ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 84 จากทั้งหมด 137 หน้า แสดงรายการที่ 1661 - 1680 จากข้อมูลทั้งหมด 2735 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1661 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนตุลาคม 2547 | พณ | 26/10/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำ
สัปดาห์ที่ 2 เดือนตุลาคม 2547 ตั้งแต่วันที่ 4-8 ตุลาคม 2547 โดยราคาสินค้ามีการเคลื่อนไหวลดลงและ สูงขึ้น โดยสินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดเหล็กฉาก (ขนาด 40x40x3 มม./6ม.) ราคาลดลงจาก 270-289 บาท/ท่อน เป็น 270-287 บาท/ท่อน เม็ดพลาสติก HDPE ราคาลดลงจาก 56 บาท/กก. เป็น 53 บาท/กก. ไก่สด ราคาลดลงจาก 48-50 บาท/กก. เป็น 44-48 บาท/กก. ปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0 ราคาลดลงจาก 450 บาท/กระสอบ เป็น 445 บาท/กระสอบ ส่วนสินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ผัก คะน้าและผักชี ราคาสูงขึ้นจาก 20-28 บาท/กก. และ 8-12 บาท/ขีด เป็น 25-30 บาท/กก. และ 11-12 บาท/ขีด มะนาว ราคาสูงขึ้นจาก 0.75-1.25 บาท/ผล เป็น 1-1.25 บาท/ผล ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 ราคา สูงขึ้นจาก 530 บาท/กระสอบ เป็น 560 บาท/กระสอบ สำหรับสินค้าในกลุ่มอื่น ๆ ราคายังทรงตัว ยกเว้น สินค้าบางรายการที่มีราคาเปลี่ยนแปลงตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวะการแข่งขัน เช่น น้ำมัน พืช น้ำปลา น้ำตาลทราย และปลากระป๋อง เป็นต้น ในส่วนของการตรวจสอบผู้ประกอบการค้าตามพระราช บัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 13 ราย |
||||||||||||||||||
1662 | รายงานการเดินทางไปกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมคณะกรรมการความมั่นคงด้านอาหารโลก (Committee on Food Security : CFS) | นร | 19/10/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) รายงานการเดินทาง
ไปกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมคณะกรรมการความมั่นคงด้านอาหารโลก (Committee on Food Security : CFS) ระหว่างวันที่ 19-24 กันยายน 2547 ณ สำนักงานใหญ่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยประเด็นหลักที่ได้กล่าวในที่ประชุม ฯ ได้แก่ โยบายของรัฐบาลในการขจัด ปัญหาความยากจนซึ่งเป็นปัจจัยหลักของความหิวโหยเช่น โครงการพักชำระหนี้เกษตรกร นโยบายเศรษฐกิจ พอเพียงสำหรับเกษตรยากจน อันประกอบด้วย โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โครงการกองทุนหมู่บ้าน โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ โครงการธนาคารประชาชน และโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุม ชน (SML) เป็นต้น ซึ่งได้วางเป้าหมายที่จะขจัดความยากจนให้หมดไปจากประเทศในปี พ.ศ. 2552 และการ ประกาศให้ปี ค.ศ. 2004 เป็นปีอาหารปลอดภัยแห่งชาติ การริเริ่มและการเสริมสร้างความความร่วมมือ ระหว่างประเทศในระดับภูมิภาคและระดับโลกในหลายโครงการ เช่น โครงการ Ayeyarwady-Chao Phya- Mekong Economic Cooperation Strategy Programme (ACMECS) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างงานและ รายได้ให้กับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งกรอบความร่วมมือเอเชียหรือ ACD (Asia Cooperation Dialogue) และโครงการ East Asia EmergencyRice Reserve (EAERR) ในการสำรองข้าวเพื่อให้ความช่วยเหลือในภาวะ ฉุกเฉิน เป็นต้น |
||||||||||||||||||
1663 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือนกันยายน 2547 | พณ | 12/10/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือนกันยายน 2547 ตั้งแต่วันที่ 20-25 กันยายน 2547 ซึ่งมีความเคลื่อนไหวราคา สินค้าในกลุ่มสินค้าที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ และกลุ่มสินค้าที่มีการผลิตเป็นฤดูกาล โดยสินค้าที่ มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดเหล็กฉาก (ขนาด 40x40x3 มม./6 ม.) ราคาสูงขึ้นจาก 266-289 บาท/ท่อน เป็น 270-289 บาท/ท่อน ผักชี ราคาสูงขึ้นจาก 4-5 บาท/ขีด เป็น 4-6 บาท/ ขีด ส่วนสินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ ผักบุ้งจีน ราคาลดลงจาก 12-25 บาท/กก. เป็น 12-18 บาท/ กก. เงาะ ราคาลดลงจาก 15-20 บาท/กก. เป็น 12-20 บาท/กก. และกล้วยหอม ราคาลดลงจาก 3-4 บาท/ผล เป็น 2.50-3 บาท/ผล สำหรับสินค้าในกลุ่มอื่น ๆ ราคายังทรงตัว ยกเว้นสินค้าบางรายการ ที่มีราคาเปลี่ยนแปลงตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวะการแข่งขัน เช่น ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช และน้ำสัมสายชู เป็นต้น ในส่วนของการตรวจสอบผู้ค้าเหล็กในเขตกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ผู้แทน จำหน่ายเหล็กแผ่นเหล็กเส้นและเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ รวมทั้งผู้ค้าปลีกไม่พบการกระทำผิดกฎหมาย แต่อย่างใด และจากการตรวจสอบผู้ประกอบการทั่วไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 1 7 ราย และราคาจำหน่ายไม่ตรงกับป้าย แสดงราคา 2 ราย สำหรับการตรวจสอบตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 ไม่พบการ กระทำผิด |
