ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 4 จากทั้งหมด 8 หน้า แสดงรายการที่ 61 - 80 จากข้อมูลทั้งหมด 144 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
61 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ ของนายกฤษณ์ เชาว์บวร ที่จังหวัดพัทลุง | อก | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมชี้แจงเพิ่มเติมว่า ผู้ยื่นขอต่ออายุประทานบัตรได้รับอนุญาตประทานบัตรมีอายุ ๑๐ ปี ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๓ ถึงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ ประทานบัตรหมดอายุเมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ และได้ยื่นคำขอต่ออายุประทานบัตรในพื้นที่ประทานบัตรเดิมต่อไปอีก ๑๐ ปี ซึ่งได้ยื่นคำขอภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และกระทรวงอุตสาหกรรมได้เคยเสนอเรื่องดังกล่าวมาเพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา แต่ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีหลายครั้ง รวมทั้งมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร จึงทำให้เรื่องดังกล่าวมีความล่าช้า ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเวลาที่ประทานบัตรหมดอายุตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ จนถึงปัจจุบัน พบว่าไม่มีการทำเหมืองแร่แต่อย่างใด ๒. อนุมัติการขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ของนายกฤษณ์ เชาว์บวร ที่จังหวัดพัทลุง ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๘ (เรื่อง ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ ๑ บี ๑ เอเอ็ม และ ๑ บีเอ็ม เพื่อทำเหมืองแร่ของบริษัท เคมีแมน จำกัด ที่จังหวัดสระบุรี) ที่ให้กระทรวงอุตสาหกรรมต้องมีมาตรการที่เคร่งครัดในการติดตามให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ๓. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการเข้าดำเนินการในพื้นที่โครงการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างของนายกฤษณ์ เชาว์บวร ที่จังหวัดพัทลุง จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการใช้ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ (เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคใต้ และข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำ และกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้โดยเคร่งครัด) รวมทั้งเห็นควรให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการประเมินภาพรวมการให้อนุญาตหรือต่ออายุสัมปทานทำเหมืองแร่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ ทั้งหมด และมีการประเมินคุณค่าและศักยภาพของพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้การตัดสินใจมีความเหมาะสมกับสภาพปัญหาและความต้องการของประเทศมากยิ่งขึ้น และให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งผลักดันนโยบายเหมืองแร่สีเขียวให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว พร้อมทั้งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางส่งเสริมให้เกิดการปรับปรุงเทคโนโลยีการทำเหมืองหินอุตสาหกรรมของสถานประกอบการอย่างต่อเนื่อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
62 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ของบริษัท ศิลาอุตสาหกรรม จำกัด ที่จังหวัดยะลา | อก | 26/05/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ และเพื่อการจัดตั้งสถานที่เพื่อการเก็บขังน้ำขุ่นข้นหรือมูลดินทรายนอกเขตเหมืองแร่ ของบริษัท ศิลาอุตสาหกรรม จำกัด ตามคำขอต่ออายุประทานบัตรที่ ๑/๒๕๕๓ และคำขอใบอนุญาตจัดตั้งสถานที่เพื่อการเก็บขังน้ำขุ่นข้นหรือมูลดินทรายนอกเขตเหมืองแร่ที่ ๒/๒๕๕๓ ที่จังหวัดยะลา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ (เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่องการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคใต้ และข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำ) และวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง การอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้) ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องมีมาตรการที่เคร่งครัดในการติดตามให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๘ (เรื่อง ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ ๑ บี ๑ เอเอ็ม และ ๑ บีเอ็ม เพื่อทำเหมืองแร่ ของบริษัท เคมีแมน จำกัด ที่จังหวัดสระบุรี) ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการประเมินภาพรวมการให้อนุญาตหรือต่ออายุสัมปทานทำเหมืองแร่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ ทั้งหมด และมีการประเมินคุณค่าและศักยภาพของพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งผลักดันนโยบายเหมืองแร่สีเขียวให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว พร้อมทั้งร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางส่งเสริมให้เกิดการปรับปรุงเทคโนโลยีการทำเหมืองหินอุตสาหกรรมของสถานประกอบอย่างต่อเนื่องด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
63 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ 1 บี 1 เอเอ็ม และ 1 บีเอ็ม เพื่อทำเหมืองแร่ของบริษัท เคมีแมน จำกัด ที่จังหวัดสระบุรี | อก | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ ๑ บี ๑ เอเอ็ม และ ๑ บีเอ็ม เพื่อทำเหมืองแร่ของบริษัท เคมีแมน จำกัด ที่จังหวัดสระบุรี ตามคำขอประทานบัตรที่ ๑๙/๒๕๕๒ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ และวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องมีมาตรการที่เคร่งครัดในการติดตามให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่เห็นควรนำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และการกำหนดมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบการดำเนินการทำเหมืองแร่ในพื้นที่ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันผลกระทบทางลบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ไปดำเนินการให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
64 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อก่อสร้างโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกจากชายแดนไทย - สหภาพพม่า มายังสถานีควบคุมก๊าซที่ BVW01 | พน | 27/08/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบผ่อนผันการใช้พื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ ระยะทางโดยประมาณ ๒๘๗ เมตร เพื่อดำเนินการโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกจากชายแดนไทย-สหภาพพม่า มายังสถานีควบคุมก๊าซที่ BVW01 ในพื้นที่หมู่ ๑ บ้านอีต่อง ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ทั้งนี้ ให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (บมจ. ปตท.) ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ ตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติโดยเคร่งครัด ตามความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการดำเนินโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติในอนาคตของ บมจ. ปตท. ควรหลีกเลี่ยงการใช้พื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ หรือพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ หรือพื้นที่ที่มีความสำคัญทางทรัพยากรธรรมชาติ โดยศึกษาทางเลือกอื่นในการดำเนินโครงการ เพื่อลดผลกระทบต่อทรัพยากรที่อาจไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมหรือทดแทนได้ การให้ความสำคัญต่อการดำเนินการตามกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมของเมียนมาร์ เพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากการดำเนินโครงการในเมียนมาร์ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของไทย และป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนและภาคประชาสังคมที่มีต่อการลงทุนและการเข้าไปพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติของไทยในเมียนมาร์ที่อาจส่งผลต่อการดำเนินความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับระบบตรวจสอบผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมต่อชุมชน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมของการดำเนินโครงการ ทั้งในระยะก่อสร้าง และระยะดำเนินการ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
65 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เจริญผลการศิลา ที่จังหวัดชุมพร | อก | 25/06/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ (เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคใต้ และข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำ) และวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง การอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้) เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เจริญผลการศิลา ตามคำขอที่ ๒/๒๕๕๑ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาดำเนินการตามระเบียบ/ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ และปฏิบัติตามข้อเสนอแนะมาตรการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำภาคใต้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ อย่างเคร่งครัด รวมทั้งนำมาตรการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างของห้างหุ้นส่วนจำกัด เจริญผลการศิลา คำขอต่ออายุประทานบัตรที่ ๒/๒๕๕๑ ไปกำหนดเป็นเงื่อนไขในการให้ต่ออายุประทานบัตรเหมืองแร่ พร้อมทั้งเห็นควรให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมติดตามตรวจสอบและควบคุมการนำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ไปปฏิบัติ และการดำเนินงานของกองทุนฯ รวมทั้งการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมือง ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน โดยให้ชุมชน โรงเรียน วัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีส่วนร่วมในการติดตามตรวจสอบและบริหารจัดการกองทุนฯ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
66 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิลาทองวิเชียร ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ | อก | 18/06/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง การอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้) และวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ [เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก และการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนอื่น ๆ (ลุ่มน้ำชายแดน)] เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิลาทองวิเชียร ตามคำขอที่ ๑/๒๕๕๑ (ประทานบัตรที่ ๒๕๖๑๕/๑๕๔๑๑) ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เห็นว่า กระทรวงอุตสาหกรรมควรพิจารณาดำเนินการตามระเบียบ/ข้อกฎหมายด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ หลังจากได้รับการต่ออายุประทานบัตรแล้ว ให้ผู้ถือประทานบัตรดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และจะต้องปฏิบัติตามข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ โดยเคร่งครัด รวมทั้งควรนำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เสนอไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปกำหนดเป็นเงื่อนไขในการต่ออายุประทานบัตร ทั้งนี้ ก่อนการอนุญาตสัมปทาน ให้กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้แทนชุมชนในพื้นที่ดังกล่าวตรวจสอบการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมือง ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน และเนื่องจากการทำเหมืองหินเป็นกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ทั้งมลพิษทางเสียง มลพิษทางอากาศ ฝุ่นละออง และแรงสั่นสะเทือน จึงเห็นควรให้เพิ่มวงเงินกองทุนฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของพื้นที่ทำเหมืองและกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพและการพัฒนาชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง โดยกำหนดอัตราส่วนที่เหมาะสมกับผลประโยชน์ตอบแทนทางเศรษฐกิจที่ได้รับ รวมทั้งให้ชุมชน โรงเรียน วัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีส่วนในการบริหารจัดการกองทุนนี้ร่วมกัน และเห็นควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ตั้งโครงการและพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งอาจได้รับผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมติดตาม และตรวจสอบเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและมลพิษตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับการถ่ายโอนมา ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
67 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ของห้างหุ้นส่วนจำกัด พลัดแอกอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ที่จังหวัดสระบุรี | อก | 18/06/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง การอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้) และวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ [เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก และการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนอื่น ๆ (ลุ่มน้ำชายแดน)] เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของห้างหุ้นส่วนจำกัด พลัดแอกอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ตามคำขอที่ ๑/๒๕๕๑ (ประทานบัตรที่ ๒๘๖๐๘/๑๕๓๖๐) ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เห็นว่า กระทรวงอุตสาหกรรมควรพิจารณาดำเนินการตามระเบียบ/ข้อกฎหมายด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ หลังจากได้รับการต่ออายุประทานบัตรแล้ว ให้ผู้ถือประทานบัตรดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และจะต้องปฏิบัติตามข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ โดยเคร่งครัด รวมทั้งควรนำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เสนอไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปกำหนดเป็นเงื่อนไขในการต่ออายุประทานบัตร ทั้งนี้ ก่อนการอนุญาตสัมปทาน ให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตรวจสอบการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมือง ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน และเนื่องจากการทำเหมืองหินเป็นกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ทั้งมลพิษทางเสียง มลพิษทางอากาศ ฝุ่นละออง และแรงสั่นสะเทือน จึงเห็นควรให้เพิ่มวงเงินกองทุนฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของพื้นที่ทำเหมืองและกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพและการพัฒนาชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง โดยกำหนดอัตราส่วนที่เหมาะสมกับผลประโยชน์ตอบแทนทางเศรษฐกิจที่ได้รับ รวมทั้งให้ชุมชน โรงเรียน วัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีส่วนในการบริหารจัดการกองทุนนี้ร่วมกัน และเห็นควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ตั้งโครงการและพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งอาจได้รับผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมติดตาม และตรวจสอบเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและมลพิษตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับการถ่ายโอนมา ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
68 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ของนายมนู เลขะกุล ที่จังหวัดยะลา | อก | 18/06/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ (เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคใต้ และข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำ) และวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง การอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้) เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของนายมนู เลขะกุล ตามคำขอที่ ๑/๒๕๔๘ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่ากระทรวงอุตสาหกรรมควรพิจารณาดำเนินการตามระเบียบ/ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ หลังจากได้รับประทานบัตรแล้ว ให้ผู้ถือประทานบัตรดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัดต่อไป และจะต้องปฏิบัติตามข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำภาคใต้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ โดยเคร่งครัด และเห็นควรให้กระทรวงอุตสาหกรรมนำมาตรการสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมดังกล่าวไปกำหนดเป็นเงื่อนไขในการให้ต่ออายุประทานบัตรเหมืองแร่ด้วย รวมทั้งเห็นว่าในการใช้พื้นที่เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ฯ ควรให้กระทำได้ในเขตพื้นที่ประทานบัตรเดิมตามแนวเขตเส้นชั้นระดับความสูง (Contour Line) ของเขายะลาที่ชั้นความสูง ๒๐๐ เมตรจากระดับน้ำทะเล และเห็นควรให้กระทรวงอุตสาหกรรมนำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม และแผนการฟื้นฟูสภาพพื้นที่การทำเหมือง รวมทั้งแผนการใช้วัตถุระเบิดในการทำเหมือง ข้อตกลงเกี่ยวกับการจ่ายเงินเข้ากองทุนและปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมศิลปากรไปกำหนดเป็นเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ และติดตามกำกับดูแลการดำเนินการในพื้นที่ขอประทานบัตรให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ และให้ผู้ถือประทานบัตรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ก่อนการอนุญาตสัมปทานเห็นควรให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้แทนชุมชนในพื้นที่ดังกล่าว ตรวจสอบการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมือง ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
69 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บีเอ็ม เพื่อทำเหมืองแร่ของบริษัท หินอ่อน จำกัด ที่จังหวัดสระบุรี | อก | 18/06/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บีเอ็ม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง การอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้) และวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ [เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก และการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนอื่น ๆ (ลุ่มน้ำชายแดน)] เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของบริษัท หินอ่อน จำกัด ตามคำขอที่ ๕/๒๕๔๖ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เห็นว่ากระทรวงอุตสาหกรรมควรพิจารณาดำเนินการตามระเบียบ/ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ หลังจากได้รับประทานบัตรแล้วให้ผู้ถือประทานบัตรดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และจะต้องปฏิบัติตามข้อเสนอแนะมาตรการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ โดยเคร่งครัด รวมทั้งควรนำมาตรการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปกำหนดเป็นเงื่อนไขในการอนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ด้วย ทั้งนี้ ก่อนการอนุญาตสัมปทาน ให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้แทนชุมชนในพื้นที่ดังกล่าว ตรวจสอบการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมือง ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน และเนื่องจากการทำเหมืองหินเป็นกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ทั้งมลพิษทางเสียง มลพิษทางอากาศ ฝุ่นละออง แรงสั่นสะเทือน จึงเห็นควรให้เพิ่มวงเงินกองทุนฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของพื้นที่ทำเหมืองและกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพและการพัฒนาชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง โดยกำหนดอัตราส่วนให้เหมาะสมกับผลประโยชน์ตอบแทนทางเศรษฐกิจที่ได้รับ รวมทั้งให้ชุมชน โรงเรียน วัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการกองทุนนี้ร่วมกัน และเห็นควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ตั้งโครงการและพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งอาจได้รับผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมติดตาม และตรวจสอบเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและมลพิษตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับการถ่ายโอนมา ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
70 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บีเอ็ม เพื่อทำเหมืองแร่ของบริษัท หินอ่อน จำกัด ที่จังหวัดสระบุรี (เพื่อทำปูนขาว) | อก | 18/06/2556 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บีเอ็ม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง การอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้) และวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ [เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก และการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนอื่น ๆ (ลุ่มน้ำชายแดน)] เพื่อทำเหมืองแร่หินอ่อนและหินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่อทำปูนขาว) ของบริษัท หินอ่อน จำกัด ตามคำขอที่ ๑/๒๕๔๙ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เห็นว่ากระทรวงอุตสาหกรรมควรพิจารณาดำเนินการตามระเบียบ/ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ หลังจากได้รับประทานบัตรแล้วให้ผู้ถือประทานบัตรดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และจะต้องปฏิบัติตามข้อเสนอแนะมาตรการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำภาคตะวันตก ภาคกลาง และลุ่มน้ำป่าสัก ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ โดยเคร่งครัด รวมทั้งควรนำมาตรการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปกำหนดเป็นเงื่อนไขในการอนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ด้วย ทั้งนี้ ก่อนการอนุญาตสัมปทาน ให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้แทนชุมชนในพื้นที่ดังกล่าว ตรวจสอบการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมือง ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน และเนื่องจากการทำเหมืองหินเป็นกิจกรรมที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ทั้งมลพิษทางเสียง มลพิษทางอากาศ ฝุ่นละออง แรงสั่นสะเทือน จึงเห็นควรให้เพิ่มวงเงินกองทุนฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของพื้นที่ทำเหมืองและกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพและการพัฒนาชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง โดยกำหนดอัตราส่วนให้เหมาะสมกับผลประโยชน์ตอบแทนทางเศรษฐกิจที่ได้รับ รวมทั้งให้ชุมชน โรงเรียน วัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการกองทุนนี้ร่วมกัน และเพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ตั้งโครงการควรให้ผู้ที่ได้รับสัมปทานบัตรดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ตามรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการ และพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามามีส่วนร่วมติดตาม และตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัท หินอ่อน จำกัด อย่างต่อเนื่องตามอำนาจหน้าที่ที่ได้รับการถ่ายโอนจากส่วนราชการ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
71 | ขออนุมัติดำเนินการโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ และขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีในการเข้าใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 | กษ | 26/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) เริ่มดำเนินการโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยสาระสำคัญของโครงการฯ ประกอบด้วย แผนการดำเนินงานโครงการฯ ระยะ ๖ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๖๐) กรอบวงเงินลงทุนทั้งสิ้น ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท โดยให้กรมชลประทานดำเนินการเตรียมความพร้อมโครงการด้านการจัดหาที่ดินและก่อสร้างส่วนประกอบอื่นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ๑.๒ ผ่อนผันให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) สามารถใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ ในการดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ ได้ ๑.๓ ให้กรมชลประทาน สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการตามแผนปฏิบัติการป้องกันแก้ไขและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ๑.๔ ให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานโครงการฯ ให้เป็นไปตามเป้าหมายและระยะเวลาที่กำหนด ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้องตามข้อกฎหมายและระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่เห็นควรชี้แจงทำความเข้าใจกับราษฎรในลุ่มน้ำแม่แตงซึ่งเป็นลำน้ำที่ถูกใช้ในการผันน้ำ และดำเนินงานร่วมกับราษฎรในพื้นที่ในการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกัน แก้ไขและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัดตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เพื่อลดความขัดแย้ง สร้างความเชื่อมั่นต่อราษฎรในพื้นที่ และเป็นตัวอย่างที่ดีในการพัฒนาแหล่งน้ำที่คำนึงถึงระบบนิเวศต่อไป นอกจากนี้ เห็นควรพิจารณาความเหมาะสมของโครงการฯ ทั้งในแง่ของขนาดการลงทุนที่เหมาะสม (economy of scale) และลำดับความสำคัญในการพัฒนาระบบชลประทานในภาพรวม ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. งบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการ ฯ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอขอตั้งงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
72 | ขออนุมัติดำเนินการโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุตรดิตถ์ และขออนุมัติผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีในการขอใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ | กษ | 20/04/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้กรมชลประทานดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุตรดิตถ์ ภายใต้แผนการดำเนินงานโครงการ ๘ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๖๑) กรอบวงเงินของโครงการรวมทั้งสิ้น ๔,๘๐๐ ล้านบาท ๑.๒ ผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๓๒ กรณีการขอเข้าใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ เพื่อให้กรมชลประทานสามารถเข้าใช้พื้นที่สำหรับการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดอุตรดิตถ์ ๑.๓ ให้กรมชลประทาน สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการตามมาตรการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ๑.๔ ให้สำนักงบประมาณรับไปพิจารณาจัดหางบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมายและระยะเวลาที่กำหนด ๒. งบประมาณเพื่อการดำเนินโครงการฯ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) เสนอขอตั้งงบประมาณตามขั้นตอน ตามความจำเป็นและเหมาะสมในแต่ละปีงบประมาณต่อไป และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของรองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งความเห็นของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่เห็นควรมีมาตรการลดผลกระทบจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีให้เหมาะสมตามสภาพความเป็นจริงและเป็นธรรมต่อผู้ได้รับผลกระทบ ส่วนค่าชดเชยที่ดินและทรัพย์สินสำหรับราษฎรที่เข้าไปทำกินในบริเวณหัวงานและอ่างเก็บน้ำที่ต้องอพยพจากพื้นที่ ให้เร่งดำเนินการพิสูจน์สิทธิ์เพื่อป้องกันการอ้างสิทธิโดยไม่ได้มีการครอบครองที่ดินและทรัพย์สินอย่างแท้จริง และให้มีการจัดทำข้อตกลงเรื่องค่าชดเชยให้ชัดเจนเพื่อป้องกันการเรียกร้องค่าชดเชยเพิ่มในภายหลัง รวมทั้งดำเนินการตามแผนป้องกันและแก้ไขผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
73 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ของนายนิคม สังฆรักษ์ (นายนิธิรักษ์ สังฆรักษ์ ผู้สืบสันดานของนายนิคม สังฆรักษ์) ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช | อก | 22/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ (เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคใต้ และข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำ) และวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง การอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้) เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของนายนิคม สังฆรักษ์ (นายนิธิรักษ์ สังฆรักษ์ ผู้สืบสันดานของนายนิคม สังฆรักษ์) ตามคำขอที่ ๖/๒๕๔๘ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นควรให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาคุณภาพน้ำอย่างเคร่งครัด เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพน้ำท่าในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ที่ทำเหมืองแร่ รวมทั้งกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ เป็นเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตประทานบัตรและกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวโดยเคร่งครัด และข้อสังเกตของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เจ้าของพื้นที่หรือนอกเขตพื้นที่ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมหรือสุขอนามัยของประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในขั้นตอนหรือกระบวนการตรวจสอบ กำกับดูแลเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมจากการที่ผู้ขอประทานบัตรรายงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และในการทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมในพื้นที่ดังกล่าวจะต้องแจ้งให้ อปท. เจ้าของพื้นที่หรือนอกเขตพื้นที่ซึ่งอาจมีผลกระทบได้ทราบว่ามีกองทุนสุขภาพอนามัยในช่วงการทำเหมืองหินอุตสาหกรรมเพื่อประกันความเสี่ยงสุขภาพของประชาชนในพื้นที่หรือบริเวณใกล้เคียงและแสดงผลการดำเนินงานกองทุนให้ อปท. ทราบ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
74 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ของห้างหุ้นส่วนจำกัด วังศิลา ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช | อก | 22/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ (เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำภาคใต้ และข้อเสนอแนะมาตรการการใช้ที่ดินในเขตลุ่มน้ำ) และวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง การอนุญาตให้เข้าทำประโยขน์ในพื้นที่ป่าไม้) เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของห้างหุ้นส่วนจำกัด วังศิลา ตามคำขอที่ ๗/๒๕๔๘ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตาสหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นควรให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาคุณภาพน้ำอย่างเคร่งครัด เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพน้ำท่าในบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ที่ทำเหมืองแร่ รวมทั้งกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ เป็นเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตประทานบัตรและกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวโดยเคร่งครัด และข้อสังเกตของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เจ้าของพื้นที่หรือนอกเขตพื้นที่ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมหรือสุขอนามัยของประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในขั้นตอนหรือกระบวนการตรวจสอบ กำกับดูแลเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมจากการที่ผู้ขอประทานบัตรรายงานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และในการทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมในพื้นที่ดังกล่าวจะต้องแจ้งให้ อปท. เจ้าของพื้นที่หรือนอกเขตพื้นที่ซึ่งอาจมีผลกระทบได้ทราบว่ามีกองทุนสุขภาพอนามัยในช่วงการทำเหมืองหินอุตสาหกรรมเพื่อประกันความเสี่ยงสุขภาพของประชาชนในพื้นที่หรือบริเวณใกล้เคียงและแสดงผลการดำเนินงานกองทุนให้ อปท. ทราบ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
75 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บีเอ็ม เพื่อทำเหมืองแร่ของบริษัท หินอ่อน จำกัด ที่จังหวัดสระบุรี | อก | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนเรื่อง ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บีเอ็ม เพื่อทำเหมืองแร่ของบริษัท หินอ่อน จำกัด ที่จังหวัดสระบุรี คืนไปได้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
76 | ขออนุมัติใช้ประโยชน์ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และขอกันเขตพื้นที่ออกจากพื้นที่ป่า เพื่อการอนุรักษ์ เพื่อการทำเหมืองหินอุตสาหกรรม | อก | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้ใช้ประโยชน์ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ เพื่อการทำเหมืองหินอุตสาหกรรมบริเวณเขาหนองโอ่ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี โดยให้ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๒๘ (เรื่อง ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการกำหนดชั้นของป่าต้นน้ำลำธารและการทำเหมืองในพื้นที่ป่าปิด) เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ทั้งนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับไปดำเนินการให้ผู้ได้รับอนุญาตประทานบัตรจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาตามขั้นตอนก่อนดำเนินการต่อไป โดยให้รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่เห็นควรจัดให้มีกระบวนการรับฟังความเห็นของราษฎรในพื้นที่ และความเห็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมีมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ เห็นควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเจ้าของพื้นที่หรือนอกเขตพื้นที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในขั้นตอนหรือกระบวนการพิจารณาเพื่อประโยชน์ในการบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ กำหนดไว้ และเป็นสื่อกลางในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการใช้ประโยชน์ในพื้นที่กับประชาชน รวมทั้งปฏิบัติตามเงื่อนไขและมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และให้มีกองทุนสุขภาพอนามัยในช่วงการทำเหมืองหินอุตสาหกรรมเพื่อประกันความเสี่ยงสุขภาพของพนักงานและราษฎรบริเวณใกล้เคียง ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย ๒. กรณีการขออนุมัติใช้ประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี ๑ บีอาร์ บริเวณเขาคลองโกน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมรับไปพิจารณาทบทวนและตรวจสอบข้อมูลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมศิลปากร อีกครั้งหนึ่ง ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
77 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด พีรพลศิลา ที่จังหวัดยะลา | อก | 18/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของห้างหุ้นส่วนจำกัด พีรพลศิลา ที่จังหวัดยะลา ตามคำขอที่ ๑/๒๕๔๗ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ และวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการตามความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประธานกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เกี่ยวกับการนำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างของห้างหุ้นส่วนจำกัด พีรพลศิลา คำขอต่ออายุประทานบัตรที่ ๑/๒๕๔๗ (ประทานบัตรที่ ๑๒๓๓๗/๑๕๒๗๒) ร่วมแผนผังโครงการทำเหมืองเดียวกันกับคำขอต่ออายุประทานบัตรที่ ๓/๒๕๕๒ (ประทานบัตรที่ ๓๑๕๓๐/๑๕๒๓๖) ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนบดีศิลา ตั้งอยู่ที่ตำบลลิดล อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านโครงการเหมืองแร่ ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้วไว้ ในการประชุมครั้งที่ ๑๒/๒๕๕๒ ไปกำหนดเป็นเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตต่ออายุประทานบัตรเหมืองแร่ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
78 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีพุธศิลาทอง ที่จังหวัดตรัง | อก | 18/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีพุธศิลาทอง ตามคำขอที่ ๒/๒๕๔๙ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ และวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการตามความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการระมัดระวังในเรื่องผลกระทบต่อคุณภาพน้ำ โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด เนื่องจากพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี จัดเป็นป่าต้นน้ำ และให้ความสำคัญกับผลกระทบในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดแก่ราษฎร หรือชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ทำเหมืองแร่ เส้นทางขนส่งแร่ โดยเฉพาะผลกระทบต่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ มลภาวะจากฝุ่นละออง มลภาวะจากเสียง โดยให้ผู้รับอนุญาตทำเหมืองแร่ปฏับัติตามเงื่อนไขในการอนุญาต รวมทั้งมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัดด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
79 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บีเอ็ม และพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์ เพื่อทำเหมืองแร่ ของนายรังสรรค์ ตันตระกูล ที่จังหวัดชัยนาท | อก | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บีเอ็ม และพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์ เพื่อทำเหมืองแร่หินอ่อนและหินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของนายรังสรรค์ ตันตระกูล ตามคำขอที่ ๒/๒๕๔๘ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ วันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๓๕ และวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประธานกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เห็นควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด รวมทั้งวางแนวทางการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อประกอบการให้สัมปทานบัตรในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไปดำเนินการ รวมทั้งให้รับข้อสังเกตของรองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ที่ว่า ถ้าไม่มีเหตุผลความจำเป็นพิเศษก็ไม่ควรให้มีการดำเนินการใด ๆ ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ เอ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
80 | ขอผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนบดีศิลา ที่จังหวัดยะลา | อก | 12/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
๑. อนุมัติผ่อนผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี เพื่อต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนบดีศิลา ตามคำขอที่ ๓/๒๕๔๗ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ และวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประธานกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เห็นว่า พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี จัดเป็นป่าต้นน้ำในการดำเนินการจึงต้องระมัดระวังในเรื่องผลกระทบคุณภาพน้ำ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ส่วนขั้นตอนในการอนุมัติประทานบัตร เห็นควรให้นำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างของห้างหุ้นส่วนจำกัด พีรพลศิลา คำขอต่ออายุประทานบัตรที่ ๑/๒๕๔๗ (ประทานบัตรที่ ๑๒๓๓๗/๑๕๒๗๒) ร่วมแผนผังโครงการทำเหมืองเดียวกันกับคำขอต่ออายุประทานบัตรที่ ๓/๒๕๔๗ (ประทานบัตรที่ ๓๑๕๓๐/๑๕๒๓๖) ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนบดีศิลา ตั้งอยู่ที่ตำบลลิดล อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ไปกำหนดเป็นเงื่อนไขแนบท้ายประทานบัตรเหมืองแร่ด้วย และเห็นควรวางแนวทางการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อประกอบในการให้สัมปทานบัตรในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต่อไป ไปดำเนินการด้วย |