คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวม ๗ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
               ๑. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้กองคุ้มครองพันธุ์พืชเป็นสำนักคุ้มครองพันธุ์พืช เปลี่ยนชื่อสถาบันวิจัยพืชไร่เป็นสถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน และกำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบการดำเนินงาน สนับสนุนการปฏิบัติงาน และพัฒนาการบริหารของกรมวิชาการเกษตร รวมทั้งปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการ เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป
               ๒. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้กองแผนที่เป็นสำนักเทคโนโลยีการสำรวจและทำแผนที่ และกองช่างเป็นสำนักวิศวกรรมเพื่อการพัฒนาที่ดิน และกำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบการดำเนินงาน สนับสนุนการปฏิบัติงาน และพัฒนาการบริหารของกรมพัฒนาที่ดิน รวมทั้งปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการเพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป
               ๓. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบการดำเนินงาน สนับสนุนการปฏิบัติงาน และพัฒนาการบริหารของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร รวมทั้งปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการเพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป
               ๔. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เปลี่ยนชื่อสำนักมาตรฐานสินค้าและระบบคุณภาพเป็นสำนักกำหนดมาตรฐาน และเปลี่ยนชื่อสำนักรับรองมาตรฐานสินค้าและระบบคุณภาพเป็นสำนักรับรองมาตรฐาน และกำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบการดำเนินงาน สนับสนุนการปฏิบัติงาน และพัฒนาการบริหารสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ รวมทั้งปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการเพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป
               ๕. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เปลี่ยนชื่อสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์ พื้นที่ ๑ - ๒ เป็นสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ ๑ - ๒ สำนักพัฒนาระบบการบริหารการจัดการสหกรณ์เป็นสำนักบริหารเงินทุน และสำนักจัดตั้งและส่งเสริมสหกรณ์เป็นสำนักส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์ และกำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบการดำเนินงาน สนับสนุนการปฏิบัติงาน และพัฒนาการบริหารของกรมส่งเสริมสหกรณ์ รวมทั้งปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการเพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป
               ๖. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดโดยให้สำนักงานปศุสัตว์กรุงเทพมหานครเป็นราชการส่วนกลาง กองนิติการเป็นสำนักกฎหมาย กองบำรุงพันธุ์สัตว์เป็นสำนักพัฒนาพันธุ์สัตว์ และกองอาหารสัตว์เป็นสำนักพัฒนาอาหารสัตว์ เปลี่ยนชื่อสำนักสุขศาสตร์และสุขอนามัยที่ ๑ - ๙ เป็นสำนักงานปศุสัตว์เขต ๑ - ๙ และสำนักพัฒนาการปศุสัตว์และถ่ายทอดเทคโนโลยีเป็นสำนักส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ และกำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบการดำเนินงาน สนับสนุนการปฏิบัติงาน และพัฒนาการบริหารของกรมปศุสัตว์ รวมทั้งปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการเพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป
               ๗. ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงกองกฎหมายและที่ดินเป็นสำนักกฎหมายและที่ดิน เปลี่ยนชื่อศูนย์สารสนเทศเป็นศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักอุทกวิทยาและบริหารน้ำเป็นสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา สำนักพัฒนาโครงสร้างและระบบบริหารงานบุคคลเป็นสำนักบริหารทรัพยากรบุคคล และสำนักโครงการขนาดใหญ่เป็นสำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ และกำหนดให้มีกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร เพื่อทำหน้าที่ในการตรวจสอบการดำเนินงาน สนับสนุนการปฏิบัติงาน และพัฒนาการบริหารกรมชลประทาน รวมทั้งปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการเพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป