ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 9 จากทั้งหมด 66 หน้า แสดงรายการที่ 161 - 180 จากข้อมูลทั้งหมด 1313 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
161 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการอ้างบทอาศัยอำนาจ และการกำหนดตำแหน่งของผู้มีสิทธิเบิกจ่ายเงินค่ารับรองเท่าที่จ่ายจริง ยังไม่สอดคล้องกับนิยามคำว่า “ข้าราชการ” ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณในส่วนของภาระงบประมาณที่อาจเพิ่มขึ้นให้ส่วนราชการพิจารณาปรับแผนการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรรไว้แล้ว ไปพิจารณาดำเนินการ และรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับอัตราค่าเช่าที่พักในการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาค่าเช่าที่พักท้องถิ่นในปัจจุบัน การปรับอัตราค่าเช่าที่พักสำหรับบางประเทศ และการเบิกจ่ายค่าเช่าที่พักแบบการใช้บริการห้องพักชั่วคราว (Day-Use) ระหว่างพักรอเที่ยวบินและการขอเข้าที่พักก่อนกำหนด (Early Check-in) ไปพิจารณาความเหมาะสมต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
162 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ทส | 13/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ เพื่อให้ครอบคลุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสาขาการดำเนินงานที่สำคัญ รวมทั้งไม่ให้ซ้ำซ้อนกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการในกฎหมายอื่น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
163 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพิจารณาชี้ขาดการยุติข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐและการดำเนินคดี พ.ศ. .... | นร09 | 13/02/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพิจารณาชี้ขาดการยุติข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐและการดำเนินคดี พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแนวทางเกี่ยวกับการดำเนินคดีแพ่งและคดีปกครอง รวมทั้งองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐและการดำเนินคดี และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
164 | ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการเยียวยาความเสียหาย กรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกรณีการเยียวยาตามหลักมนุษยธรรม | สม | 30/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการเยียวยาความเสียหาย กรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และกรณีการเยียวยาตามหลักมนุษยธรรม ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้แจ้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบด้วย ซึ่งผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการ สรุปได้ ดังนี้
๑. สำนักกิจการยุติธรรมได้ศึกษาแนวคิดและกฎหมายจากต่างประเทศ เช่น เยอรมัน และชิลี พบว่ายังไม่มีประเทศใดที่กำหนดให้มีกฎหมายกลาง แต่จะมีเพียงบางประเทศมีการช่วยเหลือในรูปแบบของระเบียบ ๒. กรมบัญชีกลางจะมีการยกร่างระเบียบเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง และเหตุพิเศษอื่น ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือกรณีชีวิตและร่างกาย โดยกำหนดกรอบอัตราการช่วยเหลือเทียบเคียงจากพระราชบัญญัติสงเคราะห์ผู้ประสบภัยเนื่องจากการช่วยเหลือราชการ การปฏิบัติงานของชาติ หรือการปฏิบัติตามหน้าที่มนุษยธรรม พ.ศ. ๒๕๔๓ และพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าตอบทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
165 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดการมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์ พ.ศ. .... | คค | 16/01/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดการมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงมาตรการการขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันให้ครอบคลุมถึงเคมีภัณฑ์ สารอันตราย และสารพิษ รวมทั้งเยียวยาความเสียหายให้แก่บุคคลซึ่งได้รับความเสียหายจากการขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เห็นควรกำหนดนโยบายและแผนจัดการมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์ของคณะกรรมการจัดการมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์ และแผนปฏิบัติการตามร่างระเบียบฯ ให้สอดคล้องและเชื่อมโยงกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และควรกำหนดให้ชัดเจนว่า เมื่อมีมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันและเคมีภัณฑ์เป็นสาธารณภัย ผู้มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยภาระค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้น ให้หน่วยปฏิบัติการและหน่วยสนับสนุนที่เป็นหน่วยงานของรัฐปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ในโอกาสแรกก่อน และในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป นอกจากนี้ ควรให้มีการรับฟังความคิดเห็นของชุมชนและบุคคลที่อาศัยอยู่ริมน้ำได้มีส่วนร่วมในการจัดการมลพิษทางน้ำและบำรุงรักษาทรัพยากรน้ำ รวมถึงกำหนดให้มีผู้แทนของเอกชนหรือองค์กรเอกชนเป็นกรรมการในคณะกรรมการฯ ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมรับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีไปดำเนินการเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการการขจัดคราบน้ำมัน น้ำมันรั่ว ให้มีประสิทธิภาพ และรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
166 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร01 | 21/11/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๒๖ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงการกำหนดตำแหน่ง ประเภท และระดับของข้าราชการพลเรือนตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ การจัดตำแหน่งของข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ รวมทั้งข้าราชการประเภทอื่นที่อยู่ในบังคับของระเบียบตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการประเภทนั้น และครอบคลุมพนักงานราชการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับความเห็นสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่า ปัจจุบันระบบสารบรรณของทุกส่วนราชการได้ปรับเปลี่ยนเป็นระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งเทคโนโลยีดิจิทัลได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว สมควรปรับปรุงร่างระเบียบฯ ให้สอดคล้องกับระบบสารบรรณที่ส่วนราชการดำเนินการในปัจจุบัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
167 | ร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... | ดศ | 21/11/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การสรรหาประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการองค์การมหาชน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมร่างระเบียบฯ บางประการ รวมทั้งแก้ไขหลักเกณฑ์การสรรหาประธานกรรมการและกรรมการในร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อมิให้ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีอีก ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
168 | การแก้ไขระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการบริหารกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2541 (ร่างระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการบริหารกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. ....) | พณ | 14/11/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการบริหารกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการบริหารกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๑ เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรทบทวนข้อความในร่างข้อ ๙ ซึ่งมีความซ้ำซ้อนกับข้อความตามร่างข้อ ๖ และไม่มีความจำเป็นต้องนิยามคำว่า “สินค้า” ไว้ในร่างระเบียบนี้ รวมทั้งการจัดตั้งสำนักงานกองทุนขึ้นในกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศอาจมีความซ้ำซ้อนกับการกำหนดภารกิจของสำนักงานแผนพัฒนาการส่งออกเกี่ยวกับงานเลขานุการของคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนไม่มีความจำเป็นต้องนำเรื่องรายรับของกองทุนฯ มากำหนดไว้ในร่างระเบียบนี้ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์และความคุ้มค่าของการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ นอกจากนี้ การจัดสรรงบประมาณในการดำเนินกิจกรรม แผนงาน โครงการ ตามแผนพัฒนาและส่งเสริมการค้าระหว่างประทศ (แผนปฏิบัติการประจำปี) ควรให้ความสำคัญกับการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการค้าระหว่างประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
169 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พ.ศ. .... | นร | 14/11/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการกำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (กสศ.) เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ ตามที่สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) (สบร.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา ๒. ให้ สบร. รับความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ ความเห็นของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรใช้ชื่อร่างระเบียบฯ ว่า "ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พ.ศ. ...." และเพิ่มเติมให้ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ศสบ.) ในฐานะที่เป็นสำนักงานเลขานุการของ กสศ. ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของคณะกรรมการ ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะกรรมการมอบหมาย รวมทั้งควรกำหนดให้ชัดเจนว่าเมื่อการจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) (สศส.) แล้วเสร็จ ให้อำนาจหน้าที่ของ ศสบ. สบร. ตามร่างระเบียบฯ เป็นของ สศส. นอกจากนี้ควรเพิ่มเติมเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ กสศ. ในร่างข้อ ๙ ว่าควรเพิ่มเติมให้การกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์มีความสอดคล้องกับทิศทางการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ระยะ ๕ ปี และตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาประเทศในระยะยาว และให้ กสศ. มีหน้าที่ ในการติดตามประเมินผลภาพรวมของการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศด้วย ๒.๒ ข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ว่า ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๑ (๘) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งมีสาระสำคัญเพื่อการแต่งตั้ง กสศ. เท่านั้น ซึ่งในการออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๑ (๘) ดังกล่าว นั้น คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๗) ได้เคยมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว กรณีการออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินและฟื้นฟูพัฒนาอาชีพเกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ. .... ว่า การออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๑ (๘) ดังกล่าวนั้น จะต้องเป็นการออกระเบียบเพื่อวางระเบียบปฏิบัติราชการของส่วนราชการ แต่ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินและฟื้นฟูพัฒนาอาชีพเกษตรกรและผู้ยากจนฯ มิได้มีสาระสำคัญในการวางระเบียบปฏิบัติราชการ แต่เป็นการออกระเบียบเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการฯ จึงไม่สามารถกระทำได้ ดังนั้น เมื่อร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ฯ มีสาระสำคัญเป็นเพียงการแต่งตั้งคณะกรรมการฯ จึงไม่สามารถกระทำได้ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๗)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
170 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) ครั้งที่ 5/2560 : การเร่งรัดและขับเคลื่อนประเด็นการปฏิรูปเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์และเชิงวัฒนธรรม การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และโครงการยกระดับ SMEs และวิสาหกิจชุมชนสู่ตลาดโลก | นร04 | 07/11/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามประเด็นปฏิรูป เรื่อง การปฏิรูปเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์และเชิงวัฒนธรรม การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และโครงการยกระดับ SMEs และวิสาหกิจชุมชนสู่ตลาดโลก และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ ดังนี้
๑. การปฏิรูปเศรษฐกิจชีวภาพ ให้สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพจัดทำแผนงานการขับเคลื่อนให้ชัดเจน มีการกำหนดเป้าหมายที่จะบรรลุผลสำเร็จและระยะเวลาดำเนินการ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งรัดการพิจารณาร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ พ.ศ. .... และมอบหมายให้นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา และสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพจัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ รวมทั้งให้จัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประสานเชื่อมโยงข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพและบริหารจัดการระบบฐานข้อมูลกลางให้มีประสิทธิภาพต่อไป ๒. การปฏิรูปเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์และเชิงวัฒนธรรม มอบหมายให้นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา และศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ศสบ.) จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนและเร่งรัดการเสนอระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พ.ศ. .... รวมทั้งให้ ศสบ. และกรุงเทพมหานครร่วมกันเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาย่านเศรษฐกิจสร้างต้นแบบ ๓. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. .... แล้วเสร็จได้ภายใน ๓ เดือน (ธันวาคม ๒๕๖๐) ๔. โครงการยกระดับ SMEs และวิสาหกิจชุมชนสู่ตลาดโลก ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการตามความเห็นของประธาน กขร. ได้แก่ (๑) ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดดำเนินการความร่วมมือกับอาลี บาบา ให้เป็นรูปธรรม (๒) ให้กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานความคืบหน้าการจัดตั้งสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการค้ายุคใหม่ การจัดตั้ง MOC Biz Club และการสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ไทย-ประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มประเทศ CLMV การดำเนินการตามข้อตกลงความร่วมมือในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และ (๓) เรื่องวิสาหกิจชุมชนในการดำเนินการยกระดับ SMEs ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการการทำงานเพื่อยกระดับ SMEs และวิสาหกิจชุมชนสู่ตลาดโลกในภาพรวมของประเทศต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
