ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 4 จากทั้งหมด 4 หน้า แสดงรายการที่ 61 - 80 จากข้อมูลทั้งหมด 80 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
61 | การขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อก่อสร้าง/ปรับปรุง ซ่อมแซมถนน แหล่งกักเก็บน้ำหรือสิ่งสาธารณประโยชน์อื่น ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งได้รับความเสียหายจากสาธารณภัย | มท. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อก่อสร้าง/ปรับปรุง ซ่อมแซมถนน แหล่งกักเก็บน้ำ
หรือสิ่งสาธารณประโยชน์อื่น ๆ
ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ซึ่งได้รับความเสียหายจากสาธารณภัย จำนวน ๗๖ จังหวัด ๒,๗๖๕ โครงการ งบประมาณ ๘,๑๗๑,๕๙๘,๘๐๐ บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
และให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาถนน แหล่งกักเก็บน้ำ และสิ่งสาธารณประโยชน์ดังกล่าวให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
62 | ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2561 [เรื่อง ผลการดำเนินการตามมาตรา 5/8 แห่งพระราชบัญญัติองค์การมหาชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 เรื่อง แนวทางการควบคุมดูแลกิจการของคณะกรรมการองค์การมหาชน] เกี่ยวกับกรอบเวลาในการทบทวนความจำเป็นในการคงอยู่หรือยุบเลิกองค์การมหาชน | นร.12 | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ [เรื่อง ผลการดำเนินการตามมาตรา
๕/๘ แห่งพระราชบัญญัติองค์การมหาชน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ เรื่อง
แนวทางการควบคุมดูแลกิจการของคณะกรรมการองค์การมหาชน] ข้อ ๕
ที่ให้สำนักงาน ก.พ.ร. พิจารณาทบทวนความจำเป็นในการคงอยู่หรือยุบเลิกองค์การมหาชนที่มีอยู่ในปัจจุบัน
โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่และวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งหน่วยงานตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การทบทวนความจำเป็นในการคงอยู่หรือยุบเลิกองค์การมหาชน)
เป็นประจำทุกปีงบประมาณ ตามที่คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาขนเสนอ และให้
สำนักงาน ก.พ.ร.
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาเพิ่มเติมกิจกรรมการประเมินหรือติดตามผลรายปีหรือในช่วงระหว่างปีที่เกี่ยวข้องกับการประเมินความคุ้มค่าเพื่อพัฒนาองค์การมหาชน
เพื่อให้องค์การมหาชนนำไปปฏิบัติก่อนเข้ารับการประเมินความคุ้มค่าเพื่อพัฒนาองค์การมหาชน
ทุกสามปี โดยให้ความสำคัญกับด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ
และผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการประเมิน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในภาพรวมของการปฏิบัติราชการ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
63 | ขอเพิ่มค่าป่วยการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการตั้งคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | สธ. | 07/03/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการเพิ่มค่าป่วยการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน
(อสม.) ให้เหมาะสมกับภาระงานที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับเรื่องนี้ไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับกระทรวงการคลัง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความรอบคอบ
ชัดเจน สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน
ความพร้อมในด้านการเงินการคลังและความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศ
ตลอดจนความเหมาะสมเป็นธรรมในภาพรวมของบุคลากรของรัฐที่มีภารกิจในทำนองเดียวกัน
โดยให้พิจารณาดำเนินการให้ถูกต้อง ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
64 | การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข | นร.04 | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
65 | ขออนุมัติจัดสรรเงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรโครงการโคบาลชายแดนใต้ ของกรมปศุสัตว์ | กษ. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติจัดสรรเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรให้กรมปศุสัตว์ยืมเพื่อไปดำเนินการตามโครงการโคบาลชายแดนใต้
ของกรมปศุสัตว์ มีกำหนดชำระคืนภายใน ๗ ปี ระยะเวลาโครงการ พ.ศ. ๒๕๖๕ ถึง พ.ศ. ๒๕๗๒
โดยอนุมัติวงเงิน ทั้งสิ้น ๑,๕๖๖,๒๐๐,๐๐๐
บาท แยกเป็นเงินยืม จำนวน ๑,๕๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และเงินจ่ายขาด ๑๖,๒๐๐,๐๐๐ บาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๐ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการโคบาลชายแดนใต้
ของกรมปศุสัตว์
เพื่อดำเนินการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อที่สอดคล้องกับความจำเป็นและความต้องการของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมปศุสัตว์)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
และฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น
ควรกำกับดูแลและติดตามประเมินผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการ
เพื่อให้การดำเนินโครงการเกิดประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผลตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
สามารถนำเงินส่งคืนกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรได้อย่างครบถ้วนในระยะเวลาที่กำหนด
พร้อมทั้งเร่งดำเนินโครงการตามแผนงานการดำเนินงานโดยเร็ว และรายงานผลการดำเนินงาน
ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินโครงการต่อคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรอย่างยั่งยืน ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
รวมทั้งให้จัดทำแผนบริหารการจัดความเสี่ยงรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในกรณีที่ผลผลิตในระดับต้นน้ำของโครงการโคบาลชายแดนใต้
ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
66 | การพิจารณามีมติให้มีการโอนบรรดาอำนาจหน้าที่ กิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของบรรดาภารกิจที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของสำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 นี้ใช้บังคับ ไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ | สกมช. | 21/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
67 | ร่างนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด (พ.ศ. 2566-2570) | ยธ. | 21/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
68 | รายงานสรุปผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี 2565 | นร.11 สศช | 14/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี ๒๕๖๕ สรุปสาระสำคัญ
ดังนี้ (๑) การประเมินผลการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย ๖ ยุทธศาสตร์ ๒๓ ประเด็น
๓๗ เป้าหมาย และเป้าหมายระดับแผนแม่บทย่อย ๑๔๐ เป้าหมาย ได้แก่
การประเมินผลในภาพรวม ๖ มิติ เช่น ความอยู่ดีมีสุขของคนไทยและสังคมไทย
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ภาพรวมมีทิศทางที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการเข้าถึงการให้บริการของภาครัฐ
มีการพัฒนาที่ดีขึ้น เป็นต้นการประเมินผลการพัฒนายุทธศาสตร์ ๖ ด้าน เช่น
ภาพรวมการพัฒนาในช่วง ๕ ปีแรก (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๖๕) เช่น ความมั่นคงมีการพัฒนาค่อนข้างคงที่จากความมั่นคงที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
และการสร้างความสามารถในการแข่งขัน
โดยการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลงเล็กน้อยจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย
และผลการประเมินสถานการณ์บรรลุเป้าหมายของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๓ ประเด็น
พบว่า สถานะการบรรลุเป้าหมายของแผนแม่บทฯ ระดับประเด็นมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี
๒๕๖๔ โดยบรรลุค่าเป้าหมายที่กำหนด ๑๒ เป้าหมาย ต่ำกว่าค่าเป้าหมายที่กำหนด ๙
เป้าหมาย ระดับต่ำกว่าค่าเป้าหมายระดับเสี่ยง ๖ เป้าหมาย
และระดับต่ำกว่าค่าเป้าหมายขั้นวิกฤต ๑๐ เป้าหมาย (๒)
ประเด็นท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ เช่น
ข้อมูลขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติไม่เพียงพอและไม่ครอบคลุมประเด็นการพัฒนาในด้านต่าง
ๆ และ (๓) ข้อเสนอแนะในการดำเนินการระยะต่อไป เช่น
หน่วยงานของรัฐต้องปรับกระบวนทัศน์และมองเป้าหมายการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทฯ
เป็นเป้าหมายการทำงานร่วมกัน ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
69 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2564 | กษ. | 14/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
70 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนธันวาคม 2565 | นร.11 สศช | 14/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ
เดือนธันวาคม ๒๕๖๕ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น (๑)
ความก้าวหน้ายุทธศาสตร์ชาติและการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
(ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) (๒) การดำเนินการของหน่วยงานรัฐในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ
(๓) การติดตาม การตรวจสอบ และการประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ และ (๔)
ประเด็นที่ควรเร่งรัดเพื่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
71 | การปรับปรุงโครงสร้างอัตราเงินเดือนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย | คค. | 07/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างอัตราเงินเดือนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
โดยขยายเพดานอัตราเงินเดือนขั้นสูงเฉพาะระดับตำแหน่งที่เกินกว่า ๑๑๓,๕๒๐ บาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓
กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ ดังนี้ (๑) ระดับ ๘ ผู้อำนวยการกอง จาก ๙๙,๙๗๐
บาท เป็น ๑๒๐,๒๗๐ บาท (๒) ระดับ ๙ ผู้อำนวยการฝ่าย จาก ๑๐๘,๘๑๐ บาท เป็น ๑๓๓,๗๗๐ บาท (๓) ระดับ ๑๐
ผู้ช่วยผู้ว่าการ จาก ๑๑๑,๑๖๐ บาท เป็น ๑๓๘,๒๗๐ บาท และ (๔) ระดับ ๑๑ รองผู้ว่าการ จาก ๑๑๓,๕๒๐
บาท เป็น ๑๔๒,๘๓๐ บาท ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้กระทรวงคมนาคมและการทางพิเศษแห่งประเทศไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม
ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ
ควรพิจารณาค่าใช้จ่ายบุคลากรให้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
โดยคำนึงถึงสถานะทางการเงินและผลดำเนินงานของหน่วยงานอย่างรอบคอบ
มีการจัดทำแผนเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานหรือเพิ่มรายได้อย่างต่อเนื่อง
กำหนดตัวชี้วัดเพื่อติดตามประเมินผลสำเร็จของแผนดังกล่าว เช่น กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น
เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ และสามารถเพิ่มรายได้และชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
72 | ขอความเห็นชอบให้การยาสูบแห่งประเทศไทยปรับปรุงบัญชีโครงสร้างอัตราเงินเดือนค่าจ้างของพนักงานโดยการปรับขยายเพดานอัตราค่าจ้างขั้นสูงของพนักงาน ตามบัญชีโครงสร้างอัตราเงินเดือน ระบบ 53 ขั้น | กค. | 31/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
73 | การสร้างหลักประกันความเป็นธรรมให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ | ยธ. | 31/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ.ร.
รับไปพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการดำเนินการเรื่องนี้ให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
โดยให้คำนึงถึงกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้บังคับอยู่แล้วในปัจจุบัน
รวมทั้งบริบทแวดล้อมอื่น ๆ ให้ครอบคลุม ครบถ้วนในทุกมิติ ตลอดจนภาระงบประมาณที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
โดยให้รับความเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม
กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคระกรรมการกฤษฎีกา สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานอัยการสูงสุด
สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานคระกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
และประธานกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วให้กระทรวงยุติธรรมนำเสนอคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติพิจารณาในภาพรวม
ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
74 | ขออนุมัติเงินจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | กก. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติเงินจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินรวม ๓,๙๔๖,๔๓๔,๘๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ด้านการท่องเที่ยว จำนวน ๒ โครงการ ได้แก่
โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส ๕ วงเงิน ๒,๐๑๖,๐๐๐,๐๐๐ บาท และโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
วงเงิน ๑,๙๓๐,๔๓๔,๘๐๐ บาท ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๗๑๓/๓๒๓๓ ลงวันที่ ๑๖ มกราคม
๒๕๖๖) ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการผลักดันการกระจายการท่องเที่ยวสู่เมืองรอง
และขยายฐานตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความต้องการเฉพาะ
โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวไปยังอุตสาหกรรมบริการที่มีมูลค่าสูง
รวมทั้งพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานให้พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว
และพิจารณากำหนดกลไกการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายและบรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยคำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า ผลสัมฤทธิ์หรือผลประโยชน์ที่จะได้รับ
และการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เรื่อง การเสนอเรื่องด่วนต่อคณะรัฐมนตรี (ในการเสนอเรื่องนี้)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
75 | การขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งจะต้องมีการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณมากกว่าหนึ่งปีงบประมาณสำหรับรายการที่มีวงเงินตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ของกระทรวงมหาดไทย | มท. | 24/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทยนำรายการที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐
ล้านบาทขึ้นไป ของ ๓ หน่วยงาน จำนวน ๗ โครงการ วงเงินทั้งสิ้น ๑๕,๔๘๖.๘๔๗๗ ล้านบาท เพื่อเสนอเป็นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามนัยมาตรา ๒๖ ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๕ เรื่อง
แนวทางการจัดทำงบประมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานครรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เช่น
มอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบจัดทำรายละเอียดสาระสำคัญของโครงการ
เพื่อนำเสนอพิจารณาขอความเห็นชอบดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
76 | (ร่าง) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2566-2580) (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) | นร.11 สศช | 17/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบการขอแก้ไขข้อความในหนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ
ด่วนที่สุด ที่ นร๑๑๑๒/๗๑๕๙ ลงวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๕ หน้า ๒ ข้อ ๓.๑ ให้ถูกต้อง
จากเดิม “... มีจำนวนแนวทางรวมทั้งสิ้น ๓๙๒ แนวทาง ...” เป็น “...
มีจำนวนแนวทางรวมทั้งสิ้น ๓๙๑ แนวทาง ...” ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติเสนอเพิ่มเติม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
77 | การจำแนกประเภทหน่วยงานของรัฐในกำกับของฝ่ายบริหาร กรณีกองทุนประกันชีวิต และกองทุนประกันวินาศภัย | นร.12 | 10/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบจำแนกให้กองทุนประกันชีวิต และกองทุนประกันวินาศภัยเป็นหน่วยงานของรัฐในกำกับของฝ่ายบริหารประเภทกองทุนที่เป็นนิติบุคคล
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๒ เรื่อง
การปรับปรุงหลักการจำแนกประเภทหน่วยงานของรัฐในกำกับฝ่ายบริหาร
ตามที่คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง
สำนักงาน ก.พ.ร.
และคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชนรับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณและความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรจะมีรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน ตามพระราชบัญญัติ หรือส่วนราชการ
เป็นหน่วยธุรการรองรับการทำหน้าที่รับผิดชอบในงานธุรการของคณะกรรมการบริหารกองทุน
และควรมีการกำหนดขั้นตอนการพิจารณา กรอบระยะเวลาดำเนินงาน
และหลักการจำแนกหน่วยงานให้มีความชัดเจน
เพื่อให้การดำเนินงานมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
78 | รายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ครั้งที่ 17 (เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2565) | นร.11 สศช | 03/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา
๒๗๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ครั้งที่ ๑๗ (เดือนกรกฎาคม-กันยายน ๒๕๖๕) ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(สศช.) ในฐานะสำนักงานเลขานุการในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
และให้เสนอรัฐสภาเพื่อทราบต่อไป สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑. สรุปภาพรวมการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ สศช.
ได้รวบรวมและประมวลผลข้อมูลการดำเนินการปฏิรูปประเทศทั้ง ๑๓ ด้าน ประกอบด้วย
กิจกรรมปฏิรูปประเทศที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ (Big Rock)
รวมทั้งสิ้น ๖๒ กิจกรรม และกฎหมายที่จัดทำ/ปรับปรุงใหม่ รวม ๔๕ ฉบับ สำหรับรายงานความคืบหน้าฯ
รอบเดือนกรกฎาคม-กันยายน ๒๕๖๕
มีสถานะการดำเนินการของกิจกรรม Big Rock เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในแผนขับเคลื่อนกิจกรรม
Big Rock ร้อยละ ๘๘.๗๑ โดยมีความคืบหน้ามากกว่ารอบที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สำหรับกิจกรรม Big Rock ที่ยังมีความล่าช้า
หน่วยงานรับผิดชอบและหน่วยงานร่วมดำเนินการจะได้เร่งรัดดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาของแผนที่กำหนดไว้ต่อไป ๒. ความคืบหน้ากฎหมายภายใต้แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) ณ
สิ้นเดือนกันยายน ๒๕๖๕ รวม ๔๕ ฉบับ ประกอบด้วย และ (๑)
กฎหมายที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ๙ ฉบับ และ (๒) กฎหมายที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ๓๖
ฉบับ (ซึ่งมีความคืบหน้ากว่ารอบที่ผ่านมา) ๓. ความคืบหน้าของประเด็นที่รัฐสภาให้ความสนใจเป็นพิเศษ สศช.
ได้สรุปรายงานตามประเด็น ในคราวประชุมเมื่อวันจันทร์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
รับทราบรายงานความคืบหน้าการเนินการตาแผนการฏิรูปประเทศ ตามมมาตรา ๒๗๐
ของรัฐธรรมนูญฯ (เดือนมกราคม-มีนาคม ๒๕๖๕) พร้อมทั้งได้สรุปรายงานสถานะความคืบหน้าของกฎหมายที่วุฒิสภาเห็นควรให้ความสำคัญในการเร่งรัด
ทั้ง ๑๐ ฉบับ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการกำกับ ติดตาม
และเร่งรัดดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๔. การดำเนินการในระยะต่อไป สศช.
จะประสานหน่วยงานรับผิดชอบและหน่วยงานร่วมดำเนินการเพื่อเร่งรัดการขับเคลื่อน
การดำเนินการติดตามกิจกรรม Big Rock ภายใต้แผนการปฏิรูปประเทศ
(ฉบับปรับปรุง)
ทั้ง ๑๓ ด้าน ให้แล้วเสร็จและบรรลุเป้าหมายภายในกรอบระยะเวลาของแผนที่กำหนดไว้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
79 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนพฤศจิกายน 2565 | นร.11 สศช | 03/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ
ณ เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น (๑)
ความก้าวหน้ายุทธศาสตร์ชาติและการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (๒)
ความก้าวหน้าการปฏิรูปประเทศ (๓) การติดตาม การตรวจสอบ
และการประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ และ (๔)
ประเด็นที่ควรเร่งรัดเพื่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ
ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
80 | ร่างกฎกระทรวงการต่ออายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยา พ.ศ. .... | สธ. | 03/01/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการต่ออายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ
และเงื่อนไขการขอต่ออายุและการอนุญาตให้ต่ออายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำหรับยา ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรให้มีการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
สังคม สิ่งแวดล้อม และอื่น ๆ ที่สำคัญ
หลังจากได้มีการออกประกาศฉบับนี้เรียบร้อยแล้ว
ควรจัดให้มีช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพให้เกิดการรับรู้ในวงกว้าง
เพื่อแจ้งการดำเนินการตามกฎกระทรวงนี้ไปยังผู้รับในสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยาให้ทราบอย่างทั่วถึง
และให้ดำเนินการตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกฯ
โดยจัดทำคู่มือสำหรับประชาชนและเผยแพร่ตามช่องทางที่กำหนดรวมถึงในเว็บไซต์ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อติดต่อราชการ
(www.info.go.th) ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|