ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็นจากประชาชนในไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | นร.01 | 16/07/2567 |
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็นจากประชาชนในไตรมาสที่
๑ ของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ พร้อมผลการวิเคราะห์เรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็น
และมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาปรับปรุงการให้บริการ/การปฏิบัติงาน
สรุปสาระสำคัญได้ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็นของประชาชนฯ
ที่ยื่นเรื่องผ่านช่องทางการร้องทุกข์ ๑๑๑๑ รวมทั้งสิ้น ๓๒,๕๑๗ ครั้ง (๑๗,๐๕๐ เรื่อง)
สามารถดำเนินการจนได้ข้อยุติ ๑๓,๕๒๕ เรื่อง คิดเป็นร้อยละ
๗๙.๓๓ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับการประสานเรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็น
มากที่สุด (๑,๘๗๗ เรื่อง) ๒.
การประมวลผลและวิเคราะห์เรื่องร้องทุกข์และรับข้อคิดเห็นฯ มีสถิติเรื่องร้องทุกข์
๑๗,๐๕๐ เรื่อง มากกว่าไตรมาสที่ ๑
ของปีงบประมาณ ๒๕๖๖ จำนวน ๒,๖๑๑ เรื่อง (มีเรื่องร้องทุกข์
๑๔,๔๓๙ เรื่อง) โดยประเด็นที่ประชาชนยื่นเรื่องร้องทุกข์มากที่สุดคือ
การน้ำเข้าและส่งออกสัตว์นอกราชอาณาจักร (๑,๗๑๐ เรื่อง
ซึ่งดำเนินการจนได้ข้อยุติแล้ว ๑,๖๙๐ เรื่อง) ๓.
ปัญหาและความต้องการของประชาชนที่ร้องทุกข์/หน่วยรับการประสานเรื่องร้องทุกข์ เช่น
หน่วยงานของรัฐควรปรับปรุงคุณภาพการให้บริการอย่างสม่ำเสมอ
กรณีช้างพลายที่ส่งไปเป็นทูตสันถวไมตรี
รัฐบาลควรให้ความสำคัญและควรตรวจสอบข้อเท็จจริง
เพื่อสื่อสารให้ประชาชนมั่นใจในความเป็นอยู่ของช้างพลาย ๔.
ข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาปรับปรุงการให้บริการ/การปฏิบัติงาน เช่น
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและแจ้งความคืบหน้าให้กับประชาชนทราบ
ให้กระทรวงการต่างประเทศประสานทางการทูตเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีช้างพลายและสื่อสารให้ประชาชนทราบ ทั้งนี้
ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ที่มีข้อสังเกตว่า กรณีการนำช้างพลายที่ส่งไปเป็นทูตสันถวไมตรีกลับประเทศไทย นั้น เห็นควรที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องพิจารณาให้เหมาะสม
และละเอียดรอบคอบทุกมิติ
โดยคำนึงถึงความพร้อมด้านสุขภาพของช้างและความปลอดภัยในการเคลื่อนย้ายและขนส่งเป็นสำคัญ รวมทั้งความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงพาณิชย์ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เห็นควรให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
และแจ้งความคืบหน้าให้ประชาชนทราบตามระยะเวลาที่กำหนด รวมทั้งหาแนวทางเพื่อป้องกันการร้องเรียนซ้ำในประเด็นเดิม
ซึ่งจะเป็นพลังในการขับเคลื่อนการดำเนินงานและพัฒนาปรับปรุงการให้บริการของหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เห็นว่าปัญหาเรื่องเสียงที่เกิดจากการจุดพลุดอกไม้ไฟ
ประเด็นดังกล่าวควรนำรายละเอียดเรื่องการร้องทุกข์มาประกอบการพิจารณาปรับปรุงประกาศเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อยหรือการกระทำการอย่างใด
เพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุที่คล้ายคลึงกันขึ้นสู่อากาศ
ในประเด็นของสถานที่และวันอนุญาต ปริมาณ ความถี่
และระยะเวลาการจุดให้มีความเหมาะสม
เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและป้องกันการร้องเรียนซ้ำ |