รูปแบบการแสดงผล |
C
C
C
A
A
A
รูปแบบการแสดงผล |
C
C
C
ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
กรุณาป้อนคำค้นหา
วันที่มีมติ
Start date:
End date:
ถึง
เลขที่หนังสือ/ปี
ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง
กรมการปกครอง ( ปค )
กรมประชาสัมพันธ์ ( กปส )
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ( สถ )
กรรมการ ( กรรมการ )
กระทรวง/ทบวง/กรม ( เวียน )
กระทรวงกลาโหม ( กห )
กระทรวงกลาโหม ( กห(เก่า) )
กระทรวงการคลัง ( กค )
กระทรวงการคลัง ( กค(เก่า) )
กระทรวงการต่างประเทศ ( กต )
กระทรวงการต่างประเทศ ( กต(เก่า) )
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ( กก )
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม )
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ( อว )
กระทรวงคมนาคม ( คค )
กระทรวงคมนาคม ( คค(เก่า) )
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( ดศ )
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ทส )
กระทรวงพลังงาน ( พน )
กระทรวงพาณิชย์ ( พณ )
กระทรวงพาณิชย์ ( พณ(เก่า) )
กระทรวงมหาดไทย ( มท )
กระทรวงมหาดไทย ( มท(เก่า) )
กระทรวงยุติธรรม ( ยธ )
กระทรวงยุติธรรม ( ยธ(เก่า) )
กระทรวงวัฒนธรรม ( วธ )
กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ( วท )
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ( วว. )
กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการพลังงาน ( วทพ )
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( วท )
กระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ )
กระทรวงศึกษาธิการ ( ศธ(เก่า) )
กระทรวงสาธารณสุข ( สธ )
กระทรวงสาธารณสุข ( สธ(เก่า) )
กระทรวงอุตสาหกรรม ( อก )
กระทรวงอุตสาหกรรม ( อก(เก่า) )
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( กษ )
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( กษ(เก่า) )
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( ทก )
กระทรวงแรงงาน ( รง )
กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ( รส )
กรุงเทพมหานคร ( กทม )
กรุงเทพมหานคร ( กทม )
กลุ่มงานดูแลและพัฒนาศักยภาพนักเรียนทุนพระราชทานในโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ( กพน. )
กลุ่มงานเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี ( กคอ )
กองการประชุมคณะรัฐมนตรี ( กปค )
กองการประชุมคณะรัฐมนตรี ( กปค. )
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ( กสศ )
กองนิติธรรม ( กนธ )
กองบริหารงานสารสนเทศ ( กบส )
กองพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ ( กพต )
กองวิเคราะห์เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ( กวค )
กองส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี ( กสค )
กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ( กอค )
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ( กอ.รมน. )
การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท )
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท )
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ( กทพ )
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ )
การประปานครหลวง ( กปน )
การประปาส่วนภูมิภาค ( กปภ )
การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ( ปตท )
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ( รฟม )
การรถไฟแห่งประเทศไทย ( รฟท )
การไฟฟ้านครหลวง ( กฟน )
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ )
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ )
คณะกรรมการ ( คกก )
คณะกรรมการ กปนร. ( กปนร. )
คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( ลต )
คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ ( กนร )
คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ( คปร )
คณะกรรมการช่วยเหลือประชาชน ( คชช )
คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ( กนศ )
คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ( คชก )
คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ( ปสส )
คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการพัฒนาประเทศ ( คปป. )
คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ ( กงช )
คณะกรรมการว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน ( ปปร )
คณะกรรมาธิการ ( คกธ )
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ( ปข )
ทบวงมหาวิทยาลัย ( ทม )
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธกส )
ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท )
บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ( บสท )
บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( บอย )
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ( กบท )
บริษัท การปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ( ปตท )
บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด ( บทม )
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ( นร61 )
บัณฑิต ( นิด้า )
ปธ.คกก.นโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น ( ปธคกก.ถั่ว )
ปธ.คกก.นโยบายป่าไม้แห่งชาติ ( ปธ.คกก.ป่า )
ปธ.คกก.นโยบายยางธรรมชาติ ( ปธ.คกก.ยาง )
ประธาน ( ปธ )
ประธานสมัชชาผู้ขับรถแท็กซี่แห่งประเทศไทย ( ส.ผท.ท. )
ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม (คสช.) ( กก.คสช. )
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ( มข )
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ( มธ )
มหาวิทยาลัยนเรศวร ( มน )
มหาวิทยาลัยบูรพา ( มบ )
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ( มร )
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ( มสธ )
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ( มก )
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ( มช )
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ( มทส )
รอง นรม ( รอง นรม )
ราชบัณฑิตยสถาน ( รถ )
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ( รจภ. )
ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ( ศปมผ. )
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ( ศมส. )
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ( ศมส. )
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอบต )
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( นร52 )
ศูนย์อํานวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ( นร54 )
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ( สคช )
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ( บจธ )
สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ( บจธ. )
สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ( นิด้า )
สถาบันพระปกเกล้า ( พป )
สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ( สวพส. )
สนง.คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( กลต )
สภากาชาดไทย ( กช )
สภาสถาปนิก ( สภส )
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ( สขช )
สำนักงบประมาณ ( สงป )
สำนักงาน ป.ย.ป. ( นร15 )
สำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดถัยและสร้างสรรค์ ( พปส. )
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ( กฟก )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( นร62 )
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ( สสส. )
สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ( สทบ. )
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ( สตง )
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ( กพท. )
สำนักงานคกก.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปช )
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ( สคก )
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ( สกศ )
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต )
สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ( สขค )
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช )
สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( ทช )
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ( ก.ค.ศ. )
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ( กพ )
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ( สคบ )
สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ( สจร )
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ( สพช )
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( นร63 )
สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ ( ปรร )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ปปช )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท. )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ปปท )
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ปปส )
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ( กพร )
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สศช )
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( กร )
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( วช )
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ( วช )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( นร13 )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( สกท )
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ( สกสค. )
สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ( สม )
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ( สช )
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย )
สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ( ตผ )
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ตช )
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ( นร14 )
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ( ทก. )
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ( สนค )
สำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน(องค์การมหาชน) ( สปท )
สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้(องค์การมหาชน) ( สบร )
สำนักงานปฏิรูปการศึกษา ( สปศ )
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ( สป.กห )
สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ( สป.ดท )
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ( สปน )
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปง )
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง )
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ( ผผ )
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ( ผร )
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ. )
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ( พศ )
สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ( สพค. )
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ( สมศ )
สำนักงานศาลปกครอง ( ศป )
สำนักงานศาลยุติธรรม ( ศย )
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ( ศร )
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( นร53 )
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ( สวส. )
สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ( สอซช. )
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ( สศส03 )
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ( สมช )
สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สสป )
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( นร.11 )
สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ( สกช. )
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. )
สำนักงานอัยการสูงสุด ( อส )
สำนักงานเลขาธิการ ( สลธ )
สำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ( คมช )
สำนักงานเลขาธิการรัฐสภา ( สภ )
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ( สว )
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ( สผ )
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ( สศอ )
สำนักนายกรัฐมนตรี ( นร )
สำนักนิติธรรม ( สนธ )
สำนักบริหารกลาง ( สบก )
สำนักบริหารงานสารสนเทศ ( สบส )
สำนักพระราชวัง ( พว )
สำนักพัฒนายุทธศาสตร์และติดตามนโยบายพิเศษ ( สพต )
สำนักราชเลขาธิการ ( รล )
สำนักวิเคราะห์เรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ( สวค )
สำนักส่งเสริมและประสานงานคณะรัฐมนตรี ( สปค )
สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ( สอค )
สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( สลธ.คสช. )
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ( สลค )
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ( สลน )
สำนักโฆษก ( สน.ฆ )
สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ( สกพอ )
สํานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก, การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( กนอ+ส )
หน่วยงานอื่น ๆ ( อื่นๆ )
องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ( ส.ส.ท )
องค์การคลังสินค้า ( อคส )
องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ( อตก )
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) ( อพท )
องค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ. )
องค์การบริหารส่วนตำนล ( อบต. )
องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ( รสพ. )
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ( อสค )
องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย ( อสมท )
องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน ( ปรส )
เนคเทค ( เนคเทค )
เวียนรัฐมนตรี ( ว(ร) )
ค้นหา
ล้างคำค้น
คู่มือการใช้งาน
หน้าที่ 64 จากทั้งหมด 97 หน้า แสดงรายการที่ 1261 - 1280 จากข้อมูลทั้งหมด 1931 รายการ
ลำดับ
ชื่อเรื่อง
ส่วนราชการ
เจ้าของเรื่อง
วันที่มีมติ
1261
ขออนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณค่าก่อสร้างและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณการจ้างก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์และเก็บของกลาง สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
ยธ
05/08/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอขอเพิ่มวงเงินงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารจอด
รถยนต์และเก็บของกลาง สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จำนวน 1 หลัง โดยขอเพิ่มวงเงินค่าก่อ
สร้างจากเดิม 64,000,000 บาท เป็น 69,400,000 บาท และขอขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบ
ประมาณ จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2546-2547 เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2546-2548 (540วัน) สำหรับการ
เบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้ดำเนินการเบิกจ่ายจากงบประมาณ
รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 จำนวน 12,800,000 บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปี ฯ
พ.ศ. 2547 จำนวน 28,840,000 บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปี ฯ พ.ศ. 2548 จำนวน 17,760,000
บาท
1262
การให้โอกาสผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดซึ่งพ้นจากสภาพการใช้ยาเสพติดเข้าทำงานหรือรับการศึกษาต่อในหน่วยงานภาครัฐ
ยธ
05/08/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและให้ดำเนินการต่อไปได้ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ)
ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ เสนอเรื่อง การให้โอกาสผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดซึ่ง
พ้นจากสภาพการใช้ยาเสพติดเข้าทำงานหรือรับการศึกษาต่อในหน่วยงานภาครัฐ ดังนี้ ผู้ใดที่เคยมีประวัติการเสพ
หรือติดยาเสพติด และได้พ้นจากสภาพการใช้ยาเสพติด โดยได้รับการรับรองจากแพทย์ หรือโดยผ่านการบำบัด
รักษาของทางราชการ หรือสถานบำบัดที่ได้รับการรับรองจากทางราชการ ให้ถือว่า ผู้นั้นเป็นผู้มีโอกาสในการทำ
งาน หรือเข้ารับการศึกษาเช่นบุคคลทั่วไป โดยหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ จะปฏิเสธการรับ
ผู้นั้นเข้าทำงานหรือศึกษาต่อ โดยอ้างเหตุว่าเป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดี จนเป็นที่รังเกียจของสังคมมิได้ รวม
ทั้งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องชี้แจงทำความเข้าใจกับบุคลากรภายในหน่วยงานและภาคเอกชนถึงความสำคัญ และ
จำเป็นของการให้โอกาสแก่ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ตลอดจนขอความร่วมมือกับภาคเอกชนในการรับผู้เสพ/ผู้ติดยา
เสพติดที่พ้นจากสภาพการใช้ยาเสพติดเข้าทำงานหรือศึกษาต่อเพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่
วันที่ 12 สิงหาคม 2546 เป็นต้นไป
#
หน่วยงาน
ชื่อเอกสาร
1
ยืนยันมติ (11602/2546)
2
ยืนยันมติ (208/2546)
3
เรื่องเข้าใหม่ (สายครม.) (1512/2546)
1263
งบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
ยธ
05/08/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนองบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินของกองทุน
ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2545 และ 2544 ที่สำนักงานการตรวจเงิน
แผ่นดินรับรองแล้ว โดยผลการดำเนินงานในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ในส่วนของรายได้ในปี พ.ศ. 2545 กองทุน ฯ
มีรายได้ 2.62 ล้านบาท ปี พ.ศ. 2544 มีรายได้ 2.77 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายในปี พ.ศ. 2545 กองทุน ฯ มี
ค่าใช้จ่าย 16.00 ล้านบาท และในปี พ.ศ. 2544 มีค่าใช้จ่าย 7.77 ล้านบาท และจากผลการดำเนินงาน กองทุน ฯ
มีรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่าย ในปี พ.ศ. 2545 จำนวน 13.38 ล้านบาท ส่วนปี พ.ศ. 2544 มีจำนวน 5.00 ล้าน
บาท โดยในปี พ.ศ. 2545 กองทุน ฯ มีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายสูงกว่าปี พ.ศ. 2544 จำนวน 8.38 ล้านบาท
เนื่องจากส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ/ยึด
