ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 7 จากทั้งหมด 48 หน้า แสดงรายการที่ 121 - 140 จากข้อมูลทั้งหมด 954 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
121 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ขออนุมัติการจัดทำและลงนามในร่างข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับหน่วยงานต่างประเทศ | กษ | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ขออนุมัติการจัดทำและลงนามในร่างข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับหน่วยงานต่างประเทศ โดยมีผลการดำเนินการ ดังนี้
๑. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมงได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างหน่วยงานกำกับ ดูแลด้านมาตรฐานบังคับแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ และกรมประมงแห่งราชอาณาจักรไทย ด้านการตรวจสอบและรับรองสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำแล้ว เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๓ ๒. ข้อตกลงดังกล่าวมีผลกระทบด้านบวกต่อหน่วยงานตรวจสอบรับรองสินค้าสัตว์น้ำส่งออกและนำเข้าของกรมประมงและของสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ และผู้ประกอบการผลิตสินค้าสัตว์น้ำแช่เยือกแข็งและผลิตภัณฑ์บรรจุกระป๋องที่ส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศแอฟริกาใต้ โดยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัยในสินค้าสัตว์น้ำที่มีการจำหน่ายระหว่างกัน ลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบสินค้าสัตว์น้ำ ณ ประเทศปลายทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถอำนวยความสะดวกให้สินค้าสัตว์น้ำของไทยผ่านด่านตรวจสอบการนำเข้าและส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
122 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสที่พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ (การจัดการน้ำและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) | มท | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามพระราชดำริในโอกาสที่พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ (การจัดการน้ำและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช สรุปได้ ดังนี้
๑. กระทรวงมหาดไทยได้ศึกษาค้นคว้า รวบรวมแนวคิด ทฤษฎี หลักการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริ และประชุมสัมมนาร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญจากส่วนราชการ/หน่วยงานในการบริหารจัดการน้ำ และนำมาเรียบเรียงจัดทำหนังสือการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นคู่มือให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศใช้ศึกษาและเป็นแนวทางปฏิบัติงาน รวมทั้งประกอบการจัดทำแผนงาน/โครงการการบริหารจัดการน้ำอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในพื้นที่ นอกจากนี้ ได้นำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง เช่น ระบบการเตือนภัยและติดตามสถานการณ์น้ำ โครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีเพื่อการจัดการน้ำ และการปรับปรุงจัดการน้ำในระดับเมือง และระดับชุมชน ๒. การดำเนินงานตามโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มขนาดเล็กอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนา และตั้งโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มขนาดเล็กที่ใช้เงินลงทุนต่ำเพื่อสกัดน้ำมันปาล์มดิบจำหน่าย และนำผลพลอยได้ไปใช้ประโยชน์พื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันของสมาชิกสหกรณ์นิคมอ่าวลึก จำกัด ได้รับประโยชน์จำนวน ๓,๙๘๐ ครัวเรือน ส่วนสหกรณ์นิคมอ่าวลึก จำกัด ได้จัดทำโครงการปรับปรุงโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้งนี้ โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มของสหกรณ์ใช้น้ำมันปาล์มดิบในการทอดผลปาล์มตามกระบวนการผลิตเฉลี่ย ๔๐๐ ลิตร/รอบการผลิต สหกรณ์จึงมีโครงการผลิตไบโอดีเซลเป็นพลังงานทดแทนโดยใช้น้ำมันปาล์มดิบที่ใช้แล้วมาเป็นวัตถุดิบ ๓. การดำเนินงานตามโครงการจัดพัฒนาที่ดินฯ ตามพระราชประสงค์หุบกะพง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกะพงได้ดำเนินการการปฏิรูปที่ดินโดยการพัฒนาที่ดินว่างเปล่า จัดสรรให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินในการเพาะปลูกเป็นของตนเองประกอบอาชีพตามวิธีการเกษตรแผนใหม่ แต่ไม่ให้กรรมสิทธิ์ในการถือครองที่ดิน และได้มีการรวมกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดินจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรโดยใช้หลักและวิธีการสหกรณ์แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับสมาชิกตั้งแต่เริ่มการผลิตจนถึงการจำหน่ายออกสู่ตลาด ส่วนสหกรณ์การเกษตรหุบกะพง จำกัด ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการเลี้ยงไก่ไข่ระบบปิด โครงการปลูกป่านศรนารายณ์ โครงการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง โครงการสวนทับทิมไทย-อิสราเอล เป็นต้น สำหรับปัญหาเรื่องน้ำ การประกอบอาชีพ สังคมและสิ่งแวดล้อม กรมชลประทานได้ดำเนินการขุดลอกเพื่อขยายความจุของอ่างเก็บน้ำ การขอรับการสนับสนุนการทำฝนหลวงในพื้นที่ รวมทั้งการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
