ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 76 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 1501 - 1520 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1501 | การจัดทำร่างพิธีสาร 5 ว่าด้วยสิทธิรับขนการจราจรพักค้างของตนระหว่างจุดใด ๆ ในอาณาเขตของรัฐสมาชิกอาเซียนอื่น ภายใต้ความตกลงพหุภาคีอาเซียนว่าด้วยการเปิดเสรีอย่างเต็มที่ของบริการขนส่งผู้โดยสารทางอากาศ | คค. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1502 | การเร่งรัดออกกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 | นร. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติพิจารณาแล้วเห็นว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๖
กรกฎาคม ๒๕๖๗ (เรื่อง การเร่งรัดออกกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา ๒๒
วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการออกกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา
๒๒ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ ให้มีผลบังคับใช้ก่อนวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ นั้น บัดนี้
จะครบกำหนดการขยายระยะเวลาการดำเนินการดังกล่าว โดยเฉพาะกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะต้องออกตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่จะครบกำหนดในวันที่
๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ดังนั้น
เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและอยู่ภายใต้กรอบระยะเวลาตามกฎหมาย
จึงมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเสนอเรื่องดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่
๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
ซึ่งจะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งสุดท้ายที่จะสามารถพิจารณากฎหมายลำดับรองที่ต้องออกภายในระยะเวลาดังกล่าวได้
เนื่องจากจะมีการประชุมครั้งถัดไปในวันศุกร์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
ซึ่งเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และให้ส่งเรื่องดังกล่าวมาประกาศราชกิจจานุเบกษาก่อนวันที่
๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เพื่อให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมายต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1503 | การแยกบัญชีโครงการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพของธนาคารออมสินเป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) | กค. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแยกบัญชีโครงการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพของธนาคารออมสินเป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ
(Public Service Account : PSA) พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องและบรรเทาภาระหนี้สินของประชาชนเป็นการเร่งด่วน
ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นวงกว้าง
และเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการกำกับดูแล
การตรวจสอบและการประเมินผลการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจในการทำหน้าที่เป็นกลไกของรัฐเพื่อฟื้นฟูและช่วยเหลือกลุ่มประชาชนและธุรกิจเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น
และเพื่อเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๒
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารออมสิน)
รับความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non - Performing
Loans : NPLs) จากการดำเนินโครงการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพของธนาคารออมสินไว้ทั้งหมด ให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารออมสิน)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทยไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นควรมีการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ผ่านสื่อทุกประเภท
โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงจัดทำสื่อที่เหมาะสมสำหรับคนพิการทุกประเภท อาทิ
เสียงบรรยายภาพ (Audio Description : AD) สำหรับคนพิการทางการเห็น
คำบรรยายแทนเสียง (Closed Captions : CC) สำหรับคนพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย
และหนังสือที่อ่านเข้าใจง่าย (Easy Read) สำหรับคนพิการ ทางสติปัญญาหรือออทิสติก
ฯลฯ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1504 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายชุตินทร คงศักดิ์) | กต. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายชุตินทร คงศักดิ์
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1505 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสาวสกาวใจ พูนสวัสดิ์) | วธ. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นางสาวสกาวใจ พูนสวัสดิ์
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1506 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายณัฐวัฒน์ กฤษณามระ ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | กต. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและสับเปลี่ยนหมุนเวียน
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑. นายณัฐวัฒน์ กฤษณามระ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน
สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ๒. นายจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต
ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1507 | รายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะกรณีร่างกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ขาดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน | ทส. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะกรณีร่างกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๒ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒
ขาดการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๔๗ วรรคสอง
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐
มาตรา ๔๓ วรรคหนึ่ง และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๗
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1508 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี | อว. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
รายการอาคารปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี
จำนวน ๑ หลัง จากเดิม จำนวน ๑๖๙,๖๗๑,๙๑๒.๔๗ บาท เป็น จำนวน ๒๑๕,๒๘๖,๙๑๒.๔๗ บาท และขอขยายระยะเวลาผูกพันข้ามปีงบประมาณ สำหรับรายการดังกล่าว จากเดิม
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - พ.ศ. ๒๕๖๙ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กำกับ ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินการก่อสร้างอาคารปฏิบัติการวิทยาศาสตร์
ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
ให้ถูกต้อง และแล้วเสร็จภายในกรอบวงเงินและระยะเวลาที่ได้รับการอนุมัติไว้ในครั้งนี้อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นควรพิจารณาความสอดคล้องกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ
ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๖
หากมีลักษณะเป็นโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ ตามประกาศกระทรวงดังกล่าว จะต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และจะต้องจัดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนตามประกาศสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง
แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. ๒๕๖๖ ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1509 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ วัตถุประสงค์ และขอบเขตแห่งการดำเนินกิจการของสหกรณ์แต่ละประเภทที่จะรับจดทะเบียน พ.ศ. .... | กษ. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ วัตถุประสงค์ และขอบเขตแห่งการดำเนินกิจการของสหกรณ์แต่ละประเภทที่จะรับจดทะเบียน
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดลักษณะของสหกรณ์ที่จะรับจดทะเบียน
วัตถุประสงค์ และขอบเขตแห่งการดำเนินกิจการที่จะพึงดำเนินการได้ของสหกรณ์แต่ละประเภท
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1510 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายสามารถ มะลูลีม) | นร.04 | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายสามารถ มะลูลีม
เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1511 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ) | นร.04 | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ
เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายพีระพันธุ์
สาลีรัฐวิภาค) ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1512 | ขอความเห็นชอบต่อร่างพิธีสารแก้ไขเพิ่มเติมความตกลงว่าด้วยการลงทุนอาเซียน ฉบับที่ 5 (the Fifth Protocol to Amend the ASEAN Comprehensive Investment Agreement) | นร.13 | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1513 | ร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... | ทส. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติตามมาตรา
๖๔ แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. .... ๑ ๒
ร่างพระราชกฤษฎีกาโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าตามมาตรา
๑๒๑ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ พ.ศ. .... รวม
๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้อยู่อาศัยหรือทำกินในพื้นที่มาก่อนวันที่พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๒ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ ใช้บังคับ
ให้สามารถอยู่อาศัยหรือทำกินในพื้นที่ดังกล่าวได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น สำนักงบประมาณ เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ หรือโอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร
แล้วแต่กรณี ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ในโอกาสแรก หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีรองรับตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการกำกับ ติดตาม
และประเมินผลการดำเนินการโครงการอย่างเคร่งครัด
เพื่อป้องกันมิให้มีการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หรือมีการบุกรุกเพิ่มเติม รวมถึงเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ราษฎรในพื้นที่
ในการปฏิบัติตามเงื่อนไขของกฎหมาย
เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ๓.
ภายหลังพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้มีผลใช้บังคับแล้ว ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาความเป็นไปได้ในการกำหนดให้กลุ่มบุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน
และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักร ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗ (เรื่อง
หลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน
และกลุ่มบุตรที่เกิดในราชอาณาจักร)
สามารถเข้าอยู่อาศัยและทำกินภายใต้โครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวข้างต้นด้วย ๔. มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาปรับปรุงพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๒ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ
เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่อนุรักษ์ โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนควบคู่ไปกับกับการอนุรักษ์
ฟื้นฟู ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ระบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่อนุรักษ์
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งของประชาชนที่อยู่อาศัยและทำกินอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์
รวมทั้งไม่ให้เกิดการบุกรุกในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1514 | การมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ | พณ. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้
และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา
๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามลำดับ
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑. นายนภินทร ศรีสรรพางค์
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1515 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดเจ้าหน้าที่ผู้รักษาความปลอดภัยในอากาศยาน พ.ศ. .... | คค. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดเจ้าหน้าที่ผู้รักษาความปลอดภัยในอากาศยาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดคุณสมสมบัติและลักษณะต้องห้ามของเจ้าหน้าที่ผู้รักษาความปลอดภัยในอากาศยาน
ประกอบด้วย คุณสมบัติทั่วไป การทดสอบร่างกายและจิตใจ
และการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
รวมทั้งให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามอื่นเพิ่มเติมได้
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการแก้ไขปรับปรุงร่างกฎกระทรวงฯ โดยตัดร่างข้อ ๒ (๒)
กรณีเจ้าหน้าที่ผู้รักษาความปลอดภัยในอากาศยานต้องผ่านการตรวจร่างกายและจิตใจ
โดยได้รับใบสำคัญแพทย์ ชั้นหนึ่ง
จากสถาบันเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศในร่างกฎกระทรวงฯ ออก
เนื่องจากการผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรเจ้าหน้าที่ผู้รักษาความปลอดภัยในอากาศยานจากหน่วยงานของรัฐที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะสำหรับการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้รักษาความปลอดภัยในอากาศยานตามร่างข้อ
๒ (๓) ได้ครอบคลุมการตรวจร่างกายและจิตใจจากสถาบันเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย
ที่เห็นควรกำหนดห้ามเฉพาะผู้ที่ยังดำรงตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น เพื่อให้สอดคล้องกับคุณสมบัติของข้าราชการตำรวจ
และให้ดำเนินการตามระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1516 | ร่างกฎกระทรวงการใช้ประโยชน์ที่ดินที่อาจส่งผลกระทบกับทรัพยากรน้ำสาธารณะ พ.ศ. .... | มท. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการใช้ประโยชน์ที่ดินที่อาจส่งผลกระทบกับทรัพยากรน้ำสาธารณะ
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ที่ดินที่อาจส่งผลกระทบกับทรัพยากรน้ำสาธารณะ
เพื่อมิให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายต่อทรัพยากรน้ำสาธารณะ หรือเพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์หรือพัฒนาทรัพยากรน้ำสาธารณะให้เป็นโปโดยเหมาะสม
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เห็นควรกำหนดความหมายและลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินที่อาจส่งผลกระทบกับทรัพยากรน้ำสาธารณะให้มีความชัดเจน
เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันในทางปฏิบัติ และข้อ ๔ (๒)
ของร่างกฎกระทรวงดังกล่าว หากมีการดำเนินการใด ๆ ในเขตพื้นที่ป่า
จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1517 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าเดินทางและค่าธรรมเนียมสำหรับการเดินทางไปตรวจเรือนอกสถานที่ราชการ พ.ศ. .... | คค. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าเดินทางและค่าธรรมเนียมสำหรับการเดินทางไปตรวจเรือนอกสถานที่ราชการ
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าเดินทางและค่าธรรมเนียมสำหรับการเดินทางไปตรวจเรือนอกสถานที่ราชการไม่ว่าในหรือนอกเวลาราชการของเจ้าพนักงานตรวจเรือ
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วนอีกครั้งหนึ่ง โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง
เช่น อัตราค่าเดินทางไปตรวจเรือนอกสถานที่ราชการ ได้แก่ รายการค่าเบี้ยเลี้ยง รายการค่าเช่าที่พัก
และรายการค่าพาหนะ ต้องกำหนดให้สอดคล้องกับอัตราตามระเบียบของทางราชการ เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1518 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง พ.ศ. .... | นร.05 | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง
พ.ศ. .... (ตั้งแต่วันที่ ๑๒
ธันวาคม ๒๕๖๗) ตามแนวทางการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๒) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1519 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดความผิดร้ายแรงในอากาศยานในระหว่างการบิน พ.ศ. .... | คค. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดความผิดร้ายแรงในอากาศยานในระหว่างการบิน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดความผิดร้ายแรงในอากาศยานในระหว่างการบิน
เพื่อให้ผู้ควบคุมอากาศยานมีอำนาจหน้าที่ส่งตัวบุคคลที่กระทำความผิดอาญาตามกฎหมายไทยในอากาศยานให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวกับความผิดในอากาศยานดำเนินคดีอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ
พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1520 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้เขตทางหลวงท้องถิ่น พ.ศ. .... | มท. | 12/11/2567 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าใช้เขตทางหลวงท้องถิ่น พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าใช้เขตทางหลวงท้องถิ่นเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมในการใช้เขตทางหลวงท้องถิ่นตามประเภทของกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสม
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วนอีกครั้งหนึ่ง
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงคมนาคม ที่เห็นว่าการกำหนดให้ต้องชำระค่าใช้เขตทางหลวงท้องถิ่น
สำหรับกรณีที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ
หรือเพื่อให้บริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน หรือในกรณีกิจกรรมของหน่วยงานของรัฐให้บริการสาธารณะอันเป็นประโยชน์แก่งานทางจะทำให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการให้บริการของหน่วยงานของรัฐ
ไปประกอบการพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการคลัง เห็นว่าการชำระค่าใช้เขตทางหลวงท้องถิ่นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดเก็บค่าใช้เขตทางหลวงท้องถิ่นผ่านระบบออนไลน์ได้
เช่น ระบบสารสนเทศในการให้บริการประชาชน (Local Service)
เป็นต้น สำนักงบประมาณ เห็นว่าการกำหนดให้บรรดาค่าใช้เขตทางหลวงท้องถิ่นเป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ยื่นคำขออนุญาต
ควรให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ และหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|