/อายัดทรัพย์สิน และค่าใช้จ่ายเงินรางวัลเพิ่มขึ้น ซึ่งมีสาเหตุจากปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีการ
ขยายผลการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า งบดุลใน
ส่วนของเงินกองทุนมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไม่มาก อาจจะมีสาเหตุหนึ่งจากการที่คดียังค้างดำเนินการอยู่
ในกระบวนการของศาลยุติธรรม ดังนั้น เพื่อให้การบริหารกองทุนเกิดประโยชน์สูงสุด จึงมอบให้รัฐมนตรีว่า
การกระทรวงยุติธรรมไปประสานงานกับสำนักงานศาลยุติธรรมต่อไป
1264
ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานอัยการสูงสุด รวม 3 ฉบับ
ยธ
05/08/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (คกก.7) ที่มี
มติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานอัยการสูงสุด พ.ศ. ....
ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ...) ออกตามความในพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พ.ศ. 2498 ว่าด้วยการ
กำหนดตำแหน่งพนักงานอัยการที่เรียกชื่ออย่างอื่น และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. ( พ.ศ. ....) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2521 ว่าด้วยการกำหนดตำแหน่งข้าราชการอัยการที่เรียก
ชื่ออย่างอื่น และการเทียบตำแหน่งข้าราชการอัยการที่เรียกชื่ออย่างอื่นกับตำแหน่งข้าราชการอัยการ รวม 3
ฉบับ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของ คกก.7 ที่เห็นควรให้
สำนักงานอัยการสูงสุดเกลี่ยอัตรากำลังที่มีอยู่เดิมไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ได้แก่ สำนักงาน
คดีพิเศษ สำนักงานคดีศาลสูงเขต สำนักงานคดีแรงงานเขต สำนักงานคดีปกครอง และสำนักงานคดีปกครองใน
ภูมิภาค สำหรับการจัดตั้งสำนักงานตรวจสอบภายในและการขอยกฐานะหรือขยายหน่วยงานภายในด้านธุรการ
ของสำนักงานอัยการสูงสุด ให้คงไว้เช่นเดิม เพื่อให้เกิดความเสมอภาคของข้าราชการในสายธุรการทั้งระบบ ไป
พิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ หากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นให้เจียดจ่ายจากงบประมาณที่สำนักงานอัยการ
สูงสุดได้รับตามความเห็นของกระทรวงการคลัง กับให้สำนักงานอัยการสูงสุดรับความเห็นของ คกก.7 ในเรื่อง
การเกลี่ยอัตรากำลังของสำนักงานอัยการสูงสุดที่มีอยู่เดิมไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานที่จัดตั้งใหม่ และพิจารณา
ทบทวนแนวทางการจัดตั้งสำนักงานคดีปกครองในภูมิภาคตามเขตอำนาจศาลปกครอง เพื่อมิให้มีผลกระทบต่อ
งบประมาณ และทรัพยากรต่าง ๆ ในระยะยาว รวมทั้งให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็นของ คกก.7 ที่เห็นควร
ให้สำนักงาน ก.พ.ร. พิจารณาภาพรวมการจัดโครงสร้างองค์กรของสำนักงานอัยการสูงสุดทั้งระบบโดยเร็ว โดย
คำนึงถึงหลักการประหยัดด้านงบประมาณ และทรัพยากร และดำเนินการสำรวจสถิติคดีปกครองที่ขึ้นสู่ศาล
ปกครองในภูมิภาคในปัจจุบันว่า มีจำนวนเท่าไร แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีในคราวเดียวกับร่างกฎกระทรวงทั้ง
3 ฉบับในเรื่องนี้ เพื่อให้การนำเสนอสอดคล้องกับข้อกฎหมายที่ต้องมีความเห็นของ ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนิน
การ และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพร้อมกันต่อไป
1265
รายงานสรุปปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการ ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 (วันที่ 3 มีนาคม - 3 สิงหาคม 2546)
ยธ
05/08/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานสรุปปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการ ตามพระ
ราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2546 ถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2546 ซึ่ง
ผลการตรวจพิสูจน์มีผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ใน 76 จังหวัด จำนวน 5,106 ราย เป็นเพศชาย จำนวน 4,391 ราย
เพศหญิง จำนวน 715 ราย ส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 25 ปี มีจำนวน 2,430 ราย รองลงมามีอายุระหว่าง 18-25
ปี จำนวน 1,986 ราย สถานภาพการควบคุมตัว ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่ต้องขังระหว่างการตรวจพิสูจน์
มีจำนวน 3,806 ราย และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 1,300 ราย โดยผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่เกี่ยวข้อง
กับยาเสพติดให้โทษประเภท เมทแอมเฟตามีน มีจำนวน 3,856 ราย รองลงมาคือ กัญชา จำนวน 717 ราย ส่วน
ฐานความผิด ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่กระทำความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษ จำนวน 3,953 ราย รอง
ลงมาคือ ความผิดฐานเสพและครอบครองยาเสพติด จำนวน 977 ราย สำหรับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพ
ติด คณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดได้มีคำวินิจฉัยผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ จำนวน 3,793 ราย
โดยมีคำวินิจฉัยให้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพแบบควบคุมตัว จำนวน 1,534 ราย ให้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพ
แบบไม่ควบคุมตัว จำนวน 2,113 ราย และส่งตัวคืนตำรวจและอัยการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ จำนวน
146 ราย
1266
ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479
ยธ
29/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงมหาดไทย ออกตาม
ความในมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงมหาด
ไทย ออกตามความในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 (ฉบับที่ 3) เกี่ยวกับการกำหนดประเภท
เรือนจำจากเดิม 3 ประเภท เพิ่มเป็น 4 ประเภท โดยให้เรือนจำพิเศษหมายถึงทัณฑสถานด้วย กำหนดอำนาจ
การคุมขังของเรือนจำเป็นให้ไปตามประกาศของรัฐมนตรี กำหนดสิ่งของต้องห้ามมิให้นำเข้าเรือนจำ ได้แก่ ยา
เสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทและสารระเหย เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อ
สาร รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับสิ่งของดังกล่าว ยกเว้นสิ่งของต้องห้ามบางประเภทที่มีไว้เพื่อใช้ในราชการ) และให้
ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไป
ประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ การแก้ไขเพิ่มเติมประเภทเรือนจำจากเดิม 3 ประเภท
เป็น 4 ประเภท คือ (1) เรือนจำกลาง (2) เรือนจำส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย เรือนจำจังหวัด และเรือนจำ
อำเภอ (3) เรือนจำพิเศษ ซึ่งรวมถึงทัณฑสถานด้วย และ (4) เรือนจำชั่วคราว ซึ่งในส่วนของอำนาจการควบ
คุมผู้ต้องขังของแต่ละเรือนจำมิได้กำหนดอำนาจการคุมขังผู้ต้องขังในเรือนจำชั่วคราวไว้ด้วยจึงมีข้อสังเกตว่า จะ
สมควรกำหนดไว้ในร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ในคราวเดียวกัน หรือไม่
1267
รายงานสรุปปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการ ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545
ยธ
29/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานสรุปปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการ ตามพระ
ราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2546 ถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 2546
ซึ่งผลการตรวจพิสูจน์มีผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ใน 76 จังหวัด จำนวน 4,795 ราย เป็นเพศชาย จำนวน 4,133
ราย เพศหญิง จำนวน 662 ราย ส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 25 ปี มีจำนวน 2,282 ราย รองลงมามีอายุระหว่าง 18
-25 ปี จำนวน 1,865 ราย สถานภาพการควบคุมตัว ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่ต้องขังระหว่างการตรวจ
พิสูจน์ มีจำนวน 3,571 ราย และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 1,224 ราย โดยผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่
เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษประเภท เมทแอมเฟตามีน มีจำนวน 3,648 ราย รองลงมาคือ กัญชา จำนวน 670
ราย ส่วนฐานความผิด ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่กระทำความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษ จำนวน 3,704
ราย รองลงมาคือ ความผิดฐานเสพและครอบครองยาเสพติด จำนวน 922 ราย สำหรับการฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ติดยาเสพติด คณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดได้มีคำวินิจฉัยผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ จำนวน
3,458 ราย โดยมีคำวินิจฉัย ดังนี้ (1) ให้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพแบบควบคุมตัว จำนวน 1,375 ราย (2)
ให้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพแบบไม่ควบคุมตัว จำนวน 1,934 ราย (3) ส่งตัวคืนตำรวจและอัยการเข้าสู่กระบวน
การยุติธรรมตามปกติ จำนวน 149 ราย
1268
ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการระดับ 10 (นายไพศาล วิเชียรเกื้อ)
ยธ
29/07/2546
คณะรัฐมนตรีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้ง นายไพศาล วิเชียรเกื้อ ให้ดำรงตำแหน่ง
ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการ 10) กระทรวงยุติธรรม โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรด
เกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
1269
คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
ยธ
29/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้ยกเลิกคณะกรรมการประสานงานการ
สงเคราะห์ผู้พ้นโทษ เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2544 กำหนดให้กรมคุมประพฤติ
กระทรวงยุติธรรมเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานสงเคราะห์ผู้กระทำผิดหลังปล่อย (AFTER CARE)
แทนกรมราชทัณฑ์
1270
การปล่อยตัวผู้ต้องกักขังแทนค่าปรับและนักโทษเด็ดขาด เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
ยธ
29/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอการดำเนินโครงการปล่อยตัวผู้ต้องกักขังแทนค่าปรับ
และนักโทษเด็ดขาด เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ สำหรับ
ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการดำเนินโครงการ ให้ขอรับการสนับสนุนเงินค่าใช้จ่ายจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
ในวงเงิน 25,760,000 บาท ทั้งนี้ ในการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานศาลยุติ
ธรรมประสานงานกับกระทรวงการคลังโดยด่วน ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง โดยให้กระทรวงยุติธรรมจัด
ส่งเอกสารเกี่ยวกับการจ่ายเงินให้คณะกรรมการพิจารณาโครงการเพื่อการสาธารณประโยชน์จากรายได้โดยการ
ออกสลากพิเศษ พิจารณาจัดสรรเงินจากการจำหน่ายสลากต่อไป ส่วนวิธีปฏิบัติในการชำระค่าปรับให้แก่สำนัก
งานศาลยุติธรรมทั่วประเทศสำหรับกรณีดังกล่าว ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เช่นเดียวกับที่ถือปฏิบัติในคราวดำเนิน
โครงการเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 75
พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2545
1271
ขออนุมัติเงินงบกลางเพื่อใช้ในการสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ยธ
22/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเสนอขออนุมัติเงินงบประมาณ
รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 งบกลาง ค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม วง
เงินรวม 521,131,140 บาท ให้แก่ กระทรวงมหาดไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กระทรวงศึกษาธิ
การ กองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงสาธารณสุข ศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดกรุงเทพมหานคร
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเบิกจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และ
ให้ปรับลดเงินงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายสำรองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของกรมคุมประพฤติ กรมราชทัณฑ์ กรมพินิจ
และคุ้มครองเด็กและเยาวชน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 26,740,700 บาท ไปให้กระทรวงสาธารณ
สุข รวมทั้งให้กระทรวงสาธารณสุขเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2546 ของกรมคุมประพฤติในลักษณะของ
