ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 81 จากทั้งหมด 137 หน้า แสดงรายการที่ 1601 - 1620 จากข้อมูลทั้งหมด 2735 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1601 | รายงานผลการปฏิบัติการกู้ภัยแล้ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประจำสัปดาห์ (ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2548) | กษ | 03/05/2548 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับผลการปฏิบัติการ
กู้ภัยแล้ง ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2548 โดยผลการปฏิบัติการฝนหลวงและสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาด ใหญ่คณะปฏิบัติการฝนหลวงได้ขึ้นบินปฏิบัติ 294 เที่ยวบิน (จาก 9 ฐาน) มีฝนตกรวม 54 จังหวัด สำหรับ สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ (30 แห่ง) มีปริมาตรน้ำใช้การได้จริง 13,062 ล้านลบ.ม. หรือร้อย ละ 29 ของความจุที่ใช้การได้ ส่วนอ่างเก็บน้ำเขื่อนที่อยู่ในภาวะวิกฤติ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำเขื่อนจุฬาภรณ์ ลำตะ คอง ลำพระเพลิง ทับเสลา และกระเสียว และอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ ภูมิพล แม่กวง ลำปาว อุบลรัตน์ ลำนางรอง มูลบน ลำแซะ วชิราลงกรณ บางพระ หนองปลาไหล คลองสียัด และปราณบุรี ด้านการ X-ray พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดแคลนน้ำ พื้นที่สีแดง (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดน้ำอุปโภค-บริโภค) มีจำนวน 1,208 หมู่ บ้าน พื้นที่สีเหลือง (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดน้ำด้านปศุสัตว์และการเกษตร) มีจำนวน 1,488 หมู่บ้าน และพื้น ที่สีเขียว (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดน้ำเพื่อการเกษตร) มีจำนวน 831 หมู่บ้าน ในส่วนของความเสียหายด้านการ เกษตร ประกอบด้วย ด้านพืช มีพื้นที่การเกษตรประสบภัย 59 จังหวัด 466 อำเภอ เกษตรกรได้รับความ เดือดร้อน 1.4 ล้านคน พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 12 ล้านไร่ จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมาก 3 ลำดับ แรก คือ จังหวัดนครราชสีมา นครสวรรค์ และศรีสะเกษ ด้านประมง มีพื้นที่ประสบภัย 11 จังหวัด 15 อำเภอ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 653 ราย 246 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 527.25 ไร่ และ 1,010 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 11,341 ตาราเมตร มูลค่าความเสียหายประมาณ 18 ล้านบาท ด้านการให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ การสนับ สนุนเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือการเพาะปลูกข้าวนาปรัง พืชไร่ และการอุปโภค-บริโภค ทั้งในและนอกเขตชล ประทานรวมทั้งการใช้เงินทดรองราชการของจังหวัดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัย
|
||||||||||||||||||||||||
1602 | สถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนเมษายน 2548 | พณ | 26/04/2548 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับผลการตรวจสอบภาวะการค้า
และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลังการปรับเพิ่มราคาจำหน่ายน้ำมันดีเซล ประจำสัปดาห์ที่ 2 เดือนเมษายน 2548 ระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน 2548 สรุปได้ดังนี้ ราคาสินค้าส่วนใหญ่ยังคงจำหน่ายในราคาเดิมยกเว้น ราคาสินค้าบางรายการที่มีการเปลี่ยนแปลงในสัปดาห์นี้ โดยสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ สุกรชำแหละ ราคา สูงขึ้นจาก กก.ละ 95-100 บาท เป็น กก.ละ 100-105 บาท ส่วนสินค้าที่มีราคาลดลง ได้แก่ ยางรถยนต์นั่ง และรถยนต์บรรทุก ราคาลดลงจากเส้นละ 1,350-1,450 บาท และ 1,850-1,900 บาท เป็นเส้นละ 1,350 บาท และ 1,800-1,900 บาท ถุงพลาสติก ราคาลดลงจากถุงละ 65-76 บาท เป็น ถุงละ 65-75 บาท สำหรับสินค้าอื่นๆ มีการเปลี่ยนแปลงราคาขึ้นลงในช่วงสั้น ๆ ตามปริมาณสินค้าที่เข้าสู่ตลาด ภาวะการแข่งขัน และการส่งเสริมการขาย เช่น ผักสด ผลิตภัณฑ์นม น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำซีอิ๊ว ซอสปรุงรสถั่วเหลือง อาหาร กระป๋อง เส้นหมี่อบแห้ง น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างห้องน้ำ และแป้งผงโรยตัว เป็นต้น ในส่วนของปูนซีเมนต์ ราคามีแนวโน้มปรับสูงขึ้นตามภาระค่าขนส่ง และด้านการตรวจสอบพฤติกรรมผู้ประกอบการในช่วงเทศกาล สงกรานต์พบการกระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคา 5 ราย และราคาจำหน่ายไม่ตรงกับป้ายแสดงราคา 2 ราย รวมทั้งพบการกระทำผิดของการจำหน่ายก๊าซที่มีน้ำหนักผลิตน้อยกว่าปริมาณที่แสดง จำนวน 1 ราย
|
||||||||||||||||||||||||
1603 | การนำเสนอข้อมูลสภาวะอากาศ | ทก | 26/04/2548 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
โดยกรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับสรุปสภาวะอากาศทั่วไปในรอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 18 - 24 เมษายน 2548 ดังนี้ ลักษณะอากาศโดยทั่วไปของทุกภาคจะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ประกอบกับมีฝนทั่ว ไปและฝนตกหนักในบางพื้นที่ ส่วนสภาวะอากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 25 เมษายน - 1 พฤษภา คม 2548 ลักษณะอากาศโดยทั่วไปของทุกภาค รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศร้อนถึง ร้อนจัด กับมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่
|
||||||||||||||||||||||||
1604 | รายงานผลการปฏิบัติการกู้ภัยแล้ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประจำสัปดาห์ | กษ | 26/04/2548 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับผลการปฏิบัติการ
กู้ภัยแล้ง ณ วันที่ 25 เมษายน 2548 สรุปได้ดังนี้ การปฏิบัติการฝนหลวง และสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ ขนาดใหญ่ คณะปฏิบัติการฝนหลวงได้ขึ้นบินปฏิบัติการ จำนวน 276 เที่ยวบิน (จากจำนวน 9 ฐาน) มีฝนตก รวม 44 จังหวัด สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ (30 แห่ง) มีปริมาตรน้ำใช้การได้จริง 13,634 ล้านลบ.ม. หรือร้อยละ 30 ของความจุที่ใช้การได้ และจากการที่ฝนตกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้มีปริมาตร น้ำไหลเข้าอ่าง ฯ รวม 128.43 ล้านลบ.ม. เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 1.65 ล้านลบ.ม. ส่วนอ่างเก็บน้ำเขื่อนที่อยู่ ในภาวะวิกฤต ได้แก่ อ่างเก็บน้ำเขื่อนจุฬาภรณ์ ลำตะคอง ลำพระเพลิง ทับเสลา และกระเสียว และอ่างเก็บน้ำที่ ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ ภูมิพล แม่กวง ลำปาว อุบลรัตน์ ลำนางรอง มูลบน ลำแซะ วชิราลงกรณ บางพระ หนอง ปลาไหล คลองสียัด และปราณบุรี ด้านการ X-ray พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดแคลนน้ำ พบพื้นที่สีแดง (พื้นที่ที่มี แนวโน้มขาดน้ำอุปโภค-บริโภค) มีจำนวน 1,313 หมู่บ้าน พื้นที่สีเหลือง (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดน้ำด้านปศุสัตว์ และการเกษตร) มีจำนวน 1,536 หมู่บ้าน และพื้นที่สีเขียว (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดน้ำเพื่อการเกษตร) มีจำนวน 896 หมู่บ้าน ในส่วนของความเสียหายด้านการเกษตร ประกอบด้วย ด้านพืช เสียหายประมาณ 12 ล้านไร่ จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมาก 3 ลำดับแรก คือ จังหวัดนครราชสีมา นครสวรรค์ และศรีสะเกษ และด้านประมง เสียหาย 246 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 527.25 ไร่ และ 1,010 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 11,341 ตารางเมตร ด้านการ ให้ความช่วยเหลือ ได้แก่ การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือการเพาะปลูก การอุปโภค-บริโภคทั้งในและ นอกเขตชลประทาน รวมทั้งการใช้เงินทดรองราชการของจังหวัด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัย
|
||||||||||||||||||||||||
1605 | ขอผ่อนผันมาตรการประหยัดพลังงานให้หน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องในภารกิจแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ | กห | 19/04/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอให้หน่วยงานในสังกัดกองทัพอากาศ ซึ่งปฏิบัติ
หน้าที่เกี่ยวข้องในภารกิจแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการผ่อนผันไม่ต้องถือ ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2547 และวันที่ 5 ตุลาคม 2547 เรื่อง การรณรงค์มาตรการ ประหยัดพลังงานได้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
|
||||||||||||||||||||||||
1606 | ค่าธรรมเนียมพิเศษการส่งออกข้าวขาวภายใต้โควตาภาษีไปสหภาพยุโรป | พณ | 19/04/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้คงการจัดเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษการ
ส่งออกข้าวขาวภายใต้โควตาการยกเว้นภาษีนำเข้าสหภาพยุโรปต่อไป และให้กระทรวงพาณิชย์สามารถปรับ ลดอัตราค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะตลาดในแต่ละสถานการณ์ เพื่อคงความสามารถแข่ง ขันของข้าวไทยในตลาดสหภาพยุโรป ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรนำเงินค่า ธรรมเนียมดังกล่าว ไปใช้ในโครงการส่งเสริมขีดความสามารถและพัฒนาคุณภาพสินค้าข้าวของไทย ภายใต้ กองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ไปประกอบการดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||
1607 | รายงานผลการปฏิบัติการกู้ภัยแล้ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประจำสัปดาห์ | กษ | 19/04/2548 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับผลการปฏิบัติการกู้
ภัยแล้ง ณ วันที่ 18 เมษายน 2548 สรุปได้ดังนี้ การปฏิบัติการฝนหลวงและสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาด ใหญ่คณะปฏิบัติการฝนหลวงได้ขึ้นบินปฏิบัติการ จำนวน 338 เที่ยวบิน (จากจำนวน 9 ฐาน) มีฝนตกรวม 49 จังหวัด สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ (30 แห่ง) มีปริมาตรน้ำไหลเข้าอ่าง ฯ รวม 108.4 ล้าน ลบ.ม. เฉลี่ยวันละ 15.48 ล้านลบ.ม. ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 83.28 ล้านลบ.ม. เนื่องจากปริมาณฝนลดลง ส่วน อ่างเก็บน้ำเขื่อนที่อยู่ในภาวะวิกฤต มีจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำเขื่อนจุฬาภรณ์ ลำตะคอง ลำพระเพลิง ทับเสลา และกระเสียว และอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวัง มีจำนวน 12 อ่าง ได้แก่ ภูมิพล แม่กวง ลำปาว อุบลรัตน์ ลำนางรอง มูลบน ลำแซะ วชิราลงกรณ บางพระ หนองปลาไหล คลองสียัด และปราณบุรี ด้านการ X-ray พื้น ที่ที่มีแนวโน้มขาดแคลนน้ำ พบพื้นที่สีแดง (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดน้ำอุปโภค-บริโภค) มีจำนวน 2,216 หมู่บ้าน พื้นที่สีเหลือง (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดน้ำด้านปศุสัตว์และการเกษตร) มีจำนวน 2,103 หมู่บ้าน และพื้นที่สีเขียว (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดน้ำเพื่อการเกษตร) มีจำนวน 1,191 หมู่บ้าน ในส่วนของพื้นที่การเกษตรประสบความ แห้งแล้งมีพื้นที่การเกษตรประสบภัย 59 จังหวัด 466 อำเภอ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 1.4 ล้านคน พื้นที่ การเกษตรเสียหาย 12 ล้านไร่ โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมาก ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา นครสวรรค์ และ ศรีสะเกษ ด้านการให้ความช่วยเหลือ กรมชลประทาน ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือการเพาะปลูก และ การอุปโภค-บริโภคทั้งในและนอกเขตชลประทาน รวมทั้งใช้เงินทดรองราชการของจังหวัดเพื่อช่วยเหลือเกษตร กรที่ประสบภัยแล้ง ของกรมส่งเสริมการเกษตร วงเงิน 750.59 ล้านบาท ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร 2.95 ล้าน ไร่ เกษตรกร 380,510 ราย รวม 41 จังหวัด
|
||||||||||||||||||||||||
1608 | การนำเสนอข้อมูลสภาวะอากาศ | ทก | 19/04/2548 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยกรม
อุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับสรุปสภาวะอากาศทั่วไปในรอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2548 สรุปได้ดังนี้ ลักษณะอากาศโดยทั่วไปของทุกภาคจะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ประกอบกับมีฝนทั่วไป และมีฝนหนักใน บางพื้นที่ สำหรับสภาวะอากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 18-24 เมษายน 2548 ภาคเหนือ อากาศร้อนถึง ร้อนจัดบางพื้นที่ โดยจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองและ ลมกระโชกแรง ภาคตะวันออกรวมทั้งชายฝั่ง มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ภาคใต้ฝั่งตะวันออกและตะวันตก มีฝนฟ้า คะนองบางพื้นที่ ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่
|
||||||||||||||||||||||||
1609 | สถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประจำสัปดาห์ที่ 5 เดือนมีนาคม 2548 | พณ | 12/04/2548 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับผลการตรวจสอบภาวะการ
ค้าและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลังการปรับเพิ่มราคาจำหน่ายน้ำมันดีเซล ประจำสัปดาห์ที่ 5 เดือนมีนาคม 2548 ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม-1 เมษายน 2548 โดยสินค้าที่มีการเคลื่อนไหวราคาสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ ได้แก่ สินค้าประเภทรถยนต์ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนสินค้ารุ่นใหม่ออกจำหน่าย ได้แก่ รถยนต์นั่ง ฮอนด้า ซิตี้ รุ่น A Deluxe ราคาคันละ 489,000 บาท จากเดิมเป็นรุ่น AMT ราคาคันละ 474,000 บาท และรถยนต์บรรทุก เล็กอีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ ราคาคันละ 465,000 บาท จากเดิมที่จำหน่ายราคาคันละ 441,000 บาท เป็นผลมาจาก การติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมและได้ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้ประหยัดน้ำมัน และสินค้าเกษตร ซึ่งมีสาเหตุมาจาก ผลกระทบจากสภาพอากาศและตามฤดูกา ล ได้แก่ สุกรชำแหละ ราคาสูงขึ้นจาก กก.ละ 90-95 เป็น กก.ละ 90-100 บาท ผักชี ราคาสูงขึ้นจากขีดละ 3-5 บาท เป็น 4-5 บาท และมะนาว ราคาสูงขึ้นจากผลละ 3.00- 3.50 บาท เป็น 3.00-4.00 บาท สำหรับสินค้าอื่น ๆ มีการเปลี่ยนแปลงราคาขึ้นลงในช่วงสั้น ๆ ตามปริมาณ สินค้าที่เข้าสู่ตลาดและการส่งเสริมการขาย เช่น ผักสด ผลิตภัณฑ์นม กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำมันพืช น้ำส้มสายชู น้ำปลา น้ำซีอิ๊ว อาหารกึ่งสำเร็จรูป วุ้นเส้น ผลิตภัณฑ์ชำระล้าง แป้งผงโรยตัว ถ่านไฟฉาย และยากำจัดยุง เป็นต้น ในส่วนของการตรวจสอบพฤติกรรมผู้ประกอบการ พบการกระทำผิดไม่ปิดป้ายแสดงราคา จำนวน 3 ราย โดยได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
1610 | ผลการประชุมสุดยอดผู้นำทางการสำรวจโลก ครั้งที่ 3 (Third Earth Observation Summit) | วท | 12/04/2548 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับผลการ
ประชุมสุดยอดผู้นำทางการสำรวจโลก ครั้งที่ 3 (Third Earth Observation Summit) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2548 ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม โดยผลการประชุมในครั้งนี้ ได้มีการรับรองแผนงาน 10 ปี ของการพัฒนาระบบการสำรวจโลก (Global Earth Observation System of Systems-GEOSS) พร้อม ทั้งออกแถลงการณ์ร่วม เพื่อให้การสนับสนุนระบบเตือนภัยสึนามิและภัยพิบัติอื่น ๆ ภายใต้กรอบของระบบ การสำรวจโลก (GEOSS) นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งกลุ่มการสำรวจโลก (Group on EarthObservation -GEO) เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลเพื่อทำหน้าที่บริหารแผนงาน 10 ปี ของการพัฒนาระบบการสำรวจโลก (GEOSS) รวมทั้งจัดตั้งสำนักเลขาธิการของ GEO ที่สำนักงานใหญ่ขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลกขององค์การ สหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ทั้งนี้ ในการรับรองแผนงาน ฯ ของการประชุมครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาระบบการสำรวจโลก (GEOSS) อันจะนำไปสู่การได้มาซึ่งข้อมูลสภาวะการเปลี่ยน แปลงของโลกที่ถูกต้อง ทันสมัย และทันต่อเหตุการณ์ เพื่อการพยากรณ์ที่แม่นยำขึ้นในด้านภัยพิบัติ สภาวะ อากาศทรัพยากรธรรมชาติ การเกษตรและสิ่งแวดล้อม การเข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาระบบการสำรวจโลก (GEOSS) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย สำหรับพันธกรณีทางการเงินข้อ 7.1 ของแผนงาน ฯ ว่าด้วย การเงินของระบบสำรวจโลก (GEOSS) ไม่ได้กำหนดให้จ่ายค่าสมาชิก แต่อาจบริจาคให้กองทุนโดยสมัครใจ เพื่อการบริหารงานหรือกิจกรรมพิเศษ ดังนั้น การเข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาระบบการสำรวจโลก (GEOSS) จึงไม่มีพันธะในการจ่ายค่าบำรุงประจำปี นอกจากการบริจาคโดยสมัครใจ
|
||||||||||||||||||||||||
1611 | รายงานผลการตรวจราชการและติดตามสถานการณ์ภัยแล้งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน | รง | 12/04/2548 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลรายงานผลการตรวจราชการและติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง
ในพื้นที่ 2 จังหวัด คือ จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดราชบุรี ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2548 ซึ่งผลการตรวจราชการสรุปได้ดังนี้ จังหวัดสมุทรสงคราม สถานการณ์ภัยแล้งขณะนี้ได้บรรเทา ลง เนื่องจากมีฝนตกลงมา เมื่อวันที่ 25-26 มีนาคม 2548 มีเพียง 1 อำเภอ ( อำเภออัมพวา) 11 ตำบล 96 หมู่บ้าน พื้นที่ทางการเกษตร 203,374 ไร่ ที่ยังประสบภัยแล้ง แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย และจากการตรวจ ราชการในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม พบปัญหาจังหวัดกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ คือ ปัญหามลภาวะน้ำเสียใน คลองวัดประดู่ อำเภออัมพวา ทำให้ไม่สามารถใช้น้ำจากคลองวัดประดู่เพื่อการอุปโภคบริโภค ก่อให้เกิดความ เสียหายแก่พื้นที่ไร่สวนผลไม้ ความต้องการแรงงานต่างด้าวของนายจ้าง และปัญหาราคาน้ำมันเขียวที่ใช้ในกิจ การเรือประมงมีราคาสูง สำหรับผลการตรวจราชการที่จังหวัดราชบุรี ในส่วนของสถานการณ์ภัยแล้ง มีพื้นที่ ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง 6 อำเภอ 54 ตำบล 334 หมู่บ้าน โดยพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง 113,331 ไร่ ในการนี้ จังหวัดได้เสนอขอรับการสนับสนุนเงินงบกลางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง ด้านพืชและปศุสัตว์ เป็นเงิน 27,853,452.50 บาท และเสนอขอให้ช่วยติดตามเรื่องความเดือดร้อนของราษฎร ตำบลเบิกไพร ที่มีเอกสารสิทธิ น.ส.3 และ น.ส.3 ก แต่ไม่สามารถใช้เอกสารดังกล่าวได้ เนื่องจากอยู่ในเขตป่า สงวน หรือป่าเสื่อมโทรม และไม่อนุมัติให้แปลงสินทรัพย์เป็นทุน
|
||||||||||||||||||||||||
1612 | ผลการตรวจราชการสถานการณ์ภัยแล้งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม | วธ | 12/04/2548 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงวัฒนธรรมเกี่ยวกับสรุปผลการตรวจราชการ
สถานการณ์ภัยแล้งพื้นที่ในจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดสระแก้ว ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สรุป ได้ดังนี้ จังหวัดปราจีนบุรี มีพื้นที่ที่ประสบความแห้งแล้งครอบคลุม 6 อำเภอ 54 ตำบล 325 หมู่บ้าน ราษฎร ประสบภัย 8,338 ราย พื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายรวม 181,481 ไร่ ทางจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือแก่ ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและบรรเทาปัญหาภัย แล้งอำเภอ ณ ที่ว่าการทุกอำเภอ และจ่ายเงินทดลองรายการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดลอง รายการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 จำนวน 7,266,677 บาท สำหรับแผนงาน/ โครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากงบกลาง (5,000 ล้านบาท) ปี พ.ศ. 2548 เพื่อดำเนินโครงการ พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเกษตร รวม 32 โครงการ งบประมาณ 42,495,268 บาท ขณะนี้ได้รับการอนุมัติแล้ว โดย จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณ เพื่อก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโสมง งบประมาณจำนวน 4,809.54 ล้านบาท ส่วนจังหวัดสระแก้ว แนวทางการแก้ไขภาวะภัยแล้งของจังหวัด มีดังนี้ ระยะแรก ได้จัดตั้งศูนย์เฉพาะ กิจแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ระยะที่สอง จังหวัดได้เสนอโครงการพัฒนาลุ่มน้ำ 81 โครงการ ได้รับงบประมาณแล้ว 30 โครงการ จำนวน 79 ล้านบาท ดำเนินการเสร็จแล้ว 26 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ 4 โครงการ และ รอการอนุมัติจากสำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง 51 โครงการ งบประมาณ 219,650,000 บาท และระยะที่สาม เร่งรัดให้จังหวัดสระแก้วรีบเสนอแผนงานตามยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาภัยแล้งเพื่อนำเสนอ ขออนุมัติโครงการจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
1613 | รายงานผลการปฏิบัติการกู้ภัยแล้ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประจำสัปดาห์ | กษ | 12/04/2548 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับผลการปฏิบัติการ
กู้ภัยแล้ง ณ วันที่ 11 เมษายน 2548 สรุปได้ดังนี้ ผลการปฏิบัติการฝนหลวงและสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ ขนาดใหญ่ คณะปฏิบัติการฝนหลวงได้ขึ้นบินปฏิบัติการ จำนวน 285 เที่ยวบิน (จากจำนวน 9 ฐาน) มีฝนตก รวม 47 จังหวัด สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ (30 แห่ง) มีปริมาตรน้ำไหลเข้าอ่าง ฯ รวม 191.68 ล้านลบ.ม. เฉลี่ยวันละ 27.38 ล้านลบ.ม. โดยอ่าง ฯ ที่มีปริมาตรน้ำไหลเข้ามากที่สุด ได้แก่ อ่างเก็บ น้ำเขื่อนสิริกิติ์ ภูมิพล และบางลาง ส่วนอ่างเก็บน้ำเขื่อนที่อยู่ในภาวะวิกฤต มีจำนวน 5 ห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำ เขื่อนจุฬาภรณ์ ลำตะคอง ลำพระเพลิง ทับเสลา และกระเสียว และอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวัง มีจำนวน 12 แห่ง ได้แก่ ภูมิพล แม่กวง ลำปาว อุบลรัตน์ ลำนางรอง มูลบน ลำแซะ วชิราลงกรณ บางพระ หนองปลาไหล คลอง สียัด และปราณบุรี ด้านการ X-ray พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดแคลนน้ำพบพื้นที่สีแดง (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดแคลน น้ำอุปโภค-บริโภค) มีจำนวน 2,667 หมู่บ้าน พื้นที่สีเหลือง (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดแคลนน้ำเพื่อการปศุสัตว์ และการเกษตร) มีจำนวน 2,712 หมู่บ้าน และพื้นที่สีเขียว (พื้นที่ที่มีแนวโน้มขาดแคลนน้ำด้านการเกษตร) มี จำนวน 1,329 หมู่บ้าน ในส่วนของพื้นที่การเกษตรประสบความแห้งแล้ง มีพื้นที่การเกษตรประสบภัย 59 จังหวัด 465 อำเภอ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 1.4 ล้านคน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 12.06 ล้านไร่ โดย จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมาก ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา นครสวรรค์ และศรีสะเกษ ด้านการให้ความช่วยเหลือ กรมชลประทาน ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือการเพาะปลูก และการอุปโภค-บริโภค ทั้งในและนอก เขตชลประทาน รวมทั้งใช้เงินทดรองราชการของจังหวัดเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง ของกรมส่ง เสริมการเกษตร วงเงิน 749.93 ล้านบาท ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร 2.95 ล้านไร่ เกษตรกร 378,900 ราย รวม 41 จังหวัด
|
||||||||||||||||||||||||
1614 | การนำเสนอข้อมูลสภาวะอากาศ | ทก | 12/04/2548 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยกรม
อุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับสรุปสภาวะอากาศทั่วไปในรอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 4-10 เมษายน 2548 ดังนี้ ลักษณะ อากาศโดยทั่วไปของทุกภาคจะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนทั่วไปและฝนหนักในบางพื้นที่ สำหรับ สภาวะอากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2548 ภาคเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ โดยจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงหนือ อากาศร้อนถึงร้อน จัดกับมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่กับมีฝน ฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ภาคตะวันออกรวมทั้งชายฝั่ง อากาศร้อนถึงร้อนจัด และจะมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ภาคใต้ฝั่งตะวันออกและตะวันตก มีฝนฟ้าคะนอง บางพื้นที่ สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่
|
||||||||||||||||||||||||
1615 | การนำเสนอข้อมูลสภาวะอากาศ | ทก | 05/04/2548 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลสภาวะอากาศ ของกรมอุตุนิยมวิทยา ดังนี้ สภาวะอากาศ
ทั่วไปในรอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม-3 เมษายน 2548 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความ ร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนเกือบตลอดสัปดาห์โดยมีแนวพัดสอบของลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พาด ผ่านบริเวณดังกล่าวในระยะครึ่งหลังของสัปดาห์ ประกอบกับความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปก คลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกของประเทศไทยในวันสุดท้ายของสัปดาห์ ลักษณะดังกล่าว ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนเกือบทั่วไป กับร้อนจัดบางพื้นที่ส่วนมากในระยะกลางสัปดาห์ และมี ฝนตกหลายพื้นที่ในระยะปลายสัปดาห์ ส่วนสภาวะอากาศในช่วงวันที่ 4-10 เมษายน 2548 ภาคกลางและ ภาคเหนือจะมีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทย ตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง และจะปรากฏความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความ ร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนลดลงและอุณหภูมิสูงขึ้น โดยจะมีอากาศร้อนกับมี ฟ้าหลัวในตอนกลางวัน คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง
|
||||||||||||||||||||||||
1616 | การเตรียมการรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ต่างๆ | นร | 05/04/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์วางระเบิดที่อำเภอเมือง
สงขลาและอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2548 ทำให้ประชาชนสียชีวิตและบาดเจ็บ ตลอดจนทรัพย์สินของทางราชการและเอกชนได้รับความเสียหายเป็นอันมาก แม้ว่ารัฐบาลจะได้เร่งดำเนินการ ด้านต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่กลุ่มคนที่ก่อเหตุดังกล่าว ก็ยังคงที่จะลอบก่อเหตุร้าย จึงให้ดำเนินการดังนี้ (1) ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกแห่งถือปฏิบัติ และบังคับใช้กฎหมาย กฎ และระเบียบต่าง ๆ (law enforcement) อย่างถูกต้อง เคร่งครัด และจริงจัง โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย (2) ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณ สถิตย์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับไปประสานสั่งการให้สถานที่ราชการ และหน่วยงานของรัฐทุก แห่งที่ไม่มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดีพอ จัดให้มีห้องควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยที่มีโทรทัศน์วงจร ปิดควบคุมตรวจตราเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสถานที่ได้อย่างชัดเจนและทั่วถึง หากตรวจพบสิ่งผิดปกติต้องสามารถ ติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อเข้าตรวจสอบได้ทันที ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดย เร็วที่สุด โดยอนุมัติในหลักการให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในเรื่องที่เกี่ยวข้องด้วยวิธีกรณีพิเศษได้ตามความจำเป็น (3) ให้กระทรวงมหาดไทยขอความร่วมมือภาคเอกชนที่เป็นเจ้าของ หรือผู้ประกอบการในสถานที่ที่มีความเสี่ยง และอ่อนไหวต่อการเกิดสถานการณ์ความไม่สงบ เช่น ห้างสรรพสินค้าและโรงภาพยนตร์ เป็นต้น ดำเนินการให้ มีระบบรักษาความปลอดภัย โดยในส่วนภูมิภาคให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งประสานและขอความร่วมมือจากภาค เอกชนเพื่อดำเนินการดังกล่าวต่อไปโดยเร็ว (4) ให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์) รับ ไปพิจารณาร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณากำหนดหรือปรับปรุงแนวทางมาตรการ ตลอดจนกฎ ระเบียบในการควบคุม ดูแล และตรวจสอบการนำเข้า ครอบครอง และการนำไปใช้ซึ่งสารและวัสดุอุปกรณ์ที่ สามารถนำไปประกอบเป็นวัตถุระเบิด ให้เหมาะสม รัดกุม แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว (5) ให้กระทรวง กลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับไปพิจารณากำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการพกพาอาวุธ และประ เภทอาวุธประจำตัวของทหาร และตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในเขตชุมชนให้เหมาะสม (6) ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) เป็นเจ้าภาพรับผิดชอบดูแลการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ สิทธิประ โยชน์ทั้งแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับความเดือดร้อน บาดเจ็บ และเสียชีวิต จากเหตุการณ์ความไม่ สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยประสานหารือรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) (7) ให้รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ) เป็นเจ้าภาพรับผิดชอบ และประสานงานในการจัด ระบบ และปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ทั้งในและต่าง ประเทศในเชิงรุก โดยให้หน่วยงานด้านสื่อวิทยุและโทรทัศน์ของรัฐให้การสนับสนุน โดยประสานหารือรอง นายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก ชิดชัย วรรณสถิตย์) และ (8) ให้รัฐมนตรีทุกท่านกำชับให้ข้าราชการและเจ้า หน้าที่ของรัฐถือปฏิบัติเกี่ยวกับการให้สัมภาษณ์ และการให้ข้อมูลข่าวสารแก่สื่อมวลชนให้ถูกต้องตามระเบียบ และข้อบังคับเกี่ยวข้องของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยในส่วนกลาง ผู้ให้สัมภาษณ์หรือให้ข้อมูลข่าวสาร ต่อสื่อมวลชนได้ควรเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงในระดับหัวหน้าส่วนราชการเท่านั้น ส่วนในภูมิภาค ให้ถือเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับไปพิจารณา แนวปฏิบัติในการให้สัมภาษณ์ และให้ข่าวสารกรณีเกิดเหตุการณ์สำคัญ หรือภาวะวิกฤติ แล้วแจ้งให้ส่วนราช การและหน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติ
|
||||||||||||||||||||||||
1617 | รายงานการกำกับติดตามการปฏิบัติราชการเกี่ยวกับสถานการณ์แก้ไขปัญหาภัยแล้ง จังหวัดนครสวรรค์ | นร | 29/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย) รายงานการกำกับ
ติดตามการปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งจังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2548 มีพื้นที่ เกิดภัยแล้ง 13 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ 102 ตำบล 675 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 83,164 ครัวเรือน จำนวน 221,052 คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง 667,583.77 ไร่ จังหวัดนครสวรรค์ได้ให้ การช่วยเหลือแล้ว 140,962 ไร่ เป็นเงิน 35,894,359 บาท และได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำสำหรับไร่นา ของโครงการชลประทาน มีการปฏิบัติการฝนหลวง ให้ความช่วยเหลือโดยใช้รถยนต์บรรทุกน้ำแจกจ่ายเพื่อการ อุปโภคบริโภค นอกจากนี้ ได้ออกตรวจสถานการณ์ภัยแล้ง และเยี่ยมเยียนประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ต่าง ๆ โดยได้นำน้ำดื่มไปแจกจ่ายให้แก่ราษฎร จากการกำกับติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง ที่จังหวัดนครสวรรค์ ได้สั่งการให้จังหวัดประสานงานกองทัพบกและกองทัพอากาศเพื่อสนธิกำลังในการให้ความ ช่วยเหลือด้านน้ำอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะภัยแล้งอย่างเร่งด่วนและเต็มที่ ใน การขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงให้เร่งดำเนินการทันที เมื่อสภาพภูมิอากาศอยู่ในภาวะที่เหมาะสมที่จะดำเนินการได้ สำหรับงบประมาณที่จังหวัดขอรับการสนับสนุนเพื่อบรรเทาความเสียหายแก่ราษฎรผู้ประสบภัย จะได้เร่งรัดให้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี และให้จังหวัดเร่งดำเนินการพิสูจน์ต้นไม้ที่ปลูกในพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำคลอง โพธิ์ และจ่ายค่าชดเชยให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์โดยเร็ว ในส่วนของ การปรับปรุง (ขุดลอก) คลองแม่วงก์ และการขุดลอกบึงหล่ม จะได้เร่งรัดให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัด สรรงบประมาณสนับสนุนต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
1618 | การนำเสนอข้อมูลสภาวะอากาศ | ทก | 29/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรายงานข้อมูล
เกี่ยวกับสภาวะอากาศทั่วไปในรอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 21-27 มีนาคม 2548 สรุปดังนี้ สภาวะอากาศ ทั่วไป แนวพัดสอบของลมใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้พาดผ่านบริเวณประเทศไทยตอนบนในวันแรกและ วันสุดท้ายของสัปดาห์ ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศ จีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทย ตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนเกือบทั่วไป กับร้อนจัดบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือและภาคกลาง มีฝนตกในหลายพื้นที่ โดยทั่วทุกภาคของประเทศอากาศร้อนเกือบทั่วไปเกือบตลอดสัปดาห์ ส่วนสภาวะ ฝนในช่วงตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมเป็นต้นไป มีรายงานฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในเกือบทุกภาค ของประเทศ กับมีรายงานฝนฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ
|
||||||||||||||||||||||||
1619 | สรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง (จนถึงวันที่ 21 มีนาคม 2548) | มท | 22/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสรุปสถานการณ์ความแห้งแล้ง และผลการดำเนินการให้ ความช่วยเหลือ จนถึงวันที่ 21 มีนาคม 2548 มีจังหวัดที่ประสบภัย 71 จังหวัด 696 อำเภอ 61 กิ่งอำเภอ 5,340 ตำบล 44,519 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 2,843,540 ครัวเรือน 11,058,902 คน แยกเป็นภาค เหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคกลาง 13 จังหวัด และภาคตะวันออก 8 จังหวัด ภาคใต้ 14 จังหวัด พื้นที่การเกษตรเสียหาย 13,736,660 ไร่ แยกเป็น นาข้าว 10,190,292 ไร่ พืชไร่ 3,031,745 ไร่ พืชสวน 514,623 ไร่ มูลค่าความเสียหายประมาณ 7,565,861,139 บาท ด้าน การให้ความช่วยเหลือ ได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่นอกเขตชลประทาน รวมทั้งแจกจ่ายน้ำ อุปโภค/บริโภค ในส่วนของงบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,235,807,193.56 บาท จำแนกเป็น งบฉุกเฉินทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) 896,851,630 บาท งบ ฉุกเฉินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 263,637,264.56 บาท และงบประมาณอื่นๆ เช่น งบจังหวัด CEO 75,318,299 บาท นอกจากนี้ได้มีการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งการช่วยเหลือ/ ปัญหาอุปสรรคต่างๆ ได้มีมาตรการเร่งด่วนให้ทุกจังหวัดดำเนินการในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน 2548 ดังนี้ ให้จังหวัดประสานงานสำนักฝนหลวง เร่งปฏิบัติการฝนหลวงทันทีเมื่อมีเมฆ หรือสภาวะ อากาศเอื้ออำนวย ให้มีการจัดระบบการแจกจ่ายน้ำ โดยประสานกับจุดจ่ายน้ำของกรมทรัพยากรน้ำ บาดาล ในพื้นที่ต่างๆ เร่งซ่อมบ่อบาดาลเดิม และขุดบ่อบาดาลเพิ่มเติมในหมู่บ้านแล้งรุนแรงให้แล้วเสร็จ ในเดือนเมษายน ส่วนในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ให้เกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปรัง ครั้งที่ 2 โดย เด็ดขาด สำหรับในเขตอ่างเก็บน้ำที่อยู่ในขั้นวิกฤติ ให้เกษตรกรงดการปลูกพืชฤดูแล้ง และสงวนน้ำไว้ ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคเท่านั้น และให้พิจารณาขุดลอกแหล่งน้ำขนาดเล็ก ก่อสร้างฝายประชาอาสา จัดหาถังน้ำกลางประจำหมู่บ้าน ตลอดจนให้มีการบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดให้ทั่วถึงและเป็น ธรรม และรณรงค์ให้ประชาชนประหยัดการใช้น้ำ
|
||||||||||||||||||||||||
1620 | การนำเสนอข้อมูลสภาวะอากาศ | ทก | 22/03/2548 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยสำนักพยากรณ์
อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะอากาศ โดยสภาวะอากาศทั่วไป ความกดอากาศต่ำเนื่อง จากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมี ฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ในตอนเย็นและค่ำ ส่วนภาคใต้มีลมตะวันออกพัดปกคลุม ทำให้มีฝนบางพื้นที่ ส่วนอากาศ บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีเมฆบางส่วน และมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ อ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ทะเล อันดามัน มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งออกไปประมาณ 30 กิโลเมตร ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อิทธิ พลน้ำทะเลในแม่น้ำเจ้าพระยาที่หน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ คำนวณโดยกรมอุทกศาสตร์ น้ำขึ้นเต็มที่เวลา 06.56 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 03 เซนติเมตร
|
.....