คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้ง นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ เป็นข้าราชการเมืองตำแหน่ง
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  และนายมานพ จรัสดำรงนิตย์ เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่า
การกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2545 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

                           อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่  4  
(คกก.4)  ที่มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  (การแก้ไขกฎหมาย
เกี่ยวกับการฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลาย และการร้องขอให้มีการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้เพื่อเป็นการคุ้มครอง
สิทธิของบรรดาเจ้าหนี้และลูกหนี้)  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา    โดยให้
รับประเด็นอภิปรายของ คกก.4  (เกี่ยวกับหนี้ที่เป็นหนี้บุริมสิทธิให้คงไว้ตามร่างเดิม และไม่ควรกำหนด
ให้ตำแหน่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เป็นตำแหน่งที่มีเหตุที่จะได้รับเงินเพิ่ม  เนื่องจากมาตรา  33  ของ
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน  พ.ศ. 2535   ได้บัญญัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้ว)  รวมทั้งข้อ
สังเกตและความเห็นเพิ่มเติมของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาด้วย   แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
สำหรับในส่วนที่เกี่ยวกับการอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลตามพระราชบัญญัติล้มละลายที่
กำหนดให้อุทธรณ์ไปยังศาลฎีกานั้น ให้สำนักงานศาลยุติธรรมรับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป เกี่ยว
กับการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในส่วนของการอุทธรณ์ในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลาย และวิธี
พิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 ไปพร้อมกันด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการจัดทำแผนแม่บทกระบวนการยุติธรรม
แห่งชาติ   โดยมีรองนายกรัฐมนตรี  (นายปองพล  อดิเรกสาร)  เป็นประธานกรรมการ  รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงยุติธรรม เป็นรองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นกรรมการและเลขานุการ  และ
มีกรรมการอื่นอีก  29  คน  มีอำนาจหน้าที่หลักกำหนดทิศทางแผนแม่บทกระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ
เพื่อเป็นแนวทางการวางแผนพัฒนากระบวนการยุติธรรมแห่งชาติ  และอำนาจหน้าที่อื่นอีก  5  ประการ 
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานสรุปผลการประชุมเรื่อง การประสาน
ความร่วมมือในการดำเนินงานตามร่างพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. ....  โดยที่ประชุม
ได้กำหนดแนวทางการประสานความร่วมมือในการดำเนินงานตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ประกอบด้วย
แนวทางความร่วมมือด้านการควบคุมตัวและส่งตัว  ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ   กรมราชทัณฑ์   สถานพินิจ
และคุ้มครองเด็กและเยาวชนกลาง  และกระทรวงกลาโหม  เป็นหน่วยรับผิดชอบ    ด้านการตรวจพิสูจน์   ให้
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ  ทบวงมหาวิทยาลัย  กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม  สำนัก
งานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด  กรมราชทัณฑ์  สถานพินิจ  ฯ  กระทรวงสาธารณสุข  กระทรวง
กลาโหม และสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นหน่วยรับผิดชอบ ส่วนด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ให้
กระทรวงกลาโหม  กรมราชทัณฑ์  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ   กระทรวงสาธารณสุข   กระทรวงศึกษาธิการ
และกระทรวงแรงงาน ฯ เป็นหน่วยรับผิดชอบ   สำหรับการบริหารจัดการเพื่อสนับสนุนให้การดำเนินงานมี
ประสิทธิผล  ให้สำนักงบประมาณ   สำนักงาน ก.พ.   กระทรวงสาธารณสุข   กระทรวงศึกษาธิการ   ทบวง
มหาวิทยาลัย และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นหน่วยรับผิดชอบ

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนของแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวใน
ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ศาลจังหวัดเพชรบุรี ศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ศาลจังหวัดยะลา ศาลจังหวัดลำพูน ศาลจังหวัด
ศรีสะเกษ   ศาลจังหวัดสมุทรสาคร   ศาลจังหวัดสุโขทัย  และศาลจังหวัดอ่างทอง  พ.ศ.  ....  (กำหนดให้มีการจัด
ตั้งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลจังหวัดดังกล่าว   รวมทั้งกำหนด
ตำแหน่งข้าราชการ ตำแหน่งลูกจ้างประจำ และอัตราเงินเดือนและค่าจ้าง)  ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ   โดย
ยกเว้นในศาลจังหวัดยะลา และศาลจังหวัดสุมทรสาคร  เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดทำการแผนกคดีเยาวชนและ
ครอบครัวในศาลจังหวัดตามร่างพระราชกฤษฎีกาที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม 
การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้วดำเนินการต่อไปได้  โดยให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการเกลี่ยอัตรากำลังภาย
ในกระทรวงยุติธรรมก่อน หากไม่เพียงพอให้เสนอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ
พิจารณาต่อไป  สำหรับงบดำเนินการและการจ้างลูกจ้าง  การจ้างเหมาบริการ  ตลอดจนค่าอาหารของเด็กและ
เยาวชนในสถานพินิจให้กระทรวงยุติธรรมขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ประจำปีงบประมาณ 2544 ระยะที่ 2 (เมษายน-กันยายน 2544) ของกระทรวงยุติธรรม 
โดยมีภาพรวมงาน/โครงการสำคัญที่ดำเนินการตามแผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 8 จำนวน 86 งาน/โครงการ ได้แก่ การ 
พัฒนาศักยภาพของคนไทย  การพัฒนาสภาพแวดล้อมของสังคมให้ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคน   และการ
พัฒนาประชารัฐ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐ 
กิจและสังคมแห่งชาติ  (ที่ให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาปรับปรุงเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานกับผู้กระทำความ 
ผิดทั้งเด็ก เยาวชนและผู้ใหญ่ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นขยายหรืออาศัยเครือข่ายความร่วมมือในการ
ดำเนินงานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีศักยภาพในการป้องกันหรือการสร้างภูมิคุ้มกันและเฝ้าระวัง 
เด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการกระทำผิด การฝึกอบรม และฟื้นฟูผู้กระทำผิด  รวมทั้งการช่วยเหลือและ 
จัดหาอาชีพผู้ถูกคุมประพฤติเพื่อให้กลับตนเป็นคนดี  ทั้งนี้  ภายใต้การส่งเสริมสนับสนุนหรืออุดหนุนงบประมาณ
และกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสีย 
หาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา จำนวน 5 คน ได้แก่ นายภิรมย์ กมลรัตนกุล นางดารา 
วรรณ ธรรมารักษ์ นายนรนิติ เศรษฐบุตร นายวิวัฒน์ ยถาภูธานนท์ และนายมานิจ  สุขสมจิตร  โดยให้แต่งตั้ง 
ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (4 ธันวาคม 2544) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการประสานงานกระบวนการยุติธรรม  
โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงสาธารณสุข 
อัยการสูงสุด  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม  เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง  
เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ   เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบ
ปรามยาเสพติด อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมคุมประพฤติ อธิบดีกรมบังคับคดี อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เลขาธิ
การเนติบัณฑิตยสภา  และนายกสภาทนายความ เป็นกรรมการ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม (ฝ่ายวิชาการ) เป็น 
กรรมการ และเลขานุการ ผู้อำนวยการกองนโยบายและแผน สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม และผู้อำนวยการ    
กองวิชาการ  สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม   เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ   โดยมีอำนาจหน้าที่คงเดิม 
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มีมติเห็นควร
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดลูกจ้างตามมาตรา 4 (6) แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 
(ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  ที่ได้ประชุมพิจารณาหาข้อยุติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว   ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

                        อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 (คกก.2) ที่
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตาม  
ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ   และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา    โดยให้รับความเห็นของ   
สำนักงานศาลยุติธรรม (เกี่ยวกับการกำหนดให้บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ปฏิบัติการ  
แทน ควรกำหนดไว้เป็นการเฉพาะหรือเป็นข้อยกเว้นไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ภาค 4 ลักษณะ 
2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า ผู้ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีมอบหมาย นั้น มี   
อำนาจดำเนินการได้เพียงใด และจะต้องรับผิดเพียงใดหากเกิดความเสียหายจากการบังคับคดีนั้น โดยไม่จำเป็น   
ต้องกำหนดไว้ในบทนิยามคำว่า  "เจ้าพนักงานบังคับคดี"  ภายในร่างพระราชบัญญัติ ฯ  เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใน
ทางปฏิบัติ) รวมทั้งข้อสังเกตของ คกก.2  (เกี่ยวกับบทนิยามคำว่า "เจ้าพนักงานบังคับคดี" ที่กระทรวงยุติธรรม 
เสนอมานั้น ควรมอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณา  โดยเชิญผู้แทนกระทรวงยุติธรรม และ 
สำนักงานศาลยุติธรรมพิจารณาด้วย    ส่วนบทบัญญัติที่กำหนดให้ศาลออกบังคับสั่งให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษา  
หรือบริวารออกไปจากอสังหาริมทรัพย์ เป็นการบัญญัติกระทบถึงสิทธิของบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ลูกหนี้ตามคำ 
พิพากษาหรือไม่ มอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปพิจารณาด้วย)  ไปประกอบการพิจารณา แล้ว 
ส่งให้ผู้แทนกระทรวงยุติธรรมและผู้แทนสำนักงานศาลยุติธรรมไปร่วมพิจารณาด้วย    แล้วส่งให้คณะกรรมการ 
ประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

                         รับทราบการพิจารณาเกี่ยวกับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่วุฒิสภาแก้ไขและส่ง
กลับมาสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2544  ได้มอบให้คณะกรรมการประสาน  
งานสภาผู้แทนราษฎรรับไปพิจารณาว่า   รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบสมควรชี้แจงแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมสภาผู้
แทนราษฎร ก่อนการลงมติว่าจะเห็นชอบกับการที่วุฒิสภาแก้ไขร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร  ซึ่ง 
คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแล้วเห็นว่า   การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติในชั้นการ
พิจารณาในวาระต่าง ๆ นั้น รัฐมนตรีที่รับผิดชอบได้ชี้แจงแสดงความเห็นไปเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับข้อบังคับ 
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็มิได้กำหนดในเรื่องดังกล่าวไว้   ดังนั้น  การต้องชี้แจงแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ 
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวควรอยู่ในดุลยพินิจของรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ รวมทั้งเห็นชอบให้ส่วนราชการที่เกี่ยว
ข้องเร่งรัดดำเนินการร่างพระราชบัญญัติที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว    และได้  
ส่งคืนแล้ว ตลอดจนร่างพระราชบัญญัติที่สำนักงาน ฯ ตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการขอความเห็น  
ชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวม 6 ฉบับ  เพื่อจะได้นำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบโดย  
เร็วต่อไป และให้ทุกส่วนราชการเร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 กันยายน และ 18 กันยายน 
2544  ที่ให้ส่วนราชการเร่งแจ้งรายชื่อผู้ประสานงานด้านนิติบัญญัติให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน
ราษฎรทราบโดยด่วน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ

                             เห็นชอบให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเร่งรัดดำเนินการเสนอร่างพระราชบัญญัติ  
ของคณะรัฐมนตรีที่อยู่ในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร   วาระที่  1   และร่างพระราชบัญญัติที่สำนัก 
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว  และอยู่ระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการ   
กลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีคณะต่าง ๆ  ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ได้เร่งรัดการพิจารณาด้วยเพื่อ  
จะได้นำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาได้โดยเร็วต่อไป   สำหรับร่างพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด   
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จำนวน 4 ฉบับ ที่อยู่ในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระที่ 1  ซึ่งมีสาระสำคัญ 
เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดโดยตรง    มอบให้กระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาว่า
จะมีนโยบายในเรื่องดังกล่าวอย่างไร แล้วแจ้งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรทราบโดยด่วน ตาม
ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21
สิงหาคม 2544 และวันที่ 4 กันยายน 2544 เรื่อง  การกำหนดมาตรการและแนวทางปฏิบัติเพื่อเร่งรัดการ  
เบิกจ่ายเงินงบประมาณ ตามมติคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของส่วนราชการ โดย   
ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว รวม 3 รายการ ได้แก่  รายการ
ค่าก่อสร้างปรับปรุงกำแพงสถานฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนรุ่นใหญ่ (บ้านกรุณา) จำนวน  5,093,000   
บาท รายการค่าก่อสร้างทางเข้า-ออก ลานจอดรถยนต์ และระบบสาธารณูปโภค ของสถานฝึกและอบรม  
เด็ก และเยาวชนชายรุ่นเล็ก (บ้านมุทิตา) จำนวน 10,775,000 บาท   และรายการค่าใช้จ่ายสำหรับโครง  
การจัดหาคอมพิวเตอร์เพื่อการบริหาร  จำนวน 10 รายการ  จำนวน  5,359,800  บาท  ส่วนรายการค่า 
ใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด  จำนวน  6,456,650  บาท  ให้ดำเนิน  
การโดยวิธีพิเศษ  โดยให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2544 เรื่อง  การกำหนดมาตรการ  
และแนวทางปฏิบัติเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ  ตามมติคณะกรรมการติดตามและประเมินผล ฯ  
เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย

              เห็นชอบให้ทุกส่วนราชการเร่งแจ้งรายชื่อผู้ประสานงานที่รับผิดชอบงานด้านรัฐสภา
ทำหน้าที่ติดตามความเคลื่อนไหวและความคืบหน้าในเรื่องที่เกี่ยวกับพระราชบัญญัติ ญัตติ และกระทู้ถามของส่วน 
ราชการให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรทราบโดยด่วน  ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม 
เสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาจัดซื้อหรือเช่าซื้ออาคารเพื่อเป็นที่ทำ 
การของกระทรวงยุติธรรมได้ โดยให้คำนึงถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายและการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด  สำหรับงบ 
ประมาณเพื่อการนี้ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยเริ่มในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546  ทั้งนี้  คณะ 
รัฐมนตรีเห็นว่า ปัจจุบันยังคงมีส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ  และหน่วยงานของรัฐมีความจำเป็นต้องหาอาคารแห่ง  
ใหม่เพื่อใช้เป็นที่ทำการถาวรหรือเพื่อกิจกรรมต่าง ๆ ดังนั้น เมื่อบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.)  รับโอน  
สินทรัพย์ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์แล้ว ควรแจ้งให้ส่วนราชการ  รัฐวิสาหกิจ 
และหน่วยงานของรัฐทราบด้วย

              รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบาย 
ในการแก้ไขปัญหาและจัดระเบียบสังคม ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร  ครั้งที่
35/2544 วันจันทร์ที่ 3 กันยายน 2544 ในส่วนของการป้องกันมิให้เด็กและเยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับสุรา 
ยาเสพติด  และอบายมุขอื่น   โดยจะได้ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาปรับเพิ่ม 
บทกำหนดโทษแก่ผู้ประกอบการที่จำหน่ายสุราให้แก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้สูงขึ้น   รวมทั้งกระบวนการ 
ในการลงโทษเด็กและเยาวชนที่ดื่มสุรา

                             อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 2  (คกก.2)
ที่อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. .... 
(การจับ การค้น การคุมขัง การปล่อยชั่วคราว  และการสอบสวน)  ที่คณะทำงานพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ฯ 
แก้ไขปรับปรุงแล้ว    ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ    และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา 
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป และ
ให้กระทรวงยุติธรรมรับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา   (ฉบับที่  ..)  
พ.ศ. ....   ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ  ในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวน  ไปพิจารณา  
ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง   เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป    และให้รับเรื่องการกำหนดให้ศาลมีอำนาจลงโทษ    
จำคุกหรือปรับผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ไม่มาตามหมายเรียก หรือหมายนัดของศาลโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือ 
หลบหนีไป โดยไม่ต้องมีการฟ้องคดี ไปพิจารณาใหม่ในการปรับปรุงประมวลกฎหมายอาญาต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งรองศาสตราจารย์ธงทอง จันทรางศุ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง 
ยุติธรรม ฝ่ายวิชาการ  (นักบริหาร 10)  ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2544 เป็นต้นไป  และนายกิตติพงษ์  กิตยารักษ์
ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมคุมประพฤติ  (นักบริหาร 10)  ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2544 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวง
ยุติธรรมเสนอ

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินงานของคณะกรรมการพิจารณาจัดระเบียบราชการ
กระทรวงยุติธรรมออกไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2544 เพื่อให้การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ ฯ เป็น
ไปด้วยความละเอียดรอบคอบและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการจัดโครงสร้างกระทรวงยุติธรรม ตามที่กระทรวง
ยุติธรรมเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแนวทางและรูปแบบการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล และมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยว 
ข้องรับไปดำเนินการตามมติคณะกรรมการศึกษาแนวทางและรูปแบบ ฯ ประกอบด้วย มาตรการปรับ การระงับ 
ข้อพิพาททั้งในและนอกศาล มาตรการความผิดอันยอมความได้ มาตรการการต่อรองคำรับสารภาพ มาตรการ 
ชะลอการฟ้อง การคุมประพฤติ การดำเนินการตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2534 
มาตรการเพื่อความปลอดภัย มาตรการพักการลงโทษ และมาตรการเกี่ยวกับเด็ก เยาวชนและครอบครัว ตามที่
กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยให้รับความเห็นเพิ่มเติมของกระทรวงมหาดไทย   สำนักงาน ก.พ.   สำนักงานศาล  
ยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงบประมาณ  (เกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายอัตราโทษในคดีอาญาให้ 
สูงขึ้น  การควบคุมค่าใช้จ่ายและการปรับขนาดกำลังคนภาครัฐกรณีที่จัดตั้งหน่วยงานเพิ่มใหม่  การศึกษาแนว   
ทางและรูปแบบการลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาลเพิ่มเติม โดยให้หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายในแต่ละเรื่องศึกษาร่วม 
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องนั้น ๆ โดยตรง  ตลอดจนการพิจารณาอัตรากำลังข้าราชการอัยการให้สอดคล้อง 
กับปริมาณราชการ และการกำหนดยุทธศาสตร์และแผนดำเนินงานระหว่างหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องให้เป็นไป 
ในทิศทางเดียวกันภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด)  ไปพิจารณาดำเนินการด้วย