ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 6 จากทั้งหมด 66 หน้า แสดงรายการที่ 101 - 120 จากข้อมูลทั้งหมด 1313 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
101 | ร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... | ดศ | 07/01/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอขอแก้ไขระยะเวลาในการสรรหาประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จในร่างข้อ ๓ วรรคสอง จากเดิม “ ...ให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่คณะกรรมการสรรหาครบถ้วนตามมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ...” เป็น “ ...ให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวัน ...” และแก้ไขระยะเวลาในการเปิดรับสมัครบุคคลที่สมควรได้รับเลือกเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในร่างข้อ ๔ วรรคสอง โดยให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเปิดรับสมัคร จากเดิม “ระยะเวลาหกสิบวัน” เป็น “ระยะเวลาสามสิบวัน” ๒. อนุมติในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อดำรงตำแหน่งแทนผู้ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้แก้ไขร่างข้อ ๓ วรรคสอง และร่างข้อ ๔ วรรคสอง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เช่น การกำหนดขั้นตอนการพิจารณาบัญชีรายชื่อการรับสมัครบุคคลเพื่อให้คณะกรรมการทาบทามบุคคล เพื่อรับเลือกเป็นประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มเติมได้อีก ควรดำเนินการในขั้นตอนรับสมัครบุคคลเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้สมัครรายอื่น การพิจารณาเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการสรรหา ควรมีข้อกำหนดให้เลือกผู้ทรงคุณวุฒิให้ครบทุกด้าน และการกำหนดระยะเวลากรณีประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ให้เริ่มดำเนินการภายใน ๙๐ วัน ควรลดระยะเวลาลงเหลือ ๓๐ วัน เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. รับทราบรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการจัดทำร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... ได้ภายใน ๙๐ วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ใช้บังคับ เนื่องจากหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ต้องใช้ระยะเวลาเป็นอย่างมาก ประกอบกับช่วงระยะเวลาที่ดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ นั้น อยู่ในระหว่างที่มีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี รวมทั้งประธานรัฐสภา ซึ่งส่งผลให้การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลาตามมาตรา ๙๑ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
102 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ พ.ศ. .... | นร09 | 24/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ พ.ศ. .... ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีกลไกการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ เนื่องจากมีเหตุอันควรเชื่อว่าหากกลับไปจะได้รับอันตรายแก่ชีวิตและเสรีภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสังคมไทยและสถานการณ์ระหว่างประเทศอันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการจัดทำขั้นตอนการปฏิบัติงาน (Standard Operating Procedure : SoP) ภายใต้ร่างระเบียบฯ ระยะต่อไป ควรระบุให้ชัดเจนเกี่ยวกับผู้หลบหนีเข้าเมืองกลุ่มที่มีปัญหาความมั่นคงเฉพาะ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
103 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการหลวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สวพส. | 11/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับงานโครงการหลวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการหลวง พ.ศ. ๒๕๕๐ เพื่อปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง (กปส.) ให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนระบบการบริหารงานและการดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวงและการบูรณาการงานร่วมกับหน่วยงานสนับสนุนต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
104 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทาน การประดับและกรณีที่ให้ประดับเหรียญพิทักษ์เสรีชน สิทธิ บัตรประจำตัว และการเรียกเหรียญกับบัตรประจำตัวผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนคืน พ.ศ. .... | กห | 03/12/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทาน การประดับและกรณีที่ให้ประดับเหรียญพิทักษ์เสรีชน สิทธิ บัตรประจำตัว และการเรียกเหรียญกับบัตรประจำตัวผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนคืน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทาน การประดับและกรณีที่ให้ประดับเหรียญพิทักษ์เสรีชน สิทธิ บัตรประจำตัว และการเรียกเหรียญกับบัตรประจำตัวผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนคืน พ.