123 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสที่พระราชทาน พระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ (การจัดทำแผนแม่บทระบบสถิติประเทศไทย การดำเนินการศึกษาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และโครงการระบบโทรมาตรโครงการเครือข่ายสถานีฝนอัตโนมัติ) | ทก | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสที่พระราชทาน พระบรมราชวโรกาสให้คณะบุคคลเข้าเฝ้าฯ เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช สรุปได้ดังนี้
๑. สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ได้จัดทำแผนแม่บทระบบสถิติประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๘ และจัดประชุมระดมความคิดเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีแผนการดำเนินงานในการจัดตั้งกลไกในการบริหารจัดการระบบสถิติ การส่งเสริมความรู้ในการบริหารระบบสถิติของประเทศ และการจัดทำมาตรฐานสถิติ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๓ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแผนแม่บทฯ โดยใช้งบประมาณของ สสช. พร้อมทั้งให้รับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาด้วย ๒. กรมอุตุนิยมวิทยาได้ดำเนินการวิเคราะห์ภูมิอากาศในอนาคต นอกเหนือจากภารกิจที่ทำอยู่เป็นประจำ และได้ทำการศึกษาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโดยการประมวลผลภูมิอากาศในอนาคตจากสถานการณ์จำลอง ภูมิอากาศโลก (Climate secnario) แบบ A2 (มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือย) ด้วยแบบจำลองการพยากรณ์สภาพภูมิอากาศ PRECIS (Porviding Regional Climate for Impact Studies) คาดการณ์ภูมิอากาศในอดีตและอนาคตตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๖๔๓ และนำมาเปรียบเทียบข้อมูลที่ได้จากการตรวจวัดจริงของสถานีตรวจอากาศอุตุนิยมวิทยาทั่วประเทศ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๕๒ ๓. กรมอุตุนิยมวิทยาได้ดำเนินการโครงการระบบโทรมาตรโครงการเครือข่ายสถานีฝนอัตโนมัติ โดยทำการติดตั้งสถานีฝนอัตโนมัติทั้งประเทศ จำนวน ๘๒๐ สถานี แล้วส่งข้อมูลเข้าศูนย์ปฏิบัติการระบบโทรมาตร อันเป็นการพัฒนาระบบการเฝ้าระวังและการเตือนภัยด้านน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหล และน้ำล้นตลิ่งให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เกิดการบูรณาการข้อมูลด้านน้ำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ด้านการเตือนภัย มีข้อมูลเพื่อการบริหารทรัพยากรน้ำ การวางแผนและตัดสินใจของผู้บริหารประเทศ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
124 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการตามแผนพัฒนาหอสมุดแห่งชาติให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัย (ครั้งที่ 7) | วธ | 08/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การดำเนินการตามแผนพัฒนาหอสมุดแห่งชาติให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัย (ครั้งที่ ๗) ดังนี้
๑. ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐ ๑.๑. ดำเนินการขนย้ายหนังสือและสิ่งของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ๑.๒ จัดทำแผนพัฒนางานสารสนเทศ สำนักหอสรมุดแห่งชาติ และได้รับอนุมัติจากกรมศิลปากร เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๒ เพื่อของบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ๑.๓ ออกแบบรูปรายการในการปรับปรุงอาคารหอสมุดแห่งชาติหลังเดิมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อของบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒. ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๑ ดำเนินการประมูลการจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยบริษัท เอนแอลดิเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ให้ราคาต่ำสุด และได้ทำสัญญาจ้างเมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๒ ในวงเงิน ๔๓๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยเป็นงบประมาณที่ใช้จ่ายเฉพาะภารกิจสร้างอาคาร ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๑ จำนวน ๑๑๒,๕๔๐,๐๐๐ บาท ๓. ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๔ (ดำเนินการก่อสร้างอาคาร) โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ ความก้าวหน้าของงานตามแผน ร้อยละ ๗.๙๙ ทำได้จริง ร้อยละ ๔.๕๐ งบประมาณที่ใช้จ่าย จำนวน ๕๖,๔๖๐,๐๐๐ บาท สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ (๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๓ - ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓) ความก้าวหน้าของงานตามแผน ร้อยละ ๖๐ ทำได้จริง ๔๓.๐๙ งบประมาณที่ใช้จ่าย จำนวน ๒๖๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
125 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แผนปฏิบัติการและงบประมาณ ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2554 - 2556) ภายใต้แผนแม่บทป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ พ.ศ. 2552 - 2556 | มท | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แผนปฏิบัติการและงบประมาณ ระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๖) ภายใต้แผนแม่บทป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๖ ดังนี้
๑. กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) ได้แจ้งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ และจัดส่งแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ให้หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อดำเนินการ ดังนี้ ๑.๑ ให้สำนักงบประมาณเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาการจัดสรรงบประมาณแก่หน่วยงานที่ร่วมบูรณาการตามแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ต่อไป ๑.๒ ให้หน่วยงานที่ร่วมบูรณาการทั้ง ๘๑ หน่วยงาน พิจารณาดำเนินการตามแนวทางการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ไปสู่การปฏิบัติ โดยให้นำแผนงาน/โครงการตามแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ไปบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติราชการ ๔ ปี และแผนปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงานเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณดำเนินการต่อไป รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ส่งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ๒. กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) ได้รับความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปดำเนินการครบถ้วนทุกประการแล้ว ดังนี้ ๒.๑ ขั้นตอนการจัดทำแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ ได้บูรณาการร่วมกับกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศแล้ว ซึ่งได้แจ้งว่าไม่มีแผนงาน/โครงการที่รองรับกิจกรรมตามแผนแม่บทป้องกันและบรรเทาภัยจากคลื่นสึนามิ (ระยะ ๕ ปี) แต่ยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มขีดความสามารถหากเกิดภัยพิบัติขึ้น ๒.๒ จัดทำคู่มือเตรียมความพร้อมรับภัยจากคลื่นสึนามิของชุมชน และคู่มือชาวบ้านการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากคลื่นสึนามิ โดยแจกจ่ายให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เสี่ยงภัยคลื่นสึนามิ ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ ๒.๓ กำหนดบรรจุโครงการสร้างระบบประเมินการเกิดคลื่นสึนามิและบูรณาการระบบการเตือนภัยคลื่นสึนามิของประเทศไทย วงเงิน ๖๗ ล้านบาท ไว้ในแผนปฏิบัติการและงบประมาณฯ โดยจะขอตั้งงบประมาณดำเนินการในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
126 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การปรับลดค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลและการศึกษาปริมาณการสูบน้ำบาดาลในระดับที่ยอมรับได้ว่าปลอดภัย (Safe Yield) เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำในภาคอุตสาหกรรมไทย | นร | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การปรับลดค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลและการศึกษาปริมาณการสูบน้ำบาดาลในระดับที่ยอมรับได้ว่าปลอดภัย (Safe Yield) เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำในภาคอุตสาหกรรมไทย ดังนี้
๑. ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการพิจารณาโครงการที่จะได้รับการช่วยเหลือและอุดหนุนจากกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล พ.ศ. .... อยู่ระหว่างการเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนนำเสนอกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณา และเมื่อกระทรวงการคลังพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้วจะได้เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลงนาม ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป ๒. กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เชิญผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเข้าร่วมประชุมหารือ เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๓ เกี่ยวกับการจัดทำแผนการบริหารเงินกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล ซึ่งที่ประชุมได้มีมติร่วมกันให้ใช้ผลการสำรวจที่เคยมีการศึกษามาแล้วโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาทำการศึกษาและเปรียบเทียบใหม่ต่อไป ๓. โครงการศึกษาเพื่อการกำหนดค่า Safe Yield รายอำเภอในพื้นที่วิกฤตการณ์น้ำบาล ได้ดำเนินการปรับแบบจำลองในขั้นต้นและในภาพรวมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนขั้นตอนต่อไปจะเริ่มทดลองคำนวณค่า Safe Yield รายอำเภอเบื้องต้นบนพื้นฐานการควบคุมระดับน้ำไม่ให้ต่ำกว่าระดับ ๓๐ เมตร ใน ๓ ชั้นน้ำบาดาลตอนบน โดยจะเริ่มดำเนินการคำนวณแบบจำลองการทรุดตัวของแผ่นดินควบคู่กันไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
127 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง กรอบวงเงินในการชดเชยดอกเบี้ยตามโครงการเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการค้าข้าว | นร | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (ปคค.) รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง กรอบวงเงินในการชดเชยดอกเบี้ยตามโครงการเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการค้าข้าว โดยกระทรวงการคลังรายงานว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้แทนจากกรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ กรมการค้าภายใน และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ และวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๓ ซึ่งได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการค้าข้าว โดยให้ธนาคารเบิกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ จากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (ภายในวงเงิน ๖๘๖ ล้านบาท) และได้มีหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบและดำเนินการต่อไปด้วยแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
