ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1845 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 36881 - 36900 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
36881 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายวุฒิกร อินทรภูวศักดิ์) | นร | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายวุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ทั้งนี้ โดย
ให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงใด กระทรวงหนึ่งเป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งได้ดำเนินการลาออกจากตำแหน่งอื่น ๆ ที่เป็นลักษณะต้องห้าม ให้เรียบร้อย ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36882 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 29 มกราคม 2553 | กค | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ)
ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 29 มกราคม 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 21,888 โครงการ วงเงิน 199,960.60 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 5,078 โครงการ วงเงิน 40,508.48 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 16,810 โครงการ วงเงิน 158,274.99 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 9,164 โครงการ วงเงิน 58,186.60 ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 1,789 โครงการ วงเงิน 14,125.10 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 7,375 โครงการ วงเงิน 44,061.50 ล้านบาท 4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 7,646 โครงการ วงเงิน 100,088.39 ล้านบาท 5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 7,646 โครงการ วงเงิน 99,955.50 ล้านบาท 6. การดำเนินการ 6.1 ยังไม่ได้เบิกจ่าย จำนวน 495 โครงการ วงเงิน 67,629.38 ล้านบาท 6.2 เบิกจ่ายบางส่วนแล้ว จำนวน 6,595 โครงการ วงเงิน 13,797.47 ล้านบาท 6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 556 โครงการ วงเงิน 18,528.65 ล้านบาท 6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 7,151 โครงการ วงเงิน 32,326.12 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36883 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายปรีชา วัชราภัย) | กค | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายปรีชา วัชราภัย เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารอง
นายกรัฐมนตรี (รองนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้มี ผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (2 กุมภาพันธ์ 2553) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36884 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง (พันตำรวจเอก สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย) | ทก | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอนและแต่งตั้งพันตำรวจเอก สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงาน ปลัดกระทรวง กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็น ต้นไป ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36885 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (จำนวน 3 ราย 1. นายมัธยม นิภาเกษม ฯลฯ) | ศธ | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง จำนวน 3 ราย ตาม
ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ ทั้งนี้ ให้การแต่งตั้งมีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (2 กุมภาพันธ์ 2553) เป็นต้นไป ดังนี้ 1. นายมัธยม นิภาเกษม ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์) 2. นายสรจักร เกษมสุวรรณ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์) 3. นายศุรพงศ์ พงศ์เดชขจร ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36886 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ และนายสุธรรม ลิ้มสุวรรณเกษม) | นร | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง จำนวน 2 ราย ตามที่
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (2 กุมภาพันธ์ 2553) ดังนี้ 1. นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (รองนายกรัฐมนตรี นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) 2. นายสุธรรม ลิ้มสุวรรณเกษม ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (รองนายกรัฐมนตรี นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36887 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร | นร | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ถอนร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาทบทวนรวมกับร่างพระราชบัญญัติองค์การอิสระตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราช อาณาจักรไทย พ.ศ. .... ของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36888 | ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ของข้าวแต่ละชนิด รายจังหวัด และการกำหนดพันธุ์ข้าวที่ทางราชการรับรองโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2 | พณ | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2553
