คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดสรรเงินอุดหนุนปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 ให้แก่องค์กรปกครอง 
ส่วนท้องถิ่น จำนวน  25,571.60  ล้านบาท ตามมติคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครอง  
ส่วนท้องถิ่น เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2544 ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และมีข้อสังเกตว่า  
กระทรวงการคลังควรจัดระบบภาษีใหม่   โดยให้แยกภาษีส่วนท้องถิ่นออกให้ชัดเจน   ซึ่งจะทำให้สะท้อนถึง
สภาพความเป็นจริงของการจัดเก็บภาษี

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่  006  ร. เรื่อง  ค่าตอบแทนตำแหน่งกำนัน  ผู้ใหญ่  
บ้าน ของนายจำเจน จิตรธร สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสุโขทัย ซึ่งถามว่า มีนโบายเกี่ยวกับการปรับปรุงระเบียบ 
กระทรวงมหาดไทย เรื่อง ค่าตอบแทนตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจ บทบาท  
อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ อย่างไร มีแนวทางการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง 
แก้ไข ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านบทบาทอำนาจหน้าที่โครงสร้างด้านบทบัญญัติของระเบียบกฎหมาย 
โครงสร้างเชิงนโยบาย และความมั่นคงของสถาบันกำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  อันมีผลกระทบต่อขวัญ  กำลังใจ  ใน  
การปฏิบัติภารกิจหน้าที่อย่างไร   หากว่าในพื้นที่ระดับตำบล  หมู่บ้าน  ได้รับการจัดตั้งมีพื้นที่เป็นองค์การ 
ปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด  ในส่วนของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ย่อมมีผลกระทบในการเปลี่ยนแปลงอย่างหลีก  
เลี่ยงมิได้  จะมีแนวทางการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในเรื่องดังกล่าวอย่างไรบ้าง   ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ รายงานผลการดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) 
ในช่วงระยะเวลาเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2544 งวดที่ 2/2544โดยผลการดำเนินโครงการ กข.คจ. ระยะที่ 1 
ปี 2536 - 2540 และระยะที่ 2 ปี 2541 - 2544  มีหมู่บ้านที่มีรายได้ผ่านเกณฑ์ 15,000/คน/ปี มากกว่าร้อยละ 
70 ของครัวเรือนทั้ง  2  ระยะในภาพรวม  สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนในการพัฒนารายได้ให้แก่
ครัวเรือนอย่างแท้จริง  ประชาชนมีความสามารถและมีศักยภาพในการพัฒนาตนเอง   ครอบครัว    ชุมชน    และมี
คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น   สามารถพึ่งตนเองได้ในชุมชนท่ามกลางวิกฤตด้านเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยกิจกรรมสนับสนุนและ
เพิ่มประสิทธิภาพโครงการ  กข.คจ.  นั้น  ได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการ
บริหารและการใช้จ่ายเงินโครงการซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการรวมทั้งขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์กร
ส่วนท้องถิ่น (อบต. และ อบจ.) ตลอดจนให้จังหวัดปรับปรุงและจัดทำฐานข้อมูลโครงการ  ฯ    ระดับหมู่บ้านตามแนว
ทางและโปรแกรมที่กรมการพัฒนาชุมชนออกแบบและจัดส่งแผ่น Disk ให้  ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่  195  ร. เรื่อง  การเปิดเสรีการผลิตและจำหน่ายสุรา  
ของนายสมศักดิ์ คุณเงิน  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น  ซึ่งถามว่า  รัฐบาลมีนโยบายลดมาตรฐาน 
หลักเกณฑ์ เงื่อนไขของทางราชการลง  เพื่อให้ประชาชนชนบทสามารถผลิตและจำหน่ายสุราผลไม้ (ไวน์) สุรา 
พื้นเมือง เช่น  อุ  สาโท  น้ำตาลเมา  ได้ง่ายขึ้นโดยขออนุญาตต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยตรงได้หรือไม่ 
อย่างไร และจะสนับสนุนเพื่อให้เกิดการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นในเรื่องนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายแปร
รูปสินค้าการเกษตรเพื่อให้มีกิจกรรม 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์  ได้หรือไม่  อย่างไร  ตามที่สำนักเลขาธิการนายก
รัฐมนตรีเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้กระทรวง  ทบวง  กรม  และรัฐวิสาหกิจ  องค์การมหาชน  และหน่วย
งานของรัฐที่เป็นอิสระนำความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง  การมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการ  
จังหวัดทำหน้าที่ CEO  ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี  โดยเห็นว่า  ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจสั่งการให้ข้าราชการที่   
ปฏิบัติหน้าที่ในราชการส่วนภูมิภาคให้ปฏิบัติหน้าที่ได้โดยตรง   และในการใช้อำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดใน 
ราชการส่วนภูมิภาคดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดยังสามารถมอบอำนาจหน้าที่ให้ผู้อื่นปฏิบัติราชการแทนได้อีก  
ด้วย  ดังนั้น  การให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำหน้าที่  CEO  สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องแก้กฎหมาย  เพียงแต่
เปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องกับบทบาทใหม่ของผู้ว่าราชการจังหวัด   เพราะราชการส่วนกลาง  รัฐ  
วิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระอาจมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้อยู่แล้วตาม
กฎหมายปัจจุบัน คงมีแต่เพียงราชการทหาร อัยการ ศาล  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  มหาวิทยาลัยบางแห่ง  
และองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่มีข้อจำกัดในการมอบอำนาจไว้   ไปพิจารณาดำเนินการว่า   จะสมควรมอบ  
อำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการในเรื่องใดบ้าง เพื่อให้สามารถทำหน้าที่  CEO  ได้    แล้วนำเสนอคณะ 
รัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี  
งบประมาณ พ.ศ. 2544  ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ  จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2544  โดยการเบิกจ่ายในภาพรวมของ  
ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว จำนวน 714,808 ล้านบาท หรือร้อยละ  78.55  ของ  
วงเงินงบประมาณ  (910,000  ล้านบาท)  เปรียบเทียบกับอัตราการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน
สูงกว่าร้อยละ  0.34  ส่วนการเบิกจ่ายงบลงทุน  จำแนกตามกระทรวง  มีการเบิกจ่ายแล้วทั้งสิ้น  119,870  ล้าน 
บาท หรือร้อยละ 54.38 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน (220,429  ล้านบาท) โดยกระทรวงพาณิชย์  กระทรวง 
ยุติธรรม และสำนักนายกรัฐมนตรี มีอัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนต่ำสุด สำหรับผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของหน่วย 
งานที่ได้รับจัดสรรงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 32 แห่ง  มีการเบิกจ่ายงบลงทุนแล้วจำนวน 105,572  
ล้านบาท หรือร้อยละ 56.02 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุนในกลุ่มนี้  (188,463  ล้านบาท)  โดยกรุงเทพมหา 
นคร กองทัพบก และสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย  มีอัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนต่ำสุด  นอกจากนี้ ผลการ 
เบิกจ่ายเงินงบประมาณของโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  โดย ณ  
วันที่ 31 สิงหาคม 2544 มีการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้วจำนวน 17,888 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 55.25 ของวง   
เงินงบประมาณ (32,374 ล้านบาท) แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ และรายจ่ายลงทุน โดยกรมพัฒนาที่ดิน กรมทาง   
หลวง  และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม  มีอัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนโครงการถ่ายโอน  ฯ  ต่ำสุด  
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานสรุปผลการอนุมัติเงินประจำงวด และ    
การเบิกจ่ายงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ  สำหรับปีงบประมาณ  พ.ศ. 2544   จนถึงวันที่  6  
กันยายน 2544 มีการอนุมัติเงินประจำงวดจำนวนทั้งสิ้น 898,163.5 ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ  98.7  ของ  
วงเงินงบประมาณ  (910,000  ล้านบาท)  ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณถึงวันที่  31  กรกฎาคม  2544  มี
จำนวนทั้งสิ้น 642,924.0 ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ 70.7 ของวงเงินงบประมาณ  และจากรายงานเบื้องต้น  
โดยกรมบัญชีกลาง ปรากฏว่า จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2544  มีการเบิกจ่ายจำนวน 659,650.8 ล้านบาท   
คิดเป็นร้อยละ 72.5  ของวงเงินงบประมาณ  สำหรับการอนุมัติเงินประจำงวดในส่วนของโครงการถ่ายโอน  
งาน/กิจกรรมบริการสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ถึงวันที่ 6 กันยายน 2544   มีจำนวนทั้ง 
สิ้น 32,233.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ  99.7  ของวงเงินงบประมาณ  (32,339.6 ล้านบาท)  รวมทั้งการ 
เบิกจ่ายงบประมาณถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2544 มีจำนวน 15,655.8 ล้านบาท  หรือร้อยละ 48.4 ของวง 
เงินงบประมาณ และข้อมูลการเบิกจ่ายจริงเบื้องต้น โดยกรมบัญชีกลาง  เมื่อวันที่  15  สิงหาคม  2544  มี
จำนวน 16,515.8 ล้านบาท หรือร้อยละ 51.1 ของวงเงินงบประมาณ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 110 ร. เรื่อง การส่งเสริมการผลิตสุราของท้องถิ่น ของ 
นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น  ซึ่งถามว่า  รัฐบาลมีนโยบายที่จะสนันสนุนให้
จำหน่ายและผลิตสุราเสรีหรือไม่ ถ้ามีขณะนี้ดำเนินการถึงขั้นตอนใด  และมีมาตรการที่จะให้องค์กรปกครองส่วน  
ท้องถิ่น เช่น  องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล มีอุตสาหกรรมผลิตสุราและเก็บภาษีให้ท้องถิ่นหรือไม่ 
อย่างไร ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนแก้ไขปัญหาเด็กในภาวะยากลำบาก  พ.ศ. 2545-2549  โดยมีวัตถุ  
ประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กในภาวะยากลำบากให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข รวมทั้งป้องกันมิให้เด็ก  
กลุ่มเสี่ยงต้องตกอยู่ในภาวะยากลำบาก ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  (สำนักงานคณะกรรมการ  
ส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ)  เสนอ  โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ 
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ที่เห็นควรให้ความสำคัญในเรื่องการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ 
เอกชนและชุมชนอย่างจริงจังและเป็นระบบ เพื่อให้การทำงานมีเอกภาพและคุ้มครองเด็กในภาวะยากลำบากได้
อย่างครอบคลุมมากขึ้น กับสร้างระบบติดตามประเมินผลที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย มีระบบฐานข้อมูลและตัว 
ชี้วัดที่ดีเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงแผนและกำหนดแนวทางปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที่ และ  
เตรียมความพร้อมของบุคลากรในองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นและชุมชนควบคู่ไปกับการปรับทัศนคติของสังคม  
ให้ตระหนักและมีส่วนร่วมในการป้องกันปัญหาดังกล่าว) และข้อสังเกตเพิ่มเติมของสำนักงบประมาณ (เกี่ยวกับ
แผนดังกล่าว  ควรจะบูรณาการให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ เพื่อความครบถ้วนและ
ครอบคลุมในการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ) ไปดำเนินการด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามความเห็น
ของสำนักงบประมาณ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 134 ร. เรื่อง การจัดตั้งสวนพฤกษศาสตร์ที่จังหวัด 
ขอนแก่น ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น ซึ่งถามว่า รัฐบาลจะดำเนิน
การจัดตั้งสวนพฤกษศาสตร์ขึ้นที่จังหวัดขอนแก่นในปี  2544  ได้หรือไม่  มีนโยบายจัดตั้งสวนพฤกษศาสตร์  
โดยประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในปีงบประมาณ 2545  ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีความ 
พร้อมได้หรือไม่  ถ้าไม่ได้เพราะเหตุใด  ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ   และให้ประกาศในราช 
กิจจานุเบกษาต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 236 ร. เรื่อง ให้เปิดสาขาธนาคารออมสินเพิ่ม ของ 
นายนิยม   วรปัญญา  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี  ซึ่งถามว่า  รัฐบาลมีนโยบายในการจัดตั้งสาขา 
ธนาคารออมสินเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และให้เป็นธนาคารท้องถิ่นอย่างไร ถ้าไม่มีเพราะเหตุใด ขอให้รัฐบาล 
เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยเร็วจะได้หรือไม่ อย่างไร และขอให้จัดหาสถานที่จากหน่วยราชการ
และรัฐวิสาหกิจซึ่งไม่ได้ใช้งานแล้วมาเปิดเป็นสาขาธนาคารออมสินเพื่อให้มีทั่วทุกอำเภอจะได้หรือไม่ ประการ
ใด ถ้าไม่ได้เพราะเหตุใด ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานสรุปผลการบริหารงบประมาณของส่วน 
ราชการและรัฐวิสาหกิจ  สำหรับปีงบประมาณ  2544  ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ - 23  สิงหาคม  2544  มีการ  
อนุมัติเงินประจำงวดจำนวนทั้งสิ้น 892,415.0 ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ 98.1  ของวงเงินงบประมาณจำนวน   
910,000 ล้านบาท  ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 2544 ถึงวัน 
ที่  15  กรกฎาคม  2544  มีการเบิกจ่ายจำนวนทั้งสิ้น  594,337.9  ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ  65.3  ของวง 
เงินงบประมาณดังกล่าว และจากรายงานการเบิกจ่ายจริงเบื้องต้นโดยกรมบัญชีกลางปรากฎว่าจนถึงวันที่ 31  
กรกฎาคม  2544  มีการเบิกจ่ายจำนวน  642,924.0  ล้านบาท     สำหรับการอนุมัติเงินประจำงวดในส่วน  
ของโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมบริการสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถึงวันที่  23  สิงหาคม 
2544 มีจำนวนทั้งสิ้น 32,169.3 ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ  99.5  ของวงเงินงบประมาณจำนวน  32,339.6  
ล้านบาท ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2544 มีจำนวน 14,284.6 ล้านบาท หรือร้อย  
ละ  44.2  ของวงเงินงบประมาณดังกล่าว  รวมทั้งข้อมูลการเบิกจ่ายจริงเบื้องต้นโดยกรมบัญชีกลาง เมื่อวันที่ 
31 กรกฎาคม 2544 มีจำนวน 15,655.8 ล้านบาท หรือร้อยละ 48.4 ของวงเงินงบประมาณ

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติของคณะกรรมการบริหารราชการในต่างประเทศ  (กบต.)  ตามที่
กระทรวงการต่างประเทศเสนอเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้คงสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศทั้ง  7  แห่ง 
ที่กรุงโรม  วอชิงตัน ดี.ซี.  โตเกียว  จาการ์ตา  แคนเบอร์รา  ปักกิ่ง  และบรัสเซลส์   โดยให้เพิ่มข้าราชการระดับ 
6  และลูกจ้างท้องถิ่นใน 5 ประเทศ ที่เร่งด่วนได้เป็นการชั่วคราว  คือ  โรม  วอชิงตัน ดี.ซี.  โตเกียว  ปักกิ่ง  และ
บรัสเซลส์  ตลอดจนให้ปรับสถานภาพสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรที่กรุงบรัสเซลส์เป็นสำนักงานการเกษตร   
ประจำสหภาพยุโรป     ส่วนการจัดทำยุทธศาสตร์รายประเทศ  (bilateral  strategy)  ให้รีบดำเนินการให้แล้ว  
เสร็จโดยเร็ว และให้รองนายกรัฐมนตรี (นายปองพล อดิเรกสาร) เร่งรัดจัดทำกรอบความต้องการและกำหนด  
ยุทธศาสตร์การจัดระบบราชการในต่างประเทศในภาพรวม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  7  สิงหาคม  2544 
ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการนโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น (กนภ.) 
ครั้งที่ 1/2544 และถือเป็นมติคณะรัฐมนตรี รวม 2 เรื่อง ได้แก่  แนวทางการดำเนินงานของ กนภ.  และแนวทางการ 
แก้ไขปัญหาความยากจน  โดยแนวทางการดำเนินงานของ กนภ.  ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของฝ่ายเลขานุ  
การ  และให้นำความเห็นของที่ประชุมเกี่ยวกับการปรับกระบวนการจัดสรรงบประมาณ การปรับแนวทางการดำเนิน 
งานของกระทรวงหลัก และการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนา ไปพิจารณาประกอบการดำเนินงานต่อไป  ส่วน 
แนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยให้สำนักงานคณะ
กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับไปดำเนินการจัดทำในรายละเอียด  และประสานกับหน่วยงานที่ 
เกี่ยวข้อง โดยให้นำความเห็นของที่ประชุมไปประกอบการพิจารณาในการแปลงกรอบแนวทางไปสู่การปฏิบัติ พร้อม 
ทั้งรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินการให้คณะกรรมการทราบเป็นระยะ  ๆ   และให้คณะอนุกรรมการประสาน   
แผนพัฒนาจังหวัดเป็นองค์กรกำกับการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาความยากจนในระดับพื้นที่เพื่อให้ 
เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นกรณีพิเศษให้กรมสามัญศึกษาจ้างครูอัตราจ้างเป็นระยะเวลา 12 เดือน 
ต่อปี ได้ 3 ปีต่อเนื่อง ตั้งแต่ภาค 2 ของปีการศึกษา 2544 (เดือนตุลาคม 2544) เป็นต้นไป   และมีข้อสังเกตว่า
การแก้ไขปัญหาครูขาดแคลนโดยจ้างครูอัตราจ้างชั่วคราวนั้น  ไม่น่าจะเป็นวิธีที่ถูกต้องเพราะจะมีการขยายการ   
จ้างต่อไปเป็นระยะเวลาไม่มีการสิ้นสุด ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการควรกำหนดแนวทางแก้ไข  โดยให้กรมสามัญ 
ศึกษาดำเนินการเกลี่ยอัตราข้าราชการครูที่เกินในบางโรงเรียนลงในโรงเรียนที่ขาดครู หรือนำเสนอคณะกรรม 
การกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐเพื่อขอกำหนดอัตราข้าราชการครูที่มีความขาดอยู่ ซึ่งจะเป็น 
การแก้ปัญหาระยะยาวหรือจ้างบุคลากรในท้องถิ่นโดยสัญญาจ้าง 3 - 5 ปี  เช่นเดียวกับลักษณะครูอาสาสมัคร
ของกรมการศึกษานอกโรงเรียนในโอกาสต่อไปจะเหมาะสมกว่า ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ  ฉบับที่ 8  ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544  ระยะที่ 1  (ตุลาคม 2543 - มีนาคม 2544) 
ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในส่วนของภาพรวมงาน/โครงการสำคัญที่ดำเนินการตามแผนพัฒนา  ฯ  ฉบับ  
ที่  8  จำนวน 15 งาน/โครงการ  ประกอบด้วย  การพัฒนาสภาพแวดล้อมของสังคมให้ส่งเสริมและสนับสนุน 
การพัฒนาคน  และการพัฒนาประชารัฐ  ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ   โดยให้รับความเห็นเพิ่มเติม   
ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (ที่เห็นควรให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ   
เร่งติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการสำคัญ ๆ  และเร่งรัดดำเนินการจัดทำแผนแม่บทสำนักงานตำรวจ  
แห่งชาติ พ.ศ. 2545 - 2549 โดยเปิดโอกาสให้ประชาชน หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง  ภาคเอกชน  องค์กร
พัฒนาเอกชน ตลอดจนสื่อมวลชนต่าง  ๆ  เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการระดมความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การ 
กำหนดเนื้อหาสาระที่สำคัญในแผนแม่บทดังกล่าว   ทั้งนี้   ให้คำนึงถึงการถ่ายโอนภารกิจอำนาจและหน้าที่  
ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  พ.ศ. 2542) 
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ  ฉบับที่ 8  ประจำปีงบประมาณ 2544  ระยะที่  1  (ตุลาคม 2543 - มีนาคม 2544)  ของ   
กระทรวงมหาดไทย ในส่วนของภาพรวมงาน/โครงการสำคัญที่ดำเนินการตามแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 8 จำนวน 
51  งาน/โครงการ  ประกอบด้วย  การพัฒนาศักยภาพของคนไทย  การพัฒนาสภาพแวดล้อมของสังคมให้ส่ง 
เสริมและสนับสนุนการพัฒนาคน การพัฒนาสมรรถนะทางเศรษฐกิจเพื่อสนับสนุนการพัฒนาคนและคุณภาพ
ชีวิต การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาประชารัฐ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ   
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (ที่เห็นควรเร่งรัดและ 
ให้ความสำคัญในการสนับสนุนและเสริมสร้างศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถปฏิบัติงาน  
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการถ่ายโอนงบประมาณ  ตลอดจนส่งเสริมและสนับ 
สนุนให้หน่วยราชการส่วนภูมิภาคเตรียมความพร้อมเพื่อปรับบทบาท จากการเป็นผู้ดำเนินการมาเป็นผู้สนับ  
สนุนการดำเนินการ รวมทั้งสนับสนุนกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกระดับในการดำเนินธุรกิจชุมชน 
ให้สามารถพึ่งตนเองได้ตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถบริหารจัดการงบประมาณที่ได้รับสนับสนุน
จากส่วนกลางเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม รายงานสรุปผลการ
ประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน สมัยที่ 9 ระหว่างวันที่ 16 - 27 เมษายน 2544 และสมัยที่
10 ระหว่างวันที่ 30 เมษายน - 2 พฤษภาคม 2544 ณ นครนิวยอร์ก  ประเทศสหรัฐอเมริกา  โดยผลการประชุม 
คณะกรรมาธิการ  ฯ  สมัยที่  9   ที่ประชุมได้พิจารณาและให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนพลังงานใน 
ชนบท การพัฒนาพลังงานทดแทน และปัญหาพลังงานนิวเคลียร์ การถ่ายทอดเทคโนโลยีที่สะอาดและการนำเทค 
โนโลยีท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้กับประเทศกำลังพัฒนา การปรับปรุงระบบการขนส่งเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่ง  
ยืน  ตลอดจนการเปิดกว้างในการเข้าถึงข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน  และการจัด   
หาแหล่งทุนด้านการเงินใหม่ ๆ  เพื่อดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมของโลก   ส่วนผลการประชุมคณะกรรมาธิการ ฯ 
สมัยที่  10    ที่ประชุมได้มีมติให้ประเทศสมาชิกจัดตั้งคณะกรรมการเตรียมการประชุมสุดยอดของโลกว่าด้วยการ  
พัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับประเทศ เพื่อเตรียมการเบื้องต้นในแต่ละประเทศสำหรับการประชุมสุดยอดของโลกว่า 
ด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน  รวมทั้งกำหนดให้มีการประชุมเตรียมการก่อนการประชุมสุดยอดของโลก ฯ  ทั้งนี้  ที่ 
ประชุมได้กำหนดจะจัดให้มีการประชุมสุดยอดของโลก ฯ ระหว่างวันที่ 2 - 11 กันยายน 2545 ณ นครโจฮันเนส 
เบอร์ก ประเทศอัฟริกาใต้  เพื่อทบทวนความคืบหน้าในรอบ  10  ปี  ของการอนุวัติผลจากการประชุมสหประชา 
ชาติว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา  โดยมีมติให้ผู้เข้าร่วมประชุมเป็นระดับผู้นำประเทศในช่วงการประชุมระดับ
ผู้นำประเทศระหว่างวันที่ 9 - 11 กันยายน 2545

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปีงบ  
ประมาณ พ.ศ. 2544 ราย 2 สัปดาห์ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2544  โดยการเบิกจ่ายใน  
ภาพรวม  ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว  จำนวน  642,924  ล้านบาท  หรือร้อยละ 
70.65 ของวงเงินงบประมาณ 910,000 ล้านบาท  เปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อน  
มีอัตราการเบิกจ่ายสูงกว่าร้อยละ 0.02  ส่วนผลการเบิกจ่ายงบลงทุน จำแนกตามกระทรวง มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น 
103,173  ล้านบาท  หรือร้อยละ  46.68  ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน  221,023  ล้านบาท   โดยกระทรวง    
ยุติธรรม กระทรวงพาณิชย์ และสำนักนายกรัฐมนตรี  มีอัตราการเบิกจ่ายต่ำสุด  3  อันดับแรก  และผลการเบิก 
จ่ายงบลงทุนของหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท  จำนวน  32  แห่ง   มีการเบิกจ่ายแล้ว 
90,847 ล้านบาท จากงบลงทุน 189,026 ล้านบาท  หน่วยงานที่เบิกจ่ายงบลงทุนต่ำสุด  3  อันดับแรก  ได้แก่  
กรุงเทพมหานคร  สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย   และกองทัพบก   สำหรับผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ 
ของโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น    ซึ่ง  ณ  วันที่  31  กรกฎาคม 
2544  มีการเบิกจ่ายเงินในส่วนของรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนจากคลังแล้ว จำนวน  15,656  ล้านบาท  
คิดเป็นร้อยละ 48.36 ของวงเงินงบประมาณ  32,374  ล้านบาท  โดยหน่วยงานที่มีอัตราการเบิกจ่ายต่ำสุด  3  
อันดับแรก ได้แก่ กรมพัฒนาที่ดิน กรมทางหลวง และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม  ทั้งนี้ จากการ 
ประเมินสถานการณ์การเบิกจ่ายเงินงบประมาณในช่วง  2  เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ พ.ศ. 2544  คาดว่า  
หน่วยงานต่าง ๆ จะมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2544 เท่ากับ  
719,424  ล้านบาท  หรือร้อยละ  79.06  ของวงเงินงบประมาณ  รวมทั้งการเบิกจ่ายในภาพรวม  ณ  สิ้นปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2544 จะเป็นไปตามเป้าหมาย คือ ร้อยละ 90 ของวงเงินงบประมาณ หรือ 819,000 ล้านบาท

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานสรุปผลการบริหารงบประมาณของส่วน 
ราชการและรัฐวิสาหกิจ สำหรับปีงบประมาณ 2544 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ - 9 สิงหาคม 2544  มีการอนุมัติ  
เงินประจำงวดจำนวนทั้งสิ้น  885,928.2  ล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ  97.4  ของวงเงินงบประมาณจำนวน   
910,000  ล้านบาท  ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2544  มีจำนวน  594,337.9  ล้าน 
บาท คิดเป็นร้อยละ 65.3 ของวงเงินงบประมาณ และจากรายงานการเบิกจ่ายจริงเบื้องต้นโดยกรมบัญชีกลาง 
ปรากฏว่า จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2544 มีการเบิกจ่ายจำนวน 642,924.0 ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ 70.7  
ของวงเงินงบประมาณดังกล่าว     สำหรับการอนุมัติเงินประจำงวดในส่วนของโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรม  
สาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถึงวันที่  9  สิงหาคม  2544 มีจำนวนทั้งสิ้น 32,156.4 ล้านบาท 
คิดเป็นร้อยละ 99.4 ของวงเงินงบประมาณจำนวน 32,339.6 ล้านบาท  ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณถึงวันที่ 
15 กรกฎาคม 2544 มีจำนวน 14,284.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 44.2 ของวงเงินงบประมาณ  และข้อมูลการ 
เบิกจ่ายจริงเบื้องต้นโดยกรมบัญชีกลาง เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2544 มีจำนวน  15,655.8  ล้านบาท  หรือ 
ร้อยละ 48.8 ของวงเงินงบประมาณ