||||||||||||||||||
1664 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือนตุลาคม 2547 | พณ | 12/10/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือนตุลาคม 2547 ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน - 1 ตุลาคม 2547 โดยภาพรวมราคา สินค้า กลุ่มสินค้าที่นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบจาก ต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดเหล็กรูปตัวซี (ขนาด 75x45x15x2.3 มม.) ราคา สูงขึ้นจาก 508-520 บาท/ท่อน เป็น 520-546 บาท/ท่อน ตะปู ราคาสูงขึ้นจาก 560-600 บาท/ลัง เป็น 560-720 บาท/ลัง กลุ่มสินค้าที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ มีราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากได้รับผลกระทบจาก ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยถุงพลาสติก ราคาสูงขึ้นจาก 65-72 บาท/กก. เป็น 65-74 บาท/กก. กลุ่มพืชผักและผลไม้ มีการเคลื่อนไหวของราคาเป็นไปตามฤดูกาลและภาวะตลาดในช่วงสั้น ๆ โดยสินค้า ที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ ผักคะน้า ราคาสูงขึ้นจาก 20-25 บาท/กก. เป็น 20-28 บาท/กก. ผักบุ้งจีน ราคา สูงขึ้นจาก 12-18 บาท/กก. เป็น 18-20 บาท/กก. ผักชี ราคาสูงขึ้นจาก 4-6 บาท/ขีด เป็น 8-12 บาท/ขีด และมะนาว ราคาสูงขึ้นจาก 0.75 บาท/ผล เป็น 0.75-1.25 บาท/ผล ส่วนสินค้าที่มีราคาลด ลง ได้แก่ เงาะ ราคาลดลงจาก 12-20 บาท/กก. เป็น 12-18 บาท/กก. และส้มเขียวหวาน ราคาลดลง จาก 20-25 บาท/กก. เป็น 18-22 บาท/กก. สำหรับกลุ่มสินค้าอื่น ๆ ราคายังทรงตัว ยกเว้นสินค้า บางรายการที่มีราคาเปลี่ยนแปลงตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวะการแข่งขัน เช่น ผลิตภัณฑ์ นม น้ำมันพืช น้ำปลา และน้ำตาลทราย เป็นต้น ในส่วนของการตรวจสอบผู้ค้าเหล็กในเขตกรุงเทพมหา นครประกอบด้วย ผู้แทนผลิต และผู้แทนจำหน่าย พบว่า ปริมาณเหล็กมีเพียงพอต่อการจำหน่ายและไม่ มีพฤติกรรมการกักตุนสินค้า และจากการตรวจสอบผู้ประกอบการทั่วไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคา สินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 2 ราย สำหรับการตรวจ สอบตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิดมาตรวัดน้ำมันไม่ได้มาตรฐาน 2 ราย น้ำหนักก๊าซหุงต้มต่ำกว่าที่แสดงไว้ 1 ราย และเครื่องชั่งไม่เที่ยงตรง 1 ราย |
||||||||||||||||||
1665 | มาตรการประหยัดพลังงานในภาวะน้ำมันแพง | พณ | 12/10/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอการปรับเวลาเปิด-ปิดบริการ
ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน-8 พฤศจิกายน 2547 ของผู้ประกอบธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก และห้างสรรพสินค้าที่ มีพื้นที่ขายตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไปได้ โดยให้คำนึงถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และความจำเป็นในการประหยัดพลังงานในภาวะน้ำมันแพง ทั้งนี้ มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานร่วมปรึกษาหารือกับผู้ประกอบการในการกำหนดเวลาเปิด-ปิด โดย ให้ผู้ประกอบการจัดทำมาตรการประหยัดพลังงานตามนโยบายของรัฐบาลด้วย โดยในระหว่างนี้ให้กำหนด เวลาเปิด-ปิดบริการ เป็นดังนี้ สถานที่ตั้งทั่วไป ให้เปิด-ปิดเวลา 10.00-22.00 น. ทุกวัน สำหรับ Hyper mart ให้เปิดเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง ในวันศุกร์-วันอาทิตย์ โดยเปิด-ปิดเวลา 09.00-22.00 น. และสถานที่ตั้ง ในแหล่งท่องเที่ยว ให้เปิด-ปิดเวลา 09.00-23.00 น. ทุกวัน ส่วนกรณีวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือช่วงเทศกาล พิเศษให้กระทรวงพาณิชย์รับไปพิจารณา เพื่อกำหนดเวลาเปิด-ปิดบริการเป็นครั้งคราวได้ตามความเหมาะ สม สำหรับช่วงเวลาหลังจากวันที่ 8 พฤศจิกายน 2547 ไปแล้ว ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงพลัง งานเพื่อกำหนดเวลาเปิด-ปิดบริการ ให้เหมาะสมต่อไป
|
||||||||||||||||||
1666 | รายงานกรณี นักเรียนเสพสารระเหยในเขตอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย | สธ | 12/10/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสุขภาพจิต รายงานผลการดำเนิน
การแก้ไขปัญหานักเรียนของโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ติดสารเสพติด/สารระเหย โดย กรมสุขภาพจิตร่วมกับทีมผู้บำบัดยาเสพติด ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย เพื่อทำการประเมินภาวะติด สารเสพติดในนักเรียนกลุ่มเสี่ยง และวางแผนการบำบัดนักเรียนที่เป็นผู้เสพและผู้ที่ติดสารสารเสพติด |
||||||||||||||||||
1667 | รายชื่อกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีเห็นชอบคำตอบแล้ว (จำนวน 2 เรื่อง) 1.1 กระทู้ถามที่ 1329 ร. เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียน นักศึกษา 1.2 กระทู้ถามที่ 1406 ร. เรื่อง การแข่งขันเรือพายในแม่น้ำป่าสัก ลำสนธิ ลำเหียง คลองลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี | นร | 28/09/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 1329 ร.
เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียน นักศึกษา และคำตอบกระทู้ถามที่ 1406 ร. เรื่อง การแข่ง ขันเรือพายในแม่น้ำป่าสัก ลำสนธิ ลำเหียง คลองลำนารายณ์ จังหวัดลพบุรี ของนายนิยม วรปัญญา สมาชิก สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยคำตอบกระทู้ถามที่ 1329 ร. สรุปได้ว่า กระทรวงศึกษาธิการและสถาบันการศึกษา มีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน นักศึกษา ทะเลาะวิวาทและใช้ความรุนแรง เพื่อให้สถานศึกษาทุกระดับทุกประเภทในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการสามารถ จัดบริการทางการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้สถานศึกษาดำเนินการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหานักเรียนก่อความรุนแรง เช่น การให้สถานศึกษาประเมินสถานการณ์ พฤติกรรมเสี่ยงของนัก เรียนในโรงเรียน และสภาวะแวดล้อมชุมชน โดยสร้างการมีส่วนร่วมของครู ผู้ปกครองนักเรียน ผู้แทนชุมชน ผู้ทรงคุณวุฒิร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อกำหนดเป็นแนวทางป้องกันและแก้ไขทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เป็นต้น และมีนโยบายให้ข้าราชการครู อาจารย์ ได้สอนอยู่ในท้องถิ่นของตนเอง เพื่ออยู่ใกล้ชิดครอบครัวและ สามารถดูแลลูกศิษย์อย่างใกล้ชิด ได้แก่ โครงการย้ายครูคืนถิ่น โครงการเพชรในตม ส่วนคำตอบกระทู้ถามที่ 1406 ร. สรุปได้ว่า การที่จะจัดให้มีการแข่งขันเรือพาย เรือแจวขึ้น เป็นวิธีการหนึ่งในการรณรงค์ส่งเสริมและ สนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปในทุกท้องถิ่นที่มีแม่น้ำลำคลองมีความตื่นตัวในการออกกำลังกาย โดยการใช้เรือ พาย เรือแจว เป็นสื่อ และยังเป็นการอนุรักษ์เรือพาย เรือแจว ของแต่ละภาคแต่ละท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไปอีก ด้วยจึงควรมีการส่งเสริม สนับสนุน ให้มีการจัดการแข่งขันขึ้นทุกจังหวัด ทุกท้องถิ่น เป็นประจำทุกปี หรือ ตามสภาพความเหมาะสมของท้องถิ่น ซึ่งในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายในการส่งเสริมการออก กำลังกายให้ผู้เรียนมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ โดยได้ดำเนินการจัดการแข่งขันเรือพาย และให้สถาบันการ ศึกษา/สถานศึกษา ได้มีส่วนร่วมกับท้องถิ่นในการจัดการแข่งขันเรือพาย หรือกีฬาทางน้ำอื่น ๆ รวมถึงการ ประชาสัมพันธ์ให้ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา มีความสนใจและชมการแข่งขันที่ท้องถิ่นได้จัดขึ้นได้ตาม ความเหมาะสม |
||||||||||||||||||
1668 | การดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต | มท | 28/09/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานสรุปผลการประชุมสัมมนาระหว่างส่วนราช
การและหน่วยงานต่าง ๆ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2547 เพื่อพิจารณาโครงการ "ระดมยุทธศาสาตร์ : ประกาศ สงครามทุจริตคอร์รัปชั่น" ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ท. ครั้งที่ 4/2547 เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2547 ที่ เห็นชอบให้จัดทำโครงการดังกล่าว โดยมีผลการหารือเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ที่สำคัญ ดังนี้ มาตรการปรับปรุง โครงสร้างทางกฎหมาย ให้แต่ละหน่วยงานประสานการแบ่งปันข้อมูลเพื่อป้องกันการทุจริต ภายใต้กรอบของกฎ หมายที่สามารถปฏิบัติได้ผลักดันให้มีการจัดตั้งองค์กรกลางของฝ่ายบริหารซึ่งเป็นองค์กรตามกฎหมายเพื่อรับผิด ชอบในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยให้กระทรวงยุติธรรมเสนอพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันและแก้ไข ปัญหาทุจริตภาครัฐ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มาตรการการบังคับใช้กฎหมาย ควรกำหนดมาตรการในการป้องกันปราบปรามการ ทุจริตคอร์รัปชั่น ด้วยการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ และลงโทษ บุคคลที่กระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างจริงจัง และผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ว่าด้วยการแสดงบัญชี ทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาของหน่วยงาน ของรัฐ พ.ศ. 2542 และร่างพระราชบัญญัติวิธีการสอบสวนความผิดอาญาเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. .... มาตรการ ในการสร้างทัศนคติ และค่านิยม โดยการส่งเสริมทัศนคติในการยกย่องคนที่มีคุณงามความดี โดยผู้บริหารและผู้ บังคับบัญชาของหน่วยงานต้องประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา และส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามา มีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยการดำเนินงานของภาครัฐหรือหน่วยงานรัฐวิสาหิจต้อง เปิดเผยข้อมูล และรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้ประชาชนทราบทุกระยะ รวมทั้งการ เสริมสร้างจิตสำนึก รักสุจริต เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อสร้างจิตสำนึกในการรักสุจริตให้กับเยาวชน โดยมอบหมายให้ กระทรวงศึกษาธิการกำหนดหลักสูตรการศึกษาเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ คุณธรรม จริยธรรม และทัศนคิตในการ ดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง และส่งเสริมการลดค่านิยมในการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย และมาตรการส่งเสริมสวัสดิการให้ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้มีรายได้ที่พอเพียง เพื่อป้องกันการทุจริตของเจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติ โดยปรับปรุงและ สนับสนุนค่าตอบแทนสวัสดิการให้กับเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสมกับการดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี และพอเพียงกับการ ดำรงชีพในสภาวะเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน รวมถึงการกำหนดระเบียบปฏิบัติต่างๆ ต้องไม่เป็นเงื่อนไขและช่อง ทางให้เจ้าหน้าที่กระทำการทุจริต เช่น สวัสดิการค่าเช่าบ้าน ควรเบิกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ที่มีสิทธิจะได้รับให้เป็น ไปตามข้อเท็จจริงของภาระที่เกิดขึ้น เป็นต้น สำหรับการป้องกันการซื้อขายตำแหน่งหน้าที่ราชการ ควรกำหนด หลัเกณฑ์ในการเลื่อนตำแหน่ง หรือการพิจารณาความดีความชอบให้เป็นมาตรฐาน และบังเกิดผลเป็นรูปธรรม สามารถตรวจสอบได้ |
||||||||||||||||||
1669 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือนกันยายน 2547 | พณ | 28/09/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือนกันยายน 2547 ตั้งแต่วันที่ 13-17 กันยายน 2547 โดยภาพรวมราคาสินค้าใน ช่วงดังกล่าวมีสินค้าที่ราคาเปลี่ยนแปลง ได้แก่ เม็ดพลาสติก และผักคะน้า มีราคาสูงขึ้น ในขณะที่ผักบุ้งจีน และส้มเขียวหวาน มีราคาลดลง สำหรับกลุ่มสินค้าที่นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ราคาไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากที่ได้การปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ กลุ่มสินค้าที่ผลิต/ใช้วัตถุดิบในประเทศ ได้แก่ เม็ดพลาสติกประเภท HDPE ราคาสูงขึ้นจาก 55 บาท/กก. เป็น 56 บาท/กก. กลุ่มอาหารสดผักและผล ไม้ ได้แก่ ผักคะน้า ราคาสูงขึ้นจาก 15-18 บาท/กก. เป็น 20-25 บาท/กก. และส้มเขียวหวาน ราคา ลดลง รวมทั้งยังมีสินค้าบางรายการที่มีราคาเปลี่ยนแปลงตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวะการ แข่งขันเช่น ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำซีอิ๊ว สบู่ และแชมพู เป็นต้น ส่วนผลการตรวจสอบตามพระราช บัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า 1 ราย และผลการตรวจสอบตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิดมาตรวัดน้ำมัน ไม่ได้มาตรฐาน 1 ราย นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความ ร่วมมือการรับประกันคุณภาพสินค้าและบริการกับผู้ค้าปลีกขนาดใหญ่ จำนวน 20 ราย เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2547 โดยผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าจากผู้ค้าดังกล่าว แล้วคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน สามารถส่งคืน สินค้าได้ภายใน 7 วัน หรือตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ผู้ค้าแต่ละรายกำหนด |
||||||||||||||||||
1670 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนกันยายน 2547 | พณ | 21/09/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนกันยายน 2547 ตั้งแต่วันที่ 6-10 กันยายน 2547 มีดังนี้ กลุ่มสินค้าที่นำเข้าวัตถุ ดิบจากต่างประเทศ ได้แก่ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดเหล็กรูปตัวซี (ขนาด 75x45x15x2.3 มม.) ราคา สูงขึ้นเป็น 508-520 บาท/ท่อน ตะปู ราคาสูงขึ้นเป็น 560-600 บาท/ลัง และสังกะสี ราคาสูงขึ้นเป็น 13-15.50 บาท/ฟุต กลุ่มสินค้าที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ ได้แก่ ถุงพลาสติก ราคาสูงขึ้นเป็น 65-72 บาท/ กก. และท่อพีวีซี ราคาสูงขึ้นเป็น 48-60 บาท/ท่อน กลุ่มสินค้าอาหารสด ได้แก่ ไก่สด ราคาสูงขึ้นเป็น 48 -50 บาท/กก. ส่วนไข่ไก่ ราคาลดลงเป็น 2.50-2.90 บาท/ฟอง กลุ่มผักและผลไม้ ได้แก่ ผักบุ้งจีน ราคา สูงขึ้นเป็น 14-25 บาท/กก. ผักชี ราคาลดลงเป็น 4-5 บาท/ขีด ส้มเขียวหวาน ราคาลดลงเป็น 22-28 บาท/กก. และกล้วยหอมทอง ราคาลดลงเป็น 3-4 บาท/ผล สำหรับกลุ่มสินค้าอื่น ๆ ราคายังทรงตัว ยก เว้นสินค้าบางรายการที่ราคาเปลี่ยนแปลงตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวะการแข่งขัน เช่น ปูน ซิเมนต์ ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำปลา น้ำซีอิ๊ว น้ำตาลทราย สบู่ และแป้งโรยตัว เป็นต้น ในส่วนของการตรวจสอบการเปิด-ปิดธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกขนาดใหญ่ ในเขตกรุงเทพมหานครและภูมิภาค จำนวน 44 ราย (183 สาขา) ไม่พบการกระทำผิด การตรวจสอบผู้ประกอบการทั่วไปตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 จำนวน 4,492 ราย ไม่พบการกระทำผิด และตรวจสอบตาม พระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 จำนวน 5,523 ราย พบการกระทำผิด 1 ราย ส่วนการ ดำเนินการแก้ไขปัญหาและช่วยบรรเทาค่าครองชีพ กรณีเหล็ก ได้กำชับให้ผู้ผลิตดำเนินการกำกับติดตาม ไม่ให้ผู้จำหน่ายฉวยโอกาสขึ้นราคา รวมทั้งให้ผู้ผลิตจัดตั้ง Call Center เพื่อแก้ไขปัญหาด้านราคาที่ไม่เป็น ธรรม กรณีเม็ดพลาสติก ได้ขอความร่วมมือให้จำหน่ายในราคาที่เป็นธรรมและห้ามกักตุนสินค้า และได้จัด โครงการธงฟ้าเคลื่อนที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาต่ำกว่าท้องตลาด ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ |
||||||||||||||||||
1671 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือนกันยายน 2547 | พณ | 14/09/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 1 เดือนกันยายน 2547 ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม-3 กันยายน 2547 มีดังนี้ ภาวะราคา สินค้าที่ต้องติดตามใกล้ชิดพิเศษ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เหล็ก โดยเหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดเหล็กรูปตัวซี (ขนาด 75x45x15x2.3 มม.) ราคาสูงขึ้นเป็น 499-508 บาท/ท่อน ท่อพีวีซี (ขนาด 0.5 นิ้ว x 4 ม.) ราคาสูงขึ้นเป็น 45-60 บาท/ท่อน เม็ดพลาสติก ราคาสูงขึ้นเป็น 55 บาท/กก. ถุงพลาสติก ราคาสูง ขึ้นเป็น 63-70 บาท/กก. และรถแทรกเตอร์ ราคาสูงขึ้นเป็น 1,118,150 บาท/คัน และไก่สด ราคาสูง ขึ้นเป็น 46-48 บาท/กก. สินค้าที่เคลื่อนไหวขึ้น-ลงตามฤดูกาลและภาวะตลาด ได้แก่ ส้มเขียวหวาน ราคาลดลงเป็น 25-28 บาท/กก. ผักบุ้งจีนและผักชี ราคาสูงขึ้นเป็น 18-20 บาท/กก. มะนาว ราคาสูง ขึ้นเป็น 0.75-1 บาท/ผล และกล้วยหอมราคาสูงขึ้นเป็น 3-5 บาท/ผล สำหรับสินค้าอื่น ๆ ส่วนใหญ่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านราคา ยกเว้นสินค้าบางรายการที่ราคาลดลงช่วงสั้นๆ ตามกลยุทธ์การส่งเสริม การขาย เช่น ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำปลา น้ำซีอิ๊ว และสบู่ เป็นต้น ในส่วนของการ ตรวจสอบตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 จำนวน 5,130 ราย พบการ กระทำผิด 3 ราย และจากการตรวจสอบตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 จำนวน 5,713 ราย พบการกระทำผิด 1 ราย |
||||||||||||||||||
1672 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 4 เดือนสิงหาคม 2547 | พณ | 14/09/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำ สัปดาห์ที่ 4 เดือนสิงหาคม 2547 ตั้งแต่วันที่ 23-27 สิงหาคม 2547 สรุปได้ดังนี้ สินค้าโดยทั่วไป ยังปกติ มีสินค้าที่ราคาเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ จำนวน 10 สินค้า ซึ่งมีสาเหตุจากปัจจัยภาคนอก ประเทศ ได้แก่ ราคาวัตถุดิบ และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกเคลื่อนไหวในระดับสูง รวมทั้งปัจจัยภาย ในประเทศที่มีการเคลื่อนไหวตามภาวะตลาดและฤดูกาลสินค้า โดยสินค้าที่ต้องติดตามใกล้ชิดพิเศษ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เหล็ก โดยเหล็กเส้น (ขนาด 9 มม.) ราคาสูงขึ้นเป็น 112-125 บาท/เส้น เหล็กโครงสร้างรูป พรรณชนิดเหล็กรูปตัวซี (ขนาด 75x45x15x2.3 มม.) ราคาสูงขึ้นเป็น 490-508 บาท/ท่อน เม็ดพลา สติก ราคาสูงขึ้นเป็น 52 บาท/กก. และถุงพลาสติก ราคาสูงขึ้นเป็น 62-64 บาท/กก. สินค้าที่ต้องติด ตามใกล้ชิด ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง โดยน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน 91 และ 95 ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 20.99 บาท/ ลิตร และ 21.79 บาท/ลิตร ตามลำดับ สินค้าที่เคลื่อนไหวขึ้น-ลงตามฤดูกาลและภาวะตลาดช่วงสั้น ๆ ได้แก่ มะนาว ราคาสูงขึ้นเป็น 0.50-1 บาท/ผล ผักบุ้งจีนและผักชี ราคาลดลงเป็น 12-20 บาท/กก. ส้ม เขียวหวาน ราคาลดลงเป็น 30-32 บาท/กก. สุกรชำแหละ ราคาลดลงเป็น 80-90 บาท/กก. สำหรับ สินค้าอื่น ๆ ส่วนใหญ่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านราคา ยกเว้นสินค้าบางรายการที่ราคาลดลงเล็กน้อยตาม กลยุทธการส่งเสริมการขายและภาวะการแข่งขัน เช่น น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู ผงซักฟอก และยาสีฟัน เป็น ต้น ในส่วนของการตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ตรวจพบการกระทำผิดทั้งสิ้น จำนวน 10 ราย ได้แก่ ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 7 ราย แสดงราคาไม่ตรงกับมาตรวัด จำนวน 2 ร่าย และปรับราคาก่อนกำหนด จำนวน 1 ราย และจากการตรวจสอบผู้ประกอบการทั่วไป ตามพระราช บัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิด จำนวน 3 ราย และตรวจสอบตามพระ ราชบัญญัติมาตรชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิด จำนวน 1 ราย |
||||||||||||||||||
1673 | แนวทางการดำเนินงานของรัฐมนตรีและรัฐในอนาคต | นร | 07/09/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอแนวทางการดำเนินการของรัฐมนตรีและรัฐใน
อนาคต โดยการดำเนินงานต่าง ๆ ของรัฐบาลในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ถือได้ว่า เป็นการแก้ไขและพลิกฟื้นคืน สถานการณ์ตกต่ำของประเทศให้กลับสู่ภาวะปกติ รวมทั้งการจัดระบบใหม่ให้ประเทศมีความพร้อมที่จะพัฒนา ต่อไปในทิศทางที่ถูกต้อง สำหรับ 4 ปีข้างหน้า จะเน้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นให้พร้อมสำหรับ อนาคต จึงขอให้รัฐมนตรีทุกท่านได้พิจารณาวางแผน และเตรียมการดำเนินงานอย่างจริงจัง เมื่อพร้อมก็ให้ เริ่มดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก่อน ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ โครงสร้างพื้นฐานด้านต่าง ๆ มอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการดังนี้ (1) การจัดทำระบบ ขนส่งมวลชนความเร็วสูง (Mass Rapid Transit) ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และในเมืองใหญ่ทั่ว ประเทศ รวมทั้งส่วนเชื่อมต่อที่เกี่ยวข้อง (Feeders) มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณา ดำเนินการ (2) โครงสร้างด้านถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนที่จะสร้างใหม่และถนนขนาดใหญ่ที่เชื่อมเมือง สู่เมือง มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณาดำเนินการ (3) โครงสร้างพื้นฐานและการ จัดการน้ำทั้งระบบ มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปพิจารณาดำเนินการ (4) การบริหารจัดการเกี่ยวกับที่ดินและป่าไม้ มอบ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสห กรณ์รับไปพิจารณาดำเนินการ (5) โครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษา ต้องจัดการศึกษาให้แก่นักเรียน นัก ศึกษาและประชาชนทั่วไปให้เหมาะสม ทั่วถึง และพอเพียง มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรับไป พิจารณาดำเนินการ
|
||||||||||||||||||
1674 | รายชื่อกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีเห็นชอบคำตอบแล้ว (จำนวน 3 เรื่อง) 1.1 กระทู้ถามที่ 880 ร. เรื่อง การแก้ปัญหาลุ่มน้ำ 25 ลุ่มน้ำ เพื่อป้องกันอุทกภัย 1.2 กระทู้ถามที่ 1089 ร. เรื่อง ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดตรัง 1.3 กระทู้ถามที่ 1398 ร. เรื่อง การส่งเสริมศูนย์วิจัยพยาธิใบไม้ในตับและมะเร็งท่อน้ำดี ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น | นร | 07/09/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 880 ร.
เรื่อง การแก้ปัญหาลุ่มน้ำ 25 ลุ่มน้ำ เพื่อป้องกันอุทกภัย ของนายอำนวย คลังผา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดลพบุรี คำตอบกระทู้ถามที่ 1089 ร. เรื่อง ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดตรัง ของนายสุวรรณ กู้สุจริต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง และคำตอบกระทู้ถามที่ 1398 ร. เรื่อง การส่งเสริมศูนย์วิจัยพยาธิใบ ไม้ในตับและมะเร็งท่อน้ำดีของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดขอนแก่น และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยคำตอบกระทู้ถามที่ 880 ร. สรุปได้ว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มีโครงการจัดทำแผนรวมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำใน ระดับพื้นที่ลุ่มน้ำ และในช่วงปีที่ผ่านมาได้ดำเนินโครงการจัดทำแผนรวมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำใน พื้นที่ลุ่มน้ำ โดยในปี พ.ศ. 2544 ดำเนินการ 2 ลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำปิง และลุ่มน้ำป่าสัก ในปี พ.ศ. 2545 ดำเนินการอีก 2 ลุ่มน้ำคือ ลุ่มน้ำบางปะกง-ปราจีนบุรี และลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก ส่วนคำตอบกระทู้ ถามที่ 1089 ร. สรุปได้ว่า กระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดำเนิน การแก้ไขสภาวะการขาดแคลนน้ำอุปโภคเนื่องจากสภาวะภัยแล้งทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งการแก้ ไขปัญหาภัยแล้งของจังหวัดตรัง ได้มีการเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ความแห้งแล้ง และมาตรการ ช่วยเหลเกษตรกร และคำตอบกระทู้ถามที่ 1398 ร. สรุปได้ว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายในการสนับ สนุนและส่งเสริมศูนย์วิจัยพยาธิใบไม้ในตับและมะเร็งท่อน้ำดี ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งมีวัตถุประสงค์ หลักเพื่อลดปัญหาพยาธิใบไม้ในตับและมะเร็งท่อน้ำดีให้ไม่เป็นปัญหาทางสาธารณสุข และมีวัตถุประสงค์ เฉพาะเพื่อสร้างเสริมให้ผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และได้กำหนดเป็นนโยบายของรัฐบาล และบรรจุเป็นนโยบายของกระทรวงที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการป้องกันโรคพยาธิใบไม้ในตับและมะเร็งท่อ น้ำดี นอกจากนี้ ได้ตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อกำหนดเป้าหมายและยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน เพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์โดยมีศูนย์วิจัยพยาธิใบไม้ในตับและมะเร็งท่อน้ำดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นเลขานุการ และ มีแผนการที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมในการสนับสนุนงบประมาณพิเศษ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัด การสำหรับศูนย์วิจัย ฯ |
||||||||||||||||||
1675 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือนสิงหาคม 2547 | พณ | 07/09/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือนสิงหาคม ตั้งแต่วันที่ 16-20 สิงหาคม 2547 ดังนี้ หมวดวัสดุก่อสร้าง สินค้าที่ ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เหล็ก โดยเหล็กเส้น (ขนาด 9 มม.) ราคาสูงขึ้นเป็น 109-119 บาท/เส้น เหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดเหล็กฉาก (ขนาด 40x40x3 มม.) ราคาสูงขึ้นเป็น 260-278 บาท/ท่อน สินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ ปูนซิเมนต์ผสม ราคาลดลงเป็น 105-110 บาท/ถุง หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม น้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน 91 และ 95 ปรับราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 20.39 บาท/ลิตร และ 21.19 บาท/ ลิตร ตามลำดับ เม็ดพลาสติก ราคาสูงขึ้นเป็น 47.50 บาท/กก. และถุงพลาสติก ราคาสูงขึ้นเป็น 56-62 บาท/กก. หมวดอาหารสด สินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ไก่สด ราคาสูงขึ้นเป็น 45-46 บาท/กก. สินค้าที่ ราคาลดลงได้แก่ สุกรชำแหละ ราคาลดลงเป็น 85-90 บาท/กก. หมวดผักและผลไม้ สินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ผักบุ้งจีนและผักชี ราคาสูงขึ้นเป็น 18-20 บาท/กก. และ 4-6 บาท/ขีด สินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ ส้มเขียวหวาน ราคาลดลงเป็น 30-35 บาท/กก. สำหรับสินค้าอื่น ๆ ส่วนใหญ่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้าน ราคายกเว้นสินค้าบางรายการที่ราคาลดลงเล็กน้อยตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวการณ์แข่งขัน เช่น ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำปลา น้ำตาลทราย สบู่ ผงซักฟอก ยาสีฟัน และแชมพู เป็นต้น ในส่วนของการตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงได้ตรวจสอบพบการกระทำผิดปรับราคาน้ำมันก่อน การประกาศขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 2 ราย รวมทั้งการตรวจสอบผู้ประกอบการทั่วไป ตามพระ ราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิด 3 ราย ส่วนตรวจสอบตามพระ ราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 ไม่พบการกระทำผิด |
||||||||||||||||||
1676 | การนำเสนอผลการดำเนินงานของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ต่อคณะรัฐมนตรี | ทก | 07/09/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานผลการ
ดำเนินงานของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) สรุปได้ดังนี้ ณ วันที่ 1 มกราคม-31 กรกฎาคม 2547 ปณท มีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากสามารถลดการขาดทุนมาเป็นลำดับจนถึงปัจจุบัน ปณท มีกำไรสุทธิเป็นจำนวนเงิน 1,018 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากการปรับอัตราค่าบริการเพื่อ ให้สอดคล้องใกล้เคียงกันต้นทุนการดำเนินการ นอกจากนี้ ปณท ยังได้จัดทำแผนงาน/โครงการ ตลอดจน ปรับปรุงและพัฒนาองค์กร เพื่อให้การดำเนินงานและบริหารงานของ ปณท เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่ความเป็นเชิงธุรกิจมากขึ้น และร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง จัดทำแผนยุทธศาสตร์การปรับปรุงโครงสร้างการบริหาร จัดการเพื่อฟื้นฟูฐานะการเงิน ประกอบด้วย การสร้างความมั่นคงทางด้านการเงินอย่างยั่งยืน การใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการ และการพัฒนาศักยภาพการดำเนินงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ อย่างไรก็ตาม ปณท ยังประสบปัญหา/อุปสรรคบางประการที่ต้อง เร่งรัดแก้ไข เช่น การขาดความคล้องตัวในการปรับอัตราค่าบริการพื้นฐานให้สอดคล้องกับภาวะต้นทุนที่ แท้จริง อำนาจในการพิจารณาให้ส่วนลดแก่ลูกค้ารายใหญ่ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญทางธุรกิจ และการหา เงินทุนจำนวนมากมาใช้ในการพัฒนาด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการให้บริการยุค ปัจจุบัน เป็นต้น
|
||||||||||||||||||
1677 | แผนการและแนวทางการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) | กค | 07/09/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) ประธาน
คณะกรรมการกำหนดนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจเสนอมติคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ครั้งที่ 2/2547 เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2547 ซึ่งมีมติเกี่ยวกับแผนการและแนวทางการเสนอขายหุ้นสามัญของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (บมจ.อสมท) ดังนี้ เห็นชอบการเพิ่มทุนจดทะเบียนของ บมจ. อสมท. จาก 3,000 ล้านบาท เป็น 3,835 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 167 ล้านหุ้น มูลค่าที่ ตราไว้หุ้นละ 5 บาท และเห็นชอบแนวทางการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.อสมท ให้แก่พนักงานของ บมจ.อสมท โดยให้นำหุ้นสามัญเดิมของ บมจ.อสมท ที่ถือโดยกระทรวงการคลัง จำนวนไม่เกิน 51 ล้านหุ้น เสนอขายให้แก่นักลงทุนทั่วไปควบคู่กับการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยให้ทำการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over - allotment option program) ในจำนวนไม่เกินร้อยละ 15 ของจำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขายให้แก่นักลงทุนทั่ว ไปทั้งหมดเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมให้แก่นักลงทุนทั่วไปควบคู่กับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.อสมท และเห็นชอบกรอบโครงสร้างการเสนอขายหุ้นให้แก่นักลงทุนทั่วไป รวมทั้งการกำหนดให้กองทุนสำรองเลี้ยง ชีพพนักงาน บมจ.อสมท และให้คณะกรรมการระดมทุน ฯ สามารถพิจารณาอนุมัติการปรับเปลี่ยนแนวทาง และรายละเอียด แผนการและแนวทางการเสนอขายหุ้นสามัญของ บมจ.อสมท ได้ตามความจำเป็นและเหมาะ สมเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดทุน ณ ช่วงเวลาการเสนอขาย ทั้งนี้ ให้ บมจ.อสมท และกระทรวงการ คลังไม่ต้องนำสัญญา และ/หรือ ข้อตกลงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหุ้น เสนอต่อสำนักงานอัยการ สูงสุดเพื่อพิจารณาก่อนการลงนามในสัญญา และ/หรือข้อตกลงต่าง ๆ โดยให้การจำหน่ายหุ้นที่กระทรวง การคลังถืออยู่ใน บมจ.อสมท ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่าย หุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. 2504 และให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่า ด้วยการจำหน่ายหุ้นและซื้อหุ้นของส่วนราชการ พ.ศ. 2535 ข้อ 10 (2) ซึ่งกำหนดให้การจำหน่ายหุ้นในกิจ การใดที่ทำให้สัดส่วน ของหุ้นที่ถืออยู่ต่ำกว่าร้อยละ 75 ของหุ้นทั้งสิ้นต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี นอก จากนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ บมจ.อสมท ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2547 เรื่อง หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจ อย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||
1678 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประจำเดือนสิงหาคม 2547 | อก | 07/09/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรม
ประจำเดือนสิงหาคม 2547 และภาวะอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 2 ปี 2547 (เมษายน-มิถุนายน 2547) สรุป ได้ดังนี้ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนกรกฎาคม 2547 เท่ากับ 135.27 ลดลงจากเดือนที่แล้ว (137.41) ร้อยละ 1.6 โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมลดลง ได้แก่ การผลิตยานยนต์ การ ผลิตยาสูบ การผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ การผลิตน้ำมันจากพืช น้ำมันจากสัตว์และไขมัน สัตว์ รวมทั้งการแปรรูปผลไม้และผัก เป็นต้น ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนกรกฎาคม 2547 มีค่า กับ 61.47 ลดลงจากเดือนที่แล้ว (64.01) ร้อยละ 4.0 โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลัง การผลิตลดลง ได้แก่ การผลิตยานยนต์ การผลิตยาสูบ การผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ การ ผลิตน้ำมันจากพืช น้ำมันจากสัตว์และไขมันสัตว์ การแปรรูปผลไม้และผัก และการผลิตเครื่องเพชรพลอยและ รูปพรรณที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น สำหรับภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคม 2547 มีดังนี้ การผลิต อุตสาหกรรมอาหารที่ผลิตเพื่อใช้ในประเทศขยายตัวต่อเนื่อง การผลิตและการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ยังคงมีทิศทางที่ดี ราคาเหล็กมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การผลิตรถยนต์ชะลอตัวเล็กน้อย อุตสาหกรรมเครื่องใช้ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ประสบกับปัญหาราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น การผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวของภาระธุรกิจก่อสร้าง |
||||||||||||||||||
1679 | รายงานความคืบหน้าการรณรงค์มาตรการประหยัดพลังงาน ครั้งที่ 7 | พน | 07/09/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานรายงานความคืบหน้าการรณรงค์มาตรการ
ประหยัดพลังงาน ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม 2547-2 กันยายน 2547 สรุปได้ดังนี้ มาตรการ ประหยัดพลังงานในภาคเอกชน ในส่วนของการเปิดให้บริการห้างสรรพสินค้า การปิดสถานีบริการน้ำมัน เชื้อเพลิง และการปิดไฟฟ้าป้ายโฆษณา กระทรวงพลังงานได้มีหนังสือประสานงานไปยังกระทรวงมหาด ไทย และผู้ว่าราชการทุกจังหวัดได้ทราบเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว และจัดทำ "คู่มือปฏิบัติตามมาตรการ ประหยัดพลังงานในภาวะน้ำมันแพง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2547" ให้ทราบขั้นตอน และแนวทางปฏิบัติ พร้อมทั้งจัดประชุมหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อซักซ้อมความเข้าใจและ ร่วมกันพิจารณากรณีที่อาจได้รับผลกระทบจากมติหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และเตรียมแนวทางป้อง กัน/แก้ไขให้ทันกับการจะมีผลบังคับใช้ ส่วนมาตรการลดใช้พลังงานในหน่วยงานภาครัฐ จากข้อมูลรวม ของหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจในเขตการไฟฟ้านครหลวง ในช่วงเดือนมิถุนายน 2547 มีปริมาณการ ใช้ไฟฟ้าลดลง 2.4% หรือประมาณ 5.3 ล้านหน่วย คิดเป็นเงินที่ประหยัดได้ 12 ล้านบาท และในส่วน ของมาตรการลดใช้พลังงานในภาคเอกชน "โครงการประหยัดไฟกำไร 2 ต่อ" ซึ่งผลการดำเนินการตาม โครงการ ฯ ปรากฏว่า สามารถลดการใช้ไฟฟ้าเดือนกรกฎาคม 2547 เท่ากับ 202 ล้านหน่วย คิดเป็น เงินที่ประหยัดได้ 505 ล้านบาท สำหรับมาตรการส่งเสริมใช้ระบบขนส่งมวลชน "โครงการ Park & Ride สถานีหมอชิตและบางซื่อ" อยู่ระหว่างการดำเนินการปรับพื้นที่สถานที่จอดรถสาธารณะบริเวณสถานีรถ ไฟฟ้าหมอชิตและบางซื่อ รวมถึงการก่อสร้างสะพานคนข้ามระหว่างที่จอดรถกับสถานีรถไฟบางซื่อ โดย คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2547 สามารถรองรับการจอดรถยนต์ได้ 1,120 คัน และ 1,000 คัน ตามลำดับ |
||||||||||||||||||
1680 | สรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนสิงหาคม 2547 | พณ | 31/08/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสรุปภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
ประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนสิงหาคม 2547 ตั้งแต่วันที่ 9-13 สิงหาคม 2547 มีดังนี้ ภาวะราคาสินค้าที่ต้อง ติดตามใกล้ชิดพิเศษ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เหล็ก โดยเหล็กเส้น (ขนาด 9 มม.) ราคาสูงขึ้นเป็น 109-114 บาท /เส้น เหล็กโครงสร้างรูปพรรณชนิดเหล็กฉาก (ขนาด 40x40x3 มม.) ราคาสูงขึ้นเป็น 255-278 บาท/ ท่อน สินค้าที่ต้องติดตามใกล้ชิด ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน 91 และ 95 ซึ่งปรับราคาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ตามประกาศของกระทรวงพลังงาน เป็น 19.79 บาท/ลิตร และ 20.59 บาท/ลิตร ตามลำดับ ปุ๋ยเคมี ราคาสูงขึ้นเป็น 445-450 บาท/กระสอบ สินค้าที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ ไก่สดราคาสูงขึ้นเป็น 40-45 บาท /กก. สินค้าที่เปลี่ยนแปลงตามมาตรการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ได้แก่ ราคารถยนต์มีการปรับ ลดลงตามภาระภาษี และสินค้าที่เคลื่อนไหวขึ้น-ลงตามฤดูกาลและภาวะตลาดช่วงสั้น ๆ เช่น เงาะ ราคา ลดลงเป็น 15-18 บาท/กก. ส้มเขียวหวาน ราคาลดลงเป็น 32-35 บาท/กก. ผักบุ้งจีน และผักชี ราคา สูงขึ้นเป็น 14-16 บาท/กก. และ 3-6 บาท/ขีด สำหรับสินค้าอื่น ๆ ส่วนใหญ่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้าน ราคา ยกเว้นสินค้าบางรายการที่ราคาลดลงเล็กน้อยตามกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและภาวะการแข่ง ขัน เช่น ปูนซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำปลา สบู่ และหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ในส่วนของการตรวจสอบ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากมีการร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมการฉวยโอกาสของสถานีบริการ น้ำมันเชื้อเพลิงผ่านสายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 ตรวจพบการกระทำผิด 10 ราย จำแนกเป็นปรับ ราคาก่อนกำหนด 3 ราย ปฏิเสธการจำหน่าย 1 ราย และไม่ปิดป้ายแสดงราคาหรือปิดป้ายไม่ตรงกับที่ จำหน่าย 6 ราย ซึ่งได้มีการส่งเรื่องดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายแล้ว และจากการตรวจ สอบผู้ประกอบการทั่วไปได้มีการตรวจสอบตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 พบการกระทำผิด 18 ราย และตรวจสอบตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 พบการกระทำ ผิด 4 ราย โดยได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว |
.....