รูปแบบการแสดงผล |
C
C
C
A
A
A
รูปแบบการแสดงผล |
C
C
C
ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
กรุณาป้อนคำค้นหา
วันที่มีมติ
Start date:
End date:
ถึง
เลขที่หนังสือ/ปี
ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง
กรมการปกครอง ( ปค )
กรมประชาสัมพันธ์ ( กปส )
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ( สถ )
กรรมการ ( กรรมการ )
กระทรวง/ทบวง/กรม ( เวียน )
กระทรวงกลาโหม ( กห )
กระทรวงกลาโหม ( กห(เก่า) )
กระทรวงการคลัง ( กค )
กระทรวงการคลัง ( กค(เก่า) )
กระทรวงการต่างประเทศ ( กต )
กระทรวงการต่างประเทศ ( กต(เก่า) )
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ( กก )
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม )
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ( อว )
กระทรวงคมนาคม ( คค )
กระทรวงคมนาคม ( คค(เก่า) )
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( ดศ )
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ทส )
กระทรวงพลังงาน ( พน )
กระทรวงพาณิชย์ ( พณ )
กระทรวงพาณิชย์ ( พณ(เก่า) )
กระทรวงมหาดไทย ( มท )
กระทรวงมหาดไทย ( มท(เก่า) )
กระทรวงยุติธรรม ( ยธ )
กระทรวงยุติธรรม ( ยธ(เก่า) )
กระทรวงวัฒนธรรม ( วธ )
กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ( วท )
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ( วว. )
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน ( วทพ )
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( วท )
กระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ )
กระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ(เก่า) )
กระทรวงสาธารณสุข ( สธ )
กระทรวงสาธารณสุข ( สธ(เก่า) )
กระทรวงอุตสาหกรรม ( อก )
กระทรวงอุตสาหกรรม ( อก(เก่า) )
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( กษ )
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( กษ(เก่า) )
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( ทก )
กระทรวงแรงงาน ( รง )
กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ( รส )
กรุงเทพมหานคร ( กทม )
กรุงเทพมหานคร ( กทม )
กลุ่มงานดูแลและพัฒนาศักยภาพนักเรียนทุนพระราชทานในโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ( กพน. )
กลุ่มงานเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี ( กคอ )
กองการประชุมคณะรัฐมนตรี ( กปค )
กองการประชุมคณะรัฐมนตรี ( กปค. )
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ( กสศ )
กองนิติธรรม ( กนธ )
กองบริหารงานสารสนเทศ ( กบส )
กองพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ ( กพต )
กองวิเคราะห์เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ( กวค )
กองส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี ( กสค )
กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ( กอค )
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ( กอ.รมน. )
การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท )
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท )
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ( กทพ )
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ )
การประปานครหลวง ( กปน )
การประปาส่วนภูมิภาค ( กปภ )
การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ( ปตท )
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ( รฟม )
การรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท )
การไฟฟ้านครหลวง ( กฟน )
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ )
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ )
คณะกรรมการ ( คกก )
คณะกรรมการ กปนร. ( กปนร. )
คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( ลต )
คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ( กนร )
คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ( คปร )
คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชน ( คชช )
คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ( กนศ )
คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ( คชก )
คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ( ปสส )
คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการพัฒนาประเทศ ( คปป. )
คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ ( กงช )
คณะกรรมการว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน ( ปปร )
คณะกรรมาธิการ ( คกธ )
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ( ปข )
ทบวงมหาวิทยาลัย ( ทม )
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธกส )
ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท )
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ( บสท )
บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( บอย )
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ( กบท )
บริษัท การปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ( ปตท )
บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด ( บทม )
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ( นร61 )
บัณฑิต ( นิด้า )
ปธ.คกก.นโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น ( ปธคกก.ถั่ว )
ปธ.คกก.นโยบายป่าไม้แห่งชาติ ( ปธ.คกก.ป่า )
ปธ.คกก.นโยบายยางธรรมชาติ ( ปธ.คกก.ยาง )
ประธาน ( ปธ )
ประธานสมัชชาผู้ขับรถแท็กซี่แห่งประเทศไทย ( ส.ผท.ท. )
ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม (คสช.) ( กก.คสช. )
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ( มข )
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ( มธ )
มหาวิทยาลัยนเรศวร ( มน )
มหาวิทยาลัยบูรพา ( มบ )
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ( มร )
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ( มสธ )
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ( มก )
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ( มช )
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ( มทส )
รอง นรม ( รอง นรม )
ราชบัณฑิตยสถาน ( รถ )
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ( รจภ. )
ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ( ศปมผ. )
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ( ศมส. )
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ( ศมส. )
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอบต )
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( นร52 )
ศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ( นร54 )
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ( สคช )
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ( บจธ )
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ( บจธ. )
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ( นิด้า )
สถาบันพระปกเกล้า ( พป )
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ( สวพส. )
สนง.คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( กลต )
สภากาชาดไทย ( กช )
สภาสถาปนิก ( สภส )
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ( สขช )
สำนักงบประมาณ ( สงป )
สำนักงาน ป.ย.ป. ( นร15 )
สำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดถัยและสร้างสรรค์ ( พปส. )
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ( กฟก )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( นร62 )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ( สสส. )
สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ( สทบ. )
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ( สตง )
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ( กพท. )
สำนักงานคกก.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปช )
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ( สคก )
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ( สกศ )
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต )
สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ( สขค )
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช )
สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( ทช )
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ( ก.ค.ศ. )
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ( กพ )
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ( สคบ )
สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ( สจร )
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ( สพช )
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( นร63 )
สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ ( ปรร )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท. )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ปปส )
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ( กพร )
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สศช )
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( กร )
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( วช )
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( วช )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( นร13 )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( สกท )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ( สกสค. )
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ( สม )
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ( สช )
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย )
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ( ตผ )
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ตช )
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ( นร14 )
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ( ทก. )
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ( สนค )
สำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน(องค์การมหาชน) ( สปท )
สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้(องค์การมหาชน) ( สบร )
สำนักงานปฏิรูปการศึกษา ( สปศ )
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ( สป.กห )
สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( สป.ดท )
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ( สปน )
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปง )
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง )
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ( ผผ )
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ( ผร )
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ. )
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ )
สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ( สพค. )
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ( สมศ )
สำนักงานศาลปกครอง ( ศป )
สำนักงานศาลยุติธรรม ( ศย )
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ( ศร )
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( นร53 )
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ( สวส. )
สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ( สอซช. )
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ( สศส03 )
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช )
สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สสป )
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( นร.11 )
สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ( สกช. )
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. )
สำนักงานอัยการสูงสุด ( อส )
สำนักงานเลขาธิการ ( สลธ )
สำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ( คมช )
สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา ( สภ )
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ( สว )
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ( สผ )
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ( สศอ )
สำนักนายกรัฐมนตรี ( นร )
สำนักนิติธรรม ( สนธ )
สำนักบริหารกลาง ( สบก )
สำนักบริหารงานสารสนเทศ ( สบส )
สำนักพระราชวัง ( พว )
สำนักพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ ( สพต )
สำนักราชเลขาธิการ ( รล )
สำนักวิเคราะห์เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ( สวค )
สำนักส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี ( สปค )
สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ( สอค )
สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( สลธ.คสช. )
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ( สลค )
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ( สลน )
สำนักโฆษก ( สน.ฆ )
สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( สกพอ )
สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก, การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ+ส )
หน่วยงานอื่น ๆ ( อื่นๆ )
องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ( ส.ส.ท )
องค์การคลังสินค้า ( อคส )
องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ( อตก )
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) ( อพท )
องค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ. )
องค์การบริหารส่วนตำนล ( อบต. )
องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ( รสพ. )
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ( อสค )
องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย ( อสมท )
องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน ( ปรส )
เนคเทค ( เนคเทค )
เวียนรัฐมนตรี ( ว(ร) )
ค้นหา
ล้างคำค้น
คู่มือการใช้งาน
หน้าที่ 87 จากทั้งหมด 137 หน้า แสดงรายการที่ 1721 - 1740 จากข้อมูลทั้งหมด 2735 รายการ
ลำดับ
ชื่อเรื่อง
ส่วนราชการ
เจ้าของเรื่อง
วันที่มีมติ
1721
รายงานการติดตามสถานการณ์ภัยธรรมชาติ (ด้านการเกษตร) ในช่วงฤดูแล้งปี 2547 ช่วงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 5 เมษายน 2547
กษ
07/04/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานการติดตามสถานการณ์ภัย
ธรรมชาติ (ด้านการเกษตร) ในช่วงฤดูแล้ง ปี 2547 ช่วงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 5 เมษายน 2547 ของศูนย์
เฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติ (ด้านการเกษตร) ในการติดตามสภาวะอากาศ การแจ้งเตือน
ภัย การรายงานสถานการณ์ และการให้ความช่วยเหลือ โดยการติดตามสภาวะอากาศและการแจ้งเตือนภัย
ได้แจ้งเตือนภัยธรรมชาติในช่วงฤดูแล้ง จำนวน 12 ครั้ง โดยมีคำเตือนเกี่ยวกับพายุลมแรง มวลอากาศเย็น
คลื่นลมแรง พายุฝนและลมกระโชกแรง พายุฤดูร้อน และลูกเห็บ ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดความเสียหายด้าน
การเกษตร ส่วนการกำหนดพื้นที่ปลูกพืชฤดูแล้งให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำ กรมชลประทานได้ประกาศให้
เกษตรกรงดปลูกข้าวนาปรัง ครั้งที่ 2 ไปแล้ว 2 ครั้ง สำหรับสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน จากการสำรวจ
ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศอยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 61 ของความจุเก็บกักหรือ 41,314 ล้าน
ลูกบาศก์เมตร ซึ่งน้อยกว่าปี พ.ศ. 2546 ในช่วงเวลาเดียวกันประมาณร้อยละ 14 ยกเว้นอ่างเก็บน้ำแม่กวง
อ่างเก็บน้ำกิ่วลม อ่างเก็บน้ำทับเสลา อ่างเก็บน้ำน้ำอูน มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุเก็บกัก
ซึ่งกรมชลประทานสามารถบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อการเพาะปลูกในช่วงนี้ได้ นอกจากนี้ ยังมีผลการ
ช่วยเหลือเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำ ผลการปฏิบัติการฝนหลวง และสรุปพื้นที่ประสบภัยธรรมชาติใน
ช่วงฤดูแล้ง ซึ่งคาดว่าจะมีพื้นที่ที่เกิดความเสียหายจากภาวะภัยแล้ง จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพง
เพชร เชียงราย สุโขทัย บุรีรัมย์ และปัตตานี
1722
การดำเนินงานด้านสตรีของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
พม
07/04/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอผลการ
ดำเนินงานด้านสตรี โดยได้มีการแต่งตั้งผู้บริหารของกระทรวงและกรม ตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองปลัดและรอง
อธิบดี เป็น CGEO และตั้งหน่วยงานระดับกอง/สำนัก เป็น Gender Focal Point และประสานให้มีการจัดทำ
แผนแม่บทการส่งเสริมความเสมอภาคหญิงชาย และจัดเก็บข้อมูลแยกเพศ และได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ
ขจัดความรุนแรงในครอบครัว ให้คณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีและครอบครัวแห่งชาติเห็นชอบ
ในการประชุมประจำเดือนมีนาคม 2547 ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี ในส่วนร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมโอกาส
ที่เท่าเทียมกันในสังคม (กฎหมายว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีทุกรูปแบบ) อยู่ระหว่างดำเนินการ
ยกร่างกฎหมายดังกล่าว สำหรับการแก้ไขกฎหมายเพื่อคุ้มครองสตรี (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276
(ว่าด้วยความผิดทางเพศ) อยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนการแก้ไข
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 246, 247 (การทุเลาโทษหญิงมีครรภ์ติดคุก) ได้เสนอ
คณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีและครอบครัวแห่งชิต เห็นชอบในการประชุมประจำเดือนเมษา
ยน 2547 ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี นอกจากนี้ ยังมีผลการดำเนินงานในส่วนของการจัดทำและเผยแพร่หนัง
สือคู่มือ "ผู้หญิงกับกฎหมาย", "ชุดส่งเสริมสถาบันครอบครัว", "ผู้หญิงชุมชนและ อบต." แก่แกนนำสตรีใน
พื้นที่ 876 อำเภอ ส่งเสริมศักยภาพสตรีให้มีส่วนร่วมทางการเมืองทุกระดับ โดยในปี พ.ศ. 2546 เริ่มในพื้น
ที่ที่องค์การบริหารส่วนตำบลครบวาระและเลือกตั้งใหม่ 616 แห่ง ปี พ.ศ. 2547 ดำเนินการในพื้นที่ 2,141
แห่ง จัดตั้งศูนย์ข้อมูลสารสนเทศด้านสตรี มีเวบไซต์ชื่อ www.women-family.go.th สนับสนุนงบประมาณแก่
องค์กรสตรีทุกจังหวัด และกรุงเทพ เพื่อทำกิจกรรมปีละ 4.3 ล้านบาท รวมทั้งจัดตั้งศูนย์บริการช่วยเหลือ
เด็กและสตรีในภาวะวิกฤติจากความรุนแรง (One Stop Crisis Center-OSCC) โดยในปี พ.ศ. 2546 จัดตั้งใน
โรงพยาบาล 20 แห่ง ปี พ.ศ. 2547 จะจัดตั้งครบทุกจังหวัด ในชื่อ "ศูนย์พึ่งได้"
1723
พิธีสารว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทยกับกระทรวงการต่างประเทศอาเซอร์ไบจาน
กต
07/04/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ เห็นชอบต่อร่างพิธีสารว่าด้วยความร่วม
มือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทยกับกระทรวงการต่างประเทศอาเซอร์ไบจาน ทั้งนี้ ให้กระทรวงการต่าง
ประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงสาระหรือถ้อยคำในส่วนที่ไม่กระทบต่อสาระสำคัญของพิธีสาร ฯ ได้ และอนุมัติให้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมอบหมาย เป็นผู้ลง
นามพิธีสาร ฯ ดังกล่าวในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย สำหรับสาระสำคัญของพิธีสาร ฯ มีวัตถุประสงค์
เพื่อมุ่งพัฒนาความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศทั้งสอง สนับสนุนให้มีการจัดการเจรจาและปรึกษา
หารือทวิภาคีในระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือในระดับอื่น ๆ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
ตลอดจนร่วมมือและปรึกษาหารือเพื่อประสานท่าทีของแต่ละฝ่ายในกรอบขององค์การระหว่างประเทศ และเวที
ต่าง ๆ เสริมสร้างภาวะที่เอื้ออำนวยสำหรับการปฏิสัมพันธ์ของตัวแทนทางการทูต และส่งเสริมการแลกเปลี่ยน
ข้อสนเทศระหว่างกัน เป็นต้น
1724
กระทู้ถามที่ 1308 ร. เรื่อง การพัฒนาขยายโรงพยาบาลศูนย์มะเร็ง จังหวัดลพบุรี
สผ
30/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 1308 ร. เรื่อง การ
พัฒนาขยายโรงพยาบาลศูนย์มะเร็ง จังหวัดลพบุรี ของนายนิยม วรปัญญา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด
ลพบุรี และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า กระทรวงสาธารณสุข
มีนโยบายที่จะเร่งขยายปรับปรุงโรงพยาบาลศูนย์มะเร็ง จังหวัดลพบุรี เพื่อให้มีเครื่องมือตรวจรักษาได้อย่าง
พร้อมเพรียง โดยในเบื้องต้นได้จัดแผนความต้องการเครื่องมือแพทย์ ในปี พ.ศ. 2547 ขณะนี้อยู่ระหว่างการ
พิจารณาในการพัฒนาสถานบริการ ตติยภูมิของการประกันสุขภาพ (Excellent Center) และเพิ่มศักยภาพ
ขีดความสามารถเครื่องมือให้สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดโดยเฉพาะเครื่อง
มือที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ประกอบด้วย 1. เครื่องใส่แร่ชนิดความแรงสูง (High dose rate) จำนวน 1 เครื่อง
เพื่อแก้ปัญหาการรอคิวรักษานาน และลดความทรมานผู้ป่วยที่ต้องใช้เวลาในการรักษานาน 10-15 ชั่วโมง/
ครั้ง 2. เครื่องฉายรังสีเร่งอนุภาคพลังงาน 6 และ 10 MV และ Electron beam จำนวน 1 เครื่อง เพื่อลด
ภาวะที่ผู้ป่วยล้นห้องฉาย และต้องรอคิวการรักษานาน 3. เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์จำลองการฉายรังสี
(CT.Simulator) ชนิด 3 มิติ 4. เครื่องคอมพิวเตอร์วางแผนการรักษา ชนิด 3 มิติ 5. เครื่อง Mammotome ชุด
เจาะตรวจชิ้นเนื้อของมะเร็งเต้านม 6. เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ชนิด Spiral 7. เครื่องเร่งอนุภาคชนิด Multi
leaf 8. เครื่องตรวจวัดและวิเคราะห์ปริมาณรังสี (Radiation Beam Scanner) 9. เครื่อง MRI 10. โคมไฟผ่าตัด
และ 11. เครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุมแรงดันด้วยปริมาตร
1725
รายงานผลการพิจารณาศึกษาเรื่องความรุนแรงต่อสตรีในครอบครัว
สว
30/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอรายงานผลการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ความรุนแรงต่อสตรีในครอบครัวของคณะกรรมาธิการกิจการสตรี เยาวชนและผู้สูงอายุ วุฒิสภา โดย
ผลการศึกษาในเรื่องนี้ คณะกรรมาธิการ ฯ ได้สรุปสาเหตุของความรุนแรงซึ่งเกิดจากปัญหาในระดับและมิติ
ต่าง ๆ ได้แก่ จารีตประเพณี โครงสร้างทางสังคม โครงสร้างทางการเมือง การบริหาร และกฎหมาย ปัญหา
ทางด้านสภาวะทางกายและทางจิต และการกระตุ้นจากสิ่งเร้าภายนอก ในการนี้คณะกรรมาธิการ ฯ ได้มีข้อ
เสนอแนะการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านกฎหมาย ควรมีแนวทางการใช้มาตรการ
ทางกฎหมาย แก้ไขปรับปรุง รวมทั้งจัดทำกฎหมายเฉพาะที่เกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว ได้แก่ การ
แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 การแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หมวด 6 การกำหนด
กฎหมายพิเศษเฉพาะ การชะลอการฟ้อง การคุมประพฤติ วิธีการเพื่อความปลอดภัย และศาลครอบครัว
ทั้งนี้ มอบให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงวัฒนธรรม
กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับไปพิจารณาดำเนินการ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
#
หน่วยงาน
ชื่อเอกสาร
1
ยืนยันมติ (5188/2547)
2
ยืนยันมติ (5189/2547)
3
เรื่องเข้าใหม่ (สายครม.) (1039/2547)
1726
การดำเนินงานของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)
สธ
30/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการดำเนินงานของสถาบันวิจัย
ระบบสาธารณสุข (สวรส.) ระหว่างปี พ.ศ. 2545-2546 ได้แก่ งานวิจัยที่เป็นฐานความรู้ให้กับภาคประชา
คมและภาคีการวิจัย เพื่อให้สามารถร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์ นโยบาย และภาพของระบบสุขภาพอันพึง
ประสงค์ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับชาติ นวัตกรรมงานวิจัยและกระบวนการทางวิชาการ
ให้เกิดเครื่องมือในการพัฒนากลไกองค์กร และวิธีการในการบริหารจัดการให้ระบบสุขภาพที่พึงประสงค์ให้
เกิดผลเป็นจริงดำเนินการได้ รวมทั้งให้เกิดการยอมรับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สร้างเครือข่ายนักวิจัยที่เป็น
พื้นฐานในการพัฒนาองค์ความรู้ และเครื่องมือจำเป็นในระบบสุขภาพที่กำลังปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเพื่อ
เป็นหลักประกันว่า การปฏิรูประบบสุขภาพที่ดำเนินอยู่นี้สามารถตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของคน
ในสังคม นอกจากนี้ สวรส. กำลังพัฒนากระบวนการและเครือข่ายนักวิจัยที่เข้ามาร่วมมือกันศึกษาประเมิน
ผลลัพธ์และผลกระทบจากการดำเนินการของกระบวนการต่าง ๆ ในระบบสุขภาพอย่างต่อเนื่องเป็นการ
เรียนรู้ร่วมกันระหว่างกลุ่มประชาคมต่าง ๆ เพื่อร่วมกันปรับเปลี่ยนให้ระบบสุขภาพสามารถตอบสนองต่อ
ประชาชนไทยได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง ทั้งนี้ แผนงานวิจัยในปี พ.ศ. 2545-2546 สวรส. ได้จัดแผนงาน
วิจัยเป็น 7 แผนหลัก ประกอบด้วย แผนงานวิจัยการอภิบาลระบบสุขภาพ แผนงานวิจัยนโยบายสาธารณะ
เพื่อสุขภาพและระบบการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ แผนงานวิจัยระบบการควบคุมป้องกันภาวะคุก
คามทางสุขภาพ แผนงานวิจัยระบบบริการสุขภาพ แผนงานวิจัยระบบวิจัยสุขภาพ แผนงานวิจัยระบบข้อ
มูลข่าวสารสุขภาพ และแผนงานวิจัยระบบสร้างเสริมศักยภาพผู้บริโภค
1727
รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประจำเดือนมีนาคม 2547
อก
30/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม
ประจำเดือนมีนาคม 2547 โดยดัชนีอุตสาหกรรม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนกุมภาพันธ์ 2547 มีค่า
133.58 เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2547 (133.22 ) ร้อยละ 0.3 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน
(117.20) ร้อยละ 13.97 ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนกุมภาพันธ์ 2547 มีค่า 62.37 เพิ่มขึ้นจาก
เดือนมกราคม 2547 (61.75) ร้อยละ 1 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (54.26) ร้อยละ 14.95
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบด้านบวกต่อดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2547 เมื่อเทียบ
กับเดือนมกราคม 2547 ได้แก่ ยานยนต์ ผลิตภัณฑ์เหล็ก ผลิตภัณฑ์จากคอนกรีต ซีเมนต์และปูนปลาสเตอร์
การผลิตเครื่องจักรที่ใช้งานทั่วไปอื่น ๆ การแปรรูปผลไม้และผัก และอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนอุตสาหกรรมส่งผล
กระทบด้านลบ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม การผลิตน้ำตาล การผลิตเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ยาง และอาหารสัตว์
สำเร็จรูป ในส่วนดัชนีแรงงานในภาคอุตสาหกรรมเดือนกุมภาพันธ์ 2547 เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2547
ร้อยละ 0.22 เป็นผลมาจากการขยายตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรม สำหรับภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
ในเดือนมีนาคม อุตสาหกรรมอาหารมีมูลค่าการผลิตและการส่งออกที่ลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากไข้
หวัดนก อุตสาหกรรมแฟชั่น มีแนวโน้มจะขยายตัวทั้งการผลิตและการส่งออก โดยรัฐบาลมีกิจกรรมสนับสนุน
จากโครงการกรุงเทพ ฯ เมืองแฟชั่น อย่างต่อเนื่อง การผลิตยานยนต์ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก
ความต้องการของผู้บริโภคมีมากขึ้น และการเพิ่มขึ้นของราคาเหล็กเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม 2547 ค่อน
ข้างคงที่หลังจากที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงต้นปี
1728
การจัดทำแผนยุทธศาสตร์และคำรับรองการปฏิบัติราชการของกระทรวงนำร่องเพิ่มเติม
นร
23/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.)
เสนอแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงนำร่องเพิ่มเติม และให้จัดทำคำรับรองปฏิบัติราชการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้รับ
ความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้ แผนยุทธศาสตร์จะต้องกำหนดเจ้าภาพที่จะรับผิด
ชอบดำเนินการให้ชัดเจนและพิจารณาทบทวนทุกปี หากยุทธศาสตร์ใดไม่สามารถดำเนินการได้อย่างบรรลุผล
หรือเห็นว่า เป็นทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ก็ควรปรับปรุงให้เหมาะสมต่อไป และให้ทุกกระทรวงเร่งดำเนินการ ปรับ
ปรุง พัฒนาการให้บริการประชาชนตามอำนาจหน้าที่ให้เป็นการให้บริการแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-services)
ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐที่จะปรับกระบวนการบริหารราชการ โดยใช้เทคโนโลยีสาร
สนเทศ (e-government) รวมทั้งให้รัฐมนตรีและปลัดกระทรวงให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเองให้มีภาวะผู้
นำ มีความรู้และทักษะที่ทันกับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีต่าง ๆ และสามารถใช้เครื่องมือ เทค
โนโลยี และระบบข้อมูลข่าวสารมาเป็นประโยชน์ในการปฎิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ คณะ
รัฐมนตรีมีความเห็นสำหรับแต่ละกระทรวงนำร่องเพิ่มเติม ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ควรจัดฝึกอบรม
พัฒนา และเพิ่มพูนความรู้ให้แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับคลินิกการเกษตร ส่วนยุทธศาสตร์การถ่ายทอดเทคโน
โลยี หนึ่งตำบล หนึ่งฟาร์มตัวอย่าง ควรเร่งดำเนินการโดยถือเป็นการลงทุนจากภาครัฐ ให้เกษตรตำบลเป็น
ผู้รับผิดชอบ และให้เกษตรกรเข้าร่วมงาน ผลผลิตที่ได้ให้นำไปใช้เป็นค่าตอบแทนให้แก่เกษตรกร ที่เหลืออาจ
เก็บไว้เป็นสวัสดิการของฟาร์ม และการดำเนินการของฟาร์มตัวอย่างให้ใช้ปุ๋ยชีวภาพ โดยหลีกเลี่ยงการใช้สาร
เคมี และพิจารณาภาพรวมความต้องการปศุสัตว์ทั้งหมดของประเทศว่ามีส่วนที่เกินจากความสามารถที่ผลิตได้
เองภายในประเทศ และพิจารณาการดำเนินการอื่น ๆ ให้ครบวงจร เช่น การจัดตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์
จากปศุสัตว์ในพื้นที่ที่เหมาะสม เป็นต้น และคำนึงถึงการอนุรักษ์พันธุ์ปศุสัตว์พื้นเมืองของไทย เช่น ควาย เป็น
ต้น การส่งเสริมการผลิตและการดำเนินการเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตของเกษตรกร ควรพิจารณาเลือก
ประเภท/ชนิดการผลิต การจัดพื้นที่การเพาะปลูก (zoning) ให้เหมาะสม และจัดทำโครงการพิเศษเพื่อจูงใจ
เกษตรกรในการเปลี่ยนแปลงอาชีพหรือเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต โดยรัฐรับประกันรายได้และชดเชยรายได้
ตลอดจนควบคุมดูแล และให้ความสำคัญกับคุณภาพและมาตรฐานด้านสุขอนามัยของโรงฆ่าสัตว์และการแปร
รูปอาหารสัตว์เป็นพิเศษ ประสานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยว
ข้องเพื่อควบคุม ดูแลสัตว์ป่า และการนำสัตว์ป่าบางชนิดมาเลี้ยงเพื่อการบริโภคที่ชัดเจน เร่งศึกษาข้อมูลเกี่ยว
กับปัญหาเรื่องน้ำทั้งระบบ แล้วจัดลำดับความสำคัญและจำเป็นเร่งด่วนของปัญหา กับประสานและร่วมมือกับ
กระทรวงพลังงาน เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการปลูกพืชที่นำมาใช้ในการผลิตเชื้อเพลิง กระทรวงเทคโนโลยีสาร
สนเทศและการสื่อสาร ให้สนับสนุนการทำวิจัยและพัฒนา (R&D) ในเรื่องต่าง ๆ โดยนักวิจัยรุ่นใหม่ ๆ โดย
เน้นทั้งการวิจัย software และ hardware และให้ความสำคัญกับนาโนเทคโนโลยี รวมถึงเตรียมการล่วงหน้า
เพื่อหาแนวทางในการรองรับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคมที่พัฒนาเปลี่ยนแปลง
ไปอย่างรวดเร็ว พิจารณาความเหมาะสมในการสนับสนุนส่งเสริมให้มีการนำระบบ IT phone มาใช้แทนระบบ
IT switch ส่งเสริมให้มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาลงทุนสร้างเครือข่ายและระบบโทรศัพท์เพิ่มมากขึ้น และ
สร้างระบบการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) และห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (e-library) และเชื่อมโยง
กับแหล่งค้นคว้าข้อมูล (search engine) ต่าง ๆ และสร้างระบบsoftware ง่าย ๆ ให้ประชาชนสามารถเข้า
มาใช้ประโยชน์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย กระทรวงพลังงาน ติดตามและตรวจสอบประสิทธิภาพการใช้พลังงานและ
กำหนดเจ้าภาพที่จะรับผิดชอบดำเนินการให้ชัดเจน ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุง พัฒนาและ
นำเอาเชื้อเพลิงทดแทนอื่นที่ได้จากพืชมาใช้ประโยชน์แทนน้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซธรรมชาติ และปรับปรุง
เครื่องจักรอุตสาหกรรมเพื่อประหยัดพลังงาน รณรงค์ และสร้างนิสัยประหยัดพลังงานให้แก่ประชาชนอย่าง
ต่อเนื่อง และให้กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของผู้ให้บริการด้านพลังงาน (supplier) ทั้ง
หมด เพื่อแก้ไขปัญหาการผลักภาระค่าใช้จ่ายไปให้ผู้บริโภคกระทรวงมหาดไทย ปรับปรุงพัฒนาบุคลากรทุก
ระดับของหน่วยงานในสังกัดให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาระบบเทคโนโลยีข่าว
สาร (IT) ให้สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายกับส่วนราชการอื่น กระทรวงแรงงาน พัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อส่งเสริม
ให้แรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการเพิ่มผู้ประกอบการชาวไทยในต่างประเทศ ประสาน
และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผลิตผู้จบการศึกษาในแขนงและสาขาวิชาชีพต่าง ๆ ให้สอดคล้อง
กับตลาดแรงงานอย่างแท้จริง และพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการเงินกองทุนประกันสังคมที่มีเงินสะสม
จำนวนมากในแบบมืออาชีพให้เกิดประโยชน์และดอกผลในทางเศรษฐกิจสูงสุดโดยควรพิจารณาการลงทุนใน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพิ่มขึ้นด้วย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประสานและเชื่อมโยงข้อ
มูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการผลิตทรัพยากรบุคคลในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่าง
นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ๆ โดยให้เน้นการปลูกจิตสำนึกและสร้างแรงจูงใจในการเป็นนักวิทยาศาสตร์ตั้งแต่
ระดับปฐมวัย สำหรับขั้นตอนต่อไป ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับไปดำเนินการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อ
ให้มีการบูรณาการยุทธศาสตร์ของกระทรวงต่าง ๆ เข้ากับยุทธศาสตร์ของกลุ่มจังหวัด/จังหวัด เพื่อรองรับ
การจัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ให้ดำเนินการจัดทำแผนยุทธ
ศาสตร์และคำรับรองการปฏิบัติราชการของกระทรวงต่าง ๆ ให้ครอบคลุมกระทรวงที่เหลือทั้งหมด
1729
การตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภค เพื่อการแก้ไขบรรเทาปัญหาภัยแล้งของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ทส
09/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอเรื่อง การตั้งศูนย์
รับเรื่องร้องเรียนการขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภคเพื่อการแก้ไขบรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยกระทรวงทรัพยา
กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลและกรมทรัพยากรน้ำจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้อง
เรียนการขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภคขึ้น ทั้งในเขตพื้นที่และในส่วนกลาง โดยผู้ที่ประสบความเดือดร้อน
สามารถขอความช่วยเหลือ หรือร้องเรียนผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดในเขตจังหวัดที่เกิดภาวะภัยแล้ง หรือแจ้งผ่าน
ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภค ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลและกรมทรัพยากรน้ำ
ได้โดยตรง
#
หน่วยงาน
ชื่อเอกสาร
1
ยืนยันมติ (3617/2547)
2
ยืนยันมติ (3618/2547)
3
เรื่องเข้าใหม่ (สายครม.) (601/2547)
1730
การแก้ไขปัญหาเหล็กขาดแคลน
อก
02/03/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล็กขาด
แคลน และราคาสูง โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้เชิญผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กและตัวแทนอุตสาหกรรมก่อ
สร้างคือสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยเข้าร่วมประชุมหารือเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 24
กุมภาพันธ์ 2547 ซึ่งผลการหารือได้มีการเสนอแนวทางการแก้ไข ดังนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ขอ
ความร่วมมือจากผู้ผลิตเหล็กให้จัดสรรปริมาณสินค้าเพื่อจำหน่ายโดยตรงให้กับสมาชิกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้าง
ไทย โดยจะมีการกำหนดราคาขายของแต่ละเดือนให้ชัดเจนและสอดคล้องกับราคาวัตถุดิบที่แท้จริง พร้อมทั้งแต่งตั้ง
คณะกรรมการแก้ไขปัญหาภาวะขาดแคลนเหล็กเส้นก่อสร้าง โดยมีอธิบดีกรมโรงงาน เป็นประธาน เพื่อตรวจสอบ
ปริมาณการผลิต ต้นทุนการผลิต และราคาขายหน้าโรงงานอย่างต่อเนื่อง และรายงานทุกสัปดาห์
1731
ผลการประชุมรัฐมนตรีการค้า/เศรษฐกิจ ครั้งที่ 5 ภายใต้กรอบ BIMST-EC
พณ
22/02/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีการค้า/เศรษฐกิจ
ครั้งที่ 5 ภายใต้กรอบ BIMST-EC เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2547 ณ จังหวัดภูเก็ต เพื่อพิจารณากรอบความตกลง
เขตการค้าเสรี BIMST-EC ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงนาม
กรอบความตกลง ฯ ทั้งนี้ ในการจัดทำกรอบความตกลง ฯ ที่ประชุมได้มีการหารือถึงประเด็นที่บังกลาเทศได้ขอ
ให้รวมเรื่องการตั้งกลไก เพื่อให้มีการชดเชยการสูญเสียรายได้จากการลดภาษีของประเทศพัฒนาน้อยที่สุดไว้ใน
ร่างกรอบความตกลง ฯ ซึ่งอินเดียและศรีลังกาเห็นว่า การทำเขตการค้าเสรีจะทำให้การค้าและการลงทุนขยาย
ตัวเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และในแต่ละเรื่องก็มีการให้ความยืดหยุ่น โดยการให้การปฏิบัติเป็นพิเศษและ
แตกต่างแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดอยู่แล้ว และที่ประชุมมีมติว่า สมาชิกที่พร้อมซึ่งได้แก่ พม่า อินเดีย ศรีลังกา
และไทย จะลงนามกรอบความตกลง ฯ ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2547 ตามกำหนดการ และขอให้บังกลาเทศ
พิจารณาทบทวนและมาร่วมลงนามเมื่อพร้อม ส่วนเนปาลได้แจ้งที่ประชุมว่าจะพิจารณาร่วมลงนามด้วย สำหรับ
ความคืบหน้าผลการดำเนินงานของสาขาความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนและสาขาย่อยต่าง ๆ ที่ประชุม
รับทราบความคืบหน้าผลการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าว และให้การรับรองข้อเสนอแนะของที่ประชุมเจ้าหน้าที่
อาวุโสทางการค้า/เศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ การแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อประเมินความคืบหน้าการดำเนินงานของแต่
ละสาขาย่อย รวมถึงการปรับปรุงสาขาย่อยต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับภาวะการค้าปัจจุบันของสมาชิก การให้ภาค
เอกชนและภาครัฐจัดการประชุมสาขาย่อยต่าง ๆ ร่วมกัน รวมทั้งการสนับสนุนให้มีการอำนวยความสะดวกการ
เดินทางของนักธุรกิจในเรื่องของการมีกฎระเบียบ และข้อบังคับในการออกวีซ่าที่เหมือนกัน รวมถึงการจัดทำ
Business Travel Card สำหรับกำหนดการประชุมรัฐมนตรีการค้า/เศรษฐกิจ BIMST-EC ครั้งที่ 6 บังกลาเทศ
จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ณ กรุงธากา ในปี พ.ศ. 2548
1732
สรุปผลรายงานภาวะการตลาดค้าไก่ไข่และไข่ (ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2547)
มท
17/02/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหา
การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก เสนอ สรุปข้อมูลการสำรวจภาวะตลาดการค้าไก่และไข่ รวมทั้งความมั่นใจ
ของผู้บริโภคทุกจังหวัดในภาพรวม สรุปได้ว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้จังหวัดรณรงค์สร้างความ
มั่นใจในการบริโภคไก่และไข่ ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ แนวทางปฏิบัติสำหรับประชาชนผู้บริโภคและ
ผู้ประกอบการอาหารจากไก่อย่างถูกวิธีต่อไปอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ จากการสำรวจผลล่า
สุดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2547 ภาคกลาง (ไม่รวมกรุงเทพ ฯ ) เฉลี่ยร้อยละ 57.20 ภาคเหนือ เฉลี่ยร้อย
ละ 67.17 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลี่ยร้อยละ 71.00 และภาคใต้ เฉลี่ยร้อยละ 69.71
1733
ภาวะตลาดการค้าไก่ และไข่
มท
10/02/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานภาวะตลาดการค้าไก่ และไข่
จากการสำรวจภาวะตลาดการค้าไก่ และไข่ ในตลาดสด ตลอดจนร้านอาหารที่ใช้ผลิตภัณฑ์ไก่ในทุก
จังหวัด มีผู้บริโภคเพิ่มขึ้นจากเดิมในภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 36 ดังนี้ ภาคกลาง (25 จังหวัด) คิด
เป็นร้อยละ 38 ภาคเหนือ (17 จังหวัด) คิดเป็นร้อยละ 42 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (19 จังหวัด)
คิดเป็นร้อยละ 33 และภาคใต้ (14 จังหวัด) คิดเป็นร้อยละ 31 เฉลี่ยรวมทั้งประเทศ 75 จังหวัด คิด
เป็นร้อยละ 36
1734
แนวทางความช่วยเหลือและชดเชยแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ซึ่งประสบภาวะโรคระบาด
กษ
10/02/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแนวทางความช่วยเหลือและชดเชยแก่
เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ซึ่งประสบภาวะโรคระบาด โดยเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือลูกสัตว์ปีกอีก 4 ราย
การ ดังนี้ ไก่เนื้อ ช่วยเหลือเป็นเงินสดมูลค่าเท่ากับราคาไก่เนื้ออายุ 22 วัน พร้อมค่าชดเชยตัวละ 20 บาท หาก
เป็นลูกไก่เนื้อ อายุ 1 - 21 วัน ให้จ่ายเฉพาะค่าชดเชยตัวละ 20 บาท ไก่พื้นเมืองหรือไก่ลูกผสม ช่วยเหลือเป็น
เงินสดมูลค่าเท่ากับราคาไก่อายุ 2 เดือน พร้อมค่าชดเชยตัวละ 40 บาท หากเป็นลูกไก่พื้นเมืองหรือไก่ลูกผสม
อายุ 1 - 45 วัน หรือยังไม่หย่าจากแม่ไก่ ให้จ่ายเฉพาะค่าชดเชยตัวละ 40 บาท เป็ดเนื้อ ช่วยเหลือเป็นเงินสด
มูลค่าเท่ากับราคาเป็ดเนื้ออายุ 45 วัน พร้อมค่าชดเชยตัวละ 20 บาท หากเป็นลูกเป็ดเนื้ออายุ 1 - 21 วัน ให้
จ่ายเฉพาะค่าชดเชยตัวละ 20 บาท และนกกระทา ช่วยเหลือเป็นเงินสดมูลค่าเท่ากับราคานกกระทาอายุ 45 วัน
พร้อมค่าชดเชยตัวละ 5 บาท หากเป็นลูกกระทาอายุ 1 - 21 วัน ให้จ่ายเฉพาะค่าชดเชยตัวละ 5 บาท สำหรับ
การกำหนดระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ จากเดิมที่กำหนดระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือไว้ตั้งแต่เดือนธันวาคม
2546 โดยให้ขยายเวลาการให้ความช่วยเหลือตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2546 ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์รับไปจัดทำเอกสารและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ เพื่อประชา
สัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ แนวทางและระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือชดเชยแก่เกษตรกรผู้เลี้ยง
ไก่ที่ประสบภาวะโรคระบาดได้ทราบอย่างทั่วถึง รวมทั้งให้ประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อให้การเบิกจ่ายเงิน
งบประมาณเพื่อการนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง โปร่งใสด้วย
1735
ปัญหาระดับสติปัญญาลดลงของเด็กและเยาวชนไทย
นร
03/02/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ระดับสติปัญญา (I.Q.) โดยเฉลี่ยของเด็ก
และเยาวชนไทยปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงสาเหตุส่วนหนึ่งอาจเนื่องมาจากภาวะทุพโภชนาการและมลพิษจาก
สภาพแวดล้อมที่ทำให้เด็กและเยาวชนได้รับสารตะกั่วเข้าไปสะสมในร่างกายมากจนมีผลต่อพัฒนาการทาง
สมอง และอาจเป็นผลมาจากสุขภาพอนามัย ตลอดจนพฤติกรรมการดำรงชีวิตของมารดาตั้งแต่ในช่วงการ
ตั้งครรภ์ จึงให้กระทรวงสาธารณสุขรับเรื่องนี้ ไปพิจารณากำหนดแนวทางป้องกันแก้ไข และดำเนินการต่อ
ไป และให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับไปพิจารณากำหนดแนวทางและดำเนินการเพื่อลดการใช้สารตะกั่วใน
ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ เช่น การใช้สารตะกั่วในอุตสาหกรรมผลิตสีทาบ้าน เป็นต้น เพื่อลด
ความเสี่ยงของประชาชนจากการได้รับสารตะกั่วในการใช้ชีวิตประจำวันด้วย
1736
นำคำสั่งนายกรัฐมนตรีเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ (เรื่อง กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง)
พน
03/02/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 2/2546 เรื่อง
กำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันภาวะขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2546
1737
แนวทางความช่วยเหลือและชดเชยแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ซึ่งประสบภาวะโรคระบาด
กษ
27/01/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติให้ดำเนินการต่อไปได้ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
แนวทางความช่วยเหลือและชดเชยแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ซึ่งประสบภาวะโรคระบาด ทั้งนี้ เพื่อให้มีการชดเชยให้
แก่เกษตรกรที่ถูกทำลายสัตว์ปีกเนื่องจากมาตรการป้องกันโรคระบาดตามความเป็นจริง โดยให้มีทางเลือกใน
การชดเชยให้เป็นเงินสด หรือขอรับเป็นปัจจัยการผลิต รวมทั้งให้มีการผ่อนผันการชำระคืนเงินกู้ทั้งเงินต้นและ
ดอกเบี้ยให้แก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการป้องกันโรคระบาด และให้มีการพิจารณาความช่วยเหลือ
เพื่อบรรเทาผลกระทบอันเนื่องมาจากการสูญเสียรายได้ในระหว่างการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันโรคระบาด
1738
ขอความเห็นชอบโครงการจัดตั้งสถานีเฝ้าระวังและเตือนสภาวะอากาศบริเวณเกาะช้าง จังหวัดตราด
ทก
13/01/2547
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มี
มติเห็นชอบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอโครงการจัดตั้งสถานีเฝ้าระวังและ
เตือนสภาวะอากาศบริเวณเกาะช้าง จังหวัดตราด โดยเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดตั้งสถานีเฝ้าระวังและเตือน
สภาวะอากาศบริเวณเกาะช้าง จังหวัดตราด เป็นจัดตั้งที่สถานีอุตุนิยมวิทยาระยอง จังหวัดระยอง และ
โดยที่เป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วน จึงควรใช้งบกลาง ฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 โดยให้กระทรวงเทค
โนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารประสานกับสำนักงบประมาณต่อไป
1739
ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ยธ
