ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 115 จากทั้งหมด 513 หน้า แสดงรายการที่ 2281 - 2300 จากข้อมูลทั้งหมด 10242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2281 | ร่างกฎกระทรวงการมีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ของหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจ และการมอบให้ประชาชนมีและใช้เพื่อช่วยเหลือราชการ พ.ศ. .... | มท | 20/10/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการมีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่ง เทียมอาวุธปืน ของหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจ และการมอบให้ประชาชนมีและใช้เพื่อช่วยเหลือราชการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงการกำหนดหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจในการมีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และ วัตถุระเบิด รวมทั้งกำหนดประเภทของอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดที่หน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจมี และใช้ได้ โดยไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่ง เทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ตลอดจนเพิ่มเติมให้พนักงานราชการใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนเปืน และวัตถุระเบิดของ หน่วยราชการได้ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ 2. ให้กระทรวงมหาดไทยแก้ไขข้อความในข้อ 2 (17) จากเดิม "สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย" เป็น "สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย" เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ตามข้อสังเกตของกระทรวงกลาโหม และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2282 | การจัดงานเมืองแห่งภูมิปัญญาไทย (OTOP CITY) ครั้งที่ 6 ปี 2552 | มท | 20/10/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้ใช้งบประมาณเพื่อการจัดงานเมืองแห่งภูมิปัญญาไทย (OTOP CITY)
ครั้งที่ 6 ปี 2552 ในวงเงิน 140 ล้านบาท จากโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (เพิ่มเติมครั้ง ที่ 2) โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีขอรับการสนับสนุนการดำเนินงาน จากคณะรัฐมนตรี ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ [ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2552 (เรื่อง ขออนุมัติโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555) (เพิ่มเติมครั้งที่ 2) อนุมัติตามที่กระทรวงการคลัง เสนอไว้แล้ว] โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการภายใต้แผน ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 พ.ศ. 2552 ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
2283 | ราษฎร "กลุ่มแผ่นดินของเรา" ร้องเรียนเกี่ยวกับการขอออกโฉนดที่ดินในที่ดินเขตพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดิน อำเภอปากน้ำโพ อำเภอพยุหะคีรี อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. 2479 | มท | 13/10/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้มีการเพิกถอนการหวงห้ามโดยการกันเขตพระราชกฤษฎีกา
กำหนดเขตหวงห้ามที่ดินอำเภอปากน้ำโพ อำเภอพยุหะคีรี อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. 2479 ในที่ดินของราษฎร ที่กระทรวงมหาดไทยได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรเรื่องที่ ดินในเขตพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินอำเภอปากน้ำโพ อำเภอพยุหะคีรี อำเภอโกรกพระ จังหวัด นครสวรรค์ พ.ศ. 2479 ขึ้นดำเนินการ และคณะกรรมการ ฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวรวม 3 คณะ ซึ่งจังหวัดนครสรรค์ได้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของอนุกรรม การ ฯ ระดับอำเภอทั้ง 3 อำเภอแล้ว น่าเชื่อว่าราษฎรมีการครอบครองทำประโยชน์มาก่อนการหวงห้ามที่ ดินในปี พ.ศ. 2479 สมควรที่จะดำเนินการให้ราษฎรกลุ่มดังกล่าวได้มีสิทธิในที่ดินทำกินอย่างถูกต้อง จำนวน 1,215 แปลง และให้กระทรวงการคลังรับไปประสานกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย เพื่อดำเนิน การเพิกถอนที่ดินที่กำหนดเป็นเขตหวงห้ามดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะ รัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2550 (เรื่อง การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรในที่ดินเขตพระราช กฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้าม ฯ จังหวัดนครสวรรค์ พระพุทธศักราช 2479) รวมทั้งมติคณะรัฐมนตรีอื่นที่เกี่ยว ข้องด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
2284 | ร่างพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอกัลยาณิวัฒนา พ.ศ. .... | มท | 13/10/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาตั้งอำเภอกัลยาณิวัฒนา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้แยกตำบล บ้านจันทร์ ตำบลแม่แดด และตำบลแจ่มหลวง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ออกจากอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียง ใหม่ และรวมตั้งขึ้นเป็นอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้า กัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรม การกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 2. สำหรับอัตรากำลังให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ. และคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ เกี่ยวกับการจัดตั้งส่วนราชการเพื่อปฏิบัติ งานในพื้นที่ดังกล่าว เห็นควรใช้วิธีการเกลี่ยอัตรากำลังภายในส่วนราชการหรือระหว่างส่วนราชการก่อน หากยัง มีไม่เพียงพอให้ใช้วิธีการจ้างงานแบบหลากหลาย เช่น พนักงานราชการ หรือจ้างเหมาเอกชน แล้วแต่กรณี และ หากดำเนินการแล้วยังไม่เพียงพออีกให้เสนอเหตุผลความจำเป็นให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ส่วนงบประมาณที่ต้อง ใช้เพื่อการนี้ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||
2285 | คณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง (กระทรวงมหาดไทย) | มท | 13/10/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
1. รับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) (เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการ พิจารณาเรื่องการขอเปลี่ยนแปลงชื่อจังหวัด อำเภอ และตำบล หมู่บ้าน หรือสถานที่ราชการอื่น ๆ ย้อนหลัง ให้ มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2551) โดยเห็นว่าสถานะของคณะกรรมการ ฯ ดังกล่าว ได้สิ้นสุดลงเมื่อพ้นวันที่ 30 พฤศจิกายน 2551 โดยผลของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2551 การเปลี่ยนแปลงชื่อจังหวัด อำเภอ และตำบล หมู่บ้าน หรือสถานที่ราชการอื่น ๆ ในระหว่างที่ไม่มีคณะกรรมการ ฯ ดังกล่าว ต้องเป็นไปตามบท บัญญัติแห่งกฎหมายซึ่งใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น ดังนั้น หากการดำเนินการเปลี่ยนแปลงชื่อได้กระทำโดยถูกต้อง ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว ย่อมมีผลตามกฎหมาย 2. อนุมัติการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องการขอเปลี่ยนแปลงชื่อจังหวัด อำเภอ และตำบล หมู่ บ้าน หรือสถานที่ราชการอื่น ๆ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ ผู้แทนกระทรวง ศึกษาธิการ ผู้แทนกระทรวงคมนาคม ผู้แทนราชบัณฑิตยสถาน ผู้แทนกรมการปกครอง ผู้แทนกรมศิลปากร ผู้แทนกรมแผนที่ทหาร ผู้แทนส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องในฐานะเจ้าของเรื่อง เป็นกรรมการ โดยมี ผู้อำนวยการกองตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการและเลขา นุการ และนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ กองตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานปลัด กระทรวงมหาดไทย เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (13 ตุลาคม 2552) เป็นต้นไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
2286 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกหนึ่งปี จำนวน 10 ฉบับ) | มท | 13/10/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มีสาระสำคัญคือ ขยายระยะเวลาการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้ บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกหนึ่งปีเพิ่มขึ้น จำนวน 10 ฉบับ ดังนี้ 1. กฎกระทรวง ฉบับที่ 401 (พ.ศ. 2542) ฯ ผังเมืองรวมเมืองตรัง จังหัวดตรัง 2. กฎกระทรวง ฉบับที่ 412 (พ.ศ. 2542) ฯ ผังเมืองรวมเมืองสตูล จังหวัดสตูล 3. กฎกระทรวง ฉบับที่ 440 (พ.ศ. 2543) ฯ ผังเมืองรวมเมืองโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา 4. กฎกระทรวง ฉบับที่ 451 (พ.ศ. 2543) ฯ ผังเมืองรวมเมืองโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี 5. กฎกระทรวง ฉบับที่ 452 (พ.ศ. 2543) ฯ ผังเมืองรวมเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 6. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนนทบุรี พ.ศ. 2548 7. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี พ.ศ. 2548 8. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเกาะภูเก็ต พ.ศ. 2548 9. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองอุบลราชธานี-วารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พ.ศ. 2547 10. กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองนครราชสีมา พ.ศ. 2547
|
|||||||||||||||||||||||||||
2287 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติ
ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้สภาสถาปนิก เป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ตามที่กระทรวงมหาด ไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2288 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามคำแหง 110 เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | มท | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหา
ริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามคำแหง 110 เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระ สำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายซอยรามคำแหง 110 เป็นกรณี ที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและ ร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2289 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยสุขุมวิท 66 และสายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 66 กับซอยสุขุมวิท 66/1 และเพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 66 กับซอยสุขุมวิท 64 เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | มท | 06/10/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริม
ทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยสุขุมวิท 66 และสายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 66 กับซอยสุขุมวิท 66/1 และเพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 66 กับซอยสุขุมวิท 64 เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดย เร่งด่วน มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขยายทางหลวงท้องถิ่น สายซอยสุขุมวิท 66 สายเชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 66 กับซอยสุขุมวิท 66/1 และเพื่อสร้างทางหลวงท้องถิ่น สายเชื่อมระหว่างซอยสุขุม วิท 66 กับซอยสุขุมวิท 64 เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งคณะกรรม การตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2290 | เลื่อนและแต่งตั้งข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ระดับ 10 (จำนวน 15 ราย 1. นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ฯ) | มท | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 จำนวน
15 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียนและทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ตามที่กระทรวง มหาดไทยเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
2291 | แผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2552 - 2555 | มท | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบหลักการร่างแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2552-2555 โดยกำหนดให้ความ ปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ และมอบหมายให้หน่วยงานหลักและหน่วยงานร่วมรับผิดชอบรับไปดำเนิน การตามยุทธศาสตร์ของแผนแม่บท ฯ ต่อไป รวมทั้งให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับแผนแม่บท ฯ และพิจารณาปรับแผนปฏิบัติราชการ ของหน่วยงานในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประธานกรรมการ และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ ทั้งนี้ ให้ศูนย์อำนวยการ ฯ รับความเห็นของส่วน ราชการที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรด้านความปลอดภัยทางถนนให้นักเรียนได้เรียนรู้และมีจิตสำนึก ด้านความปลอดภัย การส่งเสริมให้ชุมชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงาน และ การรณรงค์ด้านความปลอดภัยทางถนนให้มากยิ่งขึ้น การปรับเปลี่ยนระยะเวลาของแผนแม่บท ฯ เป็น 10 ปี เพื่อให้สามารถดำเนินการตามเนื้อหาที่เสนอไว้ได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องการนำ Safety Culture และ Safe System Approach มาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย และการให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะ ด้านวิศวกรรมความปลอดภัย วิศวกรรมยานยนต์ และนักพฤติกรรมศาสตร์ เพื่อพัฒนางานด้านความปลอดภัย ทางถนนในระยะยาว รวมทั้งการให้ความสำคัญต่อการสนับสนุนศูนย์วิจัย และศูนย์วิชาการความปลอดภัยด้าน การขนส่ง เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป 2. ให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการดำเนินแก้ไขปรับปรุงสภาพของถนนสายต่าง ๆ ที่มีปัญหาจราจร คับคั่ง รวมทั้งบริเวณที่มักเกิดอุบัติเหตุอยู่เป็นประจำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุและการสูญเสีย ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 3. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงการจัดเก็บข้อมูลและ สถิติการเกิดอุบัติเหตุบนถนนของหน่วยงานต่าง ๆ ให้เป็นระบบมีความถูกต้องและเป็นเอกภาพเพื่อประโยชน์ใน การอ้างอิงและประกอบการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
2292 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินงานก่อสร้างถนน สะพานเสด็จ และสะพานบริการ พระตำหนักทวีวัฒนา | มท | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างงานก่อสร้างถนน สะพานเสด็จ และสะพานบริการ พระ
ตำหนักทวีวัฒนา จากวงเงินสัญญาเดิม 106,990,000 บาท เป็นวงเงิน 133,411,610 บาท ตามที่กระทรวง มหาดไทยเสนอ โดยวงเงินที่เพิ่มขึ้นให้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) เจียดจ่ายจากงบประมาณรายจ่าย ประจำปี หรือเงินรายได้ของกรุงเทพมหานคร ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
2293 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินงานปรับปรุงถนนและระบบสาธารณูปโภคพระที่นั่งอัมพรสถาน | มท | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างงานปรับปรุงถนนและระบบสาธารณูปโภค พระที่นั่ง
อัมพรสถาน จากวงเงินสัญญาเดิม 103,200,000 บาท เป็นวงเงิน 155,103,308.42 บาท ตามที่กระทรวง มหาดไทย (กรุงเทพมหานคร) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
2294 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนวิหารแดง จังหวัดสระบุรี พ.ศ. .... | มท | 29/09/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนวิหารแดง จังหวัดสระบุรี
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลบ้านลำ ตำบลเจริญธรรม ตำบลคลองเรือ ตำบล หนองสรวง ตำบลวิหารแดง และตำบลหนองหมู อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2295 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนทุ่งช้าง จังหวัดน่าน พ.ศ. .... | มท | 22/09/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนทุ่งช้าง จังหวัดน่าน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลและ และตำบลทุ่งช้าง อำเภอทุ่งช้าง จังหวัด น่าน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน การต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2296 | ขออนุมัติวงเงินค่าทดแทนที่ดิน โครงการก่อสร้างทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนรัตนโกสินทร์สมโภชกับถนนนิมิตรใหม่ | มท | 22/09/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการค่าทดแทนที่ดินโครงการก่อสร้างทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่าง
ถนนรัตนโกสินทร์สมโภชกับถนนนิมิตรใหม่ ซึ่งได้กำหนดค่าทดแทนที่ดินและอาคาร วงเงิน 1,318,264,398.77 บาท โดยมีสัดส่วนเงินอุดหนุนรัฐบาลร้อยละ 50 และสัดส่วนเงินรายได้กรุงเทพมหานครร้อยละ 50 และเมื่อพระ ราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนในการก่อสร้างดังกล่าวประกาศใช้แล้ว ให้กรุงเทพมหานครขอ ทำความตกลงในรายละเอียดและวงเงินงบประมาณกับสำนักงบประมาณอีกครั้งต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบ ประมาณ |
|||||||||||||||||||||||||||
2297 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการสอบสวนคดีอาญาบางประเภทในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | มท | 22/09/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
1. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการสอบสวนคดีอาญาบางประเภทในจังหวัดอื่นนอกจาก กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้มีการออกกฎกระทรวงเพื่อให้การดำเนินคดีอาญาตามประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเป็นไปอย่างเหมาะสมกับภารกิจของการปฏิรูประบบราชการ โดยให้พนักงาน สอบสวนฝ่ายปกครองมีหน้าที่รับผิดชอบการสอบสวนคดีอาญาบางประเภทในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหา นครเพิ่มเติมจากเดิมคือ การสอบสวนดำเนินคดีในความผิดตามกฎหมายซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการ หรือส่วนราชการ หรือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายให้สอดคล้องกับบทบาทและภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ตามที่กระทรวง มหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา 2. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนัก งานอัยการสูงสุด เกี่ยวกับการกำหนดพนักงานสอบสวนฝ่ายปกครองมีอำนาจในการสอบสวนดำเนินคดีความ ผิดตามกฎหมายซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รักษาการหรือส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาห กิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย นั้น เห็นว่ากระทรวงมหาดไทยมีเจตนา ที่ต้องการจะขยายอำนาจสอบสวนคดีอาญาเพิ่มขึ้นมากกว่ากฎหมาย 20 ฉบับ และในการกำหนดให้พนักงาน สอบสวนฝ่ายปกครองมีอำนาจการสอบสวนความผิดอาญาอื่นที่เป็นการกระทำกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎ หมายหลายบท หรือการกระทำอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดตามกฎหมาย 20 ฉบับ ควรให้พนักงานสอบสวนฝ่ายตำรวจทำการสอบสวนด้วย ส่วนการกันตัวผู้ต้องหาเป็นพยานในกรณีที่เป็น คดีที่มีเหตุพิเศษหรือยุ่งยากซับซ้อน หรือร้ายแรง หรือคดีที่พนักงานสอบสวนได้พยายามสืบสวนสอบสวนหา พยานหลักฐานเต็มความสามารถแล้ว แต่ไม่อาจหาพยานหลักฐานในคดีได้ นั้น ควรกำหนดให้ในกรณีที่พนัก งานสอบสวนฝ่ายปกครองต้องการกันผู้ต้องหาคนใดไว้เป็นพยาน ให้พนักงานสอบสวนทำการปรึกษาเพื่อขอ ความเห็นชอบจากพนักงานอัยการก่อนว่า สมควรที่จะกันตัวผู้ต้องหาคนหนึ่งคนใดนั้นไว้เป็นพยานหรือไม่ เป็น ต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||
2298 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (โครงการบ้านดินสิ่งมหัศจรรย์) | มท | 22/09/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 (เรื่อง ความก้าวหน้าการดำเนิน การตามมติคณะรัฐมนตรีในการตรวจสอบทรัพย์สินและชำระบัญชีของสำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (องค์การมหาชน) (สปท.) และการกำกับ ติดตาม ดูแลภารกิจที่ถ่ายโอนตามนโยบายโครงการแปลงสินทรัพย์เป็น ทุน) ในส่วนของโครงการบ้านดินสิ่งมหัศจรรย์ โดยขยายเวลาการดำเนินโครงการ ฯ จากเดิมสิ้นสุดในเดือนกันยา ยน 2551 ออกไปสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2553 และมอบอำนาจในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการ ฯ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิพิจารณาดำเนินโครงการให้บรรลุวัตถุประสงค์ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้ กระทรวงมหาดไทย (จังหวัดชัยภูมิ) รับความเห็นของเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติที่เห็นควรแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดินในโครงการบ้านดินสิ่งมหัศจรรย์ให้เกิดความชัดเจนและ ต้องสามารถพัฒนาบ้านดินให้เป็นที่พักของนักท่องเที่ยวได้ ภายในวงเงินงบประมาณที่เหลือ 11.80 ล้านบาท โดย ไม่ขอเงินงบประมาณเพิ่มอีก 2. ให้กระทรวงมหาดไทย (จังหวัดชัยภูมิ) รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรม การพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ ฯ และกิจกรรมในระยะที่ 2 ต้องสนองตอบ ต่อวัตถุประสงค์เดิมในการพัฒนาพื้นที่โครงการ ฯ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่ ชุมชน พร้อมทั้งมีการรายงานผลการดำเนินงานและการใช้จ่ายเงินตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการ ฯ และเมื่อ สิ้นสุดระยะเวลาการดำเนินโครงการ ฯ หากมีเงินเหลือจ่ายให้นำเงินเหลือจ่ายพร้อมดอกผลส่งคืนคลังเป็นรายได้ แผ่นดินต่อไป อย่างไรก็ตาม หากจังหวัดชัยภูมิจะพัฒนาต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มในโครงการ ฯ ที่ดำเนินการแล้ว เสร็จในระยะแรก ก็ควรให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมความเข้มแข็งของชุมชนเพื่อให้ชุมชนมีความพร้อม มีความ ร่วมมืออย่างเป็นเอกภาพ และมีขีดความสามารถในการบริหารจัดการโครงการ ฯ อย่างยั่งยืน ไปพิจารณาดำเนิน การด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||
2299 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจ การยกเว้น และการเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท | 15/09/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจ การยกเว้น
และการเปลี่ยนประเภทการตรวจลงตรา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ เพิ่มเติมหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อน ไขในการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว โดยกำหนดให้การเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อการท่องเที่ยวตาม ความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ฯ ผู้ถือหนังสือเดินทาง หรือ เอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางต้องยื่นเรื่องขอรับการตรวจลงตราเดียว ฯ ต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทย หรือต่อ สถานทูตหรือสถานกงสุลกัมพูชา แต่กรณีที่ยื่นเรื่องขอรับการตรวจลงตราเดียวต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลกัมพูชา และได้รับความเห็นชอบให้ตรวจลงตราเดียวจากกระทรวงการต่างประเทศให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามช่อง ทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองที่รัฐมนตรีกำหนด โดยเสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราที่สำนักงานตรวจคน เข้าเมือง ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการ ต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
2300 | แต่งตั้งผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย) | มท | 15/09/2552 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย เป็นผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ตาม
สัญญาจ้างบริหารต่ออีก 1 วาระ (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2552 ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2553) โดยให้ได้รับค่า ตอบแทนคงที่ในอัตราที่ได้รับในปัจจุบัน เดือนละ 601,858.93 บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
.....