ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 775 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 15481 - 15500 จากข้อมูลทั้งหมด 124010 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
15481 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันอนุญาโตตุลาการ (จำนวน 5 คน 1. รองศาสตราจารย์กุลภัทรา สิโรดม ฯลฯ) | ยธ | 03/04/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันอนุญาโตตุลาการ จำนวน ๕ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓ เมษายน ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
๑. รองศาสตราจารย์กุลภัทรา สิโรดม ๒. นายประสัณห์ เชื้อพานิช ๓. นางภัทรียา เบญจพลชัย ๔. นายวัลลภ นาคบัว ๕. นางวิลาวรรณ มังคละธนะกุล
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15482 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (ศาสตราจารย์ นฤมล สอาดโฉม) | นร04 | 03/04/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง ศาสตราจารย์นฤมล สอาดโฉม เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15483 | รายงานผลการดำเนินงานโครงการตลาดคลองผดุงกรุงเกษม | นร04 | 03/04/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินโครงการตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การดำเนินงานตลาดคลองผดุงกรุงเกษม นับตั้งแต่การจัดงานแรก คือ งาน “ตลาดนัดกล้วยไม้คุณภาพ” เมื่อเดือนมกราคม ๒๕๕๘ จนจบภารกิจเมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ รวมระยะวเลา ๓ ปีเต็ม มีการจัดงานรวมทั้งสิ้น ๓๘ งาน จำนวนเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการเข้าร่วมจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์ ผลิตผล และการบริหาร รวมทั้งสิ้น ๘,๐๑๙ ราย ผู้เข้าชมงาน จำนวน ๓,๙๗๘,๖๙๖ คน ยอดการจำหน่ายทั้งสิ้น ๑,๙๓๖,๖๖๔,๒๔๗ บาท รวมทั้งมีกระแสเงินหมุนเวียนจากกิจกรรมอื่น ๆ อาทิ จากการขายทอดตลาดทรัพย์ของกรมบังคับคดีและสำนักงาน ป.ป.ส. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี การประมูลเลขทะเบียนรถสวย การจำหน่ายเหรียญที่ระลึกของกรมธนารักษ์ การจำหน่ายสลากออมทรัพย์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร การจำหน่ายสลากออมสินและเงินฝาก จำนวน ๑,๓๓๑,๙๗๙,๑๗๓ บาท ๒. กระทรวงมหาดไทยจัดงานเปิดตัว (Kick Off) โครงการตลาดประชารัฐ “ตลาดประชารัฐ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้” ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๐ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน ระยะเวลาการจัดงาน ๓ วัน คือ ระหว่างวันที่ ๕-๗ ธันวาคม ๒๕๖๐ เพื่อประชาสัมพันธ์การจบภารกิจโครงการตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ณ บริเวณด้านข้างทำเนียบรัฐบาล และส่งต่อรูปแบบ (Model) ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมไปสู่ตลาดประชารัฐ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ให้ประชาชนได้มีพื้นที่ค้าขายในท้องถิ่น เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้สู่ท้องถิ่นและเศรษฐกิจฐานราก โดยผลการจัดงาน มีผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้า จำนวน ๑๘๐ ราย ผู้เข้าชมงาน จำนวน ๒๑,๙๒๗ คน ยอดการจำหน่ายทั้งสิ้น ๘,๖๘๓,๘๒๒ บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15484 | ผลการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 6 (6th GMS Summit) ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม | นร11 | 03/04/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ ครั้งที่ ๖ (6th GMS Summit) ระหว่างวันที่ ๓๐-๓๑ มีนาคม ๒๕๖๑ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมีนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) และผู้นำประเทศลุ่มแม่น้ำโขงเข้าร่วมการประชุมฯ ซึ่งสาระสำคัญของการประชุมฯ ผู้นำ ๖ ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงให้ความเห็นชอบ (๑) แถลงการณ์ร่วมระดับผู้นำ (Joint Summit Declaration : JSD) (๒) ร่างแผนปฏิบัติการฮานอยปี ๒๕๖๑-๒๕๖๕ (Hanoi Action Plan) และ (๓) ร่างกรอบการลงทุนในภูมิภาคปี ๒๕๖๕ (Regional Investment Plan : RIF2022) ซึ่งประกอบด้วยโครงการความร่วมมือ จำนวน ๒๒๗ โครงการ ในสาขาความร่วมมือ ๑๐ สาขา มูลค่ารวมประมาณ ๖๖.๕๙๒ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ ๒.๐๘๘ ล้านล้านบาท โดยในส่วนของประเทศไทยมีโครงการลงทุนและโครงการความช่วยเหลือทางวิชาการ ทั้งสิ้น ๗๙ โครงการ มูลค่ารวม ๑๐.๐๙ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการนี้ นายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) มีข้อเสนอในการประชุมฯ ได้แก่ การเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งเพื่อการเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ (Connectivity) การเร่งพัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อมุ่งสู่อนุภูมิภาคที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูง (Competitiveness) และการผลักดันให้ GMS เป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน มีความมั่งคั่ง และยั่งยืน (Community) รวมทั้งได้เสนอแผนการทำงานในช่วง ๕ ปีข้างหน้าและในระยะยาวเพื่อรับมือกับความท้าทายและสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญในอนาคตในประเด็นสำคัญ ๆ เช่น ร่วมมือกันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อรับมือกับวิวัฒนาการของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป พัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งให้มีคุณภาพ และใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ และร่วมมือกันดำเนินการตามความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (CBTA) ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เป็นต้น ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการตามแผนการดำเนินงานในระยะเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ๖ ประเทศ ให้บรรลุตามเจตนารมณ์ของผู้นำ ๖ ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ที่ต้องการให้เกิดการเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อ (Connectivity) ทั้งในด้านการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานและการปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมให้มูลค่าทางเศรษฐกิจในภาพรวมของอนุภูมิภาคเพิ่มมากยิ่งขึ้นต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15485 | การแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. .... | นร | 03/04/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการแต่งตั้งกรรมการคณะพิเศษประกอบด้วยผู้แทนกรรมการกฤษฎีกา และผู้ไม่ได้เป็นกรรมการกฤษฎีกา เพื่อเปิดโอกาสให้กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) บางคนเข้าร่วมพิจารณาด้วย โดยประกอบกันขึ้นเป็นคณะกรรมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. .... โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๑ (๖) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการดังกล่าว และให้แต่งตั้งเลขานุการได้ตามความจำเป็น ทั้งนี้ การเบิกเบี้ยประชุมให้ได้รับค่าตอบแทนเป็นเบี้ยประชุมรายครั้งที่มาประชุมในอัตราเดียวกับค่าตอบแทนของประธานกรรมการกฤษฎีกาและเลขานุการหรือผู้ช่วยเลขานุการของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วแต่กรณีตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมของกรรมการกฤษฎีกา พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยให้เบิกจ่ายจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15486 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 2 เมษายน 2561) | นร | 03/04/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๑ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติรับข้อสังเกตไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15487 | สนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ และร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานขององค์การสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 2 เมษายน 2561)] | นร | 03/04/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ และร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานขององค์การสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15488 | ขอถอนร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม 2 ฉบับ (ขอถอนร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดระนอง พ.ศ. ....) | มท | 03/04/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม ๒ ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดอุตรดิตถ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดระนอง พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15489 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 03/04/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการจัดพื้นที่เพื่อเป็นตลาดที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรสามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนนำสินค้าและผลิตผล/ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรชนิดต่าง ๆ ที่มีคุณภาพเข้ามาจำหน่ายแก่ผู้บริโภคได้ในแต่ละสัปดาห์ และให้ส่วนราชการที่จะจัดตั้งตลาดดังกล่าวประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยด้วยเพื่อให้แต่ละจังหวัดพิจารณาคัดเลือกและสนับสนุนให้เกษตรกรที่มีศักยภาพและความพร้อมของจังหวัดนั้น ๆ นำสินค้ามาจำหน่ายด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแนวทางดังกล่าวไปพิจารณาปรับใช้กับตลาดอื่น ๆ ที่ได้มีการจัดตั้งและดำเนินการอยู่แล้วด้วย เช่น ตลาดประชารัฐ โดยอาจกำหนดให้มีวันพิเศษในแต่ละสัปดาห์ที่ให้มีการจำหน่ายสินค้าที่แตกต่างไปจากวันอื่น ๆ เช่น ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ ตลาดสินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ตลาดอาหารที่มีความปลอดภัย เป็นต้น ๑.๒ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ๑.๒.๑ เร่งดำเนินการจัดระเบียบการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีประชาชนนิยมไปเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก เช่น อุทยานแห่งชาติ ให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งในด้านการจราจร สถานที่จอดรถ และการรักษาความปลอดภัย ๑.๒.๒ สนับสนุนให้มีการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ทั้งในเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองท่องเที่ยวรองมากยิ่งขึ้น โดยดำเนินการให้สอดคล้องกับโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ของรัฐบาล ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอ รวมทั้งการบริหารจัดการสถานที่ท่องเที่ยวให้เป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย ๑.๒.๓ จัดทำเส้นทางการท่องเที่ยวชุมชนเชิงคุณภาพจำแนกตามเอกลักษณ์ไทยในด้านต่าง ๆ ให้มีความหลากหลาย เช่น เส้นทางผ้าไหมไทย อาหารไทย ข้าวไทย ทะเลไทย เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ต่าง ๆ และมีเรื่องราว (story) ประกอบเพื่อเป็นการให้ความรู้และดึงดูดความสนใจ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจและการประกอบการของชุมชนตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง โดยให้รวมถึงการแปรรูปสินค้าของชุมชนด้วย ๒. ด้านสังคม ให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการดำเนินโครงการก่อสร้างเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินการอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มีการกันพื้นที่ผิวทางการจราจร ปิดเส้นทาง หรือกีดขวางการจราจร ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งของปัญหาการจราจรติดขัดและปัญหามลพิษ โดยให้กระทรวงคมนาคมขอความร่วมมือกับผู้รับเหมาก่อสร้างในการจัดการพื้นที่เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าวได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และเกิดผลกระทบด้านการจราจรให้น้อยที่สุด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15490 | ความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการเจรจาเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน (เครือข่ายคนเทพาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน) | นร | 03/04/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรายงานความคืบหน้าการดำเนินการของกระทรวงพลังงานต่อเนื่องจากการที่ได้เจรจาทำข้อตกลงกับเครือข่ายคนเทพาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๑ ว่า การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม การสร้างการรับรู้ของผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงการประเมินผลกระทบด้านต่าง ๆ ตามนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง นั้น กระทรวงพลังงานได้ประสานการดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงดังกล่าว ทั้งนี้ หากการดำเนินการในเรื่องใดจะต้องนำสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ/พิจารณา กระทรวงพลังงานก็จะได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามแต่กรณีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15491 | การแต่งตั้งโฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา | กก | 27/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งให้ นายสุพจน์ วงศ์พรหมท้าว ผู้อำนวยการกองกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นโฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แทน นายชาญวิทย์ ผลชีวิน ทั้งนี้ ตามคำสั่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ ๑๖๒/๒๕๖๑ สั่ง ณ วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15492 | รายงานผลการประชุมผู้บริหารระดับสูง 6 ประเทศ ตามโครงการแม่น้ำโขงปลอดภัย | ยธ | 27/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประชุมผู้บริหารระดับสูง ๖ ประเทศ (สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ประเทศไทย ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม) ตามโครงการแม่น้ำโขงปลอดภัย ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพและจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๗-๒๐ มกราคม ๒๕๖๑ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เป็นประธานมอบนโยบายการประชุมฯ โดยเน้นย้ำให้ทั้ง ๖ ประเทศยกระดับความร่วมมือในการสกัดกั้นสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์เพื่อยุติการผลิตยาเสพติด โดยใช้นโยบายด้านการปราบปรามควบคู่กับการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามศาสตร์พระราชา และแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องระยะยาว ภายใต้การจัดทำแผนแม่บทร่วมกันของ ๖ ประเทศ ซึ่งทุกประเทศเห็นพ้องกันตามข้อเสนอของประเทศไทย โดยแนวทางและนโยบายยกระดับความร่วมมือ ๖ ประเทศ ได้แก่ (๑) การสร้างเป้าหมายร่วมที่จะดำเนินการต่อพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ (๒) การยกระดับความร่วมมือในการดำเนินการในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ (๓) ให้ความสำคัญของการสกัดกั้นสารตั้งต้นเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด (๔) การผนึกกำลังร่วมกันของทั้ง ๖ ประเทศในการกำหนดเครือข่ายการผลิตและค้ายาเสพติดที่สำคัญในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ (๕) กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน และ (๖) ร่วมกันจัดทำแผนแม่บทความร่วมมือของ ๖ ประเทศ ที่เป็นแผนต่อเนื่องระยะยาว จนนำไปสู่การลงนามให้การรับรองอย่างเป็นทางการของทั้ง ๖ ประเทศต่อไป ๒. การประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูง ๖ ประเทศ ภายใต้แผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย ๖ ประเทศ ระยะเวลา ๓ ปี (๒๕๕๙-๒๕๖๑) ประเทศสมาชิก ๖ ประเทศ ได้ร่วมหาแนวทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหา ทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว โดยเห็นพ้องที่จะยังคงใช้ยุทธศาสตร์การผนึกกำลังร่วมกันในการ “ปิดล้อมสามเหลี่ยมทองคำ” ได้แก่ (๑) การกำหนดเป้าหมายปฏิบัติการร่วมกัน (๒) การจัดทำแผนปฏิบัติการสามเหลี่ยมทองคำ ปี ๒๕๖๑ และ (๓) การจัดทำแผนแม่บทระยะยาวร่วมกัน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15493 | รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนมกราคม 2561 | นร11 | 27/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจประจำเดือนมกราคม ๒๕๖๑ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจไทยเดือนมกราคม ๒๕๖๑ ขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง ในด้านการใช้จ่าย มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวสูงสุดในรอบ ๖๒ เดือน ดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในเกณฑ์สูงต่อเนื่อง ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ และการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลขยายตัว ในขณะที่การเบิกจ่ายรายจ่ายประจำของรัฐบาลปรับตัวลดลง ในด้านการผลิต ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรและรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศขยายตัวในเกณฑ์สูง ในขณะที่ดัชนีราคาสินค้าเกษตรรวมปรับตัวลดลง เสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราเงินเฟ้อ และอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ การจ้างงานลดลง ดุลการค้าและดุลบริการเกินดุลต่อเนื่องและส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล ๒. เศรษฐกิจโลก ขยายตัวในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่องและกระจายตัวมากขึ้นตามลำดับตามการปรับตัวดีขึ้นของเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจในประเทศสำคัญ ๆ นำโดยเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศยูโรโซน ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศ เช่นเดียวกับเศรษฐกิจญี่ปุ่น จีน และหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งยังขยายตัวได้ดีตามการขยายตัวของการส่งออก และการผลิตภาคอุตสาหกรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15494 | รายงานผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทโครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2557-2561) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 | ยธ | 27/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทโครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน ระยะที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยมีผลการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ด้านต่าง ๆ สรุปได้ ดังนี้
๑. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาอาชีพและการตลาด เช่น ดำเนินการเพิ่มทักษะอาชีพจากองค์ความรู้ของโครงการหลวงแก่เกษตรกร จำนวน ๑๒,๖๑๑ ราย และพัฒนาเป็นกลุ่ม SMART FARMER จำนวน ๒๒ ราย ดำเนินการส่งเสริมอาชีพทางเลือกแก่เกษตรกรและผู้ผ่านการบำบัดฝิ่นที่ไม่กลับไปเสพซ้ำ จำนวน ๒,๘๙๙ ครัวเรือน และดำเนินการส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกร ๕๖ กลุ่ม และพัฒนาเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ๑๗ กลุ่ม เป็นต้น งบประมาณทั้งสิ้น ๗๓,๐๒๔,๓๔๕ บาท ๒. ยุทธศาสตร์ด้านการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและการพัฒนาสังคม ดำเนินการส่งเสริมการจัดทำแผนชุมชน ครอบคลุม ๘๘ หย่อมบ้าน โดยเน้นให้ชุมชนมีการขับเคลื่อนกิจกรรมตามแผนชุมชนอย่างต่อเนื่อง งบประมาณทั้งสิ้น ๙,๓๖๑,๕๐๘ บาท ๓. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนากระบวนการชุมชนเพื่อแก้ปัญหายาเสพติด ดำเนินการบำบัดรักษาผู้ติดฝิ่นรายใหม่ จำนวน ๑๐๙ ราย และติดตามผลการบำบัดรักษาผู้ติดฝิ่นรายเดิม จำนวน ๑,๖๘๖ ราย งบประมาณทั้งสิ้น ๗,๕๙๓,๐๐๐ บาท ๔. ยุทธศาสตร์ด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการจัดทำแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าและแผนการใช้ที่ดินรายแปลงของเกษตรกร ครอบคลุม ๑๑๙ หย่อมบ้าน พร้อมทั้งส่งเสริมการอนุรักษ์พื้นที่แหล่งต้นน้ำรวมพื้นที่ ๑,๑๐๐ ไร่ งบประมาณทั้งสิ้น ๑๒,๙๒๙,๗๑๐ บาท ๕. ยุทธศาสตร์ด้านการบริหารจัดการและกำกับดูแลแผนแม่บท ดำเนินการขับเคลื่อนกลไกการปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยจัดทำคณะกรรมการโครงการขยายผลโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ปลูกฝิ่นอย่างยั่งยืน จำนวน ๓ คณะอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ คณะอนุกรรมการโครงการ คณะกรรมการอำนวยการโครงการระดับจังหวัด และคณะกรรมการอำนวยการโครงการระดับอำเภอ งบประมาณทั้งสิ้น ๑๐,๙๔๒,๗๒๕ บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15495 | สรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 38 (ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2560-31 ธันวาคม 2560) | นร | 27/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ ๓๘ (ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๐-๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐) ตามที่คณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เช่น โครงการส่งเสริมการจัดกิจกรรมเพื่อความปรองดองสมานฉันท์ การจัดกิจกรรมส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยเพื่อสร้างความปรองดอง การจัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ประชาชน เรื่องโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน ร้องทุกข์ ของศูนย์ดำรงธรรม ๒. การปฏิรูปประเทศ ได้มีการติดตามขับเคลื่อนความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศทั้ง ๑๑ ด้าน และส่งร่างแผนปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเผยแพร่ในเว็บไซต์ และส่งให้ทุกส่วนราชการให้ความเห็น ๓. การบริหารราชการแผ่นดิน ประกอบด้วย (๑) ด้านความมั่นคง เช่น การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการสื่อสารมวลชนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และสถาบันพระมหากษัตริย์ จัดกิจกรรมตามโครงการหน่วยพระราชทานและประชาชน จิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” (๒) ด้านสังคมจิตวิทยา เช่น จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์การต่อต้านการค้ามนุษย์เพื่อเผยแพร่บนเครื่องบิน พัฒนาระบบการให้บริการด้านแรงงาน ภายใต้แนวคิด “๙ ชื่นบาน แรงงานชื่นใจ” โครงการเพิ่มผลิตภาพแรงงานสู่ SMEs ๔.๐ (STEM Workforce towards SME 4.0) (๓) ด้านเศรษฐกิจ เช่น การเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ โครงการสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวรอง มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการสานพลังประชารัฐ และ (๔) การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน เช่น การบริหารจัดการน้ำให้เกษตรกรในพื้นที่ชลประทาน การป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำ การจัดทำโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ๕๙ รายการ ใน ๒๐ จังหวัด การเพิ่มพื้นที่ชลประทาน และการลดการใช้น้ำภาคอุตสาหกรรมและพื้นที่ชลประทานเดิม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15496 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 27/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลบุคคลล้มละลาย ซึ่งกรมบังคับคดีควรมีการจัดทำข้อตกลงที่จะร่วมมือสองฝ่ายระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับเอกชนเพื่อเชื่อมโยงหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น ปัจจุบันกรมบังคับคดีได้มีการเชื่อมโยงข้อมูลบุคคลล้มละลายผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมีการใช้ระบบเชื่อมโยงเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันทางอิเล็กทรอนิกส์กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนแล้ว รวมถึงได้พัฒนาระบบเพื่อโฆษณาประกาศ คำสั่ง หรือคำพิพากษาในคดีล้มละลายทางอิเล็กทรอนิกส์โดยผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือให้ประชาชนทราบและตรวจสอบสถานะบุคคลล้มละลายได้ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15497 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงมหาดไทย) (นายมานัส ฉั่วสวัสดิ์) | มท | 27/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายมานัส ฉั่วสวัสดิ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15498 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (สำนักนายกรัฐมนตรี) (นางพัชรินทร์ ศรีนพนิคม) | นร11 | 27/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางพัชรินทร์ ศรีนพนิคม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15499 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | คค | 27/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างสะพานข้ามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๗ บริเวณทางหลวงชนบท ปข.๒๐๕๒ และทางหลวงชนบท ปข.๒๐๕๗ เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจ และเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ขอให้กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญกับการพิจารณาผลกระทบด้านการระบายน้ำภายหลังจากการก่อสร้าง เพื่อมิให้เกิดปัญหาเรื่องการระบายน้ำในพื้นที่บริเวณดังกล่าวในอนาคต และในการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินในระยะต่อไป กรมทางหลวงชนบทควรพิจารณาจัดลำดับความสำคัญในการปรับปรุง/พัฒนาโครงข่ายถนนในความรับผิดชอบตามความจำเป็นเร่งด่วนและความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อให้การลงทุนของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15500 | ร่างระเบียบคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะว่าด้วยหลักเกณฑ์การกู้เงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... | กค | 27/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะว่าด้วยหลักเกณฑ์การกู้เงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขเพื่อใช้เป็นกรอบวินัยในการกู้เงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรกำหนดมาตรการการกำกับดูแลและการควบคุมระดับหนี้ของ อปท. ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและจำเป็นตามภารกิจ และควรเพิ่มเติมเงื่อนไขในร่างระเบียบฯ ในกรณีที่ อปท. กู้เกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อไม่ให้ก่อให้เกิดความเสี่ยงทางการคลัง รวมทั้งเพิ่มเติมการจัดส่งข้อมูลการเบิกจ่ายเงินกู้ให้แก่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและสำนักงานการบริหารหนี้สาธารณะ และให้หน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลและ อปท. มีการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามร่างระเบียบฯ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับ อปท. และสาธารณชนทราบเกี่ยวกับการก่อหนี้ การบริหารหนี้ และการกำกับดูแลหนี้ของ อปท. ซึ่งไม่ถือเป็นหนี้สาธารณะตามนิยามของพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
.....