ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 10 จากทั้งหมด 66 หน้า แสดงรายการที่ 181 - 200 จากข้อมูลทั้งหมด 1313 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
181 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติ และธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร01 | 11/07/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติ และธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติ และธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๒๙ เกี่ยวกับการชักและการประดับธงชาติในโอกาสหรือวันพิธีสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
182 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร11 | 27/06/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (กพย.) โดยเพิ่มปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นกรรมการใน กพย. ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ขอเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของ กพย. ภายใต้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน พ.ศ. ๒๕๕๖ ในข้อ ๙ โดยเพิ่มข้อย่อย ดังนี้ “(๑๒) กำหนดแนวทางและดำเนินการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment : SEA) ตลอดจนกำกับและผลักดันหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำแผนพัฒนาต่าง ๆ ของประเทศไทย ให้ทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ เพื่อประกอบการกำหนดหรือจัดทำแผน ให้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ” ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
183 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ พ.ศ. .... | ทส | 27/06/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ (คปช.) เพื่อทำหน้าที่กำหนดและขับเคลื่อนนโยบายของประเทศเกี่ยวกับการป่าไม้ทั้งระบบให้มีเอกภาพ ทันต่อสถานการณ์ และเกิดดุลยภาพสอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งกำหนดให้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติเป็นหน่วยราชการภายในกรมป่าไม้ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้กรมป่าไม้เป็นผู้รับผิดชอบในงานธุรการและงานวิชาการของ คปช. และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อาทิ ควรกำหนดอำนาจหน้าที่ของ คปช. ให้มีความชัดเจนโดยไม่ซ้ำซ้อนกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการอื่น และมีกรอบการทำงานร่วมกันระหว่าง คปช. และคณะกรรมการอื่นตามกฎหมายเฉพาะที่มีอยู่ปัจจุบัน เพื่อให้เกิดการบูรณาการและได้มาซึ่งข้อมูลด้านการบริหารจัดการที่ดิน ทรัพยากรดิน และป่าไม้ ของประเทศครบถ้วนในทุกมิติ ในส่วนของการดำเนินงานควรประสานท่าทีและบูรณาการยุทธศาสตร์กับคณะกรรมการอนุรักษ์การใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ เพื่อให้นโยบายภาพรวมของประเทศมีความสอดคล้องกับการดำเนินงานตามพันธกรณีของประเทศไทยภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ และส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และเป้าหมายไอจิด้านความหลากหลายทางชีวภาพ นอกจากนี้ องค์ประกอบของ คปช. ในส่วนของผู้แทนเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านควรจะกำหนดเงื่อนไขที่เปิดกว้างให้ครอบคลุมตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางด้านทรัพยากรธรรมชาติทุกกลุ่ม รวมถึงองค์กรพัฒนาเอกชน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ส่วนการขอจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปดำเนินการตามแนวทางการขอจัดตั้งหน่วยงานของรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๐ (เรื่อง การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ) ต่อไป ๔. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นตามร่างระเบียบในเรื่องนี้ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายสำหรับเบี้ยประชุม ค่าตอบแทน รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของ คปช. คณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน เห็นควรให้กรมป่าไม้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ในโอกาสแรกก่อน ส่วนปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณโดยคำนึงถึงการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
184 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารงานของหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร12 | 20/06/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารรงานของหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขผู้รับผิดชอบระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารงานของหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ พ.ศ. ๒๕๕๐ จากคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ เป็นคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