30/12/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (คกก.7) ที่มี
มติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณา
คดีเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้แก้
ไขเพิ่มเติมตามประเด็นอภิปรายของ คกก.7 เกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณและบุคลากรเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในสถาน
พินิจและคุ้มครองเด็กที่จะจัดตั้งเพิ่มเติมอีก 33 จังหวัด นั้น ให้พิจารณากำหนดเป็นนโยบาย โดยกำหนดเป็นมติคณะ
รัฐมนตรีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุน และให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณตามที่จะได้ตกลงกับ
กระทรวงยุติธรรมต่อไป โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน
ราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป สำหรับอัตรากำลังของข้าราชการและลูกจ้างที่
ต้องปฏิบัติหน้าที่ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ ซึ่งเห็น
ชอบแผนการของกระทรวงยุติธรรมที่จะเกลี่ยอัตรากำลังข้าราชการที่มีอยู่เดิม มาดำเนินการเปิดทำการสถานพินิจ
ในระยะเร่งด่วน แต่การขอจ้างลูกจ้างชั่วคราว รวม 396 อัตรา ให้ดำเนินการขอจ้างลูกจ้างสัญญาจ้างที่จะจัดทำ
ระบบแล้วเสร็จในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 ไปยังสำนักงาน ก.พ. ส่วนการจ้าง รปภ. อีก 66 อัตรา ให้จ้างเหมา
เอกชนดำเนินการเว้นแต่ในจังหวัดที่ไม่มีเอกชนรับจ้าง ให้ขอจ้างลูกจ้างสัญญาจ้างไปยังสำนักงาน ก.พ. ได้ และ
หากสถานพินิจจำเป็นจะต้องมีอัตราข้าราชการเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป ให้เสนอขอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมาย
และนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เพื่อพิจารณาจัดสรรอัตราข้าราชการเกษียณอายุราชการในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2547 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณในการดำเนินการให้กระทรวงยุติธรรมทำความตกลงกับสำนัก
งบประมาณเพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี ต่อไป นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
ปัจจุบันการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนมีทั้งที่เป็นความผิดเพียงเล็กน้อยและเป็นความผิดร้ายแรง แต่การ
ดำเนินการในกระบวนการยุติธรรมและการลงโทษในบางกรณียังเป็นไปในลักษณะที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและ
สภาพการณ์ จึงได้ลงมติให้กระทรวงยุติธรรมรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการ เกี่ยวกับการ
พิจารณาคดีที่เด็กหรือเยาวชนกระทำความผิด นอกจากจะถืออายุของผู้กระทำความผิดเป็นเกณฑ์แล้ว ควรคำนึงถึง
ร่างกาย สติปัญญา สุขภาพ ภาวะแห่งจิตและนิสัย รวมทั้งลักษณะของการกระทำผิดด้วย โดยให้ประสานงานกับ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำแนวทางที่ถือปฏิบัติของต่างประเทศมาประกอบการพิจารณาด้วย รวมทั้งอาจจัดให้มี
การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ด้วยก็ได้
1740
รายงานผลการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาเด็กใช้ความรุนแรง
นร
30/12/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) รายงานผลการประชุม
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาเด็กใช้ความรุนแรง เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2546 โดยที่ประชุมได้มีการ
พิจารณายุทธศาสตร์/มาตรการเชิงบูรณาการด้านการป้องกันแก้ไขปัญหาเด็กใช้ความรุนแรง และการแก้ปัญหา
นักเรียนอาชีวศึกษาก่อความรุนแรงในระยะเร่งด่วนโดยการดำเนินการเพื่อยุติปัญหาเชิงค่านิยมและวัฒนธรรมให้
กับกลุ่มเสี่ยงก่อเหตุ ได้แก่ การจัดระบบการดูแลเด็กในสถานศึกษา การจัดกิจกรรมอบรมในรูปของกิจกรรมค่าย
สมานฉันท์ให้กับเด็กกลุ่มเสี่ยง การเปิดโอกาสให้เด็กที่กระทำผิดได้มีโอกาสทำประโยชน์ต่อสังคม การกำหนด
มาตรฐานให้เด็ก ผู้ปกครอง ครู และสถานศึกษา มีส่วนร่วมต่อความรับผิดชอบกรณีก่อเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสีย
หายและถึงแก่ชีวิต การส่งเสริมมาตรการจัดกิจกรรมเชิงบวก ทั้งระหว่างและภายในสถานศึกษา การจัดให้เด็ก
ทุกคนได้มีเวลาฝึกทักษะทางการอาชีพเพื่อให้เด็กมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี มีรายได้ และพัฒนาวุฒิภาวะของเด็ก กับให้มี
การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง รวมทั้งการป้องปราม และปฏิรูปโครงสร้างและการจัดการระบบการศึกษาใน
ระดับอาชีวศึกษาใหม่โดยให้มีแกนหลักในกลุ่มสถานศึกษาในพื้นที่เดียวกันทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง
เช่น ตำรวจ ครอบครัว และกำหนดเจ้าภาพรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ จากผลการหารือยุทธศาสตร์/มาตร
การ ฯ ดังกล่าว ที่ประชุมได้มีมติให้จัดลำดับความสำคัญ และกำหนดเป้าหมายของยุทธาสตร์/มาตรการ ฯ ซึ่ง
เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำทันที โดยระบุหน่วยงานที่รับผิดชอบ กำหนดระยะเวลาในการดำเนินการ และติดตาม
ผลตลอดจนจำแนก โดยใช้ระยะเวลาตามยุทธศาสตร์ที่นำเสนอเป็นตัวตั้ง ซึ่งจะประกอบด้วยยุทธศาสตร์ระยะสั้น
(สามารถดำเนินการได้ทันที) ระยะกลาง และระยะยาว หรือยุทธศาสตร์/มาตรการที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องทั้ง
ระยะสั้นและระยะยาว โดยให้จัดลำดับความสำคัญ ระบุหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ชัดเจน และกำหนดระยะเวลาใน
การดำเนินการและการติดตามผล นอกจากนี้ ให้ประสานกระทรวงศึกษาธิการ ด้านข้อมูล และเป็นผู้ช่วยเลขา
นุการ โดยให้ทำรายละเอียดให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ และนัดประชุมครั้งต่อไปประมาณวันที่ 15 มกราคม
2547
.....
|<<
Previous
<
Previous
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
>
Next
>>|
Next
ค้นหามติคณะรัฐมนตรี
×
ประกาศ
ด้วยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะปิดปรับปรุงระบบค้นมติคณะรัฐมนตรี (
https://resolution.soc.go.th/
)
ในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. จึงทำให้ไม่สามารถค้นมติคณะรัฐมนตรีได้ในวัน เวลา ดังกล่าว
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย