ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 607 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 12121 - 12140 จากข้อมูลทั้งหมด 124006 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12121 | ขออนุมัติใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในการจ่ายเงินงบอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด | พม | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในการจ่ายเงินงบอุดหนุนเฉพาะกิจโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จำนวน ๑,๘๐๖,๗๓๘,๓๐๐ บาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยให้เบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่น ลักษณะเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ รายการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับข้อสังเกตของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่เห็นว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้ดำเนินโครงการด้านสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือและดูแลประชาชนในกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งควรดำเนินการบูรณาการให้เป็นระบบและเชื่อมโยงกันอย่างเป็นรูปธรรม เช่น โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ควรพิจารณาความเหมาะสมเพื่อดำเนินการให้ครอบคลุมถึงกลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเด็กแรกเกิด รวมถึงการดูแลเด็กในครรภ์ด้วย ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12122 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทวิชาการ ระดับทรงคุณวุฒิ (นายสาโรช งามขำ) | กษ | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสาโรช งามขำ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายสัตวแพทย์ (นายสัตว์แพทย์ทรงคุณวุฒิ) กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12123 | ท่าทีไทยสำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-ภูฏาน ครั้งที่ 3 | พณ | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-ภูฏาน ครั้งที่ ๓ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๖-๒๗ กันยายน ๒๕๖๒ ณ กรุงทิมพู ราชอาณาจักรภูฏาน เพื่อให้คณะผู้แทนไทย ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนเป็นประธานฝ่ายไทยใช้หารือกับฝ่ายภูฏาน มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดท่าทีและจุดยืนขอไทยในด้านต่าง ๆ เช่น ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ และความร่วมมือด้านอื่น ๆ ที่อาจมีการหารือกันเพิ่มเติม และหากในการประชุมดังกล่าวมีผลให้มีการตกลงเรื่องความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าในประเด็นอื่น ๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าสองฝ่ายระหว่างไทยกับไทย-ภูฏาน ขอให้คณะผู้แทนไทยสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนท่าทีไทยฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ควรแจ้งผลการประชุมดังกล่าวให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องรับทราบ รวมทั้งติดตามและประเมินผลการดำเนินงานภายใต้กรอบความร่วมมือดังกล่าวเพื่อให้บังเกิดผลในทางปฏิบัติ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12124 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม) | กค | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นจำนวนเงิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อจัดสรรให้แก่กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อให้การดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสามารถรองรับการดำเนินงานสำหรับมาตรการที่เกี่ยวข้องกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในอนาคต ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้คณะกรรมการกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมจัดทำรายงานสถานะทางการเงินของกองทุน และกระแสเงินรับ-จ่าย รวมทั้งรายงานผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานของกองทุน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณในครั้งต่อไป และเห็นควรมอบหมายให้กระทรวงการคลังรายงานผลการดำเนินงานของโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อคณะรัฐมนตรีทุกไตรมาสด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12125 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (เพื่อลดลูกหนี้รอการชดเชยของรัฐบาล ตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2559/60 ด้านการเงินของ ธ.ก.ส.) | กค | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท เพื่อลดลูกหนี้รอการชดเชยของรัฐบาล ตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต ๒๕๕๙/๖๐ ด้านการเงินของ ธ.ก.ส. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการพิจารณาจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร นั้น ธ.ก.ส. ควรพิจารณาถึงแผนการจ่ายชดเชยให้กับ ธ.ก.ส. ทั้งหมดในภาพรวม ตามมาตรการ/โครงการช่วยเหลือเกษตรกรต่าง ๆ และพิจารณาตามลำดับความสำคัญเร่งด่วนในการจัดสรรงบประมาณ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการงบประมาณ การจัดการหนี้สินและสภาพคล่องที่เกิดประโยชน์กับประเทศและหน่วยงานมากที่สุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12126 | ระบบทะเบียนประวัติข้าราชการอิเล็กทรอนิกส์ | นร10 | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินการปรับปรุงระบบทะเบียนประวัติข้าราชการ (ก.พ. ๗) จากเดิม ใช้วิธีการบันทึกด้วยมือใน ก.พ. ๗ แนบกระดาษ เป็น ระบบทะเบียนประวัติข้าราชการอิเล็กทรอนิกส์ (Smart ก.พ. ๗) ที่สามารถเชื่อมโยงและเรียกใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง และข้อมูลการศึกษาจากฐานข้อมูลผู้สำเร็จการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เดิม) ทำให้ลดการบันทึกข้อมูลที่ซ้ำซ้อน ลดความผิดพลาดของการบันทีกข้อมูล และเป็นการใช้ข้อมูลชุดเดียวกัน ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12127 | ผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 | สกพอ | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ ๖/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๒ เกี่ยวกับผลการคัดเลือกเอกชน และผลการเจรจาโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ ๓ ซึ่งเอกชนที่ผ่านการคัดเลือก ได้แก่ กลุ่มกิจการร่วมค้ากัลฟ์ และพีทีที แทงค์ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และกระทรวงอุตสาหกรรม โดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) รับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรดำเนินการตามเอกสารการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal : REP) ระเบียบ กฎหมาย มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และความเห็นประกอบของหน่วยงานตามมติ กพอ. ครั้งที่ ๗/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ และในกรณีที่ กนอ. มีความจำเป็นต้องลงทุนขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเพิ่มเติมในส่วนที่ไม่ได้เป็นส่วนประกอบของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ ๓ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๖๖๑ เห็นควรให้ กนอ. ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๕๐ ก่อนดำเนินการต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้ สกพอ. ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12128 | ขออนุมัติเงินจัดสรรก่อหนี้ผูกพันเกินวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับอนุมัติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | ยธ | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติเงินจัดสรรก่อหนี้ผูกพันเกินวงเงินงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับอนุมัติ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ภายใต้แผนงานพื้นฐานด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ ผลผลิตประชาชนได้รับการส่งเสริม คุ้มครอง มีหลักประกันด้านสิทธิเสรีภาพตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และหลักการสิทธิมนุษยชน จำนวนทั้งสิ้น ๕,๔๖๐,๙๕๕.๐๐ บาท ประกอบด้วย (๑) ค่าใช้จ่ายในการตอบแทนพยานและคุ้มครองพยาน จำนวน ๒,๔๑๑,๗๐๕.๐๐ บาท และ (๒) ค่าตอบแทนผู้ปฏิบัติงานในทางราชการ รายการค่าตอบแทนการส่งเสริมสิทธิผู้ต้องหาในการสอบสวนคดีอาญา (ป.วิ.อาญา ม.๑๓๔/๑) จำนวน ๒,๒๘๖,๒๕๐.๐๐ บาท และรายการค่าป่วยการแก่ที่ปรึกษาทางกกฎหมายในการปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษากฎหมายในชั้นสอบสวนคดีเยาวชนและครอบครัว จำนวน ๗๖๓,๐๐๐.๐๐ บาท ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12129 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัย) (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย) | มท | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณีอุทกภัย จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ขยายระยะเวลาเบิกจ่ายเงินกันได้ถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน ๒๕๖๒ เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยครัวเรือนละ ๕,๐๐๐ บาท จำนวน ๔๑๘,๔๘๐ ครัวเรือน วงเงิน ๒,๐๙๒,๔๐๐,๐๐๐ บาท ตามข้อมูลครัวเรือนผู้ประสบภัยเบื้องต้น ซึ่งเป็นจำนวนครัวเรือนจากการสำรวจเบื้องต้นใน ๒๙ จังหวัด ที่อยู่ในพื้นที่ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยให้ธนาคารออมสินเป็นหน่วยรับงบประมาณ ให้เบิกจ่ายในงบรายจ่ายอื่น ลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไป รวมทั้งให้สามารถถัวจ่ายข้ามจังหวัดได้ และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยดำเนินการ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทยเร่งสำรวจข้อมูลครัวเรือนผู้ประสบภัยให้ถูกต้อง รัดกุม และครบถ้วน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือให้ถึงมือผู้ประสบภัยโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12130 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (กรณีอุทกภัย) (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย) | มท | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้เบิกจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นเงิน ๕,๕๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการแก้ไขและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่อันเนื่องมาจากสาธารณภัย (กรณีอุทกภัย) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้แก้ไขข้อเสนอ จากเดิม ที่กำหนดให้ดำเนินการจัดสรรเป็นเงินอุดหนุนให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดและเทศบาล เป็น จัดสรรเป็นเงินอุดหนุนให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลที่ประสบภัยพิบัติที่ได้รับการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับเงินอุดหนุนแห่งละไม่เกิน ๕ ล้านบาท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอเพิ่มเติม และให้เร่งดำเนินการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดังกล่าวโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวนัที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12131 | ขออนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี พ.ศ. 2559 เพื่อดำเนินงานโครงการป้องกันและกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลัง | กษ | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ดำเนินโครงการป้องกันและกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลัง ภายในกรอบวงเงินทั้งสิ้น ๒๔๘,๔๔๘,๓๓๐ บาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพลางก่อน งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๓๔,๒๖๔,๐๐๐ บาท โดยให้เบิกจ่ายในงบดำเนินงาน จำนวน ๙๘,๐๖๔,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการกำจัดต้นมันสำปะหลังที่เป็นโรคใบด่างและแมลงหวี่ขาวยาสูบพาหะนำโรค ในพื้นที่ระบาด ๑๑ จังหวัด จำนวน ๔๕,๔๐๐ ไร่ และงบเงินอุดหนุน เงินอุดหนุนทั่วไป จำนวน ๑๓๖,๒๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชดเชยรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ตามอัตราค่าใช้จ่ายที่กระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบ สำหรับค่าใช้จ่ายบริหารจัดการโครงการ การสร้างการรับรู้และชี้แจงโครงการ ประชาสัมพันธ์ ติดตามสถานการณ์ และประเมินผล จำนวน ๑๔,๑๘๔,๓๓๐ บาท เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของโครงการฯ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12132 | ร่างพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กษ | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติของพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ. ๒๕๔๒ เพื่อให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสามารถรับภาระชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของเกษตรกรที่มีบุคคลค้ำประกันได้ และกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนเกษตรกรให้เหมาะสมยิ่งขึ้น รวมทั้งกำหนดให้คณะกรรมการมีอำนาจกำหนดที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ได้ในกรุงเทพมหานครหรือปริมณฑล และกำหนดที่ตั้งของสาขา ณ ที่ใดก็ได้ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการกำหนดบทเฉพาะกาลรองรับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนเกษตรกรในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เพื่อประโยชน์ต่อการนับวาระการดำรงตำแหน่งของบุคคลดังกล่าว ไปพิจารณาด้วย ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12133 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล และคณะ) | รง | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้
๑. นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน ๒. นายธวัช เบญจาทิกุล ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ๓. นายอภิญญา สุจริตตานันท์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ๔. นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12134 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (นางศิริวรรณ สุคนธมาน และนายฉัตรชัย บางชวด) | นร08 | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. นางศิริวรรณ สุคนธมาน ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ๒. นายฉัตรชัย บางชวด ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12135 | การแต่งตั้งผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (นางสาวอัญชลิตา กองอรรถ) | นร09 | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวอัญชลิตา กองอรรถ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคำสั่งให้รักษาราชการแทนในตำแหน่งดังกล่าว ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12136 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายณรงค์ วิทยไพศาล) | นร04 | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายณรงค์ วิทยไพศาล ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12137 | ข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | นร07 | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑.๒ เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ และข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑.๓ ให้สำนักงบประมาณนำข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีไปเปิดเผยในเว็บไซต์ของสำนักงบประมาณ (www.bb.go.th) และจัดพิมพ์ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ และเอกสารประกอบงบประมาณ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๒ และนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12138 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อกำหนดพิกัดอัตราภาษีสำหรับเครื่องดื่มที่เติมสารอาหารหรือสารอื่น | กค | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดประเภทและอัตราภาษีที่จะใช้ในการจัดเก็บสำหรับเครื่องดื่มที่เติมสารอาหารหรือสารอื่นเพิ่มเติม โดยลดอัตราภาษีตามมูลค่าของเครื่องดื่มที่เติมสารอาหารและสารอื่น จากร้อยละ ๑๔ เป็นร้อยละ ๑๐ และเครื่องดื่มน้ำผลไม้และน้ำพืชผักที่เติมสารอาหารและสารอื่น จากร้อยละ ๑๐ เป็นร้อยละ ๓ เพื่อให้เครื่องดื่มน้ำผลไม้และน้ำพืชผักที่เติมสารอาหารและสารอื่นที่เป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพสอดรับการปรับเพิ่มอัตราภาษีตามปริมาณน้ำตาล ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณที่เห็นควรเร่งประชาสัมพันธ์ถึงวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังกล่าว ตลอดจนสร้างการรับรู้และความเข้าใจและการมีส่วนร่วมเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวให้กับทุกภาคส่วนถึงมูลเหตุจูงใจและประโยชน์ที่จะได้รับจากนวัตกรรมและการส่งเสริมการวิจัยภาคอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยด้านอาหารดำเนินการอย่างเคร่งครัดในการตรวจสอบกระบวนการผลิตเครื่องดื่มที่อยู่ในรายการที่มีการปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตให้มีการใช้สารประกอบทดแทนความหวานที่ได้มาตรฐานและมีปริมาณที่เหมาะสมอยูในเกณฑ์การใช้ในระดับที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12139 | ขอรับจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (เงินเบี้ยหวัดฯ และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล) | กค | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติการจัดสรรเงินงบประมาณสำหรับรายการงบกลางที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมบัญชีกลางที่มีการจ่ายเงินสูงกว่าวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จำนวน ๔๕,๑๐๐.๐๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รายการเงินเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ จากงบประมาณรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน ๒๕๖๒ จำนวน ๒,๒๐๐.๐๐ ล้านบาท และจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๓๗,๘๐๐.๐๐ ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน ๔๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท ๑.๒ รายการค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานของรัฐใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินถึงวันทำการสุดท้ายของเดือนกันยายน ๒๕๖๒ จำนวน ๕,๑๐๐.๐๐ ล้านบาท ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12140 | ขออนุมัติการจัดสรรงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายบุคลากร ภายใต้แผนงานบุคลากรภาครัฐ สำหรับเป็นค่าตอบแทนสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่ปฏิบัติงานในเขตพื้นที่พิเศษ และค่าตอบแทนตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ | มท | 24/09/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการจัดสรรงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปี จำนวน ๕๕๙,๐๔๓,๘๐๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายบุคลากรภายใต้แผนงานบุคลากรภาครัฐ สำหรับเป็นค่าตอบแทนสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน จำนวน ๑๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่ปฏิบัติงานในเขตพื้นที่พิเศษ จำนวน ๔๖,๐๖๐,๘๐๐ บาท และค่าตอบแทนตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ จำนวน ๓๙๒,๙๘๓,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรจัดทำคำของบประมาณเพื่อใช้ในกรณีดังกล่าวบรรจุไว้ในคำขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีถัดไป โดยคำนึงถึงอัตราสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่เหมาะสมกับการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
.....