185 | ร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการจดทะเบียนสถาบันชาวไร่อ้อย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก | 20/06/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการจดทะเบียนสถาบันชาวไร่อ้อย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสถาบันชาวไร่อ้อยตามข้อ ๘ (๓) และ (๔) ของระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการจดทะเบียนสถาบันชาวไร่อ้อย ฉบับที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งได้กำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอจดทะเบียนเป็นสถาบันชาวไร่อ้อยจะต้องมีสมาชิกเป็นชาวไร่อ้อยไม่น้อยกว่า ๖๐๐ คน และมีปริมาณอ้อยของสมาชิกที่ส่งให้แก่โรงงานใดโรงงานหนึ่งรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ ๕๕ ของปริมาณอ้อยที่โรงงานนั้นหีบทั้งหมดในแต่ละฤดูการผลิต ที่ใช้บังคับตั้งแต่ฤดูการผลิต ๒๕๕๙/๒๕๖๐ เป็นต้นไป ให้กับสหกรณ์ที่มีฐานะเป็นสถาบันชาวไร่อ้อยอยู่เดิมออกไปอีก ๒ ฤดูการผลิต โดยให้เริ่มบังคับใช้ในฤดูการผลิตปี ๒๕๖๑/๒๕๖๒ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งดำเนินการสร้างความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์และชุมนุมสหกรณ์ให้มีคุณสมบัติสถาบันชาวไร่อ้อยครบถ้วนภายในระยะเวลา ๒ ฤดูการผลิต และในระยะต่อไป ควรต้องพิจารณาเจตนารมย์ของระเบียบฯ ที่มุ่งหวังให้มีเกณฑ์มาตรฐานเดียวกันในการพิจารณาสถานภาพการเป็นสถาบันชาวไร่อ้อย รวมทั้งการให้สหกรณ์หรือชุมนุมสหกรณ์ที่มีคุณสมบัติไม่ตรงตามหลักเกณฑ์สามารถปรับตัวภายหลังการครบกำหนดการให้การยกเว้นไม่ตรวจสอบคุณสมบัติ ตลอดจนเร่งพิจารณาผลดีและผลเสียของการให้การยกเว้นการตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นสถาบันชาวไร่อ้อยของสหกรณ์ที่มีฐานะเป็นชาวไร่อ้อยอยู่เดิมต่อไปอีกหรือไม่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
186 | รายงานผลการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 | นร01 | 06/06/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งมีผลการดำเนินภารกิจ ได้แก่ (๑) สอดส่องดูแล และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ (๒) ปรับปรุงแก้ไขระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๔๔ และยกร่างระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. .... (๓) ให้คำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ (๔) ให้ความเห็นเรื่องร้องเรียนกรณีหน่วยงานของรัฐไม่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และกรณีผู้ขอข้อมูลไม่เชื่อว่าหน่วยงานของรัฐไม่มีข้อมูลข่าวสารตามที่ขอ (๕) ดำเนินการเรื่องอุทธรณ์ของประชาชนตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ (๖) เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารฯ ผ่านการจัดการอบรมให้แก่หน่วยงานของรัฐ ผลิตและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ (๗) ดำเนินงานด้านความร่วมมือและสร้างเครือข่ายกับต่างประเทศในด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ (๘) ติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐที่รายงานผลการปฏิบัติงานผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ตามที่ประธานกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเสนอ ๒. มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายออมสิน ชีวะพฤกษ์) และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณากำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของทางราชการตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ และปัญหา/อุปสรรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็วต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
187 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกเงินช่วยเหลือการศึกษาบุตรของข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ พ.ศ. .... | กค | 23/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกเงินช่วยเหลือการศึกษาบุตรของข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ ประเภท หลักสูตร อัตราและวิธีการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณเห็นว่าภาระงบประมาณที่จะเพิ่มขึ้นประมาณ ๕,๓๐๙,๐๐๐ บาทต่อปี นั้น ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้วไปดำเนินการก่อน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
188 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร08 | 16/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยในหน่วยงานของรัฐให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
189 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... | ดศ | 09/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจแสะสังคม พ.ศ. .... โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ดำเนินการยกร่างระเบียบการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และดำเนินการปรับโครงสร้างของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทั้งในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อรองรับกับภารกิจ อำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ๒๕๖๐ รวมทั้งได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาทบทวนแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมอีกครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ตลอดจนได้มีการประสานแจ้งสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนมีการยุบเลิกสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) แล้ว ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
190 | ผลการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2560 (ร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ....) | ดศ | 09/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๐ โดยมีมติรับทราบ (๑) สาระสำคัญของพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ๒๕๖๐ (๒) ความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ (๓) ความคืบหน้าของข้อสั่งการจากการประชุมคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในประเด็นต่าง ๆ และ (๔) แนวคิดการจัดตั้งเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล รวมทั้งพิจารณาในประเด็นที่สำคัญ อาทิ ร่างระเบียบและหลักเกณฑ์ ตามพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ ๒. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อดำรงตำแหน่งแทนผู้ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
191 | ร่างระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... และร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดแบบเอกสารตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... | นร01 | 02/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๔๔ เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐในปัจจุบัน กำหนดแบบเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารลับเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดให้มีการรายงานและประเมินผลการปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารลับของหน่วยงานของรัฐ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับนิยามของคำว่า “หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ” ในข้อ ๔ (๑) ของร่างระเบียบฯ จากเดิม “หัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล สำหรับส่วนราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหม ให้หมายความรวมถึงหัวหน้าส่วนราชการที่ขึ้นตรงต่อสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กรมราชองครักษ์ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ” แก้ไขเป็น “หัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล สำหรับกระทรวงกลาโหมให้หมายถึงส่วนราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหม และหมายรวมถึงหัวหน้าส่วนราชการที่ขึ้นตรงต่อส่วนราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหมดังกล่าวที่เป็นนิติบุคคลด้วย” ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. สำหรับร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดแบบเอกสารตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยที่เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีและจะดำเนินการออกประกาศได้ต่อเมื่อร่างระเบียบในเรื่องนี้มีผลใช้บังคับแล้ว จึงให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ไปพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยให้รับความเห็นของสำนักข่าวกรองแห่งชาติเกี่ยวกับการขับเคลื่อนให้การปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีการดำเนินการตามข้อ ๕๓ แห่งระเบียบฯ คือ ให้องค์การรักษาความปลอดภัยประสานการปฏิบัติในการจัดให้มีหลักเกณฑ์ วิธีการ และคำแนะนำการปฏิบัติตามระเบียบนี้ รวมทั้งการอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องตามความจำเป็นและงบประมาณ รวมทั้งแบบรายงานผลการปฏิบัติเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารลับประจำปีควรจัดทำคำอธิบายการใช้งาน รายละเอียดของการกรอกแบบในแต่ละข้ออย่างชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
192 | การจัดตั้งสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรีและการบริหารงานเพื่อขับเคลื่อนภารกิจของ ป.ย.ป. | อื่นๆ | 04/04/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี พ.ศ. …. ตามที่สำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา ตามความเห็นของผู้อำนวยการสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติม ร่างข้อ ๙ วรรคหนึ่ง (องค์ประกอบของคณะกรรมการบริหาร) เป็น “ให้สำนักงานมีคณะกรรมการบริหารคณะหนึ่ง ประกอบด้วยผู้อำนวยการเป็นประธานกรรมการบริหาร รองผู้อำนวยการ เป็นรองประธานกรรมการบริหาร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ซึ่งผู้ช่วยผู้อำนวยการแต่งตั้งจำนวนไม่เกินหกคนเป็นกรรมการบริหาร และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งตามที่เห็นสมควรเป็นกรรมการบริหาร” และแก้ไขเพิ่มเติมร่างข้อ ๑๕ และร่างข้อ ๑๖ โดยระบุคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๘/๒๕๖๐ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๓๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ไว้ด้วย เพื่อให้สอดรับกับการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรีผู้ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ปฏิบัติงานในสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นหน่วยงานในสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตามคำสั่งดังกล่าว และรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักงาน การเทียบตำแหน่งรองผู้อำนวยการ ที่ปรึกษาประจำสำนักงาน หรือผู้ช่วยผู้อำนวยการกับการดำรงตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ การสรรหา การบรรจุ และการแต่งตั้งบุคคลเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญของสำนักงาน หน้าที่ของคณะกรรมการบริหาร และการจัดส่งข้อมูลให้กับสำนักงานไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้สำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรีรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเพื่อการดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นลำดับแรก ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
193 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 07/03/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยให้กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รับไปดำเนินการจัดทำข้อฐานมูลของเด็กหรือบุคคลซึ่งมีอายุไม่เกินกว่าอายุที่กำหนดไว้ในมาตรา ๗๓ แห่งประมวลกฎหมายอาญาที่ถูกกล่าวหา และประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อจัดให้มีการเชื่อมโยงฐานข้อมูลดังกล่าวต่อไป และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม รับไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขร่างระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการจ่ายค่าป่วยการแก่ที่ปรึกษากฎหมายในชั้นสอบสวน พ.ศ. .... ให้ครอบคลุมถึงเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายอื่นตามข้อสังเกตดังกล่าวเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
194 | แนวทางการปฏิรูประบบการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน | กค | 07/03/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบแนวทางการปฏิรูประบบการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ประกอบด้วย (๑) หลักการในการกำกับดูแลกิจการทางการเงินของสหกรณ์ฯ (๒) ร่างระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ว่าด้วยการกำกับดูแลกิจการทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ. .... (๓) การปรับปรุงโครงสร้างระบบการกำกับดูแลสหกรณ์ฯ และ (๔) การพัฒนาฐานข้อมูลและระบบสารสนเทศของสหกรณ์ฯ ให้มีความทันสมัย และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างระบบการกำกับดูแลสหกรณ์ฯ ให้คำนึงถึงหลักสหกรณ์สากล ในหลักการปกครองตนเองและความเป็นอิสระเพื่อความยั่งยืนขององค์การสหกรณ์เรื่องความร่วมมือที่จะเกิดการพัฒนาความเป็นอยู่ของสมาชิกและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้ดียิ่งขึ้นในระยะยาว และในการกำหนดข้อบังคับเพิ่มเติมใด ๆ ให้คำนึงถึงหลักการพื้นฐานของสหกรณ์ฯ คือ สหกรณ์จะดำเนินการอยู่บนพื้นฐานของการรวมกลุ่มเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมทั้งให้มีการวางแนวทางในการกำกับดูแลสหกรณ์ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับหลักการของร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... นอกจากนี้ ควรพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน ตลอดจนควรเร่งสร้างความรู้ ความเข้าใจและการยอมรับจากผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้การปฏิรูประบบการบริหารจัดการ และการกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ฯ บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. เพื่อให้การปฏิรูประบบการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ฯ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้และเป็นไปตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๐ [เรื่อง ร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑ ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารแห่งประเทศไทยเร่งพิจารณากำหนดแผนการดำเนินงานที่คำนึงถึงการให้โอกาสสหกรณ์ฯ ในการปรับตัวในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปสู่การปฏิรูประบบการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ฯ รวมทั้งจัดฝึกอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่สหกรณ์ฯ เพื่อให้สามารถนำแนวทางปฏิรูประบบการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ฯ ไปขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ๒.๒ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับหลักเกณฑ์ตามแนวทางปฏิรูประบบการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ฯ ในส่วนที่ต้องอาศัยการแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติได้ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในขั้นตอนของการตรวจร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
195 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดระบบบริหารจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ พ.ศ. 2557 และ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยในท้องที่จังหวัดนครปฐม จังหวัดปทุมธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสระบุรี พ.ศ. 2557 พ.ศ. .... | ทส | 07/02/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดระบบบริหารจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๗ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยในท้องที่จังหวัดนครปฐม จังหวัดปทุมธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสระบุรี พ.ศ. ๒๕๕๗ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ยกเลิกระเบียบทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าวเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน และป้องกันมิให้มีการปฏิบัติงานซ้ำซ้อนกัน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
196 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 31/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๓๔ (เรื่อง อนุมัติเงินแทรกแซงตลาดกาแฟฤดูการผลิตปี ๒๕๓๓/๓๔) จาก มอบให้กระทรวงการคลังเป็นผู้รับผิดชอบกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เป็น ให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้รับผิดชอบกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร พ.ศ. ๒๕๓๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้สอดคล้องกับการโอนภารกิจกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้รับผิดชอบ และเป็นไปตามพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ที่เห็นว่าการกำหนดอำนาจหน้าที่คณะกรรมการแต่ละคณะตามร่างระเบียบนี้จะต้องไม่ขัดและแย้งกับพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน และเพื่อให้เกิดความชัดเจน เห็นควรยกร่างระเบียบขึ้นใหม่ทั้งฉบับ รวมทั้งเห็นควรเพิ่มเติมอำนาจอธิบดีกรมการค้าภายในหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้มีอำนาจสั่งจ่ายและเบิกจ่ายเงินในกรณีการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในแผนการดำเนินงานประจำปี และเห็นควรมีมติที่ชัดเจนเกี่ยวกับการโอนทรัพย์สิน หนี้สิน วัสดุ/ครุภัณฑ์ และบุคลากรที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมบัญชีกลางในฐานะผู้รับผิดชอบกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. รับทราบการดำเนินการของกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยเมื่อร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับนี้มีผลใช้บังคับแล้ว ให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ เสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรพิจารณาอนุมัติต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๔. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดให้มีระบบการติดตามประเมินผลการดำเนินกิจการของกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเคร่งครัด ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
197 | ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย - จีน ครั้งที่ 9 - 15 ภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาล แห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 - 2565 | คค | 10/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ ๙-๑๕ ภายใต้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยมีผลความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน สรุปได้ ดังนี้
๑. รายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ช่วงกรุงเทพฯ-ชุมทางบ้านภาชี อยู่ระหว่างสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อพิจารณา สำหรับช่วงชุมทางบ้านภาชี-นครราชสีมา อยู่ระหว่างปรับแก้รายงาน EIA เพื่อนำเสนอรายงาน EIA ต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ๒. คณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีมติเห็นชอบโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ซึ่งกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างสอบถามความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๓. กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างยกร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน เพื่อจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ให้การบริหารงานโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน สามารถดำเนินการได้อย่างเหมาะสมเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ๔. ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือในรายละเอียดของร่างสัญญา ๒.๑ การออกแบบรายละเอียด และร่างสัญญา ๒.๒ ที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างโดยคณะทำงานทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อได้ข้อสรุปในทุกประเด็นร่างสัญญา ๒.๑ และ ๒.๒ ก่อนการประชุมคณะกรรมการร่วมฯ ครั้งที่ ๑๖ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
198 | กฎหมายสำคัญที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเร่งรัดปรับปรุงหรือยกร่างกฎหมายขึ้นใหม่ [ร่างพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] | นร09 | 10/01/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการให้มีระบบคัดกรองคนเข้าเมืองผิดกฎหมายตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๒) โดยใช้แนวทางในการออกระเบียบ และมอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในเรื่องนี้ และให้รับร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารจัดการคนเข้าเมืองผิดกฎหมายและผู้ลี้ภัย พ.ศ. .... ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๒. เห็นชอบให้นายกรัฐมนตรีร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้มีอำนาจออกกฎกระทรวงตามร่างพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และเห็นชอบให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง แล้วมอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปปรับปรุงแก้ไขร่างพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๓. มอบหมายให้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการรับไปศึกษาผลกระทบและพิจารณาความจำเป็นในการจัดตั้ง “กรมกิจการคนเข้าเมือง” โดยให้รับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการแก้ปัญหาผู้ลี้ภัยและผู้อพยพ ควรใช้กลไกและการบริหารจัดการในเชิงนโยบายภายใต้คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีหรือคำสั่งสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีระบบคัดกรองและการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพในลักษณะที่มีความยืดหยุ่นและอ่อนตัว ควบคู่กับการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทยต่อกรณีการขอปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองเพื่อจัดตั้งกรมกิจการคนเข้าเมืองเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับภารกิจอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่น ๆ ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และศุลกากร จึงเห็นควรพิจารณาศึกษาเชื่อมโยงกับมิติงานด้านความมั่นคงในภาพรวมเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปทั้งระบบ ไปประกอบการพิจารณาด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
199 | ร่างระเบียบวาระแห่งชาติ "แรงงานปลอดภัยและสุขภาพอนามัยดี" ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2560 - 2569) และร่างแผนแม่บทความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560 - 2564) | รง | 13/12/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบและประกาศนโยบายระเบียบวาระแห่งชาติ “แรงงานปลอดภัยและสุขภาพอนามัยดี” ระยะที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๙) โดยมีกรอบแนวทางการดำเนินการ ได้แก่ (๑) การส่งเสริมคนทำงานให้มีความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยดี (๒) การให้ความสำคัญในการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงจากอันตรายและการเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน (๓) การสร้างการมีส่วนร่วมในการดำเนินการโดยอาศัยแนวทางประชารัฐ (๔) การเสริมสร้างวัฒนธรรมเชิงป้องกันด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (๕) การพัฒนากลไกการบริหารจัดการและการดำเนินการงานด้านความปลอดภัย และอาชีวอนามัยในทุกระดับ ๑.๒ เห็นชอบร่างแผนแม่บทความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานแห่งชาติ ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) เพื่อใช้เป็นกรอบและแนวทางการดำเนินงานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของกระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ๔ ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ (๑) การส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (๒) การส่งเสริม กำกับ ดูแล และพัฒนามาตรการเชิงป้องกันด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย (๓) การเสริมสร้างความร่วมมือและพัฒนาภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย และ (๔) การพัฒนากลไกการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ๒. ให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ที่ ๑ กลยุทธ์ที่ ๑ สร้างและพัฒนาระบบองค์ความรู้ด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ นายจ้าง ลูกจ้าง นักเรียน นักศึกษา และภาคีเครือข่าย ควรพิจารณาเพิ่มเติมประเด็นด้านการให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสี (RSO) เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านนิวเคลียร์และรังสีตระหนักด้านความปลอดภัยอยู่เสมอ สำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนแม่บทฯ ส่วนปีต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณพร้อมทั้งรายละเอียดตามขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง ครบถ้วน เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม นอกจากนี้ ร่างแผนแม่บทฯ ควรมีมาตรการเชิงป้องกันสำหรับกลุ่มแรงงานนอกระบบมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศที่เชื่อมโยงข้อมูลการประสบอันตรายและเจ็บป่วยจากการทำงานและสาเหตุของการเกิดโรคทั้งกลุ่มแรงงานในระบบและนอกระบบ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. เมื่อแผนยุทธศาสตร์ชาติประกาศใช้แล้ว ให้กระทรวงแรงงานพิจารณาปรับปรุงระเบียบวาระแห่งชาติ “แรงงานปลอดภัยและสุขภาพอนามัยดี” ระยะที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๙) และแผนแม่บทความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานแห่งชาติ ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
200 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี พ.ศ. .... | นร | 07/12/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในกรณีส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เฉพาะเพื่อการแก้ไขหรือเยียวยาตามหลักมนุษยธรรมในความเดือดร้อนเสียหายทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประชาชนหรือของผู้ประสบภัยอันเป็นสาธารณภัยไม่ว่าจะเกิดจากธรรมชาติ มีผู้ทำให้เกิดขึ้น อุบัติเหตุหรือเหตุอื่นใด ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ และให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับร่างระเบียบดังกล่าวไปตรวจพิจารณาร่วมกับผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และผู้แทนสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....