ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1078 จากทั้งหมด 6215 หน้า แสดงรายการที่ 21541 - 21560 จากข้อมูลทั้งหมด 124297 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21541 | รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย - ออสเตรเลีย | คค | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการของบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-ออสเตรเลีย และร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของไทยและออสเตรเลีย โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงเกี่ยวกับความจุความถี่และสิทธิรับขนการจราจร สิทธิความจุเที่ยวบินเฉพาะสินค้า สิทธิรับขนการจราจรพักค้างของตนเอง และการใช้ชื่อเที่ยวบินร่วมกัน รวมทั้งเพิ่มเรื่องการเช่าอากาศยาน และการเปลี่ยนแบบอากาศยาน ส่วนร่างหนังสือแลกเปลี่ยน ฯ มีสาระสำคัญเพื่อยืนยันผลการหารือบันทึกความเข้าใจฯ ๒. มอบให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวต่อไป โดยให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถปรับถ้อยคำตามความเหมาะสมที่ไม่กระทบกับสาระสำคัญ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21542 | ขอสนับสนุนงบกลางเพื่อดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาอาชีพเกษตรกรตามความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาภัยแล้งปี 2558/59 ระยะที่ 2 ครั้งที่ 2 | กษ | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒,๙๖๗.๔๑ ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาอาชีพเกษตรกรตามความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาภัยแล้ง ปี ๒๕๕๘/๕๙ ระยะที่ ๒ ครั้งที่ ๒ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรตรวจสอบกิจกรรม พื้นที่ดำเนินการ เกษตรกรและศักยภาพของเกษตรกร การจัดการด้านการผลิตที่เชื่อมโยงกับทางด้านการตลาด โดยใช้แนวทางการทำงานแบบประชารัฐมาบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินการที่จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรได้ รวมทั้งติดตามการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และสามารถดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จทันภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนด และรายงานผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการอำนวยการบูรณาการแก้ไขปัญหาวิกฤตภัยแล้งปี ๒๕๕๘/๕๙ และคณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการฯ จัดทำรายละเอียด แผนการดำเนินโครงการฯ เป้าหมาย และผลสัมฤทธิ์ให้มีความชัดเจนเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนตามแนวทางประชารัฐ รวมทั้งให้ตรวจสอบและกลั่นกรองโครงการฯ ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับโครงการตามมาตรการอื่น ๆ ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไปแล้ว ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ (เรื่อง ขอสนับสนุนงบกลาง เพื่อดำเนินโครงการตามแผนพัฒนาอาชีพเกษตรกรตามความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาภัยแล้ง ปี ๒๕๕๘/๕๙ ระยะที่ ๒ ครั้งที่ ๑) รวมทั้งให้ดำเนินการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เป็นไปอย่างโปร่งใส และตรวจสอบได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21543 | มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาภัยแล้งและมาตรการเพิ่มขีดความสามารถภาคการเกษตร | กค | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการดำเนินโครงการสินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้แก่ โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินและจำเป็นของเกษตรกรที่ประสบภัยแล้งปี ๒๕๕๘/๒๕๕๙ และโครงการสินเชื่อ ๑ ตำบล ๑ SME เกษตร เพื่อสร้างความยั่งยืนของภาคเกษตรไทย โดยในส่วนของโครงการสินเชื่อ ๑ ตำบล ๑ SME เกษตรฯ นั้น ธ.ก.ส. ควรมีแผนในการสนับสนุน SME เกษตร ที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่นอกเหนือจากการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะการให้ความรู้ที่จำเป็นและการเป็นพี่เลี้ยงในการดำเนินกิจการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ๒. อนุมัติงบประมาณภายในกรอบวงเงิน ๕๒๕ ล้านบาท เพื่อชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๓.๕ ให้แก่ ธ.ก.ส. ในการดำเนินโครงการชุมชนปรับเปลี่ยนการผลิตสู้วิกฤตภัยแล้ง โดยเริ่มตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ รวมทั้งให้โครงการฯ ดังกล่าวเป็นโครงการแยกบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) ด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการตรวจสอบความซ้ำซ้อนของโครงการภายใต้มาตรการดังกล่าวกับมาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่ได้ดำเนินการอยู่แล้วเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การกำหนดชนิดพืชปลูกให้เหมาะสมกับสภาพทางกายภาพของพื้นที่เป้าหมายในการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) เพื่อให้เกษตรกรได้ปรับเปลี่ยนชนิดพืชปลูกให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรในอนาคตอย่างเป็นระบบและยั่งยืน การช่วยเหลือเกษตรกรจะต้องครอบคลุมถึงเกษตรกรที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรที่ไม่ได้เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. ด้วย เพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรเป็นไปอย่างทั่วถึง รวมทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการฯ ตลอดจนกระบวนการในการพิจารณากลั่นกรอง/อนุมัติสินเชื่อในรายละเอียดให้มีความชัดเจน โดยคำนึงถึงศักยภาพและความพร้อมของเกษตรกร ชุมชนหรือกลุ่มที่จะขอสินเชื่อ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21544 | ความตกลงองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม และข้อเสนอของประเทศไทยในการขอจัดตั้งสำนักเลขานุการองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉิน ของอาเซียนบวกสามในประเทศไทย ประกอบกับมติที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านเกษตรและป่าไม้กับรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 12 | กษ | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้นำเรื่องความตกลงองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสามและข้อเสนอของประเทศไทยในการขอจัดตั้งสำนักงานเลขานุการองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสามในประเทศไทย ประกอบกับมติที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านเกษตรและป่าไม้กับรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ ๑๒ เสนอคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสำนักเลขานุการองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม พ.ศ. .... ต่อไป ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดการตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสำนักเลขานุการองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม พ.ศ. .... เพื่อจะได้เสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพร้อมกับความตกลงองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม และข้อเสนอของประเทศไทยในการขอจัดตั้งสำนักเลขานุการองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสามในประเทศไทย ประกอบกับมติที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านเกษตรและป่าไม้กับรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ ๑๒ ต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21545 | แผนการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน | นร | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบตามที่รองประธานกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ ๕ (ด้านความมั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำ การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเรื่องที่เป็นวาระเร่งด่วน และการแก้ไขปัญหาการดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศ) เสนอ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ แผนการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นกรอบในการดำเนินการ ติดตาม และเผยแพร่สร้างความเข้าใจกับสาธารณชน รวมทั้งเพื่อใช้รายงานความก้าวหน้าต่อองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organisation : ICAO) องค์การกำกับดูแลความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (European Aviation Safety Agency : EASA) และองค์กร/หน่วยงานอื่น ๆ แบ่งเป็น ส่วนที่ ๑ การคัดสรรและบรรจุบุคลากร ส่วนที่ ๒ การพัฒนาคุณสมบัติผู้ตรวจสอบความปลอดภัยการบิน ส่วนที่ ๓ การตรวจสอบและประเมินเพื่อออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ และส่วนที่ ๔ การดำเนินการออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ ๑.๒ ความร่วมมือทางเทคนิคตามโครงการ “Civil Aviation Safety Oversight Improvement Project” กับประเทศญี่ปุ่น เป็นการสนับสนุนทางเทคนิค ระยะเวลาความร่วมมือ ๒ ปี ๕ เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๕๙ ถึงเดือนกันยายน ๒๕๖๑ โดยประเทศญี่ปุ่นจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาร่วมปรับปรุงระบบตรวจสอบความปลอดภัยด้านความสมควรเดินอากาศ (Improvement of Safety Audit System) ซึ่งเป็นการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญระยะยาว [Long-term Expert (s)] และสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญระยะสั้น [Short-term Expert (s)] เพื่อปรับปรุงระบบรายงานความปลอดภัยภาคบังคับ (Improvement of Mandatory Safety Reporting System) ด้านการบำรุงรักษาอากาศยาน ๒. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงิน ๒,๕๐๐,๐๐๐ ยูโร หรือไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการทำบันทึกความตกลงความร่วมมือเกี่ยวกับ Cooperation Framework Agreement on Aviation Safety กับองค์การกำกับดูแลความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (EASA) ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙ โดยให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน และขอรับการจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงินที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบกรอบวงเงินแล้วโดยจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายและแผนการใช้จ่ายเงินงบกลาง และขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21546 | ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | นร10 | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎ ก.พ. รวม ๒ ฉบับ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเป็นตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง ๒. ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตรา ๑๔,๕๐๐ บาท และให้ตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตรา ๒๑,๐๐๐ บาท |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21547 | การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย [การเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (จำนวน 6 คน 1. นายสุวัฒน์ เทพอารักษ์ ฯลฯ)] | ปง | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบให้นำรายชื่อบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จำนวน ๖ คน ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป ดังนี้ ๑.๑ นายสุวัฒน์ เทพอารักษ์ ๑.๒ รองศาสตราจารย์สังศิต พิริยะรังสรรค์ ๑.๓ ศาสตราจารย์อุดม รัฐอมฤต ๑.๔ ศาสตราจารย์ พลตำรวจตรี จักรพงษ์ วิวัฒน์วานิช ๑.๕ นายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม ๑.๖ นายสุทธิพล ทวีชัยการ ๒. เพื่อให้การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติเป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย ให้ทุกส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐดำเนินการให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัดด้วย เพื่อมิให้เกิดปัญหาการตีความและเพื่อให้การดำเนินการของคณะกรรมการเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21548 | การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ปี 2559 | รง | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบขั้นตอนการนำเข้าแรงงานเวียดนาม และเห็นชอบในหลักการการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ปี ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวหลังวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ การรายงานตัวเพื่อขออนุญาตทำงาน โดยบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ที่เคยทำงานอยู่ในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย ๒ กลุ่ม [กลุ่มที่ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) และกลุ่มที่มีเอกสารที่ประเทศต้นทางออกให้] กำหนดให้สิ้นสุดการทำงานในวันเดียว คือวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๑ ทั้งนี้ ไม่รวมแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ที่เข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายซึ่งได้จดทะเบียนในช่วงเวลาที่ผ่านมาทั้ง ๒ ระยะ ๑.๒ การให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ที่ได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรในทุกประเภทกิจการทำงานได้ครั้งละไม่เกิน ๒ ปี และจะต่ออายุการทำงานอีกได้ครั้งละ ๒ ปี ไม่เกิน ๔ ครั้ง รวมแล้วไม่เกิน ๘ ปี โดยไม่ต้องเดินทางกลับประเทศต้นทาง ซึ่งการต่ออายุแต่ละครั้งให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมการจัดหางานกำหนด ๑.๓ การยกระดับสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางาน เป็นสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการบริหารจัดการแรงงาน ๑.๔ การกำหนดคำนิยามกิจการแปรรูปสัตว์น้ำเพิ่มเติม โดยกำหนดคำนิยามของการแปรรูปสัตว์น้ำให้รวมถึงการคัดแยกปลา และสัตว์น้ำอื่น ๆ ๑.๕ การออกกฎกระทรวงกำหนดรูปแบบใบอนุญาตทำงาน โดยให้กระทรวงแรงงานปรับปรุงกฎกระทรวงเพื่อกำหนดรูปแบบใบอนุญาตทำงานให้มีลักษณะและข้อความสอดคล้องตรงกับที่ระบุไว้ด้านหลังบัตรชมพู โดยให้มีผลย้อนหลังครอบคลุมในวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบการดำเนินการกับกลุ่มแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา หลังวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ซึ่งได้จัดทำทะเบียนประวัติ และขออนุญาตทำงานระหว่างวันที่ ๑ เมษายน-๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ๒. ยกเว้นกรณีการจัดตั้งหน่วยงานเพื่อบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ ให้กระทรวงแรงงานดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก่อน รวมถึงให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้อยู่ภายใต้ระบบการนำเข้าภายใต้ข้อตกลง (MOU) เพื่อการบริหารจัดการอย่างเป็นเอกภาพโดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการ แล้วจึงนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๓. ในระยะต่อไปให้กระทรวงแรงงานพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวทุกสัญชาติให้เป็นระบบและมีความเหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการแรงงานต่างด้าวของประเทศ รวมทั้งให้พิจารณากำหนดให้แรงงานต่างด้าวที่ได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักร และที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานทุกสัญชาติ (เช่น เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม) มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดพร้อมกันด้วย ๔. เนื่องจากรัฐบาลได้รับการร้องขอจากประเทศเพื่อนบ้านให้พิจารณาเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวที่ทำงานในประเทศไทยสามารถทำงานอื่นได้ ดังนั้น จึงให้กระทรวงแรงงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเหมาะสมในการอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวสามารถทำงานประเภทอื่นนอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตไว้แล้วได้ เช่น งานบริการ โดยไม่ให้เกิดผลกระทบกับแรงงานชาวไทย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21549 | การขยายระยะเวลาการจัดทำรายละเอียดวงเงินและส่งคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 | นร07 | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขยายระยะเวลาการจัดทำรายละเอียดวงเงินและส่งคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ มายังสำนักงบประมาณ ออกไปอีก ๒ สัปดาห์ จากเดิมวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เป็นวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๙ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นลดงบประมาณรายจ่ายประจำในส่วนของภารกิจพื้นฐาน (Function) เพื่อสนับสนุนการบูรณาการงบประมาณตามภารกิจยุทธศาสตร์ (Agenda)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21550 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร (นักบริหารสูง) (นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม) | นร04 | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21551 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ) (นางสาวพรรณพิมล สุวรรณพงศ์) | กต | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวพรรณพิมล สุวรรณพงศ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้รับ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21552 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) (นางสาววรรณสิริ โมรากุล และนางธิดา จงก้องเกียรติ) | กก | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้
๑. นางสาววรรณสิริ โมรากุล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ๒. นางธิดา จงก้องเกียรติ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21553 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) (นายสัญชัย เกตุวรชัย) | กษ | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสัญชัย เกตุวรชัย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21554 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงศึกษาธิการ) (นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์) | ศธ | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21555 | การอนุมัติองค์ประกอบคณะกรรมการฝ่ายไทยในคณะกรรมการบริหารมูลนิธิการศึกษาไทย - อเมริกัน (ฟุลไบรท์) ประจำปี 2559 (จำนวน 7 ราย 1. นายมนัสพาสน์ ชูโต ฯลฯ) | กต | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบองค์ประกอบคณะกรรมการฝ่ายไทยในคณะกรรมการบริหารมูลนิธิการศึกษาไทย-อเมริกัน (ฟุลไบรท์) ประจำปี ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นายมนัสพาสน์ ชูโต ประธานกรรมการ อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ๒. อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ หรือผู้แทน กรรมการ ๓. อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ หรือผู้แทน กรรมการ ๔. ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ กรรมการ และสังคมแห่งชาติ ๕. ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กรรมการ ๖. ผู้แทนบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กรรมการ ๗. นายกสมาคมฟุลไบรท์ไทย กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21556 | การแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (จำนวน 13 คน 1. นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ฯลฯ) | กค | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน ๑๓ คน แทนรองประธานกรรมการและกรรมการอื่นชุดเดิมที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งสามปี ในวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองประธานกรรมการ ๒. นายสมชาย ชาญณรงค์กุล กรรมการอื่น ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๓. นายสุวิชญ โรจนวานิช กรรมการอื่น ผู้แทนกระทรวงการคลัง ๔. นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข กรรมการอื่น ผู้แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ ๕. นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส กรรมการอื่น ผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ๖. นางฤชุกร สิริโยธิน กรรมการอื่น ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย ๗. นายสมคิด พรหมเจริญ กรรมการอื่น ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรผู้ถือหุ้น ๘. นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล กรรมการอื่น ๙. นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ กรรมการอื่น ๑๐. นางปัทมาวดี โพชนุกูล กรรมการอื่น ๑๑. นายวัชระ ฉัตรวิริยะ กรรมการอื่น ๑๒. นายพีระวัฒน์ ดวงแก้ว กรรมการอื่น ๑๓. นายวัฒนา ธรรมศิริ กรรมการอื่น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21557 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (จำนวน 4 คน 1. นายสนิท พรหมวงษ์ ฯลฯ) | คค | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำนวน ๔ คน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายสนิท พรหมวงษ์ กรรมการอื่น ๒. นายสมศักดิ์ ห่มม่วง กรรมการอื่น ๓. รองศาสตราจารย์ คณิต วัฒนวิเชียร กรรมการอื่น ๔. นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ กรรมการอื่น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21558 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (จำนวน 5 คน 1. พลเอก ยอดยุทธ บุญญาธิการ ฯลฯ) | คค | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน ๕ คน แทนประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งดำรงตำแหน่งครบวาระสามปีแล้ว ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ พลเอก ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการ ๑.๒ นาวาอากาศเอก ธนากร พีระพันธุ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๑.๓ นายจุฬา สุขมานพ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๑.๔ นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๑.๕ นายไกร ตั้งสง่า กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๒. ยกเว้นนายวินัย ดำรงค์มงคลกุล ให้มีผลตั้งแต่วันที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการอัยการเป็นต้นไปแต่ต้องไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21559 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (จำนวน 12 คน) | พณ | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า จำนวน ๑๒ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปีแล้ว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ ๑.๑ พันตำรวจโท พงศ์อินทร์ อินทรขาว กระทรวงพาณิชย์ ๑.๒ นายสุวิชญ โรจนวานิช กระทรวงการคลัง ๑.๓ นายนรินทร์ กัลยาณมิตร กระทรวงการคลัง ๑.๔ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ กระทรวงการคลัง ๒. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน ๒.๑ นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กระทรวงพาณิชย์ ๒.๒ นายสนั่น อังอุบลกุล สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ๒.๓ นายวิชัย อัศรัสกร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ๒.๔ นายสาโรช ชยาวิวัฒน์กุล สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ๒.๕ นายบดินทร์ อัศวาณิชย์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ๒.๖ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ๒.๗ นายรัฐไกร ลิ้มศิริตระกูล สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ๓. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นนักวิชาการ ๓.๑ นายศักดา ธนิตกุล กระทรวงพาณิชย์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
21560 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (นายปฏิคม วงษ์สุวรรณ) | มท | 23/02/2559 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายปฏิคม วงษ์สุวรรณ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แทน นายสมพร ใช้บางยาง ที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ ๖๕ ปีบริบูรณ์แล้ว ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
.....