171 | ร่างระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 31/10/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. ๒๕๕๑ เกี่ยวกับการเบิกเงินจากคลังของส่วนราชการ โดยให้ส่วนราชการที่ก่อหนี้ผูกพันเป็นเงินตราต่างประเทศอาจเบิกเงินจากคลังเพื่อนำเงินดังกล่าวไปซื้อเงินตราต่างประเทศในสกุลเงินตราที่จะต้องชำระหนี้ โดยทยอยซื้อหรือซื้อทั้งจำนวนก็ได้ แล้วให้นำเงินตราต่างประเทศที่ซื้อมาดังกล่าวไปฝากไว้กับธนาคารรัฐวิสาหกิจหรือธนาคารที่กระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบ และเมื่อหนี้ถึงกำหนดหรือใกล้ถึงกำหนดชำระ ก็ให้นำเงินที่ฝากธนาคารไว้ดังกล่าวไปชำระหนี้ต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรพิจารณาให้ส่วนราชการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนด้วยวิธีการอื่นเพิ่มเติม เช่น การทำสัญญาซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) เป็นต้น และเมื่อส่วนราชการมีการซื้อและนำเงินตราต่างประเทศไปชำระหนี้แล้ว ควรรายงานธุรกรรมดังกล่าวต่อกระทรวงการคลัง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการวางแผนนโยบายสำหรับการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของส่วนราชการในภาพรวม ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
172 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยสำนักงานการวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... | นร04 | 24/10/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยสำนักงานการวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งสำนักงานการวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติขึ้นเป็นหน่วยงานภายในของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว และอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่และอำนาจในการจัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์ระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ให้สอดคล้องกับแผนที่นำทาง (Roadmap) รวมทั้งการบูรณาการหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมในรูปแบบกลุ่ม (Cluster) ทั้งด้านแผนงานโครงการ และงบประมาณ เพื่อเร่งขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ระบบวิจัยและนวัตกรรม ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร การกำหนดกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนของการเป็นสำนักงานชั่วคราว และการกำหนดมาตรการ แรงจูงใจ สิทธิประโยชน์ และการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรมของประเทศเข้าไว้ด้วยกัน ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินงานของสำนักงานการวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ควรมีความเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่น ๆ ในระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
173 | การใช้อำนาจตามมาตรา 4 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. 2551 ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. .... การยกเลิกประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการบริหารงบประมาณจังหวัดและงบประมาณกลุ่มจังหวัด (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2554 และการจัดตั้งกลุ่มจังหวัดและกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด | นร10 | 24/10/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามมติคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ในคราวประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ ซี่งกำหนดเรื่องที่จังหวัดหรือกลุ่มจังหวัดยังไม่สมควรจะปฏิบัติ ปฏิบัติ หรือปฏิบัติอย่างมีเงื่อนไขตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๔ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการเสนอ ๒. เห็นชอบในหลักการ (๑) ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นกำหนดให้มีคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค มีอำนาจหน้าที่กำหนดกรอบนโยบายและวางระบบในการบริหารงานภาค กำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ และวิธีการในการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด และแผนพัฒนาภาค ซึ่งแผนพัฒนาภาคต้องสอดคล้องกับแผนระดับชาติและนโยบายรัฐบาล และ (๒) ร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ เรื่อง การจัดตั้งกลุ่มจังหวัดและกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้จัดตั้งกลุ่มจังหวัดและกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. เห็นชอบในหลักการให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการบริหารงบประมาณจังหวัดและงบประมาณกลุ่มจังหวัด (ฉบับที่ ๒) ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ทั้งนี้ มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ.ร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการยกร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ เพื่อยกเลิกร่างประกาศในเรื่องนี้ แล้วส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
