คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ได้มีการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ใหม่
ทำให้ต้องมีการแต่งตั้งข้าราชการ  โดยเฉพาะการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับ 8 - 9  ซึ่งแม้ตามพระราช
บัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535  มาตรา 52  (5)  (4)  จะกำหนดให้อธิบดีและปลัดกระทรวงเป็นผู้
มีอำนาจการบรรจุและแต่งตั้ง  ตามลำดับ   ก็ขอให้รัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการในกระทรวงที่
สังกัดได้กำกับดูแลให้การแต่งตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์และยุติธรรม โดยใช้หลักคุณธรรมอย่างเคร่งครัด

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 864 ร. เรื่อง 
การจัดสรรงบประมาณการก่อสร้างและบำรุงรักษาถนนให้กับกรมทางหลวง  ของนายนิยม  วรปัญญา  สมาชิก
สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า 
(1) ในปีงบประมาณ  พ.ศ. 2546 กรมทางหลวง โดยกระทรวงคมนาคม ได้ถูกปรับลดงบประมาณ  จำนวน 422 
ล้านบาท  กรมทางหลวงจึงมีงบประมาณเพื่อใช้ในการดำเนินการประจำปี  พ.ศ.  2546  จำนวนทั้งสิ้น  28,652 
ล้านบาท ทั้งนี้ ในการบำรุงรักษาทางและการก่อสร้างถนน ต้องใช้งบประมาณในการดำเนินงานเป็นจำนวนมาก 
จึงจำเป็นต้องกำหนดหลักเกณฑ์   การคัดเลือกสายทางเพื่อการซ่อมบำรุง    ตลอดจนจัดลำดับความสำคัญของ
กิจกรรมภายใต้แผนงานบำรุงรักษาทางที่ถือเป็นการบริหารภายใต้ระบบปรับปรุงทางแบบ   TPMS   (Thailand
Pavement Management System)  (2) ปัจจุบันการกู้เงินในประเทศ  รัฐบาลจะดำเนินการกู้เงินเพื่อนำมาชดเชย
ส่วนที่ขาดดุลเท่านั้น โดยมีเป้าหมาย  ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.  2549  เป็นต้นไป  จะสามารถจัดตั้งงบประมาณ
แบบสมดุลได้  สำหรับการกู้เงินจากต่างประเทศ ได้กำหนดเพดานการก่อหนี้ใหม่ไว้ปีละ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ 
โดยมุ่งเน้นโครงการที่จำเป็น   ซึ่งในปีงบประมาณ  พ.ศ. 2545  มีโครงการที่กรมทางหลวงรับผิดชอบ 1 โครงการ 
ได้แก่ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 โครงการปรับปรุงและพัฒนาทาง
หลวง เป็นการกู้เงินจากธนาคารโลก จำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ  และเงินงบประมาณแผ่นดิน  จำนวน 72.20 
ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานด้านการปรับปรุงและพัฒนาทางหลวงในช่วงปี พ.ศ. 2546-
2549  หากมีแผนงาน/โครงการใดสดุดหรือหยุดลง ย่อมอยู่ในดุลยพินิจของส่วนราชการจะพิจารณาโดยขอความ
เห็นชอบจากแหล่งเงินกู้หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องแล้วแต่กรณีไป และ (3)  รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังจะ
กู้เงินโดยการออกพันธบัตรเพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชน หรือสถาบันการเงินและนิติบุคคลต่าง ๆ ในประเทศ ได้
เฉพาะในกรณีเพื่อนำเงินกู้ดังกล่าวมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณในแต่ละปีเท่านั้น สำหรับค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง
และบำรุงรักษาถนน จะดำเนินการจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินประจำปีให้แก่กรมทางหลวง เพื่อดำเนินการใน
เรื่องดังกล่าวโดยขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความพร้อมของแต่ละแผนงาน

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอการปรับปรุงการโอนงบประมาณรายจ่ายประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ในส่วนของกระทรวงการ
ท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์   สำหรับส่วนราชการนอกเหนือจากที่
กล่าว  หากพบความคลาดเคลื่อนที่มีผลกระทบต่อยอดรวมงบประมาณของส่วนราชการระดับกระทรวง และ/หรือ
กรม   และมีความจำเป็นต้องแก้ไขให้ถูกต้อง   ซึ่งหากไม่ดำเนินการจะก่อให้เกิดผลเสียหายต่อการปฏิบัติงานตาม
ภารกิจ  ขอให้เร่งรัดดำเนินการโดยให้ผ่านความเห็นชอบจากส่วนราชการผู้โอนงบประมาณ และส่วนราชการผู้รับ
โอนงบประมาณก่อน  และแจ้งสำนักงบประมาณภายในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2546  เพื่อที่สำนักงบประมาณจะได้
รวบรวมการปรับปรุงบัญชีรายละเอียดการโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 ตามพระราช
บัญญัติ ฯ และนำเสนอคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ 2546 อีกครั้งหนึ่ง

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ได้มีการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ใหม่
ทำให้ต้องมีการแต่งตั้งข้าราชการ  โดยเฉพาะการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับ 8 - 9  ซึ่งแม้ตามพระราช
บัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535  มาตรา 52  (5)  (4)  จะกำหนดให้อธิบดีและปลัดกระทรวงเป็นผู้
มีอำนาจการบรรจุและแต่งตั้ง  ตามลำดับ   ก็ขอให้รัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการในกระทรวงที่
สังกัดได้กำกับดูแลให้การแต่งตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์และยุติธรรม โดยใช้หลักคุณธรรมอย่างเคร่งครัด

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพรหมินทร์  เลิศสุริย์เดช) ประธาน
กรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจเสนอ ผลการประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ  (กนร.)
ครั้งที่ 1/2546 เกี่ยวกับเรื่อง การแก้ปัญหาการดำเนินธุรกิจของบริษัท บางจากปิโตรเลียม  จำกัด  (มหาชน)  และ
มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพของรัฐวิสาหกิจ  สรุปได้ดังนี้  (1)  การแก้ปัญหาการดำเนินธุรกิจของบริษัท  บาง
จาก ฯ กนร. มีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาธุรกิจของบริษัท 
บางจาก  ฯ   และเห็นว่าเพื่อให้การแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันและปัญหาธุรกิจของบริษัท  บางจาก  ฯ 
เป็นไปอย่างยั่งยืน เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติโดยรวม  จึงมอบหมายให้คณะอนุกรรมการ  ฯ  ดูแลให้บริษัท  บาง
จาก  ฯ   จัดทำแผนการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ  (Corporate  Restructuring)  ตลอดจนจัดการให้มีการตรวจสอบ
สถานะกิจการ โดยให้บริษัท บางจาก ฯ รับภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าว  ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน  90  วัน
และรายงานความคืบหน้าให้ กนร. ทราบทุกเดือน (2) มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพของรัฐวิสาหกิจ กนร. มีมติ
ให้กระทรวงเจ้าสังกัดแต่งตั้งคณะทำงานในระดับกระทรวงขึ้น  โดยมีผู้แทนกระทรวงการคลัง (สำนักงานคณะกรรม
การนโยบายรัฐวิสาหกิจ) ร่วมเป็นคณะทำงาน  เพื่อดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพของรัฐวิสาหกิจตามนโยบาย
รัฐบาล และแก้ไขปัญหาให้กับรัฐวิสาหกิจในสังกัดให้ได้ผลเป็นรูปธรรม  โดยให้คณะทำงาน ฯ  รายงานผลให้ กนร.
ทราบทุก  3  เดือน  และให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งจัดทำแผนการเพิ่มประสิทธิภาพเสนอคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจ
ให้ความเห็นชอบก่อนนำเสนอคณะทำงาน ฯ เพื่อพิจารณา และนำเสนอ กนร. ภายในวันที่ 30 เมษายน 2546

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้กรมชลประทานดำเนินการจ้างที่ปรึกษา
ควบคุมงานก่อสร้างประตูระบายน้ำหัวงานและอาคารประกอบ พร้อมส่วนประกอบอื่น โครงการปรับปรุงคลองลัดโพธิ์  
จังหวัดสมุทรปราการ  ในวงเงิน  19,993,592  บาท  โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2545 เพื่อเป็น
ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าร้อยละ 15 จำนวน 2,999,100 บาท  ซึ่งใช้จากเงินประจำงวดเหลือจ่ายแผนงานส่งเสริมประสิทธิ
ภาพการผลิตด้านการเกษตร  งานจัดการน้ำชลประทานหมวดค่าครุภัณฑ์  ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง  รายการราดยาง
ถนนคันกั้นน้ำ ตามพระราชดำริ (ช่วงถนนหทัยราษฎร์) โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ และผูกพันงบประ
มาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546-พ.ศ. 2548 จำนวน 16,994,492 บาท สำหรับการเบิกจ่ายจากงบ
ประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2545   เพื่อเป็นเงินล่วงหน้า  กระทรวงการคลังได้อนุมัติให้กันเงินงบ
ประมาณไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีไม่มีหนี้ผูกพัน ได้ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2546

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) ประธานคณะกรรมการ
การตอบแทนกลับคืนทางเศรษฐกิจแห่งชาติ (เฉพาะกรณีความร่วมมือกับรัฐบาลประเทศสหราชอาณาจักร) เสนอ
การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการการตอบแทนกลับคืนทางเศรษฐกิจแห่งชาติ  ฯ  ดังนี้  (1)   เพิ่มเติม
กรรมการ  3  คน  คือ รองนายกรัฐมนตรี  (นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช)  และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 
เป็น รองประธานกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ (2)
เปลี่ยนแปลงตำแหน่งกรรมการ 3 คน คือ จากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็น รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลัง  รองประธานกรรมการ  จากนายสมพล  เกียรติไพบูลย์  ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี  เป็น  ที่
ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  กรรมการ  และจากพลเอก อุทัย  ชินวัตร  ผู้อำนวยการสำนักนโยบาย
และแผนกลาโหม เป็น พลเอกอุทัย ชินวัตร กรรมการและเลขานุการ  (3)  เปลี่ยนแปลงตัวกรรมการ 1 คน  จาก
นายสถิตย์  ลิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรรมการและเลขานุการ  เป็น  ผู้อำนวยการ
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ และ (4) เพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ และกลไกการปฏิบัติ
งาน

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์  คุณกิตติ) ประธานกรรมการนโยบาย
และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเสนอผลการตรวจสอบการใช้เงินกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) และ 
เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเพิ่มเติมให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) รับไปดำเนินการจัดจ้างผู้
ตรวจสอบอิสระที่มีความรู้และประสบการณ์  รวมทั้งเป็นมืออาชีพเพื่อทำหน้าที่เร่งรัดตรวจสอบ ติดตาม  และสรุป
ผลการดำเนินโครงการของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ยืมเงินจาก คชก.  ไปเป็นทุนหมุนเวียนดำเนินงานและยังไม่ได้ใช้คืน
แก่  คชก.  ทั้งหมดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว  โดยในชั้นต้นนี้ให้เร่งรัด ตรวจสอบข้อมูลทางด้านการเงินของโครงการก่อน
(Financial Audit) และในระยะต่อไป ให้ดำเนินการตรวจสอบและประเมินผลในด้านการปฏิบัติงาน (Performance
 Audit) เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินโครงการต่อไป  ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวในส่วนที่
เกี่ยวข้องด้วย และให้เร่งรัดดำเนินการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ on line เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการใช้จ่ายเงิน และการ
ดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) องค์การคลังสินค้า (อคส.) และธนาคารเพื่อ
การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ที่ใช้เงินทุนหมุนเวียนของ  คชก.  เพื่อให้ทราบความเคลื่อนไหวและผล
การดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการอ้างอิง และตรวจสอบได้   และให้กระทรวงการ
คลังรับไปประสานและเจรจาต่อรองกับ ธกส.  เพื่อขอลดอัตราดอกเบี้ยที่  ธกส.  คิดจากโครงการต่าง ๆ  ที่ได้รับ
สินเชื่อจาก ธกส. และยังไม่สามารถปิดโครงการได้ในปัจจุบันเพื่อให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมและเป็นธรรม
มากยิ่งขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายของโครงการและประหยัดเงิน คชก. ต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดรายงานการ
ติดตามผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแผนแม่บทเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด 
ในช่วงแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 9 ช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  (ตุลาคม 2544-กันยายน 2545)  โดยผลการดำเนินงาน
มีดังนี้ (1) ยุทธศาสตร์การปลุกพลังแผ่นดินและการป้องกัน ดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ  จัด
อบรมวิทยากรกระบวนการ จัดกิจกรรมในพื้นที่เป้าหมาย  สนับสนุนให้มีลานกีฬาต้านยาเสพติด  จัดตั้งเครือข่าย
เยาวชนป้องกันยาเสพติดในพื้นที่นำร่องและการถวายความรู้พระวิทยากร  (2)  ยุทธศาสตร์การควบคุมตัวยาและ
สารเคมี  ได้ดำเนินการควบคุมการนำเข้าและส่งออกสารตั้งต้น/ตัวยาที่ใช้ทดแทนการผลิตยาเสพติดอย่างเข้มงวด
และต่อเนื่อง  (3)  ยุทธศาสตร์การปราบปราม มีการนำมาตรการทางกฎหมายทั้งที่เป็นกฎหมายยาเสพติด และ
มิใช่กฎหมายยาเสพติดมาบังคับใช้  (4)  ยุทธศาสตร์การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ  ดำเนินโครงการค่าย
ฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต "(โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง)" เพื่อเป็นการให้โอกาสแก่ผู้ที่กำลังจะพ้นโทษ และช่วยเหลือ
ผู้ต้องขังภายหลังได้รับการปลดปล่อย (5) ยุทธศาสตร์การข่าว พัฒนางานการข่าวให้เป็นระบบ รวมทั้งฝึกอบรม
หลักสูตร  "การใช้ระบบประสานงานข่าวยาเสพติด"  กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง   (6)  ยุทธศาสตร์การอำนวยการ
และประสานงาน มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเอาชนะยาเสพติด  และบูรณาการแผนปฏิบัติการป้องกันและ
แก้ไขปัญหายาเสพติด  ฝึกอบรมบุคลากร  และจัดทำแผนงบประมาณมิให้ซ้ำซ้อนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน  (7)
ยุทธศาสตร์การปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม   ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบ    และยกร่าง
กฎหมายใหม่  และดำเนินการในกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้อำนวยต่อการปราบปรามและการดำเนินการทาง
กฎหมาย  (8)  ยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างประเทศ มีการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศไทยกับ
นานาประเทศในภูมิภาคเดียวกัน  และต่างภูมิภาค   จัดประชุมทวิภาคี    จัดประชุมระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่
อาวุโสเพื่อหารือด้านการปราบปรามและการป้องกัน และ (9) ยุทธศาสตร์การวิจัย พัฒนา และติดตามประเมิน
ผล  มีการศึกษาและประมาณการจำนวนผู้ติดยาเสพติด  พัฒนาระบบข้อมูลข่าวสาร  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ
ระบบข้อมูลให้ทันต่อสถานการณ์ และการประเมินผลแผนปฏิบัติการเพื่อเอาชนะยาเสพติด

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาของโรงเรียน
เตรียมทหารและโรงเรียนนายร้อย   โดยโรงเรียนเตรียมทหารจะขยายระยะเวลาการศึกษาเป็น  3  ปี   ส่วน
โรงเรียนนายร้อยจะปรับลดระยะเวลาการศึกษาจากเดิม 5 ปี  ลงเหลือ 4 ปี  เพื่อให้สอดคล้องกับการศึกษา
สายสามัญในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายซึ่งปัจจุบันเป็นหลักสูตร  3  ปี   อย่างไรก็ตาม  การเปลี่ยนแปลง
ดังกล่าว   อาจมีความจำเป็นต้องโอนอัตรากำลังบางส่วนจากโรงเรียนนายร้อยมาเพิ่มให้กับโรงเรียนเตรียม
ทหาร เพื่อรองรับภารกิจที่เพิ่มมากขึ้น   ประกอบกับนายทหารที่จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยไปแล้ว
หลายปี ส่วนใหญ่จะเป็นนายทหารชั้นนายพัน   หากจะมีการจัดให้เข้ารับการอบรมเพิ่มเติมเพื่อศึกษาวิทยา
การสมัยใหม่แขนงต่าง ๆ  เช่นเทคโนโลยีและการจัดการสมัยใหม่ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อราชการ  โดยการ
ดำเนินการจัดการศึกษาอบรมให้แก่นายทหารดังกล่าว  ควรมอบหมายให้เป็นภารกิจของบุคลากรหรือกอง
พันของโรงเรียนนายร้อยที่ภารกิจในการสอนนักเรียนนายร้อยเดิมได้ลดลงเนื่องจากการปรับหลักสูตรการ
ศึกษา จึงขอมอบให้กระทรวงกลาโหมรับแนวคิดดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการ
อนุญาตให้ทำและขายสุรากลั่น  และอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระ
ราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493  (ปรับปรุงชนิดและอัตราภาษีของสุราแช่ และสุรากลั่น)  และให้ส่งสำนักงานคณะ
กรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน   แล้วดำเนินการต่อไปได้   รวมทั้งเห็นชอบการยกเว้นภาษีเงิน
ได้ให้แก่ผู้ทำและขายสุรากลั่นชุมชนในระยะแรกเป็นเวลา 3 ปี  โดยคณะรัฐมนตรีเห็นว่า การปรับปรุงภาษีสุรา
เพื่อเศรษฐกิจชุมชน เพื่อส่งเสริมพัฒนาผลผลิตจากภูมิปัญญาท้องถิ่นและฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน  จึงต้องป้องกัน
มิให้บุคคลใดฉกฉวยประโยชน์จากประชาชนหรือชุมชนโดยใช้กลไกของรัฐเป็นเครื่องมือ  อย่างไรก็ตาม ในการ
ผลิตสุราชนิดต่าง  ๆ  อาจมีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม   ตลอดจนถึงสุขภาพพลานามัยของผู้ที่ดื่มอย่าง
ต่อเนื่อง  จึงมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการรณรงค์ให้ความรู้และประชาสัมพันธ์ในด้านการผลิต
เพื่อมิให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การสร้างเสริมสุขภาพ  และพิษภัยของการดื่มสุรา  โดยให้ดำเนินการ
อย่างต่อเนื่อง และให้กระทรวงมหาดไทย  กระทรวงการคลัง  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  และหน่วยงานที่เกี่ยว
ข้อง สั่งการและกำกับดูแลให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ในสังกัดที่อยู่ในจังหวัดและอำเภอถือปฏิบัติให้เป็นไปตาม
กฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งกวดขันมิให้มีการใช้อิทธิพลในทางที่มิชอบด้วยกฎหมาย

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความก้าวหน้าการพัฒนาระบบตรวจสอบ
ภายในของส่วนราชการตามมติคณะรัฐมนตรี  (16  กรกฎาคม  2545)  สรุปได้ว่า กรมบัญชีกลางได้ประชุมร่วม
กับสำนักงาน ก.พ. เมื่อวันที่  22  สิงหาคม  2545 เพื่อหารือเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรของหน่วยตรวจ
สอบภายใน การปรับปรุงคุณสมบัติและเงื่อนไขการเข้าสู่ตำแหน่งผู้ตรวจสอบภายใน และการกำหนดความเจริญ
ก้าวหน้าในสายงานตรวจสอบภายในและการพัฒนาสายงานตรวจสอบภายในเป็นสายวิชาชีพ  ซึ่งที่ประชุมมีมติ
ให้แต่งตั้งคณะกรรมการทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ และกำหนดแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรของหน่วย
งานตรวจสอบภายใน  และการปรับปรุงสายงานตรวจสอบภายใน  เนื่องจากมีประเด็นข้อปลีกย่อยที่ต้องศึกษา
ในรายละเอียดพอสมควร    กรมบัญชีกลางจึงได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างและสายงาน
ตรวจสอบภายในของส่วนราชการ เพื่อทำหน้าที่ศึกษา  วิเคราะห์  และปรับปรุงคุณสมบัติและเงื่อนไขการเข้าสู่
ตำแหน่งของผู้ตรวจสอบภายใน  กำหนดแนวทางการพัฒนาสายงานตรวจสอบภายในให้เป็นสายงานวิชาชีพที่
เป็นรูปธรรมและยอมรับโดยทั่วไป  รวมทั้งกำหนดแนวทางในการจัดให้มีผู้ตรวจสอบภายในรับอนุญาตในภาค
ราชการ  พร้อมกับจัดทำแผนปฏิบัติการเรื่อง การพัฒนาระบบตรวจสอบภายในของส่วนราชการ เพื่อเป็นแนว
ทางในการพัฒนาระบบตรวจสอบภายในของส่วนราชการต่อไป อย่างไรก็ตาม การดำเนินการในเรื่องดังกล่าว
จะต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาข้อดี ข้อเสีย  และผลกระทบในแต่ละด้าน  โดยจะประสานงานและรับฟังข้อคิด
เห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งจากภายในและภายนอก และจะได้เร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการ

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการแก้ไขสัญญากู้เงินกับธนาคารพัฒนา
เอเซีย โดยเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลัง ได้ลงนามในสัญญาแก้ไขสัญญากู้เงินและเอกสารที่เกี่ยวข้องในนามราชอาณาจักรไทย  เมื่อวัน
ที่  5  ธันวาคม  2545 เพื่อเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเงินกู้สำหรับเงินกู้ส่วนที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายภายใต้โครงการ 3 โครง
การ   ได้แก่  โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการพัฒนาฝีมือแรงงาน  โครงการพัฒนาบัณฑิตศึกษาและการวิจัย
ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   และโครงการเงินกู้เพื่อเตรียมการปรับโครงสร้างสถาบันการเงินเฉพาะกิจของ
รัฐ  โดยมีสาระสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเป็นไปตามขอบเขตเงื่อนไขที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ทุกประการ  ส่วน
เงินกู้โครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ สัญญาเลขที่  1646-THA  ได้เบิกจ่ายเงินกู้
ไปครบวงเงินแล้ว  จึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเงินกู้เป็นระบบ LIBOR-Based Loan ได้  และจะต้องปฏิบัติ
ตามเงื่อนไขเดิมในระบบเงินกู้สกุลเดียว (Single Currency Pool Loan) ดังนั้น จึงมีเงินกู้เพียง  3  สัญญา ที่ได้ทำ
สัญญาแก้ไขสัญญาเงินกู้เดิมในครั้งนี้

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอการปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมาธิ
การเขตแดนร่วมไทย - ลาว  (ฝ่ายไทย)  ประกอบด้วย  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน
กรรมาธิการ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นรองประธานกรรมาธิการ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือผู้แทน
ผู้แทนกองทัพบก  เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือผู้แทน  เอกอัครราชทูต  ณ  เวียงจันทน์  หรือผู้แทน
เจ้ากรมแผนที่ทหาร  หรือผู้แทน  เจ้ากรมอุทกศาสตร์  หรือผู้แทน  ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย   อธิบดีกรมการ
ปกครอง หรือผู้แทน อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี หรือผู้แทน  อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี  หรือ
ผู้แทน  อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก หรือผู้แทน  ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน หรือผู้แทน อธิบดีกรมสนธิ
สัญญาและกฎหมาย รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นกรรมาธิการ  ผู้อำนวยการกองเขตแดน กรม
สนธิสัญญาและกฎหมาย  เป็นกรรมาธิการและเลขานุการ    และเจ้าหน้าที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย  เป็น
กรรมาธิการและผู้ช่วยเลขานุการ โดยมีอำนาจหน้าที่คงเดิม

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอโดยสรุปดังนี้ (1) การยกเลิกมติ
คณะรัฐมนตรี (13 สิงหาคม 2534) เรื่อง  นโยบายการบริหารรัฐวิสาหกิจ และการปรับปรุงการปิโตรเลียมแห่ง
ประเทศไทยเนื่องจากปัจจุบันไม่มีการประเมินผลตามระบบรัฐวิสาหกิจที่ดีตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว   จึงเห็น
สมควรยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว  และ (2) ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี (30 สิงหาคม 2537) เรื่อง การขอ
เป็นรัฐวิสาหกิจที่ดีของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เฉพาะในส่วนของการอนุมัติให้ กฟผ. เป็นรัฐ
วิสาหกิจที่ดี  ทั้งนี้  เพื่อให้สอดคล้องกับการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี (13 สิงหาคม 2534) ส่วนวิธีปฏิบัติในการ
คำนวณเงินบำเหน็จเพื่อโอนเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพจนเกษียณอายุ ให้ยังคงถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีดัง
กล่าวต่อไป  เพื่อมิให้เกิดความสับสนในทางปฏิบัติ  รวมทั้งเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับพนักงานรัฐวิสาหกิจทุก
คนที่ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอผลการสำรวจความคิดเห็นของ
ประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยสุ่มตัวอย่าง
จากประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่อาศัยอยู่ในอำเภอพิบูลมังสาหาร  อำเภอโขงเจียม  และอำเภอสิรินธร
จังหวัดอุบลราชธานี รวมทั้งสิ้น 3,750 ราย โดยในส่วนของผลกระทบจากเขื่อนปากมูล  ประชาชนส่วนใหญ่ร้อย
ละ  83  ระบุว่าไม่ได้รับผลกระทบ  ร้อยละ  54.8  45.1  31.1  และ  30.5  ระบุว่าได้รับผลกระทบแย่ลงในเรื่อง
การประกอบอาชีพ การดำรงชีวิต/ความเป็นอยู่ ภาวะน้ำท่วมและสภาพแวดล้อม ตามลำดับ  และจากการสำรวจ
ความพึงพอใจในโครงการเขื่อนปากมูล  ปรากฏว่า  ร้อยละ 88.1  มีความพึงพอใจในโครงการ  ฯ  ร้อยละ 10.2 
ตอบว่าไม่พอใจ ส่วนการสำรวจความเดือดร้อนที่ได้รับจากการเปิด-ปิดเขื่อน พบว่า ประชาชนในทุกอำเภอทั้งที่
อาศัยอยู่ติดริมน้ำหรือไม่ติดริมน้ำ    และในทุกกลุ่มอาชีพระบุว่า  การเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ  โดยการเปิด  4 
เดือน (เดือนกรกฎาคม-ตุลาคม) และเปิด  5  เดือน (เดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน) จะเป็นกรณีที่ดีที่สุด  โดย
ร้อยละ  23.9  เห็นด้วยกับการเปิดประตูระบายน้ำ  4  เดือน  ในขณะที่เห็นว่าควรปิดตลอดปีร้อยละ  6.8  เปิด
ตลอดปีร้อยละ 6.6  และแล้วแต่รัฐบาลเห็นควรร้อยละ  19.1  ตามลำดับ  รวมทั้งเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรี
เสนอ   โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  (กรมชลประทาน)  เร่งรัดดำเนินการจัดทำคลองชลประทานส่งน้ำ
เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพและดำรงชีวิตได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม  และ
ให้กรมประมงดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ดูแล ผู้ประกอบอาชีพประมง ให้สามารถยังคงประกอบอาชีพต่อไป
ได้    โดยอาจให้ความสนับสนุนในการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเครื่องมือในการทำประมงให้เหมาะสมกับการ
ทำประมงน้ำลึก  ให้คำแนะนำ  และความรู้ในทางวิชาการ เพื่อพัฒนาอาชีพการประมง  ทั้งนี้  ให้กระทรวงพลัง
งาน (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย) สนับสนุนช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายต่าง ฯ ในการดำเนินการดังกล่าว
ของกรมประมง พร้อมทั้งการขยายพันธุ์และปล่อยพันธุ์ปลาชนิดต่าง ๆ ลงในแม่น้ำมูล เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวน
และความหลากหลายของสัตว์น้ำให้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนการปลูกป่า การสงเคราะห์อาชีพ และอื่น ๆ ตามความ
จำเป็น

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นด้วยในหลักการตามที่กระทรวงการคลังเสนอเกี่ยวกับหลักเกณฑ์  เงื่อนไข ว่าด้วย
การทำและขายสุรากลั่นพื้นบ้าน และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 
2493 (แก้ไขเพิ่มเติมความในตอนที่ 9 สถานบริการ ของพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตท้ายพระราชบัญญัติพิกัดอัตรา
ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527)  และมอบให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาอัตราภาษีสุราพื้นบ้านซึ่งอาจส่งผลกระ
ทบต่อรายได้ของรัฐ ความสามารถในการผลิตของชุมชน โดยให้พิจารณาถึงความเป็นธรรมในการจัดเก็บเมื่อเปรียบ
เทียบกับผู้ผลิตรายใหญ่  และควรกำหนดเป็นอัตราเดียวที่เหมาะสม  แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง  รวมทั้ง
ให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข  กระ
ทรวงอุตสาหกรรมว่า การอนุญาตให้ชุมชนหรือผู้ผลิตรายย่อยผลิตสุราพื้นบ้าน  ควรกำหนดคุณภาพ  มาตรฐาน
การผลิตและการรักษาสิ่งแวดล้อม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการในรูปแบบการให้บริการในจุดเดียว (One 
Stop Service) และให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าวแก่ชุมชนหรือผู้ผลิตรายย่อยที่มาขออนุญาตควบคู่ไปด้วย

                คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเกี่ยวกับการปฏิบัติงานตามแนวทางการ
ปฏิรูประบบราชการ  ข้าราชการทุกระดับต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติและแนวทางการปฏิบัติงาน  โดยเฉพาะ
หัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการระดับสูง ปลัดกระทรวงต้องลดบทบาทโดยถ่ายโอนอำนาจการบริหาร
งานไปสู่รองปลัดกระทรวง  เน้นบทบาทของผู้กำหนดวิสัยทัศน์ของกระทรวงให้สอดคล้องกับนโยบายของ
รัฐมนตรีและรัฐบาล      รวมทั้งกำกับดูแลการบริหารงานของรองปลัดกระทรวงให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์
ดังกล่าว   ส่วนรองปลัดกระทรวงจะมีบทบาทโดยตรงในการบริหารงานตามกลุ่มภารกิจต่างๆ  ให้เป็นผล
ในทางปฏิบัติ  สำหรับอธิบดีต้องปฏิบัติงานตอบสนองต่อการบริหารงานของรองปลัดกระทรวงที่เป็นหัว
หน้ากลุ่มภารกิจ  ซึ่งมีความสำคัญมากในการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบราชการ  ซึ่งจะพัฒนาไปสู่
รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์  (E-Government)  ต่อไป  โดยที่รองปลัดกระทรวงยังไม่มีอำนาจตามกฎหมายใน
การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ จึงให้รองนายกรัฐมนตรี  (นายวิษณุ เครืองาม)  รับไปพิจารณา
หารือในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และดำเนินการ เพื่อให้รองปลัดกระทรวงซึ่งรับผิด
ชอบดูแลการบริหารงานของกลุ่มภารกิจต่างๆ มีอำนาจหรือมีบทบาทในด้านการบริหารงานบุคคลด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการ
บริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง (ฉบับที่..) พ.ศ. .... (เป็นการปรับปรุงแก้ไขระเบียบ ฯ ฉบับเดิมให้สอด
คล้องกับการแบ่งส่วนราชการ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน) แล้วดำเนินการต่อไปได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 759 ร.  เรื่อง  ปัญหาการ
เวนคืนที่ดินของกรมทางหลวง ของนายสุรศักดิ์ นาคดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ กระทู้ถามที่ 768
 ร. เรื่อง การดำเนินการก่อสร้างถนน 4 ช่องจราจร  ในถนนถีนานนท์  ช่วงจากตัวเมืองมหาสารคาม - ปากทาง
เข้ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม และกระทู้ถามที่  770  ร.  เรื่อง  การซ่อมแซมถนนสายมหาสารคาม - กมลาไสย 
ของนายกริช กงเพชร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม โดยกระทู้ถามที่ 759 ร. สรุปได้ว่า ทางหลวง
แผ่นดินหมายเลข 2378 สายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 219 (สตึก - จอมพระ)  ได้ดำเนินการก่อสร้างทาง
และปรับปรุงผิวจราจรเสร็จแล้ว  แต่การจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อให้ได้เขตทางตามแบบก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จในช่วง 
กม. 37+000 - กม. 42+000  เนื่องจากที่ดินช่วงดังกล่าวเป็นที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 
( ส.ป.ก. )    การขออนุญาตใช้ที่ดินต้องแนบหลักฐานหนังสือยินยอมของผู้ครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินด้วย
ประกอบกับต้องทราบว่าเนื้อที่ดินของ ส.ป.ก. มีผู้ครอบครองอยู่แต่ละแปลงในแต่ละรายถูกเขตทางเป็นเนื้อที่เท่าไร
ทั้งนี้ กรมทางหลวงสามารถให้ ส.ป.ก. บุรีรัมย์ ดำเนินการรังวัดได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 และจะได้จัดสรรเงิน
งบประมาณปี  พ.ศ.  2546  ให้ดำเนินการรังวัดที่ดินเพื่อจะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องค่าทดแทนความเสียหายพิเศษ
สำหรับการครอบครองที่ดินในเขต ส.ป.ก.  กระทู้ถามที่ 768 ร. สรุปได้ว่า  ถนนถีนานนท์  คือทางหลวงหมายเลข 
213 สายมหาสารคาม-กาฬสินธุ์ กรมทางหลวงมีโครงการปรับปรุงย่านชุมชนตอนบ้านท่าขอนยาง-แขวงการทาง
มหาสารคามระยะทางประมาณ 0.570 กิโลเมตร วงเงินค่าก่อสร้าง 13 ล้านบาท โดยได้ดำเนินการจัดไว้ในแผนงบ
ประมาณปี พ.ศ. 2546 และกระทู้ถามที่ 770 ร. สรุปได้ว่า ทางหลวงสายมหาสารคาม - กมลาไสย  คือ ทางหลวง
หมายเลข  2367 ตอนแยกทางหลวงหมายเลข 23 - บ.ม่วง  ในเขตตำบลเกิ้ง  และตำบลลาดพัฒนา  อำเภอเมือง 
จังหวัดมหาสารคาม ได้ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมช่วงกิโลเมตรที่ 1+600 ถึง  7+350  เป็นช่วง ๆ  เพื่อบรรเทา
ความเดือดร้อนของผู้ใช้เส้นทาง  และได้ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่  7 กรกฎาคม  2545  นอกจากนี้ได้พิจารณา
ดำเนินการซ่อมแซมถนนสายดังกล่าวในช่วงอื่น ๆ อีก  ในปีงบประมาณ  พ.ศ.  2546  และให้ประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาต่อไป