ศ. ๒๕๑๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ สิทธิ บัตรประจำตัว และการเรียกเหรียญกับบัตรประจำตัวผู้ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนคืน ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่เห็นควรแก้ไขร่างข้อ ๕(๑) เป็น “ให้ส่วนงาน หน่วย หรือส่วนราชการขึ้นตรงต่อ กอ.รมน. กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือส่วนราชการอื่นระดับกรมหรือเทียบเท่าขึ้นไป เสนอรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติตามร่างข้อ ๔ ไปยังหัวหน้าส่วนราชการดังกล่าวเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการของส่วนราชการนั้น พิจารณาตรวจสอบรายชื่อและคุณสมบัติของบุคคลตามร่างข้อ ๔ เมื่อตรวจสอบแล้วเห็นว่า บุคคลนั้นมีคุณสมบัติครบถ้วน ให้ส่วนราชการเสนอรายชื่อตามแนบท้ายระเบียบนี้ต่อหัวหน้าส่วนราชการนั้น พร้อมใบรับรองผลการปฏิบัติหรือการสนับสนุนการปฏิบัติการแล้วเสนอต่อกระทรวงมหาดไทยเพื่อรวบรวมและดำเนินการขอพระราชานเหรียญพิทักษ์เสรีชนต่อไปได้” และควรยกเลิกร่างข้อ ๕(๓) เนื่องจากมีความซ้ำซ้อนกับร่างข้อ ๕(๑) นอกจากนี้ ร่างข้อ ๔ วรรคสอง ควรกำหนดให้ผู้ที่จะได้รับการพิจารณาเสนอขอพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนต้องไม่เป็นผู้เคยถูกเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เพื่อให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดการออกพระราชกฤษฎีกาตามร่างข้อ ๔(๒) ของร่างระเบียบฯ เพื่อกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับภารกิจ สถานการณ์ พื้นที่ และระยะเวลาการปฏิบัติการที่เหมาะสมของการปฏิบัติหน้าที่อื่น ๆ อันเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงของประเทศ เพื่อให้หน่วยงานใช้เป็นกรอบแนวทางดำเนินการและแนวทางปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
105 | ร่างประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เรื่อง การจัดทำประมาณการรายได้การกำหนดและการชำระราคาอ้อยและค่าผลิตน้ำตาลทราย และอัตราส่วนของผลตอบแทนระหว่างชาวไร่อ้อยและโรงงาน พ.ศ. .... และร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการยกเลิกระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการจัดเก็บเงินจากการจำหน่ายน้ำตาลทรายภายในราชอาณาจักรเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2561 พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | อก | 12/11/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เรื่อง การจัดทำประมาณการรายได้การกำหนดและการชำระราคาอ้อยและค่าผลิตน้ำตาลทราย และอัตราส่วนของผลตอบแทนระหว่างชาวไร่อ้อยและโรงงาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการจัดทำประมาณการรายได้ การกำหนดและการชำระราคาอ้อยและค่าผลิตน้ำตาลทราย และอัตราส่วนของผลตอบแทนระหว่างชาวไร่อ้อยและโรงงาน เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการกำหนดราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายเพื่อใช้บริโภคในราชอาณาจักร และร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการยกเลิกระเบีบบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยการจัดเก็บเงินจากการจำหน่ายน้ำตาลทรายภายในราชอาณาจักรเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. ๒๕๖๑ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายว่าด้วยการจัดเก็บเงินจากการจำหน่ายน้ำตาลทรายภายในราชอาณาจักรเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. ๒๕๖๑ รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งรัดร่างพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ให้ประกาศและบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
106 | ร่างระเบียบว่าด้วยเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของคณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการต่อต้านการทุจริต พ.ศ. .... | ปปท. | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของคณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการต่อต้านการทุจริต พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ประธานและกรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการต่อต้านการทุจริตได้รับเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นควรปรับข้อความคำว่า “ค่าเดินทางและค่าที่พัก” ในร่างระเบียบฯ เป็น “ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ” เพื่อมิให้เกิดปัญหาในการตีความ รวมทั้งควรกำหนดเพิ่มเติมในร่างระเบียบฯ ข้อ ๖ ว่า “กรณีประธานกรรมการและกรรมการที่เป็นข้าราชการพลเรือนให้ได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการตามสิทธิที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม” และในร่างระเบียบฯ ข้อ ๑๑ ที่กำหนดให้กรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งก่อนที่ระเบียบฯ ใช้บังคับมีสิทธิได้รับเบี้ยประชุม ค่าเดินทาง และค่าที่พักตามที่กำหนดไว้ในระเบียบฯ ควรพิจารณาถึงความจำเป็นในการกำหนดรองรับกรณีดังกล่าวตามข้อเท็จจริงในขณะที่ร่างระเบียบฯ ใช้บังคับด้วย เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการต่อต้านการทุจริต ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการ เห็นควรให้สำนักงาน ป.ป.ท. ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. ๒๕๖๓ ซึ่งได้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายดังกล่าวแล้ว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
107 | ร่างกฎหมายลำดับรองซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 รวม 11 ฉบับ | นร | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน ๗ ฉบับ และเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบและร่างประกาศ จำนวน ๔ ฉบับ รวม ๑๑ ฉบับ ซึ่งเป็นการออกกฎหมายลำดับรองเพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และให้กฎหมายมีผลใช้บังคับโดยสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติหลักการ ๑.๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้ำในคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. .... ๑.๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ำ และกรรมการลุ่มน้ำผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ. .... ๑.๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ำ และกรรมการลุ่มน้ำผู้ทรงคุณวุฒิ อันเนื่องมาจากเหตุบกพร่องหรือไม่สุจริตต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือหย่อนความสามารถ พ.ศ. .... ๑.๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดวัตถุประสงค์ หน้าที่และอำนาจ และการดำเนินงานขององค์กรผู้ใช้น้ำ รวมทั้งหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำ พ.ศ. .... ๑.๑.๕ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดค่าทดแทนแก่บุคคลซึ่งกักเก็บน้ำไว้ต้องสูญเสียน้ำที่กักเก็บไว้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ พ.ศ. .... ๑.๑.๖ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการชดเชยความเสียหายแก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างจากการดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม พ.ศ. .... ๑.๑.๗ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดค่าทดแทนการใช้ที่ดินหรือสิ่งก่อสร้าง และชดเชยความเสียหายแก่ทรัพย์สินของเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างจากการใช้ที่ดินหรือสิ่งก่อสร้าง เพื่อการป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งและภาวะน้ำท่วม พ.ศ. .... ๑.๒ เห็นชอบในหลักการ ๑.๒.๑ ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการนำเงินค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายไปวางต่อศาล หรือสำนักงานวางทรัพย์ หรือฝากไว้กับธนาคารออมสิน และวิธีการรับเงินค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหาย พ.ศ. .... ๑.๒.๒ ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการสั่งให้บุคคลซึ่งกักเก็บน้ำไว้ต้องเฉลี่ยน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ พ.ศ. .... ๑.๒.๓ ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๑ ๑.๒.๔ ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาของคณะกรรมการเปรียบเทียบ พ.ศ. .... ๒. ให้รับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงบประมาณเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงตามข้อ ๑.๑.๕-๑.๑.๗ ควรตัดข้อความที่กำหนดให้การจ่ายค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายให้ใช้จากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ออก ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
108 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรียกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2547 พ.ศ. .... | นร12 | 15/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรียกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๗ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๗ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๘ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
109 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารราชการในต่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กต | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารราชการในต่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารราชการในต่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๒ เกี่ยวกับการจัดหน่วยงานในต่างประเทศกรณีการไม่เพิ่มจำนวนหน่วยงาน เพื่อให้มีความคล่องตัวในการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงาน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับกรณีที่มีผลเป็นการเพิ่มจำนวนหน่วยงานในต่างประเทศ ให้กระทำได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.พ.ร. และในการพิจารณาให้ความเห็นชอบดังกล่าว ให้ร่วมพิจารณากับผู้แทนสำนักงาน ก.พ. ผู้แทนสำนักงบประมาณ และผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศและสำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับกรณีการจัดตั้งหน่วยงานในต่างประเทศที่มีผลเป็นการเพิ่มจำนวนหน่วยงานในต่างประเทศ การยุบเลิกหรือการรวมหน่วยงานในต่างประเทศตามร่างระเบียบฯ เห็นควรพิจารณาถึงความเหมาะสมกับบริบทในปัจจุบัน โดยคำนึงถึงประโยชน์ ความคุ้มค่าของประเทศ และภาระด้านงบประมาณ รวมทั้งการบริหารราชการที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
110 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร11 | 24/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ ๕ ตรวจพิจารณาแล้ว โดยให้เพิ่มเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นกรรมการในคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และปรับเปลี่ยนชื่อตำแหน่งกรรมการให้สอดคล้องและเป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับในปัจจุบัน ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาอีกครั้ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
111 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 6/2562 เรื่อง ร่างระเบียบคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ว่าด้วยกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. .... | สกพอ | 03/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ ๖/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๒ เรื่อง ร่างระเบียบคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ว่าด้วยกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารกองทุนทำหน้าที่กำหนดนโยบาย กำกับดูแลการบริหารจัดการ และติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุน รวมทั้งกำหนดการจัดการเงินและทรัพย์สินของกองทุน และให้มีระบบบัญชี การประเมินผลและการตรวจสอบการดำเนินงานของกองทุน อันจะทำให้การพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับบทอาศัยอำนาจในการออกร่างระเบียบฯ ว่า สมควรอ้างเฉพาะมาตรา ๑๑ (๗) และมาตรา ๖๓ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นมาตราที่ให้อำนาจในการออกระเบียบในเรื่องนี้เท่านั้น ไปแก้ไขปรับปรุงการออกร่างระเบียบดังกล่าวต่อไป ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เช่น (๑) การจัดตั้งและบริหารกองทุนจะต้องพิจารณาถึงประโยชน์ของรัฐและประชาชน ความคุ้มค่า และความประหยัด ซึ่งจะต้องกระทำด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม รวมถึงการพิจารณาเป้าหมายและประโยชน์ที่จะได้รับประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้น ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และ (๒) การกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการพิจารณาอันสืบเนื่องจากระเบียบฯ โดยเฉพาะการนำส่งเงินและทรัพย์สินเข้ากองทุน และการใช้จ่ายเงินกองทุน จำเป็นจะต้องมีความชัดเจนและรัดกุมเพื่อให้การบริหารจัดการกองทุนเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
112 | ร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งกรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิในสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... | อว | 27/08/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งกรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิในสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งกรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิในสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงบประมาณ เช่น ควรแก้ไขนิยามคำว่า “รัฐมนตรี” โดยตัดคำว่า “แห่งชาติ” ออก ส่วนบทเฉพาะกาล มาตรา ๖๗ แห่งพระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่กำหนดให้แต่งตั้งกรรมการนโยบายผู้ทรงคุณวุฒิ ตามมาตรา ๖ (๕) และ (๖) ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับนั้น การดำเนินการสรรหาในครั้งแรกควรดำเนินการให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ รวมทั้งการกำหนดเบี้ยประชุมคณะกรรมการสรรหา เห็นควรให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการ โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง และการกำหนดระยะเวลา และการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมการสภานโยบายผู้ทรงคุณวุฒิ ควรเร่งดำเนินการให้สอดคล้องตามบทบัญญัติในมาตรา ๖๗ แห่งพระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่กำหนดระยะเวลาไว้ไม่เกิน ๑๘๐ วัน นับแต่พระราชบัญญัติฉบับนี้ใช้บังคับด้วย เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. แลสำนักงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
113 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... และการแต่งตั้งคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ | นร04 | 30/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรีขึ้นในสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี โดยมีอำนาจหน้าที่ให้การสนับสนุน เร่งรัด และติดตามการดำเนินงานหน่วยงานของรัฐให้เป็นไปตามกฎหมายและนโยบายรัฐบาล ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงบประมาณในประเด็นการจัดตั้งสำนักงานบริหารฯ การกำหนดระเบียบหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการดำเนินการของสำนักงานบริหารฯ เป็นการเฉพาะ การมอบหมายหรือจ้างผู้อื่นดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจแทนสำนักงานบริหารฯ การกำหนดให้ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารฯ มีอำนาจขอยืมตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องมาปฏิบัติหน้าที่เป็นการเฉพาะกิจ และค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเกี่ยวกับอัตราค่าจ้าง ค่าตอบแทน หรือเบี้ยประชุมกรรมการบริหารสำนักงานบริหารฯ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. รับทราบร่างคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ /๒๕๖๒ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
114 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติ และธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 09/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติ และธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติ และธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๒๙ ในส่วนการชักและประดับธงชาติ ณ อาคารสถานที่ ยานพาหนะ และที่สาธารณสถาน ในโอกาสและวันพิธีสำคัญ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
115 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการยุบเลิกสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... | นร | 09/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการยุบเลิกสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญให้ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๖๐ เนื่องจากได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๙/๑๕๖๑ เรื่อง กลไกในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ลงวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ กำหนดให้มีสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง เป็นส่วนราชการเพื่อทำหน้าที่ในการบูรณาการและปฏิบัติการ เพื่อให้การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศตามแผนการปฏิรูปประเทศ นโยบายการปฏิรูปของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท และแผนการสร้างความสามัคคีปรองดองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไว้เป็นการเฉพาะ ตามที่สำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
116 | ร่างระเบียบว่าด้วยการโอนงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ และงบประมาณรายจ่ายบุคลากรระหว่างหน่วยรับงบประมาณ พ.ศ. .... และร่างระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. .... | นร07 | 09/07/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยการโอนงบประมาณรายจ่ายบูรณาการและงบประมาณรายจ่ายบุคลากรระหว่างหน่วยรับงบประมาณ พ.ศ. .... และร่างระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. .... จำนวน ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเพื่อให้การบริหารงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ และงบประมาณรายจ่ายบุคลากรเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถโอนงบประมาณรายจ่ายที่หน่วยรับงบประมาณไม่สามารถใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรืองบประมาณรายจ่ายที่หมดความจำเป็น ไปตั้งเป็นงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณอื่นภายใต้แผนงานบูรณาการเดียวกัน หรือภายใต้แผนงานบุคลากรภาครัฐได้ และกำหนดให้มีระเบียบสำหรับการบริหารงบประมาณรายจ่ายรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงบประมาณรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการพิจารณาให้มีการเพิ่มวงเงินผูกพันการใช้งบประมาณต้องคำนึงถึงภาระทางการเงินและข้อผูกพันการชำระเงิน และเป็นไปตามข้อกำหนดหลักเกณฑ์การรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ รวมทั้งการใช้จ่ายเงินของหน่วยรับงบประมาณจะต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส มีความคุ้มค่าและประหยัด รัฐได้รับประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้สำนักงบประมาณได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
117 | ร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเพื่อใช้ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. .... | อก | 11/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเพื่อใช้ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์การส่งเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย อันเนื่องมาจากยกเลิกการกำหนดราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายที่ใช้บริโภคในราชอาณาจักร และการยกเลิกโควตา เพื่อให้โรงงานน้ำตาลทรายที่ไม่ได้จำหน่ายน้ำตาลทรายภายในราชอาณาจักรต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเช่นเดียวกันกับโรงงานน้ำตาลทรายที่จำหน่ายน้ำตาลทรายภายในราชอาณาจักร และให้มีผลใช้บังคับย้อนหลังตั้งแต่วันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
118 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร05 | 28/05/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงวิธีการประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของสตรี ชนิดประดับหน้าบ่าเสื้อไม่มีดารา และชนิดประดับหน้าบ่าเสื้อมีดาราสำหรับเครื่องแบบเต็มยศ และเครื่องแบบครึ่งยศ ให้ประดับโดยเทียบเคียงในตำแหน่งและระดับเดียวกับวิธีการประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของบุรุษ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงการประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์สำหรับชุดไทย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ตรวจพิจารณาก่อนเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาลงนามเพื่อประกาศใช้บังคับต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
119 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเจ้าพนักงานตำรวจศาล พ.ศ. .... | สว | 14/05/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเจ้าพนักงานตำรวจศาล พ.ศ. .... โดยข้อสังเกตในการขยายระยะเวลาการเปิดทำการศาลยุติธรรมในวันหยุด ปัจจุบันศาลยุติธรรมได้ดำเนินการเปิดทำการศาลในวันหยุดอยู่แล้ว สำหรับข้อสังเกตที่ให้จัดอบรมให้ความรู้แก่เจ้าพนักงานตำรวจศาลเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา สำนักงานศาลยุติธรรมได้จัดทำแผนการอบรมให้ความรู้แก่เจ้าพนักงานตำรวจศาลแล้ว ส่วนข้อสังเกตเกี่ยวกับการออกระเบียบคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรมเพื่อกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามอื่นของเจ้าพนักงานตำรวจศาล สำนักงานศาลยุติธรรมได้ดำเนินการยกร่างระเบียบดังกล่าว โดยได้เทียบเคียงมาจากกฎ ก.ตร. ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นข้าราชการตำรวจ พ.ศ. ๒๕๔๗ ด้วยแล้ว และข้อสังเกตที่ให้ดำเนินการจัดทำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเป็นฐานข้อมูลกลางของหมายจับที่ออกไว้ต่างศาลกัน ปัจจุบันสำนักงานศาลยุติธรรมได้ดำเนินโครงการเชื่อมโยงระบบงานฐานข้อมูลหมายจับผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (AWIS) กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมอื่น ๆ นอกจากนี้ ข้อสังเกตการสนับสนุนสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการเพิ่มบุคลากร งบประมาณ และวัสดุอุปกรณ์เพื่อให้เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ระหว่างพิจารณาศึกษาแนวทางความเหมาะสมเพื่อดำเนินการต่อไป ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
120 | รายงานผลการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการต่าง ๆ ภายใต้กลไกเครดิตร่วม (Joint Crediting Mechanism : JCM) | ทส | 07/05/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการต่าง ๆ ภายใต้กลไกเครดิตร่วม (Joint Crediting Mechanism : JCM) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงสิ่งแวดล้อม ประเทศญี่ปุ่น ได้ให้ทุนสนับสนุนการพัฒนาโครงการ JCM Model Project รวม ๒๖ โครงการ มูลค่ามากกว่า ๒ พันล้านบาท ก่อให้เกิดการลงทุนมากกว่า ๖ พันล้านบาท มีปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่คาดว่าจะลดได้ ๑๒๙,๙๕๘ ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ๒. การประชุมคณะกรรมการร่วมกลไกเครดิตร่วม จำนวน ๔ ครั้ง โดยที่ประชุมได้มีมติรับรองกฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ และแบบฟอร์มต่าง ๆ ที่ใช้ในการดำเนินงานภายใต้กลไกเครดิตร่วม การรับรองระเบียบวิธีการคำนวณปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจก ๗ วิธี ขึ้นทะเบียนโครงการ ๔ โครงการ และการรับรองคาร์บอนเครดิต ๑ โครงการ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๑ คณะกรรมการร่วมกลไกเครดิตร่วมได้มีมติเห็นชอบการขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ตรวจประเมินโครงการทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มอีก ๑ ราย ๓. การจัดงานอบรม/สัมมนาร่วมกับหน่วยงานของประเทศญี่ปุ่น รวม ๑๓ ครั้ง มีผู้เข้าร่วมทั้งหมด ๙๙๓ คน และมีการเข้าร่วมการประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการที่จะขอขึ้นทะเบียนโครงการ JCM จำนวน ๑๕ โครงการ รวมทั้งเยี่ยมชมโครงการซึ่งเริ่มดำเนินการแล้ว จำนวน ๑๖ โครงการ ๔. แผนการดำเนินการในระยะต่อไป ได้แก่ (๑) การเสนอคณะกรรมการร่วมกลไกเครดิตร่วมพิจารณาคำขอทางอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วย การรับรองร่างระเบียบวิธีการลดก๊าซเรือนกระจก ๓ วิธี และการขึ้นทะเบียนโครงการ ๑ โครงการ คือ Introduction of 3.4 MW Rooftop Solar Power System to Air-conditioning Parts Factories (๒) การให้ความเห็นร่างระเบียบวิธีการคำนวณปริมาณก๊าซเรือนกระจก ๓ วิธี และ (๓) การให้ความเห็นเอกสารประกอบการขอขึ้นทะเบียนโครงการ ๖ โครงการ
|
.....