ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1819 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 36361 - 36380 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
36361 | รายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและด้านสังคมของโครงการฝายหัวนา | กษ | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบรายงานผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและด้านสังคมของโครงการฝายหัวนา ตามที่กระทรวง เกษตรและสหกรณ์เสนอ 2. เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2543 (เรื่อง การแก้ไขปัญหาของสมัชชาคน จน) และเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2544 (เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ฝ่ายหัวนา และอนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน ดำเนินการพัฒนาโครงการก่อสร้างฝายหัว นาต่อไปจนแล้วเสร็จ ตลอดจนสำรวจข้อมูลและพิจารณาการจ่ายค่าชดเชยให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง และมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งกรมชลประทานถือปฏิบัติอยู่ รวมทั้งการดำเนินการ ตามแผนการแก้ไขผลกระทบและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมของโครงการต่อไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทั้งนี้ ให้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณ สุข และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เห็นควรเพิ่มมาตรการป้องกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพจิตของประชา ชน โดยเฉพาะประชาชนที่สูญเสียที่ดินทำกิน สูญเสียรายได้จากการประมงพื้นบ้าน และสูญเสียการเข้าใช้ประโยชน์ป่า บุ่ง ป่าทาม และควรมีมาตรการในการสร้างระบบการเฝ้าระวังแบบมีส่วนร่วมโดยภาคประชาชน และการสื่อสารความ เสี่ยงให้ประชาชนได้รับทราบถึงผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการและให้ความรู้ในการป้องกันและดูแลสุข ภาพแก่ประชาชน รวมทั้งให้ส่งรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและด้านสังคมของโครงการฯ ให้คณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป เป็นต้น และรับข้อสังเกตของ สำนักงบประมาณ เกี่ยวกับการจ่ายค่าชดเชยที่ดินและทรัพย์สิน การกำหนดเงื่อนไขในการเจรจากับราษฎร ตลอดจน มาตรการควบคุมและป้องกันมิให้มีการบุกรุกล้ำพื้นที่บริเวณน้ำท่วมขังในช่วงฤดูแล้ง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย 3. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจกับราษฎรให้ทั่วถึงชัดเจนในเรื่องความ เป็นธรรมในการจ่ายค่าชดเชยให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) ติดตามและประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว ให้เป็นรูปธรรมด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
36362 | ขอขยายเวลาดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 | ศธ | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
1. ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการตามแผน ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 โดยขยายระยะเวลาการพัฒนาครูและการจ้างงานในโครงการจากเดิมที่กำหนดให้เสร็จ ภายในเดือนกันยายน 2553 เป็นให้เสร็จภายในเดือนธันวาคม 2553 2. ให้แก้ไขเอกสารรายละเอียดการเสนอขอขยายระยะเวลาการลงนามในหนังสือสัญญาให้เสร็จภายในวัน ที่ 31 พฤษภาคม 2553 |
|||||||||||||||||||||||||||
36363 | การช่วยเหลือครูโรงเรียนเอกชนเป็นเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว | ศธ | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการที่จะให้การช่วยเหลือแก่ครูโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาและอาชีวศึกษา จำนวนประมาณ 89,816 คน โดยอุดหนุนเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้แก่ครูโรงเรียนเอกชนที่ได้รับเงินเดือน ไม่ถึงเดือนละ 11,700 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ 1,500 บาท แต่เมื่อรวมกับเงินเดือน แล้วต้องไม่เกินเดือนละ 11,700 บาท กรณีจำนวนเงินที่ได้รับดังกล่าวรวมกันแล้วไม่ถึงเดือนละ 8,200 บาท ให้ ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มจากเงินเดือนอีกจนถึงเดือนละ 8,200 บาท ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2553 เป็นต้นไป โดยให้สำนักงบประมาณ กระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงการคลังไปพิจารณาในรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น หลักเกณฑ์และอัตราการช่วยเหลือ รวมทั้ง ตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน 2. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้ผู้ประกอบการศึกษาภาค เอกชนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบการเพิ่มเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวดังกล่าวกึ่งหนึ่ง และรัฐบาลสมทบอีกกึ่ง หนึ่ง และการปรับเพิ่มอัตราเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของครูโรงเรียนเอกชน ให้ขออนุมัติคณะรัฐมนตรีเป็น คราว ๆ ไป โดยมิให้นำหลักการการปรับอัตราเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำมา เปลี่ยนแปลงอัตราเงินอุดหนุนเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้แก่ครูโรงเรียนเอกชน รวมทั้งจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับ จำนวนครูโรงเรียนเอกชนซึ่งมีสิทธิได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้เป็นข้อมูลปัจจุบันด้วย ไปประกอบการ พิจารณาด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
36364 | ขอสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับประชากรผู้มีสิทธิลงทะเบียนสูงกว่าเป้าหมายที่ได้รับจัดสรรในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ 2552 | สธ | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการงบประมาณปี พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุก
เฉินหรือจำเป็น สำหรับประชากรผู้มีสิทธิลงทะเบียนสูงกว่าเป้าหมายที่ได้รับจัดสรรปี พ.ศ. 2552 จำนวน 523,402 คน เป็นเงิน 455,499,297 บาท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติเสนอ โดยให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติใช้จ่ายจากเงินงบประมาณของกองทุนหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติไปก่อน และเมื่อสิ้นปีงบประมาณแล้วปรากฏว่า งบประมาณสำหรับสนับสนุนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วน หน้าไม่เพียงพอ ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเสนอขอตั้งงบประมาณเพื่อชดเชยในส่วนที่ขาดได้ ตามความ เห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36365 | โครงการอุทยานสัตว์ป่าอีสานตอนบนขอนแก่น - อุดรธานี | ทส | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบรายงานสถานภาพผลการดำเนินงานโครงการอุทยานสัตว์ป่าอีสานตอนบนขอนแก่น-อุดร ธานี และอนุมัติในหลักการแผนดำเนินโครงการอุทยานสัตว์ป่าอีสานตอนบนขอนแก่น-อุดรธานี (ปี พ.ศ. 2554- 2556) ซึ่งเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากโครงการระยะที่ 1 (ปี พ.ศ. 2552-2553) ตามที่กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ สำหรับงบประมาณในการดำเนินงานตามแผนงานของปีงบประมาณ พ.ศ. 2554- 2556 จำนวน 2,647,183,000 บาท สำนักงบประมาณมีข้อสังเกตว่าการแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (AQUARIUM) และ การให้บริการขนส่งทางเคเบิ้ลชมสัตว์ ควรพิจารณาให้เอกชนเข้ามาวิเคราะห์ตลาดและผลตอบแทนจากการลงทุน และการร่วมดำเนินงานกับองค์การสวนสัตว์ในลักษณะพันธมิตรธุรกิจ 2. มอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรพัฒนางานด้าน การอนุรักษ์และคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่า และการจัดการศึกษา เพื่อให้สวนสัตว์เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติและสัตว์ป่าที่ มีความหลากหลาย และให้ความสำคัญกับการพัฒนางานด้านการอนุรักษ์และคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าโดยเน้นสัตว์ป่า ที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ในประเทศไทย นอกจากนี้ ควรเพิ่มเติมภาพรวมของแผนงานโครงการ และแนวทางการ ดำเนินงาน การประเมินกลุ่มเป้าหมายและจำนวนผู้มาเยี่ยมชม การจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมและขนาด โครงการให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย และแผนบริหารกิจการหลังการลงทุน รวมทั้งปรับปรุงรายละเอียดการก่อ สร้างศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (AQUARIUM) และระบบบริการขนส่งทางเคเบิ้ลชมสัตว์ เกี่ยวกับความจำเป็นความคุ้ม ค่าของโครงการ และแนวทางการบริหารจัดการให้ชัดเจน เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการ ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
36366 | โครงการขยายโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ CDMA ของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) | ทก | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (บมจ.กสท) ดำเนินโครงการขยายโครง ข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ CDMA ในภูมิภาค 51 จังหวัด วงเงิน 3,800 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่ให้ บริการของโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ CDMA2000 1xEV-DO ออกไปให้ครอบคลุมพื้นที่ที่มีประชากรอาศัย โดย เฉพาะพื้นที่ชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อเป็นสิ่งจูงใจให้ผู้ใช้บริการหันมาใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ CDMA มาก ยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นระบบที่มีความหลากหลาย นอกเหนือไปจากโครงข่ายระบบ GSM ทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการได้ ประโยชน์จากบริการรูปแบบใหม่ ๆ ต่อไป กำหนดระยะเวลาดำเนินการรวม 27 เดือน (พ.ศ. 2553-2555) ตามที่ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ 2. ให้ บมจ.กสท รับความเห็นของรองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการกำกับ นโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ที่เห็นควรกำหนดแผนการดำเนินงานและแผนกลยุทธ์ทางการตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ CDMA ที่ชัดเจนและสอดคล้องกับสภาวะทางการตลาดของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งควรเร่ง เจรจาเชื่อมต่อกับโครงข่ายกับผู้ประกอบการรายอื่นให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนัก งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการพิจารณาประเมินมูลค่าทางบัญชีของทรัพย์สินที่ แท้จริงอย่างรอบคอบ รวมไปถึงเงื่อนไขการปรับปรุงอุปกรณ์และระบบให้ได้มาตรฐานที่สอดคล้องกับระบบของโครง ข่าย CDMA ในภูมิภาค การรับโอนภาระหนี้สินจากการเข้าซื้อกิจการ CDMA ในส่วนกลาง และราคาที่เหมาะสม คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อ บมจ.กสท มากที่สุด การบริหารจัดการโครงข่ายระบบ CDMA และบริษัทในเครือที่จัดตั้ง ขึ้น ต้องไม่ดำเนินการซ้ำซ้อนกับหน่วยธุรกิจของ บมจ.กสท โดยมีการแยกระบบบัญชีอย่างชัดเจน หรืออาจพิจารณา ทางเลือกรูปแบบโครงสร้างอื่น เพื่อให้เกิดความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และมีเอกภาพในการบริหารงาน ตลอดจนมี การวิเคราะห์ระบบงาน และโครงสร้างองค์กรที่เหมาะสมสำหรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ CDMA นอก จากนี้ ควรมีการเน้นตลาดในเชิงรุก เพื่อขยายฐานผู้ใช้บริการทั้งในส่วนของผู้ใช้บริการระบบ 2G และผู้ใช้บริการใหม่ ซึ่งยังมีความเป็นไปได้ในการทำการตลาด การสร้างรายได้เพิ่มจากบริการเสริม และบริการรับส่งข้อมูล ซึ่งเป็นข้อได้ เปรียบของโครงข่าย CDMA ในปัจจุบัน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
36367 | โครงการประเมินและปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเลและชายฝั่งของประเทศไทย | ทส | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบโครงการประเมินและปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเลและชายฝั่งของ ประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และองค์การระหว่าง ประเทศ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (International Union for the Conservation of Nature : IUCN) โดย วัตถุประสงค์หลักการของโครงการฯ คือ การเพิ่มความเข้มแข็งด้านความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาชายฝั่ง และส่งเสริมการลงทุนและความพยายามในการจัดการระบบนิเวศชายฝั่ง โดยลักษณะของโครงการฯ เป็นโครงการ ขนาดใหญ่ดำเนินการในพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเลอันดามัน 18 แห่ง และพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเลอ่าวไทย 4 แห่ง ได้รับ งบประมาณสนับสนุน จำนวน 280,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากโครงการป่าชายเลนเพื่ออนาคต (Mangroves for the Future Initiative : MFF) ระยะเวลาในการดำเนินงาน 2 ปี 2. เห็นชอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์ พืช เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการประเมินและปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเล และชายฝั่งของประเทศไทย และลงนามในบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และองค์ การระหว่างประเทศ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (International Union for the Conservation of Nature : IUCN) ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
36368 | โครงการ Fiber to the x ของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) | ทก | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (กสท) ดำเนินโครงการ Fiber to the x ในวงเงิน 6,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงข่ายสื่อสารให้เป็นแบบอินเทอร์เน็ตโปรโตคอล IP (Internet Protocol) โดยจัดสร้างโครงข่าย Last Mile ที่ใช้เคเบิลใยแก้วนำแสง (Optical Fiber) ทดแทนคู่สายทองแดง (Copper Wire) เชื่อมโยงเข้าหาผู้ใช้บริการโดยตรง เพื่อรองรับการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีขีดความสามารถรับส่งข้อมูล ขนาดใหญ่ (High Bandwidth) ที่เป็น Real Time ในลักษณะข้อมูลเป็น Multimedia และรองรับบริการเสริมอื่น ๆ ที่ จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยบริการทั้งหมดสามารถให้บริการได้พร้อมกันบนโครงข่ายเดียว ตามที่กระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารเสนอ 2. ให้ กสท. รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรพิจารณาดำเนินการเพื่อให้มีการบริหารจัดการ โครงข่ายที่มีอยู่ทั้งหมดอย่างเป็นระบบ และแยกประเภทบริหารให้ชัดเจน พร้อมทั้งจัดทำแผนกลยุทธ์การตลาดและ แผนปฏิบัติการของแต่ละสายธุรกิจให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถพิจารณาภาพรวมในการลงทุน ทิศทางการดำเนินงาน และเป้าหมายที่ กสท กำหนดไว้ ไปพิจารณาดำเนินการ 3. ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงการคลัง และ กสท รับความเห็นของคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ให้ กสท ปรับปรุงโครงการใหม่เป็น 2 ระยะเพื่อลดความเสี่ยงทาง ด้านเงินลงทุนสูง โดยจัดทำเป็นโครงการนำร่องระยะสั้นเพื่อทดสอบตลาดในพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีความหนาแน่น ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยพิจารณากลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ครอบคลุมถึงสถาบันการศึกษาและองค์กรธุรกิจขนาด ใหญ่ซึ่งมีแนวโน้มปริมาณการใช้งานสูง และโครงการระยะที่ 2 เต็มรูปแบบต่อเนื่องหากผลการดำเนินโครงการระยะ ที่ 1 ได้รับการตอบสนองจากตลาดตามที่ได้วางแผนไว้ และให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเร่งจัด ทำแผนแม่บทการพัฒนาบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของประเทศ เพื่อขยายการให้บริการให้ครอบคลุมและสร้าง โอกาสในการเข้าถึงบริการอย่างทั่วถึง และให้ร่วมกับกระทรวงการคลังพิจารณานโยบายการลงทุนและบทบาทใน อนาคตของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (บมจ.ทีโอที) และ กสท ให้ชัดเจนโดยเร็ว ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2552 เพื่อให้ทั้งสองบริษัทฯ สามารถจัดทำแผน/โครงการลงทุนที่ชัดเจนและไม่สูญเสียโอกาสการแข่ง ขันทางธุรกิจ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
36369 | การขออนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินงานโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง | ศธ | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
1. ให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ : สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยา ศัย (สำนักงาน กศน.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ขยายระยะเวลาในการดำเนินการ จัดซื้อจัดจ้างถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2553 2. ให้ สพฐ. ขยายระยะเวลาการพัฒนาครูและการจ้างงานในโครงการจากเดิมที่กำหนดให้แล้วเสร็จภายใน เดือนกันยายน 2553 เป็นให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2553 |
|||||||||||||||||||||||||||
36370 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่ออุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 | มท | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการการกู้เงินเพื่ออุดหนุนบริการสาธารณะ (PSO) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ของการประปาส่วนภูมิภาค ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยส่วนจำนวนเงินกู้ ให้คณะกรรมการเงินอุดหนุน บริการสาธารณะ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจทบทวนหลักเกณฑ์ในการพิจารณาวงเงินอีกครั้ง หนึ่ง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 2. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ให้การประปาส่วนภูมิภาคจัดทำระบบบัญชี โดยแยกบัญชีรายได้และค่าใช้จ่ายของ การให้บริการเชิงพาณิชย์และเชิงสังคมเพื่อให้การคำนวณต้นทุนและประมาณการทางการเงินมีความชัดเจนยิ่งขึ้น และให้ความสำคัญในการบริหารต้นทุนการผลิตและการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อลดวงเงินอุดหนุนการ บริการสาธารณะในปีต่อ ๆ ไป ไปดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
36371 | การขออนุมัติเปลี่ยนแปลงโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 | คค | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 และให้ขยาย
เวลาการขอรับจัดสรรเงินของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เป็น 45 วันทำการ หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติ การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในครั้งนี้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการที่ มีการเปลี่ยนแปลง มีดังนี้ 1. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง วงเงิน 189.000 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงเป็น โครงการก่อสร้าง ทางและสะพานขนาดใหญ่ วงเงิน 1,050.000 ล้านบาท 2. โครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) วงเงิน 2,600 ล้านบาท เปลี่ยน แปลงเป็น โครงการทางหลวงเพื่อชุมชน วงเงิน 2,339.000 ล้านบาท |
|||||||||||||||||||||||||||
36372 | ผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 4/2553 | นร | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (รศก.) ครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 19 เมษา ยน 2553 และเห็นชอบมติคณะกรรมการ รศก. ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ รศก. เสนอ ดังนี้ 1.1 เห็นชอบให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมดำเนินโครงการ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 2 ตามหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการฯ และเห็นชอบกรอบวงเงินค่าชดเชยความเสียหายจากการ ดำเนินโครงการฯ ไม่เกิน 2,175 ล้านบาท โดยให้บรรษัทฯ ประสานกับสำนักงบประมาณในการเบิกจ่ายตาม จำนวนที่เกิดขึ้นจริง 1.2 มอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาความเหมาะสมและความจำเป็นในการขยายกรอบวงเงิน กู้ยืมของโครงการช่วยเหลือด้านการเงินของผู้ประกอบการท่องเที่ยว ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 เพื่อช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผล กระทบจากวิกฤติการณ์การเมือง และนำเสนอคณะกรรมการ รศก. ต่อไป 1.3 เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการใช้น้ำมัน E 85 โดยให้กระทรวงการคลังรับไปกำหนดมาตรการจูง ใจด้านภาษีแก่รถยนต์ E 85 และรับไปดำเนินการออกประกาศตามขั้นตอนและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป 1.4 มอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาปรับปรุงการแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดย เฉพาะพระราชบัญญัติ พ.ศ. 2493 เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตเอทานอลต่อไป 2. รับทราบและเห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและแห่งชาติ กรรมการและ เลขานุการคณะกรรมการ รศก. เสนอเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแก้ไขผลการประชุมคณะกรรมการ รศก. ครั้งที่ 4/2553 (ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ นร 1115/1514 ลงวัน ที่ 27 เมษายน 2553) 3. คณะรัฐมนตรีมีความเห็นเพิ่มเติมในส่วนของมาตรการส่งเสริมการใช้น้ำมัน E 85 ดังนี้ 3.1 ปัจจุบันรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนและอุดหนุนการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ โดยเก็บภาษีสรรพสามิต รถยนต์ที่ใช้ E 85 ลดลง และได้ขยายระยะเวลาลดอากรนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป ซึ่งส่งผลให้ราคารถยนต์ถูกลง แต่ ในขณะเดียวกันภาครัฐจะสูญเสียรายได้จากการอุดหนุนที่มีมูลค่าสูงมาก ดังนั้น ในระยะยาวกระทรวงการคลังและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะได้พิจารณาทบทวนแนวนโยบายดังกล่าวเพื่อมิให้กระทบกับการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐ 3.2 การส่งเสริมการใช้เอทานอลนั้น ไม่ควรมุ่งเน้นการผลิตเพื่อการส่งออก แต่ควรพิจารณาปรับปรุง กระบวนการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้สามารถนำเอทานอลมาผลิตเป็นแก๊สโซฮอล์ได้ อย่างมีประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตเอทานอลให้มากขึ้น จึงขอให้กระทรวงพลังงานรับแนวทางดังกล่าวไป ร่วมพิจารณากับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
36373 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองท่าแนะ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองท่าแนะ เป็นทางน้ำ
ชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองท่าแนะจาก ศูนย์กลางฝายคลองท่าแนะ กิโลเมตรที่ 0.000 ไปทางเหนือน้ำ ถึงกิโลเมตรที่ 4.200 และไปทางท้ายน้ำ ถึงกิโล เมตรที่ 1.100 ในท้องที่ตำบลเขาย่า อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชล ประทาน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
36374 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระชนมายุ 84 พรรษา พ.ศ. .... | กค | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก สมเด็จ
พระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระชนมายุ 84 พรรษา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ จัดทำเหรียญกษาปณ์เงิน ราคาแปดร้อยบาท หนึ่งชนิด เหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคา ยี่สิบบาท หนึ่งชนิด และเหรียญกษาปณ์โลหะสองสี (สีขาวและสีทอง) ราคาสิบบาท หนึ่งชนิด ออกใช้เพื่อเป็นที่ ระลึกเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระชนมายุ 84 พรรษา ในวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
36375 | บันทึกความเข้าใจระหว่างกรมวิชาการเกษตรกับหน่วยงานพัฒนาชนบทแห่งเกาหลีใต้ | กษ | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกรมวิชาการเกษตรกับหน่วยงานพัฒนาชนบทแห่งเกาหลีใต้ ว่าด้วยความร่วมมือด้านวิชาการเกษตร โดยร่างบันทึกความเข้าใจมีสาระสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้าน เทคโนโลยีทางการเกษตร เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านวิชาการ รวมถึงงานวิจัย และการดำเนินงานวิจัยร่วม กัน และอนุมัติให้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าว 2. อนุมัติในหลักการว่า ก่อนที่จะมีการลงนามหากมีการแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจในประเด็นที่ไม่ใช่ หลักการสำคัญ ให้อยู่ในดุลยพินิจของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการต่าง ประเทศ 3. อนุมัติในหลักการให้อธิบดีกรมวิชาการเกษตรหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในบันทึกความ เข้าใจดังกล่าว |
|||||||||||||||||||||||||||
36376 | ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการ ประสานงานด้านนิติบัญญัติพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยร่างพระราชบัญญัติ ฯ มี สาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 ดังนี้ 1. กำหนดให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจยื่นคำร้องขอรังวัดต่อเจ้าพนัก งานตามประมวลกฎหมายที่ดินแทนเจ้าของหรือผู้ครอบครองได้ 2. แก้ไขการขอขยายระยะเวลาในการพิจารณากำหนดราคาเบื้องต้นของอสังหาริมทรัพย์ และจำนวน เงินค่าทดแทนให้ชัดเจนว่า ให้ขยายออกไปอีกได้ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน 3. แก้ไขในส่วนของผู้มีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เป็น กรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน จากคณะรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรี 4. กำหนดระยะเวลาในการใช้สิทธิร้องขอให้เจ้าหน้าที่เวนคืนโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างที่เหลืออยู่ซึ่ง ใช้การไม่ได้ และกำหนดระยะเวลาการพิจารณาคำร้องของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์การร้องขอให้เจ้า หน้าที่เวนคืนหรือซื้อที่ดินส่วนที่เหลือและใช้การไม่ได้ ตลอดจนกำหนดระยะเวลาการยื่นคำร้องและกำหนดสิทธิ อุทธรณ์ 5. ขยายกำหนดระยะเวลาการวินิจฉัยอุทธรณ์ของรัฐมนตรี จากหกสิบวัน เป็นหนึ่งร้อยแปดสิบวัน 6. กำหนดสิทธิฟ้องคดีต่อศาลให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น 7. กำหนดให้รัฐคืนอสังหาริมทรัพย์ให้เจ้าของเดิมหรือทายาท ในกรณีที่อสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืน ไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของการเวนคืนภายในระยะเวลาที่กำหนดในพระราชบัญญัติเวนคืนอสัง หาริมทรัพย์หรือในกรณีที่รัฐไม่มีความจำเป็นต้องใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์เพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ ของการเวนคืนอีกต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
36377 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้งรายการละเอียดและการรับแจ้งรายการละเอียดผลิตเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. .... | สธ | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้งรายการ
ละเอียดและการรับแจ้งรายการละเอียดผลิตเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขการแจ้งรายการละเอียด และการรับแจ้งรายการละเอียดผลิตเครื่องมือแพทย์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดตาม มาตรา 6(2) การต่ออายุใบรับแจ้งรายการละเอียดผลิตเครื่องมือแพทย์ การเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบรับแจ้ง รายการละเอียดผลิตเครื่องมือแพทย์หรือรายการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และการรับใบแทนใบรับแจ้งรายการละเอียดผลิต เครื่องมือแพทย์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้ว ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
36378 | โครงการรับจำนำผลผลิตทางการเกษตร ปีการผลิต 2551/52 | กษ | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2552 (เรื่อง ค่าใช้จ่าย
สำหรับโครงการรับจำนำผลิตผลทางการเกษตร ปีการผลิต 2551/2552) และอนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการงบ ประมาณ จากงบรายจ่ายอื่น รายการชำระเงินกู้ค่าดำเนินงานตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/2552 จำนวน 71,657,328 บาท เป็นงบเงินอุดหนุนประเภทเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ รายการค่าใช้จ่ายใน การรับฝากและเก็บรักษาสินค้าตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/2552 ตามที่กระทรวง เกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรตกลงในรายละเอียดค่าใช้จ่ายกับสำนักงบประมาณ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์รับความ เห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน การระบายผลผลิตในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่มีอยู่เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาในแต่ละปีและลด การขาดทุนจากการดำเนินโครงการของรัฐบาล อันเกิดจากการเสื่อมสภาพของผลผลิตจนทำให้มูลค่าลดลง ไป พิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
36379 | แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงสาธารณสุข) (นางฉายศรี สุพรศิลป์ชัย) | สธ | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางฉายศรี สุพรศิลป์ชัย ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. (ด้านเวช
กรรมป้องกัน สาขาโรคไม่ติดต่อ) สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2551 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36380 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ประจำปี พ.ศ. 2552 | ทช | 27/04/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กทช.)
เสนอผลการปฏิบัติงาน ประจำปี พ.ศ. 2552 ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ดังนี้ 1. การบริหารคลื่นความถี่และจัดสรรคลื่นความถี่ ประกอบด้วย 1.1 การจัดทำแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ 1.2 การจัดสรรคลื่นความถี่เชิงพาณิชย์ 1.3 การจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อกิจการเฉพาะกิจและความมั่นคงของรัฐ 2. การกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคม ประกอบด้วยแนวทางการพัฒนาที่สำคัญ 8 ด้าน ดังนี้ 2.1 ด้านการส่งเสริมการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม 2.2 ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม 2.3 ด้านการกระจายการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการสังคม 2.4 ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรโทรคมนาคม 2.5 ด้านการบริหารเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม 2.6 ด้านการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมและบุคลากรโทรคมนาคม 2.7 ด้านการส่งเสริมกิจการโทรคมนาคมเฉพาะกิจ 2.8 ด้านการพัฒนาองค์กร 3. แผนการดำเนินงานของ กทช. ในระยะต่อไป ประกอบด้วย 3.1 ยุทธศาสตร์การแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม 3.2 ยุทธศาสตร์การคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม 3.3 ยุทธศาสตร์การกระจายการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการสังคม 3.4 ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรโทรคมนาคม 3.5 ยุทธศาสตร์การบริหารเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม 3.6 ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมและบุคลากรโทรคมนาคม 3.7 ยุทธศาสตร์การส่งเสริมกิจการโทรคมนาคมเฉพาะกิจ 3.8 ยุทธศาสตร์การพัฒนาองค์กร
|
.....