ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 117 จากทั้งหมด 513 หน้า แสดงรายการที่ 2321 - 2340 จากข้อมูลทั้งหมด 10242 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2321 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านค่าย - มาบข่า จังหวัดระยอง พ.ศ. .... | มท | 11/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนบ้านค่าย-มาบข่า จังหวัด
ระยอง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลนิคมพัฒนาตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา ตำบลหนองละลอก ตำบลบางบุตร ตำบลชากบก ตำบลบ้านค่าย ตำบลหนองตะพาน ตำบลตาขัน อำเภอบ้าน ค่าย และตำบลทับมา ตำบลน้ำคอก อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2322 | ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. .... | มท | 11/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงมหาดไทยใช้พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ....
ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอเป็นหลัก และให้ส่งร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการส่วนท้อง ถิ่น พ.ศ. .... ที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาใช้ประกอบการตรวจพิจารณาต่อ ไป แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติ ฯ ที่กระทรวงมหาดไทยเสนอมี หลักการทำนองเดียวกับร่างพระราชบัญญัติ ฯ ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยผ่านกระบวนการ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียแล้ว ประกอบกับคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการเมื่อวัน ที่ 16 มิถุนายน 2552 ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา |
||||||||||||||||||||||||
2323 | ขออนุมัติคณะรัฐมนตรีเพื่อใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อชดใช้เงินทดรองราชการกรณีฉุกเฉิน (ด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) ครั้งที่ 2 - 8 | มท | 11/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ใช้จ่าย
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายชดใช้เงินทดรองราชการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งจ่ายไปเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งสิ้น 679,778,939 บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้กระทรวงมหาดไทยเบิกจ่ายในงบรายจ่าย อื่น ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||||||||
2324 | ซักซ้อมแนวทางการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินกรณีตู้โทรศัพท์สาธารณะ | มท | 11/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบเรื่องการซักซ้อมแนวทางการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินกรณีตู้โทรศัพท์สาธารณะ
โดยกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือถึงองค์กรปครองส่วนท้องถิ่นในการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินกรณีตู้โทรศัพท์ สาธารณะ โดยถือปฏิบัติตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พุทธศักราช 2475 และที่แก้ไขเพิ่ม เติม และประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินค่ารายปีของทรัพย์สิน ดังนี้ 1. กรณีตู้โทรศัพท์สาธารณะที่มีค่าเช่า ให้นำค่าเช่ามาประเมินเป็นค่ารายปี 2. กรณีตู้โทรศัพท์สาธารณะที่ไม่สามารถหาค่าเช่าได้ ให้ถือปฏิบัติ ดังนี้ 2.1 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนดค่าเช่ามาตรฐานกลางเฉลี่ยต่อตารางเมตรสำหรับตู้โทรศัพท์ สาธารณะแยกตามทำเลที่ตั้งซึ่งมีความเจริญทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกันในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2.2 การหาค่าเช่ามาตรฐานกลางเฉลี่ยต่อตารางเมตร ให้ใช้หลักการเทียบเคียงกับค่าเช่าจริงของทรัพย์ สินประเภทอาคาร หรือค่าเช่าแผงลอยในเขตพื้นที่ใกล้เคียงแต่ละทำเลที่ตั้งหรือเทียบเคียงกับอัตราค่าเช่าของอาคาร อาคารลักษณะพิเศษ หรือแผงลอยที่กรมธนารักษ์กำหนด 3. การประเมินค่ารายปีตู้โทรศัพท์สาธารณะไม่ควรสูงกว่าค่ารายปีที่กรุงเทพมหานครจัดเก็บในอัตราค่า เช่าสูงสุด 250 บาทต่อตู้ต่อเดือน
|
||||||||||||||||||||||||
2325 | แผนปฏิบัติการและงบประมาณภายใต้แผนแม่บทการป้องกันและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุทกภัย วาตภัย และโคลนถล่ม (ระยะ 5 ปี) | มท | 05/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบแผนปฏิบัติการและงบประมาณระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2553-พ.ศ. 2555) ภายใต้แผนแม่บทการป้อง กันและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุทกภัย วาตภัย และโคลนถล่ม (ระยะ 5 ปี) เพื่อให้หน่วยงานที่ร่วมบูรณา การนำไปบริหารจัดการภัยจากอุทกภัย วาตภัย และโคลนถล่ม ที่อาจเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ตามที่กระทรวงมหาด ไทยเสนอ 2. ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยประสานงานหลัก พร้อมติดตามผลการปฏิบัติงานเพื่อ ให้การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการป้องกันและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุทกภัย วาตภัย และโคลนถล่มบรรลุ ผลตามที่กำหนดไว้ในแผนแม่บท ฯ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 3. กรอบวงเงินงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ ฯ จำนวน 33,067.6941 ล้านบาท นั้น ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้ จ่ายงบประมาณประจำปี เพื่อดำเนินการตามความเหมาะสมและจำเป็น โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับสถานการณ์ ทางการเงิน การคลัง ของประเทศด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 4. ให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงบประมาณรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐ กิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการตรวจสอบและระบุให้ชัดเจนว่า แผนงาน/โครงการใดที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ แล้ว และการตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับคำของบประมาณตามปกติแต่ละปี ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ด้วย |
||||||||||||||||||||||||
2326 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีกหนึ่งปี จำนวน 11 ฉบับ และต่อไปอีกห้าปี จำนวน 1 ฉบับ) | มท | 05/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวม (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อ ไปได้ โดยร่างกฎกระทรวง ฯ มีสาระสำคัญคือ 1. ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมต่อไปอีก 1 ปี จำนวน 11 ฉบับ ได้แก่ 1.1 ผังเมืองรวมชุมชนบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 1.2 ผังเมืองรวมเมืองทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช 1.3 ผังเมืองรวมเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี 1.4 ผังเมืองรวมชุมชนช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี 1.5 ผังเมืองรวมเมืองบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา 1.6 ผังเมืองรวมเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ 1.7 ผังเมืองรวมเมืองพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี 1.8 ผังเมืองรวมเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร 1.9 ผังเมืองรวมเมืองบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา 1.10 ผังเมืองรวมเมืองชุมแพ จังหวัดขอนแก่น 1.11 ผังเมืองรวมเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี 2. ขยายระยะเวลาการใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ต่อไปอีก 5 ปี
|
||||||||||||||||||||||||
2327 | การดำเนินโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้พื้นที่ทำกินทางการเกษตร | มท | 05/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินงานตามโครงการขยายเขตไฟฟ้าในพื้นที่ทำกินทาง การเกษตร ในวงเงิน 1,655 ล้านบาท (โดยใช้เงินกู้ในประเทศ 1,240 ล้านบาท และเงินรายได้ของ กฟภ. 415 ล้านบาท) เพื่อขยายเขตจำหน่ายไฟฟ้าให้กับพื้นที่ทำกินทางการเกษตรของเกษตรกร จำนวน 30,000 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่การเกษตรที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 293,547 ไร่ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ 2. ให้ กฟภ. รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ที่ให้ กฟภ. รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการ และประเมินผลสำเร็จของโครงการต่อ หน่วยงานเจ้าสังกัด กระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เพื่อกำกับดูแลการขยายไฟฟ้าให้ พื้นที่ทำกินทางการเกษตรเป็นไปอย่างทั่วถึง และเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาอนุมัติโครงการที่มีลักษณะเป็น โครงการนโยบายเชิงสังคมให้มีความเหมาะสมต่อไป และให้พิจารณาหลักเกณฑ์การคัดเลือกครัวเรือนที่จะเข้าร่วม โครงการอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่เดือดร้อนจากการไม่มีไฟฟ้าใช้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของโครงการ รวมไปถึงการเพิ่มคุณภาพไฟฟ้าในพื้นที่ชนบทเพื่อหลีกเลี่ยง ความเสียหายของผลิตผลทางการเกษตร ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
2328 | ขอความเห็นชอบการปรับปรุงสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของการประปานครหลวงในส่วนของอัตราค่าห้องและค่าอาหาร | มท | 05/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้การประปานครหลวงปรับอัตราค่าห้องและค่าอาหารประเภทคนไข้ในของโรงพยาบาล สำหรับผู้ปฏิบัติงาน จากเดิม "เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินวันละ 800 บาท" เป็น "เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่ เกินวันละ 1,200 บาท" ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ในคราวประชุมครั้งที่ 3/2552 เมื่อ วันที่ 3 เมษายน 2552 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ 2. ให้การประปานครหลวงรับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณที่เห็นว่า ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันอาจ ส่งผลกระทบต่อรายได้จากการดำเนินงานของการประปานครหลวงในอนาคต เห็นควรให้การประปานครหลวง พิจารณาหามาตรการประหยัดค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานให้ครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการปรับปรุง สวัสดิการในครั้งนี้ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
||||||||||||||||||||||||
2329 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในเขตเทศบาลตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... | มท | 05/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
บังคับในเขตเทศบาลตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้พระราช บัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 บังคับในเขตเทศบาลตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อ ประโยชน์ในด้านการควบคุมเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัย การสาธารณสุข การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรม และการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่ กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2330 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. .... | มท | 05/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรี
ขันธ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่ตำบลสามกระทาย ตำบลหาดขาม ตำบลกุยเหนือ และตำบลกุยบุรี อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมือง และบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูป โภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2331 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองท่าโขลง - คลองหลวง - รังสิต จังหวัดปทุมธานี พ.ศ. .... | มท | 05/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองท่าโขลง-คลองหลวง-รังสิต จังหวัด
ปทุมธานี พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่ตำบลคลองสอง ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอ คลองหลวง และตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรง รักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การ สาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่ กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
2332 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (รวม 5 รายการ) | มท | 05/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณงานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำและริมทะเลทั่ว ประเทศ รวม 5 รายการ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ 1.1 รายการที่ 1 เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บริเวณบ้านส้มป่อย (ต่อเนื่องเขื่อนเดิมขึ้นเหนือน้ำ) หมู่ที่ 8 ตำบลนาสีนวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร วงเงิน 48,979,000 บาท (วงเงินงบประมาณที่ได้รับ 45,000,000 บาท) 1.2 รายการที่ 2 เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านปะโคใต้ หมู่ที่ 1 บ้านไร่ หมู่ที่ 5 ตำบลปะ โค อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ความยาว 300 เมตร วงเงิน 22,900,000 บาท (วงเงินงบประมาณที่ได้รับ 20,000,000 บาท) 1.3 รายการที่ 3 เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง เทศบาลตำบลปากคาด ตำบลปากคาด อำเภอปาก คาด จังหวัดหนองคาย ความยาว 500 เมตร วงเงิน 47,270,000 บาท (วงเงินงบประมาณที่ได้รับ 35,000,000 บาท) 1.4 รายการที่ 4 เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บริเวณท่าเทียบเรือคกไผ่ ตำบลปากชม อำเภอปาก ชม จังหวัดเลย ความยาว 500 เมตร วงเงิน 39,976,000 บาท (วงเงินงบประมาณที่ได้รับ 35,000,000 บาท) 1.5 รายการที่ 5 เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านน้อย ช่วงที่ 1 ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ความยาว 500 เมตร วงเงิน 39,959,000 บาท (วงเงินงบประมาณที่ได้รับ 30,000,000 บาท) 2. สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||
2333 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง (นายวิชาญ ธรรมสุจริต) (ยกเลิกโดยมติคณะรัฐมนตรี 10027/54) | มท | 05/08/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายวิชาญ ธรรมสุจริต เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานคร
หลวง แทนนายชำนิ จันทร์ฉาย ที่ขอถอนตัวจากการเป็นกรรมการดังกล่าว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้มี ผลตั้งแต่วันที่คณะกรรมการอัยการอนุมัติเป็นต้นไป แต่ทั้งนี้ต้องไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (5 สิงหาคม 2552)
|
||||||||||||||||||||||||
2334 | ขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 | มท | 28/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 วงเงินทั้งสิ้น 32,000,000 บาท เพื่อดำเนินโครงการที่จังหวัดปัตตานีเสนอขอรับการสนับ สนุนงบประมาณ จำนวน 3 โครงการ จากที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 8 โครงการ ประกอบด้วย โครงการศูนย์พัฒนาชีวิตใหม่ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อำเภอยะหริ่ง จำนวนเงิน 15,000,000 บาท โครง การขุดลอกคลองเพื่อแก้ไขปัญหาชาวประมงพื้นบ้าน อำเภอยะหริ่ง จำนวนเงิน 15,000,000 บาท และโครงการ ปรับปรุงสำนักทะเบียนอำเภอยะหริ่ง จำนวนเงิน 2,000,000 บาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย (จังหวัดปัตตานี) ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง โดยในส่วนของโครงการที่ไม่สามารถจัดสรรให้ได้ หากจังหวัด เห็นว่ายังมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ ก็ให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2552 ที่ได้รับไปดำเนินการในโอกาสแรกก่อน หรือให้บรรจุไว้ในแผนการปฏิบัติงานและแผนการ ใช้จ่ายงบประมาณของจังหวัดเพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ 2. ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปทบทวนโครงการก่อสร้างเขื่อนหินทิ้งกันน้ำกัดเซาะชายฝั่งและเขื่อนทราย ปิดปากแม่น้ำบางราพา อำเภอหนองจิก จำนวนเงิน 15,000,000 บาท เนื่องจากการก่อสร้างเขื่อนหินทิ้ง นั้น ทำ ให้เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมค่อนข้างมาก โดยพิจารณาวิธีการก่อสร้างสิ่งป้องกันน้ำกัดเซาะชายฝั่ง ที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุดตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
2335 | ขอรับการสนับสนุนงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นรายการค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย | มท | 28/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ
พ.ศ. 2552 เพื่อเป็นค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของกรม การปกครอง (ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน) จำนวน 15,698 คน รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 282,060,000 บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
2336 | ขออนุมัติเช่ารถประจำตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย | มท | 28/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยเช่ารถประจำตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ตรวจ
ราชการกระทรวงมหาดไทย จำนวน 76 คัน ในวงเงินรวม 178,752,000 บาท และอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันข้าม ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2557 โดยค่าเช่ารถประจำตำแหน่งที่จะใช้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จำนวน 2,979,200 บาท ให้กระทรวงมหาดไทย (สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย) ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผน การใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ส่วนค่าเช่ารถประจำตำแหน่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 35,750,400 บาท ให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยขอแปรญัตติเพิ่มงบประมาณรายจ่าย ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2553 หรือปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้งบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 เป็นลำดับแรกก่อน และค่าเช่ารถประจำตำแหน่งในส่วนที่เหลือ จำนวน 140,022,400 บาท ให้สำนักงานปลัด กระทรวงมหาดไทยขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นที่จะต้องใช้ในแต่ละปีต่อไป รวม ทั้งให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยจำหน่ายรถประจำตำแหน่งที่มีอยู่เดิม และนำเงินรายได้ส่งคลังต่อไป ตาม ความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ในการเช่ารถประจำตำแหน่งดังกล่าว หากกระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นควรปรับลดระยะ เวลาการเช่าลงเป็น 3 ปี หรือ 4 ปี เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการที่จะให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ตรวจราช การกระทรวงได้มีรถยนต์ใหม่ไว้ใช้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้องมีอัตราค่าเช่าไม่เกินอัตราที่กระทรวง การคลังกำหนดไว้ในระยะเวลา 5 ปี ก็ให้ดำเนินการได้ โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยขอทำความตกลง ในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
2337 | การป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ (เอช 1 เอ็น 1) | มท | 28/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการดำเนินการป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่
ชนิดเอ (เอช 1 เอ็น 1) ของกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดังนี้ 1. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด/ผู้อำนวยการกรุง เทพมหานคร ตามกฎหมายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและควบคุมแก้ไขสถาน การณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ระดับจังหวัด เพื่อติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ ระบาดของโรคที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ 2. ให้ทุกจังหวัดและกรุงเทพ ฯ เผยแพร่และประชาสัมพันธ์คำแนะนำในการปฏิบัติตัวสำหรับประชาชน ในการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ฯ ตามแนวทางและคำแนะนำของกระทรวง สาธารณสุข 3. ให้ทุกจังหวัดและกรุงเทพ ฯ ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์และมาตรการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถาน การณ์ปัจจุบันที่พบการแพร่เชื้อในประเทศไทย (สถานการณ์ B) ใน 4 ประเด็นหลัก คือ การซักซ้อมความพร้อม การใช้มาตรการด้านชุมชนและสังคม การเฝ้าระวังตรวจหาผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว และการแสวงหาความร่วมมือจาก ทุกภาคส่วนเพื่อรณรงค์ป้องกันควบคุมการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 4. แจ้งเวียนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2552 ให้ทุกส่วนราชการ และรัฐวิสหากิจในสังกัด กระทรวงมหาดไทย ทุกจังหวัด กรุงเทพ ฯ ดำเนินการตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด 5. แจ้งแนวทางการแก้ไขปัญหาการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในปัญหาสำคัญ ที่ต้องเร่งดำเนินการในช่วง เดือนกรกฎาคม 2552 อาทิ การระบาดในโรงเรียนสถานศึกษา การแพร่โรคจากสถานบันเทิง ผับ (Pub) สถาน ที่ท่องเที่ยว การระบาดในค่ายทหาร (รวมทั้งที่พัก ตำรวจ) และการระบาดในโรงงาน สถานประกอบการ เป็นต้น 6. ให้ทุกจังหวัดและกรุงเทพ ฯ ปรับยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาการระบาด ฯ ตามมติคณะกรรมการ อำนวยการ ฯ ครั้งที่ 3/2552 เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2552 เพื่อให้สอดคล้องตามสถานการณ์ใน 3 ประเด็น หลัก คือ การดูแลรักษาผู้ป่วย การป้องกันการแพร่ระบาดโรค และการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ 7. การจัดประชุมทางไกลผ่านระบบ VDO Conference ระหว่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณ สุข กับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2552 เพื่อมอบนโยบายในการเร่งรัดการป้องกัน และควบคุมการระบาดของไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ (เอช 1 เอ็น 1) ให้ทุกจังหวัดถือปฏิบัติ
|
||||||||||||||||||||||||
2338 | การกู้เงินเพื่อบรรเทาผลกระทบสภาพคล่องของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จากการดำเนินการ 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อคนไทยทุกคน | มท | 21/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดำเนินการกู้เงินในประเทศภายในกรอบวงเงินไม่เกิน
2,900 ล้านบาท โดยรัฐบาลเป็นผู้รับภาระค่าดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกิดจากการกู้เงินดัง กล่าว ทั้งนี้ เพื่อลดผลกระทบต่อสภาพคล่องจากการดำเนินการ 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อคนไทยทุกคน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้กระทวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย |
||||||||||||||||||||||||
2339 | ขอกู้เงินในประเทศปี 2552 เพิ่มเติม ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | มท | 21/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกู้เงินในประเทศปี พ.ศ. 2552 เพิ่มเติม ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในงบ
ลงทุนเพื่อดำเนินงานปกติ งานด้านระบบไฟฟ้า จำนวน 7 งาน วงเงินดำเนินการ 3,203.193 ล้านบาท เป้าหมาย การเบิกจ่าย 2,628.109 ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันเงินต้นและ ดอกเบี้ย ดังนี้ 1. งานขยายเขตระบบจำหน่ายและระบบสายส่งสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้า วงเงินดำเนินการ 375.604 ล้านบาท เป้าหมายการเบิกจ่าย 264.886 ล้านบาท 2. งานตรวจสอบบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้า และ Uederground Cable ในสถานีไฟฟ้า วงเงินดำเนินการ 118.031 ล้านบาท เป้าหมายการเบิกจ่าย 72.561 ล้านบาท 3. งานขยายเขตไฟฟ้าให้บ้านเรือนราษฎรที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ วงเงินดำเนินการ 555.800 ล้านบาท เป้าหมายการเบิกจ่าย 530.230 ล้านบาท 4. งานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าอมตะนคร จังหวัดชลบุรี วงเงินดำเนินการ 211.516 ล้านบาท เป้าหมายการเบิกจ่าย 105.900 ล้านบาท 5. งานก่อสร้างสถานีไฟฟ้านวนคร 4 วงเงินดำเนินการ 126.763 ล้านนาท เป้าหมายกาารเบิกจ่าย 32.000 ล้านบาท 6. งานจัดหามิเตอร์และอุปกรณ์ประกอบสำรอง วงเงินดำเนินการ 1,437.791 ล้านบาท เป้าหมายการเบิกจ่าย 1,244.844 ล้านบาท 7. งานจัดหาหม้อแปลงและอุปกรณ์ประกอบสำรองจ่าย วงเงินดำเนินการ 377.688 ล้านบาท เป้าหมายการเบิกจ่าย 377.688 ล้านบาท
|
||||||||||||||||||||||||
2340 | ขออนุมัติวงเงินกู้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น (Working Capital) | มท | 21/07/2552 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบวงเงินกู้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น (Working Capital) ของการประปา
นครหลวง เป็นระยะเวลา 1 ปี ในวงเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับสำรองไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการเสริมสภาพ คล่องในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ตามที่คณะกรรมการการประปานครหลวง ในคราวประชุมครั้งที่ 3/2552 วัน ที่ 25 มีนาคม 2552 ได้มีมติเห็นชอบแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน
|
.....