ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 395 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 7881 - 7900 จากข้อมูลทั้งหมด 124262 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7881 | ขอความเห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์การบูรณาการมิติเพศภาวะของอาเซียน พ.ศ. 2564–2568 (ASEAN Gender Mainstreaming Strategic Framework 2021-2025) | พม. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์การบูรณาการมิติเพศภาวะของอาเซียน
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๘ (ASEAN Gender Mainstreaming
Strategic Framework 2021-2025) และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ในฐานะรัฐมนตรีอาเซียนด้านสตรีของประเทศไทยมีหนังสือแจ้งความเห็นชอบรับรองกรอบยุทธศาสตร์การบูรณาการมิติเพศภาวะของอาเซียน
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๘ (ASEAN Gender Mainstreaming
Strategic Framework 2021-2025)
ไปยังสำนักเลขาธิการอาเซียน ภายหลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้ว ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกรอบยุทธศาสตร์การบูรณาการมิติเพศภาวะของอาเซียนพ.ศ.
๒๕๖๔–๒๕๖๘
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7882 | การร่วมรับรองเอกสารกรอบความร่วมมืออาเซียนด้านการสร้างความเข้มแข็งของนโยบายส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ (ASEAN Collaboration Framework towards Strengthening Evidence-Based MSME Policies) | นร.53 | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการร่วมรับรองเอกสารกรอบความร่วมมืออาเซียนด้านการสร้างความเข้มแข็งของนโยบายส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง
ขนาดย่อม และรายย่อย ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ (ASEAN
Collaboration Framework towards Strengthening Evidence-Based
MSME Policies) โดยให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
(AEC Council) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้การรับรองเอกสาร
ในการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๔ มีสาระสำคัญ
คือ เป็นกรอบความร่วมมือที่กำหนดวัตถุประสงค์ ขอบเขต
และเสนอแผนปฏิบัติการเพื่อแนะนำประเทศสมาชิกอาเซียนในการเก็บข้อมูลของวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้มแข็งของกลไกในการเก็บข้อมูลทางธุรกิจของผู้ประกอบการและการยกระดับขีดความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวแก่ประเทศสมาชิกอาเซียน
สร้างความทันสมัยให้แก่ระบบการจดทะเบียนธุรกิจด้วยการนำเลขทะเบียนนิติบุคคลเดียวมาใช้ร่วมกันทั้งสิบประเทศสมาชิก
และอำนวยความสะดวกแก่การค้าภายในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน เป็นต้น ตามที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเอกสารกรอบความร่วมมืออาเซียนด้านการสร้างความเข้มแข็งของนโยบายส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง
ขนาดย่อม และรายย่อย ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7883 | ผลการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคฯ ครั้งที่ 3/2564 | กต. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบและเห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้อง
ครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๔ โดยมีเป้าหมายให้การเตรียมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค
ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลการประชุมฯ
ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและติดตามความคืบหน้าต่อไป
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
ซึ่งมีภารกิจหลักในการขับเคลื่อน Ease
of Doing Business และความโปร่งใสของส่วนราชการ โดยพิจารณาถึงแนวทางขับเคลื่อนในประเด็นดังกล่าวภายหลังธนาคารโลกแจ้งยกเลิกการจัดทำรายงานความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ
(Doing Business) เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7884 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายพิพัฒน์ชัย ภัครัชตานนท์) | กค. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายพิพัฒน์ชัย ภัครัชตานนท์ เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายสันติ พร้อมพัฒน์) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒
ตุลาคม ๒๕๖๔) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7885 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลคลองควาย ตำบลบางเตย ตำบลสามโคก ตำบลบ้านปทุม และตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พ.ศ. .... | คค. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลคลองควาย ตำบลบางเตย ตำบลสามโคก ตำบลบ้านปทุม และตำบลเชียงรากใหญ่
อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลคลองควาย ตำบลบางเตย ตำบลสามโคก ตำบลบ้านปทุม และตำบลเชียงรากใหญ่
อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เพื่อสร้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๒๑๔ สายบางเตย-คลองเจ็ด ตอน
บางเตย-บ้านพร้าว จังหวัดปทุมธานี ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่เห็นควรให้ความสำคัญและตระหนักถึงแนวทางในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการก่อสร้างกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติ
เพื่อป้องกันปัญหาการเกิดอุทกภัย
ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาจัดลำดับความสำคัญและบูรณาการแผนการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง
เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่อำเภอสามโคกและพื้นที่ใกล้เคียง
รวมทั้งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗
พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการตราร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน เพื่อก่อสร้างหรือขยายถนนอย่างเคร่งครัดต่อไป
และพิจารณาความสอดคล้องกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนและต้องมีผลเป็นการกีดขวางการไหลของน้ำตามธรรมชาติเพียงเท่าที่จำเป็น
รวมทั้งต้องสร้างระบบการระบายน้ำที่เพียงพอต่อการขยายตัวของชุมชนหรือเมืองในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องอีก
๑๐-๑๕ ปี ข้างหน้าไปพร้อมกันด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7886 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ด่านศุลกากรนครพนม) | กค. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ด่านศุลกากรนครพนม) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดด่านศุลกากรและด่านพรมแดน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ๒๕๖๐
เนื่องจากด่านศุลกากรนครพนมได้ย้ายสถานที่ปฏิบัติราชการไปสถานที่แห่งใหม่ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยให้กรมศุลกากรแจ้งให้ภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบถึงการย้ายสถานที่ปฏิบัติราชการด่านศุลกากรนครพนม
และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดำเนินการผ่านช่องทางนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิอภาพ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7887 | รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. 2557 และรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ. 2558 | ยธ. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติดประจำปี
พ.ศ. ๒๕๕๗ และรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.
ในการปราบปรามยาเสพติดประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญประกอบด้วย
ความเป็นมา อำนาจหน้าที่ และการใช้อำนาจของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปฏิบัติงาน
การกำกับดูแลและติดตามผลการปฏิบัติงานเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. รายงานผลการปฏิบัติงาน
ผลการจับกุมคดียาเสพติด ภาพรวมประเทศ ประจำปี ๒๕๕๗ และประจำปี ๒๕๕๘
และยังมีนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี ๒๕๕๗ และแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
ประจำปี ๒๕๕๘ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ๒.
เห็นชอบให้นำข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและกระทรวงการคลังเป็นข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี
และนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7888 | แนวทางในการปฏิบัติราชการตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) [เรื่อง การแต่งตั้งนายกสภาสถาบันการอาชีวศึกษา (เรื่องเสร็จที่ 1139/2564)] | นร.09 | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7889 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษามาตรการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กรณีศึกษา การบริหารจัดการจราจรโดยใช้ระบบจราจรและขนส่งอัจฉริยะ (Intelligent Transport System : ITS) ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา | สว. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษามาตรการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
กรณีศึกษา การบริหารจัดการจราจรโดยใช้ระบบจราจรและขนส่งอัจฉริยะ (Intelligent Transport System : ITS) ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
สรุปผลการพิจารณาได้ว่า
ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการที่มีความสอดคล้องกับแนวทางตามรายงานการพิจารณาศึกษาดังกล่าวแล้ว
และมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมบางประการ เช่น ควรพิจารณาใช้งานโครงข่ายส่วนตัว (Private
Network) ในการเชื่อมโยงระบบที่ใช้งานร่วมกับระบบจราจรและขนส่งอัจฉริยะ (ITS)
เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงระบบดังกล่าวได้
การจัดเตรียมศูนย์บริหารจัดการให้มีขนาดเพียงพอกับการบูรณาการระบบอื่นที่เกี่ยวข้องแบบรวมศูนย์
ควรเร่งผลักดันการใช้ระบบตัดแต้มใบอนุญาตขับรถ
รวมทั้งพัฒนาระบบตัดคะแนนความประพฤติของผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถ
และจัดทำมาตรการทางภาษี มาตรการส่งเสริมให้ประชาชนและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7890 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง Quick Win และ Big Rock ของส่วนราชการในการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา | สว. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง Quick
Win และ Big Rock ของส่วนราชการในการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน
ของคณะกรรมาธิการการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
สรุปผลการพิจารณาได้ว่า
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
(องค์การมหาชน) ในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการ Big Data พัฒนาและส่งเสริมให้เกิดระบบรัฐบาลดิจิทัล
รวมถึงการบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ
เพื่อนำไปสู่การเชื่อมโยงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดยเฉพาะภารกิจเกี่ยวกับบริการสำคัญ (High Impact)
ให้แก่ประชาชน การทบทวนวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง กระทรวงการคลัง
โดยกรมบัญชีกลางได้ดำเนินการแล้ว การดำเนินการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้มีการจัดทำประกาศ และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง
ให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับบริบทสังคมแล้ว
เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๔
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๖๒
และพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมถึงกฎหมายอื่น
และมาตรฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน
ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7891 | รายงานประจำครึ่งปี (มกราคม-มิถุนายน 2564) ของธนาคารแห่งประเทศไทย | กค. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำครึ่งปี (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๔) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย (๑)
ภาวะเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี ๒๕๖๔ ขยายตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ
๒.๐ เสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในประเทศเปราะบางมากขึ้น
ส่วนเสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยยังคงเข้มแข็ง และ (๒)
การดำเนินงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายการเงิน
แนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายสถาบันการเงิน
และแนวทางการดำเนินงานและประเมินผลนโยบายระบบการชำระเงิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7892 | รายงานงบการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 ของการยางแห่งประเทศไทย | กษ. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานงบการเงิน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ของการยางแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย
งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบแล้ว เห็นว่างบการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินและมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ในการรายงานครั้งต่อ ๆ ไป
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (การยางแห่งประเทศไทย) เร่งรัดการเสนองบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินของกองทุนพัฒนายางพารา
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองแล้วต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็วภายในกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7893 | คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 19/2564 เรื่อง การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ | นร.08 | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๙/๒๕๖๔ เรื่อง
การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงวันที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติจะได้แจ้งเวียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อเร่งรัดการขับเคลื่อนงานในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในลักษณะบูรณาการทั้งมิติด้านความมั่นคงและด้านการพัฒนา
ให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7894 | การเลื่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรี (วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม 2564) | นร.05 | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเลื่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากในระหว่างวันที่
๒๖-๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๔ จะมีการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๘ และ ๓๙
และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบการประชุมทางไกล ดังนั้น
นายกรัฐมนตรีจึงมีบัญชาให้เลื่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรีจากวันอังคารที่ ๒๖ ตุลาคม
๒๕๖๔ เป็นวันจันทร์ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๔
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7895 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรื่อนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางสาวจันทร์เพ็ญ เมฆาอภิรักษ์) | อว. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางสาวจันทร์เพ็ญ เมฆาอภิรักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7896 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล และการกำหนดแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัย ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552 | นร.08 | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง
หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล
และการกำหนดแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลและเอกสารหลักฐานที่ใช้ประกอบการรักษาความปลอดภัย
เพื่อให้มีความเหมาะสมและทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๕๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี
คณะที่ ๑ ตรวจพิจารณาแล้ว และแบบประวัติบุคคล (รปภ.๑)
ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติขอแก้ไข ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7897 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรง (นายคงธัช เตชะวิเชียร) | นร. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายคงธัช เตชะวิเชียร
เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ภาคเอกชน) ในคณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรง แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ภาคเอกชน) เดิมที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๔) เป็นต้นไป และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งตนแทน ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นายอนุชา นาคาศัย) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7898 | การลงนามร่างพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ 9 ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน | กค. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน ฉบับที่ ๙
ภายใต้กรอบความตกลงว่าด้วยการค้าบริการของอาเซียน (ASEAN Framework
Agreement on Services : AFAS) และร่างตารางข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน
ฉบับที่ ๙ ซึ่งเป็นภาคผนวกแนบท้ายร่างพิธีสารฯ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงตารางข้อผูกพันเพิ่มเติมในสาขาการธนาคาร
สาขาย่อยการบริการชำระเงินและการส่งเงิน สำหรับธุรกิจตัวแทนโอนเงินระหว่างประเทศ (Cross-border Money Transfer Services) ให้มีสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติได้สูงสุดร้อยละ
๔๙ และปรับปรุงถ้อยคำในส่วนอื่น ๆ ให้สอดคล้องกับกฎหมายปัจจุบันของธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งนี้
ไม่มีผลกระทบต่อระดับการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงินของไทย
โดยจะมีการลงนามในร่างพิธีสารฯ
ในช่วงการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซี่งจะจัดขึ้นในวันที่
๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นการลงนามร่วมกันแบบเสมือนจริง (Virtual Signing) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒.
อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ลงนามในร่างพิธีสารอนุวัติข้อผูกพันการเปิดเสรีการค้าบริการด้านการเงิน
ฉบับที่ ๙ฯ และเมื่อลงนามแล้ว ให้ส่งพิธีสารฯ และตารางข้อผูกพันฯ
ซี่งเป็นภาคผนวกแนบท้ายพิธีสารฯ ดังกล่าว
ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
แล้วเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ก่อนแสดงเจตนาให้มีผลผูกพันต่อไป ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ (เรื่อง
แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการเสนอหนังสือสัญญาตามบทบัญญัติมาตรา ๑๗๘
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย) ๓.
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full
Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงนามในร่างพิธีสารฯ
ดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขร่างพิธีสารฯ และร่างตารางข้อผูกพันฯ ดังกล่าว
ในส่วนที่เกี่ยวกับถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๔.
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจัดทำสัตยาบันสารของพิธีสารและตารางข้อผูกพันดังกล่าว
และส่งมอบให้สำนักเลขาธิการอาเซียน
เมื่อรัฐสภามีมติเห็นชอบต่อพิธีสารและตารางข้อผูกพันดังกล่าวแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7899 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช ฯลฯ จำนวน 5 ราย) | ทส. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๕ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑. นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๒. นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายมนตรี เหลืองอิงคะสุต ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายจิระศักดิ์ ชูความดี ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7900 | การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล | พศ. | 12/10/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล
จำนวน ๒ คณะ คือ
คณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายสงฆ์ และคณะกรรมการอำนวยการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายฆราวาส โดยให้รวมเป็นชุดเดียวกัน
และมีองค์ประกอบของคณะกรรมการ รวม ๔๖ พระองค์/รูป/คน
โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
เป็นประธานที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (ที่กำกับบริหารราชการหรือที่ได้รับมอบหมายและมอบอำนาจ)
เป็นประธานกรรมการ และผู้อำนวยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อธิบดีกรมธนารักษ์
เป็นกรรมการและเลขานุการ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๔) เป็นต้นไป
|