128 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยศัตรูพืชระบาด (เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล) ปี 2553 | กษ | 01/02/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยศัตรูพืชระบาด (เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล) ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ดังนี้
๑. ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยศัตรูพืชระบาด (เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล) จำนวน ๔๒,๗๓๔ ราย ในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี สุพรรณบุรี ศรีสะเกษ กาญจนบุรี พิจิตร พิษณุโลก ลพบุรี นครสวรรค์ และพระนครศรีอยุธยา คิดเป็นพื้นที่การเกษตรที่เสียหาย จำนวน ๘๑๘,๖๗๙.๗๕ ไร่ โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๔๙๖,๑๑๙,๙๒๘.๕๐ บาท โดยจ่ายผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เสร็จเรียบร้อยแล้ว ๒. ตรวจสอบหลักฐานการยืนยันความเสียหายจากภัยศัตรูพืชระบาดของเกษตรกร พบว่า ไม่ซ้ำซ้อนกับกรณีการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล โรคเขียวเตี้ย และโรคใบหงิก |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
129 | ผลการติดตามการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ | นร | 24/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของกระทรวงมหาดไทย โดยสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานหลักรับผิดชอบในการบริหารจัดการระบบตามโครงการฯ รายงานว่า ขณะนี้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ทำสัญญาจ้างโครงการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้กับบริษัท ไทยทรานสมิชชั่น อินดัสทรี จำกัด เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๓ ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดติดตามการดำเนินโครงการฯ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ๒. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นหน่วยงานหลักรับไปพิจารณาร่วมกับสำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการในการดำเนินการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ให้ชัดเจน แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
130 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการพัฒนากำลังคนด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (ทุนเรียนดีมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย) ครั้งที่ 7 | ศธ | 24/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการพัฒนากำลังคนด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (ทุนเรียนดีมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย) ครั้งที่ ๗ (พฤษภาคม - พฤศจิกายน ๒๕๕๓) สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ สกอ. ได้ดำเนินการโอนเงินค่าใช้จ่ายของนักเรียนทุน แยกเป็น ทุนในประเทศ โดยประสานสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นสถาบันฝ่ายผลิตให้จัดส่งรายละเอียดพร้อมหลักฐานของนักเรียนทุนทุกระดับ และทุนในต่างประเทศ โดยประสานสำนักงาน ก.พ. และโอนเงินค่าใช้จ่ายของนักเรียนทุนเพื่อให้ดำเนินการเกี่ยวกับนักเรียนทุนโครงการฯ ที่พร้อมจะเดินทางไปศึกษาได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน - กันยยาน ๒๕๕๓ จำนวน ๓๗ คน ประกอบด้วย ระดับปริญญาตรี ๔ คน และระดับปริญญาโท - เอก ๓๓ คน จากนักเรียนทุน ๖๑ คน ๑.๒ สกอ. ได้พิจารณาจัดสรรทุนที่เหลือจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยนำทุนที่เหลือจากการสอบแข่งขันฯ และงบประมาณของปี พ.ศ. ๒๕๕๓ มารวมกับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อพิจารณาจัดสรรทุนและประกาศสอบแข่งขันเพื่อรับทุนโครงการฯ ปีการศึกษา ๒๕๕๓ - -๒๕๕๔ ในระดับปริญญาตรี และปริญญาโท - เอก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และทุนระดับปริญญาตรี - โทในต่างประเทศ โดยการพิจารณาจัดสรรทุนในปีการศึกษา ๒๕๕๓ - ๒๕๕๔ เพื่อให้ได้สาขาวิชาที่มีความจำเป็น หรือขาดแคลน หรือเป็นสาขาวิชาที่ตอบสนองการพัฒนาศักยภาพของสถาบันอุดมศึกษา รวม ๑๙๖ ทุน ซึ่งผลการสอบแข่งขัน มีผู้สนใจสมัครสอบ จำนวน ๗๐๕ คน มีผู้สอบผ่านเพื่อรับทุนโครงการฯ จำนวน ๘๕ คน ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการรายงานผลการดำเนินโครงการฯ ต่อคณะรัฐมนตรีทุกสิ้นปีงบประมาณจนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาของโครงการฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
131 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แผนพัฒนาสุกรทั้งระบบและแผนปฏิบัติงาน พ.ศ. 2553 - 2557 | กษ | 24/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แผนพัฒนาสุกรทั้งระบบและแผนปฏิบัติงาน พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๕๗ ดังนี้
๑. พัฒนาฟาร์มสุกรให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานฟาร์ม ๓,๙๕๘ ฟาร์ม ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ๒. ส่งเสริมความรู้การจัดการของเสียในฟาร์มสุกรในพื้นที่ลุ่มน้ำวิกฤต จำนวน ๑,๘๙๓ ฟาร์ม ๓. ฟาร์มสุกรในพื้นที่สำนักสุขศาสตร์และสุขอนามัยที่ ๒ ได้รับการรับรองปลอดโรคปากและเท้าเปื่อย จำนวน ๑๓๙ ฟาร์ม จากฟาร์มสุกรที่เข้าร่วมโครงการ ๖๘๘ ฟาร์ม ๔. พัฒนาสถานที่จำหน่ายเนื้อสุกรต้นแบบที่สะอาดในตลาดสด จำนวน ๑๙๑ แห่ง ๕. ผู้ประกอบการโรงฆ่าสุกรในประเทศมีใบอนุญาต (ฆจส.๒) ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ จำนวน ๕๓๗ แห่ง ๖. กรมปศุสัตว์รับรองโรงอาหารสัตว์สำหรับสุกรผ่าน GMP จำนวน ๓๒ แห่ง และผ่าน HACCP จำนวน ๒๙ แห่ง ๗. คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์ เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. .... แทนฉบับเดิมที่ประกาศใช้ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ๘. ปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไข เนื่องจากขั้นตอนการขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้เสร็จสิ้นแล้ว และในช่วงเดือนมิถุนายน ๒๕๕๓ อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ ของสภาผู้แทนราษฎร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ในการดำเนินงานตามแผนพัฒนาสุกรทั้งระบบและแผนปฏิบัติงาน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
132 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การจัดทำหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่าง FAO กับรัฐบาลไทย ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม FAO COFI Sub-Committee on Aquaculture สมัยที่ 5 | กษ | 24/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การจัดทำหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization : FAO) กับรัฐบาลไทย ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (FAO COFI Sub-Committee on Aquaculture) สมัยที่ ๕ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับมอบอำนาจเต็ม (Full Power) จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ยอมรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ และดำเนินการตามบันทึกความรับผิดชอบของรัฐบาลไทย และ FAO สำหรับการประชุมฯ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมงได้จัดประชุม ระหว่างวันที่ ๒๗ กันยายน - ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ ณ จังหวัดภูเก็ต และได้ดำเนินงานตามหนังสือแลกเปลี่ยนและบันทึกความรับผิดชอบฯ เป็นที่เรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์ด้วยดี สำหรับค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมรวมทั้งสิ้น ๙,๗๓๔,๐๐๐ บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
133 | ความคืบหน้าในการดำเนินการตามมาตรการบริหารกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. 2552 - 2556)(รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่องมาตรการบริหารกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. 2552-2556) | นร | 24/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (ปคค.) รายงานผลการติดตามการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ความคืบหน้าในการดำเนินการตามมาตรการบริหารกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๕๒ - ๒๕๕๖) สรุปได้ ดังนี้
๑. มาตรการบริหารอัตรากำลังปกติ คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ได้ดำเนินการจัดสรรอัตราข้าราชการพลเรือนจากการเกษียณอายุเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการจัดสรรอัตราข้าราชการพลเรือน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และข้าราชการตำรวจ และได้มีมติจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุของข้าราชการปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยคำนึงถึงความจำเป็นของส่วนราชการแต่ละประเภท ประเภทของภารกิจ และประเภทตำแหน่ง ดังนี้ จัดสรรอัตราข้าราชการพลเรือนคืนให้ส่วนราชการทั้งหมด รวม ๒,๓๖๘ อัตรา โดยพิจารณาเกลี่ยกำลังคนตามความจำเป็นของส่วนราชการ จัดสรรอัตราข้าราชการตำรวจคืนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งหมด รวม ๒,๐๓๓ อัตรา เพื่อเกลี่ยเป็นอัตรากำลังตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการ คปร. กำหนด และจัดสรรอัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาคืนให้กระทรวงศึกษาธิการทั้งหมด รวม ๔,๖๓๙ อัตรา สำหรับการยุบเลิกอัตราลูกจ้างประจำ คปร. ได้ยุบเลิกอัตราลูกจ้างประจำที่ว่างจากการเกษียณอายุและว่างระหว่างปี ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ รวม ๙,๐๐๐ อัตรา จำแนกเป็นยุบเลิกจากอัตราว่างจากการเกษียณอายุ จำนวน ๖,๘๗๗ อัตรา และอัตราว่างระหว่างปี จำนวน ๒,๑๒๓ อัตรา ๒. มาตรการบริหารจัดการเชิงยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย ๒.๑ ยุทธศาสตร์การบริหารกำลังคนให้สอดคล้องกับความจำเป็นตามภารกิจ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ สำนักงาน ก.พ. ได้ดำเนินโครงการศึกษาทบทวนการใช้กำลังคนเพื่อปรับรูปแบบการจ้างงานและวางแผนปรับเปลี่ยนการใช้กำลังคนในส่วนราชการ เพื่อสำรวจข้อมูลการใช้กำลังคนภาครัฐประเภทต่าง ๆ (ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ) ในส่วนราชการ เพื่อเสนอแนะรูปแบบการใช้กำลังคนให้เหมาะสมกับภารกิจ ๒.๒ ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบการวางแผนและติดตามประเมินผลการใช้กำลังคน ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ สำนักงาน ก.พ. ได้ดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาแนวทาง วิธีการ และเครื่องมือสำหรับการวางแผนกำลังคนในส่วนราชการ ๒.๓ ยุทธศาสตร์การพัฒนาผลิตภาพและความคุ้มค่าของกำลังคนภาครัฐ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ สำนักงาน ก.พ. ได้ดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาองค์ความรู้สำหรับนำไปประกอบการกำหนดแนวทาง วิธีการ และเครื่องมือสำหรับการประเมินและพัฒนาผลิตภาพกำลังคน เพื่อให้ส่วนราชการใช้กำลังคนอย่างคุ้มค่า ๒.๔ ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการบริหารกำลังคน ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๔ สำนักงาน ก.พ. มีแผนที่จะปรับปรุงระบบสารสนเทศทรัพยากรบุคคลระดับกรม/จังหวัด โดยมุ่งเน้นความสมบูรณ์ ความครบถ้วน ความถูกต้อง และทันเวลาของข้อมูลข้าราชการพลเรือนสามัญ รวมทั้งพัฒนาและปรับปรุงฐานข้อมูลของพนักงานราชการและลูกจ้างประจำเพื่อให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการวางแผนกำลังคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้ส่งเสริมให้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารและประเมินผลการปฏิบัติราชการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
134 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการควบคุมและรับรองการจับสัตว์น้ำเพื่อป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำประมง IUU | กษ | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการควบคุมและรับรองการจับสัตว์น้ำเพื่อป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำประมง IUU ครั้งที่ ๓ ในช่วงเดือนกรกฎาคม - กันยายน ๒๕๕๓ โดยข้อมูลผลการดำเนินงาน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓ สรุปได้ ดังนี้
๑. ออกใบรับรองการจับสัตว์น้ำ จำนวน ๓,๒๗๔ ฉบับ (ใบรับรองการจับสัตว์น้ำ จำนวน ๒,๔๗๕ ฉบับ และใบรับรองการจับสัตว์น้ำแบบง่าย ๗๙๙ ฉบับ) ออกเอกสารรับรองสินค้าประมงจับก่อนวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๓ จำนวน ๖,๕๑๕ ฉบับ และออกเอกสารรับรองการแปรรูปสัตว์น้ำ (สำหรับวัตถุดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศ) จำนวน ๘๓๔ ฉบับ ๒. แจกจ่ายสมุดบันทึกการทำประมง (Logbook) ให้แก่เรือประมง จำนวน ๕,๖๒๓ ฉบับ ได้รับ Logbook กลับคืน จำนวน ๑๗,๖๕๓ ฉบับ และบันทึกข้อมูลลงระบบ จำนวน ๑๗,๔๘๑ ฉบับ ส่วนการออก Mobile Unit เพื่อเร่งรัดการจดทะเบียนเรือประมงและอาชญาบัตร ดำเนินการจดทะเบียนเรือได้ จำนวน ๖,๗๖๔ ลำ และบริการรับคำขอจดอาชญาบัตร จำนวน ๒,๒๔๔ ลำ ๓. ทำการตรวจสอบสุขอนามัยท่าเรือประมง จำนวน ๖๔ แห่ง ในจังหวัดชายทะเลครบตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมทั้งทำการคัดเลือกท่าเทียบเรือที่มีศักยภาพในการปรับปรุงปี พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวน ๒๐ ท่า รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบและประเมินสุขอนามัยเรือประมงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ จำนวน ๗๕๐ ลำ นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจประเมินสุขอนามัยเรือประมงในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ อบรมชาวประมง/เจ้าของเรือประมง และอบรมด้านสุขอนามัยให้แก่ผู้ประกอบการแพปลา องค์การสะพานปลา และท่าเทียบเรือ เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัด ๔. ดำเนินการประกวดราคาและจัดทำสัญญาเพื่อจ้างจัดทำระบบข้อมูลและการสร้างเครือข่ายข้อมูลการทำประมงของเรือประมงไทย ในวงเงินจัดจ้าง ๑๒,๗๙๐,๐๐๐ บาท โดยผู้รับจ้างดำเนินการตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓ กำหนดแล้วเสร็จ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ ๕. จัดชุดเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลางเพื่อเดินสายชี้แจงแก่เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดและสำนักงานประมงอำเภอ รวมทั้งดำเนินการจัดการประชาสัมพันธ์โดยส่วนกลางเป็นสารคดีทางโทรทัศน์ ๔ ตอน ทำสื่อสิ่งพิมพ์ในรูปของโปสเตอร์ต่าง ๆ แผ่นพับ Roll up เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและแนวทางปฏิบัติให้แก่ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ๖. จัดตั้งศูนย์ประสานงานการออกใบรับรองการจับสัตว์น้ำ (ศปส.) หรือศูนย์ IUU ภายในบริเวณกรมประมง กรุงเทพฯ เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโครงการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
135 | รายงานผลการติดตามการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ : การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน | นร | 11/01/2554 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (ปคค.) โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) รายงานผลการดำเนินการตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ที่ได้รับมอบหมายตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๓ โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้
๑. กำหนดให้ช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๖๓ เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน โดยมีเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ให้ต่ำกว่า ๑๐ คน ต่อประชากรหนึ่งแสนคน และจัดทำโครงการปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวนหมวกนิรภัย ๑๐๐% ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อบูรณาการทุกภาคส่วนในการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยในขณะขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ รวมทั้งได้เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พ.ศ. ... เพื่อกำหนดโครงสร้าง หน้าที่ของคณะกรรมการทั้งในระดับชาติ ระดับพื้นที่ เพื่อให้การดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง และบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สำหรับการจัดให้มีการเก็บภาษีรถจักรยานยนต์ในอัตราที่เหมาะสมตามขนาดเครื่องยนต์ (ซีซี) และการกำหนดแบบและมาตรฐานทางสัญจรและทางเท้าที่เอื้อต่อความปลอดภัยและความสะดวกของผู้ใช้ทุกกลุ่ม ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ศปถ. เพื่อพิจารณามอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป ๒. กระทรวงคมนาคมได้เสนอร่างกฎกระทรวง กำหนดลักษณะ หรือการจัดให้มีอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสำหรับคนพิการในโครงสร้างพื้นฐานและในระบบการขนส่งสาธารณะ พ.ศ. .... ขณะนี้อยู่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และในส่วนของกรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างพิจารณาแก้ไขปรับปรุงประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีตรวจหรือทดสอบสารอันเกิดจากการเมาสุราและกำหนดเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจตรวจหรือทดสอบหรือสั่งให้ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถในขณะปฏิบัติหน้าที่รับการตรวจหรือทดสอบ พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึ่งอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็น ตลอดจนศึกษาข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของระดับแอลกอฮอล์กับอุบัติเหตุ สำหรับการกำหนดแบบและมาตรฐานรถโดยสารสาธารณะเพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ศปถ. เพื่อพิจารณามอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
136 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการการจัดการเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง | กษ | 28/12/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๒) เรื่อง โครงการการจัดการเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง สรุปได้ ดังนี้
๑. ควบคุมการระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังไม่ให้ทำความเสียหายกับผลผลิตและท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง ในพื้นที่ ๒๐ จังหวัด โดยประชุมชี้แจงให้ความรู้ในการจัดการเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังและสนับสนุนสารเคมีในการฉีดพ่นเพื่อลดประชากรของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง และจากการดำเนินงานโครงการที่ผ่านมา สามารถควบคุมการระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังได้โดยในพื้นที่ดำเนินการไม่พบการระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง ๒. ป้องกันการแพร่กระจายของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังไปยังแหล่งปลูกมันสำปะหลังอื่น ในพื้นที่ ๔๕ จังหวัด โดยถ่ายทอดความรู้เรื่องการแช่ท่อนพันธุ์ การผลิตแมลงช้างปีกใสควบคุมเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง การตั้งศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน และจากการติดตามสถานการณ์การระบาด พบว่ามีพื้นที่ที่พบเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังกระจายอยู่ทั่วไปประมาณ ๒๓,๖๓๐ ไร่ ในพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศ ประกอบกับเป็นช่วงฤดูฝนจึงไม่พบการระบาดทำความเสียหายให้กับมันสำปะหลัง ๓. สำหรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างถูกวิธีและใช้ในกรณีที่จำเป็นเร่งด่วน นั้น กรมส่งเสริมการเกษตรได้แนะนำให้เกษตรกรใช้สารเคมีอย่างถูกต้องเฉพาะในช่วงแรกที่ต้องการลดประชากรของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง และการแช่ท่อนพันธุ์ในการป้องกันการแพร่กระจายของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ส่วนการควบคุมเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้ใช้ศัตรูธรรมชาติคือ แมลงช้างปีกใสเป็นหลัก รวมทั้งติดตามและเฝ้าระวังการระบาดโดยมีศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนเป็นผู้ดำเนินการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
137 | การทบทวนแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการติดตามและการรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องสำคัญ (มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2550) | นร | 30/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. อนุมัติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๐ เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการติดตามและการรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องสำคัญ ๒. เห็นชอบให้หน่วยงานของรัฐปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการติดตามและรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีและแบบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
138 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการสนับสนุนการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน โดยการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัย (ครั้งที่ 7) | วท | 25/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการสนับสนุนการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน โดยการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัย (โครงการ วมว.) ครั้งที่ ๗ โดยมีผลการดำเนินงานสรุปได้ ดังนี้
