ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 82 จากทั้งหมด 137 หน้า แสดงรายการที่ 1621 - 1640 จากข้อมูลทั้งหมด 2735 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1621 | รายงาน "การสร้างความเป็นไทด้านพลังงาน" ในภาวะวิกฤตราคาน้ำมันแพง | พน | 08/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานรายงานการแก้วิกฤตน้ำมันแพงเพื่อลดการนำเข้า
น้ำมันจากต่างประเทศซึ่งมีราคาสูง โดยส่งเสริมให้รถยนต์ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และรถที่ใช้ในราชการ ทหาร ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้ก๊าซ NGV และลดภาษีรถยนต์ประจำปีให้กับรถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ และให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ขยายสถานีจำหน่ายก๊าซ NGV ให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่กรุงเทพ ฯ และปริมณฑล นอกจากนี้ ได้เร่งรัดมาตรการส่งเสริมการเปลี่ยนมาใช้รถโดยสารสาธารณะและระบบขนส่งมวลชน โดยการ รณรงค์ให้ประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะและระบบขนส่งมวลขน รวมทั้งรณรงค์มาตรการลดการใช้รถบรร ทุกเที่ยวเปล่าอย่างเข้มข้น โดยตั้งเป้าหมายในการลดการวิ่งรถบรรทุกเที่ยวเปล่า 6% ใน 5 ปี ซึ่งจะสามารถ ประหยัดการใช้น้ำมันได้ 787 ล้านลิตร และใช้มาตรการภาษีในภาคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ ใช้พลังงาน โดยร่วมกับกระทรวงการคลังและกรมสรรพากรพิจารณามาตรการภาษีเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน โดยนำผลประหยัดที่ได้จากการประหยัดพลังงานมาเป็นส่วนลดภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่ผู้ประกอบการภาค อุตสาหกรรม
|
||||||||||||||||||||||||
1622 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ 2548 (21 - 25 กุมภาพันธ์ 2548) | พณ | 08/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำ
สัปดาห์ที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ 2548 ตั้งแต่วันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ 2548 โดยภาวะราคาสินค้าหลังการปรับ ราคาน้ำมันดีเซลเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548 ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคโดยทั่วไปยังไม่เปลี่ยนแปลง ยกเว้น สินค้าบางรายการที่มีการเคลื่อนไหวขึ้นลงตามฤดูกาลและตามภาวะการส่งเสริมการขายในช่วงสั้น ๆ เนื่องจาก ผู้ประกอบการมีสต็อคสินค้าเก่าที่สามารถจำหน่ายได้อีกประมาณ 1-2 เดือน ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรม การค้าภายในได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้จำหน่ายสินค้าในราคาเท่าเดิมจนกว่าสต็อคเก่าหมดหรือหาก มีความจำเป็นที่ต้องปรับขึ้นราคาสินค้า ให้แจ้งกรมการค้าภายในพิจารณาพร้อมหลักฐานข้อเท็จจริง และหาก ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นโดยไม่มีเหตุผลสมควร หรือเกิดการขาดแคลนสินค้า อาจใช้มาตรการกฎหมายบังคับอย่าง เข้มงวด เช่น การกำหนดราคาจำหน่ายสูงสุด และการกำหนดปริมาณครอบครอง เป็นต้น นอกจากนี้ ได้ประชุม หารือร่วมกับห้างสรรพสินค้าและซัฟพลายเออร์ เพื่อขอความร่วมมือให้จำหน่ายสินค้าในราคาที่เป็นธรรม หาก มีการปรับขึ้นราคาให้แจ้งกรมการค้าภายในทราบ เพื่อพิจารณาราคาที่เหมาะสมต่อไป และให้คงราคาอาหาร ปรุงสำเร็จในศูนย์อาหาร (Food Court) เท่าเดิม รวมทั้งได้กวดขันการปิดป้ายแสดงราคา หากผู้ประกอบการ รายใดฝ่าฝืนจะถูกโทษปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
|
||||||||||||||||||||||||
1623 | การดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายข้าว (ครั้งที่ 7 - 9/2547 และ 1-2/2548) | พณ | 01/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพินิจ จารุสมบัติ) ประธานคณะกรรมการ
นโยบายข้าวรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายข้าว (กนข.) ตามมติที่ประชุม กนข. ครั้งที่ 7 /2547-9/2547 และครั้งที่ 1/2548-2/2548 เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2547, 20, 27 ธันวาคม 2547, 7 มกราคม 2548 และ 14 กุมภาพันธ์ 2548 ตามลำดับ สรุปได้ดังนี้ การกำหนดคุณภาพข้าวเปลือกหอม มะลิในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่รับจำนำตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 ซึ่งประสบภาวะภัยแล้ง ให้คงคุณภาพมาตรฐานข้าวหอมมะลิในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งประสบภาวะ ภัยแล้งแล้วเกิดข้าวเมล็ดท้องไข่ให้เป็นไปตามประกาศมาตรฐานกระทรวงพาณิชย์ ที่ระบุว่า ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ให้มีข้าวเมล็ดท้องไข่ไม่เกินร้อยละ 6 และให้คงอัตราแปรสภาพ อัตราส่งมอบ และอัตราค่าฝากเก็บข้าว สารโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 ตามหลักเกณฑ์เดิมที่วางไว้ ส่วนการปรับหลัก เกณฑ์การเปิดจุดรับจำนำนอกพื้นที่ ได้มีการเปิดจุดรับจำนำนอกพื้นที่เฉพาะโรงสีที่ตั้งอยู่ในภาคเดียวกัน และ /หรือในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกันเท่านั้น กรณีที่จังหวัดนั้นยังมีโรงสีที่เปิดจุดรับจำนำไม่เพียงพอ ให้ผู้ว่าราช การจังหวัดพิจารณาอนุมัติเปิดจุดรับจำนำนอกพื้นที่แทนประธาน กนข. ได้ตามความจำเป็น เว้นแต่โรงสีที่ไม่ ได้ตั้งอยู่ในภาคเดียวกัน จะต้องให้ประธาน กนข. เป็นผู้พิจารณาอนุมัติ สำหรับการขยายระยะเวลารับจำนำ ข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 ให้ปรับระยะเวลาการรับจำนำในภาคใต้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม-15 พฤษภาคม 2548 และให้มีการรับจำนำข้าวเปลือกจากเกษตรกรในช่วงเดือนเมษายน 2548 ในราคารับจำนำ ข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 ในส่วนของการดำเนินการกับโรงสีและท่าข้าวที่มีพฤติกรรมเอารัดเอา เปรียบเกษตรกรในการชั่งน้ำหนัก การวัดความชื้น การหักสิ่งเจือปน และการนำข้าวชนิดอื่นมาปลอมปนกับ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ได้มีการพิจารณาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการต่ออายุหนังสืออนุญาตประกอบการค้าข้าวให้ผู้ ประกอบการที่มีพฤติกรรมกระทำความผิดดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างนำลงในราชกิจจานุเบกษาและใช้บังคับ ต่อไป นอกจากนี้ ยังมีผลการดำเนินงานในส่วนอื่น ๆ ได้แก่ การอนุมัติข้าวสารเจ้า 5% เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบ สาธารณภัย จำนวน 1,000 ตัน การบริจาคข้าวขาว 25% จำนวน 1,000 ตัน ให้ประเทศบูร์กินาฟาโซ และ การดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด กรณีข้าวสารโกดังกลางขององค์การตลาดเพื่อเกษตร (อ.ต.ก.) ในจังหวัด พิจิตรสูญหาย และข้าวสารในโกดังกลางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ในจังหวัดสมุทรปราการที่อยู่ระหว่าง การฟ้องร้องดำเนินคดีและถูก ป.ป.ช. อายัดไว้
|
||||||||||||||||||||||||
1624 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ 2548 (14 - 18 กุมภาพันธ์ 2548) | พณ | 01/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำ
สัปดาห์ที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ 2548 ตั้งแต่วันที่ 14-18 กุมภาพันธ์ 2548 โดยความเคลื่อนไหวราคาสินค้าใน ช่วงสัปดาห์นี้มีดังนี้ สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ ไข่ไก่ ราคาลดลงร้อยละ 1.85 ผักบุ้งจีนและผักชี ราคาลดลงร้อย ละ 15.15 และ 10 ตามลำดับ ส่วนสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ ตะปู ราคาสูงขึ้นร้อยละ 0.96 น้ำมันเชื้อเพลิงเบน ซิน 91 และ 95 ราคาสูงขึ้นร้อยละ 4.24 และ 4.06 ตามลำดับ เม็ดพลาสติก ราคาสูงขึ้นร้อยละ 2-4.65 ไก่สด ราคาสูงขึ้นร้อยละ 1.90 มะนาว ราคาสูงขึ้นร้อยละ 26.74 และกล้วยหอม ราคาสูงขึ้นร้อยละ 25 ในส่วนของปุ๋ย เคมีมีทั้งราคาลดลงและสูงขึ้น โดยปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 ราคาลดลงร้อยละ 1.27 ในขณะที่ปุ๋ยเคมีสูตร 16-20- 0 ราคาสูงขึ้นร้อยละ 0.54 สำหรับสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะการแข่งขันและกลยุทธ์การขายในระยะ สั้น เช่น ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำซีอิ๊ว น้ำตาลทราย ปลากระป๋อง และแชมพู เป็นต้น ส่วนการรับเรื่องร้อง เรียนกรณีที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงไม่จำหน่ายน้ำมันให้กับประชาชนในช่วงที่มีการปรับราคาน้ำมันเบนซิน เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2548 จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย สถานีบริการน้ำมัน ปตท. จำนวน 2 ราย และ Q8 จำนวน 1 ราย กระทรวงพาณิชย์ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันดังกล่าวพบว่า น้ำมันหมดจริง และได้มีการสั่งน้ำมันมาเพิ่มเติมในวันเดียวกันทำให้สามารถจำหน่ายได้ตามปกติ
|
||||||||||||||||||||||||
1625 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค | 22/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎ
หมายฯ) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ย หวัดบำนาญ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้ผู้ได้รับหรือมีสิทธิได้รับเบี้ยหวัดบำนาญซึ่งได้รับเบี้ย หวัดหรือบำนาญรวมกับ ช.ค.บ. แล้วต่ำกว่าเดือนละห้าพันหนึ่งร้อยบาท ให้ได้รับ ช.ค.บ. เพิ่มอีกในอัตราเดือน ละเท่ากับส่วนต่างของจำนวนเงินห้าพันหนึ่งร้อยบาท หักด้วยจำนวนเบี้ยหวัดหรือบำนาญรวมกับ ช.ค.บ. ที่ได้ รับอยู่ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ทั้งนี้ คณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ มีความ เห็นว่า การเพิ่มเงินช่วยค่าครองชีพ มีลักษณะเป็นการปรับเพิ่มจำนวนเงินให้ถึง 5,100 บาทสำหรับผู้ที่ได้รับ ต่ำกว่า โดยไม่ต้องปัดเศษของบาททิ้งแต่อย่างใด รวมทั้งวันใช้บังคับของร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ สมควรแก้ไข ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ทั้งนี้ ในการประกาศในราชกิจจานุ เบกษา หากดำเนินการประกาศให้มีผลใช้บังคับในวันที่ 1 ของเดือน ก็จะเป็นประโยชน์ในการคำนวณเงิน ช.ค.บ. ได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ สำนักงบประมาณมีความเห็นว่า เพื่อให้ผู้ได้รับหรือมีสิทธิได้รับเบี้ยหวัด บำนาญสามารถดำรงชีพอยู่ได้ตามสมควรและเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจในอนาคต ควรกำหนดมาตรการ ให้มีการปรับเพิ่มเงินเบี้ยหวัดบำนาญให้สอดคล้องกันในโอกาสต่อไปด้วย โดยให้กระทรวงการคลังรับความ เห็นดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
