ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1847 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 36921 - 36940 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
36921 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองหว้า ตำบลพระเพลิง อำเภอเขาฉกรรจ์ และตำบลทุ่งมหาเจริญ อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลหนองหว้า ตำบลพระ
เพลิง อำเภอเขาฉกรรจ์ และตำบลทุ่งมหาเจริญ อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในท้องที่ตำบลหนองหว้า ตำบลพระเพลิง อำเภอเขาฉกรรจ์ และตำบลทุ่งมหา เจริญ อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
36922 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเวียงชัย และตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... | กษ | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่
ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเวียงชัย และตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเวียงชัย และตำบลทุ่งก่อ อำเภอเวียงเชียง รุ้ง จังหวัดเชียงราย เพื่อก่อสร้างประตูระบายน้ำ ตามโครงการปรับปรุงระบบหนองหลวง ตามที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
36923 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมถังก๊าซปิโตร
เลียมเหลวสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ยกเลิกพระราช กฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในต้องเป็นไป ตามมาตรฐาน พ.ศ. 2526 รวมทั้งกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวสำหรับเครื่องยนต์ สันดาปภายในต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เลขที่ มอก. 370-2552 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 4040 (พ.ศ. 2552) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง ยก เลิกและกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายใน ลง วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
36924 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... จำนวน 2 ฉบับ (จังหวัดนครปฐม) | กษ | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ 1. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย เป็นทางน้ำชลประทานที่ จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย จาก กิโลเมตรที่ 15.150 ในท้องที่ตำบลท่าเรือ ถึงกิโลเมตรที่ 23.400 ในท้องที่ตำบลท่าไม้ อำเภอท่ามะกา จังหวัด กาญจนบุรี เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน 2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครปฐม เป็นทาง น้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานดังต่อไปนี้ เป็น ทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน 2.1 ทางน้ำชลประทานคลองแยก 8 ขวา ของคลองซอย 5 ซ้าย ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย จาก กิโลเมตรที่ 31.320 ของคลองซอย 5 ซ้าย ในท้องที่ตำบลทัพหลวง ถึงกิโลเมตรที่ 13.140 ในท้องที่ตำบลบางแขม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม 2.2 ทางน้ำชลประทานคลองแยก 1 ซ้าย ของคลองแยก 8 ขวา ของคลองซอย 5 ซ้าย ของคลองส่ง น้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย จากกิโลเมตรที่ 10.400 ของคลองแยก 8 ขวา ของคลองซอย 5 ซ้าย ในท้องที่ตำบลบางแขม ถึงกิโลเมตรที่ 4.720 ในท้องที่ตำบลห้วยจรเข้ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม 2.3 ทางน้ำชลประทานคลองแยก 2 ขวา ของคลองแยก 8 ขวา ของคลองซอย 5 ซ้าย ของคลองส่ง น้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย จากกิโลเมตรที่ 10.400 ของคลองแยก 8 ขวา ของคลองซอย 5 ซ้าย ในท้องที่ตำบลบางแขม ถึงกิโลเมตรที่ 3.200 ในท้องที่ตำบลหนองดินแดง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม 2.4 ทางน้ำชลประทานคลองแยก 10 ขวา ของคลองซอย 5 ซ้าย ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย จากกิโลเมตรที่ 46.500 ของคลองซอย 5 ซ้าย ในท้องที่ตำบลทุ่งน้อย อำเภอเมืองนครปฐม ถึงกิโลเมตรที่ 9.000 ในท้องที่ตำบลศรีษะทอง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
|
||||||||||||||||||
36925 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (คพพ.) (จำนวน 4 ราย 1. รองศาสตราจารย์ วรากรณ์ สามโกเศศ ฯลฯ) | กค | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหาร
สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านชุดใหม่ จำนวน 4 ราย เนื่องจากประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนด 4 ปีตามวาระ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (26 มกราคม 2553) เป็นต้นไป ดังนี้ 1. รองศาสตราจารย์ วรากรณ์ สามโกเศศ ประธานกรรมการ 2. นายกุศล แย้มสอาด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 3. นายณรงค์ ป้อมหลักทอง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 4. นายเพ็ญศักดิ์ ชลารักษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||
36926 | การให้ความเห็นชอบบุคคลที่รัฐบาลมาเลเซียเสนอให้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (Deputy Chief Executive Officer, DCEO) ขององค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย | พน | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้องค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย (Malaysia-Thailand Joint Authority, MIJA)
แต่งตั้งนาย Rosli bin Boni เข้าดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (Deputy Chief Executive Officer, DCEO) ขององค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ตามที่รัฐบาลมาเลเซียเสนอ โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2552 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2555 ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||
36927 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2552 | ทส | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) ประธานกรรมการทรัพยา
กรน้ำแห่งชาติเสนอสรุปผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2552 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2552 สรุปได้ดังนี้ 1. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการจัดงานวันน้ำโลก ในภาคต่าง ๆ ทั้ง 4 ภาค ใช้ชื่อโครงการ "คุณภาพน้ำ คุณภาพชีวิต : ความท้าทาย และโอกาส" เนื่องในสัปดาห์อนุรักษ์ทรัพยากรน้ำแห่งชาติและวันน้ำโลก และให้แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการเพื่อช่วยในการจัดงาน โดยรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของกรรมการไปพิจารณาดำเนินการด้วย 2. ที่ประชุมมีมติให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ เชิญผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และหน่วย งานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พ.ศ. .... และรวบรวมความคิดเห็นนำเสนอ ประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเพื่อเสนอไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี 3. ที่ประชุมมีมติให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ รวบรวมจำนวนหมู่บ้านที่ยังไม่มีระบบประปา พร้อมทั้งให้จัดลำดับ ความสำคัญที่ต้องดำเนินการเสนอคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นข้อ มูลในการพิจารณา ทั้งนี้ หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดที่ไม่สามารถดำเนินการเกี่ยวกับระบบประปาหมู่บ้าน ได้ ให้เสนอคณะกรรมการการกระจายอำนาจ ฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบให้หน่วยงานที่มีความพร้อมเข้ามาสนับ สนุนการดำเนินการ และหากไม่มีงบประมาณดำเนินการจะได้พิจารณาหาแหล่งงบประมาณ 4. ที่ประชุมมีมติรับทราบเกี่ยวกับโครงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างยั่งยืนในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และมอบ ให้กรมชลประทานรับไปศึกษาเพิ่มเติมและพิจารณาว่าจะสามารถนำโครงการดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ในการดำเนิน การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบได้อย่างไร พร้อมทั้งนำเสนอเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระ ยาทั้งระบบของกรมชลประทานในการประชุมครั้งต่อไป 5. ที่ประชุมมีมติรับทราบรายงานสรุปการเกิดอุทกภัยในปี พ.ศ. 2552 และผลการดำเนินงานของคณะ อนุกรรมการติดตามสถานการณ์น้ำ และเตรียมความพร้อมด้านอุทกภัย 6. ที่ประชุมมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 253/2552 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2552 เรื่องแต่งตั้งผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่ง ชาติเพิ่มเติม 7. ที่ประชุมมีมติรับทราบมติคณะรัฐมนตรีและการดำเนินงานตามมติที่ประชุมคณะกรรมการทรัพยากร น้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2552 และให้กระทรวงมหาดไทยติดตามการดำเนินการของแต่ละจังหวัดในเรื่องห้ามไม่ให้ มีการปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ชุ่มน้ำ และตรวจสอบการดำเนินการก่อสร้างอาคารวิทยาเขตของมหาวิทยาลัย ราชภัฏในพื้นที่ชุ่มน้ำจังหวัดพิษณุโลก 8. ที่ประชุมมีมติรับทราบและเห็นชอบให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ นำเสนอเรื่องที่หน่วยงานต่าง ๆ ขอความ เห็นจากคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติในระหว่างที่ไม่มีการประชุม ให้เสนอประธานกรรมการ ฯ พิจารณา สั่งการหรือให้ความเห็น และนำมาเสนอคณะกรรมการ ฯ ทราบในการประชุมครั้งต่อไป 9. ที่ประชุมมีมติรับทราบรายงานรายละเอียดโครงการผันน้ำจากพื้นที่จังหวัดจันทบุรีไปยังแหล่งเก็บกัก น้ำจังหวัดระยอง โดยให้กรมชลประทานดำเนินการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ครอบ คลุมเพิ่มเติมทั้งลุ่มน้ำก่อนดำเนินการก่อสร้างโครงการ 10. ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดแนวทางและหลัก เกณฑ์การนำน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะไปใช้ 11. ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการดำเนินงานจัดประชุมของคณะอนุกรรมการจัดทำแผนการอนุรักษ์ฟื้น ฟูแหล่งน้ำและพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อหาแนวทางการปรับปรุงฟื้นฟูบึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร และให้ประธานอนุกรรมการอนุ รักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำและพื้นที่ชุ่มน้ำติดตามการดำเนินงานมานำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป 12. ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการประชุมหารือเพื่อหาแนวทางการจัดสรรน้ำสำหรับภาคการใช้น้ำด้าน ต่าง ๆ 13. ที่ประชุมมีมติมอบให้ฝ่ายเลขานุการ ฯ รับไปพิจารณาการจัดทำตราสัญลักษณ์ของคณะกรรมการ ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||
36928 | สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์จากประชาชน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 | นร | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
1. สรุปผลการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์จากประชาชน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ดังนี้ สถิติการแจ้ง เรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ประชาชนได้แจ้งเรื่องร้องทุกข์รวมทั้งสิ้น 142,451 ครั้ง โดยผ่านช่องทางสายด่วนของรัฐบาล 1111 มากที่สุด รองลงมาคือ ช่องทางเว็บไซต์ (www.1111.go.th) และช่องทางตู้ ปณ.1111/ไปรษณีย์/โทรสาร ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 พบว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 มีจำนวนการแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์เพิ่มมากขึ้น จำนวน 49,557 ครั้ง ส่วนจำนวน เรื่องราวร้องทุกข์ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ประชาชนร้องทุกข์ในประเภทเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 103,878 เรื่อง โดยร้องทุกข์ในประเภทเรื่องหลัก ได้แก่ ด้านสังคมและสวัสดิการมากที่สุด รองลงมาคือ ด้านการเมือง- การปกครอง และด้านเศรษฐกิจ ตามลำดับ ส่วนประเภทเรื่องรองที่ประชาชนร้องทุกข์มากที่สุด ได้แก่ สาธารณู ปโภค รองลงมาคือ กล่าวโทษหรือร้องเรียนเจ้าหน้าที่ของรัฐ และการเมือง ตามลำดับ 2. ให้ทุกหน่วยงานติดตามผลการดำเนินการเรื่องราวร้องทุกข์ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง โดยให้หน่วยงานที่มีร้อยละของเรื่องยุติต่ำเร่งรัดการดำเนินการเรื่องร้องทุกข์ให้มีผลเป็นที่ยุติเพิ่มมากขึ้นด้วย
|
||||||||||||||||||
36929 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 11 (11th ASEAN Ministerial Meeting on the Environment - AMME) และ การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม+3 ครั้งที่ 8 (8th ASEAN+3 Environment Ministers Meeting) | ทส | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอรายงานสรุปผลการประชุม
รัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 11 (11th ASEAN Ministerial Meeting on the Environment- AMME) และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม+3 ครั้งที่ 8 (8th ASEAN+3 Environment Ministers Meet ing) ระหว่างวันที่ 26-30 ตุลาคม 2552 ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ สรุปผลการประชุมได้ดังนี้ 1. การประชุมรัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 11 ที่ประชุม ฯ ให้การรับรองหลักการกล ไกของอาเซียนในการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบการทิ้งน้ำเสียและของเสียจากเรือบรรทุกน้ำมันลงสู่ทะเลอย่าง ผิดกฎหมาย และเห็นชอบ TOR ของ ASEAN Climate Change Initiative และการจัดตั้งคณะทำงานอาเซียนด้านการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ASEAN Working Group on Climate Change) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาค อย่างใกล้ชิดและตอบสนองต่อความพยายามของโลกในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมทั้งเห็นชอบต่อ ร่างฉบับสุดท้าย China-ASEAN Cooperation Strategy on Environmental Protection และขอให้สำนักเลขาธิการ อาเซียนส่งร่าง ฯ ที่ได้รับความเห็นชอบแล้วให้จีนและสามารถให้การรับรองต่อไปโดยวิธี ad-referendum นอกจาก นี้ที่ประชุม ฯ ได้พิจารณาและรับรอง Singapore Resolution on Environmental Sustainability and Climate Change 2. การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม+3 ครั้งที่ 8 ที่ประชุม ฯ มีความเห็นเกี่ยวกับการแสวงหา รูปแบบเพื่อให้ความร่วมมือมีความก้าวหน้าภายใต้กรอบความร่วมมือประเทศสมาชิกอาเซียน+3 โดยมีพื้นฐานความ สนใจร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ความร่วมมือประเทศสมาชิกอาเซียน+3 มีความก้าวหน้า และเป็นการเพิ่มคุณค่าของโครง การความร่วมมือประเทศสมาชิกอาเซียน+1 ที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ และรับทราบว่าญี่ปุ่นเสนอความร่วม มือ 3 สาขา ได้แก่ สุขอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เกิดจาก Persistent Organic Pollutants-POPs และปรอท การจัดการ ของเสียอันตราย การใช้กระบวนการ 3R และสิ่งแวดล้อมศึกษา รวมทั้งข้อเสนอโครงการเสริมสร้างสมรรถนะด้าน อนุกรมวิธานและระบบการจัดการสำหรับการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่ง ยืน
|
||||||||||||||||||
36930 | รายงานผลการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย | กค | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน ณ ปี 2552
ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ซึ่งมีผลการดำเนิน งานสรุปได้ดังนี้ 1. สำนักงาน คปภ. ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงแนวทางการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย โดยนำแนว ทางการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยตามระดับความเสี่ยงมาปรับใช้เพื่อยกระดับมาตรฐานธุรกิจประกันภัยในประเทศ ไทย สำหรับการตรวจสอบบริษัทประกันภัย ปี 2552 สำนักงาน คปภ. ได้พัฒนาปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการในการ วิเคราะห์ และการกำกับบริษัทประกันภัย โดยมุ่งเน้นที่ความเสี่ยงของบริษัท (Risk Focused Monitoring and Exami nation) พร้อมทั้งนำระบบสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning System : EWS) มาใช้เพื่อเฝ้าระวังความเสี่ยง ที่อาจกระทบต่อฐานะการเงิน หรือความมั่นคงของบริษัทประกันภัย ในส่วนของการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ 2. ด้านการส่งเสริม และพัฒนาธุรกิจประกันภัย สำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินนโยบายส่งเสริม สร้างความ ตระหนักถึงประโยชน์ของการประกันภัยและพัฒนาให้ธุรกิจประกันภัยทั่วราชอาณาจักรสามารถตอบสนองต่อความ ต้องการของประชาชนในทุกระดับ และเป็นหลักประกันความมั่นคงให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชาชนระดับฐานรากและผู้สูงอายุเพื่อลดภาระภาครัฐ เช่น การประกันภัยพืชผลโดยใช้ดัชนีภูมิอากาศ (Weather Index) การประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuity) และการประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-Linked) ซึ่งเป็นประเภท การประกันภัยที่มีส่วนในการพัฒนาตลาดทุน
|
||||||||||||||||||
36931 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนทับคล้อ จังหวัดพิจิตร พ.ศ. .... | มท | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนทับคล้อ จังหวัดพิจิตร
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลทับคล้อ อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ตามที่ กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
36932 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางบาล - มหาพราหมณ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. .... | มท | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบางบาล-มหาพราหมณ์
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลบ้านกุ่ม ตำบลบางชะนี ตำบลไทรน้อย ตำบลบางบาล ตำบลวัดยม ตำบลกบเจา ตำบลสะพานไทย ตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล ตำบลบ้านใหม่ และตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามที่กระทรวงมหาด ไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||
36933 | การพัฒนากฎหมายของส่วนราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 | นร | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการพัฒนากฎหมายของส่วนราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ โดยแนวทางการพัฒนากฎหมาย ฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้ 1. การพัฒนากฎหมายของส่วนราชการ ให้ส่วนราชการจัดทำแผนในการยกเลิก ปรับปรุงแก้ไขบทบัญญัติ ของกฎหมายที่ส่วนราชการรักษาการหรืออยู่ในความรับผิดชอบของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานในกำกับ เกี่ยวกับการอนุมัติหรืออนุญาตทั้งที่มีใบอนุญาตและไม่มีใบอนุญาต แต่เป็นการอนุมัติหรืออนุญาตที่ไม่ถูกต้อง ไม่มี ความจำเป็นหรือไม่เหมาะสม โดยแบ่งการดำเนินการออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เป็นการจัดทำแผนพัฒนากฎ หมายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 และระยะที่ 2 เป็นการจัดทำกฎหมายตามแผนพัฒนากฎหมายที่ได้รับอนุมัติให้ แล้วเสร็จในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 2. การพัฒนากฎหมายของส่วนราชการ 2.1 การพัฒนากฎหมายสำหรับส่วนราชการระดับกรมทั่วไป มีแนวทางการดำเนินการที่สำคัญ ดังนี้ 2.1.1 ส่วนราชการสำรวจตรวจสอบ และรวบรวมรายชื่อกฎหมายที่ส่วนราชการรักษาการหรืออยู่ ในความรับผิดชอบของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานในกำกับให้ครบถ้วนถูกต้อง รวมทั้งให้ส่วนราชการ สำรวจตรวจสอบ และรวบรวมบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวกับการอนุมัติ หรืออนุญาตทั้งที่มีใบอนุญาตและไม่มีใบ อนุญาต พร้อมระบุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับบทบัญญัติ เช่น ต้องได้รับการพิจารณาร่วมกันหรือต้องได้รับการอนุมัติ หรืออนุญาตร่วมกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่น 2.1.2 ส่วนราชการศึกษา วิเคราะห์บทบัญญัติของกฎหมายตามข้อ 2.1.1 ว่ามีความถูกต้อง ความ จำเป็น หรือความเหมาะสม หากเห็นว่าบทบัญญัติของกฎหมายไม่ถูกต้อง ไม่มีความจำเป็น หรือไม่มีความเหมาะสม ให้เสนอยกเลิก หรือปรับปรุงแก้ไขแล้วแต่กรณี ในกรณีบทบัญญัติของกฎหมายที่เสนอขอยกเลิกหรือปรับปรุงแก้ไข เกี่ยวข้องกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ให้ประสานการดำเนินการในลักษณะบูรณาการ 2.1.3 ส่วนราชการนำผลการดำเนินการตามข้อ 2.1.1-2.1.2 เผยแพร่ใน website ของส่วนราช การ และจัดทำการรับฟังความคิดเห็นของผู้อยู่ใต้บังคับของกฎหมาย หรือผู้มีส่วนได้เสียในกฎหมาย (Focus Group) 2.1.4 จัดทำแผนพัฒนากฎหมายของส่วนราชการ และเสนอแผนพัฒนากฎหมาย โดยการระบุกฎ หมายและบทบัญญัติที่จะยกเลิกหรือปรับปรุงแก้ไข พร้อมทั้งให้จัดลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนในการยกเลิก หรือปรับปรุงแก้ไขกฎหมายกับแจ้งรายชื่อกฎหมายที่จะดำเนินการร่างเพื่อยกเลิกหรือปรับปรุงแก้ไข โดยระบุหลัก การและเหตุผล สรุปสาระสำคัญเสนอคณะกรรมการพัฒนากฎหมายระดับกระทรวงพิจารณาให้ความเห็นชอบ กรณี ส่วนราชการสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือส่วนราชการไม่สังกัดสำนัก นายกรัฐมนตรี กระทรวงให้นำแผนพัฒนากฎหมายเสนอคณะต่อคณะกรรมการพัฒนากฎหมายของตนให้ความเห็น ชอบ 2.1.5 นำแผนพัฒนากฎหมายที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพัฒนากฎหมาย ฯ เสนอ รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแลแล้วแต่กรณีอนุมัติแล้วส่งมาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2553 2.2 การพัฒนากฎหมายสำหรับสำนักงานปลัดกระทรวง ยกเว้นสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กรณีสำนักงานปลัดกระทรวงไม่มีกฎหมายพัฒนา ให้สำนักงานปลัดกระทรวงรวบรวมแผนพัฒนากฎหมายของส่วน ราชการในกระทรวงส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2553 3. กระบวนการดำเนินการ 3.1 การดำเนินการของส่วนราชการ ได้แก่ การจัดทำแผนพัฒนากฎหมายในความรับผิดชอบ และจัด ตั้งคณะกรรมการพัฒนากฎหมายระดับกระทรวงหรือกรมเพื่อพิจารณากลั่นกรองให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาหารือ ในอันที่จะทำให้การพัฒนากฎหมายของแต่ละกระทรวง หรือกรมนั้น ๆ ดำเนินไปด้วยความราบรื่นและมีประสิทธิ ภาพ 3.2 จัดให้มีคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการ มีอำนาจหน้าที่ในการเจรจาและประเมินแผนพัฒนา กฎหมายของส่วนราชการ และมีอำนาจหน้าที่ในการเจรจาและประเมินผลการจัดทำกฎหมายตามแผนดังกล่าว 3.3 จัดให้มีคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ผลการประเมินการพัฒนากฎหมาย ของส่วนราชการ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนส่วนราชการต่าง ๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นต้น 3.4 จัดให้มีคณะกรรมการกำกับติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานพัฒนากฎหมายของส่วนราชการ มี รองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ ผู้ ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนส่วนราชการต่าง ๆ รวมถึงผู้แทนภาคเอกชนและผู้แทนภาคประชาชน ร่วมเป็นกรรมการ โดยมี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นฝ่ายเลขานุการ
|
||||||||||||||||||
36934 | การโอนคณะกรรมการจัดทำหลักเขตแดนร่วมระหว่าง ไทย - มาเลเซีย ไปอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการต่างประเทศ | กห | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้โอนคณะกรรมการจัดทำหลักเขตแดนร่วมระหว่าง ไทย-มาเลเซีย ซึ่งอยู่ ในความรับผิดชอบของกระทรวงกลาโหมไปอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการต่างประเทศ ตามที่กระทรวง กลาโหมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการต่างประเทศได้จัดเตรียมงบประมาณและบุคลากรให้มีความพร้อมก่อนการ รับโอนแล้วให้แจ้งกระทรวงกลาโหมโดยตรงต่อไป
|
||||||||||||||||||
36935 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร และนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร) | คค | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมอบหมายการรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในกรณีที่
ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามนัยมาตรา 42 แห่ง พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วัน ที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (26 มกราคม 2553) เป็นต้นไป โดยให้เป็นไปตามลำดับ ดังนี้ 1. นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม 2. นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
|
||||||||||||||||||
36936 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโมโกร ตำบลแม่กลอง ตำบลหนองหลวง และตำบลแม่ละมุ้ง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลโมโกร ตำบลแม่กลอง ตำบลหนองหลวง และตำบลแม่ละมุ้ง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือกำหนดเขตที่ดินในท้อง ที่ตำบลโมโกร ตำบลแม่กลอง ตำบลหนองหลวง และตำบลแม่ละมุ้ง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการ ต่อไปได้ 2. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับร่างพระราช กฤษฎีกานี้มีแนวเขตปฏิรูปที่ดินบางส่วนอยู่ในพื้นที่ควรสงวนไว้ไม่นำไปปฏิรูปที่ดิน โดยให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรมรับไปประสานกับกรมป่าไม้ เมื่อจะเข้าดำเนินการปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ควรสงวนไว้ไม่นำไปปฏิรูปที่ดิน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||
36937 | การปรับปรุงแนวทางการนำหนังสือตอบความเห็นของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี | นร | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการนำหนังสือตอบความเห็นของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเสนอต่อ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐส่งหนังสือเสนอความเห็นถึงสำนัก เลขาธิการคณะรัฐมนตรีอย่างช้าก่อนเวลาเริ่มการประชุมคณะรัฐมนตรี (ปกติกำหนดเวลา 09.00 น.) เพื่อสำนัก เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้จัดทำสำเนาแจกที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หากเลยกำหนดเวลาดังกล่าว ให้สำนักเลขาธิ การคณะรัฐมนตรีจัดทำสำเนาแจกที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเฉพาะในกรณีที่รัฐมนตรี หรือหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่มี ข้อเสนอแนะหรือความเห็นได้นำเสนอข้อเสนอแนะหรือความเห็นนั้นในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ให้สำนักเลขาธิ การคณะรัฐมนตรี ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||
36938 | รัฐบาลสาธารณรัฐไลบีเรียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นางสาวยังเกอ เทเลโวดา (Ms. Youngor Telewoda)] | กต | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางสาวยังเกอ เทเลโวดา (Ms. Youngor Telewoda) ให้ดำรงตำแหน่ง
เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐไลบีเรียประจำประเทศไทยคนแรก โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุง โตเกียว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||
36939 | รัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายอะเล็กซานเดอร์ มารียาซอฟ (Mr. Alexander Mariyasov)] | กต | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายอะเล็กซานเดอร์ มารียาซอฟ (Mr. Alexander Mariyasov) ให้ดำรง
ตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทยคนใหม่ สืบแทนนายเยฟ เกนี วลาดีมีโรวิช อะฟานาเซียฟ (Mr. Yevgeny Vladimirovich Afanasiev) โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||
36940 | ขออนุมัติเป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลวิทยาศาสตร์เยาวชนเอเปค ครั้งที่ 4 | วท | 26/01/2553 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ ดังนี้ 1.1 อนุมัติให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลวิทยาศาสตร์เยาวชนเอเปค ครั้งที่ 4 ช่วงเดือน สิงหาคม พ.ศ. 2554 (ระยะเวลา 7 วัน) ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แห่งชาติ 1.2 อนุมัติค่าใช้จ่ายการจัดงานดังกล่าว วงเงิน 15,000,000 บาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2554 ของสำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1.3 มอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าว 2. ให้สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจัดทำรายละเอียดเสนอขอตั้งงบประมาณราย จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ในวงเงิน 15,000,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดงานดัง กล่าวต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
.....