ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ. .... | รง. | 28/12/2564 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ
พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย
ดังนี้ ๑.๑ กระทรวงการคลังที่เห็นว่า โดยที่ร่างมาตรา ๓๐
กำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบและร่างมาตรา
๓๑ กำหนดให้รายได้ของกองทุนส่วนหนึ่งมาจากเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้ ดังนั้น
จึงเป็นการตรากฎหมายที่มีผลผูกพันทรัพย์สินหรือก่อให้เกิดภาระทางการเงินการคลังแก่รัฐ
ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งรัฐต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่า ต้นทุนและผลประโยชน์เสถียรภาพ
และความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐประกอบด้วย ๑.๒ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่เห็นว่า ๑.๒.๑ นิยามคำว่า ผู้จ้างทำงาน
ควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับมาตรา ๕๓๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เนื่องจากเป็นการจ้างแรงงานเช่นเดียวกันและควรเพิ่มเติมนิยามของผู้ส่งมอบงานไว้ในร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ๑.๒.๒ หมวด ๒ มาตรา ๙ - มาตรา ๑๘
ควรเพิ่มการอำนวยความสะดวกในการประกอบอาชีพและออกใบรับรองมาตรฐานอาชีพ เช่น
การอบรมออนไลน์ที่ได้รับใบประกาศนียบัตรสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ หมวด ๓ มาตรา ๔๑
- มาตรา ๔๔ ควรกำหนดให้การยื่นคำร้องและการพิจารณาคำร้อง
ควรให้สามารถนผ่านทางออนไลน์เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการบริการ ๑.๓ กระทรวงคมนาคมที่เห็นว่า ตามร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ. .... หมวด ๔ กำหนดให้กองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบประกอบด้วยเงินและทรัพย์สินตามที่กำหนดไว้ในร่างมาตรา ๓๑ และเงินของกองทุนให้ใช้จ่ายเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในร่างมาตรา ๓๒ ซึ่งเมื่อพิจารณาแหล่งที่มาและค่าใช้จ่ายสำหรับเงินของกองทุนแล้ว กรณีอาจก่อให้เกิดปัญหาสภาพคล่องในการบริหารกองทุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ได้ ๑.๔ กระทรวงพาณิชย์ที่เห็นว่า การจัดตั้งกองทุน
โดยแหล่งรายได้มาจากเงินค่าสมาชิกอาจเป็นภาระแก่แรงงานนอกระบบได้
และทำให้ต้องใช้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลเป็นรายได้หลัก
อาจเป็นภาระต่องบประมาณภาครัฐในระยะยาวต่อไป
และร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีความจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ
ดังนั้น ควรมีการศึกษาและจัดทำกฎหมายลำดับรองคู่ขนานกันไป เพื่อให้การบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติฯ
มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกภาคส่วนทั้งผู้ประกอบการและแรงงาน ๑.๕ สำนักงบประมาณที่เห็นว่า สำหรับการพิจารณาจะจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ
กระทรวงแรงงานจะต้องดำเนินการตามมาตรา ๑๔ ของพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน
พ.ศ. ๒๕๕๘ และมาตรา ๖๓ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
และเป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ๑.๖ สำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่า ๑.๖.๑ การกำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบแห่งชาตินั้น
เห็นควรกำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานรับผิดชอบงานเลขานุการของคณะกรรมการดังกล่าวเพื่อปฏิบัติภารกิจสนับสนุนการดำเนินการของคณะกรรมการตามกฎหมายนี้ ๑.๖.๒ เห็นควรกำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงานทำหน้าที่เป็นหน่วยงานเลขานุการของคณะกรรมการบริหารกองทุนแทนการจัดตั้งสำนักงานบริหารกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบขึ้นใหม่
เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕o เรื่อง การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ ๑.๗ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นว่า ๑.๗.๑ มีการใช้ระบบคณะกรรมการโดยไม่จำเป็นทั้งในระดับชาติและระดับจังหวัดเนื่องจากภารกิจตามร่างกฎหมายนี้เป็นภารกิจหลักของกระทรวงแรงงานอยู่แล้ว
สมควรกำหนดให้เป็นภารกิจของกระทรวงแรงงาน เพื่อให้การขับเคลื่อนมีประสิทธิภาพ
หากประสงค์จะบูรณาการกับหน่วยงานอื่น อาจดำเนินการในรูปคณะกรรมการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีและการจัดตั้งกองทุนควรดำเนินการตามกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก่อน ๑.๗.๒ การรับส่งเอกสาร
คำขอ คำสั่งต่าง ๆ สมควรให้ดำเนินการโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เพื่อความสะดวกรวดเร็วและเพื่อประโยชน์ในการจัดทำฐานข้อมูลแรงงานนอกระบบ ๑.๗.๓ การจัดตั้งองค์กรแรงงานนอกระบบเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้วไม่ต้องบัญญัติไว้ ๑.๗.๔ มาตรา
๑๖ และมาตรา ๑๗ ไม่จำเป็นต้องบัญญัติไว้
เป็นการบูรณาการทำงานของหน่วยงานของรัฐตามปกติ ส่วนมาตรา ๑๗
เป็นอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอยู่แล้ว
รวมทั้งควรใช้โทษทางอาญาเพียงเท่าที่จำเป็นและควรเน้นการส่งเสริมมากกว่าการควบคุม ๑.๘ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ในส่วนของการกู้ยืมเงินกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบเพื่อสนับสนุนการประกอบอาชีพนั้น
ควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกู้ยืมให้สอดคล้องกับความต้องการ
และลักษณะการทำงานของแรงงานนอกระบบแต่ละประเภท แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ทั้งนี้
หากกระทรวงแรงงานมีความจำเป็นต้องจัดตั้งสำนักงานบริหารกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ
เพื่อให้การบริหารกิจการของกองทุนส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบบรรลุวัตถุประสงค์และก่อให้เกิดประโยชน์แก่กิจการแรงงานนอกระบบยิ่งขึ้น
กระทรวงแรงงานจะต้องดำเนินการจัดตั้งสำนักงานให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๐ (เรื่อง
การซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ) แล้วส่งผลการพิจารณาให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการตรวจพิจารณาต่อไป ๒. ให้กระทรวงแรงงานรับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ ๒.๑ กระทรวงการคลังที่เห็นว่า การสร้างหลักประกันทางสังคมสำหรับแรงงานนอกระบบควรพิจารณาการบูรณาการร่วมกับระบบหลักประกันทางสังคมที่ดำเนินการอยู่แล้วในปัจจุบัน
ได้แก่ กองทุนการออมแห่งชาติ ผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม
พ.ศ. ๒๕๓๑ ๒.๒ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่เห็นว่า ๒.๒.๑ การจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบจังหวัดขึ้นในสำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัดจะต้องพิจารณาข้อจำกัดที่แตกต่างในเชิงโครงสร้างของสถานที่ ๒.๒.๒ ควรมีการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงการคุ้มครองและการเข้าถึงสิทธิในด้านต่าง
ๆ เช่น การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การแนะนำและให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมการมีงานทำ การอบรมพัฒนาทักษะทางด้านอาชีพของแรงงานนอกระบบโดยไม่เลือกปฏิบัติและตระหนักในสิทธิมนุษยชน
เพื่อลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรมและเท่าเทียมในทุกมิติครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
ควรมีการรณรงค์การสร้างหลักประกันด้านรายได้ให้แก่แรงงานนอกระบบ
เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้สูงอายุ
โดยควรรณรงค์ให้มีการเตรียมความพร้อมเรื่องการออมตั้งแต่อยู่ในวัยทำงานเพื่อให้เงินออมเป็นแหล่งรายได้ที่ยั่งยืนในวัยสูงอายุ ๒.๓ กระทรวงคมนาคมที่เห็นว่า หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ต้องให้การสนับสนุนการดำเนินการต่าง
ๆ ของภาครัฐ โดยการพิจารณาให้การสนับสนุนใด ๆ
ตามร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ. .... มาตรา
๑๕ (๓) นั้น จะต้องคำนึงถึงบริบท ความพร้อมและความสามารถภายใต้ความเหมาะสมและสภาพแวดล้อมในขณะนั้นประกอบด้วย ๒.๔ สำนักงบประมาณที่เห็นว่า กระทรวงแรงงานควรคำนึงถึงการบูรณาการเรื่องแรงงานนอกระบบในทุกมิติของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ทั้งภายใต้หน่วยงานการกำกับของกระทรวงแรงงนและภายนอกที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างรอบคอบ
เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนของภารกิจ รวมถึงกรณีจะให้มีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม
การพัฒนาคุณภาพชีวิต และคุ้มครองแรงงานนอกระบบในครั้งนี้
และจะส่งผลต่อภาระงบประมาณนั้น
จะต้องคำนึงถึงความจำเป็นและภารกิจของหน่วยงานที่มีอยู่ก่อนเป็นลำดับแรก ตลอดจนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
และฐานะของแหล่งเงินนอกงบประมาณที่สามารถใช้จ่ายได้ ๒.๕ สำนักงาน ก.พ. ที่เห็นว่า ควรให้ความสำคัญกับระบบฐานข้อมูลกลุ่มแรงงานนอกระบบที่ถูกต้อง
ครบถ้วน และครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้กลุ่มแรงงานนอกระบบได้รับประโยชน์อย่างสูงสุดและการดำเนินการบรรลุผลตามเจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าว ๒.๖ สำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่า ควรมีการทบทวนความจำเป็นในการคงอยู่ของคณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบแห่งชาติและอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องที่จัดตั้งไว้
เพื่อให้มีจำนวนคณะกรรมการเท่าที่จำเป็นและไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการดำเนินการของคณะกรรมการที่มีอยู่เดิม ๒.๗ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ในขั้นตอนการจัดทำกฎหมายลำดับรอง เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายในการส่งเสริม
การพัฒนาคุณภาพชีวิต และการคุ้มครองแรงงานนอกระบบ
ในเรื่องการขึ้นทะเบียนแรงงานนอกระบบ ควรเพิ่มช่องทางการขึ้นทะเบียนให้มีความสะดวก
และสอดรับกับรูปแบบการทำงานที่หลากหลาย อาทิ การขึ้นทะเบียนผ่านระบบออนไลน์
การกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยขึ้นทะเบียนในระดับพื้นที่ ๓. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ |