ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 962 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 19221 - 19240 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
19221 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเงินประจำตำแหน่ง เงินค่าเบี้ยประชุม และ เงินตอบแทนอื่นของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครที่มาจากการแต่งตั้ง พ.ศ. .... | มท | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเงินประจำตำแหน่ง เงินค่าเบี้ยประชุม และเงินตอบแทนอื่นของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครที่มาจากการแต่งตั้ง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเงินประจำตำแหน่ง เงินค่าเบี้ยประชุม และเงินตอบแทนอื่นของประธานสภากรุงเทพมหานคร รองประธานสภากรุงเทพมหานคร สมาชิกสภากรุงเทพมหานครที่มาจากการแต่งตั้งตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘๖/๒๕๕๗ เรื่อง การได้มาซึ่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและสมาชิกสภาเขตเป็นการชั่วคราว ลงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19222 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พุทธศักราช 2485 | กค | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พุทธศักราช ๒๔๘๕ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเกี่ยวกับการส่งหรือนำเงินตรา เงินตราต่างประเทศ และตราสารเปลี่ยนมือออกไปนอกหรือเข้ามาในประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถปฏิบัติตามพันธกรณีที่ต้องเข้ารับการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้เมื่อร่างพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙ มีผลบังคับใช้แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19223 | การรับรองเอกสารผลการประชุม World Culture Forum ครั้งที่ 2 ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย | วธ | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างปฏิญญาบาหลีสำหรับการประชุม World Culture Forum ครั้งที่ ๒ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๒-๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ ณ เมืองบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย มีสาระสำคัญมุ่งเน้นการส่งเสริมบทบาทของวัฒนธรรมในการพัฒนาที่ยั่งยืน สนับสนุนให้มีการทำงานเพื่อให้เกิดการบูรณาการวัฒนธรรมที่ชัดเจน ส่งเสริมวัฒนธรรมเพื่อสันติภาพในสังคม เชิดชูและให้คุณค่ากับความหลากหลายและมรดกทางวัฒนธรรม ตลอดจนการทำงานเพื่อให้บรรลุต่อยุทธศาสตร์โลกเพื่อสันติภาพ และการขจัดความไม่เท่าเทียมทางเพศ เป็นต้น ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุม World Culture Forum ครั้งที่ ๒ รับรองในร่างปฏิญญาบาหลีสำหรับการประชุมดังกล่าว ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างปฏิญญาบาหลีในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19224 | สรุปผลการตรวจติดตามผลการบริหารกองทุนของผู้จัดการกองทุนต่างประเทศและการเข้าพบหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อศึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศและระบบประกันสังคม ณ สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ | รง | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการตรวจติดตามผลการบริหารกองทุนของผู้จัดการกองทุนต่างประเทศ และการเข้าพบหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อศึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศและระบบประกันสังคม ณ สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและคณะ ระหว่างวันที่ ๘-๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๙ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
๑. การตรวจติดตามการบริหารเงินกองทุนประกันสังคมที่ลงทุนในต่างประเทศ กองทุนประกันสังคมปัจจุบันมีเงินลงทุน ณ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ จำนวน ๑,๔๕๔,๔๓๕ ล้านบาท ซึ่งเก็บสะสมไว้จ่ายสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตนกว่า ๑๓.๗ ล้านคนทั่วประเทศ ในจำนวนนี้แบ่งเป็นเงินลงทุนต่างประเทศ จำนวน ๔๓,๑๔๒ ล้านบาท โดยบริษัท Blackrock บริหารกองทุนต่างประเทศ ๓ กองทุน มูลค่า ๑๐,๗๓๕ ล้านบาท มีผลตอบแทนจากการลงทุนรวม ๓,๒๑๖ ล้านบาท และบริษัท Morgan Stanley Investment Management บริหารกองทุนต่างประเทศ ๑ กองทุน มูลค่า ๒,๙๘๕ ล้านบาท มีผลตอบแทนจากการลงทุนรวม ๙๙ ล้านบาท ๒. การศึกษาระบบบำนาญสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ณ Government Actuary’s Department (หน่วยงานคณิตศาสตร์ประกันภัยของรัฐบาล) โดยเงินบำนาญจากรัฐบาล มีการจ่ายเงินให้แก่ประชาชนที่เกษียณอายุโดยเก็บภาษีจากประชาชนในแต่ละปี ส่วนเงินบำนาญจากนายจ้าง มีการจัดตั้งกองทุนบำนาญและจ่ายสมทบเข้ากองทุนเพื่อเป็นเงินบำนาญยามเกษียณอายุโดยมีลักษณะเป็นกองทุนบำนาญและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วย ๓. การศึกษาโครงสร้างองค์กรกับบริษัท Willis Tower Watson ที่ปรึกษาด้านการลงทุนและบริหารองค์กร สามารถพัฒนาองค์กรได้ ๔ ด้าน ได้แก่ ด้านกลยุทธ์องค์กร ด้านการบริหารองค์กร ด้านการลงทุน และด้านการทำธุรกรรมซื้อขายหลักทรัพย์ โดยหน่วยงานควรให้ความสำคัญกับด้านกลยุทธ์องค์กรและด้านบริหารองค์กรเนื่องจากสามารถสร้างผลตอบแทนดีกว่าร้อยละ ๑-๒ ต่อปี ๔. การศึกษาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทไทย ที่บริษัท International Beverage Holding Limited (IBHL) โดยบริษัท IBHL เป็นบริษัทในเครือของบริษัท ThaiBev มีหน้าที่ดูแลการลงทุนและขยายกิจการในต่างประเทศทั้งหมด ๕. สถานการณ์ในสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือเมื่อมีการลงมติออกจากสหภาพยุโรป มีความผันผวนในตลาดเงินตลาดการลงทุนมากขึ้น ค่าเงินปอนด์ลดลงกว่าร้อยละ ๑๐ โดยผลกระทบต่อไทยมีไม่มากนัก ผลกระทบต่อการลงทุนของกองทุนประกันสังคมมีผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้เป็นไปในทิศทางที่ดีเนื่องจากราคาพันธบัตรปรับสูงขึ้น ๖. ข้อเสนอแนะจากการตรวจติดตามการลงทุนและเข้าประชุมกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ กองทุนประกันสังคมควรเร่งขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศและกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์ให้หลากหลายประเภท รวมทั้งรัฐบาลควรให้ความสำคัญกับด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยและด้านการลงทุน และมีการปรับโครงสร้างองค์กรโดยแยกหน่วยงานด้านการลงทุนออกจากสำนักงานประกันสังคมเพื่อให้เกิดความคล่องตัว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19225 | ร่างวาระการพัฒนาเมืองใหม่ (New Urban Agenda) | พม | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในหลักการร่างวาระการพัฒนาเมืองใหม่ (New Urban Agenda) มีสาระสำคัญเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติใหม่ที่ผูกพันถึงหน่วยงานระดับย่อย ในการออกแบบและพัฒนาที่อยู่อาศัยและเมืองอย่างยั่งยืนให้รองรับพันธกรณีตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) สร้างความเชื่อมโยงระหว่างเมืองและชนบท ความเชื่อมโยงในมิติด้านสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมในการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน ตลอดจนการสร้างระบบการเงินที่เข้มแข็งเพื่อการเข้าถึงที่อยู่อาศัย ซึ่งสอดคล้องกับพันธกรณีและข้อตกลงระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยในเชิงนโยบาย จะช่วยผลักดันและส่งเสริมการดำเนินงานด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยและการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนของไทย ซึ่งมีความสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๑.๒ เห็นชอบให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยหรือผู้แทนไทยที่ได้รับมอบหมายรับรองในร่างวาระการพัฒนาเมืองใหม่ ๑.๓ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างวาระการพัฒนาเมืองใหม่ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ (๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘) เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการจัดลำดับความสำคัญ เป้าหมาย และเป้าประสงค์ของแต่ละประเทศในการพัฒนาเมืองจะมีประเด็นที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละประเทศ ดังนั้น การทบทวนและติดตามผลเพื่อรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานตามวาระการพัฒนาเมืองใหม่ ควรจะต้องตระหนักถึงความแตกต่างของบริบทในแต่ละประเทศดังกล่าวด้วย ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการพัฒนาเมืองใหม่ จัดระเบียบ และวางผังเมืองต่าง ๆ ให้เป็นระบบ โดยเฉพาะเมืองที่มีการเจริญเติบโตสูงในแต่ละภูมิภาคเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงความเชื่อมโยงกับผังเมืองเดิมด้วย ๔. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19226 | การประชุมผู้นำ BIMSTEC Outreach at BRICS Summit 2016 | กต | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบในหลักการร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมแบบไม่เป็นทางการของผู้นำ BIMSTEC (BIMSTEC Leaders’ Retreat Outcome Document) ซึ่งเป็นเอกสารที่แสดงเจตนารมณ์ของประเทศสมาชิกเกี่ยวกับความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ ทั้งหมด ๑๓ สาขา ภายใต้กรอบความร่วมมือ BIMSTEC ได้แก่ การต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ การค้า การคมนาคมและความเชื่อมโยง สิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดการภัยพิบัติ พลังงาน เทคโนโลยี การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การประมงและเศรษฐกิจสีฟ้า สาธารณสุข และปฏิสัมพันธ์ระหว่างประชาชน โดยจะมีการรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ในการประชุมผู้นำ BIMSTEC Outreach at BRICS Summit 2016 ในวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๙ ณ สาธารณรัฐอินเดีย ๑.๒ อนุมัติให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำ BIMSTEC Outreach at BRICS Summit 2016 เป็นผู้ร่วมให้การรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19227 | ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | กก | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติการจัดทำและลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและ สปป.ลาว โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวในระดับทวิภาคีและระดับอาเซียน อีกทั้งเป็นประโยชน์ต่อบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในการฝึกอบรม แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งการส่งเสริมการตลาดระหว่างกัน ซึ่งจะมีการลงนามในระหว่างการเยือน สปป.ลาว ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ (โดยระบุตำแหน่ง) ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19228 | ร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์การโอนงบประมาณรายจ่ายเพื่อการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. .... | นร07 | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์การโอนงบประมาณรายจ่ายเพื่อการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19229 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (โครงการเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด) | นร07 | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๔๖,๑๑๙,๙๑๗.๕๓ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจ ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด รวม ๑๐ จังหวัด ๔ กลุ่มจังหวัด จำนวน ๕๑ รายการ โดยรวมกรณีของจังหวัดฉะเชิงเทรา ๑ รายการ จำนวน ๑๔,๔๑๒,๐๐๐ บาท ด้วย ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19230 | การสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน | อื่นๆ | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ โดยให้หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ได้แก่ ปลัดกระทรวง อธิบดี และหัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากระทรวง กรม ตลอดจนผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชน มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการสร้างความรับรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของหน่วยงานที่อยู่ในความรับผิดชอบตามแนวทาง ดังนี้
๑. ในการสร้างความรับรู้ความเข้าใจให้เน้นการชี้แจงผลดำเนินงานที่ได้ทำมาแล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่อยู่ในความสนใจหรือเป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน หรือเป็นการแจ้งข่าวเพื่อเตือน หรือแจ้งมาตรการที่กำลังจะมีผลใช้บังคับและมีผลกระทบต่อประชาชน ตลอดจนการชี้แจง แก้ข่าว แจ้งข่าว เพื่อให้ประชาชนทราบว่าหน่วยงานหรือรัฐบาลจะดำเนินการเรื่องใด อย่างไร มุ่งหมายจะแก้ปัญหาใด การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างไร ในกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรืออาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชนทางสื่อต่าง ๆ ให้รีบชี้แจงว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หากข้อมูลที่หน่วยงานมีอยู่เป็นเพียงส่วนหนึ่งซึ่งจะต้องใช้ประกอบกับข้อมูลจากหน่วยงานอื่นด้วย ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งส่งข้อมูลให้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีหรือกรมประชาสัมพันธ์รับไปดำเนินการชี้แจงในภาพรวมโดยด่วนต่อไป ๒. ให้คำนึงถึงความถูกต้องของข่าวสาร ความรวดเร็วทันต่อความจำเป็นที่จะให้ประชาชนมีความรับรู้ความเข้าใจ และการสร้างความเชื่อมั่นในรัฐบาล จึงต้องดำเนินการในเชิงรุก และพิจารณาใช้สื่อรูปแบบต่าง ๆ ตามความจำเป็น เช่น โฆษกประจำหน่วยงาน การมีหนังสือหรือคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร การให้สัมภาษณ์ การแถลงข่าว และที่สำคัญคือการใช้สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งนี้ ให้สื่อของรัฐให้ความร่วมมือในการดำเนินการดังกล่าวและให้ขอความร่วมมือจากสื่อเอกชนตามความจำเป็นด้วย ๓. ในกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้สื่อหรือเครื่องมือสื่อสารเพื่อการสร้างความรับรู้ความเข้าใจ ให้หน่วยงานของรัฐขอคำแนะนำจากกรมประชาสัมพันธ์และสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ตามความจำเป็น ๔. ความสำเร็จในการสร้างความรับรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนตามแนวทางนี้เป็นตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินผลการปฏิบัติราชการของหัวหน้าส่วนราชการทุกแห่ง โดยให้ผู้บังคับบัญชา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนประเมินจากปริมาณและประสิทธิภาพของการชี้แจง ความทันต่อสถานการณ์ และความรับรู้ความเข้าใจของประชาชนตามผลสำรวจของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ดำเนินการอยู่แล้วเป็นปกติ ในกรณีของรัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชน ให้องค์กรกลางที่เกี่ยวข้องนำแนวทางนี้ไปใช้ในการประเมินผู้บริหารด้วย และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนรายงานตัวชี้วัดและผลการประเมินตามแนวทางนี้ต่อนายกรัฐมนตรีทราบเป็นรายกระทรวงทุกสามเดือน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19231 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๖ จากเดิมที่มีคณะกรรมการฯ จำนวน ๓๐ คน เป็นให้มีจำนวน ๔๐ คน ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19232 | มาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยปี 2559/60 | กษ | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี ๒๕๕๙/๖๐ จำนวน ๓ มาตรการ คือ (๑) มาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยปี ๒๕๕๙/๖๐ กรณีได้รับผลกระทบ (๒) มาตรการพักชำระหนี้สิน และขยายระยะเวลาชำระหนี้ แก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยปี ๒๕๕๙/๖๐ และ (๓) มาตรการฟื้นฟูอาชีพสนับสนุนปัจจัยการผลิตและองค์ความรู้เพื่อการปรับตัวต่อภัยพิบัติ สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณและแนวทางการดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณซึ่งอนุมัติหลักการมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยปี ๒๕๕๙/๖๐ จำนวน ๒ มาตรการ ภายในกรอบวงเงินรวมทั้งสิ้น ๒,๐๕๕,๗๒๐,๐๐๐ บาท จำแนกเป็น ๑.๑ การช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยปี ๒๕๕๙/๖๐ โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในกรอบวงเงิน ๑,๙๕๓,๗๒๐,๐๐๐ บาท และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาความเหมาะสมของอัตราการช่วยเหลือเกษตรกร (ครัวเรือนละ ๓,๐๐๐ บาท) ก่อนที่จะดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรตามมาตรการดังกล่าว รวมทั้งเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้อาจมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ เพิ่มเติมตามสิทธิอีกส่วนหนึ่งด้วย ๑.๒ มาตรการพักชำระหนี้สิน และขยายระยะเวลาชำระหนี้แก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยปี ๒๕๕๙/๖๐ ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ดำเนินการขยายระยะเวลาชำระหนี้ในสัญญาเงินกู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยให้กับสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร เป็นระยะเวลา ๖ เดือน โดยรัฐบาลจ่ายดอกเบี้ยให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร แทนสมาชิกในอัตราร้อยละ ๓ ต่อปี ของมูลหนี้ ๖,๘๐๐ ล้านบาท เพื่อเป็นค่าชดเชยดอกเบี้ยให้แก่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ในกรอบวงเงิน ๑๐๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดทำรายละเอียดข้อมูลจำนวนสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยปี ๒๕๕๙/๖๐ และมูลหนี้ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับโครงการอื่นที่ภาครัฐให้ความช่วยเหลือในลักษณะเดียวกันด้วย และให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนมาตรการการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมตลอดทั้งหลักเกณฑ์และวิธีดำเนินการต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินโดยรวดเร็ว เหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์ตามความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19233 | รายงานสรุปผลการทบทวนการกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จของกระทรวง/หน่วยงาน และแผนงานบูรณาการ งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 | นร07 | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีเจ้าสังกัด กำกับให้หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง และหน่วยงานต่าง ๆ นำผลการทบทวนเป้าหมายและตัวชี้วัดความสำเร็จของกระทรวง/หน่วยงานที่ได้ปรับปรุงแล้ว ไปใช้กำกับติดตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐ และให้รายงานผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายและตัวชี้วัดของกระทรวง/หน่วยงาน พร้อมทั้งระบุปัญหา อุปสรรคและแนวทางแก้ไข โดยจัดส่งรายงานเป็นรายเดือน เพื่อสำนักงบประมาณจะได้ติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณ และรวบรวมรายงานดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีเป็นรายเดือนต่อไป ๑.๒ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีเจ้าสังกัด พิจารณาผลการทบทวนเป้าหมายและตัวชี้วัดระดับกระทรวงถ่ายทอดไปสู่หน่วยงานในสังกัดเพื่อกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดระดับหน่วยงานที่สะท้อนถึงผลสำเร็จของงานและแสดงให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ที่ชัดเจนครบถ้วน ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ สามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ส่งผลการพิจารณาทบทวนให้สำนักงบประมาณ ภายในวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ เพื่อสำนักงบประมาณจะได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบในโอกาสแรก ทั้งนี้ ให้นำผลการทบทวนเป้าหมาย ตัวชี้วัดผลความสำเร็จของกระทรวง/หน่วยงาน ไปใช้ประกอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วย ๑.๓ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีที่เป็นประธานกรรมการพิจารณาการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์กำกับให้ส่วนราชการที่เป็นเจ้าภาพหลักนำผลการพิจารณาทบทวนความเชื่อมโยงแผนงานบูรณาการ เป้าหมายและตัวชี้วัด พร้อมทั้งรวบรวมนำส่งสำนักงบประมาณ ภายในวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๙ เพื่อสำนักงบประมาณจะใช้ประกอบการพิจารณาในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19234 | การกำหนดแนวทางการจัดทำงบประมาณและปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | นร07 | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการกำหนดแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และการกำหนดปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19235 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) (นายวิจารย์ สิมาฉายา) | ทส | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิจารย์ สิมาฉายา ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19236 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงวัฒนธรรม) (จำนวน 4 ราย 1. นายชาย นครชัย ฯลฯ) | วธ | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายชาย นครชัย ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายพีรพน พิสณุพงศ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายมานัส ทารัตน์ใจ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการศาสนา ๔. นางสาววิมลลักษณ์ ชูชาติ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19237 | ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย | นร04 | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลการออกเสียงประชามติในประเด็นเพิ่มเติมให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๖/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๙ แล้ว ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19238 | ร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... | นร | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ (เรื่อง ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการทรัพยากรแร่แห่งชาติ พ.ศ. ....) มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการ่วมกันพิจารณาเพื่อให้ได้ข้อยุติเกี่ยวกับการนำหลักการให้มีคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการทรัพยากรแร่แห่งชาติ ไปกำหนดไว้ในร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นั้น ได้มีการประชุมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว เห็นควรให้เพิ่มบทบัญญัติคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการทรัพยากรแร่แห่งชาติไว้ในร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... โดยกำหนดให้องค์ประกอบ อำนาจหน้าที่ และวาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการดังกล่าวให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ๒. มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) ประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19239 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 64/2559 และครั้งที่ 65/2559 | อื่นๆ | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๖๔/๒๕๕๙ วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ และครั้งที่ ๖๕/๒๕๕๙ วันศุกร์ที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19240 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 11/10/2559 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านความมั่นคง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) กำกับให้กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ระนอง สมุทรสาคร เป็นต้น โดยอาจพิจารณาจัด Zoning พื้นที่ที่พักอาศัย รวมทั้งสวัสดิการต่าง ๆ ตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป ๒. ด้านเศรษฐกิจ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพิจารณาความเชื่อมโยงในการดำเนินการตามภารกิจของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้านการวิจัยและพัฒนาสินค้าเกษตร เช่น สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ สถาบันส่งเสริมสินค้าเกษตรนวัตกรรม โดยให้มีการบูรณาการ มิให้มีความซ้ำซ้อนกัน เพื่อให้มีการวิจัยและพัฒนาสินค้าเกษตรทั้งระบบตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ การแปรรูปสินค้าเกษตรเชิงพาณิชย์ สินค้าเกษตรนวัตกรรม ที่เป็นรูปธรรมและสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างแท้จริง อันจะทำให้การพัฒนาสินค้าเกษตรเกิดประสิทธิภาพและเป็นไปอย่างยั่งยืนต่อไป ๓. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมพิจารณาจัดทำกฎหมายเพื่อกำหนดมาตรการในการดูแลช่วยเหลือ ส่งเสริมและสนับสนุนศิลปินแห่งชาติ ซึ่งเป็นปูชนียบุคคลผู้ซึ่งสร้างสรรค์ผลงานอันทรงคุณค่าของแผ่นดินไทย นั้น ให้กระทรวงวัฒนธรรมเร่งรัดดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าวโดยด่วน ๔. ด้านสังคม ๔.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณากำหนดมาตรการหรือหลักเกณฑ์ในการดูแลช่วยเหลือนักกีฬาอาชีพที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยโดยให้ครอบคลุมถึงอดีตนักกีฬาและนักกีฬาคนพิการ โดยคำนึงถึงความเหมาะสม เป็นธรรม และความเท่าเทียมกันเป็นสำคัญ นั้น ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเร่งรัดดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าวโดยด่วน ๔.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดระเบียบการทำประมงน้ำจืดและน้ำเค็ม ทั้งนี้ อาจพิจารณาดำเนินการในลักษณะเดียวกับการจัดรูปที่ดิน โดยจัดทำเป็นแผนระยะสั้นและระยะยาวเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น การบุกรุกพื้นที่เพื่อทำการประมง การนำน้ำทะเลเข้ามาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่ตอนในซึ่งทำให้เกิดปัญหาดินเสื่อมสภาพ เป็นต้น ๔.๓ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการตรวจสอบและหาสาเหตุการตายของปลาในแม่น้ำแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม โดยเฉพาะปลากระเบนราหูน้ำจืด ซึ่งถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง รวมทั้งตรวจสอบโรงงานที่มีการปล่อยน้ำเสียซึ่งอาจเป็นสาเหตุหลักของปัญหาดังกล่าวด้วย ๕. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๕.๑ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมร่วมดำเนินการทั้งในด้านกฎ ระเบียบ และระบบพื้นฐานสนับสนุน (platform) ที่จะรองรับให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น ระบบ e-Payment ระบบ Fin Tech มีความพร้อมในการดำเนินการเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยเข้าสู่ประเทศไทย ๔.๐ ต่อไป ๕.๒ ให้กระทรวงกลาโหมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาการปรับปรุงหอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดการประชุม ระดับนานาชาติ โดยให้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นให้เหมาะสมและเพียงพอต่อการใช้งาน เช่น สถานที่พักรับรอง สุขาเคลื่อนที่ โดยอาจประสานความร่วมมือจากภาคเอกชนเพื่อสนับสนุนการดำเนินการที่เกี่ยวข้องด้วย ๕.๓ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๘ [เรื่อง (ร่าง) ยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทย พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๐ และแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๕๙] ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชนที่อาศัยในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวหรือพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อให้ได้รับประโยชน์ โดยมีรายได้และอาชีพจากการท่องเที่ยวด้วย นั้น ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับกระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป ๕.๔ ให้กระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดให้มีการลงทะเบียนผู้ที่ไม่มีงานทำ และนิสิต นักศึกษาที่ต้องการหารายได้เสริม โดยจัดกลุ่มตามความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพประเภทต่าง ๆ เช่น บุคคลที่มีความสามารถในการสื่อสารภาษาต่างประเทศ อาจคัดเลือกให้เป็นมัคคุเทศก์ หรือตัวแทนสำหรับแนะนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ให้แก่ชาวต่างชาติในงานออกร้านจำหน่ายสินค้า เป็นต้น
|
.....