174 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | กษ | 17/10/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ. ๒๕๒๘ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยยกเลิกอำนาจการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของคณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน รวมถึงอำนาจและหน้าที่ของคณะอนุกรรมการดังกล่าว ปรับปรุงบทบาทภารกิจของคณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจนเพื่อให้มีอำนาจและหน้าที่หลักในการกำหนดนโยบายและแผนงานในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากจน โดยการกำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจนเพื่อทำหน้าที่บริหารและขับเคลื่อนกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรดำเนินการตรวจสอบหลักการและเนื้อหาสาระของการกำหนดร่างระเบียบทั้ง ๒ ฉบับ ให้มีความชัดเจนและเหมาะสม และสร้างความรับรู้และความเข้าใจให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจนและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ควรมีการประสานและเชื่อมโยงข้อมูลรายชื่อเกษตรกรที่ได้รับการแก้ไขปัญหาหนี้สินแล้วกับหน่วยงานทั้งในสังกัดและนอกสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อขอรับการสนับสนุนเพื่อเร่งฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพและรายได้ตามความสนใจให้กับเกษตรกรและผู้ยากจน โดยนำแนวทางตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้เกษตรกรรายย่อยและผู้ยากจนกลับมาประสบปัญหาหนี้สินที่ไม่สามารถชำระคืนได้อีก ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
175 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประสานงานการให้ความเห็นขององค์การอิสระในโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง พ.ศ. 2553 และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ พ.ศ. .... | ทส | 10/10/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประสานงานการให้ความเห็นขององค์การอิสระในโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง พ.ศ. ๒๕๕๓ และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการให้ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประสานงานการให้ความเห็นขององค์การอิสระในโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง พ.ศ. ๒๕๕๓ และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ รวมทั้งกำหนดการจ่ายค่าชดเชยให้แก่บุคลากรที่สนับสนุนการปฏิบัติงาน เมื่อองค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพยุบเลิก ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. เห็นชอบการจ่ายค่าชดเชยบุคลากรสนับสนุนการปฏิบัติงานคณะกรรมการองค์การอิสระ โดยใช้งบประมาณจากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงบประมาณที่เห็นควรทำความเข้าใจและดำเนินการเรื่องการจ่ายค่าชดเชยและเยียวยาบุคคลที่ต้องยุติหน้าที่ตามการประกาศร่างระเบียบฯ อย่างเหมาะสมเป็นธรรมด้วยความรวดเร็ว โดยการใช้จ่ายและเบิกจ่ายค่าชดเชยดังกล่าว ต้องถือปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
176 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ พ.ศ. .... | สธ | 03/10/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในระดับพื้นที่ให้เกิดความยั่งยืน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการกำหนดให้มีคณะกรรมการในระดับนโยบาย ได้แก่ คณะกรรมการนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ และคณะกรรมการในระดับปฏิบัติการ ได้แก่ คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ และคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับเขต ซึ่งมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ บัญญัติให้รัฐพึงใช้ระบบคณะกรรมการในกฎหมายเฉพาะกรณีที่จำเป็น ดังนั้น ในการพิจารณาให้ความเห็นชอบ พึงต้องคำนึงถึงเหตุผลและความจำเป็นของการกำหนดให้มีคณะกรรมการดังกล่าวตลอดจนผลกระทบต่องบประมาณของรัฐ สำหรับการดำเนินการในกรุงเทพมหานคร ควรพิจารณาให้สอดคล้องกับหลักการบริหารราชการแผ่นดินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับราชการส่วนท้องถิ่นตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมาย ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
177 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. .... | สว | 26/09/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป โดยมีผลการดำเนินการ ดังนี้
๑. องค์การมหาชนใดมีความประสงค์ให้มีระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อบัญญัติเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุขึ้นใช้เองทั้งหมดหรือแต่บางส่วน เพื่อให้การดำเนินการยืดหยุ่นและคล่องตัว สามารถขอยกเว้นมายังคณะกรรมการนโยบาย สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุของสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการยกเว้นตามพระราชบัญญัติที่ไม่สามารถดำเนินการได้ขณะนี้ กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพื่อนำมากำหนดเป็นหลักเกณฑ์ให้ครอบคลุมทุกสถาบันการศึกษา รวมทั้งหน่วยงานอื่นที่จัดซื้อจัดจ้างในเรื่องดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงความทันต่อเวลาเป็นสำคัญ และการป้องกันการทุจริต ซึ่งรายละเอียดในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจะกำหนดในระเบียบที่จะออกตามความในพระราชบัญญัตินี้ต่อไป และกำหนดให้มีความยืดหยุ่นของระยะเวลาการดำเนินการในแต่ละขั้นตอนเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ๒. การกำหนดให้เจ้าหน้าที่ซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับพัสดุ ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษหรือเงินอื่นทำนองเดียวกัน กรมบัญชีกลางพิจารณาร่วมกับสำนักงาน ก.พ. แล้ว เห็นว่า การกำหนดเงินเพิ่มดังกล่าวถือเป็นกรณีที่มีกฎหมายเฉพาะกำหนดในเรื่องดังกล่าว จึงไม่ต้องพิจารณาตามระเบียบ ก.พ. ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๒ แต่อย่างใด ๓. ได้จัดทำร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. .... นำเสนอรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๐ แล้ว และกรณีที่หน่วยงานของรัฐมีการจัดซื้อจัดจ้างสาธารณูปโภคหรือบริการสาธารณะที่เกี่ยวกับหน่วยงานของรัฐนั้น จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้ และกฎหมายอื่นประกอบด้วย เช่น พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้ตรงต่อวัตถุประสงค์ของการใช้งานอันมีผลกระทบต่อประชาชนหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
178 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการเตรียมการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. .... | ดศ | 19/09/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการเตรียมการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีคณะกรรมการเตรียมการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่จัดทำนโยบายและแผนระดับชาติด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ และสำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรตัดความในข้อ ๑๑ วรรคสอง ของร่างระเบียบฯ เนื่องจากคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการแต่งตั้งมีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมกรรมการตามนัยพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมคณะกรรมการ พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และอาจพิจารณาแต่งตั้งผู้แทนจากหน่วยงานเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านไซเบอร์เทคโนโลยีร่วมในองค์คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งพิจารณาแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มเติมที่มีความรู้ในด้านสังคมเพื่อประเมินผลกระทบจากการคุกคามไซเบอร์ในด้านสังคมและการดำเนินการให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในการป้องกันได้อย่างเชิงรุก และควรกำหนดให้การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์เป็นกรอบทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญของบุคลากรในหน่วยงานด้วย นอกจากนี้ องค์ประกอบคณะกรรมการควรครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานหลักของประเทศทุกภาคส่วนและมีกลไกในการประสานความร่วมมือกับองค์กรที่เกี่ยวข้อง และควรเพิ่มบทบาทและหน้าที่ของคณะกรรมการให้ครอบคลุมการสร้าง Common Infrastructure ด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ รวมถึงการยกระดับเสริมสร้างและพัฒนาบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ทั้งในระดับบริหารและปฏิบัติการ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือค่าใช่จ่ายอื่นใดที่เกี่ยวข้องซึ่งจะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เห็นควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เมื่อร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ประกาศใช้บังคับแล้ว ตามความจำเป็นและเหมาะสม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
179 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อื่นๆ | 08/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยแก้ไขผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ จากผู้อำนวยการสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และกำหนดเพิ่มเติมให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ ตามที่คณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. มอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงบประมาณที่เห็นควรพิจารณาภารกิจอำนาจหน้าที่ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการด้วยว่า ครอบคลุมถึงการรับรองบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมเพื่อได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้วหรือไม่ และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการมีความพร้อมที่จะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น เห็นควรให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาดำเนินการในโอกาสแรกก่อน ส่วนในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป เห็นควรให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
180 | ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร พ.ศ. .... | กค | 01/08/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการในการใช้สิทธิขอรับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรในกรณีการเปลี่ยนแปลงผู้ใช้สิทธิเบิกเงินสวัสดิการ วิธีการใช้สิทธิขอรับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร เพิ่มเติมระยะเวลาการยื่นใบเบิกเงินสวัสดิการ และเพิ่มเติมผู้มีอำนาจอนุมัติให้เบิกเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
.....