1626 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2548 (7 - 11 กุมภาพันธ์ 2548) | พณ | 22/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำ
สัปดาห์ที่ 2 เดือนกุมภาพันธ์ 2548 ตั้งแต่วันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ 2548 โดยความเคลื่อนไหวราคาสินค้าในช่วง สัปดาห์นี้มีดังนี้ สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ ไข่ไก่ ราคาลดลงร้อยละ 1.82 ส่วนสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ ไก่สด /ส้มเขียวหวาน/กล้วยหอม ราคาสูงขึ้นร้อยละ 7.14, 15.52 และ 33.38 ตามลำดับ และผักคะน้า/ผักบุ่ง/ผักชี ราคาสูงขึ้นร้อยละ 12.50, 32 และ 25 ตามลำดับ สำหรับการดำเนินงานของกรมการค้าภายใน ได้จัดงานเทศ กาลรณรงค์บริโภคอาหารทะเล "อาหารทะเลธงฟ้า สด ประหยัด ปลอดภัย" และจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ราคาประหยัด ระหว่างวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2548 ณ จังหวัดภูเก็ตและกระบี่เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความ มั่นใจในการบริโภคอาหารทะเลว่ามีความปลอดภัย รวมทั้งช่วยให้ชาวประมงและผู้เลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่ประสบ ภัยสามารถจำหน่ายสัตว์น้ำและผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้นและช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
1627 | รายงานสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ | กษ | 22/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานสถานการณ์ภัยแล้งและการให้
ความช่วยเหลือ ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2548 โดยสถานการณ์ทั่วไป พื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ความแห้งแล้ง รวม ทั้งสิ้น 55 จังหวัด พื้นที่การเกษตรเสียหายจำนวน 53 จังหวัด คาดว่า จะเสียหายด้านพืชประมาณ 19.21 ล้าน ไร่ มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจประมาณ 14,725 ล้านบาท โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับความเสีย หายด้านพืชมากที่สุด คือ 8.5 ล้านไร่ ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ มีปริมาตรน้ำใช้ การได้ร้อยละ 47 ของความจุอ่างที่ใช้การได้ (20,870 ล้าน ลบ.ม.) อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคอง ลำพระเพลิง ทับเสลา กระเสียว แก่งกระจาน และปราณบุรี มีปริมาตรน้ำน้อย รวมทั้งสภาพน้ำในแม่น้ำสายต่าง ๆ ทั่ว ประเทศอยู่ในเกณฑ์น้อย และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนสภาพความเค็มของน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ใน เกณฑ์ปกติ สำหรับการให้ความช่วยเหลือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือโดยสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ เข้าช่วยเหลือการเพาะปลูกข้าวนาปรัง พืชไร่ การอุปโภค-บริโภค การใช้เงินทดรองราชการของจังหวัดเพื่อช่วย เหลือเกษตรกรที่ประสบภัยฝนทิ้งช่วง จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อติดตามสภาวะอากาศ เพื่อปฏิบัติการ ทันทีที่สภาพอากาศอำนวย นอกจากนี้ ได้มีแผนรับสถานการณ์ในช่วงฤดูแล้งปี 2548 ของหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเป็นแนวทางในการบูรณาการการดำเนินงานให้สอดคล้อง ประสาน และเป็นเอกภาพ รวมทั้งได้จัดทำโครงการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งในระยะเร่งด่วนเฉพาะพื้นที่เป้า หมาย ได้แก่ โครงการพัฒนาโครงข่ายน้ำและการเกษตรแบบบูรณาการ (น้ำแก้จน) โดยได้จัดทำระบบชล ประทานและบูรณาการเกษตรควบคู่กัน โครงการแหล่งน้ำในไร่นา โครงการพัฒนาดิน โครงการพัฒนาแหล่ง น้ำขนาดเล็ก โครงการระบบส่งน้ำในไร่นา โครงการปรับปรุงแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อพัฒนาแหล่งผลิตชุมชน และโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในไร่นอกเขตชลประทาน
|
||||||||||||||||||||||||
1628 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือนมกราคม 2548 (24 - 28 มกราคม 2548) | พณ | 15/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือนมกราคม 2548 ตั้งแต่วันที่ 24-28 มกราคม 2548 โดยแนวโน้มราคาสินค้าใน ช่วงสัปดาห์นี้ ราคาสุกรชำแหละ และไก่สดมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน สำหรับความเคลื่อนไหวราคาสินค้า มีดังนี้ สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ ปุ๋ยเคมี (46-0-0) ราคาลดลง ร้อยละ 4.07 ส่วนสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน 91 และ 95 ราคาสูงขึ้นร้อยละ 2.16 และ 2.07 ตามลำดับ เม็ดพลาสติก ราคาสูงขึ้นร้อยละ 4.17-6.25 ไก่สดและไข่ไก่ ราคาสูงขึ้นร้อย ละ 2 และ 1.85 ตามลำดับ ส้มเขียวหวาน ราคาสูงขึ้นร้อยละ 7.84 นอกจากนี้ ยังมีสินค้าที่มีการเปลี่ยน แปลงตามภาวะการแข่งขันและกลยุทธ์การขายในระยะสั้น เช่น น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย ผง ซักฟอก และแชมพู เป็นต้น รวมทั้งได้จัดหน่วยบริการตรวจสอบความเที่ยงตรงเครื่องชั่งตามตลาดสดใน เขตกรุงเทพ ฯ และปริมณฑล ประจำปี พ.ศ. 2548 เพื่อให้การรับรองเครื่องชั่งที่มีความเที่ยงตรงและคุ้ม ครองผู้บริโภคไม่ให้ถูกเอาเปรียบในด้านน้ำหนักสินค้า โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม-14 พฤษภาคม 2548
|
||||||||||||||||||||||||
1629 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือน กุมภาพันธ์ 2548 (31 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์ 2548) | พณ | 15/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำ
สัปดาห์ที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ 2548 ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2548 - 4 กุมภาพันธ์ 2548 โดยแนวโน้มราคา สินค้าในช่วงสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันเบนซินในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2548 เป็นต้นมา สำหรับความเคลื่อนไหวราคาสินค้า มี ดังนี้ สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ ไก่สด ราคาลดลง ร้อยละ 3.92 ส่วนสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ เม็ดพลาสติก ราคาสูงขึ้นร้อยละ 1.16-1.18 ส้มเขียวหวาน ราคาสูงขึ้นร้อยละ 9.09 ผักคะน้า และผักบุ้ง ราคาสูงขึ้นร้อยละ 21.21 และ 13.64 ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังมีสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะการแข่งขันและกลยุทธ์ การขายในระยะสั้น เช่น ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำปลา น้ำซีอิ๊ว ปลากระป๋อง สบู่ และผง ซักฟอก เป็นต้น รวมทั้งได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ตรวจ สอบเครื่องชั่ง และประชาสัมพันธ์การปิดป้ายแสดงราคาและบริการในช่วงเทศกาลตรุษจีน ณ ตลาดคลองเตย และตลาดพรานนก/ตลาดบางขุนศรี จากการตรวจสอบพบว่าภาวะราคาสินค้าโดยทั่วไปปกติ แต่ปริมาณการ จำหน่ายลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และไม่พบพฤติกรรมการกระทำผิดแต่อย่างใด
|
||||||||||||||||||||||||
1630 | การปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของข้าราชการฝ่ายตุลาการและดะโต๊ะยุติธรรม | นร | 15/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของข้าราช
การฝ่ายตุลาการและดะโต๊ะยุติธรรม โดยเห็นชอบในหลักการให้ข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรมและดะโต๊ะยุติ ธรรมได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 ใน อัตราร้อยละ 3 โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ให้เจียดจ่ายจากงบประมาณของศาลยุติธรรมก่อน หากไม่ เพียงพอให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป และให้ข้าราชการอัยการและตุลาการศาลปกครองได้รับ เงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวตามภาวะเศรษฐกิจในทำนองเดียวกันกับข้าราชการตุลาการ ฯ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษา ยน 2547 เป็นต้นไป สำหรับงบประมาณให้เจียดจ่ายจากงบประมาณของหน่วยงานก่อน หากไม่เพียงพอให้ ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ และโดยที่การได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวตามภาวะเศรษฐกิจของข้า ราชการอัยการจะต้องดำเนินการดำเนินการ โดยตราพระราชกฤษฎีกาตามนัยมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2521 และสำหรับตุลาการศาลปกครองจะต้องดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมกฎ หมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง จึงให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการยกร่าง พระราชกฤษฎีกา ฯ แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา คดีปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ให้เป็นไปตามแนวทางดังกล่าว แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
1631 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือนมกราคม 2548 (17 - 21 มกราคม 2548) | พณ | 08/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนมกราคม 2548 ตั้งแต่วันที่ 17 - 21 มกราคม 2548 โดยความเคลื่อนไหวราคา สินค้าในช่วงสัปดาห์นี้ สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดเหล็กรางน้ำ (ขนาด 100 x 50 x 5 มม./6 ม.) ราคาลดลงร้อยละ 4.92 ตะปู ราคาลดลงร้อยละ 1.89 ปุ๋ยเคมี (สูตร 46-0-0) และ ยากำจัดศัตรูพืช (ตราแลนแนท 40%) ราคาลดลงร้อยละ 0.40 และ 3.13 และผักชี ราคาลดลงร้อยละ 16.67 ส่วนสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ เม็ดพลาสติก ราคาสูงขึ้นร้อยละ 3.90-5.19 ถุงพลาสติก ราคาสูง ขึ้นร้อยละ 2.78-6.25 ไก่สดและไข่สด ราคาสูงขึ้นร้อยละ 2.04 และ 1.89 รวมทั้งมะนาว ราคาสูงขึ้นร้อย ละ 6.86 สำหรับสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะการแข่งขันและกลยุทธ์การขายในระยะสั้น เช่น ผลิต ภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำซีอิ๊ว สบู่ ผงซักฟอก แป้งผงโรยตัว และผ้าอนามัย เป็นต้น นอกจากนี้ ได้มี การประชุมระหว่างกรมการค้าภายในกับกรมประมง องค์การสะพานปลา สมาคมการประมงแห่งประเทศ ไทย และสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป เพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาจำหน่ายปลาตกต่ำใน พื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ โดยให้มีการรณรงค์การบริโภค การเชื่อมโยงการซื้อ-ขายโดยตรงระหว่างแหล่ง ผลิตและแหล่งบริโภค ในกรณีที่มีปัญหาปริมาณสัตว์น้ำทะเลล้นตลาดจะนำเสนอคณะกรรมการนโยบาย และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) พิจารณานำสัตว์น้ำทะเลที่ล้นตลาดจำนวนหนึ่งเก็บเข้าห้องเย็น เพื่อสร้างอำนาจต่อรองทางการตลาดต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
1632 | รายงานสถานการณ์วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ปี 2546 และแนวโน้ม ปี 2547 | อก | 01/02/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอรายงานสถานการณ์วิสาหกิจขนาด
กลางและขนาดย่อม ปี 2546 ที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดทำขึ้น โดย สาระสำคัญของรายงานประกอบด้วย 5 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 เป็นการสรุปภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจของ ประเทศที่ส่งผลถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของไทย ส่วนที่ 2 แสดงถึงสถานภาพและ แนวโน้มของ SMEs และการศึกษาเครืองชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ SMEs ส่วนที่ 3 เป็นนโยบายที่เกี่ยวข้องกับ การส่งเสริมและสนับสนุน SMEs รวมทั้งการรายงานผลการดำเนินการของโครงการส่งเสริมและสนับสนุน SMEs ที่สำคัญในปี 2546 และนโยบายด้านต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับ SMEs ส่วนที่ 4 เป็นการรายงาน ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีของกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิคของการส่ง เสริมและสนับสนุน SMEs และสาระสำคัญของการเจรจาเพื่อจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีในระดับทวิภาคีของ ไทยกับประเทศต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ไทย และส่วนที่ 5 เป็นการราย งานผลการสำรวจและประเมินผลกระทบของมาตรการและโครงการส่งเสริม SMEs ภาครัฐ และแนวโน้มปี 2547
|
||||||||||||||||||||||||
1633 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือนมกราคม 2548 (4 - 7 มกราคม 2548) | พณ | 25/01/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำ
สัปดาห์ที่ 1 เดือนมกราคม 2548 ตั้งแต่วันที่ 4-7 มกราคม 2548 โดยแนวโน้มราคาสินค้าในช่วงสัปดาห์นี้ ผัก ใบจะมีราคาลดลงตามปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญ เติบโต ส่วนความเคลื่อนไหวราคาสินค้า สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดรูปตัวซี (ขนาด 75x45x15x2.3 มม./6ม.) ราคาลดลงร้อยละ 0.96 เม็ดพลาสติก ราคาลดลงร้อยละ 1-6.98 ปุ๋ยเคมี (15-15- 15) ราคาลดลงร้อยละ 0.91 สำหรับสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ สุกรชำแหละ ราคาสูงขึ้นร้อยละ 5.71 ไก่สดและ ไข่ไก่ ราคาสูงขึ้นร้อยละ 4.40 และ 1.96 ตามลำดับ ส้มเขียวหวาน ราคาสูงขึ้นร้อยละ 11.11 และผักบุ้งจีน ราคา สูงขึ้นร้อยละ 28 นอกจากนี้ ยังมีสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะการแข่งขันและกลยุทธ์การขายในระยะสั้น เช่น ผลิตภัณพ์นม น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำซีอิ๊ว น้ำตาลทราย สบู่ ผงซักฟอก แชมพู ผ้าอนามัย และถ่านไฟฉาย เป็นต้น ในส่วนของการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยพิบัติ 6 จังหวัดภาคใต้ ได้มีการตรึงราคาวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ ประสบภัย 6 จังหวัดภาคใต้ เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2548 โดยผู้ที่ได้รับความเสียหาย โดยตรงจะลดราคาจำหน่ายพิเศษ ในอัตราร้อยละ 5-15 รวมทั้งทยอยจัดส่งผลิตภัณฑ์ไก่เพื่อช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่ได้รับความเสียหายในจังหวัดกระบี่และพังงา เป็นลำดับแรก จำนวน 3.2 ตัน และ 4 ตัน ตามลำดับ
|
||||||||||||||||||||||||
1634 | สถานการณ์และความก้าวหน้าในการดำเนินงานแก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนก | นร | 25/01/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) ประธาน
