คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.) คือ รับทราบ 
สรุปผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ครั้งที่ 1/2543
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ  เกี่ยวกับรายงานภาวะเศรษฐ   
กิจของปี  2542   และแนวโน้มปี  2543   รายงานความคืบหน้าการเจรจาการค้าภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก   
และเขตการค้าเสรีอาเซียน  ทิศทางการปรับบทบาท ภารกิจ  และวิธีการบริหารภาครัฐ ผลการสัมมนาหอการค้า 
ทั่วประเทศ ครั้งที่ 17  สรุปผลการดำเนินงานประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทาง    
เศรษฐกิจ  ครั้งที่ 1/2543  การจัดสัมมนาเรื่องนโยบายการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นกับการประกอบกิจการของ  
ภาคธุรกิจและการประชุมรับฟังและระดมความเห็นจากภาคเอกชนเรื่อง "กรอบแนวความคิดการพัฒนาประเทศใน 
แผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 9  (2545 - 2549)"  โดยให้  สศช.  รับความเห็นของ  คศก.  (เกี่ยวกับการรับฟังและระดม    
ความเห็นจากทุกกลุ่มในหลายสาขาอาชีพอย่างทั่วถึง   รวมทั้งการติดตามและรายงานผลการดำเนินการให้  คศก.
ทราบ) ไปดำเนินการต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ (คศก.) คือ รับทราบ 
รายงานมาตรการส่งเสริมรายได้จากการท่องเที่ยว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  เกี่ยวกับการดูแลความปลอด 
ภัยในชีวิตและทรัพย์สินนักท่องเที่ยว การป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว การป้องกันแหล่องท่องเที่ยว 
เสื่อมโทรม การส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจับจ่ายซื้อของ  การส่งเสริมนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจ
พิเศษ การกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมปี Amazing Thailand  การจัดตั้งองค์กรใน
รูปคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว  การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว   การพัฒนาบุคลากรการท่องเที่ยว  
การจัดสิ่งอำนวยความสะดวก   การส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางจัดประชุมนิทรรศการ     รวมทั้งการส่งเสริมให้
ประเทศไทยเป็นประตูสู่ภูมิภาค และที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  (นายพินิจ  จารุสมบัติ)  รายงาน
เพิ่มเติมเกี่ยวกับการที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พลตรี สนั่น  ขจรประศาสตร์) 
ได้เน้นเรื่องการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ  โดยให้สำนักงานตำรวจแห่ง  
ชาติร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทในเรื่องดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น  และให้ทุกจังหวัดจัดทำแผน  
ดำเนินการ พร้อมทั้งจัดทำประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อันตราย  กับให้กระทรวงมหาดไทย  การท่อง  
เที่ยวแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของ  คศก.  (เกี่ยวกับการให้ความสำคัญเรื่องความ  
สะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานที่ท่องเที่ยว การป้องกันการเอารัดเอาเปรียบของร้านค้า  การ 
สร้างความสวยงามและความร่มรื่นของสถานที่และการคงเอกลักษณ์ความเป็นไทย) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง ประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรม 
นูญ มาตรา 266 กรณีคณะกรรมการการเลือก หรือ กกต. ตั้งวินิจัยลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น 
สมาชิกวุฒิสภา ตามที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเสนอ สรุปได้ว่า เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 
109 (11) หมายความว่า  เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่น  ซึ่งมีสถานะตำแหน่ง  หน้าที่  หรือลักษณะงาน  
ทำนองเดียวกันกับพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือของส่วนราชการส่วนท้องถิ่น 
โดยได้รับแต่งตั้ง หรือเลือกตั้งตามกฎหมาย  มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎ  
หมาย ดังนั้น การที่ กกต. วินิจจัยว่าบุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งต่าง ๆ เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐนั้น ไม่สอดคล้องกับ 
รัฐธรรมนูญ  มาตรา 109 (11)  แต่ที่วินิจฉัยว่าบุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของ 
รัฐนั้น ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 109 (11) แล้ว

              เห็นชอบให้นำบันทึกเหตุผลของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ
การขุดดินและถมดิน พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร  (โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการให้มีกฎหมายว่า  
ด้วยการขุดดินและถมดิน เพื่อให้การขุดดินหรือถมดินในเขตเทศบาล กรุงเทพมหานคร  เมืองพัทยา  องค์กร 
ปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่กฎหมายโดยเฉพาะจัดตั้งขึ้น   ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศ 
กำหนดในราชกิจจานุเบกษา และบริเวณที่มีพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บังคับกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร 
เขตผังเมืองรวมตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมืองและในท้องที่อื่นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นไป  
โดยถูกต้องตามหลักวิชาการ)  ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ    เป็นบันทึกเหตุผลของ  
ร่างพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. .... ประกาศในราชกิจจานุเบกษาพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติ
ดังกล่าว เมื่อได้ทรงลงพระปรมาภิไธยในร่างพระราชบัญญัติแล้ว





 

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  (นายชำนิ  ศักดิเศรษฐ์) 
รายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สรุปได้ว่า การเลือกตั้งสมาชิก
อบจ. ครั้งนี้ ใช้พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พุทธศักราช 2482 เป็นหลัก ซึ่งเจตนารมณ์ของ  
กฎหมายต้องการเปิดโอกาสให้มีผู้สมัครรับเลือกตั้งจำนวนมาก  และกระบวนการเลือกตั้งไม่ยุ่งยาก   ไม่มีการ 
จำกัดวุฒิการศึกษาของผู้สมัคร ไม่ต้องใช้รูปถ่ายในการสมัครและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสมัครเข้ารับเลือก  
ตั้ง  แต่ทั้งนี้  การดำเนินการตามพระราชบัญญัติดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาในบางเขตการเลือกตั้ง   นอกจากนี้  
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงเพิ่มเติม และมีข้อสังเกต  (เกี่ยวกับการจัดการ 
เลือกตั้งในครั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการโดยเข้มงวดกวดขันอย่างจริง   
จัง  จึงมีการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งเพียง 3-4 คดี  โดยมีคดีการซื้อสิทธิขายเสียงรวมอยู่ด้วย  
1 คดี รวมทั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ. ที่ผ่านมาจะมีการใช้เงินในการจูงใจและการข่มขู่ผู้สมัครให้ถอน 
การสมัครรับเลือกตั้งก่อนที่การเลือกตั้งจะมีขึ้น ซึ่งทำให้ประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งไม่มีทางเลือก  แต่ถ้าหาก  
มีการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. ....   มิให้มีการถอน 
การสมัครรับเลือกตั้งได้จะเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างยิ่ง

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดสำนัก  
นายกรัฐมนตรี  สำนักนายกรัฐมนตรี  พ.ศ. ....  (จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ 
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)  ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ   และให้ส่งสำนักงานคณะ  
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา    โดยให้รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย  (เกี่ยวกับการปรับปรุง  
อำนาจหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจ ฯ ตามร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ  มาตรา 4  
(4)   และมาตรา  6 (4)  ให้สอดคล้องกับมาตรา  15  แห่งพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการ  
กระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542) ไปพิจารณาด้วย  แล้วดำเนินการต่อไปได้ 
สำหรับอัตรากำลังในสำนักงานดังกล่าวให้เกลี่ยอัตรากำลังโดยไม่ให้เพิ่มอัตรากำลังใหม่   ตามความเห็น  
ของสำนักงาน ก.พ.  และสำนักงบประมาณ  โดยให้เกลี่ยนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เช่น  กระทรวงการ  
คลัง กระทรวงมหาดไทย  สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  และให้หน่วยงานดังกล่าวให้ความร่วมมือ 
ด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการนโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น (กนภ.) 
ครั้งที่ 2/2542 เกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน : เมืองน่าอยู่และชุมชนน่าอยู่ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ  
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ  สำหรับการจัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติ  นั้น  ให้เลขาธิการคณะกรรม 
การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะกรรมการและเลขานุการ กนภ. พิจารณาเลือกสรรผู้ที่จะเป็นกรรม
การให้ครอบคลุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการพัฒนาเมืองหลัก รอบที่ 2 ระยะแรก  จากเดิม  
ปี พ.ศ. 2535  -  2542  เป็นสิ้นสุดถึงปี  พ.ศ. 2546  และปรับวงเงินลงทุนโครงการ จากเดิมวงเงิน  4,152.05   
ล้านบาท เป็นประมาณ 4,236.639 ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกต  
ของกระทรวงการคลัง   สำนักงบประมาณ   และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  
(เกี่ยวกับการให้กระทรวงมหาดไทยทำความตกลงในรายละเอียดสำหรับวงเงินลงทุนโครงการที่เพิ่มขึ้นกับสำนัก  
งบประมาณ  โดยให้คงสัดส่วนการลงทุนระหว่างเงินงบประมาณและเงินสมทบจากเทศบาลตามนัยมติคณะรัฐมน
ตรี เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2535  กับให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดดำเนินการโครงการ ฯ  ดังกล่าว  ในส่วนที่ได้รับ
ความเห็นชอบแล้ว   ซึ่งล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้มากส่งผลต่อการพัฒนาระบบสาธารณูปการที่เอื้อประโยชน์ต่อ
การลงทุน  การท่องเที่ยว   และการจ้างงานในท้องถิ่นให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการตามระยะเวลาที่กำหนด
ไว้ด้วยนอกจากนี้ เพื่อให้การดำเนินงานตามโครงการ ฯ ดังกล่าว เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพกระทรวงมหาดไทย 
โดยคณะกรรมการพัฒนาเมืองศูนย์กลางความเจริญในภูมิภาค ควรให้ความสำคัญในการเร่งรัด   การดำเนินงาน
และติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการเป็นระยะ ๆ ให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนดไว้   และรายงานผลให้
คณะรัฐมนตรีได้รับทราบความเหมาะสมต่อไป) ไปดำเนินการด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการการเลือกกรรมการผู้แทนองค์กร 
ปกครองส่วนท้องถิ่น  และการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปก  
ครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ....  ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว    และให้ดำเนินการต่อ  
ไปได้ โดยให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา 
(กรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 1)  (เกี่ยวกับเรื่อง การเลือกกรรมการผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯ  กรณีเมื่อ 
เลือกแล้วผู้นั้นต้องออกจากตำแหน่ง) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไข 
เพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การชันสูตรพลิกศพ)  ของวุฒิสภา  ตาม  
ที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ  (โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับในกรณีที่แพทย์ผู้ที่จะทำการชันสูตรพลิกศพได้  
ก็ต่อเมื่อได้รับการฝึกอบรมทางนิติเวชศาสตร์มาแล้ว    และจะต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของผู้อำนวยการโรง  
พยาบาลหรือสาธารณสุขจังหวัดแล้วแต่กรณี  และในกรณีที่ท้องถิ่นนั้น ๆ  ไม่มีแพทย์อยู่เลยและเป็นพื้นที่เฉพาะ 
ซึ่งไม่สามารถเดินทางเข้าไปในบริเวณดังกล่าวได้ในบางฤดูกาล หรือพื้นที่ห่างไกล นั้น  ให้กระทรวงสาธารณสุข 
กระทรวงกลาโหมและทบวงมหาวิทยาลัยร่วมกันดำเนินการจัดเตรียมความพร้อมของบุคลากรเพื่อปฏิบัติหน้าที่    
โดยการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อปฏิบัติ 
หน้าที่ตามมาตรา 6 ทวิ  รวมทั้งจัดวางระเบียบที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในการชันสูตรพลิกศพเมื่อมีกรณีที่จะ  
ต้องทำการชันสูตรพลิกศพ) และมอบให้กระทรวงกลาโหม ทบวงมหาวิทยาลัย กระทรวงสาธารณสุข และสำนัก 
งานตำรวจแห่งชาติรับไปพิจารณาดำเนินการ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อนำเสนอคณะ
รัฐมนตรีต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวปฏิบัติในการกำกับดูแลการเผยแพร่ข่าวสารการประกาศประกวดราคาเพื่อ 
เสริมมาตรการป้องกันหรือลดโอกาสในการสมยอมกันในการเสนอราคา ตามที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเสนอ ทั้ง   
9 ข้อ   และให้ส่วนราชการ  รัฐวิสาหกิจ  หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาค  องค์กร 
ปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลถือปฏิบัติต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 186/2542 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้ 
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี  (ฉบับที่  10)  โดย 
มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย  รัตตกุล) ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรม  
การการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น   และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  (นายอภิสิทธิ์  
เวชชาชีวะ) สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี สำหรับสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์  
กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้รายงานผลการปฏิบัติงานให้ทราบเป็นระยะๆ
ตามความก้าวหน้าของงานด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก 
กรรมการผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ. .... ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี
เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาโดยเร่งด่วน ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี  
(เกี่ยวกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละประเภทควรกำหนดตำแหน่งให้ชัดเจนไว้ในร่างระเบียบ ฯ   แต่  
ละข้อจะเป็นการเหมาะสมหรือไม่ โดยที่พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 ได้ประกาศ 
ใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว  สมควรพิจารณาถึงผลกระทบต่อร่างระเบียบนี้เกี่ยวกับผู้บริหารเมืองพัทยาด้วย   และผู้  
บริหารเทศบาล จำนวน 3 คน ในคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรจะกำหนดให้   
มาจากผู้บริหารเทศบาลประเภทละ 1 คน  จะเป็นการเหมาะสมหรือไม่) ไปพิจารณาด้วย  แล้วให้ดำเนินการต่อไป 
ได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรี  และรองนายกรัฐมนตรี  (นายพิชัย  รัตตกุล) 
เสนอเกี่ยวกับการเตรียมการดำเนินการตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์  
กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542  ว่า  พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร  
ปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ได้ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว  และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับ
กฤษฎีกา เล่ม 116 ตอนที่ 114 ก วันที่ 17 พฤศจิกายน 2542 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2542  
เป็นต้นไป โดยมีสาระสำคัญให้ต้องมีการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกระจายอำนาจให้ 
แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (มาตรา 15) ซึ่งจะต้องดำเนินการตราพระ  
ราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการภายในให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน  พ.ศ.  2534   
มาตรา 8 ต่อไป การตรากฎกระทรวงมอบอำนาจให้เอกชนดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แทน (มาตรา 22)  และ  
การตรากฎกระทรวงมอบอำนาจให้ส่วนราชการ ฯ จัดเก็บภาษีอากร ฯ  แทน  (มาตรา 29)  และเห็นควรมอบให้  
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  (นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ)  เป็นผู้กำกับดูแลและประสานกับสำนักงานปลัด  
สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อเร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย รัตตกุล)
เสนอ คือ จัดสรรวงเงินจำนวน 363 ล้านบาท สำหรับการขยายโครงการขยายเวลาการทำงานของอาสาสมัครภาค   
เรียนรู้รัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง (อสร.)  สำหรับวงเงินที่เหลืออีกจำนวน  521  ล้านบาท  มอบให้คณะอนุกรรม  
การบริหารจัดการเพิ่มค่าใช้จ่ายภาครัฐ ฯ  เป็นผู้พิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป    ส่วนโครงการจ้างผู้ 
ว่างงานและผู้มีประสบการณ์ด้านการเงินเสริมสร้างความเข้มแข็งศูนย์สงเคราะห์ราษฎรประจำหมู่บ้าน  ควรให้คณะ  
กรรมการประสานนโยบายและจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อพัฒนาสังคมพิจารณา  หากจะขยายโครงการ ฯ ให้ใช้เงินกู้  
ธนาคารพัฒนาเอเซียเพื่อปรับโครงสร้างสังคม   และให้ขยายขอบเขตความรับผิดชอบของบัณฑิตให้ครอบคลุมถึงกิจ
กรรมการเผยแพร่ประชาธิปไตย  การส่งเสริมการกีฬาและการให้ความรู้ในการป้องกันปัญหายาเสพติด   รวมทั้งให้ 
หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการจ้างบัณฑิตตามมาตราการเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการ 
บรรเทาปัญหาการว่างงาน   เร่งรัดประชาสัมพันธ์ผลประโยชน์และผลสำเร็จของโครงการให้กว้างขวางและทั่วถึงยิ่ง  
ขึ้น  โดยโครงการ อสร. ให้ทบวงมหาวิทยาลัยและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเน้นย้ำให้อาสาสมัครเข้าใจ  
วัตถุประสงค์และเป้าหมายที่แท้จริงของโครงการ ฯ    และในการประเมินผลโครงการ ฯ   หากท้องถิ่นใดยังมีปัญหา
ในเรื่องความรู้ของอาสาสมัครเกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องก็ให้จัดนิเทศอาสา
สมัครในท้องที่นั้นเป็นการเฉพาะ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการในนามของรัฐบาลไทยส่งมอบกรรมสิทธิ์อาคาร
พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ประเทศสวีเดน  ให้แก่จังหวัดแย้มท์แลนด์  
(JamtLand  County)  ซึ่งเป็นรัฐบาลท้องถิ่นของประเทศสวีเดน    กับเห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ศึกษาธิการลงนามในบันทึกความเข้าใจเรื่อง การส่งมอบอาคารพระราชานุสรณ์ ฯ ระหว่างรัฐบาลไทยและ
จังหวัดแย้มท์แลนด์ประเทศสวีเดน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการโครงการจัดตั้งโรงเรียนมัธยมศึกษาใหม่ตามแผนพัฒนาการ 
ศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม  ระยะที่ 8  (พ.ศ. 2540 - 2544)  ของกรมสามัญศึกษา  กระทรวงศึกษาธิการ  
(ระยะที่ 2) จำนวน 34 โรงเรียน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ส่วนการจะจัดตั้งโรงเรียนมัธยมศึกษาใหม่   
ในพื้นที่ใดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ นั้น   ให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับสำนักงบประมาณพิจารณา  
ความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ จำนวนนักเรียน  ความต้องการของท้องถิ่น  การคมนาคม  โดยให้คำนึงถึงคุณภาพเป็น  
สำคัญ สำหรับงบประมาณดำเนินการให้เจียดจ่ายและปรับแผนจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  
พ.ศ. 2543 ของกรมสามัญศึกษา  โดยให้ตกลงกับสำนักงบประมาณหรือให้ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำ 
ปี พ.ศ. 2544 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 
(กำหนดเขตเมืองพัทยาเป็นเขตราชการส่วนท้องถิ่นอื่น เพื่อให้อาคารชุดที่ตั้งในบริเวณดังกล่าวมีคนต่างด้าวและนิติ
บุคคลบางประเภทถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดได้ในอัตราเกินกว่าร้อยละสี่สิบเก้าของเนื้อที่ของห้องชุดทั้งหมดในอาคาร
ชุด กับกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของคนต่างด้าวและนิติบุคคลบางประ   
เภทที่มีอัตราเกินกว่าร้อยละสี่สิบเก้าของเนื้อที่ของห้องชุดทั้งหมดในอาคาร)  ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ   และ
ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ  (คศก.)  คือ
รับทราบและเห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (กพอ.) ครั้ง 
ที่  2/2542 เกี่ยวกับแผนการปฏิบัติการจัดการคุณภาพน้ำในแม่น้ำบางปะกงและแม่น้ำสาขาระยะเร่งด่วน  
และแผนการปฏิบัติการพัฒนาชุมชน  สังคม  และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก ระยะที่ 
2 ตามที่ กพอ. เสนอ  โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของ  คศก.  (เกี่ยวกับการจัดทำแผนปฏิบัติการจัด  
การคุณภาพน้ำ ฯ กรมพัฒนาที่ดิน กรมประมง  และกรมควบคุมมลพิษควรร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติงานที่  
จะนำไปสู่การจัดทำแผนการใช้เงิน เพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อนในการจัดสรรงบประมาณ  และให้มีความชัด   
เจนสอดคล้องไปในแนวทางเดียวกัน     รวมทั้งต้องทำความเข้าใจและให้ความจริงกับประชาชนที่ได้รับผล 
กระทบ  ในส่วนของแผนปฏิบัติการพัฒนาชุมชน ฯ ควรมีการจัดลำดับความสำคัญของโครงการต่าง ๆ ใน   
การใช้พื้นที่ดังกล่าว  นอกจากนี้ ในการพัฒนาชุมชนเมืองควรสนับสนุนให้ท้องถิ่นมีแหล่งที่มาของเงินทุน 
รวมถึงการเร่งรัดในเรื่องการจัดทำแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจการคลังสู่ท้องถิ่น  ซึ่งจะทำให้องค์   
กรท้องถิ่นสามารถพึ่งพาตนเองได้ และเป็นการลดปัญหาทางด้านงบประมาณของรัฐบาล    สำหรับการ 
กำหนดการใช้พื้นที่นั้น กรมพัฒนาที่ดินควรจัดทำเขตเกษตรเศรษฐกิจสำหรับสินค้าเกษตร (Zoning) ใน  
การใช้พื้นที่เพื่อช่วยแก้ปัญหาในการใช้พื้นที่ระยะยาวได้  ส่วนการจัดการคุณภาพน้ำในลุ่มน้ำต่าง ๆ  ทั้ง   
25 ลุ่มน้ำ ควรมีการพิจารณาการจัดการในแต่ละลุ่มน้ำเป็นการเฉพาะ    ตลอดจนการจัดทำแผนรองรับ 
ผลกระทบกรณีการเปิดใช้เขื่อนทดน้ำบางปะกงซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์วิทยาของพื้นที่ 
บริเวณเหนือเขื่อนและใต้เขื่อนอย่างชัดเจน) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 610 ร. เรื่อง การส่งเสริมบทบาทของสตรีในองค์การบริหาร
ส่วนตำบล ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และ  
ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป (โดยมีสาระสำคัญของคำถาม  สรุปได้ดังนี้  รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมบทบาท  
ของสตรีให้มีส่วนร่วมในการปกครองส่วนท้องถิ่นหรือไม่   และปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลที่เป็น  
สตรีกี่คน โดยจำแนกจังหวัดละกี่คน และได้รับเลือกเป็นประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและประธานกรรมการ  
บริหารกี่คน นอกจากนี้ เพราะเหตุใดจึงมีสตรีเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลน้อยมีปัญหาและอุปสรรคอย่างใด 
ที่สกัดกั้นสตรีมิให้มีส่วนร่วมในการปกครอง)