รับทราบรายงานพร้อมทั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการพิจารณาศึกษาเรื่อง การพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน
และให้เกิดศักยภาพในการแข่งขันในยุคของการค้าเสรี ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รายงาน ดังนี้
          1. โครงการปีท่องเที่ยวไทย  2541 - 2542  (Amazing Thailand 1998 - 1999)  ควรกำหนดกิจกรรม 
ที่ชัดเจนไว้ล่วงหน้าเพื่อนำไปเผยแพร่ให้แก่นักท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวจะได้วางแผนเดินทางมาประเทศไทยได้
ล่วงหน้า การจัดกิจกรรมควรจะกระจายไปสู่ภูมิภาคด้วย  ไม่ควรจะจัดอยู่แต่เฉพาะในกรุงเทพ ฯ 
          2. การแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของรัฐบาล ควรดำเนินการควบคู่กันไปทั้งการแก้ไขในระยะสั้น 
และระยะยาว ได้แก่
              2.1 ออกพระราชบัญญัติแหล่งท่องเที่ยว เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหารการบุกรุกทำลายแหล่งท่องเที่ยว
โดยมีรัฐมนตรีเป็นผู้มีอำนาจและรับผิดชอบอย่างชัดเจน 
              2.2 การแก้ไขพระราชบัญญัติที่อยู่เดิม     และออกพระราชบัญญัติการบริหารองค์กรอุตสาหกรรม  
ท่องเที่ยวใหม่โดยการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรที่มีอยู่ปัจจุบัน   และออกกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจที่ชัดเจนให้ 
กับองค์กรของรัฐที่ทำหน้าที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและมี 
อำนาจชัดเจนมากขึ้น 
              2.3 สนับสนุนให้องค์กรภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรวมตัวกันอย่างเป็นทางการ  และมี
กฏหมายรองรับที่ชัดเจน
              2.4 ทบทวนพิจารณาถึงข้อจำกัดในการปฏิบัติหน้าที่และโครงสร้างของคณะกรรมการส่งเสริมและ
พัฒนาการท่องเที่ยวให้เหมาะสม
              2.5 ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ กฎหมาย กฎ ระเบียบ งบประมาณ ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้อง 
กับระเบียบปฏิบัติของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้มากขึ้น 
          มอบให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)  รับไปพิจารณาดำเนิน 
การ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป 
  

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักเกณฑ์การปรับเปลี่ยนโยกย้าย เพิ่มและยุบเลิกสำนักงาน
พาณิชย์และศูนย์พาณิชยกรรมในต่างประเทศ ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ  โดยให้กระทรวงพาณิชย์
รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ไปดำเนินการเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ในส่วนที่เกี่ยวกับการพิจารณาเปิด
สำนักงานพาณิชย์และศูนย์พาณิชยกรรมในต่างประเทศ  ซึ่งยังขาดนิยามปฏิบัติการขององค์ประกอบ
ต่างๆ ที่ใช้ในการพิจารณา เช่น มูลค่าทางการค้า อัตราการขยายตัวทางการค้า  สินค้าที่ไทยมีศักยภาพ
และลู่ทางการส่งออกไปประเทศนั้น ๆ เป็นต้น และยังไม่มีองค์ประกอบที่แสดงถึงผลตอบแทนที่จะ
ได้รับอย่างเป็นรูปธรรมหรือมีมูลค่าเป็นจำนวนเงินที่ชัดเจนว่า เมื่อได้มีการเปิดสำนักงานพาณิชย์  
หรือศูนย์พาณิชยกรรมในต่างประเทศแห่งใหม่แล้วจะก่อให้เกิดผลลัพธ์และผลประโยชน์ต่อประเทศ
ชาติ  หรือมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจอย่างไร  นอกจากนั้นการพิจารณาเปิดหน่วยงานต่างประเทศ
แต่ละแห่งควรให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี  เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2540  เรื่อง  การปรับลดงบ
ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541  และมติ ก.พ.  เกี่ยวกับมาตรการปรับปรุงส่วน
ราชการในสภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง คือ
          1. ต้องไม่เป็นการเพิ่มอัตรากำลังและงบประมาณค่าใช้จ่าย
          2. ต้องเป็นการเพิ่มพูนประสิทธิภาพหรือเป็นการแก้ไขปัญหาความไม่มีประสิทธิภาพ 
          3. ส่วนราชการต้องพิจารณาทบทวนภารกิจและพิจารณาปรับลดภารกิจที่ไม่จำเป็นให้ 
ภาพเอกชนเป็นผู้ดำเนินการแทน รวมทั้งการพิจารณาเรื่องความซ้ำซ้อนของงาน
          4. ส่วนราชการต้องจัดทำรายละเอียดโครงการปรับปรุงส่วนราชการที่แสดงถึงผลสัมฤทธิ์ 
ของงานที่จะได้รับจากการปรับปรุงส่วนราชการอย่างเป็นรูปธรรม

          รับทราบ  การปรับปรุงและการยื่นตารางข้อผูกพันของไทยต่อองค์การการค้าโลก  และ
ผลการปิดรอบการประชุมเจรจาการค้าบริการด้านการเงิน ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ สรุป
ได้ดังนี้
          1. ได้ดำเนินการปรับปรุงตารางข้อผูกพันด้านการเงินในส่วนของธนาคารพาณิชย์ บริษัท
เงินทุน และบริษัทเครดิตฟอรซิเอร์  โดยผูกพันให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสามารถผ่อน
ผันให้ต่างชาติเข้าถือหุ้นในสถาบันการเงินได้เกินอัตราที่กำหนด ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องปรับ
ปรุงฐานะของสถาบันการเงินนั้น  โดยการผ่อนผันดังกล่าวจะมีระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี  และภาย
หลังจาก 10 ปี แล้ว ผู้ถือหุ้นต่างชาติจะได้รับประกันสิทธิการถือหุ้นในจำนวนที่ถืออยู่
          2. เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก  ได้ยื่นตารางข้อผูกพัน ฯ 
ฉบับที่ปรับปรุงต่อองค์การการค้าโลกแล้วเมื่อวันที่  10  ธันวาคม  2540  และได้มีการปิดรอบ
การประชุมเจรจาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2540

               ตามมติคณะรัฐมนตรี  (1 กรกฎาคม 2540)  อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยี 
พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พ.ศ. ....  (ยกเลิกพระราชบัญญัติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณ 
ทหารลาดกระบัง  สถาบันโทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี   และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  
พ.ศ.  2528  เฉพาะที่เกี่ยวกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง    โดยแยกออกมามีกฎ 
หมายของสถาบันนี้โดยเฉพาะ) ซึ่งต่อมาทบวงมหาวิทยาลัยได้เสนอขอปรับเปลี่ยนสถานภาพสถาบันเทคโนโล 
ยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นมหาวิทยาลัย  ใช้ชื่อว่า "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้า  
คุณทหารลาดกระบัง" เพื่อให้เหมาะสมกับการปรับปรุงแก้ไขขอบเขตภาระหน้าที่ตามการเจริญเติบโต และการ   
ขยายตัวของสถาบัน ฯ โดยไม่กระทบกระเทือนอัตรากำลังและงบประมาณ ประกอบกับเป็นการขอแก้ไขชื่อร่าง
พระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไปแล้ว 
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการการปรับเปลี่ยนสถานภาพสถาบันเทคโยโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณ   
ทหารลาดกระบังเป็นมหาวิทยาลัย ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัยเสนอ โดยให้ทบวงมหาวิทยาลัยรับข้อสังเกตของ 
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน

              ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ยืนยันมติของรัฐสภาเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พ.ศ. .... ได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา    ส่วนร่างพระราช 
บัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  วุฒิสภาไม่เห็นชอบด้วย  จึงถือว่าร่างพระราชบัญญัติ 
ดังกล่าวถูกยับยั้งไว้ตามมาตรา  175  (2)  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย       และต่อมาทบวง 
มหาวิทยาลัยได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาปรับปรุงกระทรวง  ทบวง  กรม พ.ศ. .... มาเพื่อคณะรัฐมนตรี 
พิจารณาแทนร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง  ทบวง  กรม  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  ที่ถูกยับยั้งไว้นั้น 
คณะรัฐมนตรีได้มีมติว่า 
               1. รับทราบมติของรัฐสภาที่เห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระ 
จอมเกล้าธนบุรี พ.ศ. ....   และรับทราบมติของวุฒิสภาที่ไม่เห็นชอบด้วยกับร่างพระราชบัญญัติปรับปรุง  
กระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... 
               2. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาปรับปรุงกระทรวง  ทบวง  กรม พ.ศ. .... ตามที่ทบวง 
มหาวิทยาลัยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน เพื่อดำเนิน  
การทูลเกล้า ฯ  ถวาย   พร้อมร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี  พ.ศ. .... 
กับให้ประธานกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรรับไปประสานงานกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ดำเนินการต่อไปได้ 

อนุมัติให้ถอนเรื่อง การปรับปรุงมาตรฐานของสิทธิประโยชน์ของพนักงานรัฐวิสาหกิจคืนไปได้
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เสนอ

          เห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่
 25 กุมภาพันธ์ 2540 และ 4 มีนาคม 2540 จำนวน 7 คณะ ดังนี้
          1. คณะกรรมการประสานงานการจัดและบริหารความถี่วิทยุแห่งชาติ 
          2. คณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนค่าเครื่องจักรกลของกรมทางหลวง
          3. คณะกรรมการจัดงานวันสื่อสารแห่งชาติ
          4. คณะกรรมการกำกับดูแลและส่งเสริมการบริหารท่าเรือสงขลาและภูเก็ต
          5. คณะกรรมการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบแห่งชาติ
          6. คณะกรรมการพัฒนากิจการอวกาศ          
          7. คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
          ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ และให้แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการต่างๆ 
รวม 4 คณะ ตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายสนธยา คุณปลื้ม) เสนอ ดังนี้
          1. คณะกรรมการประสานงานการจัดและบริหารความถี่วิทยุแห่งชาติ
          2. คณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนค่าเครื่องจักรกลของกรมทางหลวง
          3. คณะกรรมการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบแห่งชาติ 
          4. คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ

         คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการตามมาตรการปรับภาคราชการในสภาวะวิกฤตทาง
เศรษฐกิจ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ  ซึ่งแผนปฏิบัติการดังกล่าวประกอบด้วย 6 มาตรการหลัก คือ
         1. มาตรการปรับระบบงานภาครัฐ
         2. มาตรการปรับปรุงคุณภาพข้าราชการ
         3. มาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
         4. มาตรการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
         5. มาตรการลดบทบาทการดำเนินกิจการของรัฐ
         6. มาตรการอื่น ๆ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
โดยให้ส่วนราชการรับไปดำเนินการต่อไป โดยให้สำนักงาน ก.พ. ร่วมกับกระทรวงการคลังและ
สำนักงบประมาณ ติดตามผลการดำเนินการและรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย 
ทั้งนี้  ให้รับข้อสังเกตของเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณา
ดำเนินการด้วย 

          คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้   กระทรวงการต่างประเทศ    โดยเอกอัครราชทูต  ณ  กรุงบรัสเซลล์  
เป็นผู้แทนฝ่ายไทยลงนามในความตกลง ว่าด้วยโครงการปลูกป่า ณ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วม   โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ    พระบาทสมเด็จ-
พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ 50 ของกรมป่าไม้  เนื้อที่ 5,000 ไร่ ตำบลริมโขง
อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย และประเทศลักเซมเบิร์ก ยินดีเข้าร่วมโครงการ    โดยบริจาคเงิน 
จำนวน 10 ล้านฟรังก์ลักเซมเบิร์ก ให้แก่รัฐบาลไทย เพื่อใช้ดำเนินการตามโครงการดังกล่าว  โดย 
ขอให้มีการลงนามในความตกลงดังกล่าว ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ
1.  ความตกลง ฯ นี้ ลักเซมเบิร์ก มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงการความร่วมมือกับ
ฝ่ายไทย โดยบริจาคเงิน แบบให้เปล่า
2.  รายละเอียดของความตกลง ฯ ประกอบด้วย ความรับผิดชอบของเรื่องระยะเวลา
ดำเนินโครงการ ขนาดพื้นที่และวงเงินบริจาคในการปลูกป่า  ตามที่ระบุในความตกลงนั้นเหมาะสม
ความรับผิดชอบต่อโครงการสิ้นสุด เมื่อโครงการสำเร็จ หรือวันที่กองทุนฯ ได้รับจัดสรรตามความ
ตกลงหมดลงอย่างใดอย่างหนึ่ง
              3.  การปรับปรุงแก้ไขความตกลง ต้องได้รับความเห็นชอบผ่านทางหนังสือแลกเปลี่ยน
ระหว่างประเทศไทยและประเทศลักเซมเบิร์กไม่มีบทลงโทษ  หากมีกรณีไม่สามารถปฏิบัติตามข้อ
ตกลงเกิดขึ้น

          อนุมัติการปรับปรุงคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ของกระทรวงอุตสาหกรรมที่แต่งตั้งโดยมติ
คณะรัฐมนตรี (11 สิงหาคม 2540 และ 16 กันยายน 2540) จำนวน 8 คณะ ประกอบด้วย
          1. คณะกรรมการในคณะมนตรีอาเซียนว่าด้วยปิโตรเลียม
          2. คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์
          3. คณะกรรมการการรับรองระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม
          4. คณะกรรมการการรับรองระบบคุณภาพ
          5. คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ
          6. คณะกรรมการสถาบันอาหาร
          7. คณะกรรมการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ
          8. คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ
          ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอ โดยให้แก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้
          1. คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) 
เป็นประธานกรรมการ 
          2. คณะกรรมการสถาบันอาหาร  ให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม  เป็น  ประธานกรรมการ 
แทน นายสมพล เกียรติไพบูลย์

         มอบให้สำนักงาน ก.พ. รับร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานคณะกรรมการ 
ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด  สำนักนายกรัฐมนตรี  พ.ศ. ....   ไปพิจารณาร่วมกับสำนักงาน  
ป.ป.ส. โดยให้พิจารณาตามมาตรการปรับปรุงส่วนราชการในสภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจที่สำนัก 
งาน ก.พ. เสนอ และสำนักงาน ป.ป.ส. จะต้องจัดทำ
         1. แผนเพิ่มประสิทธิภาพหรือแก้ไขปัญหาความไม่มีประสิทธิภาพ
         2. แผนลดค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ 
         3. แผนทบทวนบทบาทและภารกิจเพื่อปรับลดภารกิจที่ไม่จำเป็นต้องดำเนินการเองโดย 
ให้เอกชนดำเนินการแทน รวมทั้งการพิจารณาเรื่องความซ้ำซ้อนของงานให้ชัดเจน 
         ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นการเพิ่มอัตรากำลังและงบประมาณค่าใช้จ่าย  สำหรับการพิจารณาจัดตั้ง 
หน่วยงานใหม่หรือยกฐานะของหน่วยงานเดิม นั้น ให้พิจารณาจัดตั้งหน่วยงานใหม่หรือยกฐานะ  
หน่วยงานเดิมเฉพาะที่มีความจำเป็นก่อน   เช่น  การจัดตั้งสำนักงาน ป.ป.ส.  ในภูมิภาค  ควรมี   
ลักษณะเป็นการปฏิบัติงานในภูมิภาคอย่างแท้จริงเพื่อประโยชน์ในการกระจายอำนาจ  และกระ 
จายการบริการประชาชน เป็นต้น เมื่อสำนักงาน ก.พ. และ สำนักงาน ป.ป.ส.  พิจารณาร่วมกัน 
แล้วให้ส่งคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการพิจารณา ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
หนึ่ง

