ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 8 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 20 จากข้อมูลทั้งหมด 144 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ขออนุมัติผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อให้กรมชลประทาน ดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดน่าน | กษ. | 10/06/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่อนผันยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
เพื่อให้กรมชลประทานเข้าใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ จำนวนเนื้อที่ ๕๕๐ ไร่ ๓
งาน ๗๒ ตารางวา ดำเนินการโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จังหวัดน่าน ดังนี้ ๑) มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๒๙ เรื่อง
มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเรื่องการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำยมและน่าน
และข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำยมและน่าน และข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำยมและน่าน
ระบุไว้ว่า “ข้อ ๑.๑ ห้ามมิให้มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะพื้นที่ป่าไม้เป็นรูปแบบอื่นอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ เพื่อรักษาไว้เป็น พื้นที่ต้นน้ำลำธารอย่างแท้จริง” และ ๒) มติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๒ เรื่อง ขอผ่อนผันใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ เพื่อก่อสร้างทางเพื่อความมั่นคง
“ข้อ ๒. ต่อไปจะไม่อนุมัติให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ
อีก ไม่ว่ากรณีใด” ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
สำนักงบประมาณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เช่น กระทรวงสาธารณสุข เห็นควรคำนึงถึงผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
พื้นที่ลุ่มน้ำ และระบบนิเวศของสัตว์ป่า โดยเฉพาะการสูญเสียทรัพยากรป่าไม้
ซึ่งส่งผลต่อการสูญเสียพื้นที่ที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร
รวมทั้งการปฏิบัติของผู้ขออนุญาต ในการปฏิบัติตามกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี
และระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแก้ไขและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
เห็นควรสนับสนุนการดำเนินโครงการฯ ตามแผนที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ขอให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป รวมทั้งให้ถือปฏิบัติตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง
การพิจารณาและตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและการตรวจสอบข้อมูลผู้ละทิ้งงานราชการ)
และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ (เรื่อง การตรวจสอบและจัดเตรียมความพร้อมในการดำเนินการตามแผน/โครงการของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ)
ให้ถูกต้อง ครบถ้วน อย่างเคร่งครัดด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2 | ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อทำเหมืองแร่ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิลาทองวิเชียร ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ | อก. | 27/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่อนผันให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด
ศิลาทองวิเชียร ใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี เพื่อทำเหมืองแร่
ตามคำขอประทานบัตรที่ ๒/๒๕๖๐ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓
และวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ อนึ่ง เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ บี เพื่อทำเหมืองแร่แล้ว กระทรวงอุตสาหกรรม
โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่จะได้ดำเนินการให้ครบถ้วนถูกต้องตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อนการพิจารณาอนุญาตประทานบัตรต่อไป
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เห็นควรปฏิบัติตามข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำ
มาตรการป้องกันแก้ไข และตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน การปลูกดูแลรักษาต้นไม้และพืชคลุมดิน
รวมทั้งการจัดการบ่อดักตะกอนให้มีประสิทธิภาพเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบโครงการ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3 | ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อทำเหมืองแร่ของบริษัท ศิลาอุตสาหกรรม จำกัด ที่จังหวัดยะลา | อก. | 27/05/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติผ่อนผันให้บริษัท ศิลาอุตสาหกรรม จำกัด
ใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี เพื่อทำเหมืองแร่ ตามคำขอประทานบัตรที่
๖/๒๕๕๘ เพิ่มเติม เนื้อที่ ๓๔ ไร่ ๓ งาน ๒๕ ตารางวา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ และผ่อนผันการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม
๒๕๓๓ และวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ อนึ่ง
เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี
เพื่อทำเหมืองแร่แล้ว กระทรวงอุตสาหกรรมโดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่จะได้ดำเนินการให้ครบถ้วนถูกต้องตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อนการพิจารณาอนุญาตประทานบัตรต่อไป
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงวัฒนธรรมไปกำกับติดตามการดำเนินการของบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน
โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอย่างเคร่งครัด ๒.
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
เห็นควรมีการตรวจสอบ กำกับ
และติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัดตามรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านเหมืองแร่
พร้อมทั้งคำนึงถึงความสามารถในการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษอันเนื่องมาจากการทำเหมืองแร่หินหรือกิจการที่ก่อให้เกิดมลพิษ
โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการประกอบกิจการด้านการย่อยหินเป็นจำนวนมาก
เพื่อป้องกันผลกระทบด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
เพื่อให้เกิดความรู้และความเข้าใจร่วมกัน รวมถึงลดผล กระทบและความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นภายหลังจากการทำเหมืองแร่ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4 | ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อทำเหมืองแร่ของบริษัท ศิลาสัมพันธ์ จำกัด ที่จังหวัดพัทลุง | อก. | 22/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่อนผันให้บริษัท
ศิลาสัมพันธ์ จำกัด ใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี เพื่อทำเหมืองแร่ ตามคำขอประทานบัตรที่
๑/๒๕๕๙ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ (เรื่อง
มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคใต้
และข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำ) และวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง
การอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้) ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นควรมีการตรวจสอบ
กำกับ และติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัดตามรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านเหมืองแร่
พร้อมทั้งคำนึงถึงความสามารถในการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษอันเนื่องมาจากการทำเหมืองแร่หินหรือกิจการที่ก่อให้เกิดมลพิษ
และควรจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงผลกระทบและความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นภายหลังจากการทำเหมืองแร่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่ากรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ควรดำเนินการติดตามตรวจสอบพื้นที่คำขอประทานบัตรทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการดำเนินโครงการเหมืองแร่ดังกล่าว
เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่คำขอประทานบัตรว่ามีสภาพแวดล้อมและการใช้ประโยชน์พื้นที่เปลี่ยนแปลงไปจากรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือไม่
และเพื่อป้องกันมลภาวะที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี ที่อยู่รอบบริเวณของพื้นที่โครงการ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5 | ขอผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อดำเนินงานก่อสร้างระบบจำหน่ายไฟฟ้า 22 kV ช่วงสถานีไฟฟ้ากาญจนบุรี 4 ถึงจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ตามโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 และงานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้า 115 kV ช่วงสถานีไฟฟ้ากาญจนบุรี 4 ถึงสถานีไฟฟ้าบริเวณพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมกาญจนบุรี | มท. | 08/04/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๒ เรื่อง
ขอผ่อนผันใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ เพื่อก่อสร้างทางเพื่อความมั่นคง
และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก
และการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนอื่น ๆ
(ลุ่มน้ำชายแดน) เพื่อดำเนินงานก่อสร้างระบบจำหน่ายไฟฟ้า ๒๒ kV ช่วงสถานีไฟฟ้ากาญจนบุรี ๔ ถึงจุดผ่านแดนถาวร บ้านพุน้ำร้อน
ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ตามโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ ๒ และงานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้า
๑๑๕ kV ช่วงสถานีไฟฟ้ากาญจนบุรี ๔
ถึงสถานีไฟฟ้าบริเวณพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมกาญจนบุรี ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเห็นด้วยกับแผนงานก่อสร้างดังกล่าว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
รับความเห็นของกระทรวงกลาโหม กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงพลังงาน สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย กระทรวงคมนาคม เห็นควรให้โครงการนำมาตรการการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม
พร้อมทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และการดำเนินการก่อสร้างใด
ๆ ในเขตทางหลวงจะต้องขออนุญาตจากกรมทางหลวงตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทางเป็นสำคัญ สำนักงบประมาณ เห็นควรให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ เรื่อง ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ เรื่อง
การดำเนินโครงการใด ๆ
ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า หากมีค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการ
ให้พิจารณาใช้จ่ายจากเงินรายได้ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6 | ขออนุมัติผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงพันนาและป่าดงพระเจ้า เพื่อสร้างวัดถ้ำพวง ท้องที่ตำบลปทุมวาปี อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร | พศ. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จำนวนเนื้อที่ ๑๕ ไร่ เพื่อสร้างวัดถ้ำพวง ท้องที่ตำบลปทุมวาปี
อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปดำเนินการต่อไปอย่างเคร่งครัด เช่น กระทรวงมหาดไทย เห็นควรให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่าในการเข้าดำเนินการใดในพื้นที่ดังกล่าว
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน
แก้ไข และติดตามตรวจสอบผลกระทบที่กำหนดไว้ในรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Accounting Report : EAR) อย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7 | ขอผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อดำเนินงานขยายเขตไฟฟ้าตามแผนงานขยายเขตไฟฟ้าให้หมู่บ้านในโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดแม่ฮ่องสอน | มท. | 25/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๒
เรื่องขอผ่อนผันใช้พื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ
เพื่อก่อสร้างทางเพื่อความมั่นคง และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์
๒๕๓๘ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ ภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก
และการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนอื่น ๆ
(ลุ่มน้ำชายแดน)
ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นชอบต่อการใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
เพื่อดำเนินงานขยายเขตไฟฟ้าตามแผนงานขยายเขตไฟฟ้าให้หมู่บ้าน ในโครงการหมู่บ้านพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จังหวัดแม่ฮ่องสอน ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าการดำเนินการในพื้นที่ของกรมป่าไม้
จะต้องยื่นคำขออนุญาตใช้พื้นที่โดยเป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ เรื่อง
ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ เรื่อง
การดำเนินโครงการใด ๆ ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า
และกรณีการดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
จะต้องได้รับอนุมัติ/อนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ก่อนดำเนินการ รวมทั้งต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒
พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒
และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะต้องถือปฏิบัติตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
อย่างเคร่งครัด เนื่องจากการขยายเขตไฟฟ้าดังกล่าวดำเนินการในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวและเปราะบางทางระบบนิเวศ
รวมทั้งควรดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงาน โดยลดผลกระทบต่อระบบนิเวศให้มากที่สุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8 | ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีที่ห้ามใช้ประโยชน์ในเขตป่าที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้รักษาไว้เป็นสมบัติของชาติป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลาพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาบริเวณจุดชมวิวผาพญากูปรีท้องที่ตำบลไพรพัฒนาอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ | มท. | 11/02/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๓๑ (เรื่อง
มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำมูลและชีและข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำ)
และวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๒ (เรื่อง ขอผ่อนผันใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ เพื่อก่อสร้างทางเพื่อความมั่นคง) เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑
เอ เนื้อที่ ๑๔ ไร่ ๒ งาน
ในการดำเนินโครงการพัฒนาบริเวณจุดชมวิวผาพญากูปรี ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงคมนาคม เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งดำเนินการตามพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๙ อย่างเคร่งครัด |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9 | ขออนุมัติผ่อนผันการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ระมาด เพื่อสร้างวัดดอยภูกาล่าง ท้องที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก | พศ. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๑๔
ไร่ ๓ งาน ๒๑ ตารางวา เพื่อสร้างวัดดอยภูกาล่าง ตำบลพะวอ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงมหาดไทยไปดำเนินการต่อไปอย่างเคร่งครัด
ดังนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าจะต้องกำกับดูแลการดำเนินกิจกรรมต่าง
ๆ ให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะตามมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำ
และมาตรการที่นำเสนอไว้ในรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม (EAR) อย่างเคร่งครัด
โดยเฉพาะการอนุรักษ์ดูแลรักษาพื้นที่ป่าต้นน้ำตามวิถีพุทธ การปลูกต้นไม้ทดแทนในบริเวณที่ขออนุญาตและพื้นที่ข้างเคียงที่มีสภาพเสื่อมโทรม
และการปลูกพืชคลุมดินบริเวณที่มีความลาดชัน เป็นต้น
รวมทั้งควรมีมาตรการป้องกันการลักลอบเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าบริเวณใกล้เคียงที่ยังมีสภาพป่าไม้สมบูรณ์
และมาตรการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินตามแนวเส้นทางเข้าสู่โครงการ กระทรวงมหาดไทย เห็นควรให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ
มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10 | ขออนุมัติผ่อนผันการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูแลนคาด้านทิศเหนือ เพื่อสร้างวัดชัยภูมิพิทักษ์ (ผาเกิ้ง) ท้องที่ตำบลกุดชุมแสง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ | พศ. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ตามมติคณะรัฐนตรีที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๑๕ ไร่ เพื่อสร้างวัดชัยภูมิพิทักษ์
(ผาเกิ้ง) ตำบลกุดชุมแสง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงมหาดไทยไปดำเนินการต่อไปอย่างเคร่งครัด
ดังนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าหากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้รับอนุญาตให้เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่แล้ว
ขอให้จำกัดพื้นที่ดำเนินการตามที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
และจะต้องปฏิบัติตามมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำและมาตรการที่นำเสนอไว้ในรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11 | ขออนุมัติผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อให้กรมชลประทานดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำแม่สะป๊วด อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดลำพูน | กษ. | 29/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำแม่สะป๊วด อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จังหวัดลำพูน และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
พิจารณาทบทวนมาตรการในการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ตามความเห็นของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
และครอบคลุมถึงเรื่องการศึกษาคาร์บอนเครดิตและข้อมูลสัตว์ป่าที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ตามความเห็นของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (หนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ ทส ๐๙๐๙.๒๐๔/๒๓๕๖๘ ลงวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕) ด้วย
แล้วให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
นำเรื่องนี้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งเพื่อขออนุมัติผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ต่อไป ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอน
เป็นไปตามกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ | คค. | 15/08/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย)
ได้รับการผ่อนผันการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๒๘ (เรื่อง
ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการกำหนดชั้นของป่าต้นน้ำลำธารและการทำเหมืองแร่ในพื้นที่ป่าปิด)
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๒ (เรื่อง
ขอผ่อนผันใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ เพื่อก่อสร้างทางเพื่อความมั่นคง)
และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ [เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง
การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก
และการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนอื่น ๆ
(ลุ่มน้ำชายแดน)] เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ
สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย)
ดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการป้องกัน แก้ไข และติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม
๒๕๖๐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกป่าทดแทนจำนวนพื้นที่ ๓ เท่า
ของพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตและการติดตามตรวจสอบและดูแลบำรุงรักษาต้นไม้ที่ปลูกเป็นระยะเวลา
๑๐ ปี ต่อเนื่อง อย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(หนังสือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด่วนที่สุด ที่ ทส ๑๖๐๒.๔๒/๑๓๕๙
ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๖) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแก้ไขและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งมาตรการติดตาม ตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
ให้ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี ควรให้ความสำคัญกับการก่อสร้างทางรถไฟที่ไม่กีดขวางทางน้ำและระบบการระบายน้ำ
รวมทั้งปฏิบัติตามความเห็นและมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ที่ให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างทางรถไฟ
สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13 | ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ และเพื่อประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการทำเหมือง ตั้งอาคารสำนักงาน อู่ซ่อม โรงงานโม่และย่อยหิน โรงงานคอนกรีต พื้นที่ทำการขึ้น-ลง เพื่อทำเหมืองตามแผนผังโครงการทำเหมือง ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงรายธนะวงศ์ ที่จังหวัดเชียงราย | อก. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการขอผ่อนผันให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด
เชียงรายธนะวงศ์ ใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี
เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง
ตามคำขอต่ออายุประทานบัตรที่ ๒/๒๕๖๑ (ประทานบัตรที่ ๓๑๑๑๘/๑๕๘๒๕) เนื้อที่ ๒๘ ไร่
๒ งาน ๔๕ ตารางวา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ และวันที่ ๒๑
กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘
และขอผ่อนผันพื้นที่เพื่อประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการทำเหมืองฯ เนื้อที่ ๑๐๕
ไร่ ๑ งาน ๕๗ ตารางวา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ และวันที่ ๒๑
กุมภาพันธ์ ๒๔๓๘ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ห้างเชียงรายฯ
ขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่า เพื่อประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการทำเหมืองฯ
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้กระทรวงอุตสาหกรรม
(กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่)
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงคมนาคม เช่น ให้กระทรวงอุตสาหกรรม
โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ดำเนินการให้ครบถ้วนถูกต้องตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำอย่างเคร่งครัด
เพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี
ที่ยังไม่ผ่านการทำเหมืองและพื้นที่ใกล้เคียงก่อนการพิจารณาอนุญาตประทานบัตร
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการอย่างเคร่งครัดต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อดำเนินการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 101 สายน่าน-อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ตอน บ้านปอน-อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน | คค. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15 | ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บีเอ็ม และพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์ เพื่อทำเหมืองแร่ ของบริษัท รุ่งเรืองผลศิลา จำกัด ที่จังหวัดชัยนาท | อก. | 31/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16 | ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อทำเหมืองแร่ ของนายประสาน ยุวานนท์ ที่จังหวัดนครราชสีมา | อก. | 30/08/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้นายประสาน
ยุวานนท์ ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๕
(เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเรื่อง
การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำมูลและชี และข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำ)
วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง การอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้)
และวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ [เรื่อง
ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ ชั้นที่ ๑ บี ๑ เอเอ็ม และ๑ บีเอ็ม
เพื่อทำเหมืองแร่ ของบริษัท พีทีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ที่จังหวัดสระบุรี]
เพื่อเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ
และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๓๕ (เรื่อง
การจำแนกเขตการใช้ประโยชน์ทรัพยากรและที่ดินป่าไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ)
เพื่อเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์เพิ่มเติม
สำหรับการทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างที่จังหวัดนครราชสีมา
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) | คค. | 24/05/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย)
ได้รับการผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำ ชั้นที่ ๑ เอ เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย
(ระยะที่ ๑ ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย)
ดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ ๖/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๒
ตุลาคม ๒๕๖๓ อย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น กระทรวงคมนาคม
(การรถไฟแห่งประเทศไทย) ต้องปฏิบัติตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
และมติคณะกรรมการชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง
และปฏิบัติตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้
การดำเนินการระยะต่อไปของโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
ในการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย
หากมีความจำเป็นต้องขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำหรือการดำเนินการอื่นใดตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อให้สามารถดำเนินโครงการให้สำเร็จลุล่วงและเกิดประโยชน์ต่อการเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมทางรางของประเทศต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18 | ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อทำเหมืองแร่ของนายประสาน ยุวานนท์ ที่จังหวัดนครราชสีมา | อก. | 08/02/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมถอนเรื่อง ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ เพื่อทำเหมืองแร่ของนายประสาน ยุวานนท์ ที่จังหวัดนครราชสีมา คืนไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19 | ขอผ่อนผันการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ และขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีในการปลูกป่าทดแทนเพื่อการอนุรักษ์ หรือรักษาสภาพแวดล้อมของพื้นที่ เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาดอยตุง จังหวัดเชียงราย และโครงการร้อยใจรักษ์ จังหวัดเชียงใหม่ | กห. | 04/01/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้กระทรวงกลาโหมได้รับการผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๒ (เรื่อง ขอผ่อนผันใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ
เพื่อก่อสร้างทางเพื่อความมั่นคง) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์
๒๕๓๘ [เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง
การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก
และการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนอื่น ๆ
(ลุ่มน้ำชายแดน)] เพื่อใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ
ในการดำเนินโครงการพัฒนาดอยดุง จังหวัดเชียงราย และโครงการร้อยใจรักษ์
จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ ให้กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(หนังสือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด่วนที่สุด ที่ ทส ๐๒๒๐.๒/๑
ลงวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๕) สำนักงบประมาณ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาอาชีพให้เกิดความยั่งยืนในชุมชน
โดยมุ่งเน้นให้เกิดความสมดุลระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์ควบคู่กันไป
หากมีความจำเป็นที่จะดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่
กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานต่าง ๆ ภายใต้โครงการจะต้องปฏิบัติตามข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำ
เช่น การบำรุงรักษาป่าธรรมชาติ
การปลูกป่าทดแทนในพื้นที่รกร้างว่างเปล่าป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าอย่างเข้มงวด
และบริเวณที่ราษฎรดั้งเดิมให้จัดที่ทำกินให้เป็นการถาวร เพื่อมิให้มีการโยกย้ายและทำลายป่าขยายขอบเขตออกไปอีก
เป็นต้น ตลอดจนควรมีแผนการติดตามประเมินผลการดำเนินการตามมาตรการและข้อเสนอแนะต่าง
ๆ พร้อมทั้งแผนการบำรุงรักษาและแผนการสร้างจิตสำนึกของชุมชนในพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
และให้กองทัพบก กระทรวงกลาโหม ควรประสานการดำเนินงานร่วมกับกรมชลประทาน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับชุมชนในพื้นที่โครงการต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. สำหรับการขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๙ มกราคม ๒๕๕๖ (เรื่อง การดำเนินโครงการใด ๆ ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า)
เกี่ยวกับการปลูกป่าทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อมของพื้นที่ นั้น
ให้กระทรวงกลาโหม (กองทัพบก)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปหารือร่วมกับคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติให้ชัดเจน
แล้วดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
เงื่อนไข และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20 | ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ 1 บี และ 1 บีเอ็ม เพื่อทำเหมืองแร่ และเพื่อใช้ประโยชน์ในการสร้างเส้นทางลำเลียงแร่ ทางตรวจการ พื้นที่รักษาความปลอดภัย และโครงการปลูกต้นไม้เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ระหว่างแปลงประทานบัตร ของบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ที่จังหวัดสระบุรี | อก. | 07/12/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบตามที่อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ชี้แจงว่า พื้นที่ทั้งหมดที่เสนอขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ๑ บี และ ๑ บีเอ็ม เพื่อทำเหมืองแร่
รวมถึงพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ในการสร้างเส้นทางลำเลียงแร่ ทางตรวจการ
พื้นที่รักษาความปลอดภัย
และโครงการปลูกต้นไม้เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ระหว่างแปลงประทานบัตรที่ ๒๗๘๗๔/๑๔๗๖๖
และที่ ๒๗๘๙๓/๑๕๐๓๑ เนื้อที่ ๑๔๐ ไร่ ๒ งาน ๗๑ ตารางวา ของบริษัท ที่พีไอ โพลีน
จำกัด (มหาชน) ที่จังหวัดสระบุรี ในครั้งนี้
เป็นพื้นที่เดิมที่เคยได้รับการผ่อนผันให้ใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ ๑
บี และ ๑ บีเอ็ม มาก่อนแล้ว สำหรับการดำเนินคดีอาญากับบริษัทฯ นั้น
พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องทุกคดีและคดีถึงที่สุดแล้ว
ส่วนคดีแพ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล
ซึ่งหากผู้ประทานบัตรกระทำผิดก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ทางราชการ ๒.
อนุมัติการขอผ่อนผันให้บริษัทฯ ใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ ๑ บี และ ๑
บีเอ็ม
เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนและหินดินดานเพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์
ตามคำขอประทานบัตรที่ ๓-๗/๒๕๕๖ และที่ ๙-๑๑/๒๕๕๖
ซึ่งร่วมแผนผังโครงการทำเหมืองเดียวกัน และตามคำขอที่ ๒๗๓๔๐/๑๔๓๙๐ ๒๗๓๔๑/๑๔๓๙๑
และที่ ๒๗๓๔๘/๑๔๓๙๒ ของผู้ขอเอง และเพื่อใช้ประโยชน์ในการสร้างเส้นทางลำเลียงแร่ ทางตรวจการ พื้นที่รักษาความปลอดภัย
และโครงการปลูกต้นไม้เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ระหว่างแปลงประทานบัตร ตามคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าตามมาตรา ๕๔
แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ ตามมติคณะรัฐมนตรี (วันที่ ๑๕
พฤษภาคม ๒๕๓๓ วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ และวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔)
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมกำกับการประกอบกิจการของผู้รับประทานบัตรให้เป็นไปตามกฎหมาย
กฎ ระเบียบ และเงื่อนไขต่าง ๆ โดยเคร่งครัด รวมทั้งติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับบริษัทฯ
และกำกับดูแลให้บริษัทฯ ดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลให้ถูกต้องครบถ้วนต่อไป
ทั้งนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงคมนาคม
เช่น สมควรผ่อนผันให้บริษัทฯ ใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ ๑ บี และ ๑
บีเอ็ม เพื่อทำเหมืองแร่เฉพาะในพื้นที่ตามประทานบัตรเดิม ตามคำขอประทานบัตรที่
๓-๗/๒๕๕๖ และที่ ๙-๑๑/๒๕๕๖ คำขอที่ ๑๒-๑๗/๒๕๕๖ จำนวน ๑๔ แปลง (๓,๖๖๙ ไร่) เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |