ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 611 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 12201 - 12220 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12201 | ร่างพระราชกฤษฎีกายุบเลิกสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... | พน | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกายุบเลิกสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยุบเลิกสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๖ เนื่องจากได้มีการโอนภารกิจหน้าที่ของสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) ให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตามพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ๒๕๖๒ แล้ว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับกรณีที่พระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงฯ จะมีผลใช้บังคับในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๒ อาจมีปัญหาในทางปฏิบัติหากพระราชกฤษฎีกายุบเลิกสถาบันบริหารกองทุนพลังงานฯ มีผลใช้บังคับไม่พร้อมกับพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงฯ ที่กำหนดในบทเฉพาะกาล ให้โอนเงิน ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน รวมทั้งงบประมาณของสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) ไปเป็นของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เมื่อพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการยุบเลิกสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) มีผลใช้บังคับ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับวางแผนการปฏิบัติงานในช่วงเปลี่ยนผ่านองค์กร โดยเฉพาะการดำเนินงานทางด้านบัญชีและการเงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12202 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการได้มา คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม การแต่งตั้งและการพ้นจากตำแหน่งของประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการการอุดมศึกษา พ.ศ. .... | อว | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการได้มา คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม การแต่งตั้งและการพ้นจากตำแหน่งของประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการการอุดมศึกษา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการได้มา คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม และการพ้นจากตำแหน่งของประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการการอุดมศึกษา ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณาในประเด็นตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. การกำหนดให้ประธานกรรมการและกรรมการตามมาตรา ๒๐ (๓) (๔) และ (๕) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ๒๕๖๒ ไม่สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งได้อีกเมื่อดำรงตำแหน่งโดยรวมเกินสองวาระติดต่อกัน ๒. การกำหนดให้คณะกรรมการการอุดมศึกษาประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่ เมื่อประธานกรรมการและกรรมการตามมาตรา ๒๐ (๓) (๔) และ (๕) พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ (ร่างข้อ ๖ วรรคหนึ่ง) นั้น อาจเป็นการกำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการขึ้นใหม่และอาจไม่สอดคล้องกับมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่งและวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมฯ ๓. การกำหนดให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน (ร่างข้อ ๖ วรรคสอง) นั้น อาจเป็นการกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งของผู้ดำรงตำแหน่งแทนประธานกรรมการหรือกรรมการเกินกว่าที่มาตรา ๒๐ วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมฯ บัญญัติไว้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12203 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐอื่น ตามนัยมาตรา 6 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 | กค | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐอื่น ตามนัยมาตรา ๖ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นหน่วยงานของรัฐอื่นที่สามารถจัดให้มีระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อบัญญัติเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐขึ้นใช้เองทั้งหมดหรือแต่บางส่วนได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้พิจารณาในประเด็นตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐที่สามารถจัดให้มีระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อบัญญัติเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุขึ้นใช้เองทั้งหมดหรือแต่บางส่วนได้ตามมาตรา ๖ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ จึงเป็นกรณีที่ไม่ต้องดำเนินการออกกฎกระทรวงเพื่อกำหนดให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นหน่วยงานของรัฐอื่นตามร่างกฎกระทรวงนี้ แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12204 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายทรงธรรม สุขสว่าง) | ทส | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายทรงธรรม สุขสว่าง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า (นักวิชาการป่าไม้ทรงคุณวุฒิ) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12205 | รายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และส่วนราชการต่าง ๆ | นร05 | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และส่วนราชการต่าง ๆ จำนวน ๓๕ ราย ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12206 | รายงานการสอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและบริษัทย่อยปี 2561 และข้อเสนอแนะจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก ปี 2562 | กค | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการสอบบัญชีและงบการเงินของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และบริษัทย่อยปี ๒๕๖๑ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่า มีความถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินและข้อมูลทางการเงินที่สำคัญ พร้อมข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12207 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายธีรเดช ศรีกิจวิไลกุล และคณะ รวม 4 ราย) | สธ | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๔ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายธีรเดช ศรีกิจวิไลกุล ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาประสาทศัลยกรรม) กลุ่มงานประสาทศัลยศาสตร์ กลุ่มภารกิจด้านวิชาการและการแพทย์ สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๖๑ ๒. นายสธน บุญลิขิต ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาสูตินรีเวชกรรม) โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๑ ๓. นายไพศาล ร่วมวิบูลย์สุข ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาจักษุวิทยา) สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๒ ๔. นางสาวพรทิพย์ ศิริภานุมาศ ดำรงตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิจัย) กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12208 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายไพโรจน์ บุญลักษณ์ศิริ และคณะ รวม 4 ราย) | สธ | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๔ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายไพโรจน์ บุญลักษณ์ศิริ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลหาดใหญ่ สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดสงขลา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๑ ๒. นางสาววนิดา สาดตระกูลวัฒนา ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลสิงห์บุรี สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดสิงห์บุรี สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๑ ๓. ร้อยตำรวจเอก รุ่งเรือง กิจผาติ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ๔. นายอุดม ภู่วโรดม ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๒
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12209 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2562) | นร04 | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๒ ๒. ให้รัฐมนตรีทุกท่านเข้าร่วมรับฟังการแถลงหรือชี้แจงข้อเท็จจริงตามญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๕๒ ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพุธที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๒ และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ สนับสนุนข้อมูลประกอบการแถลงข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย ๓. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) หรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเทวัญ ลิปตพัลลภ) เป็นผู้ชี้แจงความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา ๒๗๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทุกสามเดือนต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและประธานกรรมการปฏิรูปประเทศแต่ละด้านที่มีอยู่ร่วมชี้แจงด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12210 | กรมประชาสัมพันธ์ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันก่อนได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณ และผูกพันสัญญาเกิน 5 ปี ค่าเช่าที่ดินวัดหัวมีนา (ร้าง) ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช | นร02 | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กรมประชาสัมพันธ์ดำเนินการเช่าที่ดินวัดหัวมีนา (ร้าง) ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช และสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๗ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๑๔,๒๑๔,๒๘๘ บาท ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นกรณีเฉพาะราย และยกเว้นการดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ กรณีที่ไม่สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามที่กรมประชาสัมพันธ์เสนอ สำหรับงบประมาณที่จะนำมาใช้จ่ายเพื่อการดังกล่าว ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ให้กรมประชาสัมพันธ์ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่มีเหลือจ่าย ส่วนค่าเช่าที่ดินตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๒ และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ จำนวน ๓,๘๘๑,๕๑๓ บาท ส่วนที่เหลือ จำนวน ๑๐,๓๓๒,๗๗๕ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๗๗ โดยให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12211 | ร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 25 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย (IMT - GT) | นร11 | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒๕ แผนงานการพัฒนาเขตเศษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Joint Statement of the Twenty-Fifth Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle Ministerial Meeting) ที่จะมีการรับรองในการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒๕ แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle : IMT-GT) ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ ณ จังหวัดกระบี่ โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ มีสาระสำคัญเป็นการชื่นชมความก้าวหน้าในการดำเนินงานในรอบปี ๒๕๖๑-๒๕๖๒ ตลอดจนการยืนยันการขับเคลื่อนตามแผนดำเนินงานระยะห้าปี ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔ (IB 2017-2021) ให้เป็นรูปธรรม เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าต่อผู้นำในการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ ๑๓ แผนงาน IMT-GT ในเดือนเมษายน ๒๕๖๓ ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในโอกาสการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๖ ต่อไป ๑.๒ มอบหมายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้แทน ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีประจำแผนงาน IMT-GT และเข้าร่วมการประชุมและเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒๕ แผนงาน IMT-GT พร้อมทั้งได้ร่วมกับรัฐมนตรีของประเทศสมาชิกให้การรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ โดยไม่มีการลงนาม ในการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒๕ แผนงาน IMT-GT ในวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ และให้รัฐมนตรีหรือผู้แทนดังกล่าวเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนระดับรัฐมนตรีของไทยในแผนงาน IMT-GT โดยต่อเนื่องต่อไป ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ๓. ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการขับเคลื่อนโครงการพื้นฐานสำหรับการเชื่อมโยงทางกายภาพ (Physical Connectivity Project : PCP) ของแผนงาน IMT-GT ในโครงการสะพานถนนเชื่อมโยงจังหวัดสตูล-รัฐเปอร์ลิส เห็นควรจะต้องดำเนินการอย่างรัดกุมบนพื้นฐานผลประโยชน์ของไทยเป็นสำคัญ และให้ฝ่ายไทยพิจารณาจัดทำกรอบความร่วมมือระหว่างกัน (Framework of Cooperation : FOC) ในด้านความร่วมมือด้านศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการตรวจโรคพืชและสัตว์ (Custom Immigration Quarantine : CIQs) อย่างรัดกุม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12212 | ร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง มาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) | รง | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง มาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เรื่อง มาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยปรับเพิ่มในอัตราค่าชดเชย และปรับเพิ่มเงินเพื่อตอบแทนความชอบในการทำงาน เป็นจำนวนเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย ๔๐๐ วัน และกำหนดสิทธิการได้รับเงินเพื่อตอบแทนความชอบในการทำงาน ให้มีผลใช้บังคับแก่ลูกจ้างที่ต้องพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุเกษียณอายุตามข้อบังคับ ข้อกำหนด ระเบียบ หรือคำสั่งของนายจ้าง ตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานของรัฐซึ่งกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางหรือมาตรการในการหารายได้หรือลดค่าใช้จ่ายเพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่องบประมาณขององค์กรหรือการนำส่งรายได้แผ่นดินต่อไป การดำเนินการตามนัยมาตรา ๒๗ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมทั้งการวิเคราะห์ผลกระทบและจัดทำแนวทางรองรับอย่างรอบด้าน พร้อมทั้งวิเคราะห์จำนวนการให้สิทธิในแต่ละปีที่เหมาะสมกับฐานะทางการเงินของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งเพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อภาระงบประมาณของรัฐวิสาหกิจ หรืองบประมาณของแผ่นดินในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12213 | ข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน เรื่อง แนวทางการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย (Thailand National Digital Trade Platform) | นร12 | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการแนวทางการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย (Thailand National Digital Trade Platform : NDTP) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ประเทศไทยมีแพลตฟอร์มกลางในการเชื่อมโยงข้อมูลด้านการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศที่มีมาตรฐานทางดิจิทัลเดียวกันของหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจะพัฒนา NDTP ให้เชื่อมต่อกับระบบ National Single Window (NSW) ด้วย ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ และให้สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง และสำนักงานพัฒนาดิจิทัล (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) คณะกรรมการร่วมภาครัฐเอกชน ๓ สถาบัน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทยให้มีความสอดคล้องกับแพลตฟอร์มดิจิทัลกลางที่สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) กำหนดตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งสอดคล้องกับระบบบริการดิจิทัลอื่น ๆ เช่น ระบบ National Single Window ของกระทรวงการคลัง (กรมศุลกากร) เป็นต้น เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลกันได้อย่างเป็นระบบ และดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป ๒. ให้สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) นำความเห็นและข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาร่วมกันให้ได้ข้อยุติก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เช่น ประเด็นเกี่ยวกับการเชื่อมโยงข้อมูลด้านการค้าดิจิทัล (Digital Trade) ระหว่างประเทศกับประเทศสมาชิกอาเซียน ประเด็นการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ข้อมูลเชิงวิเคราะห์เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในประเด็นทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ประเด็นการดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาแพลตฟอร์มการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศของไทย ประเด็นการพัฒนาแพลตฟอร์มดังกล่าวให้รองรับการค้าภายในประเทศในระยะต่อไป เป็นต้น
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12214 | การปรับปรุงแก้ไขการจัดโครงสร้าง การแบ่งส่วนงาน อำนาจหน้าที่ของส่วนงาน และอัตรากำลังของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร | นร51 | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการการจัดโครงสร้าง การแบ่งส่วนงาน อำนาจหน้าที่ของส่วนงานและอัตรากำลังของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นการปรับปรุงการจัดโครงสร้าง การแบ่งส่วนงาน หน้าที่และอำนาจของส่วนงาน และอัตรากำลังของ กอ.รมน. เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป และรองรับการปฏิบัติภารกิจที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กอ.รมน. ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (๑) ประเด็นด้านความมั่นคง (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐) ตามที่ กอ.รมน. เสนอ และให้ส่งร่างคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ /๒๕๖๒ เรื่อง การจัดโครงสร้าง การแบ่งส่วนงาน หน้าที่และอำนาจของส่วนงาน และอัตรากำลังของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้ กอ.รมน. รับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นว่า การจัดโครงสร้างของ กอ.รมน. ควรคำนึงถึงความเหมาะสม สอดคล้องกับภารกิจ และการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุตามยุทธศาสตร์และเป้าหมายที่กำหนด ส่วนกรณีการขออนุมัติกรอบอัตรากำลังเพื่อปฏิบัติงานใน กอ.รมน. นั้น อัตรากำลังช่วยราชการ เห็นควรให้พิจารณาตามเหตุผลความจำเป็นของภารกิจตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และควรมีการทบทวนกรอบอัตรากำลังช่วยราชการเป็นรายปี เพื่อให้สอดคล้องกับแผนรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรประจำปี สำหรับอัตรากำลังประจำ เห็นควรให้ กอ.รมน. บริหารจัดการภายใต้กรอบอัตรากำลังที่มีอยู่เดิม เพื่อควบคุมงบประมาณด้านบุคลากรไม่ให้เพิ่มสูงขึ้นตามแนวทางที่ กอ.รมน. ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12215 | การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2562 ถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2562) และข้อเสนอการปรับลดพื้นที่อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ออกจากพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง | นร08 | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบให้ปรับลดพื้นที่อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ออกจากพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ เพื่อนำพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ มาใช้บังคับแทน ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ๒. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ทุกอำเภอในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้นอำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุคิริน อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ออกไปอีก ๓ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๒ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ๓. เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศ รวม ๔ ฉบับ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๓.๑ เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอสุคิริน จังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง และจังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอแม่ลาน และร่างประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ ๓.๒ รับทราบร่างประกาศ เรื่อง การให้ประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ และร่างประกาศ เรื่อง ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12216 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล | สพร. | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล รวม ๖ คน แทนประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๐ กันยายน ๒๕๖๒) เป็นต้น ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เสนอ ดังนี้
๑. นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ประธานกรรมการ ๒. นางกรรณิการ์ งามโสภี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน การบัญชีและงบประมาณ การตรวจสอบประเมินผล และการบริหารความเสี่ยง ๓. นายประพันธ์ จันทร์วัฒนพงษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารจัดการและการบริหาร ทรัพยากรบุคคล ๔. นายภุชงค์ อุทโยภาศ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ๕. นายสมคิด จิรานันตรัตน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรมและ การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ๖. นายสราวุธ ปิติยาศักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายเทคโนโลยีดิจิทัล
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12217 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร | กษ | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร รวม ๑๑ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๐ กันยายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
๑. ผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ ๑.๑ นายครรชิต สุขเสถียร ๑.๒ นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม ๑.๓ นายสุจิโรจน์ คงเมือง ๑.๔ นายสยาม นนท์คำจันทร์ ๑.๕ นายวิเชียร บุตรศรี ๒. ผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน ๒.๑ นายนำชัย พรหมมีชัย ๒.๒ นายเวชสิทธิ์ วิริยะภาค ๒.๓ นายสถิตพงษ์ สุดชูเกียรติ ๒.๔ นายสมพาศ นิลพันธ์ ๒.๕ นายสุรัชต์ ธวัชโยธิน ๒.๗ นายภาคภูมิ ปุผมาศ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12218 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ. (หม่อมหลวงพัชรภากร เทวกุล) | นร | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง หม่อมหลวงพัชรภากร เทวกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ. สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12219 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (จำนวน 3 คน 1. พลตำรวจโท สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ฯลฯ) | กค | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน ๓ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๐ กันยายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. พลตำรวจโท สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เป็นกรรมการ ๒. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธนวรรธน์ พลวิชัย เป็นกรรมการ ๓. พลโท ธนะศักดิ์ ชื่นอิ่ม เป็นกรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12220 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ (นางสาวชวนชม กิจพันธ์) | นร07 | 10/09/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวชวนชม กิจพันธ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
.....