ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ขออนุมัติงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 และกรอบงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | สธ | 13/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ วงเงิน ๑๘๑,๕๘๔.๐๙ ล้านบาท จำแนกเป็น ๒ รายการหลัก คือ (๑) งบประมาณค่าบริการทางการแทพย์เหมาจ่ายรายหัว วงเงิน ๑๖๖,๔๔๕.๒๓ ล้านบาท และ (๒) งบประมาณค่าบริการทางการแพทย์อื่น วงเงิน ๑๕,๑๓๘.๘๖ ล้านบาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ และคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน (ในคราวประชุมคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน ครั้งที่ ๑๒/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๐) เช่น ควรให้ความสำคัญกับความพร้อมและศักยภาพของผู้ให้บริการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการจัดบริการที่มีคุณภาพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และมีการติดตามประเมินผลตามตัวชี้วัดที่สะท้อนถึงผลลัพธ์ของนโยบายดังกล่าว ควรเร่งดำเนินการด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคแก่ประชาชนทั่วไปโดยเร่งด่วน พร้อมทั้งให้มีการบริหารจัดการและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณค่ารักษาพยาบาล โดยเฉพาะการบริการผู้ป่วยในให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพตามมาตรฐาน ควรพิจารณาบริการที่มีแนวโน้มบริการเพิ่มขึ้นและอาจส่งผลต่องบประมาณที่ได้รับ รวมทั้งควรให้มีเกณฑ์การวัดคุณภาพบริการของหน่วยบริการ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุข สปสช. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการบูรณาการการดำเนินงานด้านการป้องกันโรคร่วมกันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะโครงการคลินิกหมอครอบครัว (Primary Care Cluster : PCC) ซึ่งเป็นบริการเชิงรุกเพื่อเน้นการดูแลป้องกันก่อนการเจ็บป่วยเพื่อลดความซ้ำซ้อนของการปฏิบัติงานและภาระงบประมาณด้านสาธารณสุขในพื้นที่ต่าง ๆ รวมทั้งเพื่อลดภาระงบประมาณในระยะยาวต่อไป ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๑ (เรื่อง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการจัดบริการสาธารณสุขปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑) ๓. สำหรับกรอบงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ให้ สปสช. ดำเนินการตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ กฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการให้เป็นไปตามปฏิทินงบประมาณ ตลอดจนแนวทางต่าง ๆ ตามที่สำนักงบประมาณกำหนด โดยให้ สปสช. ประสานงานกับสำนักงบประมาณอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การพิจารณางบประมาณเป็นไปด้วยความเหมาะสมและถูกต้องตามขั้นตอนต่อไป ๔. ให้กระทรวงสาธารณสุขและ สปสช. สร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการดำเนินการของระบบหลักประกันสุขภาพ ตลอดจนภาระงบประมาณของภาครัฐในการดำเนินการดังกล่าวต่อไปด้วย
|
.....