ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 32 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 621 - 640 จากข้อมูลทั้งหมด 2031 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 621 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการสร้างภาพยนตร์ต่างประเทศในราชอาณาจักร | กก. | 20/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการสร้างภาพยนตร์ต่างประเทศในราชอาณาจักร
วงเงิน ๒๑๒,๑๐๒,๘๒๙.๖๒
บาท ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณฯ
รวมทั้งจะได้เร่งคืนเงินตามมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยให้แก่ผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศทั้ง
๖ เรื่องดังกล่าวภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรร่วมมือเพื่อวางกลยุทธ์การใช้ประโยชน์จากการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
อาทิ การถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ให้กับบุคลากรและธุรกิจภาพยนตร์ของไทย
และการส่งเสริมและการสนับสนุนประเด็นยุทธศาสตร์และนโยบายการพัฒนาของประเทศไทยผ่านภาพยนตร์ต่างประเทศในรูปแบบ
Soft Power เป็นต้น รวมทั้ง อาจพิจารณามาตรการจูงใจอื่น ๆ
เพิ่มเติมในระยะต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 622 | กรอบการวิจัยเพื่อพัฒนากระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2566-2569 | ยธ. | 20/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรอบการวิจัยเพื่อพัฒนากระบวนการยุติธรรม
พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๙
ซึ่งถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทสังคมและแนวทางการจัดทำข้อเสนอวิจัยตามพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์
การวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ๒๕๖๒ ประกอบด้วย (๑) กรอบการวิจัยเพื่อพัฒนากระบวนการยุติธรรมทางอาญา
เพื่อสร้างสังคมที่เป็นธรรมและการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมอย่างสงบสุข (๒)
กรอบการวิจัยเพื่อพัฒนากระบวนการยุติธรรมทางแพ่ง ปกครอง
เพื่อสร้างสังคมที่เป็นธรรมและการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมอย่างสงบสุข (๓)
กรอบการวิจัยเพื่อพัฒนากฎหมายให้กฎหมายมีความทันสมัยสอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและภาวะวิกฤติ
(๔) กรอบการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในกระบวนการยุติธรรม
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการยุติธรรม ทันสมัยสอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
และภาวะวิกฤติ และ (๕) กรอบการวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม
ให้มีระบบการบริหารจัดการที่ทันสมัยสอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
และภาวะวิกฤติ ตามที่คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติเสนอ
และให้คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติและหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานศาลปกครอง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 623 | การสิ้นสุดหน้าที่ของกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำเมืองชตุทท์การ์ท และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองชตุทท์การ์ท (นายดาฟิท เคล็ทท์) | กต. | 20/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑. รับทราบการสิ้นสุดหน้าที่ของ
นางมารีอันเนอ ซอร์น (Mrs. Marianne Zorn) กงสุลกิตติมศักดิ์ประจำเมืองชตุทท์การ์ท สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ เนื่องจากขอลาออกจากตำแหน่ง ๒. อนุมัติแต่งตั้ง
นาย.ดาฟิท เคล็ทท์ (Mr. David Klett) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำเมืองชตุทท์การ์ท สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สืบแทน
นางรีอันเนอ ซอร์น
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 624 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวลักษณวดี ธนามี และนายชาครีย์ บำรุงวงศ์) | คค. | 20/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงคมนาคม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย
ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ
ดังนี้ ๑. นางสาวลักษณวดี ธนามี ดำรงตำแหน่งนักวิชาการขนส่งทรงคุณวุฒิ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร
ตั้งแต่ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ๒.
นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก
(นักวิชาการขนส่งทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัด กระทรวง ตั้งแต่วันที่
๒๐พฤษภาคม ๒๕๖๕
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 625 | รัฐบาลสาธารณรัฐลิทัวเนียเสนอขอให้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐลิทัวเนียประจำสาธารณรัฐสิงคโปร์มีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทย | กต. | 20/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐลิทัวเนียประจำสาธารณรัฐสิงคโปร์มีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 626 | ร่างเอกสารสำหรับการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน ครั้งที่ 40 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | พน. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบต่อร่างเอกสารสำหรับการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน ครั้งที่ ๔๐ และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง
จำนวน ๔ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน
ครั้งที่ ๔๐ (๒) ร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนบวกสาม ครั้งที่
๑๙ (๓) ร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมสุดยอดรัฐมนตรีพลังงานแห่งเอเชียตะวันออก
ครั้งที่ ๑๖ และ (๔) ร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่าง
สปป.ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ครั้งที่ ๓ และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
(หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน)
เป็นผู้ให้การรับรองในเอกสารสำหรับการประชุมดังกล่าวกับรัฐมนตรีพลังงานของกลุ่มประเทศสมาชิกได้
โดยร่างถ้อยแถลงร่วมฯ มีสาระสำคัญ เช่น
ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงการอภิปรายสถานการณ์และแนวทางที่เป็นไปได้ในการบรรลุเป้าหมายด้านความมั่นคงทางพลังงานและการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในระยะยาว
ส่งเสริมการสนับสนุนความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาและองค์กรระหว่างประเทศ
เพื่อพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนและข้อตกลงความร่วมมือด้านพลังงานที่เป็นประโยชน์ส่วนรวม
ส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนบวกสามในด้านการพัฒนาพลังงานสะอาด
พลังงานหมุนเวียน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
การแลกเปลี่ยนแนวทางการสำรองน้ำมันและก๊าซ และการเสริมสร้างความยืดหยุ่นของระบบ
เพื่อความมั่นคงทางพลังงานร่วมกันในภูมิภาค เป็นต้น ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารทั้ง ๔ ฉบับ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 627 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งเป็นค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง และขออนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เรื่อง ขออนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ | พน. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงรายการค่าเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน
เป็นค่าตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง สำหรับประเด็นการขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ กรณีสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานได้จัดทำหนังสือสัญญาเช่ารถประจำตำแหน่งมีระยะเวลาน้อยกว่าที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบไว้แล้ว
เห็นว่า เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ได้อนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
กรณีเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการต่ำกว่า ๕ ปี ด้วย
หากการเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงานดังกล่าวมีระยะเวลาต่ำกว่า
๕ ปี เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า สำนักนโยบายและแผนพลังงานได้ทำสัญญาเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งดังกล่าวเป็นระยะเวลา
๔ ปี ๔ เดือน อีกทั้งปัจจุบันได้ยกเลิกสัญญาเช่ารถยนต์ดังกล่าวแล้ว
กรณีนี้จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาแต่อย่างใด ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง
และให้กระทรวงพลังงาน (สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน) รับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 628 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายปารเมศ โพธารากุล) | กษ. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายปารเมศ โพธารากุล
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ กันยายน ๒๕๖๕) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 629 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามร่างบันทึกความเข้าใจ (MOU) โครงการเมืองยางพาราและความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมยาง แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) | กษ. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจโครงการเมืองยางพาราและความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมยาง
แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามฝ่าย อินโดนีเซีย–มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๕ และอนุมัติให้
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย
เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจ (MOU)
โครงการเมืองยางพาราและความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมยาง
แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามฝ่าย อินโดนีเซีย–มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Powers) ให้ นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย
เป็นผู้ลงนามเอกสารดังกล่าวข้างต้น โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
Northern Corridor Implementation Authority (NCIA) ประเทศมาเลเซีย และการยางแห่งประเทศไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างความเข้าใจความเข้มแข็งของห่วงโซ่คุณค่าอุตสาหกรรมยางพารา
โดยจะร่วมมือกันกำหนดนโยบายและทิศทางการดำเนินกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยาง
การเสริมสร้างศักยภาพของเมืองยางพารา (Rubber Cities) ของทั้งสามประเทศสมาชิกความร่วมมือด้านงานวิจัยและผลิตภัณฑ์ยาง
นวัตกรรม และเทคโนโลยีความร่วมมือด้านมาตรฐานและการรับรอง
การแสวงหาและเสนอความร่วมมือผ่านเครือข่ายเมืองยางพาราระหว่างอนุภูมิภาค IMT-GT
และภูมิภาคอาเซียน (ASEAN)
ตลอดจนความร่วมมือด้านธุรกิจ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจโครงการเมืองยางพาราและความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมยางแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามฝ่าย
อินโดนีเซีย–มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 630 | รัฐบาลสาธารณรัฐอิตาลีเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย (นายเปาโล ดีโอนีซี) | กต. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายเปาโล ดีโอนีซี (Mr. Paolo Dionisi) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายโลเรนโซ กาลันตี (Mr. Lorenzo
Galanti) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 631 | ขอความเห็นชอบร่างตารางข้อผูกพันด้านบริการ ภายใต้องค์การการค้าโลกของไทย ที่จะผูกพันวินัยในการใช้กฎระเบียบภายใน | พณ. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างตารางข้อผูกพันด้านบริการ
ภายใต้องค์การการค้าโลกของไทย ที่จะผูกพันวินัยในการใช้กฎระเบียบภายใน
โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์นำร่างตารางข้อผูกพันของไทย
เข้าสู่กระบวนการภายใต้องค์การการค้าโลกเพื่อให้การปรับปรุงร่างตารางข้อผูกพันดังกล่าวมีผลผูกพันทางกฎหมาย
ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญ และไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย
ขอให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ใช้ดุลยพินิจในเรื่องนั้น ๆ
โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก
และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามพันธกรณีตามร่างตารางข้อผูกพันที่ผูกพันการใช้กฎระเบียบภายในต่อไป
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างตารางข้อผูกพันด้านบริการ
ภายใต้องค์การการค้าโลกของไทย ที่จะผูกพันวินัยในการใช้กฎระเบียบภายใน
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นควรดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป
และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปทบทวนกระบวนการที่ใช้อยู่ในปัจจุบันให้สอดคล้องกับวินัยในการใช้กฎระเบียบภายในดังกล่าว
โดยมีกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ประสานงานและติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ไปพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 632 | ขออนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการจ่ายเงินงบอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | พม. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการจ่ายเงินงบอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
จำนวน ๙๓๓,๕๕๗,๑๐๐ บาท
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาเห็นชอบให้กรมกิจการเด็กและเยาวชนใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (กรมกิจการเด็กและเยาวชน)
รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ที่ควรให้ความสำคัญในการควบคุม
กำกับ ดูแล และดำเนินโครงการดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่า
และเกิดประโยชน์สูงสุด และควรตรวจสอบข้อมูลผู้มาลงทะเบียนให้ถูกต้อง
และกำกับดูแลการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดให้เป็นไปตามระเบียบ
หลักเกณฑ์ วิธีการ และคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ ตลอดจนกำหนดให้มีกลไกการติดตาม
ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินอุดหนุนดังกล่าวที่ชัดเจน ดำเนินการด้วยความสุจริต โปร่งใส
มีประสิทธิ ภาพ และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน
รวมถึงภาระการเงินการคลังที่อาจเกิดขึ้นแก่รัฐในอนาคต
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 633 | ร่างพระราชบัญญัติการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565)) | ปสส. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๕
ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร
พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 634 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (1. นายดนัย สังข์ทรัพย์ ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | สธ. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายดนัย สังข์ทรัพย์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) โรงพยาบาลพุทธชินราช
พิษณุโลก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๒
ตุลาคม ๒๕๖๔ ๒. นายอาจินต์ ชลพันธุ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน)
กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ ๓. นายพรศักดิ์ อยู่เจริญ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเวชกรรมป้องกัน) กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๔
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 635 | รายงานประจำปี 2564 และรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา | ศธ. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี
๒๕๖๔ และรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา มีผลการดำเนินงานจำแนกตามพันธกิจต่าง
ๆ เช่น พัฒนามาตรฐานวิชาชีพ และกำกับ ดูแลการประกอบวิชาชีพ พัฒนาวิชาชีพ
และส่งเสริมครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ ประสาน ส่งเสริม การศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพ
พัฒนาระบบบริหารจัดการโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม
และรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน
งบแสดงผลการดำเนินการทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า
ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 636 | ขออนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2570 เพื่อเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ | ยธ. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงยุติธรรม
โดยสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๔๒
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เพื่อเป็นค่าเช่ารถประจำตำแหน่งระดับปลัดกระทรวง หรือเทียบเท่า
ขนาดปริมาณกระบอกสูบไม่เกิน ๒,๐๐๐-๒,๔๐๐ ซีซี พร้อมพนักงานขับรถ จำนวน ๑ คัน อัตราค่าเช่า ๖๒,๑๔๐ บาทต่อคันต่อเดือน ระยะเวลา ๖๐ เดือน (ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๖๕
ถึงเดือนกันยายน ๒๕๗๐) ภายในวงเงิน ๓,๗๒๘,๔๐๐ บาท โดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขี้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๗๔๕,๖๘๐ บาท ให้กระทรวงยุติธรรม
โดยสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
เมื่อร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ มีผลบังคับใช้
ส่วนที่เหลือ จำนวน ๒,๙๘๒,๗๒๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗-๒๕๗๐ โดยให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับวงเงินตามสัญญาตามขั้นตอนต่อไป
และให้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงความจำเป็นและเหมาะสม
สอดคล้องกับเงื่อนเวลาของภารกิจดังกล่าว
และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 637 | การขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสวัสดิการสังคมและการพัฒนา ครั้งที่ 11 (AMMSWD ครั้งที่ 11) และร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนบวกสามด้านสวัสดิการสังคมและการพัฒนา ครั้งที่ 7 (AMMSWD+3 ครั้งที่ 7) | พม. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 638 | รายงานผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน พ.ศ. 2560-2564 ประจำปี พ.ศ. 2564 | กค. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน
พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยแผนพัฒนาฯ
มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการเงิน ๓ ด้าน ได้แก่ ด้านผู้ใช้บริการทางการเงิน
ด้านผู้ให้บริการทางการเงิน และด้านโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน ประกอบด้วย ๓
ยุทธศาสตร์ ๖ กลยุทธ์ ๒๐ มาตรการ ๓๙ กิจกรรม และ ๗๘ โครงการ
โดยมีผลการดำเนินโครงการภายใต้แผนพัฒนาฯ สรุปได้ ดังนี้ (๑) การดำเนินโครงการภายใต้แผนพัฒนาฯ
สำเร็จตามเป้าหมายตัวชี้วัดจำนวนทั้งสิ้น ๗๔
โครงการ จาก ๗๘ โครงการ โดยโครงการส่วนใหญ่สามารถดำเนินการได้สำเร็จเกินกว่าเป้าหมายตัวชี้วัดที่ตั้งไว้
เช่น เพิ่มศักยภาพในการประกอบอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนระดับฐานรากผ่านการสนับสนุนสินเชื่อให้กับประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบ
จำนวน ๑๑๔,๕๑๖.๙๒ ล้านบาท
ลดภาระหนี้สินภาคครัวเรือนอย่างนั่งยืนผ่านการให้สินเชื่อแก่เกษตรกร จำนวน ๙,๔๘๔.๘๔ ล้านบาท (๒)
ผลการดำเนินโครงการที่ตั้งเป้าหมายการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๖๔
จำนวนทั้งหมด ๑๒ โครงการ ดำเนินการได้สำเร็จตามเป้าหมายตัวชี้วัด จำนวน ๙ โครงการ
ครอบคลุม ๗ ประเภทกิจกรรม เช่น สินเชื่อองค์กรชุมชนของธนาคารออมสิน
มียอดสะสมการให้สินเชื่อองค์กรชุมชน จำนวนมากกว่า ๑.๖๙ หมื่นล้านบาท
พัฒนาเกษตรกรลูกค้าโครงการขยายระยะเวลาชำระหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
จำนวนมากกว่า ๒.๔๑ ล้านราย ทั้งนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการภายใต้แผนพัฒนาฯ
ยังคงมีการดำเนินโครงการต่าง ๆ
เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทยให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป และ (๓)
โครงการที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่เป้าหมายตัวชี้วัดกำหนดไว้
จำนวนทั้งสิ้น ๔ โครงการ เนื่องจากหน่วยงานได้รับการจัดสรรงบประมาณล่าช้า ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 639 | ร่างพระราชบ้ญญัติแรงงานสัมพันธ์ในรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565)] | ปสส. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ในรัฐวิสาหกิจ
พ.ศ. .... ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 640 | ขออนุมัติเปลี่ยนวิธีดำเนินการ โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับวังยาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากงานจ้างเหมา เป็น งานดำเนินการเอง ของกรมทางหลวง | คค. | 13/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเปลี่ยนวิธีดำเนินการโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับวังยาว
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากงานจ้างเหมา เป็น งานดำเนินการเอง ของกรมทางหลวง
ในวงเงิน ๔๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ตามนัยข้อ ๗ (๓) ของระเบียบว่าด้วยการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
จำนวน ๖๙,๔๔๔,๔๐๐ บาท
ที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ขยายระยะเวลาเบิกจ่ายงบประมาณได้ถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน
๒๕๖๕ และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ที่กรมทางหลวงได้จัดสรรไว้แล้ว
จำนวน ๑๔๑,๖๖๖,๗๐๐ บาท โดยให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณอีกครั้งตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณพ.ศ.
๒๕๖๒ ประกอบกับหลักเกณฑ์ว่าด้วยการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่าย
การโอนเงินจัดสรรหรือการเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร พ.ศ. ๒๕๖๒
สำหรับงบประมาณในส่วนที่เหลืออีก ๑๙๘,๘๘๘,๙๐๐ บาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยให้กรมทางหลวงเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด
หากไม่สามารถดำเนินการได้งบประมาณนั้นย่อมถูกพับไป โดยผลของกฎหมายตามนัยมาตรา ๔๓
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และหากการดำเนินโครงการดังกล่าว
เข้าข่ายเป็นทางหลวงหรือถนน
ซึ่งมีความหมายตามกฎหมายว่าด้วยทางหลวงทุกขนาดที่ตัดผ่านพื้นที่ที่กำหนด
ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ
หรือการดำเนินการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๒ เอกสารท้ายประกาศ ๔ ลำดับที่ ๒๐
จะต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมดังกล่าวด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
