คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานผลการอนุมัติเงินประจำงวดของส่วน   
ราชการและรัฐวิสาหกิจ ปีงบประมาณ 2545 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2544 มีจำนวนทั้ง  
สิ้น 569,196.4 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 55.6 ของวงเงินงบประมาณ  (1,023,000 ล้านบาท)  ประกอบ 
ด้วย การอนุมัติเงินประจำงวดสำหรับรายจ่ายลงทุน จำนวน 83,199.6 ล้านบาท หรือร้อยละ  37.2  ของ  
งบประมาณรายจ่ายลงทุน และรายจ่ายประจำ  จำนวน 485,996.8 ล้านบาท  หรือร้อยละ  60.8  ของงบ  
ประมาณรายจ่ายประจำ   ส่วนการอนุมัติเงินประจำงวดในส่วนของโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมบริการ  
สาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงวันที่  31  ตุลาคม  2544  มีจำนวน 
ทั้งสิ้น 16,008.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ  59.2  ของวงเงินงบประมาณโครงการถ่ายโอน ฯ  (27,061.8 
ล้านบาท)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี) รับไป 
ดำเนินการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2539 เรื่อง  การดำเนินการเร่งรัดติดตาม กรณี 
เงินของกระทรวง ทบวง กรม เทศบาล สุขาภิบาล และรัฐวิสาหกิจขาดบัญชี หรือเจ้าหน้าที่ทุจริต โดยจัดทำ 
เป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชน  
เมืองของสำนักงานคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง  วงเงิน  5,077,119,790  บาท   และอนุมัติ  
ให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  ครั้งที่ 8/2544 
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2544   โดยให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาดำเนินการด้วยว่า  โครงการดัง  
กล่าวเป็นโครงการที่ให้ทุนการศึกษาแก่บัณฑิต    มิใช่เป็นการจ้างบัณฑิตทำงาน    และบัณฑิตที่ได้รับทุนการ
ศึกษาเป็นบัณฑิตว่างงาน จึงควรปรับถ้อยคำในโครงการให้ชัดเจน   โดยตัดข้อความว่า  "บัณฑิตที่ด้อยโอกาส  
และยากจน"  ออก   และการคัดเลือกบัณฑิตว่างงานในท้องถิ่นเพื่อไปปฏิบัติงานในทุกกองทุน ฯ   ทั่วประเทศ
ควรคัดเลือกคนในท้องถิ่นที่อยู่ใกล้หมู่บ้านและชุมชนเมืองที่จะเข้าไปปฏิบัติงานเป็นอันดับแรก  รวมถึงการคัด
เลือกบัณฑิตที่มีความรู้ในสาขาต่าง ๆ   โดยให้ฝึกทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อให้มีโอกาสเรียนรู้และแลกเปลี่ยน  
ความรู้ซึ่งกันและกัน  ส่วนการฝึกอบรมบัณฑิต คณาจารย์ผู้สอนควรเน้นให้ความรู้ในเรื่องอินเทอร์เน็ตเพื่อให้
บัณฑิตนำไปสอนราษฎรในหมู่บ้านและชุมชนเมือง   โดยมอบให้ นายสุวิทย์  คุณกิตติ  รับไปพิจารณาร่วมกับ 
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายสมบัติ  อุทัยสาง) สำนักงบประมาณ  สำนักงานคณะกรรมการ  
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการเกี่ยวกับอิน 
เทอร์เน็ตให้เกิดประโยชน์กับคนในหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้มากที่สุด  นอกจากนี้ ควรสอนให้รู้จักอนุรักษ์สิ่ง 
แวดล้อมและแหล่งท่องเที่ยว   ตลอดจนส่งเสริมและให้ความรู้แก่บัณฑิตที่จบการศึกษา เช่นในด้านการเกษตร 
ให้มีการรวมกลุ่มจัดสรรที่ทำกิน  ทำการเกษตรในเชิงวิชาการเพื่อเป็นลู่ทางในการประกอบอาชีพการเกษตร   
หรือผู้ประกอบการรายใหม่ต่อ ๆ ไป  โดยมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กระทรวงการคลัง  กระทรวง 
แรงงานและสวัสดิการสังคม กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันคิดแนวทางในเรื่องนี้

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 079 ร. เรื่อง การจัดสร้างสวนสาธารณประโยชน์ศาล  
เจ้าพ่อมเหสักข์ ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น ซึ่งถามว่า รัฐบาลมีโครง 
การจัดสร้างสวนสาธารณะศาลเจ้าพ่อมเหสักข์หรือไม่ ถ้ามีจะดำเนินการอย่างไร เมื่อใด และใช้งบประมาณเท่า 
ใด  จะประสานงานกับเทศบาลตำบลชนบท  จังหวัดขอนแก่น  ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อจัดสร้าง 
สวนสาธารณะดังกล่าวหรือไม่  อย่างไร  ถ้าไม่มีการประสานงานเพราะเหตุใด   และจะสนับสนุนการท่องเที่ยว 
ในบริเวณสวนสาธารณะศาลเจ้าพ่อมเหสักข์หรือไม่ และมีวิธีการส่งเสริมการพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนใน
พื้นที่ดังกล่าวอย่างไร ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานผลการดำเนินงานโครงการฟื้นฟู
อาชีพเกษตรกรหลังการพักชำระหนี้ โดยผลการดำเนินงานช่วยเหลือฟื้นฟูอาชีพของจังหวัด รวมทุกภาคมี 4,348   
ตำบลที่ได้รับการฟื้นฟู  เกษตรกรที่ยื่นความจำนง 128,247 ราย  เกษตรกรที่จัดทำแผนฟื้นฟูแล้ว 40,733 ราย  
และเกษตรกรได้รับการช่วยเหลือแล้ว 6,260 ราย  คณะกรรมการกำกับดูแลการดำเนินงานตามนโยบาย  และผู้  
ตรวจราชการ  กระทรวงเกษตร ฯ  มีข้อสังเกตและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานดังนี้  เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน  
ภาคสนามระดับจังหวัด/ตำบลควรสร้างความเข้าใจวิธีการทำงานร่วมกันในระดับตำบลพื้นที่ ตลอดจนตรวจสอบ  
/วิเคราะห์ความจำเป็น  และความต้องการของเกษตรกรจากข้อมูล  และการสัมภาษณ์เกษตรกรรายบุคคล  ส่วน 
การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ  ฯ   ระดับจังหวัด   ยังขาดความพร้อมในการเตรียมการตั้งศูนย์บริการและ  
ถ่ายทอดเทคโนโลยีตำบลเป้าหมาย    และขาดการสร้างความเข้าใจร่วมกันในการปฏิบัติงานตามกรอบแนวทาง 
การดำเนินงาน รวมไปถึงการดำเนินงานของศูนย์บริการ ฯ ยังขาดความเข้าใจและความพร้อมในการเตรียมการ 
จัดตั้งศูนย์บริการ  ฯ   เพื่อรองรับโครงการฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรหลังการพักชำระหนี้   และการสร้างความเข้าใจ
และการเรียนรู้ให้กับเกษตรกร เนื่องจากเกษตรกรยังมีทัศนะคติและความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการช่วยเหลือใน 
ลักษณะขอรับการแจกปัจจัยเช่นเดียวกับโครงการอื่น  ๆ   นอกจากนี้   เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม  ระดับ 
อำเภอ  ขาดทักษะและประสบการณ์ในการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมกับองค์กรท้องถิ่นและผู้นำอาชีพในการ 
เสวนาเพื่อสร้างความเข้าใจในการฟื้นฟูอาชีพของเกษตรกรหลังการพักชำระหนี้ สำหรับการดำเนินงานปี 2545  
ประกอบด้วย  กรอบงบประมาณดำเนินงาน ปี 2545 ขั้นตอนการปฏิบัติงานการเร่งรัดจัดทำคำขอสนับสนุนงบ 
ประมาณปี 2545  และขั้นตอนการจัดทำคำขอสนับสนุนงบประมาณปี 2545

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) รายงานผล   
การดำเนินงานตามมาตรการส่งเสริมรายได้จากการท่องเที่ยว  ตั้งแต่เดือนตุลาคม - ธันวาคม  2543   ในส่วน  
ของการดำเนินงานตามมาตรการเร่งด่วน 7 มาตรการ  ได้แก่  การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของ 
นักท่องเที่ยว การป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว การป้องกันแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม การส่งเสริม
ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจับจ่ายซื้อข่ายของ การส่งเสริมนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจพิเศษ  การกระตุ้น 
ให้เกิดความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์การส่งเสริมและสนับสนุนปี  Amazing Thailand  1998 - 1999  และ  
การจัดตั้งองค์กรในรูปคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวในระดับจังหวัด  และระดับพื้นที่   รวมทั้ง  
การดำเนินงานตามมาตรการที่ดำเนินการในระยะต่อไป  5  มาตรการ   ได้แก่   การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว โดย 
การใช้กฏระเบียบควบคุมรักษาสภาพแวดล้อมอย่างเคร่งครัด รณรงค์ให้ความรู้ สร้างทัศนคติ  จัดสาธิตในการ 
อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และกระจายอำนาจให้หน่วยงานในภูมิภาคและท้องถิ่นร่วมกันฟื้นฟูอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยว 
พัฒนาบุคลากรทางการท่องเที่ยว  ตลอดจนจัดหาเงินทุนและบุคลากรสนับสนุนสถาบันฝึกอบรมการโรงแรม  
และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย   จัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น   ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง     
การจัดประชุม การจัดนิทรรศการ และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล  (MICE)  รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว
ให้ประเทศไทยเป็นประตูสู่ภูมิภาค

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานสรุปผลการบริหารงบประมาณของส่วน 
ราชการและรัฐวิสาหกิจ  สำหรับปีงบประมาณ  2545  ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงวันที่  17  ตุลาคม  2544  มี  
การอนุมัติเงินประจำงวด จำนวนทั้งสิ้น  547,973.7  ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ  53.6  ของวงเงินงบประมาณ 
(1,023,000  ล้านบาท)  โดยการอนุมัติเงินประจำงวดสำหรับรายจ่ายลงทุนมีจำนวน  72,110.9  ล้านบาท    
หรือร้อยละ 32.2 ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน   และรายจ่ายประจำมีจำนวน  475,862.8  ล้านบาท  หรือ 
ร้อยละ  59.5  ของงบประมาณรายจ่ายประจำ  ส่วนการอนุมัติเงินประจำงวดโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรม  
บริการสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีจำนวนทั้งสิ้น  11,256.4  ล้านบาท   หรือคิดเป็นร้อยละ
41.6 ของวงเงินงบประมาณ (27,061.8 ล้านบาท)

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มีมติ
อนุมัติในหลักการโครงการพัฒนากรมที่ดินและเร่งรัดการออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ ระยะที่ 4  พ.ศ. 2545 - 
2547  ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ  สำหรับค่าใช้จ่ายของโครงการ  ฯ  ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่าย
ประจำปีทั้งจำนวนในวงเงิน 1,330,727,500 บาท  โดยให้ขอตั้งงบประมาณให้สอดคล้องกับภารกิจในแต่ละ  
ปีด้วย และให้กรมที่ดินพิจารณาทบทวนแผนงานตามโครงการ ฯ  ให้สอดคล้องกับวงเงินงบประมาณ  โดยทำ   
ความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป  ทั้งนี้  ให้รับข้อสังเกตและความเห็นของสำนักงานปลัด    
สำนักนายกรัฐมนตรี  สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  และสำนักงาน  ก.พ.  
(เกี่ยวกับการปรับปรุงแผนงานตามโครงการ  ฯ  ควรให้ความสำคัญแก่แผนงานบินถ่ายภาพ และสร้างระวาง   
แผนที่รูปถ่าย   รวมถึงแผนงานการประเมินทรัพย์สิน  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน 
ของรัฐ และเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการเวนคืนที่ดิน  ตลอดจนพิจารณาแนวทาง  หลักเกณฑ์  และศึกษา
ความเหมาะสมในการดำเนินการพัฒนาองค์กรให้มีการจัดเก็บข้อมูลที่สมบูรณ์และทันสมัย  เพื่อประโยชน์ใน  
การจัดเก็บภาษีในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ  โดยมีโครงสร้างที่เป็นสากล  และควรเร่งดำเนินการออก 
โฉนดที่ดินให้แล้วเสร็จโดยเร็ว   เพราะค่าใช้จ่ายในการออกโฉนดเป็นค่าใช้จ่ายที่สามารถนำเงินงบประมาณ  
ปกติของประเทศมาดำเนินการได้  จึงควรยุติการกู้เงินในโครงการ  ฯ  ระยะที่  4   นอกจากนี้  ควรพิจารณา   
ตั้งงบประมาณโครงการในลักษณะของงบประมาณปกติแทนการกู้เงินจากธนาคารโลก)  ไปพิจารณาดำเนิน 
การด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการและแนวทางการเร่งรัดติดตามการใช้เงินภาครัฐ ในปีงบประมาณ  
พ.ศ. 2545 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอทั้ง 6 ข้อ  โดยในข้อ  5  ให้แก้ไขเป็น "ให้กระทรวงมหาดไทยและสำนัก   
งานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำหน้าที่สนับสนุนภารกิจนี้โดยการเร่งรัด 
การดำเนินงานของส่วนราชการในส่วนภูมิภาคและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น   และให้กระทรวงมหาดไทยมอบ    
หมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามเร่งรัดการดำเนินงาน และการใช้จ่ายเงินของส่วนราชการในส่วนภูมิภาคและ 
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับงบประมาณโครงการถ่ายโอนฯ โดยให้แต่งตั้งคณะทำงานรับผิดชอบประกอบ 
ด้วย  ผู้ว่าราชการจังหวัด   เป็นประธาน   หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เป็นคณะทำงาน  และคลังจังหวัด  เป็นคณะทำงานและเลขานุการเพื่อทำหน้าที่ติดตามผลการดำเนินงานให้เป็น  
ไปตามแผนการจัดซื้อจัดจ้างและแผนการเบิกจ่ายเงินต่าง ๆ ตามข้อ 3  ทั้งนี้  ให้กระทรวงการคลังมอบหมายให้ 
กรมบัญชีกลาง  (สำนักงานคลังจังหวัด)  รายงานผลการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ  ในจังหวัดให้ผู้ว่าราช 
การจังหวัดทราบเพื่อติดตามเร่งรัดผลการดำเนินงานของส่วนราชการในจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  
และให้กรมบัญชีกลางรวบรวม   และรายงานผลการใช้จ่ายเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สำนักงานคณะ
กรรมการการกระจายอำนาจ ฯ ทราบด้วย"

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบ    
ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  ของวุฒิสภา  โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญ  ฯ  วุฒิสภามี
ข้อสังเกตว่า  ควรมีการควบคุมงบประมาณรายจ่ายประจำปีมิให้มีสัดส่วนสูงเกินไป  ควรเป็นแต่เฉพาะงบราย
จ่ายลงทุนที่เป็นประโยชน์ต่อการกระตุ้นและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ  และควรเร่งรัดให้มีการดำเนินการตาม
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจัง  ส่วนค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 58,000 ล้านบาท 
ควรจะมีแผนงานโครงการที่เป็นรูปธรรมและมีความชัดเจน  นอกจากนี้  ได้มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดสรรงบ
ประมาณการกำกับดูแล และการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  งบกลาง
รายจ่ายในการรักษาพยาบาลข้าราชการลูกจ้างและพนักงานรัฐวิสาหกิจ  นโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจ  การ
ปฏิรูปการศึกษา การปรับเงินเดือนหรือเงินค่าตอบแทน การส่งเสริมให้เพิ่มมูลค่าด้านอุตสาหกรรม เกษตร
กรรม และพาณิชยกรรม ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ  และมอบให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับไป
พิจารณาว่า  จะสมควรดำเนินการในเรื่องใด  ได้หรือไม่  ประการใด  แล้วแจ้งให้สำนักงบประมาณทราบโดย
ตรง เพื่อสำนักงบประมาณจัดทำความเห็นรวม แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

              รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ
รายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2545  ของสภาผู้แทนราษฎร  โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญ ฯ    
สภาผู้แทนราษฎรมีข้อสังเกตว่า ควรพิจารณาควบคุมรายจ่ายประจำไม่ให้เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าอัตราการ 
เพิ่มของรายได้และจัดสรรให้เฉพาะเรื่องที่มีความจำเป็น ส่วนการจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานภาครัฐ   
โดยเฉพาะองค์กรท้องถิ่นยังให้ความสำคัญน้อยเกินไป   นอกจากนี้  ปัญหาในการบริหารงบประมาณที่ควร 
ได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน ได้แก่ งบประมาณเหลือจ่ายและการเก็บเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี  การโอนเปลี่ยน 
ตลอดจนระบบการติดตามประเมินผลการใช้จ่ายงบประมาณล่าช้าซึ่งจะต้องมีการพัฒนาปรับปรุงระบบและ 
กระบวนการงบประมาณโดยการเร่งรัดปรับปรุงทบทวนกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ  และมติคณะรัฐมนตรี
ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้ 
แทนราษฎรเสนอ  และมอบให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาว่า จะสมควรดำเนินการในเรื่องใด ได้  
หรือไม่  ประการใด  แล้วแจ้งให้สำนักงบประมาณทราบโดยตรง เพื่อสำนักงบประมาณจัดทำความเห็นรวม 
แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 ของสำนักงาน 
การตรวจเงินแผ่นดิน ในส่วนของการตรวจสอบบัญชีทุนสำรองเงินตรา บัญชีสำรองพิเศษ และบัญชีผลประโยชน์   
ประจำปี (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2542) การตรวจสอบรายงานรายรับรายจ่ายของแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ 
พ.ศ. 2542 และงบแสดงฐานะการเงินของแผ่นดิน ณ วันที่  30  กันยายน  2542  การตรวจสอบหน่วยงานของ 
ราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาคในปีงบประมาณ  พ.ศ. 2543  การตรวจสอบองค์การบริหารส่วนตำบล  การ 
ตรวจสอบงบการเงินรัฐวิสาหกิจและสถาบันการเงิน   การตรวจสอบงบการเงินโครงการซึ่งใช้เงินกู้และเงินช่วย   
เหลือจากต่างประเทศ การตรวจสอบงบการเงินหน่วยงานของราชการส่วนท้องถิ่น  ได้แก่  องค์การบริหารส่วน  
จังหวัด เทศบาลและหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานครและหน่วยงานในสังกัด และเมืองพัทยา  การตรวจสอบ
งบการเงินกองทุน เงินทุนหมุนเวียนและงบการเงินอื่น การตรวจสอบเฉพาะเรื่อง  ได้แก่  การตรวจสอบการจัด   
เก็บรายได้ การตรวจสอบการซื้อการจ้าง การตรวจสอบ สืบสวน และการตรวจสอบการดำเนินงาน ซึ่งเป็นการ 
ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินอื่นของหน่วยรับตรวจ  พร้อมทั้งการปรับเปลี่ยนวุฒิทัศน์และยุทธศาสตร์
การตรวจเงินแผ่นดิน ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอ โดยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำข้อเสนอแนะ 
เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติตามกฎหมาย  ระเบียบ   ข้อบังคับ   และมติคณะรัฐมนตรี ไปพิจารณาดำเนินการอย่าง
เคร่งครัด

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเปลี่ยนประธานกรรมการ รวม 2 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการประสาน  
การพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต  ยงใจยุทธ) 
เป็นประธานกรรมการ  และคณะกรรมการนโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น  ซึ่งมีรองนายก  
รัฐมนตรี (นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์) เป็นประธานกรรมการ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 323/2544 
เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการ  
แทนนายกรัฐมนตรี  โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นประธานกรรมการทั้งสองคณะ
ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรับไปดำเนินการแก้ไขคำสั่งดังกล่าวต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 3  (คกก.3) 
ที่เห็นชอบในหลักการโครงการจัดการทรัพยากรชายฝั่ง  รวมทั้งมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์หรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ฯ   มอบหมายเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงทางการเงินกับประชาคม
ยุโรปในนามราชอาณาจักรไทย  ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ   โดยให้รับความเห็นและความเห็นเพิ่ม 
เติมของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  (ที่เห็นควรพิจารณาดำเนินโครงการ ฯ ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลในบริเวณอื่นที่กำลัง  
ประสบปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม  เนื่องจากพื้นที่ที่กระทรวงเกษตร  ฯ  เสนอนั้น  ได้ 
เคยมีโครงการช่วยเหลือระหว่างประเทศหลายโครงการแล้ว    รวมทั้งยังขาดข้อมูลที่จำเป็นต่อการพิจารณาแก้ไข 
ปัญหาดังกล่าว  และควรให้ความสำคัญกับการถ่ายทอดเทคโนโลยี ความรู้ และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญต่าง 
ประเทศสู่บุคลากรของไทยเพื่อให้การดำเนินโครงการ ฯ และการขยายผลโครงการในระยะต่อไปสามารถดำเนิน 
การได้โดยบุคลากรไทยอย่างมีประสิทธิภาพ   และเพิ่มผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่เข้าร่วมเป็น  
กรรมการในคณะกรรมการองค์กรจัดการทรัพยากรน้ำชายฝั่งของชุมชน)  ไปดำเนินการต่อไปด้วย    สำหรับงบ   
ประมาณสมทบของรัฐบาลไทย  เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2545  ไม่ได้จัดสรรงบ
ประมาณสำหรับโครงการดังกล่าวไว้  จึงให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเจียดจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ 
ประมาณ พ.ศ. 2545 ของส่วนราชการนั้น ๆ ส่วนงบประมาณที่เหลือสำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 - 2549   
ให้เสนอขอตั้งงบประมาณเป็นปี ๆ  ไป   โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรให้ตามความจำเป็นและเหมาะ
สม

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานผลการอนุมัติเงินประจำงวด และการเบิก  
จ่ายงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยการอนุมัติเงินประจำงวดจนถึงวันที่  30  กันยายน  2544  
สำหรับปีงบประมาณ 2544  มีจำนวนทั้งสิ้น 908,597.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 99.8 ของวงเงินงบประมาณ  
(910,000 ล้านบาท) ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณปีงบประมาณ  2544  ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2544  จำนวน 
714,807.5 ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ  78.6  ของวงเงินงบประมาณดังกล่าว  และจากรายงานการเบิกจ่ายจริง
เบื้องต้น  โดยกรมบัญชีกลางปรากฏว่าจนถึงวันที่ 15 กันยายน 2544  มีการเบิกจ่ายจำนวน 736,317.6 ล้าน
บาท คิดเป็นร้อยละ 80.9 ของวงเงินงบประมาณ สำหรับการอนุมัติเงินประจำงวดในส่วนของโครงการถ่ายโอน  
งาน/กิจกรรมบริการสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ถึงวันที่ 30 กันยายน 2544  มีจำนวนทั้งสิ้น  
32,454.0 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 100.4 ของวงเงินงบประมาณ (32,339.6  ล้านบาท) ส่วนการเบิกจ่ายงบ 
ประมาณถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2544 มีจำนวน 17,888.0 ล้านบาท หรือร้อยละ  55.3  ของวงเงินงบประมาณ  
ดังกล่าว   รวมทั้งข้อมูลการเบิกจ่ายจริงเบื้องต้น โดยกรมบัญชีกลาง เมื่อวันที่  15  กันยายน  2544  มีจำนวน
18,956.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.6 ของวงเงินงบประมาณโครงการถ่ายโอน ฯ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการศึกษาเกี่ยวกับการสร้างถนนคอนกรีตในหมู่บ้านต่าง ๆ  ของกรมโยธา
ธิการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างงานในการช่วยเหลือคนว่างงานและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยให้มีการ 
ซื้อวัสดุก่อสร้างในจังหวัดและท้องถิ่นที่ก่อสร้าง ทำให้เงินสะพัดในจังหวัดและท้องถิ่นนั้นๆ เกิดการจ้างแรงงาน และ  
ประชาชนได้รับถนนซึ่งเป็นถาวรวัตถุ โดยมอบให้กระทรวงมหาดไทย  (กรมโยธาธิการ)  และสำนักงานคณะกรรม 
การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ร่วมกันสำรวจถนนในหมู่บ้านทุกจังหวัด เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ต่อ 
ไป ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแผนคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนัก 
งานอัยการสูงสุด  (พ.ศ. 2545 - 2549)  ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ   โดยให้รับความเห็นของกระทรวง 
มหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ  (ควรจะมีการ 
ให้ความรู้ด้านกฎหมายแก่ประชาชนเพิ่มเติมอีก 3 ฉบับ  คือ  พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง  พระ
ราชบัญญัติความรับผิดชอบทางละเมิดของเจ้าหน้าที่   และพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ    ปรับปรุง 
ระบบบริหารงานและกฎหมายต่าง ๆ  โดยเน้นการลดปริมาณคดีที่มีอัตราโทษไม่เกิน  5  ปี   และเป็นความผิดที่
ผู้เสียหายยินยอม   รวมทั้งนำแนวทางการชะลอการฟ้อง  และการต่อรองรับคำสารภาพมาใช้ในกระบวนการยุติ 
ธรรมภายใต้การสนับสนุน และมีส่วนร่วมของประชาชน  องค์กรท้องถิ่น  องค์กรภาคเอกชนและองค์กรเครือข่าย
ต่าง ๆ  รวมทั้งให้ความสำคัญในการบูรณาการระหว่างแผนต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิ 
ภาพภายใต้ทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด)  ไปพิจารณาดำเนินการด้วย สำหรับงบประมาณให้ขอตั้งงบประมาณราย 
จ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมในแต่ละปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณรายงานผลการอนุมัติเงินประจำงวด และการเบิกจ่าย  
งบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ  ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงวันที่ 20 กันยายน 2544  โดยการอนุมัติเงิน
ประจำงวดจนถึงวันที่ 20 กันยายน 2544 สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 มีจำนวนทั้งสิ้น 902,333.9 ล้านบาท 
คิดเป็นร้อยละ99.2  ของวงเงินงบประมาณ  (910,000 ล้านบาท)  ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณของส่วนราชการและ
รัฐวิสาหกิจถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2544 มีจำนวนทั้งสิ้น 659,650.8 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 72.5 ของวงเงินงบ
ประมาณ  และจากรายงานการเบิกจ่ายจริงเบื้องต้น โดยกรมบัญชีกลางปรากฏว่า  จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2544  
มีการเบิกจ่ายจำนวน  714,807.5  ล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ  78.6  ของวงเงินงบประมาณ  สำหรับการอนุมัติเงิน
ประจำงวดในส่วนของโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมบริการสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถึงวันที่  20  
กันยายน 2544 มีจำนวนทั้งสิ้น 32,354.9 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ  100.0  ของวงเงินงบประมาณ  
(32,339.6 ล้านบาท) ส่วนผลการเบิกจ่ายงบประมาณถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2544 มีจำนวน 16,515.8 ล้านบาท  
หรือร้อยละ 51.1 ของวงเงินงบประมาณ และข้อมูลการเบิกจ่ายจริงเบื้องต้น  โดยกรมบัญชีกลาง  เมื่อวันที่ 31 
สิงหาคม 2544  มีจำนวน17,888.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 55.3 ของวงเงินงบประมาณโครงการถ่ายโอน ฯ
ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจำปีงบ
ประมาณ พ.ศ. 2544 ราย 2 สัปดาห์ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่ 15 กันยายน 2544  โดยการเบิกจ่าย 
ในภาพรวม ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายจากคลังแล้ว  จำนวน 736,318 ล้านบาท  หรือร้อยละ   
80.91 ของวงเงินงบประมาณ 910,000 ล้านบาท   เปรียบเทียบกับอัตราการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในช่วง 
ระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อนจะต่ำกว่าร้อยละ 0.14  ส่วนผลของการเบิกจ่ายงบลงทุนจำแนกตาม 
กระทรวง   มีการเบิกจ่ายทั้งสิ้น  129,283   ล้านบาท    หรือร้อยละ  58.62  ของบประมาณรายจ่ายลงทุน  
220,529  ล้านบาท   โดยกระทรวงที่มีอัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนต่ำสุด  3  อันดับแรก  ได้แก่  สำนักนายก  
รัฐมนตรี   กระทรวงยุติธรรม   และกระทรวงพาณิชย์    และผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของหน่วยงานที่ได้รับจัด
สรรงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท  จำนวน 32 แห่ง  มีการเบิกจ่ายแล้วจำนวน 113,866 ล้านบาท  จากงบ  
ลงทุน 188,463 ล้านบาท หน่วยงานที่เบิกจ่ายงบลงทุนต่ำสุด 3 อันดับแรก  ได้แก่  กรุงเทพมหานคร  กอง  
ทัพบก และสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย สำหรับผลการเบิกจ่ายงบประมาณของโครงการถ่ายโอนงาน 
กิจกรรมสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ณ วันที่ 15 กันยายน 2544 มีการเบิกจ่ายเงินในส่วน   
ของรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนจากคลังแล้ว 18,956  ล้านบาท   คิดเป็นร้อยละ 97.21 ของวงเงินงบ
ประมาณ 32,374 ล้านบาท โดยหน่วยงานที่มีอัตราการเบิกจ่ายต่ำสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กรมพัฒนาที่ดิน
กรมทางหลวง และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้มหาวิทยาลัยมหิดลดำเนินการจัดตั้งวิทยาเขตสารสนเทศจังหวัดนครสวรรค์  
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ดำเนินการจัดตั้งวิทยาเขตสารสนเทศจังหวัดกระบี่  และมหาวิทยาลัยบูรพาดำเนินการ   
จัดตั้งวิทยาเขตสารสนเทศจังหวัดสระแก้ว  ต่อไปได้   โดยให้มหาวิทยาลัยมหิดล  วิทยาเขตสารสนเทศจังหวัดนคร    
สวรรค์ ใช้งบประมาณ จำนวน 30,000,000 บาท  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  วิทยาเขตสารสนเทศจังหวัดกระบี่   
ใช้งบประมาณ  จำนวน  4,236,000  บาท    และมหาวิทยาลัยบูรพา  วิทยาเขตสารสนเทศจังหวัดสระแก้ว  ใช้งบ  
ประมาณ  จำนวน 4,236,000 บาท  ของปีงบประมาณ  2543   ที่ทบวงมหาวิทยาลัยจัดสรรให้แล้ว  ไปใช้ในการ  
ดำเนินงานของวิทยาเขต   กับให้กรมบัญชีกลางอนุมัติให้กันเงินงบประมาณดังกล่าวที่ได้รับจัดสรรแล้วจนถึงเดือน  
มีนาคม 2545  และให้ดำเนินการต่อไปได้  ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัยเสนอ   ทั้งนี้   คณะรัฐมนตรีเห็นว่า  ปัจจุบัน   
มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาต่าง ๆ   มักขยายวิทยาเขตการศึกษาไปยังส่วนภูมิภาคในจังหวัดต่าง  ๆ  มาก   
ขึ้น จะเป็นปัญหาในเรื่องค่าใช้จ่ายในระยะยาว   ซึ่งเป็นการลงทุนโดยไม่จำเป็น  นอกจากนี้  อาจทำให้การศึกษา   
ไม่มีคุณภาพ     ตลอดจนการบริหารขาดประสิทธิภาพควรพิจารณาเรื่องนี้ให้รอบคอบและมองในภาพรวม    โดย
การขยายโอกาสอุดมศึกษาไปสู่ภูมิภาค  ควรเน้นการสร้างโอกาสให้กับผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษามากกว่าการที่
ชุมชนและท้องถิ่นในจังหวัดให้การสนับสนุน จึงมอบให้ทบวงมหาวิทยาลัยรับไปพิจารณาจัดทำแผนแม่บทในเรื่อง 
นี้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป