ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1813 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 36241 - 36260 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
36241 | ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ฉบับที่ 3 ในเขตท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดสกลนคร | นร | 18/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ฉบับที่ 2 ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัด นนทบุรี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครปฐม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดชลบุรี จังหวัด เชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดลำปาง จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดน่าน จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี จังหวัด ชัยภูมิ จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดศรีสะเกษ 2. เห็นชอบ 2.1 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ฉบับที่ 3 ในเขตท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัด หนองบัวลำภู จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดสกลนคร 2.2 กำหนดให้วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม 2553 และวันอังคารที่ 18 พฤษภาคม 2553 เป็นวัน หยุดราชการเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการที่มีความจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่จัดเจ้าหน้าที่เพื่อ อำนวยความสะดวกในการติดต่อทางราชการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
36242 | ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ (พลเอก สุภาษิต วรศาสตร์ ฯลฯ) | นร | 18/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ จำนวน 3 คน ตามที่สำนักเลขา ธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ 2. เห็นชอบตามที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอเพิ่มเติมขอถอนรายชื่อกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ กระทรวงยุติธรรมคืนไปก่อน
|
|||||||||||||||||||||||||||
36243 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2553 | กค | 18/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครง
การ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 41,058 โครงการ วงเงิน 349,960.44 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 4,843 โครงการ วงเงิน 48,586.03 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 36,215 โครงการ วงเงิน 295,505.12 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 17,927 โครงการ วงเงิน 52,886.93 ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 1,169 โครงการ วงเงิน 11,908.53 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 16,758 โครงการ วงเงิน 40,978.40 ล้านบาท 4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 18,288 โครงการ วงเงิน 242,618.19 ล้านบาท 5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 18,288 โครงการ วงเงิน 226,269.26 ล้านบาท 6. การดำเนินการ 6.1 ยังไม่เริ่มเบิกจ่าย จำนวน 2,984 โครงการ วงเงิน 18,878.09 ล้านบาท 6.2 เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) จำนวน 14,504 โครงการ วงเงิน 115,303.43 ล้านบาท 6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 800 โครงการ วงเงิน 19,428.98 ล้านบาท 6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 15,304 โครงการ วงเงิน 134,732.41 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
36244 | แนวทางแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ | พณ | 18/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบแนวทางแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำตามมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ เมื่อ วันที่ 26 เมษายน 2553 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ 1.1 โครงการแทรกแซงตลาดรับซื้อข้าวเปลือก 1.1.1 ให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เร่งรัดเปิดจุดรับ ซื้อข้าวเปลือกตามโครงการฯ และให้มีการรับซื้อจริงจากเกษตรกร โดยเปิดจุดเพิ่มขึ้นให้ทั่วถึงและครอบคลุมพื้นที่ ที่ผลผลิตข้าวเปลือกนาปรังกำลังออกสู่ตลาด โดยดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่มีมติ 1.1.2 ให้คณะอนุกรรมการการกับดูแลการรับซื้อข้าวเปลือกของรัฐบาลระดับจังหวัดกำกับดูแล ให้มีการเปิดจุดและรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรตามโครงการฯ อย่างใกล้ชิด และรายงานผลการรับซื้อ รวมทั้ง ราคาข้าวที่มีการซื้อขายในตลาดให้ฝ่ายเลขานุการทราบทุกวันและประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรได้ทราบ 1.1.3 เห็นชอบให้โรงสีที่เข้าร่วมโครงการฯ สีแปรสภาพข้าวเปลือกที่ อคส. และ อ.ต.ก. รับซื้อ ไว้เป็นข้าวสารตามเขื่อนไขที่กำหนด คือ เมื่อโรงสีรับซื้อข้าวเปลือกตั้งแต่ 1,000 ตันขั้นไป ให้สีแปรสภาพเป็นข้าว สารในอัตราร้อยละ 30 โดยให้ค่าสีแปรสภาพ ตันละ 500 บาท และเก็บข้าวสารไว้ในโกดังกลางของ อคส. และ อ.ต.ก. เพื่อให้โรงสีมีการหมุนเวียนรับซื้อข้าวเปลือกได้เพิ่มขึ้น เพื่อดึงสัมปทานส่วนเกินจำนวนหนึ่งออกจากตลาด ทั้งนี้ ให้ฝ่ายเลขานุการกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการสีแปรสภาพให้รอบคอบและรัดกุม 1.1.4 เห็นชอบให้เพิ่มเติมอำนาจหน้าที่คณะอนุกรรมการดำเนินการกำกับดูแลการแทรกแซง ตลาดรับซื้อข้าวเปลือกของรัฐบาล ให้สามารถสั่งสีแปรสภาพข้าวเปลือกที่รับซื้อไว้ตามโครงการฯ ได้ 1.2 เห็นชอบมาตรการให้ผู้ประกอบการค้าข้าวรับซื้อข้าวเปลือกนาปรังฤดูใหม่ เพื่อสีแปรสภาพเป็น ข้าวสาร แล้วนำมาแลกข้าวสารนาปรังเก่าในสต็อกของรัฐบาล โดยผู้ประกอบการค้าข้าวจะต้องซื้อข้าวเปลือกจาก เกษตรกรที่กำลังออกสู่ตลาดในฤดูการผลิตข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2553 ตั้งแต่เมษายน-กรกฎาคม 2553 ตาม ราคาที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศเกณฑ์อ้างอิงในแต่ละช่วงเวลาบวกเพิ่มอีกตันละ 300 บาท และจะต้องมีหลักฐาน เอกสารมาแสดงว่าได้มีการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรในฤดูการผลิตข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2553 จริง โดยข้าว สารที่นำมาแลกเปลี่ยนจะต้องเป็นข้าวชนิดเดียวกันในฤดูการผลิตเดียวกัน ทั้งนี้ ให้ฝ่ายเลขานุการหารือกับหน่วย งานที่เกี่ยวข้อง เช่น อคส. และ อ.ต.ก. กำหนดหลักเกณฑ์แลกเปลี่ยนข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลให้เป็นไปด้วย ความเรียบร้อย 1.3 การระบายจำหน่ายข้าวในสต็อกรัฐบาล 1.3.1 เห็นชอบในหลักการให้พิจารณาระบายจำหน่ายข้าวในสต็อกรัฐบาลในรูปแบบรัฐบาลต่อ รัฐบาล ในราคามิตรภาพ ในปริมาณและระยะเวลาที่เหมาะสม โดยให้ระบายไปยังตลาดต่างประเทศที่นอกเหนือ ตลาดปกติของผู้ส่งออกข้าว 1.3.2 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่ง ชาติ พิจารณาจำหน่ายข้าวสารในสต็อกรัฐบาล ในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลตามหลักการที่กำหนดไว้ ในราคา ปริมาณ และระยะเวลาที่เหมาะสม ด้วยความระมัดระวังมิให้กระทบต่อระบบตลาด ครั้งละไม่เกิน 300,000 ตัน 2. สำหรับประเด็นการระบายข้าวสารโดยจำหน่ายแก่เอกชนเพื่อการส่งออกนั้น ให้เป็นไปตามมติคณะ กรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2553 โดยให้ระบายจำหน่ายแก่เอกชนเพื่อการส่งออก จำนวนไม่เกิน 100,000 ตัน แล้วรายงานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
36245 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายเสกสรร นาควงศ์) | กก | 18/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเสกสรร นาควงศ์ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนัก
งานปลัดกระทรวง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36246 | รายงานผลการติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2 | นร | 18/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. รับทราบรายงานผลการติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2552/53 ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อค้นพบปัญหาอุปสรรค พร้อมทั้งข้อเสนอแนะของคณะกรรมการติดตามและเร่งรัดการ ดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร และคณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินงานโครงการประกันรายได้ เกษตรกรในระดับพื้นที่ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนี้ 1.1 ควรเร่งพิจารณาปรับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงให้สะท้อนความเป็นจริงและใกล้เคียงกับราคาตลาด โดยเร็ว และควรมีตลาดกลางข้าวเปลือกหรือท่าข้าวเอกชน เพื่อมาช่วยพัฒนาระบบกลไกตลาดข้าวเปลือกและดำเนิน การควบคู่ไปกับการเปิดจุดตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรให้มากขึ้น ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2553 ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับหลักเกณฑ์และวิธีการในการคำนวณเกณฑ์กลาง อ้างอิงเพื่อให้สอดคล้องใกล้เคียงกับราคาที่เกษตรกรขายได้ในปัจจุบัน 1.2 ควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ คู่มือ และการรายงานผลการตรวจสอบ โดยจังหวัดเป็นผู้ กำกับดูแลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจสอบระดับตำบลอย่างเคร่งครัด โดยให้คณะกรรมการฯ รายงานผล การตรวจสอบพื้นที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติระดับจังหวัดทราบหลัง จากสุ่มตรวจสอบพื้นที่เสร็จ 1.3 การใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์ การมหาชน) ในการเปรียบเทียบกับข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและการทำประชาคมของเกษตรกรในพื้นที่ปลูก ข้าว ปี 2552/53 รอบที่ 2 จากการตรวจติดตามของคณะอนุกรรมการฯ พบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดยังไม่ ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันโครงการฯ ได้ดำเนินการจัดทำประชาคมและออกใบรับรองให้เกษตรกรแล้วเกิน กว่าร้อยละ 90 ทำให้การใช้ประโยชน์ในข้อมูลอาจไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ดังนั้น ในระยะต่อไปหากมีการใช้ข้อ มูลภาพถ่ายดาวเทียม ควรเร่งดำเนินการจัดทำข้อมูลการแปลผลจากภาพถ่ายดาวเทียมส่งให้จังหวัดต่าง ๆ เพื่อคณะ กรรมการตรวจสอบระดับตำบลใช้ประโยชน์ในช่วงการจัดทำประชาคม และสุ่มตรวจสอบพื้นที่จริง 1.4 จากผลการติดตามผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าเกษตรกร จำนวน 3,600 ราย ปลูกข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1 ซึ่งคณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ด้านการผลิตมิได้ระบุผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ไว้ และ เกษตรกรเกรงว่าจะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ทางจังหวัดได้ทำหนังสือหารือไปยังคณะอนุกรรมการนโยบายข้าว แห่งชาติด้านการผลิตแล้ว แต่ยังไม่ได้รับแจ้งผลการพิจารณาแต่อย่างใด และควรมีการทบทวนการกำหนดพื้นที่ผล ผลิตเฉลี่ยต่อไร่ในการปลูกข้าวในพื้นที่จังหวัดที่ต่ำกว่าความเป็นจริงให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงอย่างน้อยควรกำหนด เกณฑ์ผลผลิตต่อไร่ของจังหวัดไม่น้อยกว่าผลผลิตต่อไร่ระดับภาค 1.5 ควรมีการจัดระบบการจัดสรรน้ำให้เหมาะสมกับฤดูกาลทำนาของเกษตรกร 1.6 ควรมุ่งเน้นการส่งเสริมการผลิตข้าวให้มีคุณภาพที่ได้มาตรฐาน รวมทั้งส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ การลดต้นทุนการผลิตข้าว เพื่อให้สามารถแข่งขันกับตลาดต่างประเทศ 1.7 กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมการข้าวควรประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ ความเข้าใจ และส่งเสริมให้ เกษตรกรปลูกข้าวพันธุ์ที่มีความต้านทานต่อโรคเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลสูงและให้ผลผลิตต่อไร่สูง นอกจากนี้ กรมส่ง เสริมการเกษตรควรเร่งรัดติดตามการช่วยเหลือเกษตรกรในจังหวัดกำแพงเพชรและนครสวรรค์ที่ประสบปัญหาเพลี้ย กระโดดสีน้ำตาลระบาดในนาข้าว ปี 2552-53 ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2552 ให้ได้รับเงินช่วยเหลือโดยเร็ว 2. ให้คณะกรรมการติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกร ดำเนินการตรวจ สอบข้อมูลร้อยละ 100 ในพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรที่ผลการเปรียบเทียบข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมของสำนักงาน พัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศกับข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรมีความแตกต่างกันเกินกว่าร้อยละ 20 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ได้ข้อมูลประกอบการดำเนินโครงการฯ ที่ถูกต้อง ชัดเจน สอดคล้องกับข้อเท็จจริงต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
36247 | การขออนุมัติขอขยายวงเงินงบประมาณการดำเนินการโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา | ศธ | 18/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายวงเงินงบประมาณการดำเนินการโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทย
เข้มแข็ง 2555 ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยปรับวงเงินงบประมาณตามข้อ (1) ข้อย่อยที่ (1.2) จากวงเงินงบประมาณที่ได้รับอนุมัติเป็นเงิน 1,697,319,567 บาท เป็นวงเงินงบประมาณ 1,767,319,567 บาท (เพิ่มขึ้น 70,000,000 บาท) จำแนกเป็น 1. วงเงินครุภัณฑ์ จำนวน 2 รายการ เป็นเงิน 1,417,319,567 บาท 1.1 โครงการ Education Hub เป็นเงิน 12,000,000 บาท 1.2 โครงการยกระดับคุณภาพอาชีวศึกษา เป็นเงิน 1,405,319,567 บาท (รวมวงเงินสิ่งก่อสร้างที่นำไปรวมกับครุภัณฑ์ เป็นเงิน 70,000,000 บาท แล้ว) 2. วงเงินสิ่งก่อสร้าง จำนวน 1 รายการ เป็นเงิน 350,000,000 บาท (โครงการก่อสร้างหอประชุมฯ ศูนย์วิศวกรรมเกษตร บางพูน) |
|||||||||||||||||||||||||||
36248 | วันหยุดราชการ (19 - 21 พฤษภาคม 2553) | นร | 18/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 19-21 พฤษภาคม 2553 เป็นวันหยุดราชการเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร
สำหรับหน่วยงานที่ต้องให้บริการประชาชนในเรื่องต่าง ๆ เช่น การส่งออกและนำเข้า การรักษาพยาบาล การออก หนังสือเดินทาง และหน่วยงานอื่นซึ่งต้องปฏิบัติราชการจำเป็นเร่งด่วน เช่น งบการเงินการคลัง และการบริหารงบ ประมาณ ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดใช้ดุลพินิจกำหนดให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานมาปฏิบัติราชการตามปกติได้ตามความ จำเป็นและเหมาะสม
|
|||||||||||||||||||||||||||
36249 | รายงานผลการประชุมคณะประศาสน์การขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ สมัยที่ 307 | รง | 11/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอรายงานผลการประชุมคณะประศาสน์การของ
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (GB) สมัยที่ 307 ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 13-28 มีนาคม 2553 ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบและรับรองรายงานของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน ที่สำคัญสรุปได้ดังนี้ 1. ที่ประชุมรับทราบการผลักดันให้ประเทศสมาชิกนำข้อตกลงเรื่องงานของโลก (Global Jobs Pact) ที่รับรองในการประชุมใหญ่ ILO สมัยที่ 98 เมื่อเดือนมิถุนายน 2552 เพื่อนำมาปรับใช้เป็นแนวทางในการแก้ไข ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ โดยผู้บริหารสูงสุดของแผนงานเพื่อการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ร่วมกับ ILO รับเอา Global Jobs Pact มาบรรจุในวาระงานของ UNDP โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ UNDP เพื่อดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายของการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ ซึ่ง UNDP และ ILO มีแนวทางความร่วมมือในการ สร้างงาน สร้างรายได้ และบูรณาการทางสังคม การส่งเสริม "Green Jobs" โดยสร้างงานและการพัฒนามนุษย์ ในเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการสร้างฐานความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของการจ้างงานต่อนโยบาย และแผนงานด้านการจ้างงาน และการสร้างมาตรการการคุ้มครองทางสังคมขั้นพื้นฐาน 2. ที่ประชุมได้รับรองข้อสรุปเกี่ยวกับปัญหาแรงงานบังคับในพม่า โดยรับทราบความก้าวหน้าในการ ดำเนินการที่ผ่านมา และขอให้พยายามอย่างจริงจังต่อไป เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานบังคับให้หมดสิ้นอย่าง แท้จริง รวมทั้งเรียกร้องให้พม่าปล่อยตัวผู้นำแรงงานและนักโทษทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการร้องทุกข์เกี่ยวกับการ การใช้แรงงานบังคับโดยเร็ว 3. ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเสนอของ ILO ที่ขอให้โอนเงิน Net Premium ซึ่งเป็นเงินกำไรจากอัตราแลก เปลี่ยนเงินสกุลฟรังก์สวิสกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2551-2552 รวมจำนวน 29.7 ล้าน ฟรังก์สวิสเข้ากองทุนก่อสร้างและปรับปรุงอาคารสำนักงาน โดยตกลงที่จะเสนอให้ที่ประชุมใหญ่ ILO สมัยที่ 99 ในเดือนมิถุนายน 2553 พิจารณา 3 ข้อเสนอคือ แบ่งเงิน Net Premium เป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กัน โดยเข้ากองทุน ก่อสร้างฯ ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งแบ่งคืนประเทศสมาชิก หรือคืนเงินทั้งหมดให้แก่ประเทศสมาชิก หรือโอน เงินทั้งหมดเข้ากองทุนก่อสร้างฯ และหากมีส่วนเหลือจากการปรับปรุงอาคารขอให้โอนคืนประเทศสมาชิกภาย หลัง 4. ที่ประชุมรับทราบกำหนดจัดการประชุมระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Regional Forum -APRM) ครั้งที่ 15 ที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 12-15 ตุลาคม 2553 โดยวัตถุประสงค์ของการประชุมเพื่อ ทบทวนและติดตามผลการดำเนินงานตามมติที่ประชุม APRM ครั้งที่ 14 ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลี หัวข้อการ ประชุมที่สำคัญระดับ High Level ได้แก่ การเป็นหุ้นส่วนเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนของวาระงานที่มีคุณค่าในภูมิภาค เอเชียแปซิฟิก การจัดการด้านการเคลื่อนย้ายแรงงานและวาระงานที่มีคุณค่าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและ Green Jobs และวาระงานที่มีคุณค่าในเอเชียและแปซิฟิก 5. ที่ประชุมรับทราบเกี่ยวกับการบรรจุเรื่อง แผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าลงในยุทธศาสตร์ ที่ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการในกระบวนการปฏิรูปของสหประชาชาติ โดยเฉพาะกรอบงานความช่วยเหลือ เพื่อการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDAF) โดยมี 44 ประเทศที่กำลังดำเนินการตามแผน และมี 11 ประเทศ ทำแผนเสร็จแล้วเมื่อสิ้นปี พ.ศ. 2552 และ 12 ประเทศคาดว่าจะทำเสร็จในปี พ.ศ. 2553 อีก 80 ประเทศกำลัง จัดทำแผน
|
|||||||||||||||||||||||||||
36250 | การเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนการวิจัยแทนกรรมการเดิมที่ลาออก (ศาสตราจารย์จรรจา สุวรรณทัต) | นร | 11/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งศาสตราจารย์จรรยา สุวรรณทัต เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสาขา
มนุษยศาสตร์และพัฒนาชนบทในคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนการวิจัย แทนศาสตราจารย์ อมรา พงศาพิชญ์ ที่ลาออกจากตำแหน่ง ตามที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ คณะรัฐมนตรีมีมติ (11 พฤษภาคม 2553) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
36251 | ขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งนายเพาล์ รอเบิร์ต มารี สมูลเดอร์ (Paul Robert Marie Smulders) เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำจังหวัดภูเก็ต | กต | 11/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเพาล์ รอเบิร์ต มารี สมูลเดอร์ (Paul Robert Marie Smulders)
ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำจังหวัดภูเก็ต โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมพื้น ที่จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36252 | การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง เพื่อการประสานงานการให้ความเห็นขององค์การอิสระในโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง | ทส | 11/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด
ล้อม โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในวงเงินไม่เกิน 18,412,600 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ดังนี้ 1. สนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการประสานงานการให้ความเห็นขององค์การอิสระและช่วย เหลือการดำเนินการขององค์การอิสระ ตามที่คณะกรรมการมอบหมาย จำนวน 14,292,600 บาท 2. สมทบคืนกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จำนวน 4,120,000 บาท
|
|||||||||||||||||||||||||||
36253 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลบ้านติ้ว ตำบลบ้านหวาย ตำบลปากดุก ตำบลปากช่อง ตำบลบ้านไร่ และตำบลบ้านกลาง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... | กษ | 11/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้อง
ที่ตำบลบ้านติ้ว ตำบลบ้านหวาย ตำบลปากดุก ตำบลปากช่อง ตำบลบ้านไร่ และตำบลบ้านกลาง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลบ้านติ้ว ตำบล บ้านหวาย ตำบลปากดุก ตำบลปากช่อง ตำบลบ้านไร่ และตำบลบ้านกลาง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อก่อสร้างระบบส่งน้ำ ตามโครงการระบบส่งน้ำห้วยขอนแก่น ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
36254 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กษ | 11/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาและบริหารจัด
การผลไม้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎ หมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างระเบียบสำนักนายกฯ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ พ.ศ. 2550 ในส่วนขององค์ประกอบคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ข้อ 4(2) และ (3) ดังนี้ 1. เพิ่มรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นรองประธานกรรมการ 2. เพิ่มอธิบดีกรมการปกครอง เป็นกรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36255 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | นร | 11/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง รายการเงินสำรอง
จ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 553,023,000 บาท เพื่อใช้สำหรับปฏิบัติภารกิจของกองอำนวยการรักษา ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ตามที่ กอ.รมน. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36256 | การเชื่อมโยงข้อมูลระบบ e-LAAS เข้าสู่ระบบ GFMIS | กค | 11/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลการเบิกจ่ายเงินขององค์การบริหารส่วนตำบล
(อปท.) จากระบบ e-LAAS เข้าสู่ระบบ GFMIS (Government Fiscal Management Information System) โดยใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ให้ดำเนินโครงการนำร่องในจังหวัดที่มีความพร้อมเพื่อทดลองการเชื่อมโยงข้อมูล และ ให้การเชื่อมโยงข้อมูลครอบคลุมทั่วประเทศในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||
36257 | การเข้าร่วมงาน Yeosu International Exposition 2012 ณ สาธารณรัฐเกาหลี | พณ | 11/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ประเทศไทยเข้าร่วมงาน Yeosu International Exposition 2012 ณ เมือง
Yeosu สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 พฤษภาคม-12 สิงหาคม 2555 โดยมอบหมาย ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบการเข้าร่วมงานดังกล่าว ตามที่ กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยในส่วนของการจัดเตรียมรายละเอียดด้านงบประมาณ และการเตรียมความพร้อม ในการเข้าร่วมงานด้านต่าง ๆ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา อีกครั้งหนึ่ง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
36258 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ (จำนวน 11 คน 1. นางรตยา จันทรเทียร ฯลฯ) | ทส | 11/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ
ชุดใหม่ จำนวน 11 คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมได้ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนดสองปีตามวาระ ตามที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (11 พฤษภาคม 2553) เป็นต้นไป ดังนี้ 1. นางรตยา จันทรเทียร ผู้แทนมูลนิธิสืบนาคะเสถียร 2. ร้อยเอกปัญญา ยังประภากร ผู้แทนสมาคมสวนสัตว์ไทย 3. นายพยุง นพสุวรรณ ผู้แทนมูลนิธิพุทธอุทยานโลก 4. รศ.อุทิศ กุฏอินทร์ ผู้แทนสมาคมศิษย์เก่าวนศาสตร์ 5. รศ.ปานเทพ รัตนากร ผู้แทนมูลนิธิช้างแห่งประเทศไทย 6. นายอนรรฆ พัฒนวิบูลย์ ผู้แทนสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าประเทศไทย 7. นายสมชัย เพียรสถาพร ผู้ทรงคุณวุฒิที่มิได้เป็นผู้แทนของสมาคมหรือมูลนิธิ 8. นายชวาล ทัฬหิกรณ์ ผู้ทรงคุณวุฒิที่มิได้เป็นผู้แทนของสมาคมหรือมูลนิธิ 9. รศ.นริศ ภูมิภาคพันธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิที่มิได้เป็นผู้แทนของสมาคมหรือมูลนิธิ 10. นายพนัส ทัศนียานนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิที่มิได้เป็นผู้แทนของสมาคมหรือมูลนิธิ 11. นายธงชัย ณ นคร ผู้ทรงคุณวุฒิที่มิได้เป็นผู้แทนของสมาคมหรือมูลนิธิ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36259 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) (นายดุสิต เขมะศักดิ์ชัย) | นร | 11/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักงบประมาณเสนอเรื่อง การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรี
และรัฐสภา (ปคร.) โดยแจ้งว่า รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ได้เห็นชอบให้นายดุสิต เขมะศักดิ์ชัย รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
36260 | การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) (นายเสรี หงษ์หยก) | สธ | 11/05/2553 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งให้นายเสรี หงษ์หยก รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติหน้าที่
ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
.....