๑. สนับสนุนนักเรียนห้องเรียนวิทยาศาสตร์ของโครงการ วมว. ไปแล้ว ๓ รุ่น (ปีการศึกษา ๒๕๕๑, ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๓) รวม ๑๓ ห้องเรียน คือ ชั้น ม.๔ ม.๕ และ ม. ๖ ใน ๕ โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย โรงเรียนดรุณสิกขาลัย โรงเรียน มอ. วิทยานุสรณ์ และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มีเฉพาะชั้น ม.๔ รุ่นที่ ๓) ๒. จัดตั้งคณะกรรมการ ๒ ส่วน ได้แก่ คณะกรรมการบริหารโครงการ วมว. เป็นคณะกรรมการในระดับนโยบาย ทำหน้าที่วางนโยบายและแนวทางการดำเนินงาน รวมทั้งติดตามประเมินผลการดำเนินงานจัดทำห้องเรียนวิทยาศาสตร์ และคณะกรรมการ/คณะทำงานของมหาวิทยาลัย-โรงเรียน ที่เข้าร่วมโครงการ เป็นคณะกรรมการในระดับปฏิบัติการในการบริหาร/กำกับดูแลการจัดทำห้องเรียนวิทยาศาสตร์ ๓. ผลการดำเนินงานโดยสรุป ดังนี้ พัฒนาหลักสูตรการจัดการเรียนการสอนห้องเรียนวิทยาศาสตร์โครงการ วมว. ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๑, ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๓ ของทั้ง ๕ โรงเรียน จัดทำมาตรฐานหลักสูตรห้องเรียนวิทยาศาสตร์โครงการ วมว. จัดกิจกรรมร่วมระหว่างมหาวิทยาลัย-โรงเรียนในโครงการ วมว. จัดสัมมนา “การบริหารโครงการ วมว.” ดำเนินงานสนับสนุนและส่งเสริมให้นักเรียนโครงการ วมว. เข้าสู่มาตรฐานระดับนานาชาติ (World Class) และประสานขอความร่วมมือมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีคณะวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์อยู่ในที่ประชุมคณบดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยให้มีการรับนักเรียนโครงการ วมว. เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาโดยวิธีรับตรง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
139 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง โครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล โรคเขียวเตี้ย และโรคใบหงิก | กษ | 02/11/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะ
รัฐมนตรี เรื่อง โครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล โรคเขียว เตี้ย และโรคใบหงิก สรุปได้ดังนี้ ๑. การดำเนินงานตามแนวทางเร่งด่วนเพื่อยุติการระบาด ประกอบด้วย ๑.๑ ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือเป็นเงินสดในอัตราไร่ละ ๒,๒๘๐ บาท มีเกษตรการเข้าร่วมโครง การจำนวน ๙,๓๖๘ ราย คิดเป็นเงินทั้งสิ้น ๓๖๐.๖๘๖ ล้านบาท ๑.๒ ดำเนินการไถกลบต้นข้าวในอัตราไร่ละ ๓๕๐ บาท มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน ๙,๔๗๗ ราย พื้นที่ ๑๕๙,๖๔๐ ไร่ คิดเป็นเงินทั้งสิ้น ๕๕,๗๘๗ ล้านบาท ๑.๓ สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรในพื้นที่ที่มีการระบาดในอัตราไร่ละ ๑๕ กิโลกรัม จำนวน ๙๙,๑๕๓ ราย โดยใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวจำนวน ๘,๙๐๓.๖๑ ตัน คิดเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๖๐.๒๖๕ ล้านบาท ๒. การดำเนินงานต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาการระบาด ประกอบด้วย ๒.๑ การดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายทอดเทคโนโลยีการป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดด สีน้ำตาล โดยประชุมชี้แจงและฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เกษตรกรในพื้นที่ที่มีการระบาด จัด ทำแปลงสาธิต แปลงพยากรณ์การจัดตั้งศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน เป็นต้น ซึ่งผลจากการดำเนินงานเกษตรกรมี ความรู้ความเข้าใจในการป้องกันกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลตามคำแนะนำของทางราชการเพิ่มขึ้น ๒.๒ การดำเนินโครงป้องกันการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลอย่างยั่งยืน โดยผลิตเมล็ดพันธุ์ ที่ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลชั้นพันธุ์คัด พันธุ์หลัก จำนวน ๘ พันธุ์ รวมทั้งชั้นพันธุ์ขยายและชั้นพันธุ์จำหน่าย ซึ่งผลจากการดำเนินงานจะได้เมล็ดพันธุ์ที่ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ชั้นพันธุ์คัด ๒๐ ตัน ชั้นพันธุ์หลัก ๒๐๐ ตัน ส่วนเมล็ดพันธุ์ชั้นพันธุ์ขยายและพันธุ์จำหน่ายคาดว่าจะได้เมล็ดพันธุ์ต่ำกว่าเป้าหมายเนื่องจากประสบปัญหา อุทกภัย นอกจากนี้ เกษตรกรมีความรู้เพิ่มขึ้นจากการเข้าร่วมโครงการบริหารจัดการระบบนิเวศในนาข้าว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
140 | การรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาไก่ไข่ | กษ | 19/10/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๓ เกี่ยวกับ มาตรการแก้ไขปัญหาไก่ไข่ โดยผลการดำเนินมาตรการด้านราคา ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ปรับตัวลดลง ฟองละ ๒๐ สตางค์ ปริมาณไข่ไก่เพื่อบริโภคภายในประเทศช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ๒๕๕๓ เพิ่มขึ้น เดือนละประมาณ ๖.๕ ล้านฟอง จำนวนแม่พันธุ์ไก่ไข่ ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ ๔๖๘,๐๐๐ ตัว สามารถผลิตไก่ไข่ได้ประมาณ๔๒ ล้านตัว ไข่ไก่ประมาณ ๑๒,๔๓๒ ล้านฟอง ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ๒. ให้ขยายเวลาการรายงานผลการศึกษาปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่ และผลิตภัณฑ์ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ซึ่งเดิม กำหนดไว้ ๖๐ วัน คือภายในวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๕๓ ออกไปอีก ๓๐ วัน
|
.....