ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 102 จากทั้งหมด 109 หน้า แสดงรายการที่ 2021 - 2040 จากข้อมูลทั้งหมด 2165 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2021 | รายงานความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองบริเวณตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี | ทส | 27/04/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานความก้าว
หน้าการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองบริเวณตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี โดยมี ผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ดังนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ โดยกรมควบคุมมลพิษร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและราชการส่วนท้องถิ่น ตรวจสอบความทึบแสงของฝุ่นละอองจากโรงโม่ บดและย่อย หินในพื้นที่หน้าพระลาน 37 โรงงาน พบว่า เกินเกณฑ์มาตรฐาน 11 โรงงาน จึงแจ้งให้กรมอุตสาหกรรม พื้นฐานและการเหมืองแร่ดำเนินการตามกฎหมาย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้สั่งการเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2547 ให้โรงโม่ทั้ง 11 แห่ง หยุดประกอบกิจการ เพื่อปรับปรุงและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ภายใน 60 วัน ในส่วนของการตรวจสอบพื้นที่ตำบลหน้าพระลาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ และปลัดกระทรวง ฯ (นายปลอดประสพ สุรัสวดี) พร้อมคณะ ได้ทำการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พร้อม ทั้งได้สั่งการให้กรมป่าไม้แจ้งความ ดำเนินคดีกับเหมืองแร่ที่กระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ในเรื่องการบุกบุก แผ้วถางป่า และลักลอบขุด ระเบิด ย่อยหิน บริเวณตำบลหน้าพระลาน จำนวน 6 ราย รวมทั้งได้มีคำสั่งย้ายข้าราชการในพื้นที่จังหวัดสระบุรีที่เกี่ยวข้อง และตั้งคณะกรรมการ สอบข้อเท็จจริง สำหรับการติดตามตรวจสอบสถานการณ์ของฝุ่นขนาดเล็กในบรรยากาศ ได้ตรวจสอบที่ บริเวณโรงเรียนหน้าพระลานอย่างต่อเนื่อง พบว่า ความเข้มข้นของฝุ่นขนาดเล็กมีแนวโน้มลดลง ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ ได้ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีและหัวหน้าส่วนราช การที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย โดยได้สั่งการและมอบนโยบายให้จังหวัดสระบุรีเข้มงวดการตรวจสอบการกระทำ ความผิดให้ครบถ้วน รวมทั้งดำเนินคดีตามกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพระราชบัญญัติการ สาธารณสุข พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียม อาวุธปืน พ.ศ. 2490 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2543 และให้รายงานมาที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ ทุก สัปดาห์ |
||||||||||||||||||
2022 | รายงานผลการตรวจสอบเชื้อไข้หวัดนกในแหล่งน้ำ | ทส | 20/04/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมควบคุมมลพิษ
รายงานผลการตรวจสอบเชื้อไข้หวัดนกในแหล่งน้ำ โดยเก็บตัวอย่างน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ ระหว่างวันที่ 29 มกราคม ถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2547 ในพื้นที่ 12 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี นคร ปฐม สิงห์บุรี ชัยนาท อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี และนนทบุรี โดยได้ประสาน กับหน่วยงานที่มีศักยภาพในการตรวจสอบหาเชื้อไวรัสในตัวอย่างน้ำคือ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งดำเนินการร่วม กันระหว่างคณะสาธารณสุขศาสตร์และคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากผลการวิเคราะห์การตรวจหาเชื้อ ไวรัสไข้หวัดนกในตัวอย่างน้ำทั้งหมดแสดงผลเป็นลบ (Negative) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติไม่ มีการปนเปื้อนของเชื้อไวรัสไข้หวัดนก จึงมีความปลอดภัยในการนำน้ำไปใช้ได้ทั้งด้านอุปโภคบริโภค |
||||||||||||||||||
2023 | การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองบริเวณหน้าพระลาน จังหวัดสระบุรี | ทส | 20/04/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4.2 (ฝ่าย
การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม) ที่เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมเสนอ ให้มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองบริเวณหน้าพระลาน จังหวัดสระบุรี ดังนี้ ให้กระทรวง อุตสาหกรรม โดยกรมควบคุมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และกรมโรงงานอุตสาหกรรม ควบคุม สถานประกอบการที่ดำเนินกิจการโรงโม่ บด และย่อยหิน และการทำเหมืองหิน ให้มีการปฏิบัติเพื่อมิให้เกิด ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด ให้หน่วยงานราชการส่วนภูมิภาค และหน่วยงานราชการส่วนท้อง ถิ่นตรวจสอบและเฝ้าระวังมิให้มีการทำเหมืองผิดกฎหมายและจับกุมผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 อย่างเคร่งครัด ให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยและกรมควบคุมโรค เฝ้าระวังและศึกษา ผลกระทบของฝุ่นละอองต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมทั้งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมนำเรื่องการกำหนดโรงโม่ บด และย่อยหิน เป็นสถานประกอบการที่ต้องมีการจัดทำรายงานการ วิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเรื่องการประกาศให้พื้นที่บริเวณหน้าพระลาน เป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวด ล้อมและเขตควบคุมมลพิษ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 เสนอคณะ กรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณา แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป กับให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอขอตั้งงบประมาณเพื่อให้ท้องถิ่นดำเนินการในการควบคุมและ แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองบริเวณหน้าพระลาน จังหวัดสระบุรี ต่อไป ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นว่า การประกาศให้ พื้นที่บริเวณดังกล่าว ให้เป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมและเขตควบคุมมลพิษ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและ รักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 นั้น เมื่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเห็นชอบแล้ว ให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการออกประกาศโดยด่วน แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรี ทราบ นอกจากนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณ สุข กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องรายงานผลการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการ กลั่นกรอง ฯ ให้คณะรัฐมนตรีทราบทุกเดือน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ จนกว่าจะมีมติเปลี่ยนแปลง
|
||||||||||||||||||
2024 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2547 | ทส | 07/04/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมติการประชุมคณะ
กรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2547 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2547 ซึ่งคณะกรรมการ ฯ ได้ให้การรับ รองเรียบร้อยแล้ว ดังนี้ (1) เรื่องที่ประธาน ฯ แจ้งต่อที่ประชุม ได้แก่ มติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่ง ชาติ ครั้งที่ 7/2546 และครั้งที่ 1/2547 คำสั่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง แต่งตั้งอนุ กรรมการเพื่อพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างของกรมควบคุมมลพิษ และความก้าวหน้าในการดำเนิน งานการจัดการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยชุมชนจังหวัดขอนแก่น (2) เรื่องรายงานการประชุม ฯ ครั้งที่ 1/2547 ได้แก่ การรับรองรายงานการประชุม ฯ ครั้งที่ 1/2547 เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2547 โดยให้ปรับแก้ไขข้อความในวาระที่ 3.1 หน้า 7 8 และ 10 เป็น "ให้ใช้ พันธุ์ไม้ท้องถิ่นดั้งเดิม" และตัดคำว่า "ร่วมด้วย" ออก รวมทั้งเพิ่มข้อความหน้า 14 วาระที่ 4.3 บรร ทัดที่ 2 เป็น "กรรมการและเลขานุการ ฯ มอบหมายให้อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ..." ตามความเห็น ของคณะกรรมการ ฯ (3) เรื่องสืบเนื่องเพื่อพิจารณา ได้แก่ การปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการผู้ ชำนาญการ/คณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพิ่มเติม และการขอผ่อน ผันการใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เพื่อกิจการเหมืองแร่ กรณี บริษัท ปูนซีเมนต์ นครหลวง จำกัด (มหาชน) อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี (4) เรื่องเพื่อพิจารณา ได้แก่ รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการขยายท่าเรือน้ำลึก ภูเก็ต การขอเปลี่ยนแปลงการใช้เชื้อเพลิงและรายละเอียดโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนกระบี่ การปรับปรุงมาตรฐานฝุ่นละอองและก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ในเรื่องค่าเฉลี่ย 1 ปี การกำหนด มาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียจากสถานประกอบการหลอมและต้มทองคำ การมอบ อำนาจให้สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้ดำเนินการแทนคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในคดี หมายเลขดำที่ 2006/2545 ศาลปกครองกลาง และ (ร่าง) ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง การกำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในบริเวณจังหวัด กระบี่ และจังหวัดพังงา (5) เรื่องเพื่อทราบ ได้แก่ มติคณะรัฐมนตรี เรื่อง บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ขอต่ออายุ หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพระพุทธบาทและป่าพุแค เพื่อทำ เหมืองแร่หินปูน เพื่ออุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ ตามประทานบัตรที่ 27314/14518 และ 27315/ 14517 ท้องที่จังหวัดสระบุรี และรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่ง แวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการบ้านเอื้ออาทรประชา นิเวศน์
|
||||||||||||||||||
2025 | แต่งตั้งที่ปรึกษารัฐมนตรี และเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (จำนวน 2 ราย) (นายคณวัฒน์ วศินสังวร และ นายสุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์) | ทส | 16/03/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอการแต่งตั้ง นาย
คณวัฒน์ วศินสังวร เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายสุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2547 เป็นต้น |
||||||||||||||||||
2026 | Joint Statement ไทย - ลาว ว่าด้วยการร่วมมือจัดการทรัพยากรน้ำ | ทส | 16/03/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างคำแถลงร่วม
(Joint Statement) ไทย-ลาว ว่าด้วยการร่วมมือจัดการทรัพยากรน้ำ โดยร่างคำแถลงร่วมดังกล่าวมีถ้อยคำที่ แสดงเจตจำนงของทั้ง 2 ฝ่ายในการจัดการทรัพยากรน้ำร่วมกัน ทั้งด้านการใช้น้ำเพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ การอุปโภคบริโภค การเกษตร การผันน้ำจากท้ายเขื่อนน้ำงึมมายังประเทศไทย การศึกษาโครงการอื่นที่มี ศักยภาพ โดยจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ รวมทั้งการแลกเปลี่ยน ทางด้านวิชาการ
|
||||||||||||||||||
2027 | ร่างพระราชกฤษฎีกาขยายเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ บริเวณกองหินริเชลิว ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา พ.ศ. .... | ทส | 16/03/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราช
กฤษฎีกาขยายเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ บริเวณกองหินริเชลิว ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระ บุรี จังหวัดพังงา พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดย สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้เป็นการกำหนดให้ขยายเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ บริเวณกอง หินริเชลิว ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เนื้อที่ประมาณ 3,907 ไร่ |
||||||||||||||||||
2028 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าก่อสร้างโครงการแก้ไขปัญหาระบบระบายน้ำบริเวณสี่แยกถนนมิตรภาพตัดกับถนนศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น | ทส | 09/03/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มีมติเห็นชอบ
ในหลักการตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอโครงการแก้ไขปัญหาระบบระบายน้ำบริเวณสี่แยกถนน มิตรภาพตัดกับถนนศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สำหรับงบประมาณดำเนินการให้ขอรับการสนับสนุน งบประมาณที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นโดยตรง โดยขอให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นปรับแผน การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 แผนงานส่งเสริมและพัฒนาองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น งานส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รายการเงินอุดหนุนสำหรับพัฒนา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกรณีเร่งด่วน ซึ่งตั้งงบประมาณปี พ.ศ. 2547 ไว้จำนวน 2,000 ล้านบาท หรือปรับ แผนการใช้จ่ายของแผนงาน/งานอื่นใดที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเห็นสมควรแล้ว หากยังไม่เพียงพอ ก็ ให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||
2029 | คณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติลาวขอสนับสนุนด้านการเงิน | ทส | 09/03/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับเงินช่วยเหลือในการตกแต่ง
อาคารสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Committee Secretariat : MRCS) ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และการขนย้ายอุปกรณ์ จำนวน 9,005,056 บาท โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ ใช้จ่ายจากงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่ง ขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามแผนงานและโครงการพัฒนาลุ่มน้ำ ลำพะเนียง จังหวัดหนองบัวลำภู โครงการก่อสร้างฝายน้ำล้นพร้อมประตูบังคับน้ำ 3 ซึ่งได้รับจัดสรรงบ ประมารายจ่ายและมีงบประมาณเหลือจ่ายหลังจากการดำเนินงานแล้ว ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของกระทรวง การต่างประเทศไปพิจารณาดำเนินการด้วยว่าการให้ความช่วยเหลือที่ไทยจะให้แก่คณะกรรมการแม่น้ำโขง แห่งชาติลาวจะเป็นเงินค่าใช้จ่ายทั้งในการตกแต่งอาคารสำนักงานใหม่ ณ เวียงจันทน์ และในการขนย้าย อุปกรณ์จากสำนักงานเดิม ณ กรุงพนมเปญ หรือท่าเรือแหลมฉบัง และขนส่งทางบกต่อไปยังเวียงจันทน์ ฉะนั้น หากเป็นไปได้ น่าจะพิจารณาหาโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เข้าไปดำเนินงานเหล่านี้ด้วย |
||||||||||||||||||
2030 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณค่าก่อสร้างโครงการแก้ไขปัญหาระบบระบายน้ำบริเวณสี่แยกถนนมิตรภาพตัดกับถนนศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น | ทส | 09/03/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ที่มีมติเห็นชอบ
ในหลักการตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอโครงการแก้ไขปัญหาระบบระบายน้ำบริเวณสี่แยกถนน มิตรภาพตัดกับถนนศรีจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สำหรับงบประมาณดำเนินการให้ขอรับการสนับสนุน งบประมาณที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นโดยตรง โดยขอให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นปรับแผน การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 แผนงานส่งเสริมและพัฒนาองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น งานส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รายการเงินอุดหนุนสำหรับพัฒนา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกรณีเร่งด่วน ซึ่งตั้งงบประมาณปี พ.ศ. 2547 ไว้จำนวน 2,000 ล้านบาท หรือปรับ แผนการใช้จ่ายของแผนงาน/งานอื่นใดที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นเห็นสมควรแล้ว หากยังไม่เพียงพอ ก็ ให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||
2031 | สรุปผลการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาโครงการจัดการน้ำเสีย เขตควบคุมมลพิษจังหวัดสมุทรปราการ | ทส | 09/03/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานสรุปผลการ
ดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาโครงการจัดการน้ำเสีย เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ โดยได้แจ้งความ ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินคดีอาญา กิจ การร่วมค้าเอ็นวีพีเอสเคจี บริษัทปาล์มบีช ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด และบริษัทคลองด่านมารีน แอนฟิชเชอร์รี่ จำกัด ฐานร่วมกันฉ้อโกงการจัดซื้อที่ดินในโครงการจัดการน้ำเสีย เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ และให้ดำเนินคดีอาญา กิจการร่วมค้าเอ็นวีพีเอสเคจี กรณีที่มีการถอนตัวของบริษัท นอร์ธเวสต์ วอเตอร์ อิน เตอร์เนชั่นแนล และได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองปราบปราม สำนักงานตำรวจ แห่งชาติ ให้ดำเนินคดีอาญา บริษัทปาล์มบีช ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด ในความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงาน ผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ และความผิดฐานใช้ เอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดดังกล่าว และดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ของรัฐในฐานความผิดเป็น เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดและปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และได้ ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2546 โดยดำเนินการยื่นฟ้องคดีอาญา กิจการร่วม ค้าเอ็นวีพีเอสเคจี กับพวกในข้อหาฉ้อโกง ในส่วนของกลุ่มธนาคารผู้ค้ำประกัน ได้ดำเนินการฟ้องคดีแพ่งกับ กลุ่มธนาคารผู้ค้ำประกันต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้เรียกให้ชำระหนี้ตามหนังสือสัญญาค้ำประกัน และได้ขอให้ พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีแพ่งกับกิจการร่วมค้าเอ็นวีพีเอสเคจีเพื่อเรียกร้องเงินค่าจ้างและเงินอื่น ๆ ที่ได้จ่ายไปคืนมาตามมูลหนี้เรื่องลาภมิควรได้ นอกจากนี้ ได้มีการเพิกถอนโฉนดที่ดิน จำนวน 4 โฉนดทั้ง แปลง ประกอบด้วย โฉนดที่ดินเลขที่ 15024 โฉนดที่ดินเลขที่ 13150 โฉนดที่ดินเลขที่ 13817 และโฉนดที่ ดินเลขที่ 15528 ในการนี้ ได้ว่าจ้างที่ปรึกษากฎหมายเพื่อปฏิบัติงานสนับสนุนการตรวจสอบ และสอบสวน ข้อเท็จจริงต่างๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับระเบียบและข้อกฎหมาย และว่าจ้างกลุ่มที่ปรึกษาเพื่อประเมินความเหมาะ สมของการดำเนินโครงการ ฯ เพื่อวิเคราะห์และจัดทำทางเลือกในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งได้ให้สถาบันวิชา การศึกษาวิเคราะห์ทางสังคม และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดำเนินโครงการ ฯ กำหนดแล้วเสร็จ ภายในเดือนกันยายน 2547 ทั้งนี้ มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้รับผิดชอบ ดูแล ติดตามการดำเนินการในคดีต่าง ๆ ตลอดจนให้คำปรึกษาแนะนำแก่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม และส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย
|
||||||||||||||||||
2032 | การตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภค เพื่อการแก้ไขบรรเทาปัญหาภัยแล้งของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ทส | 09/03/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอเรื่อง การตั้งศูนย์
รับเรื่องร้องเรียนการขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภคเพื่อการแก้ไขบรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยกระทรวงทรัพยา กรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลและกรมทรัพยากรน้ำจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้อง เรียนการขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภคขึ้น ทั้งในเขตพื้นที่และในส่วนกลาง โดยผู้ที่ประสบความเดือดร้อน สามารถขอความช่วยเหลือ หรือร้องเรียนผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดในเขตจังหวัดที่เกิดภาวะภัยแล้ง หรือแจ้งผ่าน ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภค ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลและกรมทรัพยากรน้ำ ได้โดยตรง
|
||||||||||||||||||
2033 | รายงานการปฏิบัติงานเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก | ทส | 02/03/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายการปฏิบัติงานเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกไป เพื่อคณะรัฐมนตรีทราบ
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ |
||||||||||||||||||
2034 | การรวมหน่วยงานด้านน้ำให้อยู่กระทรวงเดียวกัน | ทส | 22/02/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่องในวาระสำคัญ (Agenda Based) เรื่อง การบริหารจัดการน้ำ ประกอบ
ด้วย เรื่อง แผนเตรียมรับสถานการณ์ในช่วงฤดูแล้ง ปี 2547 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การรวมหน่วย งานด้านน้ำให้อยู่ในกระทรวงเดียวกัน (แนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ) เรื่อง สรุปผลการระดมความ คิดเห็นในการประชุมกลุ่มย่อย การสัมมนาการบูรณาการการแก้ไขปัญหาอุทกภัย เรื่อง แผนยุทธศาสตร์ "การ จัดการทรัพยากรน้ำของชาติ" เรื่อง รายงานความก้าวหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การผ่อน ผันการใช้น้ำบาดาลสำหรับภาคอุตสาหกรรม และเรื่อง โครงการพัฒนาโครงข่ายน้ำและการพัฒนาเกษตร กรรมแบบบูรณาการ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) รายงาน และเพื่อให้การบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำได้รับการพิจารณาในภาพรวมอย่างบูรณาการ ครอบคลุมทั้งในเรื่องของแหล่งน้ำ การบริหารจัด การน้ำ และผู้ใช้น้ำ เช่น การผันน้ำจากแหล่งน้ำของประเทศข้างเคียงเพื่อเพิ่มน้ำต้นทุนในประเทศไทย การ แก้ไขปัญหาการตื้นเขินของแหล่งน้ำ การกระจายน้ำให้แก่ผู้ใช้น้ำอย่างทั่วถึง เป็นต้น ซึ่งการดำเนินการในเรื่อง เหล่านี้อาจจะต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ และควรจะต้องเริ่มดำเนินการไปพร้อมกันทุกด้านให้เกิดผล เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ที่จะบังเกิดขึ้นกับประชาชน จึงมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณ กิตติ) นำเรื่องดังกล่าวทั้งหมด และเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำไปประชุมร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อสรุปและเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วนต่อไป |
||||||||||||||||||
2035 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำว้าและป่าแม่จริม ป่าแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออกตอนใต้ และป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี่ ในท้องที่ตำบลน้ำพาง ตำบลน้ำปาย อำเภอแม่จริม และตำบลไหล่น่าน ตำบลส้านนาหนองใหม่ ตำบลน้ำมวบ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติแม่จริม) | ทส | 22/02/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราชกฤษฎีกา
กำหนดที่ดินป่าน้ำว้าและป่าแม่จริม ป่าแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออกตอนใต้ และป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี่ในท้องที่ตำบล น้ำพาง ตำบลน้ำปาย อำเภอแม่จริม และตำบลไหล่น่าน ตำบลส้านนาหนองใหม่ ตำบลน้ำมวบ อำเภอเวียง สา จังหวัดน่าน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... (อุทยานแห่งชาติแม่จริม) ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้นำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายเพื่อประกาศใช้บังคับต่อไป โดยสาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา ฉบับนี้เป็นการกำหนดบริเวณที่ดินป่าน้ำว้าและป่าแม่จริม ป่าแม่น้ำน่านฝั่งตะวันออกตอนใต้ และป่าน้ำว้าและป่าห้วยสาลี่ ในท้องที่ตำบลน้ำพาง ตำบลน้ำปาย อำเภอแม่จริม และตำบลไหล่น่าน ตำบลส้านนาหนองใหม่ ตำบลน้ำมวบ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติแม่จริม) ทั้งนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า ในการตรากฎหมายกำหนดเขตอุทยานแห่งชาติหรือเขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ผ่านมา มักปรากฏข้อร้องเรียนว่ามีการกำหนดเขตทับที่ดินทำกินโดยชอบด้วย กฎหมายของราษฎร จึงสมควรกำชับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องให้ระมัดระวังเรื่องดังกล่าวด้วยเพื่อมิให้ราษฎรได้รับความ เดือดร้อน |
||||||||||||||||||
2036 | แผนยุทธศาสตร์การจัดการพื้นที่ป่าไม้ของชาติแบบบูรณาการ | ทส | 22/02/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (คกก.3) ที่มี
มติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแผนยุทธศาสตร์การจัดการพื้นที่ ป่าไม้ของชาติแบบบูรณาการ โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ ร่วมกับสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รับไปแปลงแผนยุทธศาสตร์การจัดการพื้นที่ป่าไม้ของชาติแบบ บูรณาการไปสู่การปฏิบัติให้มีความชัดเจน และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน 30 วัน และให้กระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติ ฯ ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามประเมินผลการดำเนินการตามแผน พร้อมทั้งรับ ความเห็นเพิ่มเติมกับข้อสังเกตของ คกก.3 ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ แผนยุทธศาสตร์ที่เสนอ ยังมี ความไม่ชัดเจนในประเด็นของแนวทางการดำเนินการ เป้าหมาย กลไกการจัดการพื้นที่ป่าไม้ และการแปลงแผน ไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งทำให้ไม่สามารถจัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่ายให้ครอบคลุมการดำเนินการตามแผนได้ทั้งหมด จึงเห็นควรให้สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำเนินการ ปรับปรุงรายละเอียดของแผนดังกล่าวให้มีความชัดเจน เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่ายมีความสอดคล้อง กับแผนต่อไป สำหรับคณะกรรมการที่ทำหน้าที่บริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งแต่งตั้งโดยส่วนราชการต่าง ๆ หลายคณะ ทำให้การบริหารจัดการไม่มีความเป็นเอกภาพ จึงควรปรับปรุงองค์ประกอบหน้าที่ของคณะกรรม การดังกล่าวให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการระดับชาติเพียงคณะเดียวโดยให้มีผู้แทนจากหน่วยงาน ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรต่าง ๆ ร่วมเป็นองค์ประกอบของ คณะกรรมการระดับชาติด้วย เพื่อนำแผนไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ส่วนความหมายของคำศัพท์ภาษา อังกฤษ คำว่า "Geographic Information System" หรือ " GIS" ที่นำมาแปลเป็นภาษาไทยยังมีความแตกต่างกัน อาจทำให้เกิดความสับสน จึงเห็นควรกำหนดให้คำศัพท์ภาษาอังกฤษดังกล่าวมีความหมายในภาษาไทยว่า "ภูมิ สารสนเทศ" นอกจากนี้ ในการแปลงแผนยุทธศาสตร์ ฯ ไปสู่การปฏิบัติ ควรทำเป็นแผนปฏิบัติการ 2 ระยะ คือ ระยะแรกเป็นแผนเร่งด่วนดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี และระยะต่อไปเป็นแผนระยะยาว ซึ่งควรจัดทำใน เชิงบูรณาการและควรมีการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามประเมินผลการดำเนินการตามแผนด้วย |
||||||||||||||||||
2037 | แผนยุทธศาสตร์ "การจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ" | ทส | 22/02/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่องในวาระสำคัญ (Agenda Based) เรื่อง การบริหารจัดการน้ำ ประกอบ
ด้วย เรื่อง แผนเตรียมรับสถานการณ์ในช่วงฤดูแล้ง ปี 2547 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง การรวมหน่วย งานด้านน้ำให้อยู่ในกระทรวงเดียวกัน (แนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ) เรื่อง สรุปผลการระดมความ คิดเห็นในการประชุมกลุ่มย่อย การสัมมนาการบูรณาการการแก้ไขปัญหาอุทกภัย เรื่อง แผนยุทธศาสตร์ "การ จัดการทรัพยากรน้ำของชาติ" เรื่อง รายงานความก้าวหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การผ่อน ผันการใช้น้ำบาดาลสำหรับภาคอุตสาหกรรม และเรื่อง โครงการพัฒนาโครงข่ายน้ำและการพัฒนาเกษตร กรรมแบบบูรณาการ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) รายงาน และเพื่อให้การบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำได้รับการพิจารณาในภาพรวมอย่างบูรณาการ ครอบคลุมทั้งในเรื่องของแหล่งน้ำ การบริหารจัด การน้ำ และผู้ใช้น้ำ เช่น การผันน้ำจากแหล่งน้ำของประเทศข้างเคียงเพื่อเพิ่มน้ำต้นทุนในประเทศไทย การ แก้ไขปัญหาการตื้นเขินของแหล่งน้ำ การกระจายน้ำให้แก่ผู้ใช้น้ำอย่างทั่วถึง เป็นต้น ซึ่งการดำเนินการในเรื่อง เหล่านี้อาจจะต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ และควรจะต้องเริ่มดำเนินการไปพร้อมกันทุกด้านให้เกิดผล เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ที่จะบังเกิดขึ้นกับประชาชน จึงมอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณ กิตติ) นำเรื่องดังกล่าวทั้งหมด และเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำไปประชุมร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อสรุปและเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วนต่อไป |
||||||||||||||||||
2038 | การดำเนินงานของกรมทรัพยากรธรณี เรื่อง ซากหอยขมดึกดำบรรพ์ที่เหมืองถ่านหินแม่เมาะ และการของบประมาณงบกลางรายการค่าใช้จ่ายในการเสริมสร้างศักยภาพฯ โครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว | ทส | 17/02/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรฐมนตรี คณะที่
6 (คกก.6) ซึ่งพิจารณาข้อเสนอของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และมีมติรับทราบรายงานความ ก้าวหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับซากหอยขมดึกดำบรรพ์ที่เหมืองถ่านหินแม่เมาะ จังหวัดลำปาง และเห็นชอบให้ กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการกันพื้นที่พบแหล่งซากหอยขมดึกดำบรรพ์ จำนวน 43 ไร่ ออกจากแปลงประทาน บัตรของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามมาตรา 9 ตรี แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 และให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประกาศพื้นที่แหล่งพบซากหอยขมดึกดำบรรพ์ซึ่งได้กันพื้นที่ออกแล้ว เป็นพื้นที่สำรวจ ทดลอง ศึกษาวิจัย ตามมาตรา 6 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 รวมทั้งประกาศพื้นที่ ดังกล่าวเป็นเขตอนุรักษ์ซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ เพื่อพัฒนาพื้นที่แหล่งซากหอยดึกดำบรรพ์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของ จังหวัดลำปาง และดำเนินการให้เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรณีวิทยา หรืออุทยานธรณีวิทยา (Geopark) ตามหลัก เกณฑ์ของยูเนสโกต่อไป โดยให้รับข้อสังเกตของ คกก.6 เกี่ยวกับการดำเนินการสำรวจชั้นซากหอยขมดึกดำบรรพ์ ควรให้กรรมการชุดนี้เข้าไปร่วมในการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องจะเป็นประโยชน์ที่สำคัญต้องมีผู้แทนของ กฟผ. รวมทั้งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมศึกษารายละเอียดแนวทางและขั้นตอนในการอนุรักษ์ และนำเสนอที่ประชุม อีกครั้ง และให้กรมทรัพยากรธรณีจัดทำเอกสารเพิ่มเติมรายละเอียดในการของบประมาณ โดยชี้ให้เห็นความ จำเป็นด้วยภาพที่ชัดเจน เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วย ไปดำเนินการด้วย สำหรับการขออนุมัติ งบกลางรายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2547 จำนวน 200 ล้านบาท โครงการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้ กรมทรัพยากรธรณีตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป
|
||||||||||||||||||
2039 | การประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 7 | ทส | 17/02/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอเรื่อง การประชุม
สมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 7 ในระหว่างวันที่ 9-29 กุมภาพันธ์ 2547 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งการประชุมครั้งนี้ประกอบด้วยการประชุมระดับต่าง ๆ ได้แก่ การประชุม สมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 7 การประชุมภาคีพิธีสารคาร์ตาเฮนาว่าด้วย ความปลอดภัยทางชีวภาพ สมัยที่ 1 และการประชุมระดับรัฐมนตรี สำหรับประเด็นหลักที่จะมีการพิจารณาการ ประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญา ฯ สมัยที่ 7 ประกอบด้วยเรื่องต่าง ๆ ดังนี้ การรายงานผลการดำเนินงานของ สำนักเลขาธิการอนุสัญญา ฯ คณะกรรมการ คณะทำงาน และคณะผู้เชี่ยวชาญ การรายงานผลการดำเนินงาน ตามโปรแกรมงานของอนุสัญญา ฯ ที่ดำเนินการโดยประเทศภาคี องค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และสำนักเลขาธิ การอนุสัญญา ฯ เช่น โปรแกรมงานเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศน้ำในแผ่นดิน ความหลาก หลายทางชีวภาพในพื้นที่ชายฝั่งและทะเล การดำเนินงานของ Cross-Cutting issues เช่น การติดตามตรวจ สอบการริเริ่มทางอนุกรมวิธาน ชนิดพันธุ์ต่างถิ่น และความหลากหลายทางชีวภาพและการท่องเที่ยวเป็นต้น รวมทั้งการพิจารณาเรื่องที่มีความสำคัญลำดับสูง ได้แก่ ความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศภูเขา พื้น ที่คุ้มครองการถ่ายทอดเทคโนโลยีและความร่วมมือทางเทคโนโลยี และการดำเนินงานต่อเนื่องจากการประชุม สุดยอดว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน โปรแกรมงานพหุวรรษของสมัชชาภาคี รวมทั้งแผนกลยุทธ์และการดำเนิน งานของอนุสัญญา |
||||||||||||||||||
2040 | ขอยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบการคลัง และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมนานาชาติ CITES CoP 13 และ BWCC 2004 | ทส | 17/02/2547 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอขอยกเว้นการปฏิบัติ
ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการประชุมระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 และหนังสือกรมบัญชี กลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0526.7/ว 26191 ลงวันที่ 28 กันยายน 2544 โดยเบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงเป็นกรณี พิเศษตามความจำเป็นและเหมาะสม ตามความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณ ได้แก่ ค่าของ ที่ระลึกสำหรับรัฐมนตรีและคู่สมรสที่จะเข้าร่วมประชุม ค่าการแสดงที่เป็นการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย ค่า อาหาร และค่าที่พัก ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม ค่าเช่ายานพาหนะและค่าจ้างเหมาบริการพนักงานขับรถยนต์ เงินรางวัล หรือค่าตอบแทน การจัดจ้างบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดประชุมนานาชาติ (Professional Conven tion Organizer-PCO) ค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานลักษณะพิเศษ เช่น พนักงานพิมพ์ดีด พนักงานแปลและ ล่ามในระหว่างการประชุม ค่าเช่าวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการประชุม ค่าเครื่องแต่งกาย รวมทั้งยกเว้นการปฏิบัติ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมทุกฉบับ สำหรับการจัดซื้อจัด จ้างโดยวิธีพิเศษทุกกรณี และยกเว้นไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ฯ กรณีอื่น ๆ เพื่อดำเนินการในการเป็นเจ้าภาพจัด การประชุมนานาชาติ CTIC CoP 13 และ BWCC 2004 |
.....