ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 165 จากทั้งหมด 483 หน้า แสดงรายการที่ 3281 - 3300 จากข้อมูลทั้งหมด 9647 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3281 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระบิดาแห่งการค้าไทย พ.ศ. .... | กค | 28/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระบิดาแห่ง
การค้าไทย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดชนิด ราคา โลหะ อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อ ขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคายี่สิบบาท หนึ่งชนิด ออกใช้เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสถวายราชสมัญญา "พระบิดาแห่งการค้าไทย" แด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้า อยู่หัว เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา โดยให้แก้ไขชื่อร่างกฎกระทรวงให้สอดคล้องกับเนื้อหาของร่างกฎกระทรวงด้วย แล้วดำเนินการต่อไป ได้
|
|||||||||||||||||||||
3282 | รายงานกิจการประจำปี งบดุลและบัญชีกำไรขาดทุน ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 | กค | 28/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานกิจการประจำปี งบดุลและบัญชีกำไรขาดทุน
ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 โดยผลการดำเนินงานประจำปี พ.ศ. 2552 เปรียบเทียบกับปี พ.ศ. 2551 พบว่า ธพว. มีสินทรัพย์รวมเพิ่ม ขึ้น 10,854.43 ล้านบาท หนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 8,213.70 ล้านบาท รายได้รวมเพิ่มขึ้น 267.25 ล้านบาท รายจ่าย รวมเพิ่มขึ้น 6.07 ล้านบาท กำไรสุทธิ 130.77 ล้านบาท จากเดิมปี พ.ศ. 2551 ที่ขาดทุนสุทธิ 2,708.26 ล้าน บาท ยอดสินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ 56,670.66 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าปี พ.ศ. 2551 ร้อยละ 30 หนี้ที่ไม่ก่อให้ เกิดรายได้ (NPL) ลดลง คิดเป็นร้อยละ 2.34 และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ระดับร้อยละ 11.57 และให้นำเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
3283 | รายงานกิจการประจำปี งบดุลและบัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 | กค | 28/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุน
ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 และให้นำ เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป ดังนี้ 1. ธสน. มีสินทรัพย์รวมจำนวน 65,742 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,889 ล้านบาท โดยมีการอนุมัติวงเงินสิน เชื่อและการค้ำประกันใหม่รวม 37,653 ล้านบาท มีวงเงินสินเชื่อและการค้ำประกันรวมจำนวน 133,366 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.3 และมีสินเชื่อคงค้างจำนวน 53,191 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 2. ธสน. มีปริมาณสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) จำนวน 4,370 ล้านบาท ลดลง 357 ล้านบาท 3. ธสน. มีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง เท่ากับร้อยละ 27.2 เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.1 4. ธสน. มีกำไรสุทธิ 346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 201 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
3284 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2553 | กค | 28/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครง
การ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 41,852 โครงการ วงเงิน 349,960.44 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 4,033 โครงการ วงเงิน 32,678.82 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 37,819 โครงการ วงเงิน 310,737.10 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 6,627 โครงการ วงเงิน 29,268.20 ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 228 โครงการ วงเงิน 10,870.63 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 6,399 โครงการ วงเงิน 18,397.57 ล้านบาท 4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 31,192 โครงการ วงเงิน 281,468.90 ล้านบาท 5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 31,192 โครงการ วงเงิน 258,848.72 ล้านบาท 6. การดำเนินการ 6.1 ยังไม่เริ่มเบิกจ่าย จำนวน 2,146 โครงการ วงเงิน 13,307.90 ล้านบาท 6.2 เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) จำนวน 27,721 โครงการ วงเงิน 170,893.90 ล้านบาท 6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 1,325 โครงการ วงเงิน 26,764.77 ล้านบาท 6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 29,046 โครงการ วงเงิน 197,658.67 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
3285 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 150 ปี โรงกษาปณ์ พ.ศ. .... | กค | 20/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 150 ปี โรง
กษาปณ์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญคือ กำหนดลักษณะจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 150 ปี โรงกษาปณ์ ชนิด ราคา อัตราเนื้อโลหะ น้ำหนัก ขนาด อัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ลวดลาย และลักษณะอื่น ๆ ของเหรียญกษาปณ์โลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ราคาห้าสิบบาท ประเภทธรรมดา (จำนวนผลิตไม่เกิน 150,000 เหรียญ) ตามที่กระทรวง การคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตของ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับคำบรรยายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ "ลอร์เดรอนาซิองนาล เดอ ลา เลจิยง ดอนเนอร์ (L'' Ordre National de la Legion d'' Honneur) ชั้นกรองด์ ครัวซ์ (Grand Croix)" สำนักอาลักษณ์และ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ได้ประสานสอบถามไปยังราชบัณฑิตยสถานแล้ว ได้ร้บแจ้งว่าชื่อที่ถูกต้องคือ "ลอดร์ นาซิย อนาล เดอ ลา เลฌิยง ดอเนอร์ (L'' Ordre National de la Legion d'' Honneur) ชั้นกร็อง ครัว (Grand Croix)" ไป ประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
3286 | รายงานสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลัง ปี 2551 | กค | 20/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลอสังหา
ริมทรัพย์ครึ่งปีหลัง ปี พ.ศ. 2551 สรุปได้ดังนี้ 1. รวบรวมและจัดเก็บข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ 7 ประเภท (sectors) (ที่อยู่อาศัยอาคารสำนักงาน ศูนย์ การค้า โรงแรม-รีสอร์ท นิคมอุตสาหกรรม สนามกอลฟ์ และที่ดินเปล่า) โดยนำข้อมูลที่ได้มาประมวลผล 4 ด้าน ได้แก่ ด้านอุปทาน ด้านอุปสงค์ ด้านราคา และด้านการเงิน ซึ่งสามารถเผยแพร่ข้อมูลได้ครอบคลุม 6 ประเภท คือ ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม-รีสอร์ท นิคมอุตสาหกรรม และสนามกอล์ฟ รวมทั้งทำการ สำรวจความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โครงการอาคารขนาดใหญ่ที่ยุติการก่อสร้างระหว่างปี พ.ศ. 2546-2548 โดยจัดทำข้อมูลแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2551 2. จัดทำดัชนีราคาที่อยู่อาศัย (Housing Price Index : HPI) และดัชนีศักยภาพในการเป็นเจ้าของที่อยู่ อาศัย จัดทำ REIC Research Journal มีการเผยแพร่รายงานสรุปสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีแรก ปี พ.ศ. 2551 พร้อมทั้งประเมินภาพรวมของทั้งปีและคาดการณ์แนวโน้มปี พ.ศ. 2552 มีการนำเสนอบทวิเคราะห์ วิกฤตการเงินโลก สัญญาณเตือนอสังหาริมทรัพย์ไทย และจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่ อยู่อาศัย (REIC Housing Developers Sentiment Index : REIC-HDSI) โดยมีการเผยแพร่ผลการสำรวจในไตรมาส ที่ 1-ไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ. 2551 3. จัดสัมมนาทางวิชาการด้านอสังหาริมทรัพย์ประจำปีและจัดกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริม ภาพลักษณ์ รวมทั้งเผยแพร่ผลสำรวจข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ผ่านทางวารสารและเว็บไซต์ของศูนย์ข้อมูลฯ นอกจาก นี้ ได้มีการออกบูธประชาสัมพันธ์องค์กรในครึ่งปีหลังของปี พ.ศ. 2551 เช่น เข้าร่วมในงาน “มั่นใจไทยแลนด์ ดี แน่ ถูกแน่ เพื่อคนไทย” ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2551 และงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 19” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 2-5 ตุลาคม 2551 เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||
3287 | งบการเงินของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย | กค | 20/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินที่สำนัก
งานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตรวจสอบงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 และ 2551 งบรายได้ค่าใช้จ่าย งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของทุนและงบกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของสำนักงานคณะ กรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) และรับรองงบการเงิน
|
|||||||||||||||||||||
3288 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายอัครวัฒน์ อัศวเหม) | กค | 20/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายอัครวัฒน์ อัศวเหม ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงการคลัง ปฏิบัติราชการประจำรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายมั่น พัธโนทัย) ตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
3289 | มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ และนายมั่น พัธโนทัย) | กค | 20/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมอบหมายเป็นหลักการให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้รักษาราช
การแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือมีแต่ ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามที่ กระทรวงการคลังเสนอ ตามลำดับ ดังนี้ 1. นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 2. นายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลง
|
|||||||||||||||||||||
3290 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 16 กรกฎาคม 2553 | กค | 20/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครง
การ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 16 กรกฎาคม 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 41,832 โครงการ วงเงิน 349,960.44 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 4,093 โครงการ วงเงิน 32,834.01 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 37,739 โครงการ วงเงิน 310,587.72 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 7,370 โครงการ วงเงิน 31,404.18 ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 185 โครงการ วงเงิน 10,988.90 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 7,185 โครงการ วงเงิน 20,415.28 ล้านบาท 4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 30,369 โครงการ วงเงิน 279,183.54 ล้านบาท 5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 30,369 โครงการ วงเงิน 256,383.31 ล้านบาท 6. การดำเนินการ 6.1 ยังไม่เริ่มเบิกจ่าย จำนวน 2,154 โครงการ วงเงิน 63,301.86 ล้านบาท 6.2 เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) จำนวน 26,890 โครงการ วงเงิน 166,316.68 ล้านบาท 6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 1,325 โครงการ วงเงิน 26,764.77 ล้านบาท 6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 28,215 โครงการ วงเงิน 193,081.45 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
3291 | การบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 | กค | 20/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบแนวทางการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผน ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 พ.ศ. 2552 ในการดำเนินการจัดหาพัสดุของโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทย เข้มแข็ง 2555 2. อนุมัติการขยายระยะเวลาในการลงนามในสัญญาและระยะเวลาการดำเนินโครงการของสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ วงเงิน 3,084.20 ล้านบาท โดยหน่วยงานจะต้องลง นามในสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2553 3. อนุมัติการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 โดย ให้หน่วยงานส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณา เพื่อขอจัดสรรเงินซึ่งรวมถึงแผนการปฏิบัติงานและแผนการ ใช้จ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันทำการ หลังจากคณะรัฐมนตรีอนุมัติการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครง การ และสำนักงบประมาณจะดำเนินการอนุมัติภายใน 15 วันทำการ โดยหลังจากได้รับอนุมัติแล้วหน่วยงานจะ ต้องลงนามในสัญญาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันทำการ 4. รับทราบการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ ที่เป็นลักษณะแก้ไขข้อมูลคลาดเคลื่อน เช่น พิมพ์ ผิดตกหล่น ปรับปรุงชื่อพื้นที่ให้ถูกตามเขตปกครอง ที่สำนักงบประมาณพิจารณาอนุมัติและรายงานคณะกรรม การกลั่นกรองและบริหารโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ม 2555 ทราบแล้ว 5. รับทราบการอนุมัติปรับปรุงแผนการดำเนินงานโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||
3292 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง) (นายกุลิศ สมบัติศิริ) | กค | 13/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายกุลิศ สมบัติศิริ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ
(นักวิเคราะห์รัฐวิสาหกิจทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2553 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
3293 | รายงานผลการลงนามในสัญญากู้เงินจากธนาคารโลก สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) | กค | 13/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการลงนามในสัญญากู้เงินระหว่างรัฐบาลไทย
กับธนาคารโลก สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) ของกรมทางหลวง โดยรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลังได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์) เป็นผู้ลง นามในนามรัฐบาลไทย และ Ms. Annette Dixon, Country Director, Thailand, East Asia and Pacific Region ธนาคาร โลก เป็นผู้ลงนามในนามธนาคารโลก เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2553 ตามสัญญากู้เงินเลขที่ 7775-TH วงเงิน 79.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสาระสำคัญและเงื่อนไขเป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติทุกประการ
|
|||||||||||||||||||||
3294 | รายงานผลการลงนามในสัญญากู้เงินจากธนาคารพัฒนาเอเชียสำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) | กค | 13/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการลงนามในสัญญากู้เงินจากธนาคารพัฒนา
เอเชีย สำหรับโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) ของกรมทางหลวง โดยรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์) เป็นผู้ลงนาม ในสัญญากู้เงินในนามรัฐบาลไทย และ Mr. Kunio Senga, Director General, Southeast Asia Department เป็นผู้ลง นามในนามธนาคารพัฒนาเอเชีย เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2553 ตามสัญญากู้เงินเลขที่ 2608-THA วงเงิน 77.10 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสาระสำคัญและเงื่อนไขเป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติทุกประการ
|
|||||||||||||||||||||
3295 | รายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (มกราคม - มีนาคม 2553) | กค | 13/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ไตรมาสที่ 2 (มกราคม-มีนาคม 2553) ดังนี้ 1. การเบิกจ่ายเงินงบประมาณในภาพรวมทั้งประเทศ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว จำนวน 829,175.58 ล้านบาท หรือร้อยละ 48.78 ของวงเงินงบประมาณ (1,700,000.00 ล้านบาท) จำแนกเป็น รายจ่ายประจำ จำนวน 718,725.48 ล้านบาท หรือร้อยละ 48.57 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำหลังโอน เปลี่ยนแปลง (1,479,842.55 ล้านบาท) และรายจ่ายลงทุน จำนวน 110,450.09 ล้านบาท หรือร้อยละ 50.17 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนหลังโอนเปลี่ยนแปลง (220,157.45 ล้านบาท) 2. การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของหน่วยงานที่มีอัตราการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายภาพรวมต่ำกว่า เป้าหมาย (ร้อยละ 43.00) มีจำนวน 13 กระทรวง ซึ่งหน่วยงานที่มีผลการเบิกจ่ายต่ำสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัด และกลุ่มจังหวัด กระทรวงคมนาคม และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 3. การเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนของหน่วยงานที่มีอัตราการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่าย ลงทุนต่ำกว่าเป้าหมาย (ร้อยละ 33.00) มีจำนวน 18 กระทรวง ซึ่งหน่วยงานที่มีผลการเบิกจ่ายต่ำสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงยุติธรรม และสำนักนายกรัฐมนตรี
|
|||||||||||||||||||||
3296 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 9 กรกฎาคม 2553 | กค | 13/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครง
การ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 9 กรกฎาคม 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 41,812 โครงการ วงเงิน 349,960.44 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 4,151 โครงการ วงเงิน 36,369.63 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 37,661 โครงการ วงเงิน 307,417.42 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 8,110 โครงการ วงเงิน 30,666.47 ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 283 โครงการ วงเงิน 10,503.38 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 7,827 โครงการ วงเงิน 20,163.09 ล้านบาท 4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 29,551 โครงการ วงเงิน 276,750.95 ล้านบาท 5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 29,551 โครงการ วงเงิน 252,146.74 ล้านบาท 6. การดำเนินการ 6.1 ยังไม่เริ่มเบิกจ่าย จำนวน 2,258 โครงการ วงเงิน 14,339.89 ล้านบาท 6.2 เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) จำนวน 25,968 โครงการ วงเงิน 159,636.39 ล้านบาท 6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 1,325 โครงการ วงเงิน 26,764.77 ล้านบาท 6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 27,293 โครงการ วงเงิน 186,401.16 ล้านบาท
|
|||||||||||||||||||||
3297 | รายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ 2 (มกราคม - มีนาคม 2552) ไตรมาสที่ 3 (เมษายน - มิถุนายน 2552) และไตรมาสที่ 4 (กรกฎาคม - กันยายน 2552) ปีงบประมาณ 2552 และไตรมาสที่ 1 (ตุลาคม - ธันวาคม 2552) ปีงบประมาณ 2553 | กค | 13/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ 2 (มกรา
คม-มีนาคม 2552) ไตรมาสที่ 3 (เมษายน-มิถุนายน 2552) และไตรมาสที่ 4 (กรกฎาคม-กันยายน 2552) ปี งบประมาณ พ.ศ. 2552 และไตรมาสที่ 1 (ตุลาคม-ธันวาคม 2552) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. การนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ 2 (มกราคม-มีนาคม 2552) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 สินค้าฟุ่ม เฟือยทั้ง 17 กลุ่มสินค้า มีมูลค่านำเข้า 322.207 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้า ฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ผลไม้ มูลค่านำเข้า 64.139 ล้านดอลลาร์สหรัฐ น้ำหอมและ เครื่องสำอาง มูลค่านำเข้า 60.567 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระเป๋าหนังและเข็มขัดหนัง มูลค่านำเข้า 35.836 ล้านดอล ลาร์สหรัฐ 2. การนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ 3 (เมษายน-มิถุนายน 2552) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 สินค้า ฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่มสินค้า มีมูลค่านำเข้า 306.037 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้า ฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ น้ำหอมและเครื่องสำอาง มูลค่านำเข้า 62.002 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ นาฬิกาและอุปกรณ์ มูลค่านำเข้า 37.093 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และผลไม้ มูลค่านำเข้า 34.461 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ 3. การนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ 4 (กรกฎาคม-กันยายน 2552) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 สิน ค้าฟุ่มเฟือยทั้ง 17 กลุ่มสินค้า มีมูลค่านำเข้า 401.794 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย สินค้าฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ น้ำหอมและเครื่องสำอาง มูลค่านำเข้า 68.782 ล้านดอล ลาร์สหรัฐ ผลไม้ มูลค่านำเข้า 61.820 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นาฬิกาและอุปกรณ์ มูลค่านำเข้า 52.918 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ 4. การนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยไตรมาสที่ 1 (ตุลาคม-ธันวาคม 2552) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 สินค้าฟุ่ม เฟือยทั้ง 17 กลุ่มสินค้า มีมูลค่านำเข้ารวม 472.148 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย สินค้าฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่านำเข้าสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ผลไม้ มูลค่านำเข้า 103.530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ น้ำหอม และเครื่องสำอาง มูลค่านำเข้า 75.972 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นาฬิกาและอุปกรณ์ มูลค่านำเข้า 60.786 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ |
|||||||||||||||||||||
3298 | บุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล) | กค | 06/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคาร
แห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง เนื่องจากนางธาริษา วัฒนเกส จะ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2553 ซึ่งเป็นวันสิ้นปีงบประมาณที่ นางธาริษา วัฒนเกส มีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
3299 | ข้อเสนอการขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย | กค | 06/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. เห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ครั้งที่ 2/2553 เมื่อวันที่ 8 เมษา ยน 2553 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1.1 เห็นชอบกรอบวงเงินอุดหนุนทางการเงินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ของการรถไฟแห่งประเทศ ไทย จำนวน 2,285.418 ล้านบาท จากที่เสนอขอรับเงินอุดหนุนสำหรับบริการสาธารณะ จำนวน 3,795.766 ล้าน บาท ทั้งนี้ ให้ใช้หลักการการคำนวณต้นทุนการให้บริการสาธารณะตามหลักการของปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 และ มีสมมติฐานการประมาณการรายได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยปรับราคาค่าโดยสารภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 และปรับกำหนดการขอรับเงินอุดหนุนจาก "ขอรับเงินอุดหนุนทุกกิจกรรมล่วงหน้าตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2554" เป็น "ขอรับเงินอุดหนุนทุกกิจกรรมล่วงหน้า โดยแบ่งออกเป็น 2 งวด งวดละร้อยละ 50" 1.2 ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดทำรายงานแผนกลยุทธ์ที่จะปรับปรุงการดำเนินงานให้เข้าสู่ความเป็น เลิศในด้านต่าง ๆ (Best Practice) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสาธารณะต่อคณะกรรมการเงินอุดหนุนบริการ สาธารณะ และให้เร่งปรับปรุงระบบบัญชีขององค์กรให้ได้มาตรฐานและเป็นไปตามกิจกรรมของหน่วยธุรกิจต่าง ๆ ตาม โครงสร้างการบริหารจัดการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในหลักการไว้เพื่อให้การแยกบัญชีเชิงพาณิชย์และบัญชี เชิงสังคมมีความชัดเจนและถูกต้องโดยเร็วต่อไป 1.3 ในการจัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงของการรถไฟแห่งประเทศไทย สมควรดำเนินการภายใต้ สมมติฐานที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่เกี่ยวกับประเภทหรือชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิง และมีระดับราคาที่เหมาะสม ใกล้เคียงกับแนวโน้มของราคาขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง 2. ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ ที่เห็นควรเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการการปรับโครงสร้างองค์กร ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 การปรับปรุงระบบบัญชีตามโครงสร้างองค์กรใหม่ การเตรียมความพร้อมโดยเฉพาะบุคลากรด้านการบัญชีรองรับการ ปรับระบบบัญชีดังกล่าว และการควบคุมการค่าใช้จ่าย รวมทั้งความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรพิจารณาปรับ โครงสร้างราคาค่าบริการให้สอดคล้องกับต้นทุนการบริหารจัดการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ไปดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||
3300 | รายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครงการ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2553 | กค | 06/07/2553 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง (รายโครง
การ) ประจำสัปดาห์ ข้อมูล ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2553 สรุปได้ดังนี้ 1. อนุมัติแล้ว จำนวน 41,789 โครงการ วงเงิน 349,960.44 ล้านบาท 2. การจัดสรร 2.1 รอจัดสรร จำนวน 4,165 โครงการ วงเงิน 38,713.93 ล้านบาท 2.2 จัดสรรแล้ว จำนวน 37,624 โครงการ วงเงิน 305,430.62 ล้านบาท 3. การจัดซื้อจัดจ้าง 3.1 ยอดจัดสรรที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้อ 3.1.1 ทั้งหมด จำนวน 8,934 โครงการ วงเงิน 33,625.70 ล้านบาท 3.1.2 ยังไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 395 โครงการ วงเงิน 12,614.41 ล้านบาท 3.1.3 เกิน 15 วันทำการ จำนวน 8,539 โครงการ วงเงิน 21,011.29 ล้านบาท 4. ยอดจัดสรรที่จัดซื้อแล้ว จำนวน 28,690 โครงการ วงเงิน 271,804.92 ล้านบาท 5. มูลค่าจัดซื้อตามสัญญา จำนวน 28,690 โครงการ วงเงิน 249,238.71 ล้านบาท 6. การดำเนินการ 6.1 ยังไม่เริ่มเบิกจ่าย จำนวน 2,490 โครงการ วงเงิน 68,223.44 ล้านบาท 6.2 เบิกจ่ายแล้วบางส่วน (ยังไม่เสร็จ) จำนวน 24,875 โครงการ วงเงิน 154,250.50 ล้านบาท 6.3 เสร็จสมบูรณ์แล้ว จำนวน 1,325 โครงการ วงเงิน 26,764.77 ล้านบาท 6.4 เบิกจ่ายทั้งหมด จำนวน 26,200 โครงการ วงเงิน 181,015.27 ล้านบาท
|
.....