คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 571 ร. เรื่อง  การส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ 
ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น  ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ 
และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป  (โดยมีสาระสำคัญของคำถาม  สรุปได้ดังนี้  รัฐบาลมีแนวทางในการส่ง  
เสริมอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์เพื่อใช้ภายในประเทศและแนวทางส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรหรือชุมชนในท้องถิ่น 
สามารถตั้งโรงงานผลิตอาหารสัตว์เพื่อยกระดับเศรษฐกิจในท้องถิ่นหรือไม่    รวมทั้งมีมาตรการลดการนำเข้าวัตถุ  
ดิบจากต่างประเทศเพื่อนำมาผลิตอาหารสัตว์ในประเทศ และมีมาตรการส่งเสริมสินค้าส่งออกประเภทอาหารสัตว์ 
อย่างไร)

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามผนปฏิบัติการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ระยะที่ 1  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2542  (ตุลาคม 2541 - มีนาคม 2542)  (ประกอบด้วย 
แผนงานต่าง ๆ จำนวน 6 แผนงาน) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  และให้กระทรวงมหาดไทยรับข้อสังเกตของ  
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (เกี่ยวกับการเร่งรัดหรือให้ความสำคัญลำดับสูง  
ในการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ในระยะต่อไป คือ การเร่งรัดและสนับสนุนเสริมสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิ  
ภาคและท้องถิ่นเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและยกระดับรายได้ของประชาชน  ได้แก่  การพัฒนาธุรกิจ 
ชุมชน และเศรษฐกิจพอเพียง โดยส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่วมคิด ร่วมจัดทำแผน  และ  
ร่วมบริหารจัดการพัฒนาท้องถิ่นของตนเองที่เริ่มเกิดขึ้นแล้วอย่างกว้างขวางและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง   สนับสนุน 
ให้เกิดประชาคมในทุกระดับ ได้แก่ ประชาคมจังหวัด อำเภอ ตำบล  เป็นต้น  ซึ่งจะเป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริม   
ความเข้มแข็งของชุมชน  รวมทั้งเร่งรัดและสนับสนุนแผนกระจายอำนาจและปรับบทบาทของส่วนกลาง  ส่วนภูมิ  
ภาค  และส่วนท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพ   โดยให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจการบริหาร 
งบประมาณ  ให้จังหวัดเป็นผู้จัดการทรัพยากรลงพื้นที่ตามแผนที่ได้จากความต้องการของชุมชม)  ไปดำเนินการ
ต่อไป

          รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกำหนดแผนและนโยบาย
การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  พ.ศ. ....  ของวุฒิสภา  (โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับความ
มุ่งหมายให้รัฐกระจายอำนาจและหน้าที่ และจัดสรรสัดส่วนภาษี  และอากรเพิ่มขึ้นให้กับองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น   ในการดำเนินการดังกล่าว  รัฐบาลควรกำกับการให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนส่วนรวม  
และจะต้องไม่เป็นการเพิ่มภาระทางภาษีอากรให้กับประชาชน แต่ควรเป็นการลดสัดส่วนภาษีอากรของรัฐบาลไป
เพิ่มให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)  ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ   และมอบให้กระทรวงการคลัง 
และกระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาดำเนินการ  แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ  เพื่อนำเสนอ 
คณะรัฐมนตรีต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 590 ร. เรื่อง การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมขนาดย่อมที่
อำเภอบ้านไผ่  จังหวัดขอนแก่น  ของนายเปรมศักดิ์  เพียยุระ  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น  ตามที่
กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป (โดยมีสาระสำคัญของคำถาม สรุปได้ดัง  
นี้  รัฐบาลมีโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมขนาดย่อมที่อำเภอบ้านไผ่   จังหวัดขอนแก่นหรือไม่   ถ้าไม่มีเพราะ  
เหตุใด  หากรัฐบาลมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ  รัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณปี 2543  เพิ่มเติมเพื่อการจัดตั้ง 
นิคมอุตสาหกรรมขนาดย่อมที่อำเภอบ้านไผ่  จังหวัดขอนแก่น  ตลอดจนมีการวางแผนที่จะจัดสรรงบประมาณปี 
2544  เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมขนาดย่อมหรือไม่  ถ้าไม่มีเพราะเหตุใด    นอกจากนี้   รัฐบาลมีนโยบายที่จะ
ส่งเสริมให้เกิดการประสานงานระหว่างข้าราชการและประชาชน  รวมทั้งองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ดังกล่าว
เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมขนาดย่อมอย่างไรบ้าง)

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการของ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8  ระยะที่ 1  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2542  (ตุลาคม 2541-มีนา
คม 2542)  ซึ่งมีการดำเนินงานที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และแนวทางการปรับแผนพัฒนา ฯ  ฉบับที่ 8 โดย
ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตและความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง
ชาติ  ในส่วนของยุทธศาสตร์ที่  4  การพัฒนาสมรรถนะทางเศรษฐกิจ  โดยจัดทำมาตรการเพื่อสนับสนุนการ
กระตุ้นเศรษฐกิจหลายมาตรการ  อาทิ  มาตรการด้านภาษีเพื่อปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อสนับสนุนธุรกรรม
ภาคการเงิน  ภาคการผลิต   มาตรการเงินเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม   การเพิ่มทุนของ
สถาบันการเงิน เป็นต้น  ส่วนยุทธศาสตร์ที่ 3  การเสริมสร้างศักยภาพของการพัฒนาภูมิภาคและชนบท ควร
เร่งรัดนำแผนแม่บทการคลังส่วนท้องถิ่น  และแผนแม่บทการเงินการคลังเพื่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนแม่
บทการคลังส่วนท้องถิ่นที่ได้ผ่านการจัดทำระดับกระทรวงแล้วนำออกสู่การปฏิบัติ  เพื่อเพิ่มช่องทางในการจัด
หารายได้  และการจัดการทางการเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งจะผลช่วยให้ชุมชนและท้องถิ่นมีความ
เข้มแข็งตามวัตถุประสงค์ยิ่งขึ้น ไปดำเนินการด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีโครงการส่งเสริมให้นักเรียนทุกคนได้รับประทานอาหารกลางวัน
อิ่มทุกวัน    รวมทั้งการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนให้นักเรียนทุกคนได้รับ 
ประทานอาหารกลางวันอิ่มทุกวัน  ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์     โดยให้ 
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และทุกกระทรวง ทบวงให้การสนับสนุนโดยสั่งการให้หน่วยงาน  
ในสังกัดและองค์กรในกำกับดูแลให้ความช่วยเหลือ และให้การสนับสนุนแก่โรงเรียนและหน่วยงานในสังกัด  
กระทรวงศึกษาธิการ  และกระทรวงเกษตร ฯ  ในการดำเนินงานตามโครงการ  และให้ถือว่า  "การส่งเสริม  
ให้นักเรียนทุกคนได้รับประทานอาหารกลางวันอิ่มทุกวัน"  เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ตามที่กระทรวง 
ศึกษาธิการเสนอ  และให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงาน ควรให้มีการรณรงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน
องค์กรเอกชนและองค์กรท้องถิ่นให้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมอาหารกลางวันในโรงเรียน โดยให้ทุกฝ่ายร่วมกัน
คิดร่วมกันทำทั้งในการจัดตั้งกองทุนโดยการสมทบทุนส่วนหนึ่ง  และมีส่วนรับผิดชอบติดตาม กำกับ ตรวจ  
สอบการดำเนินงานจัดอาหารกลางวันของโรงเรียน เพื่อให้การดำเนินโครงการ  ฯ    มีความยั่งยืนและเป็น 
การลดภาระภาครัฐ) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย 

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการผังเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ปรับปรุงการตรา 
กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเป็นไปโดยต่อเนื่อง โดยเพิ่มเติมนิยามของคำว่า เจ้าพนักงานท้องถิ่น องค์กรปก 
ครองส่วนท้องถิ่น  แก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดของข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินให้ครองคลุมได้กว้างขวางตามหลัก  
วิชาการผังเมือง       รวมทั้งแก้ไขบทบัญญัติเรื่องระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมให้มีการใช้บังคับต่อเนื่องโดยไม่
กำหนดระยะเวลาและเพิ่มการตรวจสอบประเมินผล  ตลอดจนวิธีการแก้ไขผังเมืองรวมให้สะดวกและรวดเร็วขึ้นเพื่อ  
สอดคล้องกับสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป)  ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ   และให้ส่งสำนักงาน 
คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  โดยให้รับความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับระยะเวลา 
การประเมินผลผังเมืองตามร่างมาตรา 7) ไปประกอบการพิจารณาและให้เชิญผู้แทนกรมการผังเมืองร่วมพิจารณา
ด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการนโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น (กนภ.)
ครั้งที่ 1/2542 รวม 3 เรื่อง ได้แก่ สถานภาพชนบทไทยก่อนและหลังวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ การพัฒนาเศรษฐกิจ
ชายแดน และการปรับแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงหลักเพื่อสนับสนุนการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน  ตาม 
ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับองค์การสหประชาชาติว่าด้วยการจัด 
ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา  (อังค์ถัด)  ครั้งที่ 10  (โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับสถานที่และ 
วันที่ของการประชุม การเข้าร่วมการประชุมและการเข้าประชุม การตกแต่งสถานที่ประชุม การจัดหาอุปกรณ์และ 
สิ่งของที่จำเป็นต่อการประชุม การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการบริการสาธารณูปโภค  การจัดให้มีสิ่งอำนวย  
ความสะดวกทางการแพทย์ภายในสถานที่ประชุม จำนวนเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ การ 
จัดตั้งฝ่ายเลขานุการและจัดให้มีพนักงานท้องถิ่นสำหรับการประชุม การบริการที่พักและการติดต่อประสานงาน 
การขนส่งภายในประเทศ การจัดการด้านการเงิน การรักษาความปลอดภัย ความรับผิดชอบ เอกสิทธิ์และความ 
คุ้มกัน การระงับข้อพิพาท  และบทบัญญัติสุดท้าย)  และภาคผนวก  และอนุมัติให้มีการลงนามความตกลง ฯ กับ 
สหประชาชาติ  และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ลงนามความตกลง ฯ    รวมทั้งให้กระทรวง 
การต่างประเทศสามารถแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำข้อความในข้อบทต่าง ๆ  ของร่างความตกลง ฯ  และภาคผนวกซึ่ง
มิใช่ข้อความเป็นสาระสำคัญของความตกลงภายใต้ก่อนการลงนาม ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 480 ร. เรื่อง แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดมุกดาหาร ของ 
นางวรศุลี เชาว์ศิริกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมุกดาหาร ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และ 
ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป (โดยมีสาระสำคัญของคำถาม สรุปได้ดังนี้  รัฐบาลมีแนวทางในการดำเนิน  
การเช่นไรเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ   แต่ขาดการดูแล  และประชาสัมพันธ์จากภาครัฐ    โดยเฉพาะแหล่ง
ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ที่สำคัญของจังหวัดมุกดาหาร        ตลอดจนมีนโยบายที่จะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เจริญ
อย่างทั่วถึง โดยไม่ให้กระจุกตัวเฉพาะที่หนึ่งที่ใด    และจะมีนโยบายอย่างไรหลังจากที่ปีการท่องเที่ยวไทยกำลังจะ
ผ่านพ้นไป โดยแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดมุกดารหาร จะสามารถตั้งงบประมาณพัฒนา  รวมทั้งการกระจายรายได้
สู่ท้องถิ่นโดยเฉพาะด้านการเสริมรายได้การท่องเที่ยว)

              รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริม
ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย  พ.ศ. ....  ของวุฒิสภา  ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ  (โดยมีสาระ
สำคัญเกี่ยวกับการไม่สามารถกำหนดให้สถาบันการแพทย์แผนไทยเป็นหน่วยงานระดับ  "กรม"  ในขณะนี้ได้ 
เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขจะต้องเอาใจใส่และสนับสนุนให้สถาบัน 
การแพทย์แผนไทยสามารถปฏิบัติภารกิจตามพระราชบัญญัติ ฯ ฉบับนี้ได้อย่างเต็มที่ การพิจารณาถึงสิทธิในการ   
อนุรักษ์หรือฟื้นฟูภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย  ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการจัดการบำรุงรักษาและใช้ประโยชน์ 
จากสมุนไพรของชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม    รวมทั้งคำนึงถึงสิทธิของปัจเจกชนในการมีส่วนร่วมกับรัฐและชุมชนในการ 
บำรุงรักษา และการได้ประโยชน์จากสมุรไพรให้ดำรงชีพอยู่ได้อย่างปกติและยั่งยืน   การส่งเสริมและสนับสนุนให้ 
เอกชนหรือประชาชนมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการพัฒนาภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยขึ้นมาใช้ประโยชน์อย่างจริง
จัง  เพื่อให้เอกชนมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือ ส่งเสริมบทบาทของรัฐในการคุ้มครอง  และส่งเสริมภูมิปัญญา 
การแพทย์แผนไทยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  นอกจากนี้  กระทรวงสาธารณสุขจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ และให้   
การศึกษาแนวทางในการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ และเข้า  
ใจถึงเจตนารมณ์ของร่างพระราชบัญญัติ ฯ ไปสู่เป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล  และยังจะเป็นการ  
ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนรู้จักรักษาสิทธิในภูมิปัญญาของตนอีกด้วย)  และมอบให้กระทรวงสาธารณสุข
รับไปพิจารณาดำเนินการ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีการะเบียบพนักงานเทศบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
(ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการพนักงานเทศบาล (ก.ท.)  คณะอนุกรรมการพนักงานเทศบาลประจำ 
จังหวัด (อ.ก.ท.จังหวัด) และคณะอนุกรรมการพนักงานเทศบาลประจำเทศบาล (อ.ก.ท.เทศบาล) ให้สอดคล้อง  
กับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยให้ประกอบด้วยผู้แทนหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนขององค์กรปก
ครองส่วนท้องถิ่น  และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายบัญญัติ โดยมีจำนวนเท่ากัน)  ตามที่กระทรวง 
มหาดไทยเสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน  แล้วให้ดำเนินการต่อ
ไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 319 ร. เรื่อง ความร่วมมือในการจัดการศึกษาระดับก่อน 
ประถมศึกษาให้เด็กอายุ  3 - 5  ปี  ของนายเปรมศักดิ์  เพียยุระ  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น   ตาม    
ที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ   และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป  (โดยมีสาระสำคัญของคำถาม  
สรุปได้ดังนี้  รัฐบาลมีแนวทางที่จะให้มีการประสานความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ  ที่รับผิดชอบด้านการจัดการ
ศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาให้เด็กอายุ 3 - 5 ปี ให้เป็นเอกภาพในด้านบุคลากรและงบประมาณหรือไม่  รวมทั้ง
จะมีแนวทางในการโอนงานการจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาของเด็กในระดับอายุ 3 ปีลงมาไปให้กับหน่วย
งานหรือองค์กรระดับท้องถิ่นอย่างไร)

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานการปฏิรูประบบบริหารการศึกษาใน
กระทรวงศึกษาธิการ (โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับหลักการสำคัญ 3 ประการคือ ความเป็นเอกภาพด้านนโยบาย  
แผน และมาตรฐานการกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่น การมีส่วนร่วมของประชาชน โดยยึดแนวทางสำคัญ 5 แนว  
ทาง  คือ  ปรับอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ และความสัมพันธ์ระหว่างราชการส่วนกลางกับท้องถิ่นและสถาน  
ศึกษาไปยังสถานศึกษาทุกระดับ   และให้กระทรวง การศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม กำกับและส่งเสริมให้องค์   
กรการบริหารการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา ส่วนกลาง หน่วยบริการกลางและองค์กรอิสระ   รวมทั้งข้อเสนอ 
แนะการปฏิรูปไปสู่การปฏิบัติโดยจัดให้มีองค์กรเฉพาะกิจเพื่อระดมผู้ทรงคุณวุฒิจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับโครง 
สร้างองค์กร  และจัดให้มีโครงการนำร่องเพื่อทดสอบระบบบริหารใหม่) เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิรูป
โครงสร้าง และขบวนการบริหารการศึกษาทุกประเภทและทุกระดับการศึกษาทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และ
ระดับสถานศึกษา โดยคำนึงถึงเอกภาพความคล่องตัวและการจัดองค์การที่กะทัดรัดและประหยัดและมีประสิทธิ
ภาพสูงสุด

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้หน่วยงานในส่วนกลางของ  8  กระทรวงหลักภายใต้ระบบคณะกรรมการ 
นโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น (กนภ.)  ดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายสังคมแห่ง  
ชาติ โดยการกระจายอำนาจการบริหารงบประมาณให้จังหวัดเป็นผู้จัดสรรลงพื้นที่ตามแผนที่ได้จากความต้องการ  
ของชุมชน  ตั้งแต่ปีงบประมาณ  2543  เป็นต้นไป   ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  (คุณหญิงสุพัตรา  
มาศดิตถ์) เสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบนโยบายความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ (พ.ศ. 2542  -  
2546)  โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับนโยบายในการพัฒนาศักยภาพของคนและสังคม เน้นการพัฒนาความรู้ความเข้า
ใจให้ทุกฝ่ายเห็นคุณค่าของความหลากหลายทางวัฒนธรรม  ความร่วมมือของทุกฝ่ายในสังคม และความสำคัญของ
ภูมิปัญญาท้องถิ่น  ปัญญาชน  และเยาวชน   นโยบายในการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพคน
และสังคม เน้นการคุ้มครองและส่งเสริมให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตประกอบอาชีพและการปฏิบัติตามหลักศาส
นาได้อย่างราบรื่น  และนโยบายในการพัฒนาการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาให้ประชาชน 
มีบทบาทและมีส่วนร่วมในการพัฒนาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะปัญ
หาความไม่สงบและปัญหายาเสพติด     โดยใช้พลังทางวัฒนธรรมมาเป็นพลังสร้างสรรค์ให้สังคมมีความสงบร่มเย็น
ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 579 ร. เรื่อง การลดขนาดหรือยกเลิกเทศบาลที่ยก 
ฐานะมาจากสุขาภิบาล  ของนายอุดม  ไกรวัตนุสสรณ์   สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรสาคร   ตามที่ 
กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป (โดยมีสาระสำคัญของคำถาม สรุปได้ดัง  
นี้  ในกรณีที่เทศบาลตำบลบางแห่งที่ได้รับการยกฐานะจากสุขาภิบาลเป็นเทศบาลตำบล  ซึ่งได้มีมติว่า  ต้อง  
ลดขนาดของพื้นที่ลงหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองอื่น โดยได้รับความเห็นชอบจากราษฎรในท้องถิ่น  
ซึ่งเทศบาลตำบลที่ตั้งอยู่จะสามารถกระทำได้  หรือไม่  เพียงใด  นอกจากนี้  กระทรวงมหาดไทยกำหนดหลัก 
เกณฑ์อย่างไรเพื่อใช้เป็นแนวทางให้แต่ละท้องถิ่นที่ประสบปัญหาดังเช่นกรณีของเทศาลตำบลหลักห้า อำเภอ   
บ้านแผ้ว จังหวัดสมุทรสาคร  ที่ได้รับการยกฐานะสุขาภิบาลเป็นเทศบาลตำบล  แต่มีพื้นที่กว้างขวางมากเกิน  
กว่าขีดความสามารถที่จะบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ทำให้วัตถุประสงค์ในการกระจายอำนาจสู่ท้อง 
ถิ่นไม่สัมฤทธิ์ผล  โดยจะเปลี่ยนแปลงขนาดหรือรูปแบบการปกครองส่วนท้องถิ่นให้เหมาะสม และมีประสิทธิ
ภาพเพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการ)

               คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้รัฐวิสาหกิจ  หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลระเบียบว่าด้วยการพัสดุของ
หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น   หรือหน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้ 
มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่นดำเนินการแก้ไขระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการพัสดุให้สอดคล้องกับหลัก 
เกณฑ์ของข้อ 47 ว่าด้วยการพัสดุแห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติมโดย
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2541 ต่อไป และในระหว่างการดำเนินการแก้ไข
ระเบียบข้อบังคับก็ให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์นี้ไปโดยอนุโลมก่อนด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติเทศบาล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ให้มีการเลือกตั้งนายก 
เทศมนตรีโดยตรง) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดย 
ให้แก้ไขเพิ่มเติมตามความเห็นของคณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายปกครองท้องถิ่นและการกระจายอำนาจไปสู่ท้อง  
ถิ่น  โดยให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีโดยตรงทุกเทศบาลทั้งหมด จำนวน 1,129 เทศบาล  แล้วส่งให้คณะกรรม 
การประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป  โดยที่ร่างพระราชบัญญัติ 
เทศบาลดังกล่าว ได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีโดยตรง  ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางหนึ่งตามรัฐธรรมนูญ  
แห่งราชอาณาจักรไทยที่ได้บัญญัติถึงที่มาของคณะผู้บริหารท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นไว้     และเป็นนโยบายของ 
รัฐบาลซึ่งเหมาะสมกับโครงสร้างการบริหารและพื้นที่ของเทศบาล    และเป็นไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเข้ม
แข็งของการปกครองส่วนท้องถิ่น จึงให้กระทรวงมหาดไทยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 เฉพาะข้อ 4 และข้อ 
5 คือ ข้อ 4 ให้แก้ไขเป็น "โดยที่โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดอัตรากำลังบุคลากรภาครัฐ จึงไม่ประสงค์ให้ผู้ที่  
ออกจากราชการตามโครงการนี้หมุนเวียนกลับเข้ารับราชการใหม่   ดังนั้น   ข้าราชการที่ออกจากโครงการนี้จะ  
กลับเข้ามาเป็นข้าราชการหรือพนักงานประจำของหน่วยงานของรัฐอีกไม่ได้" ข้อ  5  ให้แก้ไขเป็น  "สำหรับการ      
คำนวณเงินเพิ่มจากบำนาญของข้าราชการที่เข้าร่วมโครงการ นั้น  เมื่อรวมบำนาญปกติหรือเงินเพิ่มอื่น ๆ  แล้ว  
ต้องไม่เกินเงินเดือน ๆ สุดท้ายของผู้นั้น"  ให้ระงับการจ่ายเงินเพิ่มบำนาญรายเดือนในระหว่างที่ผู้ออกจากราช   
การตามโครงการไปดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง    โดยให้กรมบัญชีกลางรับไปยกร่างข้อบัญญัติในส่วนนี้   
เพื่อรวมเป็นส่วนหนึ่งของร่างพระราชกฤษฎีกาที่จะออกเพื่อการนี้ ให้ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการพลเรือนใน    
มหาวิทยาลัย ข้าราชการครู  ข้าราชการตำรวจ  และข้าราชการทหารเข้าร่วมโครงการ ฯ  ได้  ทั้งนี้  ในส่วนของ  
ข้าราชการตำรวจ  นั้น  คำว่า  "ยุบเลิกตำแหน่ง"  ให้หมายถึง  การยุบเลิกอัตราเงินเดือน    สำหรับข้าราชการ  
กรุงเทพมหานคร ข้าราชการส่วนท้องถิ่น  และพนักงานเทศบาล ให้คณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร    
(ก.ก.) คณะกรรมการพนักงานองค์กรบริหารส่วนจังหวัด (ก.จ.)  และคณะกรรมการพนักงานเทศบาล (ก.ท.)    
พิจารณาตามความเหมาะสม       ส่วนข้าราชการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ  และข้าราชการรัฐสภา  ให้องค์กร 
บริหารงานบุคคลที่เกี่ยวข้องพิจารณาตามความเหมาะสมและไม่สมควรให้ข้าราชการตุลาการและข้าราชการอัย 
การเข้าร่วมโครงการ ฯ  เนื่องจากมีปัญหาขาดแคลนบุคลากรในหน่วยงานนั้น    รวมทั้งให้ข้าราชการทหารเข้า
ร่วมโครงการ ฯ ส่วนการยุบเลิกตำแหน่งให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการข้าราชการทหารกำหนด