ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 391 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 7801 - 7820 จากข้อมูลทั้งหมด 124006 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
7801 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายวันชัย พนมชัย) | อก. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ
และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นายวันชัย พนมชัย ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ๒. นายบรรจง สุกรีฑา ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ๓.
นายวิษณุ ทับเที่ยง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๔.
นายนิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7802 | ร่างเอกสารสําหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 39 และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | พน. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างเอกสารสำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๖ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างปฏิญญาร่วมบันดาร์เสรีเบกาวันด้านความมั่นคงทางพลังงานและการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน พร้อมคำแปล (๒) ร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ ๓๙ พร้อมคำแปล (๓) ร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานบวกสาม ครั้งที่ ๑๘ พร้อมคำแปล (๔) ร่างถ้อยแถลงข่าวร่วมของการประชุมรัฐมนตรีพลังงานแห่งเอเชียตะวันออก ครั้งที่ ๑๕ พร้อมคำแปล (๕) ร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมโครงการบูรณาการด้านการไฟฟ้าระหว่าง สปป. ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ครั้งที่ ๒ พร้อมคำแปล และ (๖) ร่างถ้อยแถลงระดับสูงของความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างอาเซียนกับทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ พร้อมคำแปล และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) เป็นผู้ให้การรับรองในเอกสารสำหรับการประชุมดังกล่าวกับรัฐมนตรีพลังงานของกลุ่มประเทศสมาชิกได้ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารทั้ง ๖ ฉบับ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงพลังงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7803 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อความโฆษณาสินค้าหรือบริการที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนในโรงภาพยนตร์และทางป้ายโฆษณา พ.ศ. 2547 พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | นร.03 | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อความโฆษณาสินค้าหรือบริการที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนในโรงภาพยนตร์และทางป้ายโฆษณา พ.ศ. ๒๕๔๗ พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับดังกล่าว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการกำหนดข้อความโฆษณาสินค้าหรือบริการที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม และการยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนในโรงภาพยนตร์และทางป้ายโฆษณา พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7804 | รายงานผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขอถอนตัว และร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ดศ. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบกรณีนางสาวฐิติรัตน์ ทิพย์สัมฤทธิ์กุล ซึ่งเป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๓ (เรื่อง การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) ขอถอนตัว ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ๒. อนุมัติในหลักการร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้มีความชัดเจนมากขึ้น ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอ คณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าคณะรัฐมนตรีสามารถรับทราบรายงานการถอนตัวของผู้ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีให้เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ และมีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ และควรให้สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เร่งสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มเติม พร้อมทั้งตรวจสอบสถานะของกรรมการสรรหาแต่ละราย หากตำแหน่งรายใดว่างลงควรให้มีกรรมการสรรหาแทนในตำแหน่งนั้นโดยเร็ว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7805 | ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ | สผ. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา ๑๕๑ ของรัฐธรรมนูญ เมื่อวันเสาร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง ๖ คน ด้วยคะแนนเสียงไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร จึงถือว่ารัฐมนตรีทั้ง ๖ คน ได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7806 | การแต่งตั้งผู้สอบบัญชีขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย (ประจำปี 2564 - 2568) | พน. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งบริษัท M/S Baker Tilly Monteiro Heng PLT เป็นผู้สอบบัญชี (External Auditor) ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ประจำปี ๒๕๖๔ และให้บริษัทดังกล่าวเป็นผู้สอบบัญชี ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ต่อเนื่องเป็นเวลา ๕ ปี ตั้งแต่ปี ๒๕๖๔ จนถึงปี ๒๕๖๘ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7807 | การเสนองบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปี 2565 ขององค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย | พน. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบงบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปี ๒๕๖๕ ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย จำนวน ๔,๑๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงร้อยละ ๑๐.๙ หรือ ๕๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ จากงบประมาณที่ได้รับอนุมัติในปี ๒๕๖๔ โดยมีรายละเอียดค่าใช้จ่าย ดังนี้ (๑) ค่าใช้จ่ายที่ลดลง ได้แก่ เงินเดือนและสวัสดิการ และ (๒) ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ค่าใช้จ่ายสำหรับการบริการจัดเก็บเอกสารดิจิทัลโดยองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ขอใช้เงินจากการขายปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไรในไตรมาสสุดท้ายของปี ๒๕๖๔ จำนวน ๓,๑๙๐,๗๒๕ ดอลลาร์สหรัฐ และงบประมาณเหลือจ่ายของปี ๒๕๖๓ จำนวน ๙๐๙,๒๗๕ ดอลลาร์สหรัฐ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าการเสนองบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปี ๒๕๖๕ ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ไม่เข้าข่ายลักษณะของกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามบทบัญญัติในมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ควรให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับ ดูแล และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งควรเร่งรัดการเสนองบประมาณและแผนการดำเนินงานประจำปีขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๓๖) ออกตามความในพระราชบัญญัติองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย พ.ศ. ๒๕๓๓ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7808 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการให้ได้ที่ดินเพิ่มเติมและการจ่ายเงินค่าทดแทนเพื่อชดเชยให้แก่ผู้ถูกเวนคืน พ.ศ. .... | คค. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการให้ได้ที่ดินเพิ่มเติมและการจ่ายเงินค่าทดแทนเพื่อชดเชยให้แก่ผู้ถูกเวนคืน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการให้ได้ที่ดินเพิ่มเติมและการจ่ายเงินค่าทดแทนเพื่อชดเชยให้แก่ผู้ถูกเวนคืน เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นว่าควรจะให้มีการเพิ่มเติมบทบัญญัติในร่างกรณีเจ้าของที่ดินแปลงอื่นที่ถูกเวนคืนไม่ตกลงในการซื้อขายว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไปด้วย ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักในการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรับรู้ความเข้าใจในกฎหมายให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไปอย่างทั่วถึง เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการต่าง ๆ ในการปฏิบัติตามร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้การจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อดำเนินโครงการของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7809 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 13 กันยายน 2564) | ปสส. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๒๐ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๔ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๒๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๔ และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ ๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันศุกร์ที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๔ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7810 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... [มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit)] | กค. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจโควิด-๑๙ แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit) เพื่อใช้สำหรับพนักงานหรือลูกจ้าง สามารถนำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นได้อีกเป็นจำนวนร้อยละ ๕๐ ของรายจ่ายที่จ่ายไป ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยกำหนดวันเริ่มต้นการดำเนินการตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนรายจ่ายค่าซื้อชุดตรวจโควิด-๑๙ แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit) ในเหตุผลประกอบร่างฯ และร่างพระราชกฤษฎีกา ตั้งแต่วันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรมีมาตรการสนับสนุนการจัดหาชุดตรวจโควิด-๑๙ แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit) ให้มีความครอบคลุมถึงผู้ประกอบการรายย่อยที่อยู่นอกระบบภาษี และผู้ประกอบการประเภทอื่นด้วย และสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7811 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 14/2564 | นร. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ ๑๔/๒๕๖๔ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๔
ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) สรุปได้ดังนี้
๑) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ๒)
แนวทางการดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ชาวกัมพูชาในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว
และจังหวัดจันทบุรี ๓) การให้บริการวัคซีนโควิด-19 เช่น แผนการฉีดวัคซีนโควิด-19
สรุปผลการให้บริการวัคซีนโควิด-19 แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ๔) การประเมินสถานการณ์และมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19
และ ๕) ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19
เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7812 | ขอความเห็นชอบปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนาคตระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (สหราชอาณาจักร) | พณ. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนาคตระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(อาเซียน) และสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (สหราชอาณาจักร)
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้ความเห็นชอบร่างปฏิญญาร่วมดังกล่าว
โดยร่างปฏิญญาร่วมฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดทิศทางการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
การค้า และการลงทุนร่วมกัน ที่จะนำไปสู่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่น
และครอบคลุม สามารถฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-๑๙ ได้อย่างรวดเร็ว และยั่งยืน
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงคมนาคม โดยให้ปฏิบัติตามกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนาคตระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(อาเซียน) และสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (สหราชอาณาจักร)
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7813 | การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | ยธ. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ในอัตราไม่เกิน ๑๒,๐๔๑ อัตรา โดยแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง
และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหาปัญหายาเสพติด ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
ดังนี้ ๑.
ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ระดับดีเด่นไม่เกินร้อยละ ๒.๕ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดโดยตรง
จำนวน ๓๓๗,๗๑๓ อัตรา คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๘,๔๔๓ อัตรา ๒.
ให้มีการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ระดับดีเด่นไม่เกินร้อยละ ๑.๕
เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกื้อกูลต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด จำนวน ๒๓๙,๘๘๖ อัตรา คิดเป็นอัตราไม่เกิน ๓,๕๙๘ อัตรา ๓.
สำหรับงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว
ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของส่วนราชการต้นสังกัดเป็นลำดับแรกก่อน
หากไม่สามารถดำเนินการได้
ให้เบิกจ่ายจากงบกลางรายการเงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการเป็นลำดับต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๒ (เรื่อง
การเลื่อนขั้นเงินเดือนข้าราชการพลเรือนผู้ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือโควตาปกติ)
ที่เห็นควรพิจารณาให้เฉพาะผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำด้วยความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างแท้จริง
รวมทั้งให้มีการประเมินในส่วนของพฤติกรรมการปฏิบัติราชการหรือสมรรถนะของผู้รับการประเมินอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งให้รับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรพิจารณากรอบอัตรากำลังผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษฯ
อย่างเคร่งครัด ควรมีการพิจารณาคัดเลือก
และจัดสรรอัตราบำเหน็จความชอบที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้วให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7814 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการอำนวยการ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ แห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | นร.01 | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการอำนวยการ หนึ่งตำบล
หนึ่งผลิตภัณฑ์ แห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการอำนวยการ
หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๔ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการอำนวยการ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ แห่งชาติ
ให้เป็นปัจจุบันและครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น
เพื่อให้เกิดการบูรณาการและการประสานการดำเนินโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ อย่างมีประสิทธิภาพ
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7815 | ร่างปฏิญญาทางการเมืองของการประชุมระดับสูงของสมัชชาสหประชาชาติเพื่อฉลองในโอกาสครบรอบ 20 ปี การรับรองปฏิญญาและแผนปฏิบัติการเดอร์บัน | กต. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างปฏิญญาทางการเมืองของการประชุมระดับสูงของสมัชชาสหประชาชาติเพื่อฉลองในโอกาสครบรอบ
๒๐ ปี การรับรองปฏิญญาและแผนปฏิบัติการเดอร์บัน ที่จะจัดขึ้นในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ
สมัยสามัญ ครั้งที่ ๗๖ ในวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๔ มีสาระสำคัญเป็นการเน้นย้ำท่าที่ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ
การยอมรับและการแสดงความกังวลต่อการเหยียดเชื้อชาติรวมถึงผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ และการแสดงความมุ่งมั่นร่วมกันในการประกันสิทธิและเสรีภาพและเน้นย้ำว่ารัฐเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการต่อต้านการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ
โดยมิได้ใช้ถ้อยคำที่มุ่งหมายให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ
จึงไม่เข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาทางการเมืองของการประชุมระดับสูงของสมัชชาสหประชาชาติเพื่อฉลองในโอกาสครบรอบ
๒๐ ปี การรับรองปฏิญญาและแผนปฏิบัติการเดอร์บัน
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7816 | การเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการแข่งขันฝีมือแรงงานเอเชีย (WorldSkills Asia) และการจัดส่งเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานเอเชีย (WorldSkills Asia Competition) | รง. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมฝีมือแรงงานเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการแข่งขันฝีมือแรงงานเอเชีย
(WorldSkills Asia) และดำเนินการส่งเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานเอเชีย
(WorldSkills Asia Competition)
เพื่อรักษาบทบาทของไทยในเวทีการแข่งขันฝีมือเยาวชนระดับภูมิภาค
และเปิดโอกาสให้เยาวชนได้สร้างชื่อเสียงในระดับที่กว้างขวางขึ้น
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงบประมาณ
โดยให้กระทรวงแรงงานดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เห็นควรที่กระทรวงแรงงาน (กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน)
ควรคำนึงถึงความประหยัด การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงพิจารณาผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่จะได้รับทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคม สำหรับปีงบประมาณต่อ
ๆ ไป ควรจัดทำแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม ตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ เห็นควรที่กระทรวงแรงงานจะดึงภาคเอกชนในแต่ละสาขาเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนและพัฒนาทักษะฝีมือให้กับเยาวชนกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วม
WorldSkills Asia Competition เพื่อประโยชน์กับประเทศและเยาวชน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7817 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุม ครั้งที่ 33/2564 | นร.11 สศช | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบมติของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุม ครั้งที่ ๓๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๔
ในส่วนของโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากครั้งที่ ๕ รวม ๑๑
จังหวัด จำนวน ๑,๐๑๓
โครงการ กรอบวงเงิน ๓,๔๘๔,๒๗๐,๓๘๑ บาท และให้กระทรวงมหาดไทย (สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย)
ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้พิจารณาโครงการในระดับพื้นที่
จังหวัด และกลุ่มจังหวัดอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมด้วย ๒.อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุม ครั้งที่ ๓๓/๒๕๖๔
เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๔ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้กระทรวงต้นสังกัด หน่วยงานรับผิดชอบโครงการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าควรให้หน่วยงานเจ้าของโครงการรายงานเงินกู้เหลือจ่ายให้กระทรวงการคลังทราบ
และส่งคืนเงินกู้เหลือจ่ายเข้าบัญชีเงินฝากคลังโดยเร็ว
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ
โดยเคร่งครัด ให้ความสำคัญกับการติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการทั้งในช่วงระหว่างดำเนินโครงการและภายหลังสิ้นสุดโครงการ
เพื่อประกอบการจัดทำรายงานตาม ข้อ ๑๙ และข้อ ๒๐
ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดฯ
พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามขั้นตอนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้
ในส่วนของโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ ๕
ให้เป็นไปตามข้อ ๑ ๓.
ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7818 | หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ 5) | สธ. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบหลักเกณฑ์
วิธีการและเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ ๕) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์
วิธีการและเงื่อนไขแนบท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) ลงวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยแก้ไขเพิ่มเติมนิยามคำว่า “สถานพยาบาล” แก้ไขอัตราค่า COVID-19 Real time PCR รวมทั้งกำหนดเพิ่มบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายให้ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายที่มีความจำเป็นต้องใช้กับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 และค่าใช้จ่ายของสถานพยาบาลที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคดังกล่าว
ณ ที่พำนักของผู้ป่วย ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณและข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่ควรกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจ่ายงบประมาณดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ ตามหลักเกณฑ์
วิธีการ เงื่อนไข อัตราที่กำหนด และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7819 | ขอความเห็นชอบแผนงานคณะกรรมการอาเซียนด้านสตรี พ.ศ. 2564-2568 (ASEAN Committee on Women Workplan 2021-2025) | พม. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนงานคณะกรรมการอาเซียนด้านสตรี
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๘ (ASEAN Committee on Women Workplan 2021-2025)
เพื่อเป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาประเด็นการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศในระดับภูมิภาคอาเซียนของคณะกรรมการอาเซียนด้านสตรี
โดยแผนงานดังกล่าวมีการรับรองร่วมกันในการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนด้านสตรี (ASEAN Ministerial Meeting Women-AMMW) ครั้งที่ ๔ ในช่วงสัปดาห์ที่ ๒ ของเดือนตุลาคม ๒๕๖๔
และการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๘ ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๔
โดยเพิ่มประเด็นบทบาทของสตรีในการฟื้นฟูจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙
และการดำเนินมาตรการในการคุ้มครองสตรีและเด็กหญิงจากความรุนแรงอันเนื่องมาจากมาตรการที่รัฐบาลต่าง
ๆ ใช้ระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙
รวมถึงได้ปรับข้อความบางประการในแผนงานดังกล่าวให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงด้วยแล้ว และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ในฐานะรัฐมนตรีอาเซียนด้านสตรีของประเทศไทย
มีหนังสือแจ้งความเห็นชอบรับรองแผนงานคณะกรรมการอาเซียนด้านสตรี
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๘ ไปยังสำนักงานเลขาธิการอาเซียน ภายหลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้ว ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแผนงานคณะกรรมการอาเซียนด้านสตรี พ.ศ.
๒๕๖๔-๒๕๖๘
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7820 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา พ.ศ. .... | สธ. | 14/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นควรประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ในรูปแบบพิเศษสำหรับการเข้าถึงยา ซึ่งการใช้ยาดังกล่าวกับผู้ป่วยควรเป็นกรณีที่มีความจำเป็น และต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|