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ 1. เห็นชอบยืนยันการกำหนดผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ของข้าวแต่ละชนิด รายจังหวัด โครงการประกันราย ได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2 ที่คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิตได้ทบทวน แล้ว 2. เห็นชอบให้ผ่อนผันให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวเปลือกเจ้าพันธุ์อื่น ๆ นอกเหนือจากพันธุ์ข้าว 29 พันธุ์ ที่ทางราชการให้การรับรองสามารถเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2 ได้ ยกเว้นพันธุ์ข้าวที่มีอายุสั้นต่ำกว่า 100 วัน ซึ่งเมื่อสีแปรสภาพได้ข้าวสารคุณภาพต่ำ ได้แก่ พันธุ์ 75, พันธุ์ซี -75, พันธุ์ราชินี, พันธุ์พวงทอง, พันธุ์พวงเงิน, พันธุ์พวงเงิน พวงทอง, พันธุ์พวงแก้ว, พันธุ์ขาวปทุม, พันธุ์สาม พราน 1 และพันธุ์มาเลเซีย และพันธุ์อื่น ๆ ที่มีอายุต่ำกว่า 100 วัน ซึ่งมีคุณลักษณะเช่นเดียวกับที่ประกาศยก เว้นไว้ โดยให้เกษตรกรใช้สิทธิชดเชยราคาและประมาณรับประกันต่อครัวเรือนเช่นเดียวกับชนิดข้าวเปลือกเจ้า พันธุ์ที่ทางราชการรับรอง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36889 | สรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ | นร | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมการประสานงานด้านนิติบัญญัติ วันจันทร์ 1 กุมภาพันธ์
2553 ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 23 ปีที่ 3 ครั้งที่ 4 (สมัยสามัญทั่ว ไป) วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553 และครั้งที่ 5 (สมัยสามัญทั่วไป) วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36890 | การใช้งานเครื่องตรวจสอบอาวุธ วัตถุระเบิด และสารเสพติด (GT200) | นร | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรับไปดำเนินการตรวจสอบและพิสูจน์
ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องตรวจสอบอาวุธ วัตถุระเบิด และสารเสพติด (GT200) และเครื่องมือที่มีลักษณะ เดียวกันร่วมกับหน่วยงานที่ใช้เครื่องมือดังกล่าวในการปฏิบัติงาน หน่วยงาน นักวิชาการ ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยขอให้ร่วมกันพิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินการให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย แล้วแจ้งผลการตรวจสอบและ พิสูจน์ดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีโดยด่วน ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36891 | การจัดส่งข้าวไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสาธารณรัฐฟิลิปปินส์และสาธารณรัฐเฮติ | นร | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
1. การจัดส่งข้าวไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เป็นการให้ความช่วยเหลืออันเนื่อง มาจากเหตุการณ์ภัยพิบัติจากพายุกิสนา (Ketsana) ในช่วงเดือนกันยายน 2552 ซึ่งระยะเวลาล่วงเลยมานานพอสม ควร แต่การจัดส่งข้าวดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ จึงให้กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดติดตามการดำเนินการเรืองนี้ร่วมกับหน่วย งานที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยด่วน 2. การบริจาคข้าวช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในสาธารณรัฐเฮติ ในส่วนของการจัดส่งข้าวล็อตที่สองจำนวน 4,000 ตัน และข้าวล็อตที่สามในส่วนที่เหลือ ให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบและพิจารณากำหนดชนิดข้าวที่จะส่งไป ช่วยเหลือให้ชัดเจนเหมาะสม โดยประสานหารือร่วมกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายวีระชัย วีระเมธีกุล) และกระทรวงการต่างประเทศเพื่อดำเนินการจัดส่งไปยังสาธารณรัฐเฮติให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36892 | เร่งรัดการดำเนินการป้องกันและกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล | นร | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาการแพร่
ระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในพื้นที่ปลูกข้าวจังหวัดต่าง ๆ ทั้งในเขตภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือบางส่วน ซึ่งควรดำเนินการในลักษณะที่สามารถตัดวงจรการเกิดและการแพร่ขยายของเพลี้ยกระโดดสี น้ำตาลให้หมดไป โดยอาจดำเนินการกำจัดเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และเว้นช่วงการเพาะปลูกข้าวในพื้นที่ดังกล่าว หรือ คั่นด้วยการปลูกพืชชนิดอื่น ทั้งนี้ ให้มีการพิจารณาชดเชยให้แก่เกษตรกรตามแนวทางที่เคยปฏิบัติมา โดยเทียบเคียง จากกรณีอื่น ซึ่งต้องมีการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การชดเชยตามความจำเป็นเหมาะสม โดยนำแนวทางดังกล่าวไป พิจารณาในรายละเอียดร่วมกับสำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วนต่อไป ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36893 | การเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง | นร | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง กระทรวง
เกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบ จากปรากฏการณ์เอลนีโญซึ่งอาจจะทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยต้องประสบกับความแห้งแล้ง ขาดแคลนน้ำเพื่อ อุปโภคบริโภค รวมทั้งน้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานอย่างใกล้ชิดต่อไปด้วย ตามที่นายก รัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36894 | การแก้ไขปัญหาโครงการที่ต้องดำเนินการตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย | นร | 02/02/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบการแก้ไขปัญหาโครงการที่ต้องดำเนินการตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราช อาณาจักรไทย โดยให้สำนักงานอัยการสูงสุดรับไปประสานหารือกับเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้แนวทางแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน แล้วดำเนินการโดยด่วนต่อไป ทังนี้ ในส่วนของการแก้ไขปัญหาโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน เช่น กรณีโครงการของบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ จำกัด ซึ่งได้ เลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตด้วยเงินลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชที่มี พื้นที่คาบเกี่ยวกันระหว่างจังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง แต่ติดปัญหาตามคำสั่งศาลปกครองทำให้นิคมอุตสาหกรรม เหมราชไม่สามารถทำสัญญาเกี่ยวกับการใช้ที่ดินกับบริษัท ฯ ได้ ซึ่งหากไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จทันภายใน วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 อาจทำให้บริษัท ฯ ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น จึงให้สำนักงานอัยการสูงสุด เร่งพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง แล้วดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางโดยด่วนเพื่อขอผ่อนผัน ให้โครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาที่ดินได้ภายในกำหนดเวลาต่อไป ตามที่นายก รัฐมนตรีเสนอ 2. รับทราบตามที่อธิบดีอัยการฝ่ายคดีปกครอง (นายประศาสน์ชัย ตัณฑพานิช) รายงานว่าสำนักงานอัย การสูงสุดกำลังดำเนินการเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง โดยจำแนกโครงการหรือกิจกรรมต่าง ๆ ออกเป็น ส่วน ๆ ให้ชัดเจนว่า ส่วนใดก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนทั้งด้านคุณภาพ สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ และส่วนใดไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนในด้านดังกล่าว เพื่อให้โครงการหรือกิจกรรมต่าง ๆ จะได้ดำเนินการต่อไป รวมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งบรรเทาทุกข์เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนและความเสียหายของผู้ประกอบการโดยขออนุญาต ให้โครงการสามารถดำเนินการก่อสร้างอาคารหรือโรงงานต่อไปตามที่ได้ยื่นต่อทางการไว้ก่อนที่ศาลปกครองสูงสุดจะ มีคำสั่งให้ระงับการดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36895 | ร่างพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎหมายตามแผนพัฒนากฎหมาย ของสำนักงานอัยการสูงสุด ประจำปี พ.ศ. 2551) | อส | 26/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ รวม 4 ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจ
พิจารณาแล้ว ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา แล้วนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ดังนี้ 1. ร่างพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีกฎหมายว่า ด้วยองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ 2. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกฎหมายว่า ด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ 3. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่ม เติมพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 โดยตัดในส่วนที่เกี่ยวกับการแบ่งส่วนราชการ และการแบ่งเขตของสำนักงานอัยการสูงสุดออก 4. ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่ม เติมพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 โดยตัดในส่วนที่เกี่ยวกับสถานะของสำนักงานอัย การสูงสุดออก |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36896 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อชดเชยการลดค่าไฟฟ้าให้แก่ประชาชนตามมติคณะรัฐมนตรี | กห | 26/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการให้กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัตหีบ ของกองทัพเรือ เป็นหน่วยงานหนึ่งในหน่วยงาน ตามมาตรการลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของครัวเรือนของรัฐบาล เพื่อให้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัตหีบให้บริการ ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับสิทธิตามมาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2551 เป็นต้นไป ตาม ที่กระทรวงกลาโหมเสนอ 2. อนุมัติในหลักการงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อชดเชยการลดค่าใช้ไฟฟ้าให้แก่ประชาชนให้กองทัพ เรือ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามข้อ 1. ทั้งนี้ มอบหมายให้กระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงกลาโหม (กองทัพเรือ) ตรวจ สอบการจัดเก็บและลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัตหีบให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์เดียว กับสิทธิที่ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้รับ เพื่อให้ทราบประมาณการวง เงินชดเชยที่ถูกต้อง เหมาะสม แล้วให้กองทัพเรือขอทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป 3. ให้กระทรวงการคลังรับไปตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยว่ามีกรณีของหน่วยงานอื่นใดนอกเหนือจากกรณีของ กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัตหีบที่รัฐสมควรต้องจ่ายเงินชดเชยให้ในทำนองเดียวกันเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36897 | ขอความเห็นชอบการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาแผ่นดินไหวระหว่างกรมอุตุนิยมวิทยาและสำนักงานแผ่นดินไหวจีนฉบับใหม่เพื่อใช้แทนฉบับเดิม | ทก | 26/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบในการจัดทำบันทึกความเข้าใจฉบับใหม่ว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาแผ่นดินไหวระหว่าง ไทย-สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อใช้แทนฉบับเดิม โดยบันทึกความเข้าใจ ฯ ฉบับใหม่จะมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหา ไปจากเดิม เฉพาะในข้อ 9 ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาและสำนักงานแผ่นดินไหวจีนประสงค์จะให้มีการต่ออายุบันทึกความ เข้าใจ ฯ เป็นเวลาครั้งละ 5 ปี ได้โดยอัตโนมัติ 2. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงหรือแก้ไขข้อตกลงในบันทึกความเข้าใจ ฯ ที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัด ผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารดำเนินการได้โดยหารือกับกรมสนธิ สัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36898 | ร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. .... | สม | 26/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. .... ตามที่สำนัก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอและตรวจพิจารณาแล้ว และส่งคณะกรรมการประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา แล้วนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไปได้ โดยร่างพระราชบัญญัติ ฯ มีสาระสำคัญดังนี้ 1. แก้ไขบทนิยาม องค์ประกอบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ กรรมการ การพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ และค่าตอบแทนของคณะกรรมการ 2. แก้ไขสถานะสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จากเดิมที่ให้สำนักงาน ฯ เป็นหน่วยงาน อิสระและมีฐานะเป็นนิติบุคคลโดยมิได้เป็นส่วนราชการ เป็น ให้สำนักงาน ฯ เป็นส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานอิสระ ตามรัฐธรรมนูญและมีฐานะเป็นนิติบุคคล 3. แก้ไขเกี่ยวกับการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกรณีผู้มีสิทธิร้องเรียน โดยเปิดกว้างให้ผู้ถูกละ เมิดหรือพบเห็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนมีสิทธิร้องเรียนได้ 4. ปรับปรุงขั้นตอนการทำงานร่วมกันระหว่างคณะกรรมการและสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน แห่งชาติ จากเดิมที่กำหนดให้คณะกรรมการ ฯ เป็นผู้สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น เป็นกำหนดให้คณะกรรม การ ฯ สามารถมอบหมายให้สำนักงาน ฯ เป็นผู้ดำเนินการแทนได้ 5. กำหนดบทเฉพาะกาล และแก้ไขเพิ่มเติมถ้อยคำในบันทึกหลักการและเหตุผล และร่างพระราชบัญญัติ ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36899 | การให้ความช่วยเหลือทุนการศึกษารายปีต่อเนื่องและเงินยังชีพรายเดือนแก่บุตรเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความมั่นคง การรักษาความสงบเรียบร้อยและการปราบปรามยาเสพติดทั่วประเทศที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ | นร | 26/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติการให้ความช่วยเหลือทุนการศึกษารายปีต่อเนื่องและเงินยังชีพรายเดือนแก่บุตรเจ้าหน้าที่ของ รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความมั่นคง การรักษาความสงบเรียบร้อย และการปราบปรามยาเสพติดทั่วประเทศ ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ 1.1 ระยะเริ่มต้น ให้ความเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือทุนการศึกษารายปี ต่อเนื่องและเงินยังชีพรายเดือนแก่บุตรเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความมั่นคง การรักษาความ สงบเรียบร้อย และการปราบปรามยาเสพติดทั่วประเทศที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือ ฯ 1.2 ระยะยาว มอบหมายให้คณะกรรมการพิจารณาให้ความช่วยเหลือทุนการศึกษารายปีต่อเนื่อง และเงินยังชีพรายเดือน ฯ ซึ่งมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รับไปรวบรวมปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอ แนะต่าง ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมากำหนดเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี หรือระเบียบกระทรวง การคลัง ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในระยะยาวต่อไป 1.3 อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงิน สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 10,000,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือทุนการ ศึกษา ฯ และการบริหารงานของคณะกรรมการ ฯ 1.4 ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมีกรอบเงินทดรองราชการ ไม่เกินจำนวน 5,000,000 บาท เพื่อสำรองจ่ายให้แก่ผู้ได้รับการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ โดยให้ทำความตกลงกับกระทรวงการคลังต่อไป 2. ส่วนค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบสำรวจข้อมูลและจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ ได้รับผลกระทบทั่วประเทศ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่อไป ตามความเห็นของ สำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
36900 | การดำเนินการเกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการอนุวัติการตรวจลงตราเดียวในกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง (ACMECS Single Visa - ASV) ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา | กต | 26/01/2553 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ส่งความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณา
จักรกัมพูชาสำหรับการอนุวัติการตรวจลงตราเดียวในกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระ ยา-แม่โขง ที่ได้ลงนามแล้ว ไปเพื่อขอความเห็นชอบจากรัฐสภา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
.....