         ตามที่รัฐมนตรีมีมติ 6 มิถุนายน 2538 รับทราบการแก้ไขตารางข้อผูกพัน
การค้าบริการด้านการเงิน เพื่อเสนอต่อองคืการการค้าโลก และอนุมัติให้กระทรวง-
การคลัง ดำเนินการยื่นตารางข้อเสนอผูกพันที่แก้ไขปรับปรุงต่อองค์การค้าโลก และ
มติ 16 เมษายน 2539  อนุมัติให้เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การค้า
-โลก  เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยในการลงนามในพิธีสารฉบับที่สอง และ  ได้ลงนามใน
ความตกลง เมื่อ 28 มิถุนายน 2538  ความตกลงดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในเดือนธันวาคม
2540  องค์การค้าโลกจึงจัดให้มีการเจรจาการค้าบริการด้านการเงินรอบใหม่ โดย
มีเป้าหมายจะปิดรอบในวันที่ 12 ธันวาคม 2540  ประเทศไทยจึงได้ทำการปรับปรุง
ตารางข้อผูกพันด้านการเงิน ฉบับปี 2538  โดยมีสาระสำคัญ  คือ 
1.  ถอน List of Ar6icle II  (MFN) Exemptuon) บนเงื่อนไขที่ประเทศ
สมาชิกอื่นให้การปฏิบัติเช่นเดียวกัน
2.  การผูกพัน สาขาเต็มรูปแบบของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศได้เปิด
ดำเนินการอยู่ก่อนเดือนกรกฎาคม 2538 จำนวน 14 ราย ยกฐานะกิจการวิเทศธนกิจ 7 ราย 
3.  การผูกพันกิจการวิเทศสหกิจ ของธนาคารต่างประเทศทั้งในกรุงเทพฯ
และส่วนภูมิภาค รวม 68 ราย
4.  การอนุญาตให้สาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศที่มีอยู่เดิม มีสาขา
เพิ่มเติมได้ไม่เกิน 2 สาขา
5.  การอนุญาตให้จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไทยใหม่ ไม่เกิน 5 แห่ง แต่ไม่มี
ผู้สนใจรายใด ปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ จึงสมควรตัดข้อความนี้ออกจากตาราง ที่ยื่นไว้ 
ปี 2538
6.  การปรับปรุงตารางข้อผูกพันในส่วนของบริษัทหลักทรัพย์ จักการกองทุนรวม
เนื่องจากมีการออกไบอนุญาตใหม่ไปแล้ว
ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตารางข้อเสนอผูกพันด้านการเงินฉบับ
ปรังปรุง  และมอบหมายให้เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การค้าโลก
และมอบอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปรับปรุงตารางข้อผูกพันด้านการเงิน 
ในกรอบของการฟื้นฟูระบบการเงินของประเทศ แล้วรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ 

          คณะรัฐมนตรีอนุมัติการปรับปรุงคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 และ
คณะกรรมการบริหารการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 โดยแต่งตั้งประธานกรรมการฝ่าย 9 ฝ่าย   
คณะกรรมการบริหารการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13  ภาคผนวก  กำหนดองค์ประกอบคณะ
กรรมการฝ่าย  คณะกรรมการสาขาและโครงสร้างองค์กรบริหารกีฬาเอเชี่ยนเกมส์  ครั้งที่ 13  ตาม
ที่รองนายกรัฐมนตรี  (นายพิชัย  รัตตกุล)  ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 
ครั้งที่ 13 เสนอ

          เห็นชอบบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศ ระหว่างคณะผู้แทน
รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและเยอรมัน   และมอบให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาดำเนิน 
การแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันความเห็นชอบในการปรับปรุงเส้นทางบิน         และการ
อนุญาตให้สายการบินของแต่ละฝ่ายสามารถใช้สิทธิทำการบินเชื่อมโยงสองจุดในเที่ยวบินเดียวกัน 
พร้อมสิทธิรับขนการจราจรและพักค้างดังกล่าวต่อไป ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ

          เห็นชอบแผนแม่บทการพัฒนากิจการโทรคมนาคม ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ โดยให้  
กระทรวงคมนาคมปรับปรุงแก้ไข  และดำเนินการตามมติของคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐ 
วิสาหกิจ ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ  สำนักงานคณะกรรมการ  
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ  
สิ่งแวดล้อมไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย กับอนุมัติในหลักการให้องค์การโทรศัพท์แห่ง 
ประเทศไทย (ทศท.) การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) และคณะกรรมการการสื่อสารแห่งประ  
เทศไทย (กสช.)    สามารถบริหารงานในรูปแบบบริษัทเอกชนทั่วไป  และมีระเบียบข้อบังคับที่ใช้ 
ปฏิบัติงานต่าง ๆ เป็นของตนเอง ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง    สำหรับการโอนผู้ปฏิบัติ 
งานของ ทศท.  และ กสท.  ไปสังกัดบริษัทที่จัดตั้งใหม่      ให้ผู้โอนไปได้รับสิทธิประโยชน์ด้านค่า
ตอบแทนและสวัสดิการไม่น้อยกว่าที่ได้รับอยู่เดิม  และให้นับอายุงานต่อเนื่องตามที่กำหนดในกฎ
หมายยกเลิกพระราชบัญญัติ ทศท.  และพระราชบัญญัติ กสท.    ตามที่กระทรวงคมนาคม  เสนอ
ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด    และให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการปรับปรุง  
แก้ไขหรือยกร่างกฎหมายต่าง ๆ  ที่จำเป็นและเกี่ยวข้อง      เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน  
ส่วนการนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากการแปรผลประโยชน์ส่วนแบ่งรายได้ให้แก่ส่วนงานของรัฐมาคิด   
เป็นมูลค่าเงินและนำไปจัดตั้งกองทุนทดแทนกรณีว่างงานตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.   
2533 ให้กระทรวงคมนาคมประสานกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง   แล้วดำเนิน 
การต่อไปทั้งนี้ ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบองค์ประกอบและสัดส่วนผู้ถือหุ้นของ บริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด 
ตามโครงสร้างใหม่ที่คณะกรรมการดำเนินการปรับปรุงบริษัท ฯ ได้พิจารณาเห็นชอบแล้ว  สำหรับ
รายชื่อเอกชนที่จะเข้ามาร่วมลงทุนเพิ่มเติม ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาในแต่ละกลุ่มตามความ
เหมาะสมต่อไป กับอนุมัติให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการแปรรูปบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด   
โดยการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาหุ้นละ 15 บาท     ภายหลังการปันผลแก่ผู้ถือหุ้นเดิมใน
อัตราส่วนร้อยละ 90  ของกำไรสุทธิปี 2540 และกำไรสะสมปี 2539  หลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย
แล้ว  หรือราคาต่อรองสูงกว่ามูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ  และ
ให้ดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของกระทรวงการคลังที่เห็นควรพิจารณาความเป็นไปได้ใน
การออกหุ้นกู้แปลงสภาพซึ่งอาจทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

          รับทราบรายละเอียดการปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541  
จำนวน 59,000 ล้านบาท   และผลการพิจารณาปรับลดงบประมาณ  จำนวน 100,000 ล้าน  
บาท ที่ได้ดำเนินการมาแล้ว   และเห็นชอบผลการพิจารณาการปรับปรุงรายละเอียดการปรับ 
ลดงบประมาณ จำนวน 100,000 ล้านบาท  ของรัฐมนตรีเจ้าสังกัดของแต่ละกระทรวง  ทบวง
ซึ่งก่อให้เกิดรายการผูกพันงบประมาณข้ามปี ตามที่สำนักงบประมาณ เสนอ

          เห็นชอบแผนแม่บทการพัฒนากิจการโทรคมนาคม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และอนุมัติ
ในหลักการให้องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) และ
คณะกรรมการการสื่อสารแห่งชาติ (กสช.) สามารถบริหารงานในรูปแบบบริษัทเอกชนทั่วไป และมี
ระเบียบข้อบังคับที่ใช้ปฏิบัติงานต่าง ๆ เป็นของตนเอง และให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการปรับปรุง
แก้ไขหรือยกร่างกฎหมายต่าง ๆ ที่จำเป็นและเกี่ยวข้อง เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน

          เห็นชอบในหลักการโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก ครั้งที่ 7 ของการประปา  
นครหลวง   ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  เสนอ  และ 
เนื่องจากโครงการนี้ได้เสนอให้คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พิจารณา
ให้ความเห็นชอบเป็นระยะเวลานาน  ก่อนมีการปรับปรุงระบบการแลกเปลี่ยนเงินตรา  ดังนั้น 
ข้อมูลต่าง ๆ  ควรที่จะต้องมีการปรับปรุง  เช่น  เงินลงทุน  อัตราเงินเฟ้อ  เพื่อให้เหมาะสมกับ
สภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน จึงให้กระทรวงมหาดไทย (การประปานครหลวง) รับไปพิจารณาราย
ละเอียดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

          อนุมัติเรื่อง การศึกษาเพื่อปรับปรุงการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ตามความเห็น 
ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดตั้ง ยุบ และเปลี่ยนแปลงส่วน
ราชการ น่าจะขัดกับความในมาตรา 230 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในส่วนที่เกี่ยว 
กับการจัดตั้งส่วนราชการระดับกระทรวง ทบวง กรม  โดยรัฐธรรมนูญ ฯ ได้กำหนดให้การจัดตั้ง  
กระทรวง  ทบวง  กรม  ขึ้นใหม่ให้ทำเป็นพระราชบัญญัติ   ในกรณีที่มีการกำหนดตำแหน่งหรือ   
อัตราของข้าราชการหรือลูกจ้างเพิ่มขึ้น (มาตรา 230 วรรคแรก)    แต่ถ้าเป็นการรวมหรือการ  
โอนกระทรวง ทบวง กรม ที่มีผลเป็นการจัดตั้งเป็นกระทรวง ทบวง  หรือกรมขึ้นใหม่  หรือการ 
รวมหรือการโอนกระทรวง ทบวง กรม ที่มิได้มีการจัดตั้งเป็นกระทรวง  ทบวง  กรมขึ้นใหม่  โดย 
ไม่มีการกำหนดตำแหน่งหรืออัตราของข้าราชการหรือลูกจ้างเพิ่มขึ้น      หรือการยุบกระทรวง  
ทบวง  กรม  ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา (มาตรา 230 วรรคสอง) ซึ่งต่างกับข้อเสนอแนะที่ให้ 
การเปลี่ยนแปลงส่วนราชการระดับกระทรวงให้ฝ่ายนิติบัญญัติเป็นผู้พิจารณา    และการจัดตั้ง  
ยุบ  และเปลี่ยนแปลงส่วนราชการระดับกรมให้เป็นอำนาจหน้าที่ของฝ่ายบริหาร   และให้ตรา 
เป็นพระราชกฤษฎีกา    กับให้สำนักงาน ก.พ.  นำผลการศึกษาพร้อมทั้งข้อเสนอแนะดังกล่าว  
เสนอคณะรัฐมนตรีทราบ  โดยมอบหมายให้สำนักงาน ก.พ. รับไปพิจารณาดำเนินการโดยรับ 
ข้อสังเกตเกี่ยวกับการปรับปรุงภาครัฐไทย ภายใต้กระแสการปฏิรูปการเมือง และกระแสโลกา
ภิวัฒน์  ไปพิจารณาประกอบด้วย     และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการ 
แล้วแจ้งผลให้สำนักงาน ก.พ. ทราบ   เพื่อที่สำนักงาน ก.พ. จะได้นำเสนอคณะรัฐมนตรี
พิจารณาในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งต่อไป