัน ในบัญชีพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ประเภทที่
๐๑.๐๕ รายการน้ำมันดีเซลที่มีกำมะถัน และรายการน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกฎไขมันผสมอยู่
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์น้ำมันดีเซลที่สะท้อนต้นทุนตามข้อเท็จจริง
และควรเริ่มทยอยยกเลิกการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่น ๆ
ที่คล้ายกัน ควบคู่ไปกับการดำเนินมาตรการช่วยเหลือประชาชนเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อยและมีความเปราะบางต่อการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและค่าครองชีพ
เพื่อให้ประชาชนและระบบเศรษฐกิจมีการปรับตัวต่อการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานและลดแรงกดดันต่อฐานะการคลังของประเทศ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓.
ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4613 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ รวม 3 ฉบับ ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา | สว. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
และร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๓ ฉบับ ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
โดยสำนักงานศาลยุติธรรมรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ครั้งที่
๕/๒๕๖๖ เมื่อวันที ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
มีมติเห็นควรให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับศึกษาข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ในประเด็นที่เกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การได้มาของผู้พิพากษาสมทบในศาลชำนัญพิเศษต่าง
ๆ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เช่น กำหนดช่วงอายุของผู้สมัคร วุฒิการศึกษา เป็นต้น
และในประเด็นที่เกี่ยวกับการให้สำนักงานศาลยุติธรรมพิจารณาปรับปรุงแก้ไขบทบัญญัติในการกำหนดหลักเกณฑ์การพ้นตำแหน่งของผู้พิพากษาสมทบในศาลชำนัญพิเศษต่าง
ๆ ให้มีความสอดคล้องกัน อาทิ
ในบทบัญญัติของกฎหมายที่กำหนดเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามโดยทั่วไป
จะบัญญัติแต่เพียงคำว่า “เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก” หรือ
“ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก” ตามความในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ซึ่งจะไม่มีถ้อยคำ “คำสั่งถึงที่สุดของศาลให้จำคุก”
โดยเห็นว่าสำนักงานศาลยุติธรรมควรพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในประเด็นดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกัน
ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4614 | การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ปี 2569 | กค. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการเกี่ยวกับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
(International Monetary Fund : IMF) ปี ๒๕๖๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในฐานะผู้ว่าการธนาคารโลกของไทยได้มีหนังสือถึงธนาคารโลก
เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๕ แสดงความสนใจในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกฯ
ปี ๒๕๖๙ และได้ส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปยังธนาคารโลกแล้ว
ซึ่งไทยผ่านการพิจารณาความเหมาะสมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกฯ
ปี ๒๕๖๙ ร่วมกับอีก ๔ ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐเฮลเลนิก (กรีซ) ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และรัฐกาตาร์ ๒.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเข้าร่วมการประชุม Spring
Meeting ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๖ เมษายน ๒๕๖๖ ณ สหรัฐอเมริกา
ซึ่งจะมีการเสนอผลการประเมินประเทศที่มีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกฯ
ปี ๒๕๖๙ จากนั้นในเดือนตุลาคม ๒๕๖๖ จะมีการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกฯ ณ
ราชอาณาจักรโมร็อกโก
โดยจะเสนอชื่อประเทศที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกฯ
ปี ๒๕๖๙ ให้สภาผู้ว่าการธนาคารโลกและ IMF พิจารณาให้ความเห็นชอบ ๓. ในกรณีที่ไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกฯ
ปี ๒๕๖๙
กระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุม
และขออนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณสำหรับดำเนินการ
รวมทั้งขออนุมัติการลงนามในร่างบันทึกเข้าใจในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกฯ
ปี ๒๕๖๙ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4615 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลป่างิ้ว ตำบลศาลาแดง ตำบลย่านซื่อ ตำบลตลาดกรวด ตำบลบ้านรี อำเภอเมืองอ่างทอง และตำบลชัยฤทธิ์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง พ.ศ. .... | คค. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลป่างิ้ว ตำบลศาลาแดง ตำบลย่านซื่อ ตำบลตลาดกรวด ตำบลบ้านรี
อำเภอเมืองอ่างทอง และตำบลชัยฤทธิ์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลป่างิ้ว ตำบลศาลาแดง
ตำบลย่านซื่อ ตำบลตลาดกรวด ตำบลบ้านรี อำเภอเมืองอ่างทอง และตำบลชัยฤทธิ์
อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๗๗
ทางสายทางเลี่ยงเมืองอ่างทอง ตอนทางเลี่ยงเมืองอ่างทอง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าก่อนการก่อสร้างทางหลวงแผ่นดินทุกเส้นทาง
ขอให้กระทรวงคนนาคม (กรมทางหลวง)
ให้ความสำคัญและตระหนักถึงแนวทางในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการก่อสร้างทางหลวงกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติ
เพื่อป้องกันปัญหาการระบายน้ำไม่ทัน
และอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมหรืออุทกภัยต่อไปในอนาคต กระทรวงคมนาคมควรตระหนักและให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามกฎหมายในการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาในครั้งต่อไป
และให้กรมทางหลวงเร่งจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
พร้อมทั้งการเตรียมความพร้อมในการดำเนินโครงการรวมถึงร่างพระราชกฤษฎีกาที่เสนอในครั้งนี้
เพื่อให้กรมทางหลวงสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลการสำรวจและทราบข้อเท็จจริงของสภาพพื้นที่ที่ดำเนินโครงการ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4616 | การดำเนินการด้านการขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจกจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการดักจับการใช้ประโยชน์และการกักเก็บคาร์บอนของประเทศ | พน. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินการด้านการขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจกจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการดักจับการใช้ประโยชน์และการกักเก็บคาร์บอนของประเทศ
มีสาระสำคัญเป็นการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายที่ ๓ หมุดหมายที่ ๑๐
ไทยมีเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๓ พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ และความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. ๒๕๙๓
และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี พ.ศ. ๒๖๐๘
ตามแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำของประเทศ
ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ
ได้รับทราบแผนดังกล่าวเพื่อใช้เป็นกรอบการดำเนินงานระยะยาวของประเทศสำหรับทุกภาคส่วนในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศโดยเทคโนโลยีด้านดักจับ
การใช้ประโยชน์และการกักเก็บคาร์บอนจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในปี ๒๕๘๓
อีกทั้งต้องดำเนินงานตามแผนการดำเนินงานด้าน CCUS ซึ่งมีองค์ประกอบหลัก ๔ ด้าน ประกอบด้วย ด้านเทคนิค (Technical
Framework) ด้านข้อกำหนดและกฎหมาย (Regulatory Framework) ด้านการค้าและมาตรการจูงใจ (Commercial and incentive) และด้านการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนที่เกี่ยวข้อง (Stakeholder
Engagement)
กระทรวงพลังงานโดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันศึกษา
สำรวจ วิจัยข้อมูลธรณีวิทยา กฎหมายและกฎระเบียบ
ความเป็นไปได้ทางเศรษฐศาสตร์ที่เกี่ยวกับการดักจับการใช้ประโยชน์และการกักเก็บคาร์บอน
รวมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นทั้งภาครัฐและเอกชน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4617 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายบุญยอด สุขถิ่นไทย) | นร.04 | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4618 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายบุญเกียรติ การะเวกพันธุ์) | นร.04 | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายบุญเกียรติ
การะเวกพันธุ์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4619 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายมานิตย์ พรหมการีย์กุล) | รง. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายมานิตย์ พรหมการีย์กุล เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4620 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 | มท. | 14/03/2566 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง
ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.
๒๔๙๗ เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒
และเพื่อให้การดำเนินการออกเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดินเป็นไปด้วยความรวดเร็วและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน
โดยกำหนดให้ในการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมกันตรวจสอบที่ดินและพิจารณาสั่งการในผลรายงานของคณะกรรมการดังกล่าวหากปรากฏว่าที่ดินที่ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
เขตอุทยานแห่งชาติ เขตวนอุทยาน เขตสวนพฤกษาศาสตร์ เขตสวนรุกขชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขตป่าไม้ถาวร เขตป่าชายเลน
หรือเขตป่าชายเลนอนุรักษ์ที่ยังไม่ได้ขีดเขตหรือขีดเขตแล้วแต่ที่ดินที่ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์มีอาณาเขตคาบเกี่ยวหรืออยู่ในเขตป่าดังกล่าว
และกำหนดให้สามารถใช้ผลการตรวจพิสูจน์สิทธิในที่ดินของคณะอนุกรรมการพิสูจน์สิทธิในที่ดินของรัฐจังหวัด
มาใช้เป็นหลักฐานในการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือโฉนดที่ดินได้
รวมทั้งแก้ไขถ้อยคำเขตป่าให้สอดคล้องกับกฎหมายปัจจุบัน ได้แก่
พระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ๒๕๕๘
พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงาน ป.ป.ท. เช่น
ควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อความเกี่ยวกับพื้นที่
โดยเพิ่มพื้นที่ที่มีอาณาเขตติดต่อเข้าไปด้วย
นอกเหนือจากพื้นที่คาบเกี่ยวหรืออยู่ในเขตป่าประเภทต่าง ๆ
การทำประโยชน์และครอบครองมาก่อนการเป็นที่ดินของรัฐ ที่ระบุในข้อ ๑๑ และข้อ ๑๖/๑
ตามร่างกฎกระทรวงฯ กรณีเขตป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรีควรมีการอธิบายให้ชัดเจนว่าการเป็นที่ดินของรัฐเกิดขึ้นเมื่อใด
เพื่อให้ปฏิบัติได้ถูกต้องเกี่ยวกับการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือการออกโฉนดที่ดิน
ควรรายงานการตรวจสอบให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบเกี่ยวกับที่ดินทราบ เพื่อไปประกอบการพิจารณาด้วย ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรกำหนดให้แก้ไขเพิ่มเติมพื้นที่ป่าตามกฎหมาย
ตามความในข้อ ๑๐ (๒) ให้สอดคล้องกับข้อ ๑๐ (๓) ด้วย
และการตรวจสิทธิในที่ดินของคณะอนุกรรมการพิสูจน์ในที่ดินของรัฐจังหวัด
เพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานในการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์นั้น
จำเป็นต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบและรัดกุมโดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|