ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 8 จากทั้งหมด 11 หน้า แสดงรายการที่ 141 - 160 จากข้อมูลทั้งหมด 208 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
141 | การประชุม Intergovernmental Negotiation Body และการประชุม Working Group on Amendments to the International Health Regulations (2005) | สธ. | 14/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบกรอบการเจรจา ท่าทีของการเจรจา และแนวทางของไทยสำหรับการประชุม Intergovernmental Negotiation Body (INB) และการประชุม
Working Group on Amendments to the International Health Regulations
(2005) มีสาระสำคัญ เช่น (๑) จะให้ความเห็นในเชิงหลักการและทางเทคนิค
โดยจะคำนึงถึงประเด็นที่สำคัญต่อไทย คำนึงถึงกฎหมายภายในประเทศ (๒)
เน้นย้ำหลักการของการดำเนินการด้านต่าง ๆ เช่น การสร้างความเสมอภาค
การสร้างเสริมสมรรถนะอย่างยั่งยืน และการแลกเปลี่ยนข้อมูล (๓)
เน้นย้ำการขับเคลื่อนระบบสนับสนุนทั้งด้านกลไกทางการเงินและด้านเทคนิคและเทคโนโลยี ๒.
อนุมัติให้คณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม Intergovernmental
Negotiation Body (INB) และการประชุม Working Group on
Amendments to the International Health Regulations (2005) ประกอบด้วย
(๑) กระทรวงสาธารณสุข (๒) กระทรวงการต่างประเทศ และ (๓) หน่วยงานอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่อร่วมเจรจาอนุสัญญา
ข้อตกลง หรือตราสารระหว่างประเทศอื่น ๆ ขององค์การอนามัยโลก ด้านการป้องกัน
การเตรียมความพร้อม
การรับมือกับการระบาดและการฟื้นฟูระบบสุขภาพภายหลังการระบาดของโรค
ตลอดจนการเจรจาปรับแก้กฎอนามัยระหว่างประเทศ ๒๐๐๕ โดยให้ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข
เป็นหัวหน้าคณะ
โดยไม่ต้องมีการเสนอองค์ประกอบคณะผู้แทนของฝ่ายไทยให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเป็นรายกรณี ๓.
อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมพิจารณาหารือกับหน่วยงานอื่น
ๆ ที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการโดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีก
ในกรณีที่มีการปรับเปลี่ยนกรอบการเจรจาดังกล่าวที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือขัดผลประโยชน์ของไทย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
142 | การจ่ายค่าตอบแทนพิเศษให้แก่พนักงานที่มีเงินเดือนเต็มขั้นของธนาคารอาคารสงเคราะห์ | กค. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษให้แก่พนักงานที่มีเงินเดือนเต็มขั้นของธนาคารอาคารสงเคราะห์
ตามผลการประเมินปฏิบัติงานประจำปี ในอัตราร้อยละ ๔-๖
ของค่ากลางในการเลื่อนขั้นเงินเดือนของพนักงาน (Midpoint) ภายใต้กรอบวงเงินไม่เกินร้อยละ
๓.๗๕ ของฐานเงินเดือนค่าจ้างรวมของพนักงานที่มีเงินเดือนเต็มขั้นประจำปีนั้น ๆ
ดังนี้ ๑.
หลักเกณฑ์การจ่ายตามการประเมินการปฏิบัติงานประจำปี ๑.๑
เท่ากับระดับ A+ ให้ได้รับเงินค่าตอบแทนพิเศษไม่เกินอัตราร้อยละ ๖ ของ Midpoint ๑.๒
เท่ากับระดับ A ให้ได้รับเงินค่าตอบแทนพิเศษไม่เกินอัตราร้อยละ ๕ ของ Midpoint ๑.๓
เท่ากับระดับ S ให้ได้รับเงินค่าตอบแทนพิเศษไม่เกินอัตราร้อยละ ๔ ของ Midpoint ๑.๔
เท่ากับระดับ N ระดับ D ไม่ได้รับเงินตอบแทนพิเศษ ๒.
การจ่ายค่าตอบแทนพิเศษให้แก่พนักงานที่มีเงินเดือนเต็มขั้นตามผลการประเมินการปฏิบัติงานประจำปีนั้น
ไม่ถือเป็นเงินเดือน ไม่เป็นการจ่ายเป็นประจำ และไม่ใช้เป็นฐานในการคำนวณสิทธิประโยชน์ต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินเดือนในทุกกรณี ๓. ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๗
มีนาคม ๒๕๖๖) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการคลัง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน
โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อภาระที่จะเพิ่มขึ้นด้วย ควรคำนึงถึงภารกิจ หน้าที่
สถานภาพทางการเงิน และขีดความสามารถในการหารายได้ขององค์กรร่วมด้วย
เพื่อไม่ให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาล
และไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินขององค์กรนั้น ๆ และกระทรวงการคลังควรกำกับให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ปฏิบัติตามแนวทางค่าใช้จ่ายอย่างเคร่งครัด
และกำหนดตัวชี้วัดเพื่อติดตามประเมินผลสำเร็จของแนวทางดังกล่าว
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
143 | การขอความเห็นชอบต่อร่างคำมั่นโดยสมัครใจ (Voluntary Commitment) ในการประชุมทบทวนการดำเนินการด้านน้ำในห้วงแรกของทศวรรษระหว่างประเทศแห่งการดำเนินการ “น้ำสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน” ค.ศ. 2018 - 2023 (Midterm Comprehensive Review of the Implementation of the Objectives of the International Decade for Action “Water for Sustainable Development”: United Nations 2023 Water Conference) | นร.14 | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างคำมั่นโดยสมัครใจ
(Voluntary Commitment) ที่ประเทศไทยจะประกาศ
ในหัวข้อ “ประเทศไทยให้ความสำคัญกับความมั่นคงน้ำอุปโภคบริโภค
เพื่อการเข้าถึงน้ำสะอาดของทุกภาคส่วน” ในการประชุมทบทวนการดำเนินการด้านน้ำในห้วงแรกของทศวรรษระหว่างประเทศแห่งการดำเนินการ
“น้ำสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน” ค.ศ. ๒๐๑๘-๒๐๒๓
(Midterm Comprehensive Review of the Implementation of the Objectives of the
International Decade for Action “Water for Sustainable Development”: United
Nations 2023 Water Conference) ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๔ มีนาคม ๒๕๖๖ ณ
สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยร่างคำมั่นฯ มีสาระสำคัญเป็นการมุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพน้ำอุปโภคบริโภคในชนบท
และพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ ให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้นเทียบเท่าชุมชนเมือง
ในราคาที่เหมาะสม พร้อมทั้งเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุน และปรับปรุงระบบประปาชนบท ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการบริหารจัดการน้ำ
ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างคำมั่นฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
144 | ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายโครงการฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง (โครงการหนองขวัญ) | กษ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๓๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายโครงการฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง (โครงการหนองขวัญ) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
รับความเห็นของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่ควรพิจารณาศึกษาและปรับปรุงเป็นโครงสร้างถาวรเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า
และการใช้ประโยชน์ในอนาคต และจัดทำแผนการดำเนินงาน พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประชาชนเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
145 | หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต [กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))] (ฉบับที่ 3) | สธ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต [กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
หรือโรคโควิด ๑๙ (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19))] (หลักเกณฑ์
UCEP Plus) (ฉบับที่ ๓) โดยแก้ไขหลักเกณฑ์ UCEP Plus และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มเติมรายการยาต้านไวรัสโควิด ๑๙
ในบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ UCEP Plus หมวดที่
๓ ค่ายา จำนวน ๑ รายการ ได้แก่ รายการยาต้านไวรัส Molnupiravir 200 mg ในอัตรา ๑๕ บาท/เม็ด ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเกี่ยวกับการให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้บริหารการจัดหายาและให้สถานพยาบาลเบิกจ่ายยาไปที่กระทรวงสาธารณสุข
เป็นแนวทางเดียวกันทุกกองทุน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
146 | การให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G1/65 G2/65 และ G3/65 | พน. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้สิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต
โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๒๒ (๑) และวรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๓ มาตรา ๕๓/๑ และมาตรา ๕๓/๘
แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
แก่ผู้ขอสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต ๑.๑.๑
อนุมัติให้บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
เป็นผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข
G1/65 และ G3/65 ๑.๑.๒
อนุมัติให้บริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
เป็นผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข
G2/65 ทั้งนี้
กระทรวงพลังงานได้จัดทำร่างสัญญาแบ่งปันผลผลิตของทั้ง ๓ แปลงสำรวจข้างต้น ตามแบบ
ชธ/ป๑๒ ท้ายกฎกระทรวงกำหนดแบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต พ.ศ. ๒๕๖๑ ๑.๒
อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมีอำนาจลงนามกับผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข
G1/65 G2/65 และ G3/65 โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๕๓/๒ แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔
และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๑.๓
เห็นชอบให้ใช้ข้อกำหนดการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการในสัญญาแบ่งปันผลผลิตของแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข
G1/65 G2/65 และ G3/65 ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘
๒.
ให้กระทรวงพลังงาน (กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ)
รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เห็นว่า
การดำเนินการในขั้นตอนสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ G3/65 ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
จะต้องไม่ขัดต่อมาตรการทางกฎหมายที่กำหนดในกฎกระทรวงดังกล่าว
ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
147 | ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2561 [เรื่อง ผลการดำเนินการตามมาตรา 5/8 แห่งพระราชบัญญัติองค์การมหาชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 เรื่อง แนวทางการควบคุมดูแลกิจการของคณะกรรมการองค์การมหาชน] เกี่ยวกับกรอบเวลาในการทบทวนความจำเป็นในการคงอยู่หรือยุบเลิกองค์การมหาชน | นร.12 | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ [เรื่อง ผลการดำเนินการตามมาตรา
๕/๘ แห่งพระราชบัญญัติองค์การมหาชน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ เรื่อง
แนวทางการควบคุมดูแลกิจการของคณะกรรมการองค์การมหาชน] ข้อ ๕
ที่ให้สำนักงาน ก.พ.ร. พิจารณาทบทวนความจำเป็นในการคงอยู่หรือยุบเลิกองค์การมหาชนที่มีอยู่ในปัจจุบัน
โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่และวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งหน่วยงานตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การทบทวนความจำเป็นในการคงอยู่หรือยุบเลิกองค์การมหาชน)
เป็นประจำทุกปีงบประมาณ ตามที่คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาขนเสนอ และให้
สำนักงาน ก.พ.ร.
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาเพิ่มเติมกิจกรรมการประเมินหรือติดตามผลรายปีหรือในช่วงระหว่างปีที่เกี่ยวข้องกับการประเมินความคุ้มค่าเพื่อพัฒนาองค์การมหาชน
เพื่อให้องค์การมหาชนนำไปปฏิบัติก่อนเข้ารับการประเมินความคุ้มค่าเพื่อพัฒนาองค์การมหาชน
ทุกสามปี โดยให้ความสำคัญกับด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ
และผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการประเมิน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในภาพรวมของการปฏิบัติราชการ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
148 | พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 | สผ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร่วมกันเข้าชื่อเสนอความเห็นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา ๑๗๓ ว่า
พระราชกำหนดฉบับดังกล่าวไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้บัญญัติไว้นรัฐธรรมนูญ มาตรา
๑๗๒ วรรคหนึ่ง และมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม (การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ)
สำนักงานตำรวจแห่งชาติกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทำคำชี้แจงและเอกสารประกอบในเรื่องดังกล่าวเป็นการด่วน
แล้วจัดส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อเตรียมการไว้เป็นการล่วงหน้าสำหรับประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ตามแนวทางปฏิบัติ อ้างถึง ๒ (หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร ๐๕๐๓/ว ๓๘๐
ลงวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๒) ตามที่สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
149 | ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เรื่อง การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร) | นร.05 | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(นายวิษณุ เครืองาม) เสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์
๒๕๖๖ อนุมัติรับโอน พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอนั้น เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและต่อเนื่อง
จึงขอเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์
๒๕๖๖ เรื่อง
การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร)
และให้คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่เดิมต่อไปอีกไม่เกินหนึ่งปี ตามมาตรา ๕๘
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีมติอนุมัติตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
150 | ขออนุมัติผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ เพื่อจัดตั้งวัดบ้านห้วยน้ำผัก (ที่พักสงฆ์เทิดพระเกียรติสิรินธร) จังหวัดเลย | พศ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่
๑ เอ ตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๑๔-๓-๔๖ ไร่ เพื่อจัดตั้งวัดบ้านห้วยน้ำผัก
(ที่พักสงฆ์เทิดพระเกียรติสิรินธร) ตำบลแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย
ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ
และให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงกลาโหม
กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย
และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการจำกัดมิให้มีการขยายขอบเขตของการใช้ประโยชน์ป่าไม้เพิ่มขึ้น
การปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
การป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรวมถึงการควบคุมมิให้มีการใช้พื้นที่เพื่อแสวงหาประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่ไม่บังเกิดผลดีต่อส่วนรวม
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
151 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ บางส่วน ในท้องที่ตำบลแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย พ.ศ. .... | ทส. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าภูเปือย
ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ บางส่วน ในท้องที่ตำบลแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการเพิกถอนอุทยานแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า
และป่าภูเรือ บางส่วน ในท้องที่จังหวัดเลย เพื่อเป็นที่ตั้งวัดบ้านห้วยน้ำผัก
(สำนักสงฆ์เทิดพระเกียรติสิรินธร)
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
152 | การเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์มองโกเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์มองโกเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต (นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล) | กต. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑.
การเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์มองโกเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต
โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา ๒. แต่งตั้ง นายณัฐพงศ์
พันธเกียรติไพศาล ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์มองโกเลีย ณ จังหวัดภูเก็ต
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
153 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจทางการเงินบางประเภทอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 พ.ศ. .... (เพื่อกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลิสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์) | กค. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจทางการเงินบางประเภทอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน
พ.ศ. ๒๕๕๑ พ.ศ. .... (เพื่อกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลิสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์)
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ธุรกิจให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลิสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน
พ.ศ. ๒๕๕๑ และมีธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจดังกล่าว
เพื่อให้การประกอบธุรกิจดังกล่าวมีการกำกับดูแลเป็นการเฉพาะและคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้บริการมากยิ่งขึ้น
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคร่วมกันกำหนดแนวทางกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจภายใต้ร่างพระราชกฤษฎีกาฯ
และผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาหารือร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางในการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตการกำกับดูแลต่อไป ๔.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกำกับดูแลธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลิสซิ่งให้ครอบคลุมสินทรัพย์ประเภทอื่นเพื่อให้การกำกับดูแลเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
154 | ขออนุมัติโครงการปรับปรุงโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ เครื่องที่ 4-5 และโครงการปรับปรุงโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนรัชชประภา เครื่องที่ 1-3 | พน. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
155 | โครงการพัฒนาระบบเคเบิ้ลใต้ทะเลไปยังบริเวณอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า | พน. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
156 | การขยายระยะเวลาและรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 9 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 | สธ. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการขยายระยะเวลาและรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา
๙ และมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาในการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา
๙ และมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ออกไปอีก ๑ ปี
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขจัดให้มีการเผยแพร่รายการเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการได้ต่อสาธารณชนตามที่กฎหมายกำหนด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
157 | ขออนุมัติดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง จังหวัดเชียงราย | กษ. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยกรมชลประทาน ดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง จังหวัดเชียงราย ภายในกรอบวงเงิน ๑,๓๒๕,๒๘๕,๐๐๐ ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ ๓ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗-๒๕๖๙) ทั้งนี้
ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งดำเนินการตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะกรรมการการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติด้วย
สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง จังหวัดเชียงราย
ให้กรมชลประทานจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ตามความสามารถในการใช้จ่ายและการก่อหนี้ผูกพันภายในปีงบประมาณ
ที่สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอย่างเคร่งครัด
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งความเห็นและข้อเสนอแนะของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เช่น กรณีประชาชนได้รับผลกระทบและประสงค์จะขอรับการจัดที่ดินทำกินสามารถยื่นความประสงค์ผ่านคณะกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดในพื้นที่ได้ได้
ให้ความสำคัญกับการควบคุมและกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านสาธารณสุข ทั้งในระยะก่อนก่อสร้าง
ระยะก่อสร้าง และระยะดำเนินการ ที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
158 | ปฏิญญาเสียมราฐว่าด้วยอนาคตของการท่องเที่ยวในกรอบ ACMECS | กก. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
159 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายยศพล เวณุโกเศศ) | ศธ. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
160 | ขออนุมัติ (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2566 - 2570 | สพร. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||