คณะกรรมการการพิจารณาแก้ไขสถานการณ์โรคไข้หวัดนกเสนอสถานการณ์และความก้าวหน้าในการดำเนิน งานแก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนก ระหว่างวันที่ 8 ธันวาคม 2547 ถึงวันที่ 17 มกราคม 2548 สรุปดังนี้ สถาน การณ์โรคไข้หวัดนกในคน ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 17 มกราคม 2548 ไม่พบผู้ป่วยหรือผู้เสียชีวิต เพิ่ม สถานการณ์ในสัตว์ปีก พบพื้นที่มีเชื้อไข้หวัดนกที่อยู่ระหว่างการควบคุมเฝ้าระวังยังไม่ครบ 21 วัน จำนวน 6 ตำบล 5 อำเภอ ในจังหวัดพิษณุโลก สุพรรณบุรี และระยอง สถานการณ์ในนกธรรมชาติ ตรวจพบเชื้อ จำนวน 13 ตัวอย่าง จาก 62 จังหวัด โดยพบในจังหวัดนครสวรรค์ สระบุรี ฉะเชิงเทรา ลพบุรี และปราจีนบุรี จากการเฝ้าระวังการติดเชื้อในสัตว์ปีก พบการติดเชื้อในตัวอย่างที่ส่งตรวจในนกธรรมชาติ ร้อยละ 1.63 เป็ด ไล่ทุ่ง ร้อยละ 29.80 และไก่พื้นเมือง ร้อยละ 54.33 และได้มีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับประเทศเพื่อน บ้านเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ มาปรับใช้กับสถานการณ์ของประเทศไทย รวมทั้งผลักดันให้มีเครือ ข่ายประสานความร่วมมือในการจัดการปัญหา ทั้งในภาวะปกติและฉุกเฉินร่วมกัน ระหว่าง 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย เขตปกครองพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สำหรับความก้าว หน้าในการเตรียมแผนยุทธศาสตร์และแผนฉุกเฉินได้เร่งรัดให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณ สุข ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเข้มงวด ต่อเนื่อง ในการเฝ้าระวังตาม นโยบายเอกซเรย์ทุกพื้นที่ และมีการรายงานผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขสถานการณ์โรคไข้ หวัดนกอย่างสม่ำเสมอ และได้มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาโรคไข้หวัดนก พ.ศ. 2548 - 2550 ประกอบด้วยยุทธศาสตร์ 6 ประการ คือ ปศุสัตว์ปลอดโรค การเฝ้าระวังและควบคุมระหว่างการระบาด การ สร้างและจัดการองค์ความรู้ การพัฒนาศักยภาพองค์กร/บุคลากร/ห้องปฏิบัติการ สร้างการมีส่วนร่วมของ ชุมชน/สังคม และการพัฒนากลไก/ระบบการควบคุมโรคบูรณาการ ส่วนการใช้วัคซีนในการป้องกันควบคุม โรคในสัตว์ปีก ให้มีการเตรียมพร้อมวัคซีนไข้หวัดนกสามารถนำมาใช้ได้ทันที หากจำเป็นฉุกเฉิน ให้ศึกษาติด ตามความคืบหน้าของสถานการณ์และพิจารณาทางเลือก รวมทั้งแนวทางการปฏิบัติหากต้องใช้วัคซีนในสัตว์ ปีก รวมถึงประสานงานกับต่างประเทศเพื่อดำเนินการดังกล่าว และมอบให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งดำเนิน การวางแผนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ที่เชื่อมโยงกับไข้หวัดนกให้แล้วเสร็จ ใน 2 สัปดาห์ (24 มกราคม 2548) และให้สามารถปฏิบตัการเตรียมพร้อมให้ได้ภายใน 2 เดือน
|
||||||||||||||||||||||||
1635 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนมกราคม 2548 (10 - 14 มกราคม 2548) | พณ | 25/01/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำ
สัปดาห์ที่ 2 เดือนมกราคม 2548 ตั้งแต่วันที่ 10-14 มกราคม 2548 โดยแนวโน้มราคาสินค้าในช่วงสัปดาห์ นี้ ราคาผลิตภัณฑ์เหล็กและพลาสติกมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องตามราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลงในตลาดต่าง ประเทศ ส่วนไก่สดและไข่ไก่ คาดว่าราคาจะแข็งตัวขึ้น เป็นผลจากการมีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ในขณะ ที่การบริโภคเริ่มปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ ในด้านความเคลื่อนไหวราคาสินค้า สินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ เหล็ก เส้นชนิดเส้นกลม (ขนาด 9 มม.) ราคาลดลงร้อยละ 0.44 ท่อพีวีซีและถุงพลาสติก ราคาลดลงร้อยละ 5.50 และ 1.37-5.88 ตามลำดับ ผักบุ้งจีนและผักชี ราคาลดลงร้อยละ 31.25 และ 14.29 ตามลำดับ สำหรับสินค้า ที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ ไก่สดและไข่ไก่ ราคาสูงขึ้นร้อยละ 3.16 และ 1.92 ตามลำดับ ส้มเขียวหวานและมะนาว ราคาสูงขึ้นร้อยละ 2 และ 8.02 ตามลำดับ นอกจากนี้ ได้มีการปรับลดราคาแนะนำเหล็กเส้นตามต้นทุนวัตถุ ดิบ ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาเหล็กเส้นและเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ประกอบด้วย การ ปรับลดราคาแนะนำเหล็กเส้นกลม SR 24 เหล็กข้ออ้อย SD 30 และเหล็กข้ออ้อย SD 40 ในส่วนของราคาแนะ นำเหล็กแผ่น ได้ให้ผู้ผลิตกำหนดราคาจำหน่ายให้สอดคล้องกับต้นทุน
|
||||||||||||||||||||||||
1636 | การรักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิ | พณ | 25/01/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานการดำเนินการรักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิ
จากกรณีที่มีข่าวการตรวจพบและจับกุมโรงสีและฉางข้าวที่ปลอมปนข้าวปทุมธานีกับข้าวหอมมะลิในหลายจังหวัด เช่น ขอนแก่น ศรีสะเกษ เพื่อจะนำมาเข้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 ในภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ โดยจุดที่มีการปลอมปนมากที่สุด คือ จังหวัดนครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ มหาสาร คาม ร้อยเอ็ด และขอนแก่น และจากการที่เกษตรกรได้นำข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1 ไปเพาะปลูกในภาคตะวันออก เฉียงเหนือ อาจส่งผลให้ผู้บริโภคทั้งภายในและต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นในคุณภาพข้าวหอมมะลิ กระทรวง พาณิชย์จึงได้ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทยรักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิ โดยมอบหมายให้จังหวัดที่เป็นแหล่ง ผลิตข้าวหอมมะลิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือรณรงค์รักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิในจังหวัด โดยกำกับดูแลการซื้อ ขายข้าวหอมมะลิ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตและการแปรสภาพข้าวหอมมะลิที่ได้มาตรฐานเป็นที่น่า เชื่อถือ โดยให้การรับรองโรงสีที่ผลิตและจำหน่ายข้าวหอมมะลิที่ได้มาตรฐาน รวม 5 จังหวัด จำนวน 31 ราย รวมทั้งกำหนดมาตรฐานข้าวหอมมะลิและตรวจสอบคุณภาพข้าวหอมมะลิเพื่อการส่งออกอย่างเข้มงวด โดยบริษัท ผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (Surveyor) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการค้าต่างประเทศ และจะมีการ สุ่มตรวจสอบทางพันธุกรรม (DNA) อีกชั้นหนึ่ง รวมถึงการกำหนดมาตรฐานข้าวหอมปทุมธานีเพื่อให้สามารถ จำแนกข้าวหอมปทุมธานีออกจากข้าวหอมมะลิไทยได้อย่างชัดเจน ส่วนการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 ตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2547 - 18 มกราคม 2548 ปริมาณรับจำนำรวมทั้งสิ้น 2,620,662 ตัน ยังไม่ปรากฏว่ามีการนำข้าวชนิดอื่นมาผสมปลอมปนและนำมาจำนำเป็นข้าวเปลือกหอมมะลิ หากในระยะต่อไปพบว่า มีการนำข้าวชนิดอื่นผสมปลอมปน และนำมาจำนำเป็นข้าวหอมมะลิ หรือส่งมอบเข้า โกดังกลางขององค์การคลังสินค้า ก็สามารถเรียกรับค่าเสียหายได้ โดยหักออกจากวงเงินค้ำประกันที่โรงสีและ โกดังกลางนำมาเป็นหลักฐานวางค้ำประกันไว้ สำหรับภาวะราคาข้าวหอมมะลิ ณ วันที่ 18 มกราคม 2548 ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิซื้อขายในตลาดทั่วไปเฉลี่ยตันละ 7,700 - 8,400 บาทต่ำกว่าราคารับจำนำที่กำหนด ไว้ ตันละ 9,700 - 10,000 บาท ส่งผลให้เกษตรกรนำข้าวเปลือกหอมมะลิมาจำนำมากกว่าที่จะขายในตลาด ทั่วไป ดังนั้น จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ระมัดระวังในการให้ข่าวเกี่ยวกับการปลอมปนข้าวหอมมะลิ เพื่อมิให้เกิด ผลกระทบต่อความเชื่อถือของผู้บริโภคและภาพลักษณ์ของข้าวหอมมะลิไทย รวมทั้งการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
1637 | การจำหน่ายมันเส้นตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2547/48 | พณ | 25/01/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการแทรก
แซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2547/48 เพิ่มเติม สรุปดังนี้ คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตร กร ได้ปรับเปลี่ยนการดำเนินโครงการ ฯ ใหม่เพื่อให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรสูงสุด โดยปรับเพิ่มปริมาณ รับจำนำ จาก 5 ล้านตันหัวมันสด เป็น 10 ล้านตันหัวมันสด ปรับราคารับจำนำจากกิโลกรัมละ 1.20 บาท เป็นกิโลกรัมละ 1.50 บาท ให้แปรสภาพหัวมันสดเป็นมันเส้นและแป้งมัน ฯ และจำหน่ายมันเส้นและแป้งมัน ฯ เพื่อการส่งออก เกษตรกรสามารถนำหัวมันสดมาจำนำกับโครงการฯ รายละไม่เกิน 500 ตัน หรือคิดเป็นมูล ค่าไม่เกิน 750,000 บาท รวมทั้งให้องค์การคลังสินค้าประกาศจำหน่ายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่แปรสภาพ จากหัวมันสำปะหลังสด จำนวน 5 ล้านตัน ด้วยวิธีการประมูล สำหรับปริมาณการจำหน่ายสามารถกำหนด แต่ละครั้งในปริมาณที่เหมาะสมกับภาวะตลาดภายในและการส่งออก นอกจากนี้ ได้จัดให้มีการประมูลเพื่อ จำหน่ายมันสำปะหลังเส้น จำนวน 210,000 ตัน ที่ได้จากการแปรสภาพหัวมันสดที่รับจำนำตามโครงการ แทรกแซงตลาดมันสำปะหลังฤดูการผลิต ปี 2547/48 มีผู้สนใจยื่นซองประมูลจำนวน 7 ราย ในปริมาณ ระหว่าง 32,400-210,000 ตัน ราคาระหว่าง 3,200-4,220 บาท/ตัน และได้อนุมัติให้ขายมันสำปะหลัง เส้นจำนวน 210,000 ตัน ให้กับบริษัทเยเนรัล มิลล์ จำกัด ในราคาตันละ 4,220 บาท มูลค่า 886.20 ล้าน บาท ตามที่คณะกรรมการระบายมันเส้น ปี 2547/48 เสนอ เนื่องจากบริษัทได้เสนอซื้อในปริมาณและราคา ที่สูงที่สุดจากผู้เสนอซื้อทั้ง 7 ราย และราคาที่บริษัท ฯ เสนอซื้อสูงกว่าราคามันเส้นในประเทศที่ซื้อขายกันอยู่ ระหว่างราคา 2,880-3,650 บาท/ตัน และสูงกว่าประมาณการต้นทุนมันเส้นที่แปรสภาพแล้ว คือ 4,183 บาท/ตัน ทำให้รัฐสามารถได้กำไรจากการขายประมาณ 8 ล้านบาท ทั้งนี้ องค์การคลังสินค้าจะได้แจ้งผลให้ ผู้ชนะการประมูลมาทำสัญญาซื้อขาย และวางหลักประกันสัญญา ร้อยละ 5 ของมูลค่า ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันที่ได้รับทราบผล
