ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 602 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 12021 - 12040 จากข้อมูลทั้งหมด 124006 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12021 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ) | นร11 | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12022 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ (นายวิริยะ รามสมภพ) | นร | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิริยะ รามสมภพ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านข้อมูลข่าวสารของราชการ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12023 | ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ ป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษายาเสพติด พ.ศ. 2562 | ดศ | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการป้องกันปราบปราม และบำบัดรักษายาเสพติด พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งสำนักงานสถิติแห่งชาติร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้สัมภาษณ์ประชาชนที่มีอายุ ๑๘ ปีขึ้นไป จำนวน ๔๖,๐๐๐ รายทั่วประเทศ โดยสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้าน ประชาชนร้อยละ ๕.๘ พบเห็นปัญหายาเสพติดในชุมชน/หมู่บ้านด้วยตนเอง ร้อยละ ๔๐.๙ ไม่พบเห็นแต่ทราบว่ามีปัญหายาเสพติด ขณะที่ร้อยละ ๕๓.๓ ไม่พบเห็นและไม่ทราบว่ามีปัญหายาเสพติด ด้านการซื้อขายยาเสพติด ประชาชนร้อยละ ๒.๒ พบเห็นการซื้อขายยาเสพติดได้ง่าย ร้อยละ ๒๙.๙ ไม่พบเห็นแต่ทราบว่ามีการซื้อขาย และร้อยละ ๖๗.๖ ไม่พบเห็นและไม่ทราบว่ามีการซื้อขายยาเสพติด ด้านพฤติการณ์การใช้ยาเสพติด ประชาชนร้อยละ ๕.๒ พบเห็น ร้อยละ ๔๐.๔ ไม่พบเห็นแต่ทราบว่ามีการซื้อขาย และร้อยละ ๕๔.๔ ไม่พบเห็นและไม่ทราบว่ามีผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด และด้านความพึงพอใจและความเชื่อมั่นต่อผลการดำเนินงานของรัฐบาล พบว่า จากคะแนนเต็ม ๑๐ ประชาชนมีความพึงพอใจ ๖.๗๖ คะแนน และมีความเชื่อมั่น ๖.๖๗ คะแนน ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาปรับปรุงมาตรการในการป้องกัน แก้ไข และปราบปรามปัญหายาเสพติดให้เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปมากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อปลูกฝังให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาและโทษภัยของยาเสพติดอย่างต่อเนื่องด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12024 | รายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนสิงหาคม 2562 | นร02 | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของโฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี และผลการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์ ประจำเดือนสิงหาคม ๒๕๖๒ ใน ๓ ประเด็น ได้แก่ สถานการณ์ภัยแล้ง เน้นการประชาสัมพันธ์ในประเด็นสถานการณ์ภัยแล้ง และการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง การจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒ และการตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดยะลาของนายกรัฐมนตรีและคณะ และมอบหมายให้โฆษกกระทรวง โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวและชี้แจงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ในฐานะประธานกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12025 | รายงานผลการเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ปีบัญชี 2561 | กค | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ปีบัญชี ๒๕๖๑ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๑ จำนวน ๑๙ ทุน เป็นเงินทั้งสิ้น ๑๘,๗๕๙.๗๕ ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้นำเงินส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินเรียบร้อยแล้ว ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12026 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (หลักเกณฑ์และวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดี) | ศย | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดี เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ที่มีกรณีพิพาทใช้เป็นช่องทางในการยุติข้อพิพาทก่อนที่จะมีการฟ้องคดี ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอรัฐสภาต่อไป โดยให้แจ้งประธานรัฐสภาทราบด้วยว่า ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นร่างพระราชบัญญัติที่จะตราขึ้นเพื่อดำเนินการตามหมวด ๑๖ การปฏิรูปประเทศของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12027 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 3/2562 | นร | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๒ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ตามที่คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ที่ประชุมฯ รับทราบการกำหนดนโยบายการส่งเสริมการลงทุน และมาตรการรองรับการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการขยายการลงทุนและรองรับการย้ายฐานการผลิตภายใต้กรอบและแนวทางการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการลงทุน (Thailand Plus Package) ๗ ด้าน และรับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (Mega Projects) ของกระทรวงคมนาคม ๑.๒ ที่ประชุมฯ พิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ในประเด็นรูปแบบการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเกี่ยวกับการก่อสร้างงานโยธาโครงการฯ ส่วนตะวันตก และการให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มทั้งส่วนตะวันออกและตะวันตก ซึ่งที่ประชุมฯ ได้มีมติมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย รวมถึงสำนักงบประมาณขอแก้ไขสาระสำคัญที่ได้เสนอความเห็นที่ประชุมฯ ให้ตรงตามข้อเท็จจริงว่า “การให้เอกชนลงทุนค่างานโยธาโครงการฯ ส่วนตะวันตก และรัฐทยอยชำระคืนให้เอกชนเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า ๑๐ ปี พร้อมดอกเบี้ยตามที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเสนอ นั้น เมื่อพิจารณารายละเอียดของวงเงินค่างานโยธา จำนวน ๘๘,๕๖๘ ล้านบาทดังกล่าว ซึ่งได้คำนวณรวมอัตราเงินเฟ้อที่ร้อยละ ๒.๕ ต่อปี ไว้แล้ว ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายที่เป็นงบสำรองที่จัดเตรียมไว้ (Provisional Sum งานโยธา) จำนวน ๔,๐๒๙ ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานโยธา จำนวน ๓,๒๒๓ ล้านบาท ดังนั้น จึงเห็นควรที่รัฐจะชำระคืนเงินร่วมทุนแก่เอกชนตามที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินวงเงินค่างานโยธาของโครงการฯ ส่วนตะวันตก ในกรอบวงเงิน ๙๖,๐๑๒ ล้านบาท เท่านั้น โดยไม่นับรวมอัตราคิดลด” ๒. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามสรุปผลการประชุมดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป และให้คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสำนักงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ การกำหนดหลักสูตรเพื่อพัฒนาคนที่จะทำงานในอุตสาหกรรม ควรพิจารณาการกำหนดหลักสูตรเพื่อพัฒนาคนในสายงานด้านการบริการที่มีมูลค่าสูง (High value service) เช่น การท่องเที่ยวคุณภาพสูง รวมทั้งควรพิจารณาความต้องการสาขาวิชาชีพในอนาคตประกอบด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12028 | การขอความเห็นชอบต่อร่างหนังสือตราสารการโอนกรรมสิทธิ์ (Deed of Grant) เรือลาดตระเวนจากสาธารณรัฐสิงคโปร์ | ยธ | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๑.๑ เห็นชอบร่างหนังสือตราสารการโอนกรรมสิทธิ์ (Deed of Grant) เรือลาดตระเวนจากสาธารณรัฐสิงคโปร์ จำนวน ๓ ฉบับ ได้แก่ (๑) ร่างหนังสือตราสารการโอนกรรมสิทธิ์ ระหว่างหน่วยงานตำรวจตระเวนชายฝั่งสิงคโปร์ (The Singapore Police Coast Guard of the Singapore Police Force : SPF) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (๒) ร่างหนังสือตราสารการโอนกรรมสิทธิ์ ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และสำนักงานคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติด (Central Committee for Drug Abuse Control : CCDAC) สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และ (๓) ร่างหนังสือตราสารการโอนกรรมสิทธิ์ ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด (Lao Notional Commission for Drug Control and Supervision : LCDC) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเงื่อนไขในการโอนและการส่งมอบกรรมสิทธิ์ในเรือลาดตระเวนระหว่างผู้โอนและผู้รับโอน โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในฐานะผู้รับโอนเรือลาดตระเวน จำนวน ๓ ลำ จาก SPR จะไม่เรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมจาก SPF และจะรบผิดชอบภาษีและค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์และการจดทะเบียนทั้งหมดตามกฎเกณฑ์ของประเทศไทย ในขณะเดียวกันสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในฐานะผู้โอน จะส่งมอบกรรมสิทธิ์ในเรือลาดตระเวน จำนวน ๒ ลำ ที่ได้รับจาก SPF ให้แก่ CCDAC และ LCDC ผู้รับโอน ตามลำดับ โดย CCDAC และ LCDC จะไม่เรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และจะรับผิดชอบภาษีและค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์และการจดทะเบียนทั้งหมดตามกฎหมายของประเทศดังกล่าว ๑.๒ มอบหมายให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยลงนามในหนังสือตราสารฯ ทั้งสามฉบับ ๑.๓ อนุมัติให้กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สามารถดำเนินการแก้ไขร่างหนังสือตราสารฯ ทั้งสามฉบับ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของราชอาณาจักรไทยได้ก่อนการลงนาม (หากมีความจำเป็น ให้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด และ/หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ๒. ให้กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศไปพิจารณาด้วยว่า ในกรณีเช่นนี้ โดยที่เป็นความร่วมมือในกรอบอาเซียน ไทยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้รับช่วงต่อจากสิงคโปร์ โดยสิงคโปร์สามารถเป็นผู้มอบเรือลาดตระเวนให้แก่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาโดยตรงได้ เนื่องจากต่างก็เป็นมิตรที่ใกล้ชิดกันในประชาคมอาเซียน ๓. สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงาน เห็นควรให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีเท่าที่จำเป็นอย่างประหยัด ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพลางก่อน หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี แล้วแต่กรณี ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12029 | ร่างสุดท้าย (Final Draft) ของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมสินค้าเกษตรและป่าไม้ในกรอบอาเซียน สำหรับปี 2019 - 2024 | กษ | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมสินค้าเกษตรและป่าไม้ในกรอบอาเซียน (MOU on ASEAN Cooperation in Agriculture and Forest Products Promotion Scheme) สำหรับปี ๒๐๑๙-๒๐๒๔ และมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มอำนาจการต่อรองในเรื่องการค้าผลิตภัณฑ์เกษตรและป่าไม้ของอาเซียนในตลาดโลก รวมถึงการเสริมความพยายามเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าที่จะนำไปสู่การขยายตลาด การพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัยสินค้าและอาหาร เป็นฐานสำหรับการประสานงานระหว่างรัฐสมาชิกอย่างใกล้ชิด และสร้างความมั่นใจว่าจะมีวัตถุดิบในการผลิตที่ยั่งยืน โดยจะมีการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านเกษตรและป่าไม้ ครั้งที่ ๔๑ (ASEAN Ministers on Agriculture and Forestry : AMAF) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๒-๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๒ ณ บรูไนดารุสซาลาม ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยกระทรวงการต่างประเทศไม่ต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณที่เห็นควรอาศัยความร่วมมือดังกล่าวในการสร้างความเข้มแข็งและรักษาเสถียรภาพสินค้าเกษตรที่มีปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำในประเทศ เช่น ปาล์มน้ำมัน และมะพร้าว เป็นต้น รวมทั้งควรมีการติดตามและประเมินผลเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีทราบในโอกาสต่อไป สำหรับภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการภายหลังจากการลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ เห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพลางก่อน หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีแล้วแต่กรณี ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12030 | ขอความเห็นชอบและอนุมัติลงนามเอกสารผลลัพธ์การประชุมคณะทำงานสาขาความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดนภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ครั้งที่ 3 | พณ | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมคณะทำงานสาขาความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดนภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ ๓ มีสาระสำคัญเป็นการหารือเกี่ยวกับกลไกของคณะทำงานฯ เพื่อที่จะเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำหรับการปรับปรุงแผนพัฒนาระยะ ๕ ปี สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจข้ามพรมแดน และแผนสำหรับความร่วมมือในอนาคตระหว่างประเทศสมาชิกของคณะทำงานฯ ๑.๒ อนุมัติให้อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ในการประชุมคณะทำงานสาขาความร่วมมือเศรษฐกิจข้ามพรมแดนภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (Joint Working Group on Cross Border Economic Cooperation under Mekong-Lancang Cooperation JWG-CBEC under MLC) ครั้งที่ ๓ ระหว่างวันที่ ๘-๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๒ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเอกสารผลลัพธ์ฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาถึงประเด็นที่เป็นจุดเน้นหลักของกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนที่สอดคล้องกับกรอบความร่วมมือต่าง ๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อให้หน่วยงานปฏิบัติสามารถผลักดันขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม และส่งผลให้ไทยใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้างได้อย่างเต็มที่ และควรผลักดันให้จีนในฐานะประเทศผู้ริเริ่มจัดตั้งกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ได้มีบทบาทนำในการแลกเปลี่ยน และถ่ายทอดองค์ความรู้ในสาขาที่จีนมีความเชี่ยวชาญร่วมกับประเทศสมาชิกอื่น ๆ อาทิ การนำใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในกิจกรรมโลจิสติกส์ และการผลิตในอุตสาหกรรมเกษตร ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12031 | การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | นร07 | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กำหนดจำนวนกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๖๓ คน ประกอบด้วยกรรมาธิการที่คณะรัฐมนตรีเสนอชื่อ จำนวน ๑๕ คน และที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเลือก จำนวน ๔๘ คน ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ทั้งนี้ ให้ผู้แทนพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลประสานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อแจ้งรายชื่อกรรมาธิการในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรีให้สำนักงบประมาณเพื่อดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12032 | การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติ ครัวเรือนละ 5,000 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 | มท | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๒ ซึ่งกำหนดให้ดำเนินการ “ในพื้นที่ ๒๙ จังหวัด ที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยให้ธนาคารออมสินเป็นหน่วยรับงบประมาณ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยดำเนินการ” เป็น “ในพื้นที่ ๓๒ จังหวัด ที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยรับงบประมาณและจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยผ่านธนาคารออมสิน” ๑.๒ เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติ ครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรรายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายและผลการปฏิบัติงานต่อคณะรัฐมนตรีเป็นระยะตามความเหมาะสม ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12033 | ขอความเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการ และรายละเอียดโครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ (อุทกภัย) | มท | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการทบทวนเป้าหมายโครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอเพิ่มเติมตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๒ โครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่อันเนื่องมาจากสาธารณภัย (กรณีอุทกภัย) จากเดิม พื้นที่ดำเนินการ จำนวน ๒๙ จังหวัด ที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เป็น พื้นที่ดำเนินการ จำนวน ๓๒ จังหวัด ที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ๑.๒ เห็นชอบในหลักการร่างหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการ และรายละเอียดโครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ (อุทกภัย) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้มีการแก้ไขวิธีการและขั้นตอนการดำเนินการ ข้อ ๗.๖ จาก “กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นพิจารณาตรวจสอบ ให้ความเห็นชอบดำเนินโครงการ” เป็น “กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นพิจารณาตรวจสอบ และขอทำความตกลงรายละเอียดค่าใช้จ่ายกับสำนักงบประมาณก่อนแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินโครงการ” ไปดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินโครงการฯ ทุกขั้นตอนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12034 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... | กค | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน โดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ในท้องที่แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะในราชการกองทัพอากาศ เนื้อที่ประมาณ ๒๓ ไร่ ๓ งาน ๔๐ ตารางวา เนื่องจากกองทัพอากาศได้เลิกใช้ประโยชน์และไม่ประสงค์จะใช้ประโยชน์อีก เพื่อมอบหมายให้กระทรวงการคลังนำไปดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12035 | แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางจินตนา จันทร์บำรุง และนางสาวอังคณา ใจกิจสุวรรณ) | พม | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
๑. นายจินตนา จันทร์บำรุง ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาวอังคณา ใจกิจสุวรรณ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12036 | แต่งตั้งข้าราชการประเภทบริหารระดับสูง (นางพัชรี อาระยะกุล และคณะ) | พม | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๖ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้
๑. นางพัชรี อาระยะกุล ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสุภัชชา สุทธิพล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ๓. นางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ๔. นางสาวอุษณี กังวารจิตต์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ๕. นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายสุทธิ จันทรวงษ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12037 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายพลวรรธน์ วิทูรกลชิต) | ดศ | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพลวรรธน์ วิทูรกลชิต ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12038 | ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางปิยนุช วุฒิสอน และคณะ) | ดศ | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ดังนี้
๑. นางปิยนุช วุฒิสอน ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ๓. นายภุชพงศ์ โนดไธสง ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ๕. นายภูเวียง ประคำมินทร์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12039 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (นางสุวรรณา เตียรถ์สุวรรณ และคณะ) | ทส | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นางสุวรรณา เตียรถ์สุวรรณา ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายพุฒิพงศ์ สุรพฤกษ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายเฉลิมชัย ปาปะทา ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายสุรชัย อจลบุญ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12040 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายประเสริฐ บุญเรือง และคณะ) | ศธ | 07/10/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้
๑. นายประเสริฐ บุญเรือง ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายอำนาจ วิชยานุวัติ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๓. นายณรงค์ แผ้วพลสง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
|
.....