การเบิกจ่ายงบประมาณแทนกันเป็น จำนวน 37,429,360 บาท รวมเป็นวงเงินของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน
ทั้งสิ้น 279,241,700 บาท ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องขอตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ และเร่งรัด
การเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าวโดยเร็วต่อไป
1272
ร่างพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. ....
ยธ
08/07/2546
อนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (คกก.7)(ฝ่ายกฏหมาย) ที่
มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอร่างพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. .... และให้ส่งสำนัก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นการปรับปรุงพระราชบัญญัติส่งผู้
ร้ายข้ามแดน พุทธศักราช 2472 ฉบับเดิมซึ่งใช้มาเป็นระยะเวลานาน และไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของ คกก.7 ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทน
ราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยข้อสังเกตของ คกก.7 มีดังนี้ (1) การกำหนด
ให้ใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้บังคับแก่บรรดาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อความตามหนังสือสัญญา
เกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามร่างมาตรา 4 บางประเทศได้ถือปฏิบัติว่า กรณีสงสัยว่า การส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ขัดแย้งกับสนธิสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างประเทศหรือไม่ ศาลจะถามความเห็นไปยังกระทรวงการต่างประเทศ
ก่อนเพราะมิใช่เป็นเรื่องกฎหมายภายในประเทศที่ศาลรู้เอง และศาลอาจมีความจำเป็นต้องรู้เหตุผลหรือเจตนา
รมณ์ในการทำสนธิสัญญากับต่างประเทศ เพื่อประกอบการพิจารณาของศาล ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการส่ง
ผู้ร้ายข้ามแดนสอดคล้องกับหลักปฏิบัติดังกล่าว และมิให้เป็นภาระกับศาลในการสอบถาม จึงสมควรเพิ่มเติม
ความเป็นวรรคสองของร่างมาตรา 4 ในทำนองเดียวกับการร้องสอด คือ ให้กระทรวงการต่างประเทศมีสิทธิ
เสนอข้อเท็จจริงและความเห็นให้ผู้ประสานงานกลางเสนอศาลเพื่อประกอบการพิจารณา และให้ศาลมีอำนาจ
เรียกกระทรวงการต่างประเทศมาชี้แจงเพื่อประกอบการพิจารณาได้ โดยให้รวมถึงการพิจารณาในชั้นอุทธรณ์
ด้วย (2) กรณีการจับบุคคลผู้ถูกร้องขอให้ส่งข้ามแดนตามร่างมาตรา 15 ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รับไปพิจารณาด้วยว่า การจับบุคคลตามร่างมาตรา 15 จะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยอาจพิจารณาเทียบ
เคียงกับกฎหมายของประเทศต่าง ๆ (3) กรณีตามร่างมาตรา 18 วรรคสอง ที่บัญญัติ "ห้ามมิให้ศาลอนุญาต
ให้บุคคลซึ่งถูกร้องขอให้ส่งข้ามแดนมีประกันหรือมีการปล่อยชั่วคราว เว้นแต่ศาลถามพนักงานอัยการแล้ว และ
พนักงานอัยการไม่คัดค้าน ศาลจึงจะปล่อยชั่วคราวได้" นั้น ให้ตัดข้อความ "และพนักงานอัยการไม่คัดค้าน"
ออก เพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจได้ และ (4) การขอเพิ่มเติมให้ศาลทหารมีอำนาจในการพิจารณาการส่งผู้ร้ายข้าม
แดนที่เป็นทหารตามความเห็นของกระทรวงกลาโหมนั้น ซึ่งในหลักปฏิบัติของประเทศต่าง ๆ ยังไม่มีการให้
อำนาจในเรื่องนี้ จึงให้คงไว้ตามร่างที่เสนอ
1273
รายงานสรุปปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการ ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545
ยธ
08/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานสรุปปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการ ตามพระ
ราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2546 ถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2546
ซึ่งผลการตรวจพิสูจน์มีผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ใน 76 จังหวัด จำนวน 4,499 ราย เป็นเพศชาย จำนวน 3,893
ราย เพศหญิง จำนวน 606 ราย ส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 25 ปี มีจำนวน 2,133 ราย รองลงมามีอายุระหว่าง 18
-25 ปี จำนวน 1,735 ราย สถานภาพการควบคุมตัว ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่ต้องขังระหว่างการตรวจ
พิสูจน์ มีจำนวน 3,353 ราย และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 1,146 ราย โดยผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่
เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษประเภท เมทแอมเฟตามีน มีจำนวน 3,415 ราย รองลงมาคือ กัญชา จำนวน 621
ราย ส่วนฐานความผิด ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่กระทำความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษ จำนวน 3,461
ราย รองลงมาคือ ความผิดฐานเสพและครอบครองยาเสพติด จำนวน 874 ราย สำหรับการฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ติดยาเสพติด คณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดได้มีคำวินิจฉัยผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ จำนวน
3,280 ราย โดยมีคำวินิจฉัย ดังนี้ (1) ให้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพแบบควบคุมตัว จำนวน 1,269 ราย (2)
ให้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพแบบไม่ควบคุมตัว จำนวน 1,876 ราย และ (3) ส่งตัวคืนตำรวจและอัยการเข้าสู่
กระบวนการยุติธรรมตามปกติ จำนวน 135 ราย
1274
การรายงานการติดตามผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแผนแม่บทฯ ปีงบประมาณ 2546 ระยะเวลาตุลาคม 2545 - มีนาคม 2546
ยธ
01/07/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานการติดตามผลการดำเนินงานป้องกันและแก้ไข
ปัญหายาเสพติดตามแผนแม่บทเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่ง
ชาติ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2545-2549) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 เดือนตุลาคม 2545-มีนาคม 2546 สรุปได้ดังนี้ (1)
ยุทธศาสตร์การปลุกพลังแผ่นดินและการป้องกัน ได้แก่ การดำเนินงานตามโครงการ TO BE NUMBER ONE การฝึก
อบรมวิทยากรกระบวนการเพื่อเตรียมความพร้อมในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนใน 76 จังหวัด 889 อำเภอ
และการสนับสนุนกิจกรรมทางเลือกหรือสันทนาการ เพื่อให้เยาวชนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และไม่ไปมั่วสุมใช้ยา
เสพติด (2) ยุทธศาสตร์การควบคุมตัวยาและสารเคมี ได้แก่ การทำลายแหล่งผลิตยาเสพติด สกัดกั้นสารตั้งต้น ตัว
ยาที่ใช้ทดแทนในการผลิต และอุปกรณ์การผลิต (3) ยุทธศาสตร์การปราบปราม ได้แก่ การทำลายองค์ประกอบ
ของขบวนการค้าในทุกลักษณะทั้งผู้ผลิ ต ผู้จำหน่ายในทุกระดับ และผู้เสพ (4) ยุทธศาสตร์การบำบัดรักษาและฟื้น
ฟูสมรรถภาพ ได้แก่ การบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติดให้สามารถกลับเข้าสู่สังคมและใช้ชีวิตอย่างปกติ
สุข (5) ยุทธศาสตร์การข่าว ได้แก่ การพัฒนาด้านการข่าว (6) ยุทธศาสตร์การอำนวยการและการประสานงาน
ได้แก่ การจัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการแผนปฏิบัติการ (7) ยุทธศาสตร์การปรับปรุงกฎหมายและ
กระบวนการยุติธรรม ได้แก่ การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย และการพิจารณาร่างกฎหมายใหม่ (8) ยุทธศาสตร์ความ
ร่วมมือระหว่างประเทศ ได้แก่ การดำเนินการด้านการต่างประเทศเพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อัน
จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งในประเทศ ภูมิภาคและระดับประชาคมโลก และ (9) ยุทธศาสตร์การวิจัย
พัฒนา และติดตามประเมินผล ได้แก่ การศึกษาและประมาณการจำนวนผู้ติดยาเสพติด การพัฒนาระบบข้อมูลยา
เสพติดจังหวัด รวมทั้งการจัดทำโครงการต่างๆ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาระบบข้อมูลผู้ใช้/ผู้ติดยาเสพติด โครง
การตรวจวิเคราะห์หาปริมาณสารในเม็ดยาบ้า โครงการเครือข่ายวิชาการด้านการติดตามและประเมินผล โครง
การประชุมสัมมนาเพื่อศึกษาแนวทางการลดอุปสงค์ยาบ้าของประเทศไทย และโครงการประชุมสัมมนาเพื่อพัฒนา
องค์ความรู้ด้านการบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
1275
การจัดตั้งศูนย์บริการประชาชนของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ
ยธ
24/06/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานการจัดตั้งศูนย์บริการประชาชนของส่วนราช
การและหน่วยงานของรัฐ โดยมีหน่วยงานที่พร้อมจะจัดตั้งและอยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้งศูนย์บริการ ฯ ดังนี้ (1)
กรมคุมประพฤติ อยู่ระหว่างการศึกษาด้านรูปแบบของเทคโนโลยีสารสนเทศ ค่าใช้จ่าย และการกำหนดข้อมูล
ความต้องการที่เกี่ยวกับภารกิจของกรม ฯ ที่จะบริการแก่ประชาชน (2) กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จัดตั้งโครง
การคลีนิคยุติธรรมร่วมกับเอกชนเพื่อรับเรื่องร้องเรียน อยู่ระหว่างการดำเนินการ (3) กรมบังคับคดี จัดตั้งระบบ
โทรศัพท์ตอบรับอัตโนมัติ ประมาณการงบประมาณในการจัดซื้อระบบโทรศัพท์ ฯ เป็นเงิน 5,000,000 บาท (4)
กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ที่ทำการกลุ่มงานช่วยอำนวยการและประสานงานสำนักงานเลขานุการกรม
หมายเลขโทรศัพท์ 0 2502 3392 หมายเลขโทรสาร 0 2967 3306 (5) กรมราชทัณฑ์ มีศูนย์ปฏิบัติการกรม
ราชทัณฑ์ (ศปก.รท.) หมายเลขโทรศัพท์ 0 2967 3306 (6) กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับการจัดสรรงบประมาณ
ในการจัดตั้ง Call Center ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามวิธีการพัสดุ (7)
สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ อยู่ระหว่างการพัฒนาฐานข้อมูล และ (8) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบ
ปรามยาเสพติด ในระยะแรกใช้สถานที่ของฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม ชั้น 1 อาคาร 1 เป็นที่
ทำการ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2247 7217
1276
รายงานสรุปปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการ ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 (ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม ถึงวันที่ 22 มิถุนายน 2546)
ยธ
24/06/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานสรุปปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการ ตาม
พระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2546 ถึงวันที่ 22 มิถุนายน
2546 ซึ่งผลการตรวจพิสูจน์มีผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ใน 76 จังหวัด จำนวน 4,222 ราย เป็นเพศชาย จำนวน
3,657 ราย เพศหญิง จำนวน 565 ราย ส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 25 ปี จำนวน 2,010 ราย รองลงมามีอายุ
ระหว่าง 18 - 25 ปี จำนวน 1,609 ราย สถานภาพการควบคุมตัว ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่ต้องขัง
ระหว่างการตรวจพิสูจน์ จำนวน 3,176 ราย และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 1,046 ราย โดยผู้เข้ารับการตรวจ
พิสูจน์ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษประเภทเมทแอมเฟตามีน จำนวน 3,194 ราย รองลงมาคือ กัญชา
จำนวน 590 ราย ส่วนฐานความผิด ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่กระทำความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษ
จำนวน 3,242 ราย รองลงมาคือ ความผิดฐานเสพและครอบครองยาเสพติด จำนวน 820 ราย สำหรับการฟื้น
ฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด คณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดได้มีคำวินิจฉัยผู้เข้ารับการตรวจ
พิสูจน์ จำนวน 2 ,979 ราย โดยมีคำวินิจฉัย ดังนี้ (1) ให้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพแบบควบคุมตัว จำนวน
1,147 ราย (2) ให้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพแบบไม่ควบคุมตัว จำนวน 1,712 ราย และ (3) ส่งตัวคืนตำรวจ
และอัยการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ จำนวน 120 ราย
1277
ขออนุมัติเงินจำนวน 14,794,500 บาท (สิบสี่ล้านเจ็ดแสนเก้าหมื่นสี่พันห้าร้อยบาทถ้วน) เพื่อจัดโครงการฝึกอบรมและสัมมนาหลักสูตร "การชันสูตรพลิกศพและการตรวจสถานที่เกิดเหตุสำหรับผู้ช่วยชันสูตรพลิกศพ"
ยธ
17/06/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอขออนุมัติเงินจำนวน 14,794,500 บาท ให้แก่สถาบัน
นิติวิทยาศาสตร์ เพื่อจัดทำโครงการฝึกอบรมและสัมมนาหลักสูตร "การชันสูตรพลิกศพและการตรวจสถานที่เกิดเหตุ
สำหรับผู้ช่วยชันสูตรพลิกศพ" เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมีความ
รู้และทักษะสามารถรับมอบหมายจากแพทย์ เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพและตรวจสถานที่เกิดเหตุเบื้องต้น ทั้งนี้ ให้
รับความเห็นของกระทรวงศึกษาธิการไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้ (1) ผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมควรเป็นบุคลากรทาง
การแพทย์ที่มีความรู้ ความสามารถพื้นฐานเฉพาะด้านและใช้ความถูกต้องเป็นสำคัญ (2) ควรส่งเสริมให้มีการขยาย
จำนวนผู้ช่วยชันสูตรพลิกศพให้สอดคล้องกับอุบัติเหตุที่เพิ่มสูงขึ้น โดยจัดให้มีการฝึกอบรมจนเป็นผู้เชี่ยวชาญเพื่อเป็น
วิทยากรขยายการฝึกอบรมทั่วประเทศ และ (3) ควรจัดพิมพ์หนังสือหลักการชันสูตรพลิกศพเผยแพร่ให้กว้างขวาง
โดยเฉพาะสถานศึกษาได้เผยแพร่เป็นความรู้แล้ว ยังช่วยให้นักเรียน นักศึกษามีความระมัดระวังสามารถช่วยลดอุบัติ
เหตุได้ ส่วนเรื่องงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
1278
รายงานสรุปปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการ ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 (ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2546)
ยธ
17/06/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานสรุปปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการ ตามพระ
ราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2546 ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2546
ซึ่งผลการตรวจพิสูจน์มีผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ใน 76 จังหวัด จำนวน 3,996 ราย เป็นเพศชาย จำนวน 3,477 ราย
เพศหญิง จำนวน 519 ราย ส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 25 ปี มีจำนวน 1,904 ราย รองลงมามีอายุระหว่าง 18-25
ปี จำนวน 1,512 ราย สถานภาพการควบคุมตัว ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่ต้องขังระหว่างการตรวจพิสูจน์
มีจำนวน 3,004 ราย และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 992 ราย โดยผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับ
ยาเสพติดให้โทษประเภท เมทแอมเฟตามีน มีจำนวน 3,011 ราย รองลงมาคือ กัญชา จำนวน 559 ราย ส่วนฐาน
ความผิด ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่กระทำความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษ จำนวน 3,049 ราย รองลง
มาคือ ความผิดฐานเสพและครอบครองยาเสพติด จำนวน 790 ราย สำหรับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
คณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดได้มีคำวินิจฉัยผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ จำนวน 2,803 ราย โดย
มีคำวินิจฉัย ดังนี้ (1) ให้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพแบบควบคุมตัว จำนวน 1,083 ราย (2) ให้เข้ารับการฟื้นฟู
สมรรถภาพแบบไม่ควบคุมตัว จำนวน 1,608 ราย และ (3) ส่งตัวคืนตำรวจและอัยการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ตามปกติ จำนวน 112 ราย
1279
ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการระดับ 10 (นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ)
ยธ
17/06/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้รับโอน นายกิตติ ลิ้มชัยกิจ รองเลขาธิการสภา
ความมั่นคงแห่งชาติ (นักบริหาร 10) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติ
ธรรม (นักบริหาร 10) กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
1280
รายงานสรุปปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 (ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม ถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2546)
ยธ
10/06/2546
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานสรุปปริมาณคดีที่เข้าสู่กระบวนการ ตามพระ
ราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2546 ถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2546 ซึ่ง
ผลการตรวจพิสูจน์มีผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ใน 76 จังหวัด จำนวน 3,775 ราย เป็นเพศชาย จำนวน 3,281 ราย
เพศหญิง จำนวน 494 ราย ส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 25 ปี มีจำนวน 1,808 ราย รองลงมามีอายุระหว่าง 18-25
ปี จำนวน 1,408 ราย สถานภาพการควบคุมตัว ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่ต้องขังระหว่างการตรวจพิสูจน์
มีจำนวน 2,846 ราย และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 929 ราย โดยผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับ
ยาเสพติดให้โทษประเภท เมทแอมเฟตามีน มีจำนวน 2,841 ราย รองลงมาคือ กัญชา จำนวน 528 ราย ส่วนฐาน
ความผิด ผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ส่วนใหญ่กระทำความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษ จำนวน 2,862 ราย รองลง
มาคือ ความผิดฐานเสพและครอบครองยาเสพติด จำนวน 758 ราย สำหรับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
คณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดได้มีคำวินิจฉัยผู้เข้ารับการตรวจพิสูจน์ จำนวน 2,557 ราย โดย
มีคำวินิจฉัย ดังนี้ (1) ให้เข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพแบบควบคุมตัว จำนวน 985 ราย (2) ให้เข้ารับการฟื้นฟู
สมรรถภาพแบบไม่ควบคุมตัว จำนวน 1,477 ราย และ (3) ส่งตัวคืนตำรวจและอัยการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ตามปกติ จำนวน 95 ราย
.....
|<<
Previous
<
Previous
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
>
Next
>>|
Next
ค้นหามติคณะรัฐมนตรี
×
ประกาศ
ด้วยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะปิดปรับปรุงระบบค้นมติคณะรัฐมนตรี (
https://resolution.soc.go.th/
)
ในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. จึงทำให้ไม่สามารถค้นมติคณะรัฐมนตรีได้ในวัน เวลา ดังกล่าว
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย