ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 33 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 641 - 660 จากข้อมูลทั้งหมด 2031 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
641 | ร่างแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติ | ทส. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างแผนแม่บทพัฒนาการป่าไม้แห่งชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้และทรัพยากรป่าไม้
ตลอดจนพัฒนาระบบบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพ
มีเป้าหมายคือเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ของประเทศอย่างน้อยร้อยละ ๔๐ ของพื้นที่ประเทศ
ประกอบด้วย ป่าอนุรักษ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๒๕ ป่าเศรษฐกิจและป่าชุมชนไม่น้อยกว่าร้อยละ
๒๕ ระยะเวลาของแผนตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๘๐ โดยร่างแผนแม่บทฯ ได้กำหนดมาตรการไว้ ๓
ด้าน ตามนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ได้แก่ ด้านการจัดการป่าไม้
ด้านการใช้ประโยชน์ผลิตผลและการบริการจากป่าไม้และอุตสาหกรรมป่าไม้
และด้านการพัฒนาระบบบริหารและองค์กรเกี่ยวกับการป่าไม้ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็น
ข้อเสนอแนะ และข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เช่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรใช้ประโยชน์จากการจัดทำและการดำเนินการตามแผนแม่บทฯ ต่อยอดมิติเศรษฐกิจด้านภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ของไทยที่ได้มาตรฐาน
มีธรรมาภิบาล ตอบโจทย์ความยั่งยืนทั้งห่วงโซ่อุปทาน
เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันในภาวะตลาดโลกที่มีเงื่อนไขและการแข่งขันสูงในปัจจุบัน
การดำเนินบทบาทตามยุทธศาสตร์ต่าง ๆ
ควรกำหนดหน่วยงานหรือคณะบุคคลผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน และเหมาะสม
รวมถึงควรบูรณาการฐานข้อมูลสารสนเทศในภาพรวมทั้งในระดับประเทศ และระดับพื้นที่
ตลอดจนการดำเนินการระหว่างหน่วยงานภาครัฐให้ประสานสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน
ควรเพิ่มการมีส่วนร่วมและรับผิดชอบในประเด็นเรื่องของ
“การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน” เพิ่มเติมนอกจากการอนุรักษ์
การจัดการและการพัฒนาทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน ในส่วนที่ ๕ ข้อ ๕.๑ ประการที่ ๖
และควรคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่ครอบครองและใช้ประโยชน์อยู่เดิม
โดยอาจมีมาตรการเยียวยาหรือช่วยเหลือที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อภาคประชาชน ในส่วนที่
๕ ข้อ ๕.๑ ประการที่ ๙ ส่วนค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์
เพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม
โดยคำนึงถึงความประหยัดและประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับปรุงกฎเกณฑ์หรือเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาตใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้แต่ละประเภทให้มีความเหมาะสม
ชัดเจน สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
และเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
แล้วให้จัดทำเป็นคู่มือการปฏิบัติงาน (Handbook)
เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติได้อย่างถูกต้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกันต่อไป
ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการขอทบทวน
ปรับปรุงหรือยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่อาจมีความซ้ำซ้อนหรือไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
642 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2565 | ทส. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๕
ประกอบด้วย (๑) รายงานสถานการณ์มลพิษของประเทศไทยปี ๒๕๖๔ (๒) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย
ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (๓) ร่างแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พ.ศ.
๒๕๖๕-๒๕๗๐ (๔) ร่างกรอบทิศทางการสนับสนุนเงินกองทุนสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ตามมาตรา ๒๓ (๔) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.
๒๕๓๕ ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ (๕)
การกำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายน้ำทิ้งจากโรงงานผลิตไฟฟ้า
(ยกเว้นโรงงานผลิตไฟฟ้าที่ใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิง) และ (๖)
การกำหนดมาตรฐานฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน ในบรรยากาศโดยทั่วไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
643 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2564 ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร.01 | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี
พ.ศ. ๒๕๖๔ ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ตามที่คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ ทั้งนี้
รายงานประจำปีฯ
ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในคราวประชุมเมื่อวันที่
๑ เมษายน ๒๕๖๕ ด้วยแล้ว โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ ๑) การจัดทำบันทึกความร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
๒) การถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา
นวมินทราชินี/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้แก่องค์กรปกครองส่วนจังหวัด ๓) การกำหนดสัดส่วนรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลและการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ๔)
การจัดทำร่างกฎหมายที่แก้ไขให้เป็นไปตามแผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนแผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
รวมทั้งการวินิจฉัยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
๕) การคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๔ และการส่งเสริมและผลักดันให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับรางวัลการบริหารจัดการที่ดีส่งผลงานเพื่อสมัครขอรับรางวัล
United Nations Public Service Awards (UNPSA) ประจำปี ค.ศ. ๒๐๒๒ และ ๖)
การติดตามผลการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๔ “ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) กับการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”
การประเมินมาตรฐานขั้นต่ำการบริหารจัดการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๔
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
644 | แถลงการณ์แสดงเจตจำนงเข้าร่วมข้อริเริ่ม Preventing Zoonotic Disease Emergence (PREZODE) | สธ. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการของแถลงการณ์แสดงเจตจำนงเข้าร่วมข้อริเริ่ม Preventing Zoonotic Disease Emergence
(PREZODE) และอนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนามในแถลงการณ์แสดงเจตจำนงเข้าร่วมข้อริเริ่ม PREZODE
มีสาระสำคัญเพื่อแสดงเจตจำนงที่จะทำงานร่วมกันของประเทศผู้เข้าร่วมริเริม PREZODE เพื่อป้องกันการเกิดโรคอุบัติใหม่ที่เกิดจากสัตว์
ตามแนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว โดยมีแนวทางการพัฒนาที่สำคัญ เช่น
การพัฒนาและส่งเสริมการประยุกต์ใช้ที่สอดคล้องกับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๓๐
การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านสุขภาพหนึ่งเดียว
การส่งเสริมการเปิดตัวโครงการวิจัย นวัตกรรม การศึกษา และการพัฒนา
และการใช้ประโยชน์จากข้อเสนอแนะจากการบริหารจัดการเหตุการณ์ระบาดของโรคก่อนหน้านี้
เพื่อเสริมสร้างเกณฑ์และวิธีการในการเตรียมความพร้อมใหม่ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์แสดงเจตจำนงเข้าร่วมข้อริเริ่ม Preventing Zoonotic Disease Emergence
(PREZODE)
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นภายใต้แถลงการณ์แสดงเจตจำนงดังกล่าวให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร แล้วแต่กรณี
ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ในโอกาสแรก
โดยพิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามภารกิจเท่าที่จำเป็น คำนึงถึงความประหยัด
และประโยชน์ที่ประเทศชาติและประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
645 | การประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 7 | มท. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
646 | การกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2565 | รง. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง
เรื่อง การกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ ๑๑) ลงวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๕ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลใช้บังคับต่อไป
โดยประกาศฉบับนี้คณะกรรมการค่าจ้างได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๕ ให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มในอัตราวันละ
๘-๒๒ บาท เป็นอัตราวันละ ๓๒๘-๓๕๔ บาท โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม
๒๕๖๕ เป็นต้นไป จำแนกเป็น ๙ อัตรา ได้แก่ (๑) ๓๕๔ บาท/วัน จำนวน ๓ จังหวัด (๒) ๓๕๓
บาท/วัน จำนวน ๖ จังหวัด (๓) ๓๔๕ บาท/วัน จำนวน ๑ จังหวัด (๔) ๓๔๓ บาท/วัน จำนวน ๑
จังหวัด (๕) ๓๔๐ บาท/วัน จำนวน ๑๔ จังหวัด (๖) ๓๓๘ บาท/วัน จำนวน ๖ จังหวัด (๗)
๓๓๕ บาท/วัน จำนวน ๑๙ จังหวัด (๘) ๓๓๒ บาท/วัน จำนวน ๒๒ จังหวัด และ (๙) ๓๒๘
บาท/วัน จำนวน ๕ จังหวัด ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
647 | การประชุมใหญ่ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็ม ปี ค.ศ. 2022 (ITU Plenipotentiary Conference 2022: PP-22) ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) | กสทช. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการประชุมใหญ่ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็ม ปี ค.ศ. ๒๐๒๒ (ITU Plenipotentiary Conference 2022 : PP-22) ของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication
Union : ITU) รวมถึงร่างข้อสงวนต่อกรรมการสารสุดท้าย และมอบหมายให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยหรือผู้แทนไทยที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าคณะพิจารณาใช้ดุลยพินิจตามสถานการณ์
ตามความเหมาะสมในเรื่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อไป ซึ่งมีกำหนดการประชุม ณ
กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ระหว่างวันที่ ๒๖ กันยายน-๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๕
โดยการประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกในการพัฒนาและปรับปรุงการใช้ประโยชน์จากกิจการโทรคมนาคม
รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือด้านโทรคมนาคมแก่ประเทศกำลังพัฒนา
ปัจจุบันมีประเทศสมาชิกรวม ๑๙๓ ประเทศ และมอบอำนาจให้แก่หัวหน้าคณะและรองหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการอภิปราย
ลงมติ และลงนามในกรรมการสารสุดท้ายของการประชุม PP-22 ของ ITU
และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ ออกหนังสือแต่งตั้งผู้แทน โดยมอบอำนาจให้แก่หัวหน้าคณะและรองหัวหน้าคณะผู้แทนไทย
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเสนอ และให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าเอกสารท่าที่ของประเทศไทย
ไม่มีประเด็นที่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับการเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
การออกหนังสือแต่งตั้งผู้แทนโดยกระทรวงการต่างประเทศไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา
๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และควรมอบหมายให้คณะผู้แทนไทยใช้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมระหว่างปี
พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐ แทนการใช้แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
เป็นกรอบในการจัดทำเอกสารท่าทีของประเทศไทย เนื่องจากแผนดังกล่าวได้สิ้นสุดเมื่อปี
พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
648 | การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2565 ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2565) | นร.08 | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี
ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอไม้แก่น
และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และอำเภอกาบัง ออกไปอีก ๓ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๕ จนถึงวันที่ ๑๙ ธันวาคม
๒๕๖๕ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ๒. เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ ดังนี้ ๒.๑ เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอยะหริ่ง อำเภอไม้แก่น
และอำเภอแม่ลาน และจังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และอำเภอกาบัง และร่างประกาศ
เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ
และร่างประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ ๒.๒ รับทราบร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศและคำสั่งนายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ รวม ๓ ฉบับ
ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
649 | สรุปผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง “ปัญหาการถ่ายโอนถนนทางหลวงชนบทให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาการถ่ายโอนถนนทางหลวงชนบทให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง “ปัญหาการถ่ายโอนถนนทางหลวงชนบทให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”
ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาการถ่ายโอนถนนทางหลวงชนบทให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ว่า
ด้านบุคลากรและเครื่องมือเครื่องจักร
สำนักงบประมาณได้สนับสนุนงบประมาณให้กับกรมทางชนบทเพื่อใช้ในการอบรมบุคลากรด้านช่างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ
เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรมีความรู้ความชำนาญ
ซึ่งถือว่ามีความสำคัญที่จะช่วยในการควบคุมดูแลการก่อสร้าง
ปรับปรุงบำรุงรักษาถนนให้มีคุณภาพ
การถ่ายโอนภารกิจงานทางให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการภารกิจก่อสร้างและบำรุงรักษาถนนและสะพานเพื่อพิจารณากลั่นกรองการแก้ไขปัญหาภารกิจทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบทที่ผ่านการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการอำนวยการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัด
เพื่อไม่ให้กระทบต่อหลักการกระจายอำนาจที่กำหนดไว่ก่อนเสนอคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาให้ความเห็นชอบการถ่ายโอนภารกิจคืนไปยังกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทต่อไป
ด้านงบประมาณ ควรเพิ่มงบประมาณตามจำนวนภารกิจที่รับโอนไปดำเนินการ
เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณสอดคล้องกับภารกิจส่วนราชการ
และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีงบประมาณที่เหมาะสมเพียงพอ
ต่อการบำรุงรักษาถนนที่ได้รับการถ่ายโอนในส่วนของเงินอุดหนุนเฉพาะกิจเพื่อก่อสร้างปรับปรุงถนน
ควรจัดสรรตามภารกิจที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการถ่ายโอน
และถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
โดยอาจจะทำแผนพัฒนาการก่อสร้าง/ปรับปรุงถนนในระยะ ๕ ปี และจัดสรรตามแผนพัฒนา
ตามกรอบวงเงินที่ได้รับการจัดสรร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
650 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสสอง ปี 2565 | นร.11 สศช | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะสังคมไทยไตรมาสสอง
ปี ๒๕๖๕ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) ความเคลื่อนไหวทางสังคมไตรมาสสอง ปี ๒๕๖๕
เช่น สถานการณ์แรงงานมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและอัตราการว่างงานลดลงต่ำสุดตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) หนี้สินครัวเรือนในไตรมาสหนึ่ง ปี ๒๕๖๕ มีมูลค่า ๑๔.๖๕
ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ ๓.๖ ซึ่งลดลงจากไตรมาสก่อน ส่วนด้านความสามารถในการชำระหนี้ทรงตัว
และการเจ็บป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นจากโรคที่มาจากฤดูฝน
นอกจากนี้ควรติดตามและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงอย่างใกล้ชิดและกำชับประชาชนให้เห็นถึงความสำคัญของการดูแลป้องกันตนเองจากโควิด-๑๙
(๒) สถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ จำนวน ๓ เรื่อง ได้แก่ ๑) รู้จักรู้ทันผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
๒) พฤติกรรมการลงทุนของคนรุ่นใหม่ในตลาด Cryptocurrency
และ ๓) การทำงานของผู้สูงอายุตอนต้น กลุ่มที่ต้องการให้ความสำคัญ
และประเด็นที่ต้องการคำนึงถึง และ (๓) บทความเรื่อง “วิกฤติความมั่นคงทางด้านอาหาร
: มาตรการและแนวทางยกระดับให้ไทยมีความมั่นคงอย่างยั่งยืน”
มีประเด็นที่ไทยต้องให้ความสำคัญ เช่น การมีอาหารเพียงพอ การเข้าถึงอาหาร
การใช้ประโยชน์จากอาหาร ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
651 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 4/2565 | นร.04 | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
652 | ร่างธรรมนูญว่าด้วยการผังเมือง | มท. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยการผังเมือง
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักการพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการผังเมืองพึงปฏิบัติ
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
โดยให้กระทรวงมหาดไทยรับไปแก้ไขปรับปรุงที่มาของรัฐธรรมนูญว่าด้วยการผังเมืองให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ
และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เช่น ควรกำหนดนิยามศัพท์คำว่า “เขตพัฒนา” และ
“พื้นที่เกษตรกรรมที่มีความสมบูรณ์” ให้ครอบคลุมพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมด้วย
คำว่า “การใช้ประโยชน์ที่ดิน”
โดยกิจกรรมทุกชนิดที่มีการกระทำในลักษณะเป็นประจำไม่ว่ากิจกรรมนั้นประกอบอยู่บน
เหนือ หรือใต้พื้นน้ำ ไม่ว่าจะมีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินนั้นหรือไม่ก็ตาม
ซึ่งในกิจกรรมจะต้องไม่กระทบต่อการไหลของน้ำในระบบน้ำ ควรเพิ่มข้อความ
“จะต้องไม่ก่อให้เกิดการเบี่ยงเบนทางน้ำหรือกระแสน้ำ
หรือกีดขวางการไหลของน้ำในระบบน้ำ
และควรแก้ไขตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการนโยบายการผังเมืองแห่งชาติให้ครบถ้วน
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วเสนอคณะกรรมการนโยบายการผังเมืองแห่งชาติเพื่อพิจารณา
และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
653 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายลัทธจิตร มีรักษ์) | นร.04 | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายลัทธจิตร มีรักษ์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี
(พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้ว ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
654 | ร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ปปท. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
พ.ศ. ๒๕๕๑ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
(คณะกรรมการ ป.ป.ท.) การไต่สวนและการวินิจฉัยชี้มูลของคณะกรรมการ ป.ป.ท.
ในคดีทุจริตต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติและหน้าที่และอำนาจในคดีประพฤติมิชอบซึ่งเป็นหน้าที่และอำนาจโดยตรงของคณะกรรมการ
ป.ป.ท. ทั้งนี้
เพื่อให้เป็นไปตามการดำเนินการเกี่ยวกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒.
รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญ ของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
655 | ขอความเห็นชอบการกู้เงินในประเทศ ปีงบประมาณ 2565 สำหรับแผนงานขยายเขตและปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้า ปี 2565-2566 ซึ่งเป็นแผนงานระยะยาวใหม่ของการไฟฟ้านครหลวง | มท. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้านครหลวง กู้เงินในประเทศ ปีงบประมาณ ๒๕๖๕
สำหรับแผนการขยายเขตและปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้า
ปี ๒๕๖๕-๒๕๖๖ ซึ่งเป็นแผนงานระยะยาวใหม่ของการไฟฟ้านครหลวง
ภายใต้กรอบวงเงิน ๒,๓๐๐
ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้านครหลวง) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๗๑๕/๑๐๓๑๑ ลงวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๕)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ นร ๑๑๒๔/๓๕๘๓ ลงวันที่ ๒๗
มิถุนายน ๒๕๖๕) ที่เห็นว่า การดำเนินการของการไฟฟ้านครหลวง หากมีความจำเป็นต้องขอใช้พื้นที่ขอให้มีการประสานงานล่วงหน้าในขั้นตอนการสำรวจและออกแบบรายละเอียด
ทั้งนี้ ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
และหลักธรรมาภิบาลโดยเคร่งครัดต่อไป
กำหนดมาตรการควบคุมและเร่งรัดการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ของแผนงานและกรอบระยะเวลาที่กำหนด
เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า และสมควรจัดทำแผนการบริหารความเสี่ยงเพื่อรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานตามแผนงานดังกล่าวด้วย
และใช้ความระมัดระวังในการกู้เงิน
โดยพิจารณากู้เงินเพื่อการลงทุนตามความจำเป็นและพิจารณาให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและตลาดการเงินด้วยความรอบคอบ
เพื่อให้สามารถเตรียมการรองรับสถานการณ์ผันผวนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในระยะต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
656 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลเขาดิน อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. .... | มท. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลเขาดิน
อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ. ....
เป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันในท้องที่ตำบลเขาดิน
อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี
เพื่อมอบหมายให้เทศบาลตำบลเขาดินใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานเทศบาลตำบลเขาดิน
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และเพื่อใช้ประโยชน์ในราชการอื่น ๆ ของเทศบาลตำบลเขาดิน
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
657 | การสิ้นสุดหน้าที่ของกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ และรองกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงซาเกร็บ สาธารณรัฐโครเอเชีย และการปิดสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ กรุงซาเกร็บ สาธารณรัฐโครเอเชีย เป็นการชั่วคราว (นายอะลอยซีเย ปัฟโลวิช และนายมีคาเอล ปัฟโลวิช) | กกท. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑. การสิ้นสุดหน้าที่ของ
นายอะลอยซีเย ปัฟโลวิช (Mr. Alojzije Pavlovic) กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ กรุงซาเกร็บ สาธารณรัฐโครเอเชีย ตั้งแต่วันที่ ๓๑
ธันวาคม ๒๕๖๓ เนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ๒. การสิ้นสุดหน้าที่ของ
นายมีคาเอล ปัฟโลวิช (Mr.
Michael Pavlovic) รองกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงซาเกร็บ สาธารณรัฐโครเอเชีย ตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕
เนื่องจากขอลาออกจากตำแหน่ง ๓. การปิดสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์
ณ กรุงซาเกร็บ สาธารณรัฐโครเอเชีย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ในระหว่างที่ฝ่ายไทยสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมมาดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงซาเกร็บ คนใหม่
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
658 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ว่าด้วยอัตราค่าธรรมเนียม | ทส. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง
ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ ว่าด้วยอัตราค่าธรรมเนียม
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกการจัดเก็บค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช
๒๔๘๔ จำนวน ๑๑ รายการ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
659 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 12 กันยายน 2565) | ปสส. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๕
ซึ่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร
พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ในรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ....
ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. .... พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๒๖ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๑๔
กันยายน ๒๕๖๕ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๒๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่
๑๕ กันยายน ๒๕๖๕ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๔
ครั้งที่ ๒๘ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ ๒ กันยายน
๒๕๖๕ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
660 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาวัคซีนต้นแบบตั้งแต่ต้นน้ำและเตรียมความพร้อมรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโรคติดเชี้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) ภายใต้การจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | สธ. | 13/09/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|