|
||||||||||||||||||||||||
1638 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยสุขลักษณะของตลาด พ.ศ. .... | สธ | 25/01/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2.1 (ฝ่าย
การศึกษาและการสาธารณสุข) ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วย สุขลักษณะของตลาด พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรการควบคุมหรือกำกับ ดูแลกิจการตลาด ตลอดจนกำหนดมาตรฐานสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการดำรงชีพของประชาชน วิธี การดำเนินการเพื่อตรวจสอบควบคุม หรือกำกับดูแล แก้ไขสิ่งที่จะมีผลกระทบต่อสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะ สมกับการดำรงชีพของประชาชน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้ปรับปรุง ร่างกฎกระทรวง ฯ ข้อ 31 ที่กำหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นอาศัยอำนาจตามมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติ การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ออกคำสั่งให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการตลาดเอกชน ซึ่งการออกคำสั่งให้ พักใช้ใบอนุญาตต้องอาศัยอำนาจตามมาตรา 59 ด้วย ตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1639 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประจำเดือนธันวาคม 2547 | อก | 18/01/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม
ประจำเดือนธันวาคม 2547 โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายน 2547 มีค่า 136.86 ไม่เปลี่ยน แปลงมากนักจากเดือนตุลาคม 2547 (136.37) โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ลดลงเล็กน้อย ได้แก่ การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม การผลิตสบู่และผงซักฟอก การ ผลิตผลิตภัณฑ์ยาสูบ สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนพฤศจิกายน 2547 มีค่า 66.65 ไม่เปลี่ยน แปลงมากนักจากเดือนตุลาคม 2547 (66.89) โดยอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลง เล็กน้อย ได้แก่ การผลิตผลิตภัณฑ์ยาสูบ การผลิตปูนซีเมนต์ ปูนขาวและปูนปลาสเตอร์ และการผลิตยาน ยนต์ สำหรับภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2547 มีดังนี้ อุตสาหกรรมอาหาร การส่งออก ขยายตัวตามฤดูกาล การผลิตและการจำหน่ายเส้นใยสิ่งทอ ฯ และเสื้อผ้าสำเร็จรูปมีแนวโน้มปรับตัวในทิศ ทางที่ดีขึ้น ภาวะอุตสาหกรรมเหล็ก ความต้องการใช้เหล็กในประเทศปี 2548 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอุตสาห กรรมรถยนต์มีปริมาณการผลิตค่อนข้างทรงตัว การผลิตอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ในภาวะทรงตัว และ การผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศลดลง
|
||||||||||||||||||||||||
1640 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 5 เดือนธันวาคม 2547 (27 - 30 ธันวาคม 2547) | พณ | 18/01/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 5 เดือนธันวาคม 2547 ตั้งแต่วันที่ 27-30 ธันวาคม 2547 โดยแนวโน้มราคาสินค้าใน ช่วงสัปดาห์นี้มีแนวโน้มลดลงตามภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง รวมทั้งราคาผลิตภัณฑ์เหล็ก มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากราคาวัตถุดิบต้นน้ำในตลาดโลกราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง และภาวะการจำหน่าย ในประเทศซบเซา ในด้านความเคลื่อนไหวราคาสินค้า มีสินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ เหล็กเส้นชนิดเส้นกลม (ขนาด 9 มม.) ราคาลดลงร้อยละ 0.87 ผักบุ้งจีน ราคาลดลงร้อยละ 16.67 ส่วนสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ ไข่ไก่ ราคาสูงขึ้นร้อยละ 2 ส้มเขียวหวานและมะนาว ราคาสูงขึ้นร้อยละ 7.14 และร้อยละ 8 ตาม ลำดับ และสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตามภาวะการแข่งขันและกลยุทธ์การขายในระยะสั้น เช่น ผลิตภัณฑ์ นม น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำปลา น้ำซีอิ๊ว น้ำตาลทราย สบู่ ผงซักฟอก และแชมพู เป็นต้น สำหรับ การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยพิบัติ 6 จังหวัดภาคใต้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้จัดส่งเจ้า หน้าที่ทั้งในพื้นที่และส่วนกลาง (Mobile Unit) ออกตรวจสอบราคาสินค้า เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสทาง การ และได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้นำสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าไปจำหน่ายในพื้นที่ประสบภัยให้มี ปริมาณเพียงพอโดยเฉพาะวัสดุก่อสร้างได้ขอให้มีการจัดสรรสินค้าและจำหน่ายในราคาพิเศษ ตลอดจนจัด ถุงยังชีพ ประกอบด้วย ข้าวสารและอาหารแห้งไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนเพื่อเป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้า
|
.....