รับทราบสรุปผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการการสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ปัญหา
อุปสรรคและแนวทางแก้ไขของการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณ  
ภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535   เกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพ  
สิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535, การออกกฎหมายลำดับรอง  ระเบียบข้อบังคับและกำหนดนโยบาย,  การแก้ไขชื่อ  
กฎหมาย  เป็น  "พระราชบัญญัติการอนุรักษ์ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ....",  การ 
เปลี่ยนแปลงชื่อกระทรวง เป็น  "กระทรวงสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการพิจารณาการจัด 
ตั้งกระทรวงสิ่งแวดล้อม และมอบให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณา ตามที่นายกรัฐมนตรี เสนอ

          1. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  
(แก้ไขเพิ่มเติมให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่น และพนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลได้รับสิทธิประโยชน์ 
ในบำเหน็จบำนาญให้สอดคล้องกับข้าราชการพลเรือน)     และร่างพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญ    
ข้าราชการส่วนท้องถิ่น  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  (แก้ไขการคิดเวลาสำหรับคำนวณบำเหน็จบำนาญ ฯ)   
รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณา 
แล้ว โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณารวมเป็นพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน 
          2. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดการตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ฯ เกี่ยว 
กับการปรับปรุงสิทธิการรับบำเหน็จบำนาญให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพล   
เรือน พ.ศ. 2535    ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอเมื่อวันที่ 21
ตุลาคม 2540        โดยให้รับความเห็นของกระทรวงยุติธรรม   และสำนักงานอัยการสูงสุด   ที่เห็น 
ควรให้ข้าราชการฝ่ายตุลาการ และข้าราชการฝ่ายอัยการที่ถูกลงโทษปลดออกตามกฎหมายว่าด้วย
ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ      และกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการไม่มีสิทธิรับ 
บำเหน็จบำนาญ ไปพิจารณาปรับปรุงมิให้มีผลกระทบถึงกฎหมายทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว     แล้วเสนอ 
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติตามข้อ 1

          เห็นชอบให้คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายปกครองท้องถิ่นและการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น  
พิจารณายกร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ....         และนำเสนอความเห็นโดย
ยึดถือกรอบและแนวทางของแผนแม่บทการปฏิรูประบบราชการ (พ.ศ. 2540 - 2544) ตามที่กระทรวง
มหาดไทย เสนอ  โดยให้นำความเห็นเกี่ยวกับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติซึ่งมีผลกระทบโดยตรง  
ต่อการกำหนดอำนาจหน้าที่และการจัดโครงสร้างของส่วนราชการ  ตลอดจนผลกระทบต่อการจัดระบบ 
บริหารงานบุคคลของข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่น    ควรที่จะมีการปรึกษาหารือและรับฟังความ 
เห็นจากหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องก่อน    และข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดตั้งองค์การกลางบริหารงาน   
บุคคล   การกำหนดระดับตำแหน่ง   องค์ประกอบของคณะกรรมการ    และการกำหนดให้ข้าราชการที่  
ปฏิบัติงานในสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการส่วนท้องถิ่น (สำนักงาน ก. ทถ.)    ตามความเห็นของ 
สำนักงาน ก.พ. ไปประกอบพิจารณาด้วย แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน

          รับทราบตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมว่าด้วยกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน   พ.ศ. 
2539   โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน   ซึ่งกระทรวงการคลังได้พิจารณา
แล้ว  และให้ดำเนินการตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
          1. หลักการการจ่ายเงินเป็นทุนหรือทุนหมุนเวียนเพื่อการใด ๆ  ให้กระทำได้แต่โดยกฎหมายตามนัย   
มาตรา 12  แห่งพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2491  และที่แก้ไขเพิ่มเติม     หากมีการแก้ไขปรับปรุงหรือ 
ขยายวัตถุประสงค์ก็จะต้องกระทำโดยกฎหมายเช่นกัน
          2. การเพิ่มวัตถุประสงค์การใช้จ่ายเงินกองทุนช่วยเหลือลูกจ้างที่ประสบความเดือดร้อนจากการไม่ได้ 
รับค่าจ้างหรือค่าชดเชยจะต้องดำเนินการโดยทางกฎหมายตามหลักการข้อ 1 คือ  ต้องเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ 
ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. ....
          3. เมื่อได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขหลักการและวัตถุประสงค์ของกองทุนหมุนเวียน ฯ   ทางกฎหมาย  
เรียบร้อยแล้ว  ให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพื่อแก้ไขในรายละเอียดของระเบียบการรับจ่ายเงิน 
ต่อไป

          เห็นชอบมาตรการกระจายอำนาจการให้บริการสาธารณะ (งาน/กิจกรรม/โครงการ)  ให้แก่องค์กร 
ปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ หลักเกณฑ์การจำแนกบริการสาธารณะที่ถ่ายโอนให้องค์กร ฯ, แนวทางการถ่าย
โอนบริการสาธารณะ (งาน/กิจกรรม) จากส่วนราชการต่าง ๆ และหลักเกณฑ์ แนวทางการถ่ายโอนบริการ 
สาธารณะ (งาน/กิจกรรม) ให้องค์กร ตามมติคณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายปกครองท้องถิ่นและการกระ
จายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น และให้สำนักงบประมาณรับไปดำเนินการตามมติดังกล่าวต่อไป

          รับทราบรายงานและข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาแนวทางและมาตรการ 
ป้องกันปราบปรามการแพร่ระบาดของยาบ้า     ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รายงาน 
และมอบให้สำนักนายกรัฐมนตรี (การกีฬาแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบ 
ปรามยาเสพติด  สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ) กระทรวงกลาโหม 
กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย  กระทรวงยุติธรรม  กระทรวงแรงงาน 
และสวัสดิการสังคม   กระทรวงศึกษาธิการ   กระทรวงสาธารณสุข   และสำนักงานอัยการสูงสุด รับไป 
พิจารณาดำเนินการ     แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป  
โดยสาระสำคัญของรายงานเกี่ยวกับการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ         การปรับปรุงแก้ไข
กฎหมายและกระบวนการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ         การจัดตั้งองค์กรหรือหน่วยงานใน
กระบวนการยุติธรรม  การกำหนดแนวทางการพิจารณาลดโทษและการให้ประกันตัวผู้ต้องหาในคดียา
เสพติด    การส่งเสริมเกี่ยวกับโครงการลานกีฬาเพื่อการป้องกันยาเสพติดและการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ของเยาวชน การป้องกันการแพร่ระบาดของยาบ้าและการแก้ไขปัญหายาบ้าในกลุ่มประชากรเป้าหมาย     
การเผยแพร่ข่าวสารการป้องกันและแก้ไขปัญหายาบ้าของกลุ่มผู้ใช้แรงงาน  การขยายสถานบำบัดรักษา 
ให้สามารถดำเนินงานได้อย่างครบขั้นตอน  การสนับสนุนภาคเอกชนด้านบำบัดรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพ 
ผู้ติดยา      การสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้ที่เลิกยาได้สามารถรวมตัวกันในรูปของสมาคมหรือชมรมและการ
ควบคุมและการจับกุมการจำหน่ายสิ่งเสพติด  การลงโทษทางวินัยและทางอาญาแก่เจ้าหน้าที่ที่ทุจริตและ
ประพฤมิชอบเกี่ยวกับคดียาเสพติดและเพิ่มศักยภาพองค์กรในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด    การ
ส่งเสริมการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาความรู้  นโยบาย  แนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหา   ตลอดจน
พัฒนาเทคนิค  วิธีการ  และขั้นตอนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาที่เปลี่ยนแปลงไปตาม
สถานการณ์

          รับทราบรายงานการให้ความช่วยเหลือสภาพคล่องสถาบันการเงินที่ถูกสั่งระงับการดำเนินกิจการ  
จำนวน 56 แห่ง  ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2539  ถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2541  ตามที่กระทรวงการคลัง  
รายงาน   และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการให้ความ  
ช่วยเหลือสภาพคล่องสถาบันการเงินที่ถูกสั่งระงับการดำเนินกิจการ     รวมทั้งเรื่องการสั่งเพิ่มทุนสถาบัน 
การเงิน จำนวน 10 แห่ง การซื้อหุ้น BBC และการเข้าไปบริหาร BBC ของ IFCT และกรณีอื่น ๆ ที่เกี่ยวโยง  
กัน ตามที่คณะรัฐมนตรีตั้งเป็นประเด็นข้อซักถาม ซึ่งการชี้แจงของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในแต่  
ละครั้ง     ทั้งที่เป็นการชี้แจงต่อคณะรัฐมนตรี  และกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรอาจไม่สอดคล้องกัน  
ทำให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิด        สมควรให้ ธปท. รับไปจัดทำเอกสารรายงานรายละเอียดเป็นลาย 
ลักษณ์อักษรเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาราย  
ละเอียดแล้วเสนอคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป    นอกจากนี้ในเรื่องเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างของ ธปท. 
รวมทั้งกลไกการบริหาร   และบุคลากร    มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับไปเร่งรัดดำเนินการ 
โดยด่วนต่อไป

          อนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ  
จำนวน 3 ราย ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอ  โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมี 
มติเป็นต้นไป ดังนี้   
          1. นายประสิทธิ์ ดำรงชัย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ   
              แทน  นายลิขิต เทอดสถีรศักดิ์    
          2. นายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม อธิบดีอัยการฝ่ายวิชาการ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ  
              แทน  นายรุ่ง แก้วแดง     
          3. พลตำรวจเอก สันต์ ศรุตานนท์ รองอธิบดีกรมตำรวจ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 
              แทน พลตำรวจเอก โกวิท ภักดีภูมิ

                คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) 
ออกตามความในพระราชบัญญัติเดินอากาศ พ.ศ.  2497 (ปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียม
การใช้สนามบินของผู้โดยสารออกจากสนามบินเพื่อเดินทางไปต่างประเทศ) โดยให้กำหนด
อัตราขั้นสูงสำหรับค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินของผู้โดยสารออกจากสนามบินเพื่อ
เดินทางไปต่างประเทศเป็นครั้งละ 500 บาท ทั้งนี้ รายได้จากการปรับปรุงอัตรา
ค่าธรรมเนียม ให้นำส่งกระทรวงการคลังเพื่อเป็นรายได้ของแผ่นดิน ตามที่กระทรวงคมนาคม
เสนอและให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป

          เห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 035 เรื่อง ให้เร่งรัดการก่อสร้างขยายเส้นทางสายหลักให้เป็น  4  ช่อง 
จราจร ของนายกวี สุภธีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดขอนแก่น  ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ  และ
มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมตอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป โดยมีสาระสำคัญดังนี้
          1. กรมทางหลวงมีโครงการจะก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 2 ตอนขอนแก่น - น้ำพอง  ให้เป็น   
4 ช่องจราจร ในปี พ.ศ. 2541 ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขแบบเพื่อให้อยู่ในวงเงินงบประมาณ  และ
คาดว่าจะออกประกาศประกวดราคาได้ในเดือนเมษายน 2541
          2. สถิติการเกิดอุบัติเหตุจราจรบนทางหลวง ช่วงขอนแก่น - อำเภอน้ำพอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540  ถึง  
ปัจจุบัน มีจำนวน 35 ครั้ง   และเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุจราจรบนทางหลวงช่วงดังกล่าว  กรมทางหลวง 
ได้ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยบริเวณทางแยก ทางร่วม และทางเชื่อมสาธารณะ 
แล้ว นอกจากนี้ จัดทำบริเวณจุดจอดรับส่งผู้โดยสารประจำทางแยกจากช่องทางปกติ    และจัดสร้างสะพานลอยคนเดินข้ามถนนในย่าน
ชุมชน รวม 6 แห่ง

          1. รับทราบมติที่ประชุมร่วมระหว่างส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2541 เรื่อง การปรับ 
ปรุงการมอบอำนาจบริหารราชการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดน ที่กระทรวงมหาดไทยขอถอนเรื่องรวม 9 ข้อ  
และรับทราบข้อสังเกตเพิ่มเติมของสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ และสำนักงานสภาความมั่นคง    
แห่งชาติ  เกี่ยวกับการดำเนินการให้ส่วนกลางกระจายอำนาจไปสู่จังหวัด    การปรับปรุงประสิทธิภาพของส่วน  
ราชการ  การจำแนกภารกิจตามแผนปฏิบัติระบบราชการ  และการกำกับดูแลให้ดำเนินตามกฎหมายอย่างจริง 
จัง ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ
          2. เรื่อง การอนุญาตสินค้าที่อยู่ในข่ายควบคุมการส่งออกและนำเข้ามาในราชอาณาจักร  อนุมัติในหลัก 
การให้มีการมอบอำนาจได้  โดยให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพาณิชย์รับไปพิจารณาเกี่ยวกับประเภทสิน
ค้าและพื้นที่ต่อไป
          3. เรื่อง การมอบอำนาจในการอนุมัติจัดตั้ง   การโอน   การย้ายโรงงานและจัดตั้งโรงงานขนาด 2,000 
แรงม้า ให้ดำเนินการตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ

          อนุมัติการปรับปรุงองค์ประกอบ และอำนาจหน้าที่คณะกรรมการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 
ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 3 คณะ และยกเลิกคณะกรรมการ จำนวน 3 คณะ    ตามที่กระทรวง 
เกษตรและสหกรณ์ เสนอ ดังนี้
          1. ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่คณะกรรมการ จำนวน 3 คณะ ได้แก่
              1.1 คณะกรรมการฝนหลวงและการบินเกษตร
              1.2 คณะกรรมการประสานความร่วมมือการพัฒนาการเกษตรระหว่างภาครัฐกับเอกชน
              1.3 คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ
          2. ยกเลิกคณะกรรมการ จำนวน 3 คณะ ได้แก่
              2.1 คณะกรรมการส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการเกษตร
              2.2 คณะกรกรมการประสานความร่วมมือการพัฒนาการเกษตรกับต่างประเทศ
              2.3 คณะกรรมการพิจารณาจ่ายเงินชดเชยเป็นกรณีพิเศษแทนการจัดที่ดินอพยพ

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนเรื่อง การปฏิบัติตามกฎกระทรวงว่าด้วยเรื่องการใช้วัสดุกรองแสง 
คืนไปได้ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพิชัย รัตตกุล) เสนอ โดยให้รับข้อสังเกตของนายกรัฐมนตรีไปพิจาณาด้วย
 ดังนี้  หากจะขยายการบังคับใช้กฎกระทรวงออกไปอีกวิธีการหนึ่งที่จะมิให้ประชาชนเดือดร้อน คือ หน่วย  
งานที่เกี่ยวข้องควรประชาสัมพันธ์ให้รถที่จดทะเบียนใหม่ใช้วัสดุกรองแสง ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้จะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงแก้ไข

          รับทราบผลความคืบหน้าในการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณามาตรการทางกฎหมาย เพื่อการ 
แก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของชาติ ตามที่กระทรวงยุติธรรม เสนอ โดยให้กระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม 
และสำนักงบประมาณ   รับข้อสังเกตของคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องไป 
พิจารณาดำเนินการ  ตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ ดังนี้
          1. กระทรวงการคลังควรประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ความคืบหน้าในเรื่องนี้ให้กว้างขวางและต่อเนื่อง
มากยิ่งขึ้น  เช่น  การประชาสัมพันธ์ผ่านทาง  Web site  ในระบบอินเตอร์เนต  เพื่อให้นักลงทุนและผู้สนใจได้
ทราบข้อมูล รวมทั้งความก้าวหน้าและข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายล้มละลาย     ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจะนำเสนอ
นายกรัฐมนตรีพิจารณาลงนามเพื่อทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย
          2. เพื่อให้องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.)  สามารถปฏิบัติงานได้โดยรวดเร็วและ 
มีประสิทธิภาพ   คณะกรรมการพิจารณามาตรการทางกฎหมาย ฯ    ควรพิจารณาว่าจะสมควรออกกฎหมาย
เป็นการเฉพาะ  เพื่อให้ ปรส. สามารถยกเว้นการปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  และกฎหมาย
อื่น ๆ หรือไม่ ประการใด
          3. การเสนอให้สิทธิผู้ซื้อลูกหนี้คิดดอกเบี้ยได้เกินกว่าร้อยละ 15 ต่อปี   จะเป็นการปรับปรุงระบบเพื่อ 
แก้ไขปัญหาพื้นฐานของสถาบันการเงิน ดังนั้น  กระทรวงการคลัง  และคณะกรรมการพิจารณามาตรการทาง
กฎหมาย ฯ ควรพิจารณาข้อเสนอนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร่งด่วน  
          4. การบังคับจำนำ   โดยนำเงินฝากกับสถาบันการเงินแทนการวางต่อสำนักงานวางทรัพย์สินเพื่อให้   
ดอกผลจากเงินดังกล่าวตกได้แก่ผู้มีสิทธิรับเงิน จะมีผลกระทบต่องบประมาณค่าใช้จ่ายของกระทรวงยุติธรรม    
ซึ่งปัจจุบันใช้จ่ายจากดอกเบี้ยของเงินดังกล่าว   ดังนั้น  สำนักงบประมาณจึงควรเตรียมพิจารณาแก้ไขปัญหา
เนื่องจากผลกระทบดังกล่าวด้วย  
          5. ขณะนี้มีคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาหลายคดี    กระทรวงยุติธรรมจึง  
ควรประสานงาน เพื่อให้ทราบว่าศาลทรัพย์สินทางปัญญามีปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานอย่างไร   หรือ
ไม่   ทั้งนี้   เพื่อสนับสนุนให้การพิจารณาคดีของศาลเป็นไปโดยต่อเนื่องและแล้วเสร็จโดยเร็ว

              คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการเพื่อรองรับการแปรสภาพรัฐวิสาหกิจ  และการเปิดเสรีธุรกิจ
โทรคมนาคม ตามที่กระทรวงคมนาคม โดยในการพิจารณาแผนการแปรสภาพองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย
(ทศท.) และการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) การปรับปรุงโครงสร้างอัตราค่าบริการ  การกำหนดโครงสร้าง
บริการ  การกำหนดโครงสร้างการแปรสัญญาร่วมการงาน  การเปิดการแข่งขันเสรีภายในประเทศ  การเปิดการ
แข่งขันเสรีตามกรอบของ  WTO  และการกำกับดูแลตามแผนและโครงสร้างดังกล่าว   เพื่อให้สอดคล้องกับหนังสือ
แสดงเจตจำนงกับ IMF และข้อตกลงกับ WTO แผนแม่บทการพัฒนากิจการโทรคมนาคม  และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2540 นั้น มอบให้คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจรับไปหารือร่วมกับกระทรวง
คมนาคม และบุคคลอื่นที่ประธานคณะกรรมการเห็นสมควร โดยเร่งรัดพิจารณาดำเนินการ แล้วรายงานความคืบ
หน้าให้คณะรัฐมนตรีทราบ โดยให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า  ในการแปรสภาพรัฐวิสาหกิจ
การแปรสัญญาร่วมการงาน  การอนุญาต หรือสัมปทาน  จะต้องไม่ทำให้รัฐได้รับผลประโยชน์ตามเงื่อนไขสัญญา
ต่าง ๆ น้อยกว่าที่ระบุไว้ในสัญญานั้น

          อนุมัติการปรับปรุงแก้ไของค์ประกอบคณะกรรมการของกระทรวงอุตสาหกรรมที่แต่งตั้งโดย 
มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2540 และวันที่ 11 สิงหาคม 2540 จำนวน 6 คณะ และแต่งตั้ง
คณะกรรมการใหม่ จำนวน 1 คณะ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอ ดังนี้
          1. ปรับปรุงแก้ไของค์ประกอบและอำนาจหน้าที่คณะกรรมการ จำนวน 6 คณะ คือ
              1.1 คณะกรรมการความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมกับต่างประเทศ
              1.2 คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาหัตถกรรมไทย
              1.3 คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการรับรองระบบงาน (NAC) 
              1.4 คณะกรรมการพิจารณาดำเนินการแปรรูปกิจการโรงงานน้ำตาล
              1.5 คณะกรรมการชำระบัญชีโรงงานกระดาษบางปะอิน
              1.6 คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตร
           2. แต่งตั้งคณะกรรมการใหม่ จำนวน 1 คณะ คือ
               คณะกรรมการพิจารณาสินค้าที่ผลิตในประเทศ    โดยมีเลขาธิการสำนักงานมาตรฐาน  
ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม  เป็นประธานกรรมการ  และมีกรรมการอีก 11 ราย     โดยมีผู้แทนสำนัก 
งานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม  เป็นกรรมการและเลขานุการ       มีอำนาจหน้าที่พิจารณา  
กลั่นกรองคำขอจดทะเบียนสินค้าที่ผลิตในประเทศ      และสอบถามข้อมูลหรือเชิญหน่วยงานหรือ
บุคคลที่เกี่ยวข้องให้เข้าร่วมพิจารณาคำขอจดทะเบียน

          อนุมัติการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่คณะกรรมการของกระทรวงการคลัง ที่แต่งตั้ง 
โดยมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 4 คณะ และยกเลิกคณะกรรมการ จำนวน 1 คณะ ตามที่กระทรวงการคลัง 
เสนอ ดังนี้
          1. ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี   จำนวน 
4 คณะ คือ   
              1.1 คณะกรรมการป้องปรามธุรกิจการเงินนอกระบบ   มีอำนาจหน้าที่ตามเดิม  แต่ปรับปรุง 
องค์ประกอบคณะกรรมการจากเดิม 18 ราย เปลี่ยนแปลงเป็น 17 ราย 
              1.2 คณะกรรมการกระจายอำนาจการคลังสู่ท้องถิ่น ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ 
              1.3 คณะกรรมการประเมินผลงานรัฐวิสาหกิจ ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่
              1.4 คณะกรรมการพิกัดอัตราศุลกากร มีอำนาจหน้าที่ตามเดิม แต่ปรับปรุงองค์ประกอบ
          2. ยกเลิกคณะกรรมการ จำนวน 1 คณะ คือ
              2.1 คณะกรรมการพิจารณากำหนดท้องที่กันดารและโรงเรียนที่กันดาร

          อนุมัติปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี
(นายปัญจะ เกสรทอง) เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธาน
กรรมการ อธิบดีกรมประมง เป็นกรรมการและเลขานุการ   และกรรมการอื่นอีก 33 ราย    ตามที่กระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ เสนอ

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอขอทบทวนชื่อวัสดุปูนในโครงการ
พัฒนาพื้นที่ดินเปรี้ยว จากเดิมชื่อวัสดุ ปูนมาร์ล  เปลี่ยนเป็น วัสดุ ปูนเพื่อการเกษตร  เพื่อให้ใช้ปูนอื่นแทน
ได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น และให้รับความเห็นเพิ่มเติมของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้
          1. เนื่องจากโครงการการสงเคราะห์   โดยรัฐเป็นผู้ผลิตและจัดหาปูนให้แก่เกษตรกรในรูปการให้  
เปล่า       หน่วยราชการผู้รับผิดชอบจึงควรวางหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อสงเคราะห์  
เกษตรกรผู้ด้อยโอกาสและขาดแคลนทุนเป็นอันดับแรก  และติดตามการดำเนินงานอย่างรัดกุมพร้อมทั้ง 
กำหนดแนวทางให้เกษตรกรที่พอมีฐานะ   สามารถพึ่งพาตนเองในการจัดหาปูน    เพื่อการลดภาระของ
ทางราชการละสร้างการมีส่วนรับผิดชอบในการพัฒนาอาชีพของเกษตรกร
          2. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำข้อเสนอแนะของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐ 
กิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการปรับปรุงแนวทางปฏิบัติตามโครงการพัฒนาพื้นที่ดินเปรี้ยว  ไปปฏิบัติ
ในการดำเนินโครงการพัฒนาดินเปรี้ยว (2541 - 2545) ด้วย

          1. อนุมัติในหลักการและเงื่อนไขการขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ  ตามหนังสือ  
แจ้งความจำนงขอรับความช่วยเหลือทางวิชาการและการเงิน ฉบับที่ 3     และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ  
คลังและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้ลงนามในหนังสือแจ้งความจำนง ฯ ฉบับที่ 3     แล้วดำเนินการต่อ  
ไปได้  ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ     โดยหนังสือแจ้งความจำนงดังกล่าวได้มีการปรับปรุงสาระสำคัญต่าง ๆ  6 
ประการ สรุปได้ดังนี้
              1.1 รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาระบบสถาบันการเงิน โดยใช้นโยบายในเชิงรุก เร่งรัดการปฏิรูประบบการเงิน   
ให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแปรรูปธนาคาร รวมทั้งยกระดับธนาคารพาณิชย์ให้ได้มาตรฐานสากล  นอกจาก   
นี้  จะปรับปรุงกฎหมาย  และโครงการสร้างธนาคารแห่งประเทศไทย  ระบบการกำกับตรวจสอ บ  และการพัฒนา 
ตลาดทุนให้มีความเหมาะสมขึ้น          
              1.2 รัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงนโยบายการคลังให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอ ยรวมทั้งการปรับตัว
ของดุลบัญชีเดินสะพัดที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้  นอกจากนั้น  รัฐบาลจะเพิ่มงบประมาณในการแก้ไขปัญหาด้านสังคม
ดดยที่ไม่ขัดกับวินัยทางการคลังในระยะปานกลาง
              1.3 รัฐบาลจะดำเนินการนโยบายการเงินอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยน  และ  
จะจัดการให้ภาคเศรษฐกิจที่สำคัญได้รับสินเชื่ออย่างเพียงพอ  
              1.4 รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการเพิ่มเติม   เพื่อบรรเทาผลกระทบทางสังคมด้วยความร่วมมือของธนาคาร 
โลก ธนาคารพัฒนาเอเซีย และกองทุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจโพ้นทะเลแห่งญี่ปุ่น
              1.5 รัฐบาลมีเป้าหมายและมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชน  ในระบบเศรษฐ 
กิจผ่านกระบวนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจและการแก้ไขกฎหมายเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในภาคการเงิน  
และภาคเศรษฐกิจอื่น 
              1.6 การดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวข้างต้น  จะทำให้ประเทศไทยสามารถระดมทุนจากตลาดการ 
เงินและตลาดทุนระหว่างประเทศได้ภายในเวลาที่เหมาะสม  
          2. เนื่องจากหนังสือแจ้งความจำนง ฯ   ฉบับนี้        จะเปิดเผยสู่สาธารณะเพื่อความโปร่งใสในการบริหาร 
นโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาล    และในหนังสือดังกล่าวปรากฎข้อความว่าจะมีการจัดตั้งภาระดอกเบี้ยของหนี้ 
ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2542           และจะ 
สามารถเริ่มชำระดอกเบี้ยของหนี้สินทั้งหมดจากงบประมาณได้ภายในปี 2543  ดังนั้น ให้กระทรวงการคลังชี้แจง
ให้ประชาชนเข้าใจความเป็นมาและรายงานสถานภาพของกองทุนฟื้นฟู ฯ ให้คณะรัฐมนตรีทราบด้วย  นอกจากนี้ 
เมื่อคณะกรรมการ ฯ ซึ่งได้ตั้งขึ้นตรวจสอบข้อเท็จจริงได้รายงานผลการดำเนินงานและข้อเสนอแนะแล้ว  ให้ชี้แจง  
ทำความเข้าใจกับสาธารณชนด้วยว่า การดำเนินงานที่ผ่านมามีข้อบกพร่องผิดพลาดอย่างไร หรือไม่      และจะมี 
การปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นอย่างไร
          3. ให้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม  รับไปศึกษา   ตรวจสอบและติดตามให้ใกล้ชิดว่าการชะลอตัว 
ทางเศรษฐกิจซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะรุนแรงกว่าที่ประมาณไว้เดิม จะส่งผลต่อการว่างงานเพิ่มขึ้นหรือไม่  และจะ 
กระทบต่อสาขาใดเป็นพิเศษหรือไม่ เพื่อจะได้ป้องกัน แก้ไขเยียวยาได้ทัน
          4. ขณะนี้ทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ได้ให้ความสนใจติดตามร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่  ..) พ.ศ. ....
เป็นอย่างมาก   และยังมีความสงสัยว่าร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีหลักการมุ่งไปในทางที่จะทำให้กระบวนการ
ยึด อายัด ขายทอดตลาดเป็นไปได้ด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นอันเป็นคุณแก่เจ้าหนี้   หรือจะมุ่งไปในทางจะเอื้อ    
อำนวยให้ลูกหนี้มีโอกาสได้ฟื้นฟู      จึงให้กระทรวงยุติธรรมติดตามและเผยแพร่ให้ประชาชนได้เข้าใจให้ถูกต้อง
ด้วย